วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ร้อยกรองเบ็ดเตล็ด


                      ร้อยกรองเบ็ดเตล็ดชุดนี้ เขียนด้วยนามแฝง จริญญา แสงทอง รวบรวมมาไว้ เพื่อสะดวกในการค้นหา
----------------พุทธะ พาชื่น ตื่นรู้ ----------------------
กลอนสุภาพ
๐ พุทธะพาชื่นด้วยตื่นรู้...............คุณครูว่าชนะมารวิสิฐศรี
ประสบชัยห่างอบายนั่นแหละดี......คำท่านชี้ชวนคิดพินิจตรอง
จักแช่มชื่นตื่นรู้ดูต้นเหตุ..............รู้จักเลสแห่งมารการสนอง
สลัดหลุดเสียได้ในครรลอง...........จึงจักมองเห็นชัยในมรรคา
กิเลสผลาญความดีของมนุษย์... ..ร้ายเกินสุดยากต้านคือตัณหา
อีกราคะอรติคือมารา..................ตัวคอยล่าผลาญทุนคุณความดี
จักทำคุณความงามมันตามขัด......พึงกำจัดมารไปในวิถี
การงานจักพัฒนาคุณเกิดมี.........ปวงปราชญ์ชี้พึงรู้จักระวังมาร
วัตถุกามคือเหยื่อเพื่อหลอกล่อ.....ชวนให้ต่อตามติดแล้วคิดผลาญ
เรียกเบญจกามคุณห้าประการ......ที่เราท่านติดเหยื่อรูปารมณ์
สัททารสคันธาผัสสะด้วย.............เป็นตัวช่วยก่อกระแสให้เสพสม
เบญจขันธ์ติดบ่วงยากล่วงตรม......ทุกข์ทับถมบาปกรรมชอกช้ำใจ
เยจิตตังสัญญเมสสันติ................หากดำริหลุดกรรมทำไฉน
ปิดทวารทุกช่องสำรวมไว.............จึงจักไม่ติดบ่วงห่วงแห่งมาร
สติปัฎฐานสี่นี่แหละหนอ..............ถึงจะพอสู้กรรมธรรมไขขาน
หวังชนะพึงกระทำอย่าปล่อยนาน...จะเบิกบานตื่นรู้ครูสอนมา
ชนะแล้วบาปอบายมิต้องห่วง........มิอาจล่วงเราได้ไม่กังขา
ประเสริฐแท้ตัดห่วงบ่วงมารา.........ท่านเรียกว่าชนะเลิศประเสริฐจริง
เป็นผู้รู้ทันมารมิติดบ่วง................ตื่นตัวล่วงมารได้ไม่สุงสิง
ผู้เบิกบานดวงใจมิไหวติง.............สงบนิ่งสะอาดสว่างกระจ่างมน ฯ
------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 24 มกราคม 2559
----------------------



--------------ชวนชมบาน--------------------
กาพย์ยานี 11
O=ชวนชมชวนตรงไหน......คงเพราะใบเจ้าน่ะสวย
รากเหง้าก็งามด้วย.............ส่งให้แพงแต่งกิ่งใบ
ดอกเจ้าก็ชวนชื่น..............ภิรมย์รื่นมิสงสัย
รูปทรงสดสีใคร..................อยากชิดชมเจ้านักแล
คนเล่าดูยากหนอ..............งามลออหลากกระแส
ต่างคิดต่างก็แปล...............ต้องแบบนี้จึงชวนชม
ลางยึดเบญจพิธ.................กามวิจิตรวิเศษสม
รูปสวยก็นิยม.................... บอกน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นชายเรียกหล่อมาก......ยิ่งหายากยิ่งหล่อหรู
เสียงดีชวนชื่นชู.................ร้องเพลงเพราะพูดน่าฟัง
เนื้อหอมชวนชิดใกล้.........รัญจวนใจมีมนค์ขลัง
ยิ่งหอมกลิ่นโด่งดัง.............ราคาสูงรัญจวนใจ
รสดีผักพืขผล...................ชื่นชมชนเสาะหาไหน
ของกินถึงอยู่ไกล...............สรรสืบเสาะเพราะชื่นชม
สัมผัสที่ดีเลิศ....................ชวนให้เกิดรักเหมาะสม
อยากได้ใจนิยม.................คิดใคร่หามาครอบครอง
นี่กามคุณห้า.....................สิ่งที่พาตอบสนอง
จิตพลาดขาดตริตรอง.......มักหลงไหลมิเพียงพอ
หลงน้อยเพียงรู้ฤทธิ์...........หลงมากตืดลำบากหนอ
ตามหาอยากเคล้าคลอ.....กามคุณเหยื่ออารมณ์
ทางแก้ระวังไว้.....................ทวารใช้สำรวมสม
หูฟังตาใช้ชม....................ลิ้นลิ้มรสกำหนดใจ
จมูกเพียงรู้กลิ่น................ผัสสะสิ้นมิสงสัย
รู้ทันมิเป็นไร......................ทวารห้าสำรวมดี
ตัดช่องทางเกิดทุกข์.........สงบสุขตามวิถี
สติญาณเกิดมี.................กำกับไว้วิปัสสนา ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 20 มกราคม 2559
----------------------------




-----------------ไขความบินฝ่าท้าฝัน------------------A92-
กลอนสุภาพ
O=อ่านกระทู้บินฝ่าท้าทายฝัน........คำสำคัญคุณครูผู้ปักหมาย
ธงปักลงขอบฟ้าว่านั่นปลาย............ลองแหวกว่ายไปหาท้าทุกคน
อีกบทว่าอริยสัจจะสี่........................ประเสริฐศรีส่องแจ้งมิสับสน
ปลายแน่แท้มรรคาพาทุกชน...........บำเพ็ญพลแก่กล้าจะพาไป
ศรัทธาคือพละพึงเชื่อมั่น................ปัญญาทันกำกับมิสงสัย
วิริยะเข้มแข็งพลังใจ........................สติใช้ติดตามทุกเวลา
สมาธิพลังอันประเสริฐ.....................ย่อมก่อเกิดพลังฤทธิ์จิตสิกขา
ห้าพลังรวมในวิปัสสนา....................นิวรณ์ห้าถอยเกิดอภิชาน
กำหนดรู้รูปนามตามที่เห็น..............ไตรลักษณ์เป็นจุดหมายใจผสาน
สันตติเป็นไฉนในพิจารณ์................คงนับนานนิพพิทาปรากฏมี
อนิจจังทุกขังจักปรากฏ...................ตามตัวบทอนัตตาว่าวิถี
มรรคสัจก่อเกิดครบถ้วนดี...............สามารถชี้สมุทัยได้ชัดเจน
ทุกขสัจจนิโรธมาพร้อมสรรพ.........ในระดับวิปัสสนาโยคเถร
ก้าวล่วงสู่อริยะระงับเวร....................นี่คือเกณฑ์หนทางไปนิพพาน
ปริยัติเรียนรู้มิแตกต่าง....................ลงมือช่างยากนักจักไขขาน
กว่าจะถึงมรรคสัจแพ้พวกมาร.........คอยระรานพละอ่อนก่อนถึงปลาย
คงชี้ได้ให้เห็นเส้นทางนี้..................หนทางมีเพียงหนึ่งถึงจุดหมาย
คือนิพพานเดินไปไกลมากมาย.......คงอีกหลายชาติภพจะจบลง ฯ ---------------------------------
(พละ 5 หรือ อินทรีย์ 5 พลังนำไปสูปลายฟ้าคือ นิพพาน)
----------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 18 มกราคม 2559
---------------------------------



-------------------แรงสามัคคี-------------------------
กลอนหก
O= มดเอ๋ยมดแดงแข็งขัน......เจ้าสรรค์สร้างค่ามหาศาล
ทำรังใหญ่โตโอฬาร...............โครงการยิ่งใหญ่เสร็จพลัน
เห็นแล้วทึ่งนักมดน้อย...........เจ้าค่อยม้วนใบพร้อมสรรพ์
เป็นห่อรังสวยช่วยกัน.............สำคัญกายกรรมมดแดง
เยื่อเหนียวเชื่อมต่อสนิทแน่น...มีแกนกิ่งไม้สุดแข็ง
ลมมามิหล่นพัดแรง..............ใช้แฝงหลบฝนร่มเงา
ไข่มดฟองเล็กเด็กน้อย...........แอบสอยเก็บไปใจเขา
จะไปตกปลาคว้าเอา..............เหยื่อเย้ายวนปลาชอบใจ.
ไข่โตคนชอบเสาะหา.............ทำพล่าทำแกงสูตรไหน
อร่อยสิ้นแพงมากอยากได้.....ซื้อไปห้าร้อยต่อ(กิ)โล
ปล่อยไว้ไข่มดแม่เป้ง..............คนเร่งเสาะหาโมโห
คั่วกินทำยำพาโล..................พิโธ่เลิศรสมดแดง
หากปล่อยแม่เป้งต่อไป...........มันไต่จากรังหวังแฝง
ขยายเผ่าพันธุ์เปลี่ยนแปลง....บินแข่งกันเข้าพงไพร
โชคดีจับคู่หนุ่มสาว...............ถึงคราวหารังรักไฉน
ตัวแม่นางพญามดไง..............ได้สร้างรังมดสืบสกุล
เล่าเพียงเสี้ยวหนึ่งถึงมด.........ปรากฏเห็นได้ใจสุนทร์
เป็นบทศึกษาค่าคุณ..............อบอุ่นมากค่าสามัคคี
ศัตรูตัวใหญ่ไม่ถอย................มดน้อยล้วนรักศักดิ์ศรี
มิถอยถึงสิ้นชีวี......................ยอมพลีเพื่อมวลมดแดง
สารพัดคุณค่าหาได้...............บ้างใช้สูดดมฤทธิ์แฝง
แก้ลมดีนักฉุนแรง..................ทำแกงผัดคั่วมากมาย
สาธุมดแดงแรงฤทธิ์...............ได้คิดถึงเจ้ามากหลาย
อยากเป็นคนดีหญิงชาย........ทำได้มิอายมดแล ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 17 มกราคม 2559
----------------------------





------------------ระลึกถึงครู----------------------
กาพย์ยานี 11
ทุกครั้งจะขีดเขียน........จะร่ำเรียนศาสตร์และศิลป์
ไหว้ครูเป็นอาจิณ...........หวังคงเลิศเกิดมงคล
ทำวัตรไหว้ประจำ...........ผู้สอนธรรมมิสับสน...
พระพุทธผู้บันดล............คติธรรมนำชีวี
กราบครูคือพ่อแม่...........หลายสิ่งแท้ในวิถี
พูดได้นุ่งห่มดี.................ยืนเดินนั่งสอนประจำ
จรรยามารยาท..............สอนฉลาดให้งามขำ
กิจบ้านงานกระทำ.........ได้เรียนรู้มีมากมาย
ไปเรียนหัดเขียนอ่าน......คุณครูท่านก็หลากหลาย
อนุบาลเด็กหญิงชาย........สอนให้พร้อมพัฒนา
ประถมมัธยม..................วิทยาคมศิลป์ภาษา
งามงอนครูสอนมา...........จนเติบกล้าเป็นคนดี
หลายคนต่ออุดม.............น่าชื่นชมในวิถี
มากครูคณามี.................ควรน้อบนบจบอาจารย์
ทำกิจมีคนสอน...............ยังละอ่อนฟังเขาขาน
ทำได้ประกอบการ...........นับเป็นครูด้วยเหมือนกัน
มากนักคนช่วยสอน........เขียนบทกลอนได้เสกสรรค์
แนะนำเอกอนันต์.............คุณครูสรรพ์ขอบูชา
ยังอยู่ครูจงสุข..................กายสนุกจิตหรรษา
การงานพัฒนา................ประสบสันติ์นิรันดร์กาล
คูณครูผู้ล่วงลับ................จงจิตจับใจผสาน
เบิกบุญกุศลทาน............อุทิศถึงทุกคุณครู
ขอจงไปสุคติ....................ภูมิสวรรค์พวกหนู
ส่งใจกุศลชู.......................เกษมศานติ์ทุกท่านเทอญ ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 16 มกราคม 2559
----------------------------


