.................ช่วงที่ยังเป็นครูที่โรงเรียน (2516-2529)หัดผมเขียนกาพย์กลอน ได้ใช้นิทานต่าง ๆเป็นข้อมูล นิทานก้อมแบบเดอตี้โจ้ก ชอบมาก เขียนได้กว่า 30 เรื่อง นิทานอีสปก็เป็นอีกเรื่องที่นำมาใช้หัดเขียนและยังเก็บไว้อยู่ ส่วนพวกนิทานโจ้กลบทิ้งไปไม่กล้าเผยแพร่ อีสปเขียนแบบตามใจ แบบคนเล่านิทาน แรก ๆ ใช้กาพย์ยานี 11 แต่พอลองเขียนวรรคละหกคำอ่านเล่าเรื่องเพราะดี ก็เลยยึดวรรคละหกคำแต่เค้าโครงยังเอาอย่างกาพย์ยานี อยู่ จะเรียกกลอนหกดีไหม ก็แล้วแต่จะเรียกครับพยายามเขียนให้ได้ 100 เรื่อง จะได้ดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย วันนี้หยิบมาตรวจทานแก้ไขสะกดการันต์ และแผนผังบางบทที่บกพร่อง แล้วนำโพส เผยแพร่ครับ
....................................ขุนทอง ศรีประจง
.....................................6 เมษายน 2561
นิทานอีสป | |||
1. กบเลือกนาย | |||
ในบึงมีกบฝูงใหญ่ | แฝงใบบัวบึงพฤกษา | ||
แมกไม้มดแมงนานา | อาหารหาง่ายสบายใจ | ||
คราหนึ่งกบชุมนุมกัน | ฝันว่ามีนายดีไหม | ||
คนที่จักช่วยคุ้มภัย | ทุกตัวใคร่จักมีนาย | ||
พวกกบมันเลือกผู้แทน | มีแผนส่งไปเป็นสาย | ||
วอนเทพแน่วแน่มิคลาย | หมายมีผู้นำพวกมัน | ||
เทพโยนขอนไม้มาให้ | บึ่งใหญ่สะท้านน่าขัน | ||
ตูมตูมกระแทกกระทั้น | น้ำนั้นกระเพื่อมตีฟอง | ||
พวกกบแตกตื่นหลบหนี | ต่างมีความกลัวสยอง | ||
ให้หลังเงียบเสียงแอบมอง | ลองส่งผู้กล้าไปดู | ||
มันร้องบอกเทพส่งนาย | ท่อนไม้ลวดลายงามหรู | ||
เกาะเล่นสนุกข้ารู้ | วู้วู้รีบมาพวกเรา | ||
ประชาชาวกบยังหวาด | ขลาดขลาดกลัวกลัวพวกเขา | ||
มินานชวนกันมาเฝ้า | ขอนไม้เร้าใจใคร่ปีน | ||
กบน้อยกบใหญ่หัวเราะ | แย่งเกาะลืมไปจำศีล | ||
แย่งกันกบไทยกบจีน | เหยียบตีนกันมั่วสนุกดี | ||
ขอนไม้พาลอยไปทั่ว | ไม่กลัวนานไปหน่ายหนี | ||
นายไม่พูดจาพาที | มิมีฤทธิ์เดชอันใด | ||
ไปวอนเทพเจ้าอีกครั้ง | หวังนายแบบป้องกันภัย | ||
มีความสามารถยิ่งใหญ่ | ทำได้ชี้ตายชี้เป็น | ||
เทพไทรำคาญยิ่งนัก | กูจักให้มันได้เห็น | ||
ส่งนกกระสามาเป็น | นายเช่นพวกมันต้องการ | ||
นายนกกระสาจับปลา | เดินมาเห็นกบก็หวาน | ||
จับกินมิช้ามินาน | กบพาลจะหมดสิ้นไป | ||
