วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกการเจ็บป่วย ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๒

ขุนทอง ศรีประจง

..................ช่วงวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา ผมเจ็บป่วย ด้วยมีอาการไข้สูง จนประกาศงดแต่งกลอน จนกว่าจะดีขึ้น ไปพบแพทย์พบว่าไม่ใช่ไข้ธรรมดา หมอพบปอดมีจุดดำ ๆ มิน่าร้อนยังกะไฟลน หมอให้ยามาทาน และนัดไปพบหลังทานยาครบห้าวัน ไม่ได้แต่งกลอนโพสประจำวัน แต่ก็เขียนบันทึก ทุกวันแหละครับเป็นการพักผ่อนฆ่าเวลา  เขียนไปเขียนมามันยาวขึ้น ๆ เลยเอามาเก็บที่นี .....จนได้


   ทักกันวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๒
กาพย์ยานี ๑๑
เป็นไข้ยังมิหาย....................ใครทำร้ายเราหรือหนอ
เจ้ากรรมคงมารอ..................หวังกระทำคอยซ้ำเอา
เหนื่อยอ่อนเฝ้านอนแบบ........ดังไปแลบลามลนเผา
รุ่มร้อนมิทุเลา......................สามวันแล้วอนิจจา
เชิญเชิญใครเจ้ากรรม.............อ่านลำนำกาพย์นี่หนา
เขียนเล่าถึงโรคา....................ขยันมาคอยเบียดเบียน
สิบเอ็ดสิงหาคม.....................เริ่มนอนซมหวัดแวะเวียน
ไปพบหมอเขาเขียน.................รายการยาล้วนวาดี
กลับบ้านนอนพักผ่อน.............นอนมิหลับตัวร้อนจี๋
ไข้สูงดังอัคคี........................มันโรมรันทั้งวันคืน
อาการไอเกินพิกัด..................โรคมันจัดจนยากฝีน
เจ็บอกก๋เต็มกลืน....................เจ็บหน้าท้องต้องเกร็งไอ
จิบยาน้ำดำดำ........................ยังไอซ้ำนึกสงสัย
โรคเรานี่ยังไง........................เหตุไฉนมิกลัวยา
หมดไปตั้งสามขวด.................ยังเจ็บปวดเหมือนเดิมหนา
การไอยิ่งก้าวหน้า...................น้ำตาเล็ดแทบขาดใจ
ยายชวนพบหมอบ้าง................มีหลายอย่างน่าสงสัย
หลายวันมามีไข้......................เขาตรวจดูร้ายฤๅดี
ตกลงไปก็ไป.........................พักเอาไว้ตามวิถี
ตรวจหมอกลับมานี่..................ค่อยเขียนต่อกันต่อไป
สิบห้ากลับมาบ้าน...................มิเบิกบานอย่าสงสัย
เจ็บป่วยนั่นยังไง.....................ไข้ตัวร้อนมันรุกรน
หมอว่าผลจากปอด..................มีจุดสอดแทรกสับสน
นอนพักอย่ากังวล...................ยาก็กินให้หมดซอง
กินยาก็ง่วงหลับ.......................คออ่อนพับหมดผยอง
มึนราวกินยาดอง.....................ถึงนอนเสื่อเลยหรือเรา
หลบไปได้หลายยก.................ตกใจตื่นค่อยคลายเหงา
อาการค่อยทุเลา.....................หายใจโล่งก็ยังดี
เดินดูพวกต้นไม้......................ถูกฝนได้งามสดสี
เหมือนได้สารเคมี....................มากับฝนชุ่มฉ่ำงาม
ฉันชื่อสับปะรสสี.....................มีเพื่อนมากไหมอย่าถาม
ปลูกเล่นกันทุกยาม.................จะเต็มบ้านแล้วคะคุณ
ผมว่านนาคราช.......................มิประหลาดนายเกื้อหนุน
หัวงูนั่นและบุญ.......................ได้มาอยู่คู่เคียงกัน
เพื่อนผองร่วมสามสิบ...............ยายชอบหยิบปุ่ยแจกสรร
ชอบมากอยากดูมัน..................ยามแตกหน่อน่าเอ็นดู
พวกฉันคือพวกเดฟ.................สวยแบบเทพเลยนะหนู
ใบงามเลื้อยดังงู......................เป็นพวงพุ่มใบงดงาม