------------------ฟ้าสีฟ้า-----------------------
กลอนสุภาพ
O= ฟ้าสีฟ้าเหตุใดฟ้าจึงฟ้า.............คงเพราะว่าสดใสไม่หม่นหมอง
ปราศจากเมฆหมอกตามครรลอง...ฟ้าผุดผ่องสีฟ้าน่าชื่นชม
มาซิคุณมาจ้องมองดูฟ้า................ยามอุษาแสงทองมองสวยสม
ประกายเงินแกมทองจ้องภิรมย์......ดังลาดพรหมม่านหมอกคลุมพฤกษ์ไพร
ดูซินั่นยอดเขาโผล่พ้นหมอก........มิอยากบอกงามเสน่ห์นักไฉน
ดังหมู่เกาะกลางสมุทรสุดพิไล........ค่อยหายไปยามสายเสียดายจริง
ขอบฟ้ากว้างว้างเวิ้งแถบสีฟ้า.........ลอยไปมาเมฆินยินน้องหญิง
สาธยายโน่นอะไรมันไหวติง............มีหลายสิ่งเคลื่อนไหวในนภา
จุดดำดำกลุ่มโน้นเครื่องบินพี่.........คนเดี๋ยวนี้บินได้ราวปักษา
โน้นขาวบ้างดำคล้ำหมู่เมฆา..........สกุณาบินตัดเมฆงดงาม
กลุ่มโน้นพี่เมฆฝนกำลังตก............แสงมันผกผันไปในโลกสาม
สีใดเล่าจักเทียบรุ้งแวววาม.............เชิญพี่ตามชมดูย่อมรู้ดี
ยามอยู่ยอดดอยสูงสุรีย์คล้อย.........ฟ้าก็พลอยแปลกไปได้เปลี่ยนสี
คล้ายอุษายามรุ่งแปลกรวี...............แต่ยามนี้อาทิตย์อังสดง
โน่นไงพี่จันทราโผล่มาแล้ว..............ดังลูกแก้วสุกสกาวพิศวง
คืนวันเพ็ญนวลผ่องยลยิ่งยง...........จันทร์เจ้าคงมีรักทั่วจักรวาล
ไกลไปโน้นหมู่ดาวพราวระยิบ.........คงกระซิบนินทาจันทร์ว่าขาน
แผดแสงจ้าข่มดาวหม่นหมองมาน.หลายดาวพาลวูบดับหลับหลบไป
โน่นหรือพี่กลุ่มดาวทางช้างเผือก..มีกี่เชือกกันหนอนับมิไหว
เห็นแต่รอยระยิบระยับนัย...............ช้างมันไล่เล่นกันสุขสันติ์ดี
ยิงมิสุดขอบฟ้าดำมืดมิต................ต้องดวงจิตส่องไปในวิถี
อาจได้รู้ได้เห็นอีกมากมี.................แต่วันนี้เหนื่องนักขอพักเอย ฯ
------------------------------
แสงทอง ประพันธ์ 16 มกราคม 2559
-----------------------------




ธุดงค์ศึกษา
.... เคยเห็นภาพธุดงค์ธรรมไชย และภาพพระภิกษุเดินผ่านทุ่งนาป่าเขา มีผู้ทักว่า
พระกำลังธุดงค์ ชาวบ้านเห็น ถุงผ้า เห็นแบกกลด เข้าใจว่านั่นคือพระธุดงค์ ความจริง
ยังตัดสินไม่ได้ พระท่านกำลังเดินทางเฉย ๆ อาจเป็นพระธรรมดา ๆ หรือ พระธุดงก์ก็ได้
การถือธุดงค์ต้องสมาทานและปฏิบัติ ไปยืนมองที่วัดก็ยังไม่รู้หรอกว่าพระรูปไหน ถือ
ธุดงค์อะไร ลองศึกษาธุดงค์ 13 เรื่องดูไหมคะ
@..เห็นทิวแถวพระเดินกันกลางทุ่ง.....มิรู้มุ่งหมายไปที่ใดหนอ
พลันนึกถึงธรรมไชย กทม..................ท่านหลว...งพ่อเดินธุดงค์กันกลางเมือง
แต่ชุดนี้กลางนาก็ว่าขาน....................หลวงพี่ท่านธุดงค์ทรงผ้าเหลือง
ปลิวสะบัดงามขบวนควรประเทือง...........มิรู้เรื่องเลยมิกล้ามาวิจารณ์
ขอกลับไปศึกษาธุดงค์ก่อน................พุทธะสอนสาวกพึงอาจหาญ
เพื่อขัดเกลากิเลสยิ่งสมาทาน.............เลือกข้องานมิยากลำบากใจ
ทำวันเดี่ยวเดือนเดียวตลอดชีพ...........มิต้องรีบตรองดูรู้แจ้งไข
ค่อยขยายค่อยทำประจำไป................ธุดงค์ใช่บังคับศึกษาดู
หนึ่งนุ่งห่มบังสุกุลคุณมากนัก...............คนที่จักทำได้ไม่อดสู
หาผ้าเองตัดเองเย็บย้อมชู..................ผลัดเปลี่ยนรู้ปีละหนทนได้ฤๅ
บิณฑบาตธุดงค์คงข้อสอง...................ตามทำนองมิยากลำบากถือ
บิณฑบาตมิได้วันนั้นคือ......................หากยังซื่อหิวมากยากเหมือนกัน
ทนมิไหวลาธุดงค์คงนับใหม่.................อย่างนี้ใช่ธุดงค์เชิงสร้างสรรค์
สิบเอ็ดข้ออีกทำธุดงค์พลัน...................เอาสั้นสั้นเพียงชื่อถือธุดงค์
บางพระบอกใช้ผ้าเพียงสามผืน..............ตลอดคืนตลอดวันมิลืมหลง
ครบสามเดือนนั่นหละถึงจะปลง..............อีกองค์ว่าจักฉันวันมื้อเดียว
ส่วนฉันจักบิณฑบาตไปตามแถว.............อยู่ห่างแนวมิรับมิแลเหลียว
อาตมาฉันในบาตรเท่านั้นเชียว...............อย่ามาเกี่ยวสำรับอื่นมิชื่นใจ
รูปนั่งฉันแล้วไม่รับถวายอีก...................นี่ฉันหลีกโลภมากยากไฉน
อาตมาพระป่าอยู่พงไพร......................ยามเจ็บไข้จำมาพยาบาล
ส่วนผมสมาทานอยู่โคนไม้....................ลำบากใจหน้าฝนมิอาจหาญ
หน้าแล้งหนาวพอได้สมาทาน................ธุดงค์ผ่านพอทนฝึกฝนดี
ฉันจักอยู่กลางแจ้งมิเข้าร่ม....................คำนิยมต้นไม้วิหารกฎี
กลางสนามปักกลดพักกายี...................ลำบากชี้ผ่านกันวันเวลา
อาตมาสมาทานอยู่ป่าชัฏ......................มันสงัดป่าผีดีนักหนา
สมาทานธุดงค์อยู่ป่าช้า.........................นี่ก็ว่ายากผ่านมันน่ากลัว
ข้อสิบสองสมาทานเสนาสนะ..................ตามมีจะอยู่ได้นึกใคร่หัว
คงมิขลังข้อนี้รู้กันทั่ว............................สบายตัวห้องแอร์วัดมากมาย
ข้อสิบสามยากที่สุดหยุดท่านอน..............เหลือเดินก่อนยืนนั่งยังยากหาย
ง่วงมากนักนั่งหลับพอผ่อนคลาย..............ก็มิง่ายสิบสามข้อขอธุดงค์
ที่เห็นเดินเรียงกันสรรข้อไหน..................มิมีได้แบบหมู่ดูท่าหลง
มากศรัทธาพรมดอกไม้ลาดไว้ตรง............นิมนต์ส่งเท้ามาน้ำอบพรม
คงพอกันสองฝ่ายไม่ศึกษา.....................ศาสดาประกาศธุดงค์สม
เพื่อขัดเกลากิเลสวิเศษนิยม....................ฤๅชื่นชมสร้างภาพอาบอิ่มใจ ฯ
--------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 14 มกราคม 2559
---------------------------



--------------วิหารแห่งพรหม 20 ชั้น------------------
กลอนสุภาพ
O= อ่านกระทู้พรหมวิหารครูขานไข............เคยเขียนไว้นานนักชักลืมหลง
หยิบมาใหม่ใจความกำหนดตรง.................ความประสงค์วิหารแห่งพระพรหม
อันเทพไท้สุคติมีสองภพ.........................สวรรคครบหกชั้นชื่อเหมาะสม
กามาวจรเสพกามยามรื่นรมย์...................คนชื่นชมเทวดานามสามัญ
เทพชั้นสูงรูปพรหมอรูปด้วย.....................ภพภูมิสวยบารมีที่สร้างสรรค์
ส่งให้ท่านเป็นพรหมแผกภูมิกัน..................ยี่สิบชั้นงดงามตามตำรา
ล้วนมีบุญบารมีที่ยอดเยี่ยม.......................ดวงจิตเปี่ยมกรุณคุณนักหนา
เมตตจิตพิสดารมุทิตา.............................อุเบกขาไพบูลย์มิเสื่อมคลาย
ทุกพรหมท่านชาญเชี่ยวสมาบัติ..................บรรลุวัตรฌานปฐมสั่งสมสาย
ระดับต้นระดับกลางระดับปลาย................เมื่อชีพวายจุติรูปสามนิยม
หนึ่งปาริสัชชะว่าชั้นแรก...........................ธรรมสูงแยกปุโรหิตาสม
สูงกว่าไปจุติมหาพรหม............................ฌานปฐมจุติไปสามแดน
บรรลุฌานที่สองสามระดับ.......................ท่านพานับสามัญกลางยากแสน
ระดับสามประณีตมิคลอนแคลน................จุติแล่นสู่พรหมสูงขึ้นไป
ปริตตาภาพรหมโลกสี่.............................ลำดับที่เบญจาสว่างไสว
อัปปมาณาภาเพริศพิไล...........................หกพรหมได้นามอาภัสสรา
พระโยคีช่ำชองฌานที่สาม........................บรรลุตามปริตตะระดับหนา
มัชฌิมะระดับกลางภาวนา.........................สูงกว่าว่าประณีตะพยายาม
ล่วงลับไปจุติพรหมโลกสรรพ์....................สูงกว่าชั้นที่หกยกมาถาม
ไล่ระดับปริตตาสุภานาม..........................ถัดไปพราหม์อัปปมาณสุภา
ประณีตฌานไปสุภกิณณหะ.......................เป็นระยะเก้าพรหมสามฌานหนา
รูปฌานมีสี่ระดับต่อมรรคา........................รูปพรหมว่าจตุฌานมีหกพรหม
เก้าภพชั้นผ่านมายังขั้นต่ำ..........................ยามโลกซ้ำแตกไปได้ขื่นขม
น้ำไฟลมล้างโลกกัปป์ระงม.......................เก้าชั้นล่มพร้อมโลกแตกดับไป
พรหมภูมิสิบขึ้นสูงยังมิดับ.........................ท่านจึงนับพิบูลย์ฌานพิสัย
เวหัปผลาชั้นสิบพรหมพิไล........................สิบเอ็ดใช่อสัญญีสัตตานาม
สามัญชนเพ็ญเพียรสมถะ..........................มีตบะรูปฌานเคยสอบถาม
ครูอาจารย์บอกสูงสิบเอ็ดตาม....................จากนั้นข้ามไปยังอรูปพรหม
พรหมสิบเอ็ดถึงสิบหกสุทธาวาส..................คล้ายประกาศอริยะภูมิก็สม
ล้วนแต่พระอนาคาชวนชื่นชม....................พึงนิยมภูมิธรรมนำท่านมา
ทุกท่านมีองค์ฌานปฏิบัติ.........................ต่างวิวัฒน์คุณธรรมวาสนา
ยังมิถึงอรหันต์เมื่อถึงครา...........................ผุดสุทธาวาสพรหมสมสำคัญ
อวิหาสุธาวาสภพสิบสอง...........................สูงกว่าต้องอตัปปาพรหมมาสรรค์
สุทัสสาภพสิบสี่ตามภูมิธรรม์.......................สูงกว่านั้นสุทัสสีแยกแผกไป
ภพสิบหกเรียกชื่ออกนิฏฐ์..........................ที่สถิตอนาคาพาวิสัย
อรูปพรหมแจกตามธรรมลุไป.....................เจนจัดในอรูปฌานวิธี
สมัยก่อนพุทธกาลพวกดาบส.......................ก็ปรากฏฝึกมามากฤาษี
เจริญฌานอารมณ์อรูปมี.............................อากาศชี้วิญญานเป็นอารมณ์
จนเกิดเป็นอรูปสี่ระดับ...............................พอล่วงลับจุติมาอรูปสม
อากาสานัญจายะภพพรหม..........................อีกชั้นชมวิญญาณัญจายา
สามอากิญจัญญายตนะ...............................สุดเนวะสัญญ์ภูมิที่สุดหนา
ครบยี่สิบชั้นภูมิพรหมพรรณนา....................มีคนว่าให้เขียนภพภูมิพรหม
ลองขุดค้นได้มาเพียงน้อยนิด........................ลองลิขิตเป็นกลอนอักษรสม
ยากเอาการชื่อชั้นไม่นิยม..............................ล้วนเป็นปมสันสกฤตติดยากนัย
พรหมทุกชั้นภูมิธรรมท่านสูงส่ง....................จึงดำรงภพภูมินานเกินไข
มีเมตตากรุณาปลูกฝังใจ.............................ยินดีได้มุทิตาบารมี
อุเบกขาเพียบพร้อมพระพรหมสรรพ(สับ)........ท่านจึงนับพรหมวิหารสง่าศรี
ยามผู้คนปฏิบัติธรรมอันดี...........................แบบอย่างนี้จึงขานท่านเป็นพรหม
สาธุขอผู้ใหญ่ปฏิบัติ...................................กิจวัตรธรรมวิหารให้เหมาะสม
มวลลูกหลานหลากหลายได้นิยม...................น้อมบังคมด้วยเคารพจบหัวใจ ฯ
------------------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 8 มกราคม 2559
-------------------------------------------