อันความไม่รู้จักพอ | มักก่อเหตุร้ายไฉน | ||
ละโมบโลภมากจัญไร | ดังไฟจักเผาเสียการ | ||
2. กระต่ายป่ากับกบ | |||
กระต่ายที่ป่าละเมาะ | ลัดเลาะทุ่งหญ้าไพศาล | ||
มันออกหากินสำราญ | เบิกบานหญ้าแสนสมบูรณ์ | ||
วัวควายชาวบ้านก็มา | หากินมิเคยสิ้นสูญ | ||
งอกงามมาเติมเพิ่มพูน | จำรูญจำเริญยินดี | ||
เสียดายบางคราวคนมา | ผวาตกใจหลบหนี | ||
บ้างมุดลงรูก็มี | บ้างรี่เข้าป่าไปทัน | ||
จ่าฝูงจึงเรียกประชุม | กลุ้มนักวิตกผกผัน | ||
ตกใจแตกตื่นทุกวัน | ชวนกันไปโดดน้ำตาย | ||
ทุกตัวเห็นพ้องรีบไป | ที่แม่น้ำใหญ่หนึ่งสาย | ||
เห็นกบกระโดดวุ่นวาย | หมายหนีลงน้ำนั่นเอง | ||
กระต่ายได้คิดที่จริง | สรรพสิ่งมีภัยข่มเหง | ||
ทำให้ตกใจหวาดเกรง | นักเลงไม่ฆ่าตัวตาย | ||
อันความทุกข์ยากลำบาก | มีมากใช่เรื่องเสียหาย | ||
พบพานแก้ไขกลับกลาย | ดีกว่ายอมพ่ายก่อนเอง | ||
3. กระต่ายกับเต่า | |||
กระต่ายหนุ่มน้อยในป่า | ท่าทางกระฉับกระเฉง | ||
วิ่งเล่นในป่าตามเพลง | มากหมู่กันเองรื่นรมย์ | ||
แล่นเหนื่อยหลบตามพุ่มไม้ | หลบไว้นอนเล่นสุขสม | ||
มินานก้อนหินกลมกลม | ชวนชมกลิ้งผ่านไกล้มา | ||
ที่แท้ก็คือตอเต่า | งี่เง่าต้วมเตี้ยมนักหนา | ||
ทำไมเอ็งจึงชักช้า | ปัญญาคงโง่เต็มทน | ||
ดูข้ารูปร่างสะสวย | ร่ำรวยปรีชามิสับสน | ||
วิ่งเร็วกว่าลมทุกตน | ฉลาดกลชั้นเชิงเชี่ยวชาญ | ||
เต่าฟังดังลมออกหู | ถึงตูต้วมเตี้ยมแต่หาญ | ||
ทุกตัวล้วนเกิดมานาน | รู้กาลรู้คุณอุ่นใจ | ||
เป็นต่ายมิควรหมิ่นเต่า | เราขอท้าทายสู้ไหม | ||
มาวิ่งแข่งขันกันไป | เส้นชัยสักสิบกิโล | ||
กระต่ายหัวร่อขบขัน | รับคำด้วยมันโมโห | ||
ได้เลยคุณเต่าตาโต | พิโธ่เล็กน้อยได้เลย | ||
เริ่มต้นเชิงเขาตรงนี้ | คือที่ออกวิ่งอย่าเฉย | ||
พรุ่งนี้พร้อมกันดังเคย | กรรมการขอเอ่ยเชิญใคร | ||
คุณเต่าว่าวานจิ้งจอก | บอกเขาพร้อมกันดีไหม | ||
วานจงอยู่รอเส้นชัย | จักได้เป็นพยานสำคัญ | ||
ทุกการเตรียมพร้อมยอมรับ | พร้อมสรรพรุ่งขึ้นขยัน | ||
เต่าต่ายตื่นเช้ามากัน | พร้อมสรรพ์เริ่มแข่งได้เลย | ||
กระต่ายแคล่วคล่องว่องไว | วิ่งไปราวลมพัดเฉย | ||
ลับหายสายลมรำเพย | เต่ามันค่อยคืบคลานไป | ||
