วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ร้อยกรองเบ็ดเตล็ด


                      ร้อยกรองเบ็ดเตล็ดชุดนี้ เขียนด้วยนามแฝง จริญญา แสงทอง รวบรวมมาไว้ เพื่อสะดวกในการค้นหา
----------------พุทธะ พาชื่น ตื่นรู้ ----------------------
กลอนสุภาพ
๐ พุทธะพาชื่นด้วยตื่นรู้...............คุณครูว่าชนะมารวิสิฐศรี
ประสบชัยห่างอบายนั่นแหละดี......คำท่านชี้ชวนคิดพินิจตรอง
จักแช่มชื่นตื่นรู้ดูต้นเหตุ..............รู้จักเลสแห่งมารการสนอง
สลัดหลุดเสียได้ในครรลอง...........จึงจักมองเห็นชัยในมรรคา
กิเลสผลาญความดีของมนุษย์... ..ร้ายเกินสุดยากต้านคือตัณหา
อีกราคะอรติคือมารา..................ตัวคอยล่าผลาญทุนคุณความดี
จักทำคุณความงามมันตามขัด......พึงกำจัดมารไปในวิถี
การงานจักพัฒนาคุณเกิดมี.........ปวงปราชญ์ชี้พึงรู้จักระวังมาร
วัตถุกามคือเหยื่อเพื่อหลอกล่อ.....ชวนให้ต่อตามติดแล้วคิดผลาญ
เรียกเบญจกามคุณห้าประการ......ที่เราท่านติดเหยื่อรูปารมณ์
สัททารสคันธาผัสสะด้วย.............เป็นตัวช่วยก่อกระแสให้เสพสม
เบญจขันธ์ติดบ่วงยากล่วงตรม......ทุกข์ทับถมบาปกรรมชอกช้ำใจ
เยจิตตังสัญญเมสสันติ................หากดำริหลุดกรรมทำไฉน
ปิดทวารทุกช่องสำรวมไว.............จึงจักไม่ติดบ่วงห่วงแห่งมาร
สติปัฎฐานสี่นี่แหละหนอ..............ถึงจะพอสู้กรรมธรรมไขขาน
หวังชนะพึงกระทำอย่าปล่อยนาน...จะเบิกบานตื่นรู้ครูสอนมา
ชนะแล้วบาปอบายมิต้องห่วง........มิอาจล่วงเราได้ไม่กังขา
ประเสริฐแท้ตัดห่วงบ่วงมารา.........ท่านเรียกว่าชนะเลิศประเสริฐจริง
เป็นผู้รู้ทันมารมิติดบ่วง................ตื่นตัวล่วงมารได้ไม่สุงสิง
ผู้เบิกบานดวงใจมิไหวติง.............สงบนิ่งสะอาดสว่างกระจ่างมน ฯ
------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 24 มกราคม 2559
----------------------



--------------ชวนชมบาน--------------------
กาพย์ยานี 11
O=ชวนชมชวนตรงไหน......คงเพราะใบเจ้าน่ะสวย
รากเหง้าก็งามด้วย.............ส่งให้แพงแต่งกิ่งใบ
ดอกเจ้าก็ชวนชื่น..............ภิรมย์รื่นมิสงสัย
รูปทรงสดสีใคร..................อยากชิดชมเจ้านักแล
คนเล่าดูยากหนอ..............งามลออหลากกระแส
ต่างคิดต่างก็แปล...............ต้องแบบนี้จึงชวนชม
ลางยึดเบญจพิธ.................กามวิจิตรวิเศษสม
รูปสวยก็นิยม.................... บอกน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นชายเรียกหล่อมาก......ยิ่งหายากยิ่งหล่อหรู
เสียงดีชวนชื่นชู.................ร้องเพลงเพราะพูดน่าฟัง
เนื้อหอมชวนชิดใกล้.........รัญจวนใจมีมนค์ขลัง
ยิ่งหอมกลิ่นโด่งดัง.............ราคาสูงรัญจวนใจ
รสดีผักพืขผล...................ชื่นชมชนเสาะหาไหน
ของกินถึงอยู่ไกล...............สรรสืบเสาะเพราะชื่นชม
สัมผัสที่ดีเลิศ....................ชวนให้เกิดรักเหมาะสม
อยากได้ใจนิยม.................คิดใคร่หามาครอบครอง