------------กระทู้สติตรอง สตรองตริ------------- แต่งตามกระทู้เดิมค่ะ พอจะโพส อ้าวเปลี่ยนชื่อแล้ว แต่เนื้อหาคงเดิมค่ะ
โคลงสี่สุภาพ
O=อ่านเห็นงามกระทู้..............ตริธรรม
เลือกหน่อยมีขาวดำ...............แบ่งข้าง
สีขาวกุศลกรรม.....................กิจก่อ ดีแฮ
ส่วนอกุศลพึงร้าง...................ห่างไว้แลดี
O=มีคนถามไถ่ด้วย................สงกา
มากยิ่งหนอธรรมมา...............เลือกใช้
พุทธะแปลกปนพา.................หลงง่าย
เกณฑ์ช่วยสรรอยากได้..........ใคร่รู้มีฤๅ
O=คือคำพุทธท่านเกื้อ...........ประทาน
พระแม่โคตมีวาน...................บอกรู้
แปดเกณฑ์ช่วยจักชาญ..........ธรรมเลือก แลนา
พุทธมิพุทธเกณฑ์กู้...............โปรดใช้หลักเกณฑ์
O=เถรใดสอนแอบอ้าง...........พุทธธรรม
สอนเรื่องราวชักนำ................ผิดเพี้ยน
กำหนัดก่อเกิดกรรม...............อยากเพิ่ม
เป็นเหตุทุกข์สุขเหี้ยน.............อย่างนี้ผิดคลอง
O=ตรองดูสอนสั่งให้................สะสม
กิเลสกองเกลียวกลม.............สั่งไว้
สอนเลิกมักน้อยชม...............มักใหญ่
ติสันโดษอยากให้..................โลภล้นผิดทาง
O=ลางสอนติดพวกพ้อง.........คลุกคลี
สอนเบื่อเพียรสบายดี.............เกียจคร้าน
กินยากอยู่ยากมี....................เลือกเสพ
แปดอย่างผิดสอนต้าน............ต่อต้านพุทธธรรม
O=เลือกคำสอนถูกต้อง..........ตามเกณฑ์
จึงจิบกราบพระเณร................ท่านให้
คำสอนที่ถูกเวร......................วางปลด แลนา
เลือกบ่ถูกจิบได้......................อาจได้ธรรมปลอม ฯ
---------------------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 11 มกราคม 2559
---------------------------------------------



--------เขียวพิสุทธิ์ พุธพิสัย----------
กาพย์ยานี 11
O--กระทู้เขียวพิสุทธิ์.............พุธพิสัยอะไรหนอ
เขียนถึงมาหลายข้อ.............เขียวทุกพุธสุดชื่นใจ
อ่านตามเลยเห็นช่อง............ลองสะกดพุทธพิสัย
แบบนี้กระจายได้...................พุทธองค์เคยแสดง
ใครใครมิควรคิด...................วิสัยกิจค่อนข้างแผลง
ลึกลับยากแจกแจง...............อาจจักบ้าพาเฟื่องเป็น
หนึ่งพุทธะวิสัย.....................ฌานอย่าใคร่อยากรู้เห็น
หลักกรรมก็ยากเย็น.............สี่เรื่องโลกคิดพองาม
อจินไตยไขขาน.....................สี่อย่างท่านมิพึงถาม
ศึกษาเพียงติดตาม................เพื่อประโยชน์โสตถิคุณ
วิสัยแห่งพุทธะ.......................มหัศจรรย์วิชชาหนุน
ปุพเพนิวาสบุญ....................เปิดให้รู้อดีตกาล
รู้ตนก็ดีนัก............................แต่รู้จักสัตว์สืบสาน
เพียงเห็นรู้สันดาน.................ความเป็นมาแลเป็นไป
จตูปปาตชาติ.......................ทรงสามารถแสดงไข
ชาติก่อนมันเป็นใคร.............เพราะเหตุใดนำเกิดมา
อาสวักขยเลศ.......................ความพิเศษตัดตัณหา
ขยะอวิชชา..........................เกินปัญญาคนทั่วไป
เพียงแค่วิชชาสาม.................นามพุทธะเกินวิสัย
อย่างเราจักเข้าใจ..................ไฉนท่านเก่งเกินคน
อยากจบเสียดายของ.............อีสามลองอนุสนธิ์
พวกเก่งฌานทุกตน...............วิสัยพ้นอธิบาย
ชำนาญทิพโสต....................ฤทธิโรจน์มีหลากหลาย
หูทิพย์มิกลับกลาย................เจโตปริยญาณ
ปุพเพระลึกรู้........................หกเรื่องดูเกินหักหาญ
ตัดขยะกิเลสราน...................อรหันต์เก่งทุกคน
ข้อสามกรรมวิสัย...................มิมีใครทำนายผล
อย่าเดาเพราะกรรมกล.........สั่งสมมาอนันตกาล
สุดท้ายโลกวิสัย....................ความเป็นไปที่กล่าวขาน
สี่ภพภูมิยาวนาน..................เคยเป็นมาจะเป็นไป
ศึกษาวิสัยพุทธ....................รู้เรื่องสุดเป็นไฉน
คิดมากลากยาวไล่.................ยากจบสิ้นกระบวนความ
ขอจบเพียงเท่านี้...................ผิดพลั้งมีอย่าทวนถาม
ศึกษามาเขียนตาม................ได้แค่นี้ดีถมไป ฯ
---------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 6 มกราคม 2559
---------------------


--------------รักในธรรมนำสุข--------------------------
กลอนสุภาพ
-------------------
O= อ่านกระทู้รักในธรรมแล้วนำสุข.....รักที่ทุกชนชั้นต่างฝันหา
ใช่รักเพียงอารมณ์ธรรมดา.................เป็นเมตตาไมตรีไร้พรมแดน
อายตนะหกสายอยู่ภายนอก...............พระท่านบอกรูปเสียงหลากหลายแสน
กลิ่นและรสผัสสะอย่าดูแคลน.............ธรรมมาแล่นถึงใจได้ทันที
หกทวารสื่อหาอายตนะ......................ช่องตาจะแลดูหููวิถี
ช่องจมูกช่องลิ้นช่องกายี....................มโนชี้ช่องใจหกทวาร
เมื่อประสบสองทางต่างก็เกิด..............วิญญาเลิศเล็งไปได้ผสาน
เกิดผัสสะส่งต่อกระบวนการ...............เวทนางานเริ่มเติมกระบวน
กุสลาอกุสลาก็พาเกิด........................บ้างเลยเถิดอัพยาครบกระสวน
เกิดบ่อยบ่อยชอบใจไม่เรรวน..............ใจจนป่วนว่ารักชอบงดงาม
ส่วนอีกรักเผือแผ่ไม่จำกัด..................รักส่ำสัตว์ทั้งมวลในโลกสาม
ทุกประเภททุกขนาดพยายาม……......แผ่จิตตามเมตตาด้วยปรานี
คำภาษิตพุทธาเคยว่าไว้………….......เมตตาไซร้ค้ำจุนแผ่รังสี
โลกเจริญสุขสมด้วยไมตรี...................ชี้โลโกปัตถัมภิกาเมตตา
รักอย่างนี้มิมีที่สิ้นสุด...........................บริสุทธิ์อยากได้ใคร่เสาะหา
ต้องฝึกเองทุกวันหมั่นตรวจตรา…......ไหว้บูชาพระเสร็จแผ่ทันที
แผ่เมตตาตนเองเก่งยิ่งนัก...................ทุกคนรักตนง่ายมิหน่ายหนี
ขยายเขตแผ่ไปคนมากมี....................คนที่รักชอบพอญาติมิตรเรา
ห่างออกไปผองเพื่อนเตือนให้รัก…......คนรู้จักมิรู้ดูคล้ายเขลา
ขยายออกสรรพสัตว์กำหนดเอา........สุดท้ายเข้าความรักไร้พรมแดน
แผ่บุญให้ทุกสัตว์ทุกประเภท…….…..รักทุกแขตทุกภพจบหมื่นแสน
รักแบบนี้ดีไฉนไม่คลอนแคลน.............ทุกพื้นแผ่นพสุธาเมตตาธรรม ฯ
-----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 4 มกราคม 2559
----------------------

