วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562

ข้อบกพร่องในการแต่งกลอน





                                       
                                                      ถ่ายกับหมาตัวโปรดของใครตัวไหน ไม่ต้องบอก

..........เอกสารชุดนี้ โพสครั้งแรก วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559  ได้ปรับปรุงแก้ไข ตามอารมณ์

หัวข้อที่เขียนชื่อ "ข้อบกพร่องในการแต่งกลอน " วันนี้ 10 มกราคม ๒๕๖๒  ย้ายขึ้นมาไว้เพจแรก หน่อยจะหาได้ง่าย เพราะมีคนมาขอสำเนาบ่อย หายาก อ้อหาไม่เจอง่าย ๆ นั่นแหละ

.........ผมฝึกร้อยกรองด้วยกาพย์ยานี ๑๑ โดยใช้ปากเปล่า สนทนากับลูกสาวคนเล็ก ราว 3-5 ขวบ
นั่งรถไปส่งแม่ที่สอนอยู่ประถม ชวนสนทนาเป็นคำคล้องจอง แบบต่อคำ แรก ๆก็ต่อ 2 คำเหมือนให้เด็กนักเรียนม. 1 เล่นกัน ปรากฏว่าทำได้ จนแม่ขอเล่นด้วย แล้วก็ต่อให้ยากขึ้นเป็น สามคำ สี่คำ และห้าคำ จนเก่งมากสามารถสร้างคำถามให้เราตอบ ช่วงเปิดเรียนเขาเรียนระบบสามเทอม โรงเรียนที่พ่อสอนระบบสองภาคเรียน เขาปิดเรียนว่า ให้อยู่กับยายที่บ้าน ยายดูหลานไม่ไหว เลยพาไปโรงเรียนด้วย พ่อ
ไปสอนเด็กชุมนุมร้อยกรอง ก็ไปนั่งดูพี่ ๆ ทำกิจกรรมต่อคำกัน มีการแย่งน้องไปนั่งแทรกอยากดูน้องต่อคำได้ไหม ไม่มีปัญหาเพราะซ้อมกับพ่อทุกวัน กิจกรรมที่เด็กชอบมากคือถามตอบปัญหาเป็นกาพย์กลอน ให้เขียนคำถามลงสมุดไปวางที่โต๊ะครู ถามด้วยกาย์ตอบด้วยกาพย์ ถามด้วยกลอนตอบด้วยกลอน ฮือฮามาก ครูภาษาไทยขอยืมตัวเด็กชุมนุมเราไปแข่งขันโต้วาทีกลอนสดระดับจังหวัด ได้รองชนะเลิศ เพราะคู่แข่งเป็นเด็กม.ปลาย เนื้อหาเด็กเขาดีกว่า แต่ฉันทลักษณ์เด็กเราเก่งกว่า
..........ผมชอบเขียนร้อยกรองสด ๆบนกระดานดำเมื่อต้องสอนกาพย์กลอน ปรากฏเด็กทึ่งมาก ทำไมครูแต่งได้เร็วทันใจดี ความจริงเราฝึกมานาน ฝึกแบบบ้า ๆบอ ๆ ด้วย เคยไปดูงานการสอนครูภาษาไทย และลองบันทึกการดูงานเป็นกาพย์ยานี นั่งสังเกตการณ์ไปบันทึกไป บันทึกได้นะ กลับมาเอามาตรวจทานและแต่งเพิ่มเติมเป็นรายงานการดูงานการสอนครูภาษาไทยโรงเรียน......กรุงเทพ ฯ วันหนึ่งนึกสนุกอยากเขียนเล่านิทานก้อมก็หยิบเอานิทานเดอร์ตี้โจ้กของชาวบ้านมาเขียน เพื่อนมาขออ่านชอบใจเลยมาขออ่านอยู่เรื่อยในที่สุดก็แต่งกาพย์ยานีคอนข้างจะขำนาญ สามารถว่ากาพย์แบบปากเปล่าได้ ส่วนแต่งกลอนมาเริ่มเขียนจริง ๆตอนเรียนกศ.บ. ปี 2519 ครูให้เขียนนิราศส่งเป็นภาคนิพนธ์คนละเรื่อง อย่างหน้อย 3 หน้ากระดาษ ไม่เกิน 5 หน้าพิมพ์หน้าละ 40 บรรทัด บรรทัดละ 2 วรรค รวมต้องพิมพ์ 120 บรรทัด ยาวมาก ๆ จนนอนไม่หลับกลัวจะทำไม่ได้ ไปอ่านนิราศต่าง ๆที่ห้องสมุดจนหลับคาหนังสือ ในที่สุดก็ได้คิดว่า น่าจะลองเขียนดู
...........กางสมุดแผนผังกลอนไว้แล้วก็หลับตานึกถึงการเดินทางจากบ้านมาที่มหาวิทยาลัย นั่งรถ
จักรยายนนตร์ เมียมาส่งคิวรถ นั่งรถยนต์รวดเดียวไปยัง ขนส่งปลายทาง ต่อรถสามล้อเข้าหอพัก จบการ
เดินทาง จากนั้นก็นึกหัวข้อ จะเขียนอะไร จุดประสงค์จากบ้าน ลาบุตรภรรยา ขอคุณสิ่งศักดืสิทธิ์คุ้มครอง
ภรรยาไปส่ง บขส. ขอบคุณเธอ ฝากดูแลบุตรธิดา ............เข้าหอพักที่มหาวิทยาลัย รวมแล้ว 70