นี่กามคุณห้า.....................สิ่งที่พาตอบสนอง
จิตพลาดขาดตริตรอง.......มักหลงไหลมิเพียงพอ
หลงน้อยเพียงรู้ฤทธิ์...........หลงมากตืดลำบากหนอ
ตามหาอยากเคล้าคลอ.....กามคุณเหยื่ออารมณ์
ทางแก้ระวังไว้.....................ทวารใช้สำรวมสม
หูฟังตาใช้ชม....................ลิ้นลิ้มรสกำหนดใจ
จมูกเพียงรู้กลิ่น................ผัสสะสิ้นมิสงสัย
รู้ทันมิเป็นไร......................ทวารห้าสำรวมดี
ตัดช่องทางเกิดทุกข์.........สงบสุขตามวิถี
สติญาณเกิดมี.................กำกับไว้วิปัสสนา ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 20 มกราคม 2559
----------------------------




-----------------ไขความบินฝ่าท้าฝัน------------------A92-
กลอนสุภาพ
O=อ่านกระทู้บินฝ่าท้าทายฝัน........คำสำคัญคุณครูผู้ปักหมาย
ธงปักลงขอบฟ้าว่านั่นปลาย............ลองแหวกว่ายไปหาท้าทุกคน
อีกบทว่าอริยสัจจะสี่........................ประเสริฐศรีส่องแจ้งมิสับสน
ปลายแน่แท้มรรคาพาทุกชน...........บำเพ็ญพลแก่กล้าจะพาไป
ศรัทธาคือพละพึงเชื่อมั่น................ปัญญาทันกำกับมิสงสัย
วิริยะเข้มแข็งพลังใจ........................สติใช้ติดตามทุกเวลา
สมาธิพลังอันประเสริฐ.....................ย่อมก่อเกิดพลังฤทธิ์จิตสิกขา
ห้าพลังรวมในวิปัสสนา....................นิวรณ์ห้าถอยเกิดอภิชาน
กำหนดรู้รูปนามตามที่เห็น..............ไตรลักษณ์เป็นจุดหมายใจผสาน
สันตติเป็นไฉนในพิจารณ์................คงนับนานนิพพิทาปรากฏมี
อนิจจังทุกขังจักปรากฏ...................ตามตัวบทอนัตตาว่าวิถี
มรรคสัจก่อเกิดครบถ้วนดี...............สามารถชี้สมุทัยได้ชัดเจน
ทุกขสัจจนิโรธมาพร้อมสรรพ.........ในระดับวิปัสสนาโยคเถร
ก้าวล่วงสู่อริยะระงับเวร....................นี่คือเกณฑ์หนทางไปนิพพาน
ปริยัติเรียนรู้มิแตกต่าง....................ลงมือช่างยากนักจักไขขาน
กว่าจะถึงมรรคสัจแพ้พวกมาร.........คอยระรานพละอ่อนก่อนถึงปลาย
คงชี้ได้ให้เห็นเส้นทางนี้..................หนทางมีเพียงหนึ่งถึงจุดหมาย
คือนิพพานเดินไปไกลมากมาย.......คงอีกหลายชาติภพจะจบลง ฯ ---------------------------------
(พละ 5 หรือ อินทรีย์ 5 พลังนำไปสูปลายฟ้าคือ นิพพาน)
----------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 18 มกราคม 2559
---------------------------------



-------------------แรงสามัคคี-------------------------
กลอนหก
O= มดเอ๋ยมดแดงแข็งขัน......เจ้าสรรค์สร้างค่ามหาศาล
ทำรังใหญ่โตโอฬาร...............โครงการยิ่งใหญ่เสร็จพลัน
เห็นแล้วทึ่งนักมดน้อย...........เจ้าค่อยม้วนใบพร้อมสรรพ์
เป็นห่อรังสวยช่วยกัน.............สำคัญกายกรรมมดแดง
เยื่อเหนียวเชื่อมต่อสนิทแน่น...มีแกนกิ่งไม้สุดแข็ง
ลมมามิหล่นพัดแรง..............ใช้แฝงหลบฝนร่มเงา
ไข่มดฟองเล็กเด็กน้อย...........แอบสอยเก็บไปใจเขา
จะไปตกปลาคว้าเอา..............เหยื่อเย้ายวนปลาชอบใจ.