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ท้าวขูลูนางอั้ว 2


(บลอกละ 100 คำโคลง มี 2 บลอก)
--------------ขูลูนางอั้ว 3-------------------
112...วิถีดาวบอกแจ้ง......................สองคน
...อาจดับชีพเพราะตน.................บอกแจ้ง
...ยากทูลห่วงกังวน....................พระแม่
...ทูลเสร็จโหราแสร้ง..................รีบร้อนขอลา
113...จันทาเกลอฮักเจ้า...................จักไป
...หวังสู่ขอทรามวัย....................แน่แล้ว
...สงสารลูกนักใน......................อกแม่
...หามดหมอไม่แคล้ว.................แต่งแก้เคราะห์ดวง
114...หมอหลวงบอกล่วงแล้ว.............หกเดือน
...เคราะห์หนักจักลางเลือน............อยู่บ้าง
...ลูกยาอยู่กับเรือน....................รอก่อน
...รอสร่างเคราะห์คลายอ้าง...........จักได้ไปขอ
115...รอนานนักรุ่มร้อน.....................เหลือทน
...ฝันแต่หานฤมล......................อ่อนอั้ว
...ปวดใจผ่ายผอมจน..................เจ็บแม่
...หนักหน่วงเจ็บในขั้ว.................อกท้าวขูลู
116...ดูแม่กำสรดสร้อย....................สงสาร
...จัดเครื่องบรรณาการ.................เรียบร้อย
...จัดทูตสู่ของาน.......................ยากยิ่ง
...หวังเพื่อนคงอ่อนสร้อย.............แม่เจ้าจันทา
117...ปรีดานักกลับฟื้น.....................เรี่ยวแรง
...ฟังแม่ลูกฮักแพง.....................แม่ล้น
...เตรียมการสี่วันแจง..................การเสร็จ
...กองสื่อออกไปพ้น...................เขตแคว้นกาสี
118...บุรีขอมหนึ่งนั้น.......................บนดอย
...มีพ่อขุนลางคอย.....................ปกป้อง
...ชาญศึกรบรุกถอย....................ลือทั่ว
...เดินป่าจับสัตว์จ้อง...................ชอบค้าส่งขาย
119...เป็นชายครบห้าสิบ..................ขวบปี
...ขาดมิ่งมเหสี.........................เปลี่ยวแล้ว
...ยินคำเล่าลือมี.......................นวลนิ่ม
...นางยิ่งงามดังแก้ว...................ชื่ออั้วอรอนงค์
120...จงใจลอบแอบเข้า...................กายนคร
...หวังชื่นชมบังอร......................อ่อนน้อย
...พอพบชื่นงามงอน...................งามยิ่ง
...มาดมั่นอยากชิดสร้อย...............แต่งให้ชายา
121...บรรณาตกแต่งพร้อม.................นำถวาย
...พระแม่รับมากมาย...................ส่งให้
...เงินทองยิ่งแพรวพราย..............แพรพับ แลนา
...นานเนิ่นขุนลางได้...................ส่งไท้บูชา
122...จันทาชอบนักเจ้า....................ขุนลาง
...ฟังว่ามาดหมายนาง.................อ่อนเจ้า
...ยินดียิ่งนึกพลาง.....................ดีแน่
...รับพ่อขุนลางเข้า....................สู่บ้านแปลงเมือง
123...เปลืองใจนักทูตข้าง.................พิมพา
...ปักข์ล่วงถึงพารา.....................แม่เจ้า
...ถวายเครื่องบรรณา...................ทูลเรื่อง
...พระแม่ขอรบเร้า.....................เกี่ยวข้องดองกัน
124...ขูลูฝันใฝ่น้อย........................อั้วงาม
...พระแม่จึงให้ตาม....................สู่น้อย
...หวังจักแต่งนงราม...................เป็นคู่
...ขอท่านเมตตาคล้อย...............โปรดด้วยเป็นคุณ
125...ยากปุนแปงแล้วทูต.................กาสี
...จักสู่ขออวดดี........................ผ่อหน้า
...ขาดกันตัดไมตรี.....................นานเนิ่น
...กูบ่ยอมให้หล้า......................อ่อนอั้วแต่งมัน
126...ขันหมากมิอยากได้..................เอาคืน
...บอกแม่พิมพาฝืน....................ยากแท้
...ไมตรีเก่ายากกลืน....................กลับก่อ....อีกนา
...ไปบอกนางยากแก้..................บ่ให้ไมตรี
127...มีคนเขาอยากได้.....................รออยู่
...คือพ่อขุนลางดู.......................เก่งกล้า
...เมืองเขาร่ำรวยกู.....................ชอบยิ่ง
...มาสู่คงชื่นหน้า.......................ฝ่ายข้างขุนลาง
128...โศกศัลย์นักอั้วเคี่ยม................ยินคำ
...ทางแม่ตัดสวาทกรรม...............พี่อ้าย
...รับขันหมากขอมดำ..................แทบดับ แดนา
...รีบส่งสารข่าวร้าย....................ฝากท้าวขูลู
129...อดสูนักพี่เจ้า.........................จอมใจ
...รอพี่ขันหมากไป.....................สู่น้อง
...พี่เอยแม่ผลักใส.....................ตัดขาด แลนา
...นวลปวดใจร่ำร้อง....................ร่ำให้โหยหา
130...สัญญาสองฝากไว้...................สวาทสม สองแล
...ภักดิ์พี่เพราะเพทพรหม.............เสกสร้าง
...สองรักร่วมสองจม....................จิตร่วม กันนา
...แผกพี่เป็นอื่นร้าง....................บ่ได้ปรารถนา
131...ภาดารักอั้วมั่น........................ยืนยง
...ขาดพี่นวลจักคง.....................มอดม้วย
...ปรึกษาพี่ดำรง........................รักร่วม
...วานช่วยนวลนุชด้วย.................พี่อ้ายขูลู
132...เอ็นดูสารส่งให้.......................ปลายทาง
...คือที่กาสีนาง.........................บอกแจ้ง
...จัดคนส่งเร็วพลาง...................รอรุ่ม นักแล
...เจ็บยิ่งหนอกรรมแกล้ง..............รุ่มร้อนรักรุม
133...ไฟสุมทรวงหม่นไหม้...............ขูลู
...รอข่าวขอพธู.........................อ่อนน้อย
...ขบวนค่อยคืนดู......................คำข่าว
...ทางเฒ่าบอกขอสร้อย..............อ่อนอั้วยากการ
134...นงคราญพระแม่เจ้า..................จันทา
...เอาแต่เรื่องเดิมมา....................กล่าวอ้าง
...ขัดขวาบ่นำพา........................ขันหมาก
...สุดจักหากลล้าง......................แม่เจ้าแสนเคือง
135...อีกเรื่องสารจากอั้ว...................องค์อร
...ปวดยิ่งแทบขาดรอน................จิตร้าว
...ขูลูแทบจักมรณ์......................มืดยิ่ง แลนา
...มองบ่เห็นหนก้าว....................ออกพ้นอนธการ
136...ธารชลเนตรท้น.......................ถังนอง
...ขวัญแม่ลูกหมายปอง...............แต่น้อย
...เคยรักร่วมกันสอง....................หมายมั่น
...หญิงอื่นมีเป็นร้อย....................บ่ได้ปรารถนา
137...มารดาลูกอยู่ได้......................ฉันใด แม่เอย
...ฟังว่าขุนลางใคร......................แข่งข้า
...จันทาแม่เป็นใจ......................จักแต่ง เขาแล
...ลูกบ่ยอมอยู่ล้า......................ขาดอั้วขาดใจ
138...ทรามวัยปลอบลูกน้อย..............ตรึกตรอง
...จำแม่จักไปจอง......................จ่งแจ้ง
...จันทาเพื่อนใยมอง..................แตกต่าง
...สั่งทัพกาสีแสร้ง......................สื่อสร้างสัมพันธ์
139...จันทาพระแม่เจ้า.....................กายนคร
...ยืนหยัดคำเดิมวอน..................อย่ารื้อ
...เคยขอแค่ส้มตอน...................ครรภ์แก่
...นางไม่แลยังดื้อ......................ด่าให้ยังจำ
140...คำควรวอนว่าให้......................เมตตา
...สองอ่อนรักกันหนา..................แม่เจ้า
...เฮาขอสู่สองมา......................ตกแต่ง กันนา
...ขอเกี่ยวดองเดิมเค้า.................ก่อนนี้ฮักกัน
141...จันทามิอ่อนให้......................ยืนยัน
...ถึงจักแตกสัมพันธ์...................เลิกร้าง
...มิกลัวจักโรมรัน......................รบพุ่ง
...มีทัพหนุนเธออ้าง...................อยู่ข้างขุนลาง
142...ทางกาสีอ่อนน้อม...................เจรจา
...เห็นแก่มิตรเถิดหนา.................แม่เจ้า
...รบกันแค่เวรา.........................วายวุ่น
...เชิญพวกปราชญ์มาเฝ้า.............อยากให้ตรึกตรอง
143...สองเมืองปราชญ์เฒ่าผู้.............ทรงคุณ
...นานเนิ่นทางออกปุน.................ป่องให้
...จัดงานเสี่ยงสายบุญ.................สองอ่อน
...ลองเสี่ยงสายแนนได้...............จักรู้เป็นไฉน
144...ทรามวัยสองแม่เจ้า..................จอมเมือง
...ถามไถ่ลืมขัดเคือง...................ขุ้นข้อง
...ยินดีส่องสายเฮือง...................ถามไถ่
...แถนส่งสายพี่น้อง....................คู่นี้จริงหรือ
145...ข่วงคือตรงที่ตั้ง......................เตรียมงาน
...เห็นอยู่กลางเมืองลาน..............กว่ากว้าง
...ทุกทิศสี่บนบาน.....................จัดเครื่อง
...ครบเครื่องคาวหวานอ้าง.............แบบเบื้องก่อนมี
146...พิธีเลือกสัตว์ใช้......................บูชา
...หมูตัดหัวเอามา......................แต่งไว้
...วัวควายเช่นกันหา...................ครบเครื่อง
...ปลาผักแลดอกไม้...................ธูปแก้วเทียนทอง
147...ปักธงมองดั่งริ้ว......................ธงชัย
...วางร่มหลากสีนัย....................กลดกั้น
...สายสิญจน์ยิ่งโยงไป................รายรอบ
...โยงสู่โฮงกลางนั้น...................หมู่เจ้าทำพิธี
146...กาสีส่งแม่ม้อน.......................หมอเหยา
...อีกกลุ่มเมืองกายเขา................ร่วมไซร้
...หมอแถนร่างทรงเอา................มาช่วย
...จัดเครื่องบูชาไท้....................แม่ม้อนจัดการ
147...นับนานแนนกกนั้น...................อยู่แถน
...จับคู่หญิงชายแนน...................ฝากฝั้น
...มาเกิดจ่องสายแกน................เกาะเกี่ยว
...คือคู่ฮักสองนั้น......................คู่เคล้าเคียงครอง
148...หากมองปลายแนนนั้น..............แยกทาง
...ปลายต่อไปแผกขวาง..............บ่เกี้ยว
...คือสองมิอาจวาง....................เป็นคู่
...แนนบ่สมลดเลี้ยง...................ห่างต้นกกแนน
149...แสนเมืองเขาบอกให้...............เสี่ยงแนน
...สองหนุ่มสาวกกแกน................แต่เค้า
...ยังเกาะเกี่ยวฤาแถน................ถามไถ่
...คงส่องเห็นได้เจ้า....................จึ่งได้จัดมี
150...ฤกษ์ดีจึงแม่ม้อน....................ทังหลาย
...กลองทุ่มแคนเป่าลาย..............ใหญ่ก้อย
...พิณซอปีเครื่องสาย.................เสริมส่ง
...หมอแม่เหยาใหญ่น้อย.............เริ่มร้องเพลงลำ
151...คำสักการท่านท้าว...................องค์แถน
...โอกาสสืบสายแนน...................อ่อนท้าว
...ขูลูกับอั้วแกน.........................เดิมนั่น
...สายจ่องพันฤาร้าว...................อยากรู้วอนแถน
152...งามแสนยามแม่ม้อน................หมอเหยา
...เริงร่ายรำมิเบา........................เพราะพริ้ง
...เสียงลำสนุกเขา.....................สาวหนุ่ม
...ลุกร่วมรำสนุกกลิ้ง...................สนุกเต้นเพราะแคน
153...แกนนำหมอแม่ม้อน.................พาที
...เชิญหน่อยพวกภูติผี.................อย่าช้า
...เลือกทรงแม่หมอมี..................เชิญท่าน
...เฮาใคร่วานล่วงฟ้า...................ไปแถน
154...สายแนนสองหนุ่มเจ้า................ขูลู
...กับแม่หญิงอั้วดู........................จ่งแจ้ง
...วอนแถนท่านตรวจชู................ชักช่วย
...สองคู่กันหรือแย้ง....................ต่างแย้งห่างกัน
155...สามแม่หมอร่างเข้า..................ทรงผี
...รำร่ายเผยวจี..........................รับรู้
...สังเวยอิ่มยินดี........................จักช่วย
...รอหน่อยเราทุกผู้....................จักขึ้นเมืองบน
156...สามตนผีเร่งร้อน......................หาแถน
...มอบเครื่องบูชาแทน.................แม่ม้อน
...กราบขอท่านตรวจแนน.............สองหน่อ
...ดีชั่วพวกเราร้อน.....................อยากรู้เรื่องราว
157...คราวแถนลองตรวจเส้น.............สายแนน
...ของหนุ่มขูลูแกน....................กกฝั้น
...กับสายอ่อนอั้วแสน.................ผูกมัด ดีนา
...จึงผูกร่างแม่ม้อน....................บอกใบ้สายคำ
158...กรรมกูจักบอกเค้า...................ผูกพัน