หัวข้อ สบายมาก เขียนเล่าเป็นกลอนแปด ปรากฏว่ายาวถึงห้าหน้ากระดาษ ส่งครูผู้สอนไป วิชานี้ได้เกรด  เอ บวก ไม่เลวนักหรอก
...........หลังจากนั้นแต่งกลอนบ่อยมาก เอาอย่างแต่งกาพย์ยานีที่เคยฝึกมาแล้ว (แต่งบ่อย ๆ เขียนมาก ๆ)บทอวยพรต่าง ๆ ใครอยากได้ วานให้เขียน ได้เลย มากมายนับได้เกินร้อยสำนวน ที่แต่งเป็นนิราศก็มี จนวันหนึ่งอยากรู้ผลงานที่เคยเขียนมันมี ข้อบกพร่องอะไรบ้าง พบว่าบางบท บางเรื่อง หักคะแนนได้แทบไม่เหลือคะแนนที่ได้เลยวันนี้ก็เลยนึกอยากนำ ข้อบกพร่องที่เจอมาเขียนไว้ให้ลูกหลาน อ่าน ดู จะได้รู้ว่า เราคิดว่าตัวเองเก่งเหลือหลาย ว่ากลอนปากเปล่า ได้ไม่ติดขัด แต่กลอนก็มีข้อบกพร่อง ตั้งแต่บกพร่องเล็กน้อย ไปจนบกพร่องมาก ๆ ดังจะนำมาเล่าให้ฟัง ดังต่อไปนี้

... .....1. ใช้คำขาด ๆ เกิน ๆ กลอนแปด ใช้คำวรรคละแปดคำ คงเพราะ อ่านตำราบอกว่า ใช้ได้วรรคละ
7 - 9 เคยอ่านงานของกวีที่แต่งไว้ ก็มีจริง ๆ เวลาเราแต่งก็ตามสบาย ขาดบ้างเกินบ้าง พอมาอ่านทีหลัง มันติด ๆ ขัด ๆ ต้องดู ว่ากี่คำ 7 คำ อ่าน 2-2-3 ลงตัว อ้าววรรคนี้ไม่ได้ต้องอ่าน 2-3-2 ก็เลยรู้และได้คิดว่า
ทำไมไม่แต่งให้ลงตัวแปดคำ อ่าน 3-2-3 ลงตัวสบาย ๆ สรุปว่า กลอนแปด แต่งวรรคละแปดคำแหละดีแล้ว
..............2. คำครบ แต่คร่อมจังหวะ กลอนแต่งเพื่ออ่าน โดยเฉพาะอ่านทำนองเสนาะ มีจังหวะ
การอ่านแบบ 3-2-3 ทุกวรรค คำขาดคำเกิน ก็ต้องอ่าน 3 จังหวะ ทีนี้คำหลายพยางค์บางคำ คนแต่ง
ไม่ระวัง ปล่อยให้คร่อมจังหวะ ในวรรค อ่านก็เลยสะดุด 8 คำเช่น..ไปโรงเรียนเขียนอ่านการศึกษา
อ่าน....ไปโรงเรียน/เขียนอ่าน/การศึกษา .........อ่านไม่ติดขัด.....ถ้าเกิดแต่ง 9 คำบ้าง เป็น ลูกเข้าโรงเรียนเขียนอ่านการศึกษาอ่าน....ลูกเข้าโรง/เรียนเขียนอ่าน/การศึกษา ........อ่านได้ แต่ติด ๆ ขัด ๆ เพราะจังหวะไม่ลงตัว
..............3. เสียงคำท้ายวรรค กลอนอ่านทำนองเสนาะ จะมีปัญหา ถ้าคำลงท้ายวรรค เสียงผิดไปจากที่นิยม กลอนไม่ได้ ผิดฉันทลักษณ์ แต่มันอ่านไม่รื่น คนสมัยก่อนท่านนิยมแต่งคำลงท้ายวรรคบทกลอนกันอย่างไรคำท้ายวรรคสดับ ใช้ได้ทุกเสียง แต่ไม่ค่อยนิยมใช้เสียงสามัญ
คำท้ายวรรครับ ต้องใช้เสียงเอก โท หรือจัตวา นิยมใช้เสียงจัตวา ห้ามใช้เสียงสามัญและตรี
คำท้ายวรรครอง ต้องใช้เสียงสามัญ หรือเสียงตรี นิยมมากคือเสียงสามัญ ไม่นิยม เอก โท และจัตวา
คำท้ายวรรคส่ง ต้องใช้เสียงสามัญหรือตรี ที่นิยมมากที่สุดคือเสียงสามัญ ไม่นิยม เอก โท และจัตวา
................ตัวอย่างกลอนสุนทรภู่
................พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด (เสียงตรี)................จะเบือนบิดป้องปัดก็ขัดขวาง (เสียงจัตวา)
................สงสารลูกเจ้าลังกาจึงว่าพลาง (สามัญ)..........เราเหมือนช้างงางอกไม่หลอกลวง (เสียงสามัญ)
.........................................บทอาขยาน จากเรื่องพระอภัยมณี
.............4..สัมผัสนอกคือสัมผัสบังคับ บทหนึ่ง ๆ จะมี 2 สาย
................4.1 สายแรก เริ่มที่คำท้ายวรรคที่ 1 ส่งสัมผัสไปวรรคที่ 2 คำที่ 3 ถ้าจำเป็จอาจเป็นคำอื่นก็ได้ แต่ต้องมีคำเดียว มากกว่า 1 คำ จะเป็นสัมผัสเลื่อน หรือ เลือน ทำให้กลอนมีตำหนิ