ไข่โตคนชอบเสาะหา.............ทำพล่าทำแกงสูตรไหน
อร่อยสิ้นแพงมากอยากได้.....ซื้อไปห้าร้อยต่อ(กิ)โล
ปล่อยไว้ไข่มดแม่เป้ง..............คนเร่งเสาะหาโมโห
คั่วกินทำยำพาโล..................พิโธ่เลิศรสมดแดง
หากปล่อยแม่เป้งต่อไป...........มันไต่จากรังหวังแฝง
ขยายเผ่าพันธุ์เปลี่ยนแปลง....บินแข่งกันเข้าพงไพร
โชคดีจับคู่หนุ่มสาว...............ถึงคราวหารังรักไฉน
ตัวแม่นางพญามดไง..............ได้สร้างรังมดสืบสกุล
เล่าเพียงเสี้ยวหนึ่งถึงมด.........ปรากฏเห็นได้ใจสุนทร์
เป็นบทศึกษาค่าคุณ..............อบอุ่นมากค่าสามัคคี
ศัตรูตัวใหญ่ไม่ถอย................มดน้อยล้วนรักศักดิ์ศรี
มิถอยถึงสิ้นชีวี......................ยอมพลีเพื่อมวลมดแดง
สารพัดคุณค่าหาได้...............บ้างใช้สูดดมฤทธิ์แฝง
แก้ลมดีนักฉุนแรง..................ทำแกงผัดคั่วมากมาย
สาธุมดแดงแรงฤทธิ์...............ได้คิดถึงเจ้ามากหลาย
อยากเป็นคนดีหญิงชาย........ทำได้มิอายมดแล ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 17 มกราคม 2559
----------------------------





------------------ระลึกถึงครู----------------------
กาพย์ยานี 11
ทุกครั้งจะขีดเขียน........จะร่ำเรียนศาสตร์และศิลป์
ไหว้ครูเป็นอาจิณ...........หวังคงเลิศเกิดมงคล
ทำวัตรไหว้ประจำ...........ผู้สอนธรรมมิสับสน...
พระพุทธผู้บันดล............คติธรรมนำชีวี
กราบครูคือพ่อแม่...........หลายสิ่งแท้ในวิถี
พูดได้นุ่งห่มดี.................ยืนเดินนั่งสอนประจำ
จรรยามารยาท..............สอนฉลาดให้งามขำ
กิจบ้านงานกระทำ.........ได้เรียนรู้มีมากมาย
ไปเรียนหัดเขียนอ่าน......คุณครูท่านก็หลากหลาย
อนุบาลเด็กหญิงชาย........สอนให้พร้อมพัฒนา
ประถมมัธยม..................วิทยาคมศิลป์ภาษา
งามงอนครูสอนมา...........จนเติบกล้าเป็นคนดี
หลายคนต่ออุดม.............น่าชื่นชมในวิถี
มากครูคณามี.................ควรน้อบนบจบอาจารย์
ทำกิจมีคนสอน...............ยังละอ่อนฟังเขาขาน
ทำได้ประกอบการ...........นับเป็นครูด้วยเหมือนกัน
มากนักคนช่วยสอน........เขียนบทกลอนได้เสกสรรค์
แนะนำเอกอนันต์.............คุณครูสรรพ์ขอบูชา
ยังอยู่ครูจงสุข..................กายสนุกจิตหรรษา
การงานพัฒนา................ประสบสันติ์นิรันดร์กาล
คูณครูผู้ล่วงลับ................จงจิตจับใจผสาน
เบิกบุญกุศลทาน............อุทิศถึงทุกคุณครู
ขอจงไปสุคติ....................ภูมิสวรรค์พวกหนู
ส่งใจกุศลชู.......................เกษมศานติ์ทุกท่านเทอญ ฯ
----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 16 มกราคม 2559
----------------------------


------------------ฟ้าสีฟ้า-----------------------
กลอนสุภาพ
O= ฟ้าสีฟ้าเหตุใดฟ้าจึงฟ้า.............คงเพราะว่าสดใสไม่หม่นหมอง
ปราศจากเมฆหมอกตามครรลอง...ฟ้าผุดผ่องสีฟ้าน่าชื่นชม
มาซิคุณมาจ้องมองดูฟ้า................ยามอุษาแสงทองมองสวยสม
ประกายเงินแกมทองจ้องภิรมย์......ดังลาดพรหมม่านหมอกคลุมพฤกษ์ไพร