...สายจ่องจูงเกาะกัน..................เหนี่ยวรั้ง
...ยามมันก่อเกิดพลัน..................สายยิ่ง ยาวแฮ
...ปลายกลับแยกไปตั้ง................ต่างเลื้อยแผกทาง
159...ต่างนักปลายเหี่ยวแห้ง..............สองสาย
...ดูบ่อโอสถหาย.......................ขาดน้ำ
...เป็นลางบ่ดีดาย.......................กรรมเก่า
...ครองคู่หลายภพซ้ำ..................บัดนี้เวรมี
160...สองศรียากจักได้....................แต่งกัน ลูกเอย
...กรรมหนักถึงดับพลัน................ชีพสิ้น
...ยากนักมิอาจผัน.....................ผัดผ่อน
...สองก่อกรรมยากดิ้น.................หลุดได้เวรกรรม
-------------ขูลูนางอั้วตอน 4-------------------
161...จำยอมคำท่านไท้...................บอกมา
...อีกหนึ่งเสียงกอนมา................ก่อนแล้ว
...หากกอนเล่นเรียบครา...............สองเล่น
...ยังอาจมีหวังแคล้ว...................คลาดแคล้วห่างภัย
162...จัดไวกอนแก่นไม้...................กลึงเกลา
...มือจับรอบกลมเหลา................ขัดเกลี้ยง
...หางกอนผูกเชือกสี..................สวยเด่น
...ยามจับโยนคู่เลี้ยง...................รับได้เบาสบาย
163...แพรวพรายกอนท่านท้าว...........ขูลู
...ชุมช่างเพียรเขียนดู..................เพริศแพร้ว
...ไหมคำต่อหางชู.....................เชิดเด่น
...ทุกอย่างเตรียมเสร็จแล้ว...........จักได้โยนกอน
164...คำสอนเดิมเมื่อครั้ง..................เสี่ยงกอน
...จับคู่หญิงชายวอน...................เทพไท้
...โยนรับง่ายงามงอน..................เป็นคู่ กันนา
...รับหล่นหากสองไซร้................แปลกข้างต่างกัน
165...วันถัดมาต่างเต้า.....................เสี่ยงกอน
...สาวหนุ่มชวนกันจร...................กว่าร้อย
...ลองโยนเที่ยวสิบตอน...............ชายเสี่ยง
...สาวรับกอนกล่าวถ้อย...............โห่ร้องยินดี
166...อีกทีสาวส่งให้.......................ชายรอ
...รับเสร็จเชื่อคงคลอ..................คู่ได้
...รับพลาดยิ่งยากหนอ.................หาใช่ คู่แฮ
...หลายคู่เสี่ยงแล้วไซร้................รับได้สนุกสนาน
167...ผ่านมาถึงคู่เจ้า.......................อั้วเคี่ยม
...ทุกคู่หยุดรอเจียม....................จดจ้อง
...อยากเห็นต่างจักเตรียม.............ใจช่วย
...พึงผ่านกอนพี่น้อง...................รับได้อวยพร
167...ตอนขูลูย่างก้าว......................ลงไป
...เสียงโห่เอาโชคชัย.................กึกก้อง
...สาวงามติดตามไป..................นวลนิ่ม
...ยืนห่างกันสาวร้อง...................อ่อนพร้อมพี่เชิญ
168...บังเอิญโยนห่างน้อย................เลยไกล
...กอนหล่นตกดินไป..................แปลกแล้ว
...ลองอีกรับยากไฉน.................กอนหล่น
...รอบที่สามนวงแก้ว.................จับได้หางกอน
169...ตอนรับลูกขาดได้...................กระเด็น
...ลอยลิ่วลับตาเป็น...................แผกสิ้น
...สาวลองแกว่งกอนเล่น..............โยนสู่ ชายนา
...รับพลาดดังกอนดิ้น..................พลาดพลั้งสองที
170...ยังดีอีกจับได้........................หางกอน
...มันขาดหลุดกระดอน...............อีกแล้ว
...ลูกลอยลับตาตอน...................ยืนนิ่ง
...สองอ่อนอกฤาแคล้ว................คลาดแคล้วกันฤา
171...ระบืออินทร์ท่านท้าว................รับไป
...วางอยู่บนนภาลัย....................เรียบร้อย
...เป็นลางว่าสองนัย...................ยากคู่ กันนา
...ชุมหมู่ชนเศร้าสร้อย.................หมดสิ้นสายใย
172...จอมใจพระแม่เจ้า...................พิมพา
...กลับก่อนเถิดลูกยา.................ช่วงนี้
...คราหลังค่อยกลับมา................ขอใหม่
...พักผ่อนเอาแรงชี้....................เมื่อหน้าคงมี
173...จันทาส่งข่าวให้.....................ขุนลาง
...มาสู่ขอรับนาง........................อ่อนน้อย
...ขุนลางยิ่งชอบพลาง................ตกแต่ง
...จัดเครื่องเงินทองสร้อย.............ถี่ถ้วนสมบูรณ์
174...พูนผลนางยกให้.....................เสกสม
...เตรียมแต่งขุนลางชม................ชื่นไท้
...เมืองขอมเห่อภิรมย์..................เริงรื่น
...เตรียมปิดเมืองฉลองให้.............แม่อั้วล่มเมือง
175...เคืองนักหนออ่อนอั้ว.................อกเกรียม
...หมองหม่นหาใดเทียม..............เทียบแล้ว
...ขุนลางยิ่งโลมเลียม.................หวังแต่ง แลนา
...เจ็บยิ่งหนอยากแคล้ว...............ยากพ้นมือมัน
176...จันทาพระแม่นั้น.....................เป็นใจ
...มาข่มเหงลูกใย......................แม่แก้ว
...ขูลูแม่ทราบนัย.......................สองสู่ กันนา
...ขอแม่วางลูกแล้ว....................อย่าห้ามเราสอง
177...ลองขอหลายเที่ยวแล้ว..............แม่เมิน
...จักแต่งขุนลางเชิญ...................แม่ข้า
...ยากทนบ่ฮักเกิน......................ทนอยู่ แลฤา
...จำจักหนีหลบหน้า....................สู่ด้าวแดนไกล
178...กรรมในปางก่อนเฝ้า.................คอยรอ
...ยามเมื่อจิตนวลลออ..................อ่อนล้า
...ตรอบงำจ่องจูงพอ....................คิดต่าง แลนา
...คิดจักหนีสุดหล้า.....................อย่าได้เห็นกัน แม่นา
179...ภูติผีมันแย่งเข้า......................จูงใจ
...ยังช่วยหลบหลีกใคร.................อย่ารู้
...นวลนางมุ่งเดินไป....................มึนเหม่อ แลนา
...ผีจ่องจูงยากสู้........................ขัดได้ตามมัน
180...ดึกนักพลันอยู่ใต้.....................เงาจันทน์
...ตรงที่พลอดรักกัน....................ก่อนนี้
...อกเอยพ่อจอมขวัญ..................ใยห่าง กันนา
...ลาก่อนชะตาชี้........................ล่มแล้วรักเรา
181...นงเยาว์เพียงหนึ่งแท้................รักเดียว
...ฮักบ่ยอมแบ่งเกลียว.................ใฝ่ฝั้น
...สองใจบ่ดีเจียว.......................หนอพี่
...ยากอยู่ร่วมเขากั้น...................กีดกั้นเราสอง
182...ตรึกตรองเด็ดขาดแล้ว...............ขอลา
...ขอดับมรณา..........................แน่แล้ว
...ภูตผีเปล่งเสียงพา...................ชมชื่น
...นางเยี่ยมเด็ดนักแก้ว................อ่อนอั้วคนดี
183...ผีเอยขอฝากถ้อย....................อำลา
...บอกแม่เคยเมตตา...................ชุบเลี้ยง
...จำใจจักจรครา.......................ดวงขาด แลนา
...ขอแม่จงสุขเพี้ยง....................อยู่ใกล้แดนสรวง
184...ขอปวงเทพท่านไท้..................ส่งสาร
...บอกพี่ขูลูวาน........................อย่าเศร้า
...นางไกลอยู่วิมาน....................รอพี่
...รอบพบพระพี่เจ้า....................อยู่โน้นเมืองสวรรค์
185...จันทน์จ๋าวานส่งอั้ว..................ไปบน
...ลำบากนักเมืองคน..................รุ่มร้อน
...จันทน์งามกิ่งพิกล...................อ่อนลู่
...เชือกผูกคอแล้วอ้อน................พี่เอื้อยนำไป
186...กิ่งจันทน์ใหญ่ยอดโน้ม............ดีดคืน
...ดึงร่างสาวงามกลืน..................ชีพม้วย
...หวังรออยู่สรวงฝืน...................รอพี่
...รอพี่ขูลูด้วย..........................อยู่ฟ้าคอยรอ
187...พอถึงวันใหม่รู้.........................ข่าวกัน
...ทุกที่ชุมชนพลัน.....................โศกเศร้า
...มารดาปิ่มอาสัญ.....................ลูกแม่
...ตัดช่องจากไปเจ้า...................แม่นี้ปวดใจ
188...อาลัยนักลูกแก้ว.....................ขวัญตา
...ควรแม่จักกรุณา.....................อ่อนสร้อย
...มิควรข่มนำพา........................เกินยิ่ง
...รักล่มเสียลูกน้อย....................แม่นี้เจ็บเกิน
189...บังเอิญสองพี่เลี้ยง..................ทราบคำ
...เคยรับฝากยังจำ.....................จากน้อง
...วานสองข่าวจงทำ...................บอกพี่
...บอกพี่ขูลูต้อง........................รีบแจ้งข่าวนาง
190...แรมทางถึงเขตด้าว.................พักแรม
...นึกหน่ายเพลียใจแกม..............ก่นเศร้า
...ขูลูหม่นหมองแถม..................ทุกข์ท่วม
...ดวงพี่นางหนอเจ้า...................ชาตินี้แผกกัน
191...พลันสารเขาส่งให้...................มาถึง
...ลมจับตกตะลึง.......................สุดเศร้า
...มินานค่อยรำพึง.....................ขวัญพี่
...รอพี่ไปส่งเจ้า........................สู้ฟ้าเมืองแถน
192...วางแผนเผาศพน้อง..................นวลนาง
...ลาแม่พิมพาพลาง....................เลือกม้า
...สามคนรีบเดินทาง....................เร็วรี่
...หวังจักทันน้องหล้า..................จักได้เผาผี
193...มีงานเผาศพอั้ว......................กลางสวน
...ตกแต่งเมรุดูควร.....................แต่เช้า
...ศพถึงบ่ายกระบวน..................เรียบง่าย
...วางอยู่บนเมรุเจ้า....................อ่อนอั้วรอเผา
194...เขาเชิญพระแม่เจ้า.................จันทา
...จุดคบเพลิงจักพา...................จุดเชื้อ
...กองฟอนเริ่มลุกมา..................กลับมอด
...เทียวจุดหลายรอบเอื้อ.............ยากแท้ติดไฟ
195...สงสัยแปลกนักแท้...................คลางแคลง
...สักครู่ขูลูแยง.........................จอดได้
...พอถึงบ่แสวง.........................พักผ่อน
...ลาแม่จันทาไซร้......................บ่ายหน้าไปเมรุ
196...พอเห็นศพนิ่มน้อง...................เปรมปรีดิ์
...ผองภูติเมืองพวกผี...................เร่งเร้า
...เชิญนายท่านยินดี...................รออยู่
...เชิญท่านตามนวลเจ้า...............สู้ฟ้าเมืองสวรรค์
197...วางพลันมวลดอกไม้................บูชา
...ขอศพแม่ขมา........................โปรดอ้าย
...เรียมรีบเร่งลีลา.......................หวังร่วม กันนา
...รอพี่ก่อนคล้ายคล้าย..................จักเคลิ้มลืมตน
198...บัดดลปักอกด้วย....................ดาบทอง
...ชีพดับล้มลงกอง....................กับพื้น
...ยามเผาศพมีสอง....................สาวหนุ่ม
...รักยิ่งชวนสะอื้น......................แน่แท้เคราะห์กรรม
199...ตำนานบอกกล่าวไว้.................สังวร
...สาวหนุ่มรักกันตอน..................แต่น้อย
...มักมิใคร่ฟังสอน.....................เตือนจิต
...ลางทีผิดเพียงจ้อย..................คิดได้ใหญ่โต
200...โมหะพ่อแม่นั้น.......................อาจมี
...เอาแต่ตนคิดดี........................บอกให้
...ลืมฟังอ่อนพาที.......................สาเหตุ
...ขืนหักหาญจักได้....................แตกร้าวสัมพันธ์
201...เวลาผันผ่านแล้ว......................หลายเดือน
...ลานที่เผาศพเหมือน.................หน่อไม้
...สองกอโผล่คนเยือน.................บอกเล่า
...แปลกมากมีดอกไม้..................กิ่งก้านงามตา
202...จันทาพระแม่เจ้า....................มายล
...แปลกยิ่งเป็นมงคล..................นักแล้ว
...จงเรียกดอกอั้วชน..................ชอบยิ่ง
...อีกนั่นดอกขูลูแก้ว...................เกิดพร้อมเคียงกัน
203...กล่าวขวัญกันทั่วบ้าน...............เขตคาม
...ลือว่าสองติดตาม....................ดอกอั้ว
...มิไกลหนึ่งกองาม...................มักเกิด คู่แล
...คือดอกขูลูกลั้ว......................กลิ่นเคล้าอบอวล
204...คนชวนบอกเล่าตั้ง..................แต่งโคลง
...ลงชื่อศรีทองโยง....................บอกให้
...นามแฝงบ่คิดโกง....................แอบซ่อน
...เพียงแต่งบันทึกไว้..................สืบไว้วรรณกรรม
205...จำวันจบหนึ่งแท้......................กันยา
...ดูศกห้าแปดครา......................เสร็จได้
...สองเดือนแต่ตริมา....................ลองแต่ง
...ตกหล่นผิดพลาดไซร้..............โปรดได้แนะนำฯ