...............บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว....... สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
................เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา.................... ประคองพาขึ้นไปยังบรรพต
.........กลอนที่ยกมาเป็นตัวอย่าง คำที่ส่งสัมผัส บังคับ คำแรกได้แก่ คำ แว่ว ส่งสัมผัสไปวรรคที่ 2 มีคำ แล้ว รับสัมผัสบังคับ
...............4.2 สัมผัสนอกคำที่ 2 คือคำท้ายวรรคที่ 2 บทกลอนตัวอย่างได้แก่คำ หา ส่งไปท้ายวรรคที่ 3 (มา) และต่อเนื่องไปคำที่ 3 วรรคที่ 4 (พา) คำที่รับสัมผัสบังคับแต่ละจุดให้มีได้คำเดียว มีมากกว่า 1 จะกลายเป็นชิงสัมผัส หรือสัมผัสเลื่อน เลือน
....................แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์........... มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
....................ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด......... ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
...................คำมนุษย์ สัมผัสนอก ส่งไปวรรคที่ 2 มีคำ สุด รับสัมผัสคำเดียว พอแล้ว อย่าให้มีมาอีก
คำ  กำหนด เป็นสัมผัสนอกเสียงที่ 2 ในบทนี้ ส่งสัมผัสไปวรรคที่ 3 มีคำ ลด รับสัมผัส ห้ามมีคำอื่น ๆ อีก ถ้ามี ก็กลายเป็นสัมผัสเลื่อน สัมผัสเลือน
.........5. เห่อเล่นสัมผัสใน จนทำให้กลอนบกพร่อง พวกที่อ่านกลอนสุนทรภู่มาก ๆเหมือนกระผม ชอบ
มากเรื่องสัมผัสใน จำจนขึ้นใจว่า วรรคละแปดคำ จังหวะ 3-2-3 สัมผัสในวรรคละสองคู่คือ คำที่ 3 กับ
คำที่ 4 คำที่ 5 กับคำที่ 7 เกณฑ์นี้ใช้ได้กับวรรค คี่ คือวรรคที่ 1 และ 3 ส่วนวรรคคู่ก็ใช้ได้แต่ระวังพลาด
วรรคที่ 2 และวรรคที่ 4 ตำแหน่งคำ ที่ 3 ต้องใช้รับสัมผัสบังคับ ไม่ว่างที่จะใช้สัมผัสในกับคำที่ 4 ถ้าขืนใช้ จะทำให้คำที่ 4 เป็นสัมผัสเลื่อน หักคะแนนได้ บางคนเอากลอนเก่า ๆ มาอ้าง ก็ช่างกลอนเก่า ๆ สิ เรารู้ว่ามันบกพร่องจะเอาอย่างทำไม
........7. ชอบเล่นสัมผัสใน เล่นให้ถูกจังหวะ อย่าให้กลายเป็นสัมผัสลัดหรือชิงสัมผัส หรืออย่าให้กลายเป็นสัมผัส เลื่อนหรือสัมผัสเลือน ตามแผนผังกลอนแปด คำท้ายวรรคสดับ ส่งสัมผัสไปให้คำที่ 3วรรครับ ถ้ามีคำอื่นอีกที่รับสัมผัสได้ เรียกว่า เกิดสัมผัสเลื่อน หรือสัมผัสเลือน
...................อันความรักมักเป็นเห็นแต่ตัว.............เพราะมืดมัวกลัวรักจักห่างหาย
............อ่านดูมันก็เพราะดี แต่สัมผัสบังคับใช้คำเดียวรับสัมผัสพอแล้ว ตัวอย่างมีทั้ง มัว และ กลัว
รับสัมผัสได้ ถือว่าแต่งผิดฉันทลักษณ์        สมมติว่าแต่งต่อไปอีก
..................อันความรักมักเป็นเห็นแต่ตัว.............เพราะมืดมัวกลัวรักจักห่างหาย
...................เกิดเป็นชายหมายรักมิกลับกลาย...........จวบจนตายรักแต่เจ้าเยาวมาลย์
.......วรรครับคำท้ายคือ หาย ส่งสัมผัสบังคับไปให้คำท้ายวรรคของวรรครอง ได้แก่คำ กลาย แต่มีคำอื่นดัก หรือชิงสัมผัสก่อนแล้วคือคำ ชาย หมาย ถือเป็นข้อบกพร่อง หักคะแนนได้