กระต่ายวิ่งเร็วนักหนา | ผ่านมามินานสงสัย | ||
โน่นแน่แลเห็นเส้นชัย | ดีใจแวะพักข้างทาง | ||
ร่มไม้ลมพัดเย็นเย็น | ช่างเป็นหดหัวหดหาง | ||
ปล่อยกายพักผ่อนปล่อยวาง | นึกอ้างสักครู่ค่อยไป | ||
ลืมหลับสนิทจิตปล่อย | หลับผลอยเนิ่นนานไฉน | ||
ส่วนเต่าต้วมเตี้ยมคลาไคล | จนได้เห็นกระต่ายหลับนอน | ||
คลานต่อมิหยุดสุดแรง | แข็งขันอดทนทอดถอน | ||
พากเพียรกำหนดบทจร | ถึงตอนสุดท้ายเส้นชัย | ||
กรรมการจิ้งจอกงุนงง | ตรงมาหาเต่าสงสัย | ||
กระต่ายตายแล้วหรือไร | ทำไมมิยอมวิ่งมา | ||
มินานกระต่ายวิ่งตาม | ยามนี้ยิ่งแปลกนักหนา | ||
ทำไมจึงเกิดชักช้า | เสียท่าคุณเต่าติดดิน | ||
อันความเย่อหยิ่งจองหอง | ลำพองว่าเลิศประเสริฐศิลป์ | ||
ดูถูกดูแคลนดูหมิ่น | ยินดีตามความพอใจ | ||
มักเกิดผิดพลาดโดยง่าย | เสียดายความเก่งไฉน | ||
ปัญญาฉลาดว่องไว | เพียงไร้คุณธรรมนำพา | ||
ทำการทำกิจผิดพลาด | มิอาจแก้ไขกังขา | ||
เพราะความประมาทธรรมดา | จรรยาไม่ดีสำแดง | ||
4. กระต่ายกับหนู | |||
กระต่ายหิวโซตัวหนึ่ง | ถึงคราข้าวยากหมากแพง | ||
หากินยากยิ่งหน้าแล้ง | อดมื้อกินมื้อยากเย็น | ||
ทำให้ผ่ายผอมโหดหิว | ท้องกิ่วโซเซมาเห็น | ||
รูหนูสงสัยคงเป็น | ที่ซ่อนอาหารของมัน | ||
ลองมุดเข้าไปจนได้ | นี่ไงข้าวเปลือกพร้อมสรรพ์ | ||
เม็ดถั่วเม็ดงาสำคัญ | ของโปรดทั้งนั้นโชคตู | ||
มันแอบกินเพราะหิวมาก | ลำบากหลับในรังหนู | ||
ตื่นมาหิวอีกมองดู | อาหารมากมีสะดวกดาย | ||
กินอิ่มนอนหลับอ้วนท้วน | ของกินยั่วยวนเหลือหลาย | ||
ร่างมันโตใหญ่มากมาย | เคลื่อนกายลำบากยากเย็น | ||
จักออกก็ออกมิได้ | ตัวใหญ่คับรูยากเข็น | ||
พวกหนูมาพบล้อเล่น | เฮ้ยคุณต่ายจอมโจร | ||
แอบกินอาหารพวกข้า | โลภาอ้วนพีเคยโผน | ||
โลดแล่นเร็วไวลองโดน | หนูแทะหางเล่นเป็นไร | ||
รูเล็กที่แกเห็นนั่น | มันทางมุดมาใช่ไหม | ||
ตอนนี้อ้วนพีตัวใหญ่ | เลยออกมิได้สนุกเรา | ||
ต้องเป็นของเล่นหนูหนู | อยู่นี่ช่วยให้คลายเหงา | ||
ได้กัดได้ถีบเบาเบา | จนกว่าจักผอมค่อยไป | ||
อันความโลภโมโทสัน | โทษมันมากมีขอไข | ||
ชักนำทำผิดพลาดได้ | บางคราวเภทภัยตามมา | ||
พึงรู้จักยั้งชั่งจิต | พึงคิดรอบคอบสอบหา | ||