ท้าวขูลูนางอั้ว 1


                                                ขูลูนางอั้วคำโคลง 1
                                                              คำนำ
            ผมแต่งท้าวขูลูนางอั้วคำโคลง เพราะเห็นเป็นวรรณกรรมอีสาน เคยอ่านที่เป็น คำร้อยกรอง อีสานมีมากมาย โดยเฉพาะพวกกลอนลำ แต่ที่เขียนเป็นร้อยกรอง แบบภาษาไทยกลาง ยังไม่ เห็น จึงอยากลองแต่งไว้ให้ลูกหลานได้อ่าน เพราะเด็ก สมัยนี้ไม่ค่อยจะรู้คำอีสาน อ่านได้ไม่กี่ หน้าก็วาง บันทึกไฟล์แรก 50 บท เมื่อ เดือนกรกฎาคม 2558 ประมาณสองเดือนก็จบได้ เมื่อ 1 กันยายน 2558 ใช้ นามแฝง ศรีทอง เคยนำเสนอบนเฟซบุค มีผู้สนใจพอประมาณ ตอนนี้เอามาเก็บไว้ ที่เวบบลอก เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและแก้ไข ผมแต่งเรื่องนี้ ด้วยตั้งใจให้เป็นการเล่านิทาน แต่ก็เริ่มด้วยร่ายไหว้ครู เอาอย่าง จากวรรณกรรมนิราศ คำโคลง ไหว้ครูเสร็จก็อุ่นเครื่องชมบ้านเมืองนิดหน่อยก็เข้าเรื่อง ไปเลย เลือกโคลงสุภาพ เป็นหลัก เพราะโคลงแบบอื่น ยังไม่ถนัด แต่งเสร็จก็เก็บ ไว้ยังไม่มีเวลาตรวจแก้ โดยเฉพาะ ความพยายามร้อยคำโคลง ถ้าพบขาดตอนไปก็ ก็จะได้แก้ไข รวมทั้งตรวจสะกดการันต์เช่นกัน ยังไม่มีเวลาตรวจเลย