.........8. สัมผัสซ้ำ ในเส้นสายสัมผัสบังคับ ห้ามใช้คำซ้ำ หรือต่างรูป แต่เสียงเดียวกัน มาใช้ส่ง-รับสัมผัสกัน เชน คำ สัน สรรพ์ สันต์ สันติ์ ถือเป็นคำที่มีเสียงเดียวกัน ไม่ให้ใช้ ขัน ขันธ์ ขรรค์ ไม่ควรใช้ เป็นต้น
..............โอ้ลมหนาวพัดมาพาหนาวเหน็บ......ปวดใจเจ็บปวดกายวุ่นวายสรรพ์
..............พี่คะนึงถึงนวลป่วนจาบัลย์ ...............เศร้าโศกศัลย์ปวดใจไม่เว้นวาร
..............สรรพ์ ศัลย์ คนละคำก็จริง แต่เสียงเดียวกัน ไม่ควรใช้ในสายสัมผัสบังคับ
.........9. คำเสียงสั้น กับคำเสียงยาว ไม่ให้ใช้สัมผัสบังคับ เสียง อะ -อา    นะ....นา    จั น....จาน
มัน...มาน   กรรม  กำ  กัม  เสียงเดียวกัน ใน ไน นัย เสียงเดียวกัน ใน...นาย คนละเสียง นาม...น้ำ
คนละเสียง เรา...เบาเสียงเดียวกัน  เงา....ขาว คนละเสียง คำที่ประสมสระลดรูป เปลี่ยนรูป สังเกตให้ดี
...............ในจดหมายพี่คะนึงถึงแจ่มจัน................แต่อังคารถึงพุธสุดขื่นขม
................ไม่สบายง่วงเหงาจนเศร้าโทรม.............จนนอนซมวันคืนไม่ชื่นบาน
..........คำ...แจ่มจัน.....อังคาร จ+อะ+น =จัน ขม...โทรม....ซม ข+โอะ+ม = ขม ทร+โอ+ม = โทรม
ซ+โอะ+ม = ซม
.........10. คำลงท้ายบท ไม่ควรใช้เสียงเดียวกันติด ๆสำหรับบทกลอนที่แต่งติดต่อกันหลายบท สมมติ
แต่งไป 5 บท บทที่หนึ่ง จบบทด้วยคำ ใจ จบบทสองด้วยคำ ใน เสียงไอเหมือนกันกับบทแรก ควรเว้นซัก 2 บทถึงใช้ซ้ำก็ไม่ น่าเกลียด
.....................ยังจำได้บอกว่าจะมาเยี่ยม..................พี่ก็เปี่ยมยินดีศรีสมร
.....................อุตส่าห์เตรียมของไว้ให้งามงอน.........มะพร้าวอ่อนส้มสูกลูกไม้มี
....................ทั้งส้มโอเขียวหวานและส้มเซ้ง............สวนตาเส็งมากมายนักนวลศรี
....................อย่าลังเลชักช้ารีบมาซี .........................วันสิบสี่มกรามาไวไว
....................ชวนอาม่าอากูมาดูด้วย........................จักให้ช่วยเก็บส้มสมสมร
....................พี่คอยมาหลายวันหนาบังอร................จนรุ่มร้อนรอเจ้าจนเหงาทรวง
........คำ ศรี ซี สี่ พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ประสมสระ อี เหมือนกัน ไม่ควรใช้ในสายสัมผัสบังคับเดียวกัน      คำสมร ห่างกันบทเดียว ใช้เสียง ออน อีกแล้ว ไม่ผิด แต่ไม่ควรใช้
.........11. คำคู่ที่ถือเป็นคำมาตรฐานไปแล้ว ไม่ควรนำมาสลับตำแหน่งหน้าหลัง มีคำไหนบ้าง ต้องตรวจ
สอบกับ พจนานุกรมทันทีที่สงสัย คำที่ถือว่าเป็นคำมาตรฐานไปแล้วเช่น แน่นอน กอบกู้ จริงใจ เดียวดาย ปกป้อง บางคำสลับ ตำแหน่งความหมายก็เพี้ยนไปด้วย ทางที่ดีอย่างใช้สลับตำแหน่ง คำที่มักเขียนสลับบ่อย เช่นขุกเข็ญ งอกงาม ลิดรอน หุนหัน ว้าเหว่ ย่อยยับ ทักทาย บดบัง งมงาย ร่ำรวย ชั่วช้า หลายคำสลับที่แล้วความหมายผิดเพี้ยนไป ......เช่น งอกงาม= งามงอก หุนหัน = หันหุน งมงาย = งายงม ร่ำรวย = รวยร่ำ ใช้ตามเดิมดีกว่า
.........12. ใช้คำสัมผัสเพี้ยน ๆ ดูรูปคำนึกว่าจะสมผัสกันได้ แต่ลองอ่านดูจะรู้ได้ว่าคนละเสียง เช่น เล็ก เป็ดเลข เป็นคำประสมสระ เอ เหมือนกัน แต่ตัวสะกดต่างกัน เลยออกเสียงต่างกัน
......................................สวัสดีเจอหน้าคุณหนูเล็ก......มาเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งอีกแล้วหรือ