ดูซินั่นยอดเขาโผล่พ้นหมอก........มิอยากบอกงามเสน่ห์นักไฉน
ดังหมู่เกาะกลางสมุทรสุดพิไล........ค่อยหายไปยามสายเสียดายจริง
ขอบฟ้ากว้างว้างเวิ้งแถบสีฟ้า.........ลอยไปมาเมฆินยินน้องหญิง
สาธยายโน่นอะไรมันไหวติง............มีหลายสิ่งเคลื่อนไหวในนภา
จุดดำดำกลุ่มโน้นเครื่องบินพี่.........คนเดี๋ยวนี้บินได้ราวปักษา
โน้นขาวบ้างดำคล้ำหมู่เมฆา..........สกุณาบินตัดเมฆงดงาม
กลุ่มโน้นพี่เมฆฝนกำลังตก............แสงมันผกผันไปในโลกสาม
สีใดเล่าจักเทียบรุ้งแวววาม.............เชิญพี่ตามชมดูย่อมรู้ดี
ยามอยู่ยอดดอยสูงสุรีย์คล้อย.........ฟ้าก็พลอยแปลกไปได้เปลี่ยนสี
คล้ายอุษายามรุ่งแปลกรวี...............แต่ยามนี้อาทิตย์อังสดง
โน่นไงพี่จันทราโผล่มาแล้ว..............ดังลูกแก้วสุกสกาวพิศวง
คืนวันเพ็ญนวลผ่องยลยิ่งยง...........จันทร์เจ้าคงมีรักทั่วจักรวาล
ไกลไปโน้นหมู่ดาวพราวระยิบ.........คงกระซิบนินทาจันทร์ว่าขาน
แผดแสงจ้าข่มดาวหม่นหมองมาน.หลายดาวพาลวูบดับหลับหลบไป
โน่นหรือพี่กลุ่มดาวทางช้างเผือก..มีกี่เชือกกันหนอนับมิไหว
เห็นแต่รอยระยิบระยับนัย...............ช้างมันไล่เล่นกันสุขสันติ์ดี
ยิงมิสุดขอบฟ้าดำมืดมิต................ต้องดวงจิตส่องไปในวิถี
อาจได้รู้ได้เห็นอีกมากมี.................แต่วันนี้เหนื่องนักขอพักเอย ฯ
------------------------------
แสงทอง ประพันธ์ 16 มกราคม 2559
-----------------------------




ธุดงค์ศึกษา
.... เคยเห็นภาพธุดงค์ธรรมไชย และภาพพระภิกษุเดินผ่านทุ่งนาป่าเขา มีผู้ทักว่า
พระกำลังธุดงค์ ชาวบ้านเห็น ถุงผ้า เห็นแบกกลด เข้าใจว่านั่นคือพระธุดงค์ ความจริง
ยังตัดสินไม่ได้ พระท่านกำลังเดินทางเฉย ๆ อาจเป็นพระธรรมดา ๆ หรือ พระธุดงก์ก็ได้
การถือธุดงค์ต้องสมาทานและปฏิบัติ ไปยืนมองที่วัดก็ยังไม่รู้หรอกว่าพระรูปไหน ถือ
ธุดงค์อะไร ลองศึกษาธุดงค์ 13 เรื่องดูไหมคะ
@..เห็นทิวแถวพระเดินกันกลางทุ่ง.....มิรู้มุ่งหมายไปที่ใดหนอ
พลันนึกถึงธรรมไชย กทม..................ท่านหลว...งพ่อเดินธุดงค์กันกลางเมือง
แต่ชุดนี้กลางนาก็ว่าขาน....................หลวงพี่ท่านธุดงค์ทรงผ้าเหลือง
ปลิวสะบัดงามขบวนควรประเทือง...........มิรู้เรื่องเลยมิกล้ามาวิจารณ์
ขอกลับไปศึกษาธุดงค์ก่อน................พุทธะสอนสาวกพึงอาจหาญ
เพื่อขัดเกลากิเลสยิ่งสมาทาน.............เลือกข้องานมิยากลำบากใจ
ทำวันเดี่ยวเดือนเดียวตลอดชีพ...........มิต้องรีบตรองดูรู้แจ้งไข
ค่อยขยายค่อยทำประจำไป................ธุดงค์ใช่บังคับศึกษาดู
หนึ่งนุ่งห่มบังสุกุลคุณมากนัก...............คนที่จักทำได้ไม่อดสู
หาผ้าเองตัดเองเย็บย้อมชู..................ผลัดเปลี่ยนรู้ปีละหนทนได้ฤๅ
บิณฑบาตธุดงค์คงข้อสอง...................ตามทำนองมิยากลำบากถือ
บิณฑบาตมิได้วันนั้นคือ......................หากยังซื่อหิวมากยากเหมือนกัน
ทนมิไหวลาธุดงค์คงนับใหม่.................อย่างนี้ใช่ธุดงค์เชิงสร้างสรรค์
สิบเอ็ดข้ออีกทำธุดงค์พลัน...................เอาสั้นสั้นเพียงชื่อถือธุดงค์
บางพระบอกใช้ผ้าเพียงสามผืน..............ตลอดคืนตลอดวันมิลืมหลง