ขุนทอง ศรีประจง
27-ก.ค.-59


ท้าวขูลูนางอั้วคำโคลง
ขุนทอง ประพันธ์
1..ประนมหัตถ์นมัตถุ..สุคตัสสะธัมมะ..สังฆะอภิวาท...ประกาศถือสรณา ศรัทธาศีลวิรัต
จิตพิพัฒน์ภาวนา...ปัญญาอภิวัฒน์....นมัสการเคารพ นบบิดรมารดา....นบครูบาอาจารย์
นบท่านผู้มีคุณ.....เคยการุณเมตตา สาธุกุศลจิต....คิดจักนำนิทาน....คำโบราณเล่ามา
ปราถนาเกลากลอน.... ขอพรพึงสำเร็จ....เสร็จทุกบทไขขาน....จบตำนานที่อ้าง...
คำคล่องคิดอย่าค้าง....ขัดข้องคำปรุง แลนา
2...กรุงเทพเทียมเทพสร้าง...เสกมา
...ปราสาทราชวังพา............เพริศแพร้ว
...งดงามยิ่งวัดวา..................ยามค่ำ
...ไฟส่องทุกที่แล้ว..............ยิ่งฟ้าเกลื่อนดาว
3...คราวยลตึกบ้านช่อง........นาครา
...สูงยิ่งหลายสิบวา...............ช่วงชั้น
...เรียงรายเลียบมรรคา............ดูเด่น
...งามถนนเกี่ยวฝั้น................ลดเลี้ยวไปมา
4...รถราว่ายวุ่นแล้ว.................จราจร
...เห็นยุ่งเหยิงทุกตอน............แต่เช้า
...ยันเย็นค่ำแรมรอน...............ลำบาก แลนา
...คราคร่ำคนมากเจ้า.............แข่งค้าทำการ
5...พองานชมแต่น้อย.............พอดี
...รัตนเทพบุรี.....................อยู่โพ้น
...เรียมแลอยู่พงพี...............ดอยห่าง แลนา
...ชมอยู่ไกลห่างโน้น............ยากรู้กระจ่างใจ
6...อีสานในถิ่นบ้าน................เรียมเอง
...คนเฒ่าไขขานเพรง............เล่าอ้าง
...ขูลูมุ่งรักเกรง...................รักล่ม
...พ่อแม่แตกแยกสร้าง..........รักร้างล่มสลาย
7...สายสมรนามอั้วเคียม..........คือเดือน
...งามแง่ยลยากเลือน............ลบได้
...เพียงพบบ่อาจเตือน...........เต็มสติ แลนา
...หลงสเน่ห์นวลอยากใกล้.......อยู่ใกล้พธู
8...ขูลูรักหน่อเนื้อ..................อั้วอร
...สาวหนุ่มรักสองวอน............เอ่ยอ้อน
...สองรักพ่ายกลับมรณ์...........ชีพดับ แลนา
...ใยสองรักเร่าร้อน................กลับม้วยมรณา
9...นานมานับแต่เบื้อง..............โบราณ
...เมืองชื่อกาสีปาน................ล่มฟ้า
...เวียงวังยิ่งโอราฬ................งามสง่า
...งามค่ายคูสุดหล้า...............แกร่งล้วนใดเคียง
10...เพียงชมชนชื่นหน้า.............ทำการ
...กสิกิจเชิงชาญ...................เชี่ยวแท้
...ทำนาไรสวนสาน................สมยิ่ง
...เมืองมั่นคงมิแพ้.................ต่างด้าวแดนใด
11...ทรงไชยธิราชเจ้า...............จอมเมือง
...นามพระพรหมสีเฮือง..........ยศท้าว
...พิมพาผ่องประเทือง............อัครเรศ
...เคียงคู่ครองอะคร้าว...........ปกคุ้มชาวประชา
15...ธรรมมาทศพิธไท้..............ทรงธรรม
...เย็นยิ่งเพราะพระนำ............ก่อเกื้อ
...เมืองเย็นร่มควรคำ..............ยอย่อง
...ยอว่าเมืองท้าวเอื้อ.............โอบอุ้มอารี
16...พระมีมิตรหนึ่งท้าว.............กายนคร
...ปุตตราชบวร.....................อยู่โพ้น
...จันทาชื่อบังอร..................ชาเยศ
...เคยเยี่ยมเยือนถึงโน้น.........ฝากไว้ใจคะนึง
17...สองนางถึงต่างบ้าน............แดนบุรี
...ยามรุ่นสองสาวศรี..............อยู่ใกล้
...รักกันเพื่อนตายมี...............มิตรมั่น
...เคยเล่นทำกิจได้...............อยู่บ้านเคียงกัน
18...จันเอ๋ยยามเมื่อเจ้า.............มีเรือน
...มีบุตรธิดาเตือน.................บอกไว้
...พิมจักสู่ขอเฮือน................ดองเกี่ยว กันนา
...จันว่าดีดองได้...................ดั่งนี้หนาเกลอ
19...จันทาเธอแต่งท้าว..............กายนคร
...เป็นมิ่งยอดบังอร................ยศล้ำ
...พิมพาแต่งบวร..................ธิราช
...ครองถิ่นกาสีก้ำ.................ต่างล้ำยศยง
20...สองเมืองจงสุขสร้าง...........ไมตรี
...หาสู่ไปมามี......................บ่อยครั้ง
...สามเดือนเที่ยวเยือนที..........แลกเปลี่ยน
...มากมั่นไมตรีตั้ง.................ต่อตั้งเต็มบูรณ์
21...พูนสวัสดิ์พิพัฒน์ถ้วน...........สามปี
...สองบ่เห็นราชินี..................หน่อไท้
...ทรงครรภ์บ่ทรงมี................แปลกต่าง
...สองปรึกษากันได้...............จักไหว้ขอพร
22...ตอนไปกายะเข้า.................เขตมือง
...ชวนเพื่อนไปดอนเฮือง..........ปู่เจ้า
...บวงสรวงปู่อย่าเคือง..............ของฝาก
...เป็ดไก่อีกพวกเหล้า..............แต่ล้วนฤทธิ์แรง
23...แปลงยัญเสร็จน้อมกล่าว.........คำวอน
...ขอปู่พึงอวยพร.....................โปรดข้า
...ขอบุตรร่วมอุทร....................มาเกิด เทอญนา
...สองเพื่อนเราเจ้าหล้า..............โปรดได้ประสาทพร
24...สองสมรทำเช่นนี้..................ยามเยือน
...ไปที่กาสีเหมือน...................ก่อนแล้ว
...ไปดอนปูตาเตือน..................เทพท่าน
...วางสักการมิแคล้ว.................อ่อนอ้อนพรประสงค์
25...องค์เทพประสาทให้...............ดังวอน
...ปีหนึ่งสองบังอร.....................แปลกแท้
...ทรงครรภ์ดั่งขอพร..................เปรมยิ่ง แลนา
...มีสู่ขวัญแต่งแก้.....................จัดให้มงคล
26...จนครบไตรมาสถ้วน................จันทา
...แปลกยิ่งอยากชิมหนา.............หมากส้ม
...เขาเสาะทั่วนัครา...................ยากยิ่ง
...หิวยิ่งแทบจักล้ม...................ขาดสิ้นใจตาย
27...สายใจนวลหากแพ้................เพราะครรภ์
...หมดเขตเดือนผลิตพลัน..........หมดแล้ว
...กาสีข่าวลือมัน.....................ออกล่า
...คงจักหามิแคล้ว.................ส่งให้ไปดู
28...อยู่กาสีแม่เจ้า.....................พิมพา
...เอมอิ่มรสโอชา...................หมากส้ม
...เกณฑ์คนช่วยเสาะมา...........ถวายอ่อน
...นางก็เป็นแทบล้ม................อยากส้มเหลือเกิน
29...บังเอิญลูกสุดท้าย...............พอดี
...คราเมื่อชาวกายมี................ทูตเฝ้า
...ทูลขอโปรดปรานี.................ขอแบ่ง
...พระแม่หวงยิ่งเจ้า................ยากให้แบ่งปัน
30...เขาพลันจัดแต่งให้...............ถวายนาง
...ทูตล่าถอยกลับพลาง............ขุ่นข้อง
...กลับมาเล่าทูลทาง...............เมืองโน่น
...พระแม่หวงยากต้อง.............เก็บไว้กินเอง
31...มิเกรงมันอีกแล้ว.................เพื่อนกู
...สักหน่วยมิเอ็นดู................หนึ่งน้อย
...พิมพานี่มึงหู......................หนวกหนัก ฤาแล
...กูนี่มันต่ำต้อย.....................เมื่อแพ้หิวหลาย
32...ยายพิมเอ็งเพื่อนแท้............หรือเทียม
...อยากด่ากูก็เจียม...............เจ็บไจ้
...ขาดกันต่อมาเตรียม.............ตัดขาด กันนา
...เฮาต่างคนอย่าได้................เกี่ยวข้องสัมพันธ์
33...คืนวันลับล่วงเข้า..................ขวบปี
...ครรภ์ครบสิบเดือนมี...............ข่าวแล้ว
...พิมพาประสูติศรี...................ขวัญอ่อน
...งามสง่าดังดวงแก้ว...............จากฟ้าเมืองแถน
34...แสนรักทุกหมู่บ้าน................ปรีดา
...งามยิ่งกุมารา......................เลิศแล้ว
...งามพักตร์ดั่งจันทรา..............ลอยเด่น
...งามทั่วผองพรรณแผ้ว............ผ่องแผ้วพึงใจ
35...ไทเมืองแสนปลาบปลื้ม..........เฉลิมฉลอง
...เริงรื่นสมใจปอง....................สนุกล้น
...ขูลูนั่นนามของ.....................พระบุตร
...สง่างามยิ่งพ้น.....................กล่าวถ้อยคำชม
36...สมกันทางหนึ่งด้าน...............กายนคร
...ประสูติมิ่งบังอร....................อ่อนน้อย
...พิมพ์ลักษณ์ยิ่งอัปสร.............เสมอเนตร
...งามเลื่องลืออ่อนสร้อย...........เทพสร้างพรหมสรรค์
37...นับวันนางอั้วเคี่ยม................เจริญวัย
...ผุดผ่องเพียงจันทร์ใส............ส่องแจ้ง
...ชาวเมื่องอิ่มเอมใจ................พบแม่
...ผองหนุ่มเห็นใช่แกล้ง............แต่ล้วนลืมตน
38...ชนลือกันทุกบ้าน...................อั้วงาม
...กระฉ่อนทุกเขตคาม................ต่างแล้ว
...ใครใครใคร่เห็นตาม................ขอส่อง
...ยามเมื่อนางยอดแก้ว...............บ่ายหน้าชมสวน
39...นวลนางพาพี่เลี้ยง..................จรลี
...เดือนหนึ่งลาชนนี....................เที่ยวได้
...รถนางนั่งเกวียนมี....................โคคู่
...ผองหมู่ทหารไซร์................ขี่ม้าคุมไป
40...ใยคนสองขอบข้าง..................ทางอนันต์
...คือหมู่คนชวนกัน....................ใคร่เฝ้า
...อยากเห็นแม่นางพลัน..............รออยู่
...เห็นเอ่ยคำงามเจ้า..................อ่อนอั้วงดงาม
41...ยามไกลสักสิบเส้น...................จากเมือง
...คือราชอุทยานเรือง...................เสกสร้าง
...งามคลองสุดประเทือง...............รายรอบ
...ใส่ยิ่งชลชวนล้าง......................อาบล้างสรงศรี
42...มากมีมวลมิ่งไม้........................ดาษดา
...งามดอกใบพฤกษา...................รืนเร้า
...งามถนนลัดเลาะมา...................กระท่อม..แลนา
...ปลูกอยู่กลางสวนเจ้า.................จักได้พักแฮง
43...ทหารแจงอยู่เฝ้า......................รอบสวน
...ยากจักมีใครกวน......................อ่อนอั้ว
...เพลินชมเล่นเสสรวล..................ผองพี่
...พาเที่ยวชมในรั้ว......................ปลอดผู้มากวน
44...พี่เอยนวลอยากรู้......................นี่หนา
...เออนั่นกรรณิการ์......................นุชน้อง
...ดกดอกเบ่งบานพา...................ชูชื่น ใจนา
...งามดั่งสาวอั้วจ้อง....................แต่แพ้นุชนา
45...กระดังงายามผ่อจ้อง.................ดอกบาน
...งามพุ่มพันคลุมลาน..................ร่มแล้ว
...ดวงดอกกลิ่นหอมนาน..............ลอยกลิ่น
...หอมดั่งนวลนางแก้ว...............ชื่ออั้วจอมขวัญ
46...กันเกราแกกร่างก้าน................ไกลเกิน
...แถมร่มเงาบังตรง.....................ร่มเจ้า
...พรรณพฤกษ์พุ่มขาดเขิน...........แดดส่อง
...คงแคระเติบยากเข้า...............อยู่ใต้กันเกรา
47...เยาว์หอมเกลือกกลิ่นกลั้ว.........สุวคนธ์
...หอมอ่อนกันเกราปน................กลิ่นน้อง
...จรุงใจยิ่งยามยล...................ชวนชื่น
...มาพี่ชวนให้จ้อง...................รีบเข้ามาชม
48...สมนามหนอกิ่งแก้ว.................แพรวพราย
...บานเบ่งดอกมากมาย...............ก่องต้น
...เล็งแลยิ่งหลากหลาย..............หอมยิ่ง
...หอมยิ่งหอมล้ำล้น..................ดั่งแก้วขวัญตา
49...มุกดานามกิ่งแก้ว....................แผกพันธุ์
...ใบต่างดอกสีสัน.....................คู่คล้าย
...กลีบขาวดั่งเดียวกัน.................ดูเด่น
...งามดั่งดอกแก้วย้าย................เกิดใกล้แผกกอ
50...นวลลออเทียวท่องเช้า.............จดเย็น
...คืนสู่เวียงวังเป็น.....................ดั่งนี้
...วันคืนผ่านผันเห็น...................นุชนาถ
...แรกรุ่นอวบอิ่มชี้.....................อ่อนอั้ววัยสาว
-------------ขูลูนางอั้วตอน 2------------------
51...คราวใดเห็นอ่อนน้อย...............เจริญวัย
...งามจริตจรรยาใส....................อ่อนช้อย
...สมลือล่มแดนไตร...................คนเล่า ขานนา
...ชายหนุ่มฝันถึงน้อย.................อยากใกล้เชยชม
52...สมวัยหนออ่อนอั้ว...................ดรุณี
...พอย่างสิบหกปี......................เคราะห์ร้าย
...สูญเสียบิดามี........................ทุกข์ท่วม
...ขาดพ่อลำบากคล้าย...............ร่มเกล้าขาดสูญ
53...จำรูญพระแม่เจ้า....................จันทา
...ยังแกร่งครองพารา..................อยู่ได้
...ดูแลอ่อนกัญญา.....................เพียงเนตร แลนา
...มีแม่มิยากไร้........................โอบอุ้มอารี
54...ปรีดานักหนุ่มน้อย..................ขูลู
...เติบใหญ่เทียวหาครู................ฝึกไว้
...ศิลปวิชชาดู..........................เจบจบ
...การรบปกครองไซร้.................รอบรู้วิทยา
55...จรรยาฝึกนอบน้อม..................การุณ
...งามรูปงามทรงคุณ..................มากล้น
...ฝูงชนชื่นชมบุญ.....................บาบ่าว
...สาวอุ่นใจมากพ้น....................พบหน้าขูลู
56...พธูหลายหมู่บ้าน....................พบพาน
...เคยเที่ยวบุญไปงาน................มากหน้า
...ทุกนางต่างสคราญ..................ควรยิ่ง แลนา