..............................อยากรู้เห็นเรื่องราวอันเลื่องชื่อ......นามระบือเลี้ยงเป็ดมานานวัน
..............................เลือกทุ่งนาแบบไหนจะไล่ทุ่ง.........อะไรจูงใจรู้หนูจึงมัก
.............................เลือกนาเช่าคงมีที่สำคัญ..................คุ้มค่ากันไหมนี่ที่ลงทุน
.......เล็ก---เป็ด (คนละเสียง ) ทุ่ง กับ จูง (สระเสียงสั้นกับเสียง ยาว)  วัน--มัก...คัญ ...กัน(สระสั้นและยาว แถมคนละมาตราอีก)
..........14. แต่งไม่ระวังกลายเป็นกลอนที่มีละลอกทับละลอกฉลอง ระลอกทับ หมายถึงการมีเสียงวรรณยุกต์เอกหรือโท ในคำสุดท้ายของวรรครับและวรรครอง ระลอกฉลอง หมายถึงเสียงวรรณยุกต์เอกหรือโทในคำสุดท้ายของวรรคส่ง
...................สะดับ จะกล่าวถึงละลอกทับกับฉลอง..........จับตามองวรรคนี้ให้ดีท่าน รับ
....................รอง ละลอกทับรับรองจองการบ้าน..............คนโบราณว่าฉลองตรองแบบนี้ ส่ง
...................มิผิดแบบแต่กลอนมีตำหนิ ...........................อย่าพึงริเสกสรรค์ตามวิถี
....................หลีกละลอกทั้งสองให้จงดี ..........................จึงจะมีมงคลกลกลอนกานท์ ฯ
..........15. ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ในบทกลอนโดยไม่มีเหตุผลสมควร
..........16. ใช้คำภาษาพูด ภาษาปาก เว้นแต่ใช้เป็นการบอกเล่า สนทนาาญ
..........17. ใช้คำภาษาถิ่น โดยไม่จำเป็น เว้นแต่ต้องการเน้น การนำเสนอศิลปะการใช้ภาษา
..........19.ใช้คำภาษาต่างประเทศ แบบคำทับศัพท์ในบทกลอน ไม่ควรใช้
.................ไอเลิฟยูยูก็รู้ว่าพี่รัก.................แล้วไยจักมัวอายคล้ายผลักไส
..................แค่มองอายก็รู้หัวอกไอ..........หอบรักไว้มอบยูรู้ไหมเธอ
..........20. อื่น ๆ เอาไว้นึกได้ค่อยมาต่อเติม ตอนนี้หยุดไว้ก่อน สวัสดีครับ

หมายเหตุ  มีคนถามว่า เขียนตำหนิกลอนซะขนาดนี้ มีประสบการณ์ในการแต่งกลอนแค่ไหน  ก็ตอบยาก
                  ครับ คนเป็นครูชอบสอน รู้นิด ๆ หน่อย ๆก็สอนได้ แต่เรื่องร้อยกรอง ผมว่ามีประสบการณ์มาก
                  พอจะะขียนข้อบกพร่องต่าง ๆได้เป็นอย่างดี วันหลังจะเอาเรื่องกาพย์ โคลงและฉันท์มา
                  เขียนตำหนิอีก อยากถามอีกก็ถามเลยครับ อ้อภาคผนวกจากชีวประวัติ เอามาให้ดูเล่นครับ


ภาคผนวกอัตชีวประวัติ
............ตั้งใจจะจบแล้วนา แต่มีลูกหลานเขาถาม อยากรู้ที่ตาว่าเขียนร้อยกรอง คล่องพอ ๆ กับร้อยแก้ว แสดงว่าเขียนไว้ไม่น้อยล่ะซิ บอกได้ไหมตาเขียนอะไรบ้าง  แหมใครจะไปตอบได้ เพราะตาเขียนแบบเขียนเล่น นึกอยากเขียนอะไรก็เขียนไปเรื่อย ทักทายประจำวัน บ้าง อวยพรบ้าง บันทึกเรื่องราวที่สนใจ เรื่องน่ารู้ ประเพณีวัฒนธรรม เล่านิทาน การท่องเที่ยว มันเยอะแยะไปหมด อยากรู้ลองไปอ่านที่เวบตาสิมี 3 เวบนะ เช่น
บทร้อยกรองแทรกอยู่ เวบวิถีชีวิตอีสาน (กด Ctrl+Clik ที่แถบ URL ที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ เพื่อเปิดดูครับ)
เข้าพรรษา อาสาฬหบูชา http://khuntong52.blogspot.com/2017/07/blog-post.html