ควรหรือมิควรปัญญา | จักได้ไม่พลั้งมากมาย | ||
5. กระต่ายกับเพื่อน | |||
กระต่ายป่าอารมณ์ดี | มีเพื่อนสัตว์ป่าหลากหลาย | ||
ม้าวัวแพะแกะมากมาย | ภูมิใจโอ้อวดทั่วไป | ||
กระต่ายแบบฉันเพื่อนมาก | เขาอยากเป็นมิตรแน่ไหม | ||
สัตว์สร้างสัมพันธ์นั่นไง | ฉันมีมากมวลแน่นอน | ||
วันหนึ่งพรานป่าล่าสัตว์ | แกจัดฝูงหมาเห่าหอน | ||
ออกล่าไล่ตามดงดอน | จวนถึงถิ่นกระต่ายมัน | ||
เพื่อนฝูงฉันก้มีมาก | คงมิลำบากน่าขัน | ||
ยามยากอย่างนี้ช่วยกัน | สำคัญคิดว่าคงดี | ||
เพื่อนม้าวานเกลอช่วยหน่อย | เราคอยนายพาหลบหนี | ||
ม้าบอกธุระฉันมี | ลองไปถามไถ่คุณวัว | ||
กระต่ายวิ่งหามินาน | พบพานขอร้องน่าหัว | ||
มันบอกกูเองก็กลัว | มิหนำมีนัดนวลนาง | ||
งัวสาวสุดสวยเซกซี่ | โทษทีกลัวสาวเมินหมาง | ||
ทีหลังมิขัดวัวอ้าง | ลองไปหาแพะดูเธอ | ||
เดินทางเทียวหาคุณแพะ | แวะไปพบพานเสนอ | ||
กลัวหมาพาหนีหน่อยเกลอ | มันร้องใกล้มาทุกที | ||
อยากช่วยเหมือนกันแพะว่า | ขนข้ายามนั่งพาหนี | ||
แข็งมากทิ่มตำไม่ดี | เพื่อนจักเจ็บตูดทรมาน | ||
ลองถามเจ้าแกะดูนะ | ขนมันละเอียดลองขาน | ||
พบมันลองขอไหว้วาน | สบายกว่ากันมากเลย | ||
กระต่ายตรงไปหาแกะ | ตามแนะฟังเพื่อนเปิดเผย | ||
พวกกูกลัวมิอยากเอ่ย | หมามันชอบกัดแกะเรา | ||
ทันใดหมาป่ามาใกล้ | กลัวภัยด้วยความขลาดเขลา | ||
ออกวิ่งรวดเร็วมิเบา | รอดพ้นความตายปลอดภัย | ||
อันเพื่อนมากมวลที่มี | เพื่อนดีพึ่งพาอาศัย | ||
มีน้อยหายากกระไร | ส่วนใหม่มักเป็นเพื่อนกิน | ||
ทำการทำกิจน้อยใหญ่ | ครวญใคร่ทั้งศาสตร์และศิลป์ | ||
ลงมือทำเองยลยิน | มักเสร็จได้ด้วยปัญญา | ||
6. กวางกับเสือ | |||
กวางน้อยหากินในป่า | เล็มหญ้าใบไม้เสาะหา | ||
มินานพรานไพรผ่่านมา | เห็นท่าไม่ดีหนีไป | ||
นายพรานตามมิลดละ | สะกดรอยกวางอยู่ไหน | ||
มินานเห็นหลังไวไว | โลดไล่มิยอมเลิกรา | ||
กวางน้อยตกใจยิ่งนัก | หักหลบเข้าถ้ำผวา | ||
มิรู้เป็นถ้ำพยัคฆา | หน้าตั้งวิ่งมุดเข้าไป | ||
เสือโคร่งก็ตื่นตระหนก | ยกคอแอบดูสงสัย | ||
เออหนอนี่มันอะไร | หรือภัยวิ่งมาหาเรา | ||
ที่แท้ลูกกวางตัวจ้อย | เด็กน้อยช่วยให้คลายเหงา | ||
เอ็งจักเป็นอาหารเรา | ย่องเข้าตะครุบทันที | ||