...ยังบ่พบนวลหน้า.....................หนึ่งน้องดาวเฮือง
57...ชาวเมืองเย็นยิ่งได้..................นับนาน
...ดูยิ่งสุขสันติ์ปาน.....................ร่มแก้ว
...บังเงาแผ่เย็นสาน....................สงบสุข
...ชนชื่นใจผ่องผ้า.....................ชื่นหน้ายินดี
58...สิบห้าขวบเติบกล้า..................กุมาร
...เจ็บป่วยบิดาพาล....................ดับสิ้น
...กาสีโศกาปาน.......................ดินถล่ม แลนา
...ขาดร่มไทรจำดิ้น....................สืบสร้างพารา
59...พิมพาพระแม่เจ้า...................ครองบุรี
...ลูกอ่อนดูแลดี.......................ดั่งแก้ว
...ฝึกสอนเชี่ยวชาญมี.................ทุกศาสตร์
...อีกหน่อยเจนจบแล้ว................จักให้ครองเมือง
60...เนืองเนืองข่าวอั้วเคี่ยม..............เมืองกาย
...ลือว่างามเพริศพราย................ยิ่งแล้ว
...งามเกินอัปสรสาย...................สวาทยิ่ง
...ใคร่เมื่อพบมิแคล้ว..................คลั่งไคล้โฉมนาง
61...ปางหลังคงคู่เคล้า...................เคียงครอง
...เพียงข่าวขูลูปอง....................มาดหมั้น
...สาวเอยพี่จักลอง....................ยลเยี่ยม
...เยียว่าสายแนนนั้น..................เกาะเกี้ยวปางหลัง
62...ฟังนามนวลพีนั้น....................สวาทใจ
...แปลกกว่าพบหญิงใด...............ทั่วหน้า
...ฤานางจ่องสายใย...................โยงพี่ แลนา
...จึงจ่องจูงใจข้า.......................หม่นไหม้ถึงนาง
63...ครวญครางรักเร่าร้อน...............รุมทรวง
...ลองเที่ยวชมดงหลวง...............หมู่ไม้
...ชมดงเด่นดอกดวง...................บุปผชาติ
...ยังบ่ลืมอั้วได้.........................แปลกแท้เป็นไฉน
64...ไปหาพระแม่เจ้า.....................หารือ
...ยินข่าวเขากระพือ...................เนิ่นแล้ว
...สาวงามที่กายคือ....................อั้วเคี่ยม..นาแม่
...เขาว่างามดั่งแก้ว....................หยาดฟ้าลงดิน
65...ยุพินฮักหน่อแก้ว....................กลอยใจ
...นับแต่พ่อล่วงไป.....................เนิ่นแล้ว
...ลูกฮักแม่อุ่นไอ......................ลูกยิ่ง
...ใยหมองหม่นหนอแก้ว..............ลูกแก้วขวัญตา
66...สาราตามแม่รู้.........................เดิมที
...พระแม่นางเทวี.......................ก่อนนั้น
...คือสหายแม่มากมี...................มิตรจิต แลนา
...ปุตตราชมาดหมั้น...................จักฝั้นไมตรี
67...พาทียามลูกแก้ว....................เกิดมา
...เป็นบุตรผูกเสี่ยวหา.................มัดไว้
...หญิงชายแต่งกันนา.................ครองคู่
...หวังเกี่ยวดองกันได้.................บัดนี้กลับกลาย
68...เสียดายมิตรมากนั้น..................จืดจาง
...คราวแม่มีครรภ์ลาง..................โชคร้าย
...สองคนยิ่งแปลกพลาง...............อยากยิ่ง
...สองอยากกินส้มคล้าย..............ต่างแพ้มีครรภ์
69...จันทาวานทูตดั้น.....................มาขอ
...มีอยู่ลูกเดียวพอ.....................เท่านั้น
...มิอาจแบ่งเลยหนอ..................เหตุต่าง
...สองฝ่ายเลยสะบั้น..................ขาดสิ้นไมตรี
70...กายบุรียามลูกแก้ว...................จักไป
...รอบคอบระวังภัย.....................รอบด้าน
...ของฝากแม่ทรามวัย.................ควรมอบ นางแล
...นางด่าทนอย่าค้าน..................อย่าขึ้งโกรธนาง
71...พลางจัดคนครบถ้วน................ทางไกล
...นับสี่อาชาไนย.......................คล่องแล้ว
...เจ็ดวันเร่งรีบไว.......................ถึงแน่
...เลือกแต่หนุ่มทแกล้ว...............แก่นกล้าชาญสมร
72...พนมมือกราบเท้า....................มารดร
...นางส่งใจอวยพร.....................แต่เช้า
...ขบวนเคลื่อนแรมรอน...............รีบเร่ง และนา
...จากประตูเมืองเข้า...................เขตด้าวด่านดง
78...พงไพรมากหมู่ไม้...................มวลมี
...กอรวกกอบงขี.......................แผ่ก้าน
...กอซางแผ่กอสี......................สวยยิ่ง
...กอหกแลทุกด้าน....................หน่อขึ้นเต็มกอ
79...พองามแดงดู่ขึ้น.....................เต็มดอย
...ตูมต่างตูมตังพลอย..................แปลกเค้า
...หันแหนห่างหาดลอย...............จันทน์เกาะ หินแล
...หอมกลิ่นลำดวนเจ้า.................ดั่งน้องแซมผม
80...ชมชลบานหลากล้วน................ประทุมมาลย์
...อุบลก็เบ่งบาน........................ขาบแต้ม
...ผองบัวเผื่อนลมพาน................พัดกลิ่น
...หอมดั่งหอมนวลแก้ม...............อ่อนอั้วลอยลม
81...ชมปลามิใช่น้อย.....................ในบึง
...ปลาช่อนทำทีขึง....................นิ่งไว้
...ปลาซิวว่ายเวียนถึง.................ฮุบจับ
...แตกซ่านฝูงปลาไซร้................หลบลี้หนีตาย
82...ลายเสือตัวเขื่องอ้าย................ชะโด
...ปลาช่อนเคยใหญ่โต................หลบเร้น
...ตะเพียนผ่านเทโพ..................หลีกห่าง
...กลัวชะโดลางเต้น...................บ่พ้นวางวาย
83...ชุมชายชวนชักม้า....................บทจร
...ไกลอยู่กายนคร.....................อยู่โพ้น
...ขูลูเร่งแรมรอน.......................นานเนิ่น
...เหน็ดเหนื่อยแลเห็นโน้น...........ใช่แล้วยินดี
84...เห็นมีหลังหนึ่งบ้าน..................กลางสวน
...แวะสู่ทักถามชวน...................ใคร่รู้
...ตายายอยู่สองควร....................นบนอบ
...ถามเรื่องราวท่านผู้...................ครอบบ้านครองเมือง
85...ยายเทืองนามข้าพ่อ.................ตาสี
...บุตรหนึ่งธิดามี........................คู่แล้ว
...ทุกคนอยู่บุรี..........................ราชกิจ
...เป็นพี่นางอั้วแก้ว.....................รับใช้นางเสมอ
86...เจอยายจึงรอบรู้......................เรื่องราว
...พักอยู่คอยสืบสาว...................มากได้
...ทำกิจช่วยยายคราว.................พักผ่อน
...ถางป่าปลูกหมากไม้................ยิ่งปลิ้มตายาย
87...สายตายลหมุ๋ไม้.....................งดงาม
...อิงอยู่เชิงเขายาม....................บ่ายคล้อย
...แลรุกข์ร่มเย็นถาม...................ตาเล่า
...ตรงนั่นสวนหลวงน้อย...............อ่อนอั้วมักชม
88...ภิรมย์นักยิ่งแล้ว......................อุทยาน
...แอบล่วงเล็งแลลาน.................แมกไม้
...บุษบาเบ่งบัวบาน....................รวยรื่น
...พักเหนื่อยริมธารไกล้...............แอบซุ้มเครือวัลย์
89...สาวกำนัลอั้วเคี่ยม...................เสร็จสรง
...หาพุ่มผัดแพรคง.....................แยกย้าย
...สองนางย่องพบพง..................หนุ่มซ่อน
...หลับนิ่งนอนคล้ายคล้าย............เทพไท้จากสวรรค์
90...งามสรรพ์นวลหน้าผ่อง..............ประกาย
...ยามเพ่งพิศพรรณพราย.............ผ่องแผ้ว
...แพรพรรณเก่ายังฉาย...............สูงศักดิ์
...ควรบอกนวลน้องแก้ว...............เร่งให้มาดู
91...พธุงามอ่อนอั้ว.......................แปลกใจ
...ยามรอบจักมีใคร.....................ลอบเข้า
...พอพบเพ่งพักตร์ใย..................นึกชอบ
...ดูดั่งคนชิดเจ้า........................ดั่งคุ้นเคยกัน
92...งงงันนางนิ่งอึ้ง........................มัวมอง
...เออใชคนที่ปอง......................ใฝ่ชู้
...ทุกคืนที่ฝันครอง.....................เคียงคู่
...คนนี่แหละนึกรู้........................อิ่มล้นระทวย
93...สาวสวยรีบเร่งให้.....................ดมยา
...กาบไผ่พัดลมพา......................ช่วยน้อง
...ขูลูตื่นมองมา..........................หลากจิต
...คงใช่นางพี่ร้อง........................ร่ำร้องเรียกหา
94...ปรีดาเอมอิ่มท้น.......................ทับใจ
...สลบนิ่งสาวสาวไว.....................ตื่นเต้น
...เป็นลมอีกคนใย.......................แปลกพี่
...ดูหน่อยมานวดเฟ้น...................อย่าให้มีภัย
95...ทรามวัยพออ่อนฟื้น..................แลหา
...เห็นพี่หลับปิดตา......................รีบร้อน
...ประชิดแอบอกพา.....................ครวญคร่ำ
...ขอพี่ตื่นอ่อนอ้อน.....................ร่ำให้เนตรนอง
96...ผองนางมวลพี่เลี้ยง.................แลตะลึง
...ดูดั่งผัวเมียพึง.......................พบพ้อง
...พอใจต่างฉุดดึง.....................ชวนหลบ
...เขาปล่อยสองร่ำร้อง................คู่เคล้าเคียงกัน
97...ขูลูพลันพลิกฟื้น.....................วิญญา
...เห็นอ่อนแนบอกพา.................ร่ำไห้
...เลยหลับอิ่มอุรา......................นอนนิ่ง
...นานนิ่งจึงกอดไว้....................อย่าเศร้าปลอบขวัญ
98...เทวัญบงบอกให้.....................สองเรา
...คือคู่สายแนนเสา....................ใฝ่ฝั้น
...ทุกคืนพี่หงอยเหงา..................นักนิ่ม
...หาแต่นวลอั้วนั้น......................เร่งให้มาหา
99...ขวัญตาเอิบอิ่มล้น...................ในทรวง
...กอดแน่นนักนึกหวง.................ชื่นชู้
...อรเองบ่แผกดวง.....................เราพี่
...เคยอยู่ครองเทพรู้...................ส่งให้พบกัน
100...ฝันเห็นเคยอยู่เฝ้า...................ขูลู
...ตรงนี่ไฝอรดู.........................ใช่แล้ว
...นวลนางแน่วธู.......................ขวัญพี่
...นุชแน่นามอั้วแก้ว...................คู่ฝั้นของชาย
101...สายสมรแสนสุขล้น.................เริงสราญ
...สองดั่งเคยพบพาน.................ก่อนกี้
...ไขรักต่างไขขาน....................หมดปิด
...จนผิดสางเกินชี้......................ยากยั้งหยุดเพลิง
102...มิเหิงพายุเต้า........................เอ็ดอึง
...ไพรลู่ลมพัดตึง......................หักสิ้น
...เปลวเพลิงไล่ลามพึง...............รุกไล่
...ไฟคุโชนเผาสิ้น......................ยากดิ้นครรลอง
103...มองฝนมันมืดครึ้ม...................หลั่งชล
...ไหลทั่วปฐพิดล......................ท่วมพื้น
...ไฟดับหมดลมบน....................พัดแผ่ว
...ดินฉ่ำชลชุ่มชื้น......................แมกไม้สดใส
104...ใยรักสองแนบเกื้อ...................กูลกัน
...สองต่างผูกสัมพันธุ์.................ใฝ่รู้
...จักครองคู่มิผัน.......................แปรเปลี่ยน
...รอพี่เถิดชื่นชู้.........................จักได้มาขอ
105...ขูลูขอกราบเท้า......................จันทา
...ของฝากมวลบรรณา.................มอบไท้
...พระนางไต่ถามมา...................ทราบเรื่อง
...มิโปรดยากอดได้....................ด่าให้เพราะเคือง
106...เรื่องเดิมยังขุ่นข้อง..................ขูลู
...เพราะแม่พิมพาดู....................เกียจข้า
...พวกเธออย่าคบหนู..................อั้วเคี่ยม
...กูบ่ยอมพวกบ้า......................ต่าวบ้านคืนเมือ
107...เจ็บเหลือยินดั่งนั้น..................จำกลืน
...ทนอดถึงยากฝืน....................ข่มไว้
...จำคำแม่บอกคืน.....................เรือนเล่า แลนา
...วอนแม่จงช่วยให้....................แต่งอั้วนวลนาง
108...ปางนวลยินลูกน้อย..................วิงวอน
...เจ็บจิตยากนักตอน..................แต่เค้า
...จันทาแค่เคืองรอน...................มิตรขาด แลนา
...ใยจึงจำเจ็บเจ้า......................นิดน้อยฤาควร
109...นวลนางรับสั่งให้....................โหรา
...วานช่วยผูกดวงมา..................โปรดแจ้ง
...กับดวงอ่อนกัญญา..................ดวงนี่ แลนา
...ดูว่าสองสองเทพแสร้ง..............เสกไว้ครองกัน แลนา
110...โหรพลันบวกลบถ้วน................หลายคราว
...จนเหงื่อตกแปลกคราว..............ดั่งนี้
...พิมพาแม่เตือนดาว..................ดวงคู่ สองนา
...เป็นดั่งใดจงชี้........................ช่วยให้สว่างใจ
111...ทูลไปเกรงจักขึ้ง....................เคืองพระนาง
...โหรเล่าแรกสองทาง................คู่แท้
...เคยครองคู่หลายปาง................ชาติก่อน
...เพียงแต่ปลายยากแก้...............ส่อร้ายมิดี
112...วิถีดาวบอกแจ้ง......................สองคน
...อาจดับชีพเพราะตน.................บอกแจ้ง
...ยากทูลห่วงกังวน....................พระแม่
...ทูลเสร็จโหราแสร้ง..................รีบร้อนขอลา
เขียนโดย ธนัญธร ณรงค์หนู ที่ 22:07