วันสุนทรภู่ 2560  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/26.html
โคลงสอนหลาน  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/blog-post_18.html
ระลึกวันวิสาขบูชา 2560  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/blog-post_51.html
ร้อยกรองเบ็ดเตล็ดชุด 1  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/blog-post.html
ร้อยกรองเบ็ดเตล็ดชุด 2  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/2.html
ร้อยกรองเบ็ดเตล็ดชุด 3  http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/3.html
ตำนานบุญบั้งไฟ  http://khuntong52.blogspot.com/2017/05/blog-post_13.html
กาพย์เบ็ดเตล็ด http://khuntong52.blogspot.com/2017/04/blog-post.html
รวมบทอวยพร http://khuntong52.blogspot.com/2017/03/blog-post_17.html
พระราชประวัติ ร. 9 คำกลอน  http://khuntong52.blogspot.com/2016/11/blog-post_14.html
บทร้อยกรองแทรกที่ เวบขุนทองเขียนร้อยแก้ว  (กด Ctrl+Clik ที่แถบ URL ที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ เพื่อเปิดดูครับ)

ทักทายรายสัปดาห์ 2-8 เมษายน 2561
             https://mykht.blogspot.com/2018/04/2-8-2561.html
ทักทายรายสัปดาห์ 25-31 มีค.61
            https://mykht.blogspot.com/2018/03/25-31-61.html
ทักกันวันเสาร์
 
          https://mykht.blogspot.com/2018/02/blog-post_10.html
ทักกันวันพฤหัส 22 กพ.61
           
https://mykht.blogspot.com/2018/02/22-61_21.html
ทักกันวันพุธ 21 กพ.61
           https://mykht.blogspot.com/2018/02/22-61.html
ทักกันวันอาทิตย์ 
           https://mykht.blogspot.com/2018/02/blog-post_6.html
ปิดทองและฝังลูกนิมิต
           https://mykht.blogspot.com/2018/02/blog-post_57.html
ธ เสด็จสู่สวรรคาลัย
         
https://mykht.blogspot.com/2017/10/132559-302559-32559-132560-262560_27.html
ระลึกวันวิสาขบูชา
         
https://mykht.blogspot.com/2017/05/blog-post.html
นิทานอีสป  เพจที่ 1(1-50)
http://newjarinya.blogspot.com/2018/04/100_5.html
นิทานอีสป  เพจที่ 2(51-100)
http://newjarinya.blogspot.com/2018/04/51-100.html
บทร้อยกรองจาก เวบขุนทองเขียนร้อยกรอง (กด Ctrl+Clik ที่แถบ URL ที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ เพื่อเปิดดูครับ)
ทักรายรอบสัปดาห์ 19-24 มีค.61 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/blog-post_24.html
ทักทายกันรอบสัปดาห์ http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/blog-post.html
บัตรอวยพรรุ่นใหญ่ 1 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/01_41.html
บัตรอวยพรรุ่นใหญ่ http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/02_42.html
บัตรอวยพรรุ่นใหญ่ http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/03_89.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง
http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/01_3.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง  http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/02_3.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/03_3.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/04_3.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/01_54.html
บัตรอวยพรรุ่นกลาง 6 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/06.html
บัตรอวยพรขนาดเล็ก 1 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/01.html
บัตรอวยพรขนาดเล็ก 2 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/02.html
บัตรอวยพรขนาดเล็ก  3 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/03.html
บัตรอวยพรขนาดเล็ก 4 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/04.html
บัตรอวยพร ขนาดเล็ก 5 http://newjarinya.blogspot.com/2018/03/05.html
ปีเก่าปีใหม่ http://newjarinya.blogspot.com/2017/12/blog-post_29.html
ส.ค.ส. 2561 http://newjarinya.blogspot.com/2017/12/2561.html
ทักทายด้วยคำฉันท์ http://newjarinya.blogspot.com/2017/12/blog-post_28.html
รวมคำอวยพร http://newjarinya.blogspot.com/2017/12/blog-post.html
บันทึกพระราชประวัติ รัชกาลที่ 9 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/9.html
เซียงเหมี่ยง3 ตอน 41-60 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/3-41-60.html
เซียงเหมี่ยง 61-76 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/61-76.html
นางผมหอมกลกลอน http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/blog-post_7.html
เซียงเหมี่ยง 2 ตอน 21-40 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/2-21-40.html
เซียงเหมี่ยงตอน1-20 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/1-20.html
นิราศดอยอ่างขาง1 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/1_6.html
นิราศไทรโยค1 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/1.html
นิราศไทรโยค 2 http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/2.html
บททักทายประจำวัน http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/blog-post_6.html
เล่าเรื่องหัดแต่งกลบทhttp://newjarinya.blogspot.com/2017/10/blog-post.html
เซียงเหมี่ยงคำโคลงชุดที่ http://newjarinya.blogspot.com/2017/08/blog-post.html
คำโคลงสอนหลาน http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_26.html
กาพย์เบ็ดเตล็ด http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_78.html
รวมบทอวยพร http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_25.html
สัมผัสในกลอนแปด http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_24.html
บันทึกการอ่านพระราชประวัติ ร 9 http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/9.html
ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_74.html
ระลึกถึงพระบรมราโชวาท http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/1.html