ลูกกวางถึงกาลอวสาน | บันดาลคิดหาวิถี | ||
หมดสิ้นคงยากครานี้ | มิมีทางรอดใดเลย | ||
อันตรายมากมายนักหนอ | ถึงรออยู่นิ่งเฉยเฉย | ||
มัจจุราชเชิญรถมาเกย | ยามเผยให้เห็นสะพรึงกลัว | ||
ไม่เลือกเวลาเย็นเช้า | พบเข้ายามบ่ายน่าหัว | ||
ยามค่ำยามดึกใช่ชั่ว | อย่ามัวประมาทมัวเมา | ||
7. กวางป่ากับพุ่มไม้ | |||
กวางหนุ่มถูกพรานล่า | หลบหลีกกลางป่าขุนเขา | ||
วิ่งมาพบพุ่มไม้เก่า | ใบอ่อนแตกคลุมรำไร | ||
แวะหลบเช่นเคยดีแน่ | นายพรานเหลือบแลอยู่ไหน | ||
มิเห็นวิ่งผ่านเลยไป | กวางหนุ่มวางใจยินดี | ||
ยืนนานชักหิวมากนัก | หักกิ่งไม้เล็มตรงนี้ | ||
กำลังแตกใบมากมี | ยอดอ่อนรสเปรี้ยวปรีดา | ||
มินานพรานกลับทางเก่า | เห็นเข้าพุ่มไม้แลหา | ||
ทำไมใบหล่นแปลกตา | ที่แท้กวางหลบนั่นเอง | ||
ส่องปืนนัดเดียวกวางล้ม | สมใจเพราะกวางข่มเหง | ||
พุ่มไม้มีคุณมิเกรง | มัวกัดกินใบเสียเพลิน | ||
พุ่มไม้ใบมิดปิดบัง | มิได้ระวังขัดเขิน | ||
จนใบโปร่งบางง่ายเกิน | พรานเห็นดับดิ้นชีวา | ||
อันคนอกตัญญู | มิรู้คุณคนอื่นหนา | ||
มักมีเภทภัยบีฑา | เพราะว่าบาปกรรมตนแล | ||
8. กากับนกยูง | |||
ยายแก้วเรียกลูกมาพบ | นิทานอีสปพวกแก | ||
รีบมาอย่ามัวงอแง | เรื่องกาอยากเป็นนกยูง | ||
มันอยู่กลางป่ากลางดง | ทุกวันคงอยู่กับฝูง | ||
จิตใจมักอวดชักจูง | ลืมทุ่งลืมป่าดงดอน | ||
เห็นขนนกยูงสีสวย | งงงวยมนต์ขลังเฝ้าสอน | ||
ตัวข้ามีขนอรชร | งอนงามแบบนั้นคงดี | ||
ใครเห็นใครคงอิจฉา | เพราะงามสง่าราศี | ||
งามกว่ากาดงพงพี | ข้านี้สูงส่งเลิศลอย | ||
มันเที่ยวบินวนเลียบป่า | หาขนนกยูงใช้สอย | ||
เก็บมาเสียบแซมไม่น้อย | แพรวพรายดังพลอยเลื่อมงาม | ||
มันเที่ยวบินอวดนกอื่น | เขาตื่นแปลกใจไถ่ถาม | ||
นั่นตัวอะไรมองตาม | ยามมองงุนงงสงกา | ||
มันบินเข้าใกล้นกยูง | อยากอยู่กับฝูงเสาะหา | ||
เลียบเคียงเข้าใกล้เสวนา | บรรดานกยูงในใจ | ||
เจ้านี่อีกาตัวดำ | น่าขำแต่งขนแปลกไฉน | ||
ทำท่าเทียบเราเข้าใจ | จิกไล่หลีกพ้นคนจร | ||
โดนจิกด่าตีเจ็บปวด | รวดเร้าหลบจากสิงขร | ||
บินมาหาเพื่อนในดอน | เดือดร้อนหวังพึ่งพวกตน | ||
พวกกาจำได้หมอนี่ | อวดดีอวดเด่นสับสน | ||