กระดุมแบบหัวใจ.....................คือรูปใบน่าติดตาม
สัมผัสสบายยาม......................พิศพวงห้อยงามรูปทรง
ทรงกลมก็น่ารัก.......................ดังวงพักตร์นวลหงส์
แรกแย้มนวงอนงค์...................ชวนถตอมกล่อมฤดี
พวกเราสับปะสรสสี..................ร่วมร้อยมีปลูกเหลือหลาย
คงเพราะคุณผู้ชาย...................ขยายพันธ์จนมันมือ
ห้อยแขวนแลระเบียบ................ดูเรียบร้อยสบายตา 
ทอดกิ่งนาคราช.......................งามผุดผาดชวนสเนหา
อวบอิ่มพิมพ์ประภา..................แลสล้างช่างงดงาม
มอสเฟิร์นเขียวชะอุ่ม...............แลทรงพุ่มคนมักถาม
ชื่อไรพุ่มต่อตาม......................ทรงสวดสดงดงามจริง
บอกไปหลายหลากชื่อ..............น่านับถือพวกผู้หญิง
อยากรู้มิประวิง........................บอกทุกสิ่งที่รู้มา
มอหกจบเกษตร.......................พอรู้เลศพวกพฤกษา
ไม้ดอกแลงามตา.....................ไม้ประดับนานาพรรณ
บอกเล่าพอเข้าใจ.....................พวกแมกไม้งามสีสรร
งดงามผิดแผกกัน......................บอกให้ฟังนวลลออ
สิบหกกันยายน........................เป็นคนไข้ลำบากหนอ
ไอมากจนเจ็บคอ.....................เจ็บหน้าอกไม่สบาย
ข้าวปลาก็เบื่อเบื่อ...................แล้วเมื่อไรจึงจักหาย
กินยาก็มากมาย.....................ยังมิคลายเลยหนอเรา
ยายบอกไปโรงบาล.................นารำคาญพบหมอเขา
คนไข้มากมิเบา.......................ไปเข้าคืวครึ่งค่อนวัน
ทานข้าวเช้าเสร็จสรรพ............รอยายครับไปด้วยกัน
โรงบาลใหญ่คนมาก................ล้วนลำบากเจ็บป่วยสรรพ์
ต้องมาหาหมอกัน....................บ้างลูกหลานนำพามา
คุณยายเขารู้จัก......................ไปทักทายสืบเสาะหา
ข้อมูลเร่งรัดพา.......................ผ่านขั้นตอนดำเนินการ
มินานก็ได้ช่อง........................จองพบหมอเขาเรียกขาน
ตรวจเสร็จมิช้านาน....................รอบรับยากลับบ้านกัน
ไปเองคงช้ามาก.......................เพราะลำบากจนนึกขัน
ทำเองต่อทั้งวัน........................คงมิเสร็จคนเยอะเกิน
มาบ้านว่าพักผ่อน.....................ให้นอนนิ่งยังนึกเขิน
เปิดคอมเล่นเพลินเพลิน.............เขียนกลอนเล่นสบายสบาย
ทักกันพักไว้ก่อน.......................สิบสี่ย้อนตอนสายสาย
ลาหยุดเพื่อผ่อนคลาย.................มิวุ่นวายแต่อ่อนแรง
เป็นไข้ไอมิหยุด.........................มันแสนสุดชักกำแหง
โรคภัยมันเล่นแรง.......................กินมิได้หลับมิลง
นานเข้ามันก็เพลีย.......................ใจละเหียชักลืมหลง
วันเวลาก็ไม่ตรง..........................นึกว่าเช้าอยู่ร่ำไป
ต้องเปิดคอมมาเชค......................เลขยืนยันหายสงสัย
เราบ้าแล้วหรือไร.......................นอนจนลืมวันเวลา
สวดมนต์เล่นคงดี........................สติมีรำลึกหา
อรหังพระสัมมา...........................สัมพุทโธอภิวันทน์
สวากขาตธํมม.............................คำที่สอนงามพร้อมสรรพ์
ละชั่วทำดีกัน..............................ชำระใจหมดจดงาม
จักถือสีลสิกขา.............................เว้นปาณามิต้องถาม
เว้นลักทรัพย์เว้นกาม.....................สุมิจฉามิสมควร