ระลึกถึงพระบรมราโชวาท http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/2.html
สมตวารอาลัย http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_76.html
วันวาเลนไทน์  http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post_23.html
บทอวยพรปีใหม่ http://newjarinya.blogspot.com/2017/04/blog-post.html
ร้อยกรองเบ็ดเตล็ด http://newjarinya.blogspot.com/2016/08/blog-post_9.html
ภูกระดึงรำลึก http://newjarinya.blogspot.com/2016/08/blog-post_30.html
ภูกระดึงรำลึก 1 http://newjarinya.blogspot.com/2016/08/1_2.html
ท้าวขูลูนางอั้ว http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/2_51.html
ท้าวขูลูนางอั้ว 1 http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/1_30.html
ตำนานบุญบั้งไฟ http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_40.html
แนะนำโคลงกระทู้ http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_9.html
แนะนำโคลงดั้น http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_62.html
วันคล้ายวันเกิด  http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_72.html
ไปวัดจำศีล http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_2.html
สนทนาธรรม http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_66.html
อ่านพุทธภาษิต http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/blog-post_29.html
วันสุนทรภู่ 59  http://newjarinya.blogspot.com/2016/07/59.html
บทกลอนเบ็ดเตล็ด http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_18.html
ส.ค.ส. ๒๕๕๙ http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post.html
แหล่ประจำสัปดาห์ http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_9.html
อวยพรวันเกิดชุดที่ 2 http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/2.html
นางผมหอมกลกลอน http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_63.html
กาพย์กลอนเบ็ดเตล็ด ชุดที่ 1 http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/1.html
วันสุนทรภู่ 2558  http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/2558.html
พุทธภาษิตสำนวนอีสาน http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_5.html
รวมสาระพัดบทอวยพร http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_3.html
เทคนิคแต่งกลอน http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_2.html
รวมกาพย์กลอนร่วมกิจกรรม http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_54.html
โคลงดั้นบาทกุญชรชมไม้ http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_14.html
ฝึกฝนโคลงต่าง ๆ http://newjarinya.blogspot.com/2015/12/blog-post_1.html
ไตรยางค์ กลอนหก http://newjarinya.blogspot.com/2015/11/blog-post_58.html
ท้าวขูลูนางอั้วคำโคลง http://newjarinya.blogspot.com/2015/11/blog-post_71.html




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น