รังเกียจพวกพ้องยากจน | ลนลานอยากเป็นนกงาม | ||
คงถูกขับไล่ไสส่ง | ตรงมาไม่ต้องไต่ถาม | ||
ขับไล่ให้ไกลทุกยาม | เขาตามจิกตีด่าทอ | ||
อันคนลืมตนลืมชาติ | ประหลาดเย่อหยิ่งนี่หนอ | ||
ใครเขารังเกียจเหล่ากอ | ไม่อยากพบพ้อสัมพันธ์ | ||
ดังกาใฝ่หงส์สูงศักดิ์ | มักอวดเขาเห็นเป็นขัน | ||
เพื่อนเก่าทอดทิ้งสำคัญ | มาดมั่นสูงไปอีกา | ||
9. กากับเหยือกน้ำ | |||
ยังมีอีกตัวตาดำ | เคราะห์กรรมบินไปในนา | ||
ยามแล้งแสงแดดเจิดจ้า | ร้อนจัดจนน่ารำคาญ | ||
นานเข้าก็ชักกระหาย | สายตาสอดส่องประสาน | ||
ห้วยหนองขาดน้ำมานาน | แห้งผากทุกแห่งเสียดาย | ||
แลเห็นกระท่อมกลางนา | แวะหาคงไม่เสียหาย | ||
อาจมีตุ่มน้ำผ่อนคลาย | หิวมากจวนจักเป็นลม | ||
มีตุ่มแต่ไม่มีน้ำ | ช้ำนักอีกาขื่นขม | ||
เห็นเหยือกอีกใบตาคม | แวบแวบในห้องชาวนา | ||
เลาะไปเห็นมีน้ำอยู่ | นิดหน่อยก้มดูหรรษา | ||
ก้มลงจักดื่มสักครา | เสียดายอยู่ลึกเกินไป | ||
มันคิดตรึกหาวิธี | พลันมีความคิดแจ่มใส่ | ||
บินหาหินคาบเอาได้ | วางใส่ลงเหยือกทดลอง | ||
หลายรอบหลายก้อนน้ำล้น | จนดื่มได้ตอบสนอง | ||
ไหวพริบปัญญาดังทอง | คุณค่ามากพ้นคณนา | ||
สั่งสมเอาไว้ดีนัก | ประจักษ์ยามสบปัญหา | ||
หากแม้นมากมีปัญญา | สามารถช่วยได้แน่เธอ | ||
10. ไก่แจ้กับเหยี่ยว | |||
ไก่แจ้หนุ่มน้อยสองตัว | ชอบมั่วแก่งแย่งกันเสมอ | ||
ถึงอยู่ด้วยกันยามเจอ | แกอย่ามาแย่งฉันซี | ||
ลานบ้านมันเขตของฉัน | เธอนั้นที่หลังกำแพง | ||
ต่างตัวต่างก็ไม่ยอม | พร้อมรบอย่ามากำแหง | ||
ที่สุดก็ต้องออกแรง | ทิ่มแทงด้วยเดือยจิกตี | ||
ตัวเล็กด้อยพลังพ่ายแพ้ | เจ็ดปวดนักแลถอยหนี | ||
แอบอยู่ไต้ถุนรอรี | เจ็บนี้ปวดนักร้าวราน | ||
ไก่แจ้ตัวใหญ่ชนะ | ประกาศก้องกูกล้าหาญ | ||
ชนะแย่งแดนสำราญ | เบิกบานโลกนี้ของกู | ||
โก่งคอขันเอ๊กอีเอ๊ก | เด็กเด็กหายไปไหนสู | ||
คนเก่งคนชนะมาดู | ยืนอยู่ที่ขอบกำแพง | ||
บัดดลเหยี่ยวใหญ่ผ่านมา | แลหาเห็นไก่กำแหง | ||
กำลังอวดเก่งอย่างแรง | เหยี่ยวโฉบสำแดงฤทธี | ||
จับไก่ไปกินโดยง่าย | มันตายเพราะอวดไม่หนี | ||
ตัวพ่ายออกมายินดี | ไม่มีคู่แข่งสบายใจ | ||
อันการแก่งแย่งทำการ | รำคาญคนชนะจะไข | ||