ครบสามเดือนนั่นหละถึงจะปลง..............อีกองค์ว่าจักฉันวันมื้อเดียว
ส่วนฉันจักบิณฑบาตไปตามแถว.............อยู่ห่างแนวมิรับมิแลเหลียว
อาตมาฉันในบาตรเท่านั้นเชียว...............อย่ามาเกี่ยวสำรับอื่นมิชื่นใจ
รูปนั่งฉันแล้วไม่รับถวายอีก...................นี่ฉันหลีกโลภมากยากไฉน
อาตมาพระป่าอยู่พงไพร......................ยามเจ็บไข้จำมาพยาบาล
ส่วนผมสมาทานอยู่โคนไม้....................ลำบากใจหน้าฝนมิอาจหาญ
หน้าแล้งหนาวพอได้สมาทาน................ธุดงค์ผ่านพอทนฝึกฝนดี
ฉันจักอยู่กลางแจ้งมิเข้าร่ม....................คำนิยมต้นไม้วิหารกฎี
กลางสนามปักกลดพักกายี...................ลำบากชี้ผ่านกันวันเวลา
อาตมาสมาทานอยู่ป่าชัฏ......................มันสงัดป่าผีดีนักหนา
สมาทานธุดงค์อยู่ป่าช้า.........................นี่ก็ว่ายากผ่านมันน่ากลัว
ข้อสิบสองสมาทานเสนาสนะ..................ตามมีจะอยู่ได้นึกใคร่หัว
คงมิขลังข้อนี้รู้กันทั่ว............................สบายตัวห้องแอร์วัดมากมาย
ข้อสิบสามยากที่สุดหยุดท่านอน..............เหลือเดินก่อนยืนนั่งยังยากหาย
ง่วงมากนักนั่งหลับพอผ่อนคลาย..............ก็มิง่ายสิบสามข้อขอธุดงค์
ที่เห็นเดินเรียงกันสรรข้อไหน..................มิมีได้แบบหมู่ดูท่าหลง
มากศรัทธาพรมดอกไม้ลาดไว้ตรง............นิมนต์ส่งเท้ามาน้ำอบพรม
คงพอกันสองฝ่ายไม่ศึกษา.....................ศาสดาประกาศธุดงค์สม
เพื่อขัดเกลากิเลสวิเศษนิยม....................ฤๅชื่นชมสร้างภาพอาบอิ่มใจ ฯ
--------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 14 มกราคม 2559
---------------------------



--------------วิหารแห่งพรหม 20 ชั้น------------------
กลอนสุภาพ
O= อ่านกระทู้พรหมวิหารครูขานไข............เคยเขียนไว้นานนักชักลืมหลง
หยิบมาใหม่ใจความกำหนดตรง.................ความประสงค์วิหารแห่งพระพรหม
อันเทพไท้สุคติมีสองภพ.........................สวรรคครบหกชั้นชื่อเหมาะสม
กามาวจรเสพกามยามรื่นรมย์...................คนชื่นชมเทวดานามสามัญ
เทพชั้นสูงรูปพรหมอรูปด้วย.....................ภพภูมิสวยบารมีที่สร้างสรรค์
ส่งให้ท่านเป็นพรหมแผกภูมิกัน..................ยี่สิบชั้นงดงามตามตำรา
ล้วนมีบุญบารมีที่ยอดเยี่ยม.......................ดวงจิตเปี่ยมกรุณคุณนักหนา
เมตตจิตพิสดารมุทิตา.............................อุเบกขาไพบูลย์มิเสื่อมคลาย
ทุกพรหมท่านชาญเชี่ยวสมาบัติ..................บรรลุวัตรฌานปฐมสั่งสมสาย
ระดับต้นระดับกลางระดับปลาย................เมื่อชีพวายจุติรูปสามนิยม
หนึ่งปาริสัชชะว่าชั้นแรก...........................ธรรมสูงแยกปุโรหิตาสม
สูงกว่าไปจุติมหาพรหม............................ฌานปฐมจุติไปสามแดน
บรรลุฌานที่สองสามระดับ.......................ท่านพานับสามัญกลางยากแสน
ระดับสามประณีตมิคลอนแคลน................จุติแล่นสู่พรหมสูงขึ้นไป
ปริตตาภาพรหมโลกสี่.............................ลำดับที่เบญจาสว่างไสว