พูดจามีสัตย์ซื่อ. .........................ถือศีลห้าบาปอย่าหวน
ภัยเวรอย่ารบกวน.........................สงบสันต์สถาพร
สิบเจ็ดกันยายน..........................ยังกังวลเฝ้าทอดถอน
เจ็บไข้ได้แต่นอน.........................จนเวียนหัวน่ารำคาญ
ร้อยคำเล้นดีกว่า...........................กินแวลาแต่สุขศานต์
เจ็บอกดูอาการ.............................ทุเลาลงกว่าก่อนมา
ช่วงนี้มีสองบุญ.............................เคยอบอุ่นก่อนนั้นหนา
เดือนเก้าดับท่านว่า........................ประดับดินเป็นชื่อบุญ
วันเดือนดับกำหนดงาน...................พวกชาวบ้านต่างเกื้อหนุน
ตั้งใจให้เกิดคุณ............................แก่ญาติมิตรผู้จากไป
พากันจัดหีบห่อ.............................เย็บตองพอกระทงไหน
นี่ข้าวบรรจุไว้...............................อีกคาวหวานสามกระทง
ยังขาดอีกเมี่ยงหมาก.....................ตาอยากดูดยาเส้นมี
น้ำท่าบรรจุขวด.............................เอาไว้กรวดตามวิถี
ก่อนแจ้งมิรอรี...............................ไปวางที่ริมกำแพง
มีคนมาวางกัน...............................ต่างเลือกสรรไฟส่องแสง
จุดธูปขอบอกแจ้ง..........................ญาติทั้งหลายมารับเอา
เสร็จแล้วกลับไปบ้าน....................เตรียมอาหารงานบุญเขา
สำคัญบุญบ้านเฮา........................ประดับดินชื่องานบุญ
ความหวังเขาต้องการ....................พวกลูกหลานอยากเกื้อหนุน
ตอบแทนผู้มีคุณ..........................ผู้ล่วงลับด้วยทำทาน
แต่ใจยังเป็นห่วง..........................ท่านทั้งปวงจึงสืบสาน
จัดของมาสักการ...........................วางตามพื้นริมกำแพง
คาวหวานมีพร้อมสรรพ...................ล้วนสำรับเคยแสวง
เคยชอบจึงแสดง...........................ให้ปรากฏเชิญรับเอา
เสร็จสรรพกลับไปบ้าน....................เตรียมไทยทานวันพระเขา
บุญใหญ่ไทยบ้านเฮา.....................ถวายทานวันพระดี
เขาจัดสังฆทาน...............................พวกชาวบ้านขมันขมี
พระช่วยจัดอีกที............................ภัตตาหารเพื่อแบ้งบุญ
อุทิศห็ญาติมิตร.............................ตามที่คิดแต่แรกหนุน
กุศลผลเป็นคุณ.............................อุทิศให้ได้ตามควร
ทุกภพต่างใช้บุญ...........................เกิดแต่ทุนที่สงวน
มนุษย์ทำได้ล้วน............................เลยได้เปรียบภพอื่นใด
นรกอยากทำบุญ............................ยากพ่อคุณทำไฉน
ดิรัจฉานเขลาเกินไป.......................ส่วนสวรรคกินแต่บุญ
เมืองพรหมอุดมฌาน.......................จิตเบิกบานยากจะหนุน
ถือศีลจำวัดคุณ...............................มิสะดวกคณาพรหม
ดีสุดมนุษย์เรา................................สร้างกันเอาบุญเสกสม
ทานศีลแลอบรม..............................ล้วนถนัดเชิญจัดการ
เหมือนคนมีเงินทอง........................จับจ่ายคล่องดังเสกสาร
บุญอยู่ธนาคาร...............................เก็บเอาไว้ในตัวเรา
วันใดนึกอยากใช้............................สั่งจ่ายไปมิขาดเขลา
มากมายหนอบุญเจ้า........................พ่อบุญหลายสบายใจ ฯ