มักอวดเย่อหยิ่งกระไร | มักได้ดูหมิ่นดูแคลน | ||
บ่อยครั้งตั้งใจประมาท | พลาดพลั้งเสียหายหลายแสน | ||
ดังไก่เสียชีพเสียแดน | แม่นมั่นเย่อหยิ่งนั่นนา | ||
11. ไก่ชนกับหมาจิ้งจอก | |||
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง | มันถึงเล้าไก่แลหา | ||
ช่องทางจักเข้าไปคว้า | หาไก่มากินสักตัว | ||
เสียดายเขาทำมั่นคง | มันงงเดินวนเวียนหัว | ||
พวกไก่ต่างแตกตื่นกลัว | เห็นรั้วมั่นคงผ่อนคลาย | ||
ไก่ชนตัวหนึ่งบินร่อน | เกาะคอนบนรั้วใจหาย | ||
จิ้งจอกกระโจนลวดลาย | หมายจักจับมันทันใด | ||
มันโจนหลบลงที่เล้า | เพื่อนเขาล้อเลียนสงสัย | ||
จักจิกจิ้งจอกแล้วไซร้ | แล้วใยหลบหนีลงมา | ||
ไก่ชนบอกไม่ทันเห็น | ยากเย็นหลบจิ้งจอกหนา | ||
เมื่อก่อนมันเคยกัดข้า | คมเขี้ยวน่ากลัวจริงจริง | ||
ยอมรับว่ายังขี้ขลาด | มิอาจสู้มันชายหญิง | ||
ขออภัยยังไม่อยากทิ้ง | คอฉันให้มันคาบไป | ||
อันการยอมรับความขลาด | ฉลาดระวังสงสัย | ||
ผ่อนหนักผ่อนเบาเภทภัย | ดีกว่าอวดกล้าอวดดี | ||
บ้างก็ประมาทเลินเล่อ | ยามเจอเรื่องยากหลบหนี | ||
ปมาโทมัจจุโนปทังชี้ | สัจจธรรมจำไว้ดีเธอ | ||
12. ไก่ได้พลอย | |||
ไก่เอ๋ยเจ้าไก่แจ้ | งามแท้ท่วงท่าสง่าเสมอ | ||
ขนงามเลื่อมสลับได้เจอ | ขานขันละเมอจำเรียง | ||
เพราะพริ้งเอ๊กอีเอ๊กเอ๊ก | ดังเสกมนต์เสน่ห์เสนาะเสียง | ||
ไก่สาววิ่งหาคลอเคียง | จำเรียงจ๊ะจ๋าชื่นใจ | ||
ชวนกันผันผายขุดคุ้ย | เขี่ยลุยหากินตรงไหน | ||
ร่องรอยขุดหาคลุ้งไป | ฝุ่นได้ตลบอบอวล | ||
มินานสาวไก่กระต๊าก | หายากเพชรพลอยน่าสรวล | ||
เม็ดงามน้ำดีเนื้อนวล | ควรค่านับหมื่นทีเดียว | ||
กุ๊กกุ๊กทุกคนมาดู | งามหรูดูดีสีเขียว | ||
เขากลึงงดงามตามเกลียว | รีบเทียวมากันไวไว | ||
เจ้าหนุ่มวิ่งมาหยุดอยู่ | แลดูยังคงสงสัย | ||
งดงามมีค่าอันใด | ไม่อาจเทียบข้าวเปลือกเลย | ||
จักกินก็กินไม่ลง | คงเก็บไว้ดูเฉยเฉย | ||
ไร้ค่าไร้คุณสาวเอย | ข้าเคยพบพานมากมาย | ||
ฝูงไก่ผ่านเลยหากิน | ไม่ยินไม่ยลลับหาย | ||
อันคนบางคนหญิงชาย | คล้ายคล้ายกับไก่ได้พลอย | ||
พบพานสิ่งดีมีค่า | กลับมีปัญญาถดถอย | ||
แลเห็นมองเป็นเผือกกลอย | ค่าน้อยเลยมองข้ามไป | ||