อัปปมาณาภาเพริศพิไล...........................หกพรหมได้นามอาภัสสรา
พระโยคีช่ำชองฌานที่สาม........................บรรลุตามปริตตะระดับหนา
มัชฌิมะระดับกลางภาวนา.........................สูงกว่าว่าประณีตะพยายาม
ล่วงลับไปจุติพรหมโลกสรรพ์....................สูงกว่าชั้นที่หกยกมาถาม
ไล่ระดับปริตตาสุภานาม..........................ถัดไปพราหม์อัปปมาณสุภา
ประณีตฌานไปสุภกิณณหะ.......................เป็นระยะเก้าพรหมสามฌานหนา
รูปฌานมีสี่ระดับต่อมรรคา........................รูปพรหมว่าจตุฌานมีหกพรหม
เก้าภพชั้นผ่านมายังขั้นต่ำ..........................ยามโลกซ้ำแตกไปได้ขื่นขม
น้ำไฟลมล้างโลกกัปป์ระงม.......................เก้าชั้นล่มพร้อมโลกแตกดับไป
พรหมภูมิสิบขึ้นสูงยังมิดับ.........................ท่านจึงนับพิบูลย์ฌานพิสัย
เวหัปผลาชั้นสิบพรหมพิไล........................สิบเอ็ดใช่อสัญญีสัตตานาม
สามัญชนเพ็ญเพียรสมถะ..........................มีตบะรูปฌานเคยสอบถาม
ครูอาจารย์บอกสูงสิบเอ็ดตาม....................จากนั้นข้ามไปยังอรูปพรหม
พรหมสิบเอ็ดถึงสิบหกสุทธาวาส..................คล้ายประกาศอริยะภูมิก็สม
ล้วนแต่พระอนาคาชวนชื่นชม....................พึงนิยมภูมิธรรมนำท่านมา
ทุกท่านมีองค์ฌานปฏิบัติ.........................ต่างวิวัฒน์คุณธรรมวาสนา
ยังมิถึงอรหันต์เมื่อถึงครา...........................ผุดสุทธาวาสพรหมสมสำคัญ
อวิหาสุธาวาสภพสิบสอง...........................สูงกว่าต้องอตัปปาพรหมมาสรรค์
สุทัสสาภพสิบสี่ตามภูมิธรรม์.......................สูงกว่านั้นสุทัสสีแยกแผกไป
ภพสิบหกเรียกชื่ออกนิฏฐ์..........................ที่สถิตอนาคาพาวิสัย
อรูปพรหมแจกตามธรรมลุไป.....................เจนจัดในอรูปฌานวิธี
สมัยก่อนพุทธกาลพวกดาบส.......................ก็ปรากฏฝึกมามากฤาษี
เจริญฌานอารมณ์อรูปมี.............................อากาศชี้วิญญานเป็นอารมณ์
จนเกิดเป็นอรูปสี่ระดับ...............................พอล่วงลับจุติมาอรูปสม
อากาสานัญจายะภพพรหม..........................อีกชั้นชมวิญญาณัญจายา
สามอากิญจัญญายตนะ...............................สุดเนวะสัญญ์ภูมิที่สุดหนา
ครบยี่สิบชั้นภูมิพรหมพรรณนา....................มีคนว่าให้เขียนภพภูมิพรหม
ลองขุดค้นได้มาเพียงน้อยนิด........................ลองลิขิตเป็นกลอนอักษรสม
ยากเอาการชื่อชั้นไม่นิยม..............................ล้วนเป็นปมสันสกฤตติดยากนัย
พรหมทุกชั้นภูมิธรรมท่านสูงส่ง....................จึงดำรงภพภูมินานเกินไข
มีเมตตากรุณาปลูกฝังใจ.............................ยินดีได้มุทิตาบารมี
อุเบกขาเพียบพร้อมพระพรหมสรรพ(สับ)........ท่านจึงนับพรหมวิหารสง่าศรี
ยามผู้คนปฏิบัติธรรมอันดี...........................แบบอย่างนี้จึงขานท่านเป็นพรหม
สาธุขอผู้ใหญ่ปฏิบัติ...................................กิจวัตรธรรมวิหารให้เหมาะสม
มวลลูกหลานหลากหลายได้นิยม...................น้อมบังคมด้วยเคารพจบหัวใจ ฯ
------------------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 8 มกราคม 2559
-------------------------------------------



------------กระทู้สติตรอง สตรองตริ------------- แต่งตามกระทู้เดิมค่ะ พอจะโพส อ้าวเปลี่ยนชื่อแล้ว แต่เนื้อหาคงเดิมค่ะ
โคลงสี่สุภาพ
O=อ่านเห็นงามกระทู้..............ตริธรรม
เลือกหน่อยมีขาวดำ...............แบ่งข้าง
สีขาวกุศลกรรม.....................กิจก่อ ดีแฮ
ส่วนอกุศลพึงร้าง...................ห่างไว้แลดี
O=มีคนถามไถ่ด้วย................สงกา
มากยิ่งหนอธรรมมา...............เลือกใช้
พุทธะแปลกปนพา.................หลงง่าย
เกณฑ์ช่วยสรรอยากได้..........ใคร่รู้มีฤๅ
O=คือคำพุทธท่านเกื้อ...........ประทาน
พระแม่โคตมีวาน...................บอกรู้
แปดเกณฑ์ช่วยจักชาญ..........ธรรมเลือก แลนา
พุทธมิพุทธเกณฑ์กู้...............โปรดใช้หลักเกณฑ์
O=เถรใดสอนแอบอ้าง...........พุทธธรรม
สอนเรื่องราวชักนำ................ผิดเพี้ยน
กำหนัดก่อเกิดกรรม...............อยากเพิ่ม
เป็นเหตุทุกข์สุขเหี้ยน.............อย่างนี้ผิดคลอง
O=ตรองดูสอนสั่งให้................สะสม
กิเลสกองเกลียวกลม.............สั่งไว้
สอนเลิกมักน้อยชม...............มักใหญ่
ติสันโดษอยากให้..................โลภล้นผิดทาง
O=ลางสอนติดพวกพ้อง.........คลุกคลี
สอนเบื่อเพียรสบายดี.............เกียจคร้าน
กินยากอยู่ยากมี....................เลือกเสพ
แปดอย่างผิดสอนต้าน............ต่อต้านพุทธธรรม
O=เลือกคำสอนถูกต้อง..........ตามเกณฑ์
จึงจิบกราบพระเณร................ท่านให้
คำสอนที่ถูกเวร......................วางปลด แลนา
เลือกบ่ถูกจิบได้......................อาจได้ธรรมปลอม ฯ
---------------------------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 11 มกราคม 2559
---------------------------------------------



--------เขียวพิสุทธิ์ พุธพิสัย----------
กาพย์ยานี 11
O--กระทู้เขียวพิสุทธิ์.............พุธพิสัยอะไรหนอ
เขียนถึงมาหลายข้อ.............เขียวทุกพุธสุดชื่นใจ
อ่านตามเลยเห็นช่อง............ลองสะกดพุทธพิสัย
แบบนี้กระจายได้...................พุทธองค์เคยแสดง
ใครใครมิควรคิด...................วิสัยกิจค่อนข้างแผลง
ลึกลับยากแจกแจง...............อาจจักบ้าพาเฟื่องเป็น
หนึ่งพุทธะวิสัย.....................ฌานอย่าใคร่อยากรู้เห็น
หลักกรรมก็ยากเย็น.............สี่เรื่องโลกคิดพองาม
อจินไตยไขขาน.....................สี่อย่างท่านมิพึงถาม
ศึกษาเพียงติดตาม................เพื่อประโยชน์โสตถิคุณ
วิสัยแห่งพุทธะ.......................มหัศจรรย์วิชชาหนุน
ปุพเพนิวาสบุญ....................เปิดให้รู้อดีตกาล
รู้ตนก็ดีนัก............................แต่รู้จักสัตว์สืบสาน
เพียงเห็นรู้สันดาน.................ความเป็นมาแลเป็นไป
จตูปปาตชาติ.......................ทรงสามารถแสดงไข
ชาติก่อนมันเป็นใคร.............เพราะเหตุใดนำเกิดมา
อาสวักขยเลศ.......................ความพิเศษตัดตัณหา
ขยะอวิชชา..........................เกินปัญญาคนทั่วไป
เพียงแค่วิชชาสาม.................นามพุทธะเกินวิสัย
อย่างเราจักเข้าใจ..................ไฉนท่านเก่งเกินคน
อยากจบเสียดายของ.............อีสามลองอนุสนธิ์
พวกเก่งฌานทุกตน...............วิสัยพ้นอธิบาย
ชำนาญทิพโสต....................ฤทธิโรจน์มีหลากหลาย
หูทิพย์มิกลับกลาย................เจโตปริยญาณ
ปุพเพระลึกรู้........................หกเรื่องดูเกินหักหาญ
ตัดขยะกิเลสราน...................อรหันต์เก่งทุกคน
ข้อสามกรรมวิสัย...................มิมีใครทำนายผล
อย่าเดาเพราะกรรมกล.........สั่งสมมาอนันตกาล
สุดท้ายโลกวิสัย....................ความเป็นไปที่กล่าวขาน
สี่ภพภูมิยาวนาน..................เคยเป็นมาจะเป็นไป
ศึกษาวิสัยพุทธ....................รู้เรื่องสุดเป็นไฉน
คิดมากลากยาวไล่.................ยากจบสิ้นกระบวนความ
ขอจบเพียงเท่านี้...................ผิดพลั้งมีอย่าทวนถาม
ศึกษามาเขียนตาม................ได้แค่นี้ดีถมไป ฯ
---------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 6 มกราคม 2559
---------------------


--------------รักในธรรมนำสุข--------------------------
กลอนสุภาพ
-------------------
O= อ่านกระทู้รักในธรรมแล้วนำสุข.....รักที่ทุกชนชั้นต่างฝันหา
ใช่รักเพียงอารมณ์ธรรมดา.................เป็นเมตตาไมตรีไร้พรมแดน
อายตนะหกสายอยู่ภายนอก...............พระท่านบอกรูปเสียงหลากหลายแสน
กลิ่นและรสผัสสะอย่าดูแคลน.............ธรรมมาแล่นถึงใจได้ทันที
หกทวารสื่อหาอายตนะ......................ช่องตาจะแลดูหููวิถี
ช่องจมูกช่องลิ้นช่องกายี....................มโนชี้ช่องใจหกทวาร
เมื่อประสบสองทางต่างก็เกิด..............วิญญาเลิศเล็งไปได้ผสาน
เกิดผัสสะส่งต่อกระบวนการ...............เวทนางานเริ่มเติมกระบวน
กุสลาอกุสลาก็พาเกิด........................บ้างเลยเถิดอัพยาครบกระสวน
เกิดบ่อยบ่อยชอบใจไม่เรรวน..............ใจจนป่วนว่ารักชอบงดงาม
ส่วนอีกรักเผือแผ่ไม่จำกัด..................รักส่ำสัตว์ทั้งมวลในโลกสาม
ทุกประเภททุกขนาดพยายาม……......แผ่จิตตามเมตตาด้วยปรานี
คำภาษิตพุทธาเคยว่าไว้………….......เมตตาไซร้ค้ำจุนแผ่รังสี
โลกเจริญสุขสมด้วยไมตรี...................ชี้โลโกปัตถัมภิกาเมตตา
รักอย่างนี้มิมีที่สิ้นสุด...........................บริสุทธิ์อยากได้ใคร่เสาะหา
ต้องฝึกเองทุกวันหมั่นตรวจตรา…......ไหว้บูชาพระเสร็จแผ่ทันที
แผ่เมตตาตนเองเก่งยิ่งนัก...................ทุกคนรักตนง่ายมิหน่ายหนี
ขยายเขตแผ่ไปคนมากมี....................คนที่รักชอบพอญาติมิตรเรา
ห่างออกไปผองเพื่อนเตือนให้รัก…......คนรู้จักมิรู้ดูคล้ายเขลา
ขยายออกสรรพสัตว์กำหนดเอา........สุดท้ายเข้าความรักไร้พรมแดน
แผ่บุญให้ทุกสัตว์ทุกประเภท…….…..รักทุกแขตทุกภพจบหมื่นแสน
รักแบบนี้ดีไฉนไม่คลอนแคลน.............ทุกพื้นแผ่นพสุธาเมตตาธรรม ฯ
-----------------------------
จริญญา แสงทอง ประพันธ์ 4 มกราคม 2559
----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น