ต่อผู้ปรีชาฉลาด | สามารถค่าควรขานไข | ||
รู้เลือกรู้สรรค์เร็วไว | ใช้สอยคุ้มค่าดูเป็น | ||
13. คนเดินทางกับต้นไม้ใหญ่ | |||
กลุ่มคนเดินทางกลางทุ่ง | มุ่งหาร่มไม้แลเห็น | ||
ลิบลิบตรงโน้นคงเย็น | หลบเร้นบังเงาเบาแรง | ||
สบายใจสนทนาพาที | หัวหน้าท่าทีกำแหง | ||
ยโสโอหังชี้แจง | ต้นไม้มันด้อยราคา | ||
หนามแหลมใบขมไร้ดอก | ยากบอกสรรพคุณนั่นหนา | ||
กิ่งก้านคดเคี้ยวไปมา | แลหาคุณมันไม่มี | ||
ต้นไม้รำคาญเลยบอก | อ้ายหอกคนไร้ศักดิ์ศรี | ||
กตัญญูกตเวที | เครื่องหมายคนดีทุกคน | ||
ได้รับบุญคุณจากใคร | รู้ไว้เป็นดีมิสับสน | ||
ตอบแทนเป็นศรีแก่ตน | แต่คนอย่างเธอแปลกไป | ||
อาศัยร่มเงาฉันแล้ว | ผ่องแผ้วดวงจิตสงใส | ||
กลับมานินทาฉันไย | อย่างนี้เรียกอกตัญญู | ||
เก่งจริงหลบไปลองที | จึงชี้ว่าเก่งอ้ายหนู | ||
มันออกจากร่มไม้ดู | ครู่เดียวลนลานกลับมา | ||
ร้อนมากเกินทนครับผม | แทบลมจับเจียวจริงหนา | ||
ขอโทษผมมันพวกบ้า | ไม่รู้คุณร่มมากมาย | ||
14. คนตกเบ็ดกับลูกปลา | |||
ชายหนุ่มเป็นนักตกปลา | นั่งรอแต่เช้าจนสาย | ||
เห็นปลามันมีมากมาย | มันแหวกว่ายมากมวลมี | ||
แต่ปลามิยอมติดเบ็ด | จนเอวเคล็ดน่าหน่ายหนี | ||
นั่งรอดูปลาท่าที | บ่ายคล้อยแล้วชักเหนื่อยใจ | ||
กำลังจะกลับไปบ้าน | สายเบ็ดพาลตึงสงสัย | ||
วิดเบ็ดขึ้นมาทันใด | ติดปลาตัวจ้อยนิดเดียว | ||
ปลาน้อยร่ำร้องวิงวอน | ฟังก่อนท่านผู้ฉลาดเฉลี่ยว | ||
ตัวข้ายังเด็กเล็กเชียว | เนื้อน้อยไม่พอต้มแกง | ||
ปล่อยข้าไปเถอะเจ้านาย | ภายหน้ายามข้ากำแหง | ||
เติบโตมีเรี่ยวมีแรง | จักมาให้จับอีกนาย | ||
เจ้าหนุ่มบอกว่าน่าฟัง | แต่ยังมิเชื่อโฉมฉาย | ||
ตัวเล็กตัวใหญ่วุ่นวาย | ภายหน้าหวังจับยากเย็น | ||
จับได้ตัวเล็กก็ปลา | ได้มาดีแล้วที่เห็น | ||
อดทนลำบากลำเค็ญ | จับได้แค่นี้พอใจ | ||
อันการหวังน้ำบ่อหน้า | จักหาพบเห็นฤาไฉน | ||
มักจักพลาดพลั้งผิดไป | ส่วนมากมากพลาดเคยยิน | ||
15. คนเรือแตกกับกวี | |||
ซีโมนิดกวีแห่งเอเธนส์ | เป็นผู้เชียวชาญเชิงศิลป์ | ||
กาพย์โคลงแต่งเป็นอาจิณ | ใครเห็นใครอ่านชื่นชม | ||
บ้านอยู่ที่เกาะซีออส | สุดยอดคนดีกวีสม | ||
รวยลาภรวยเกียรติชนนิยม | คารมเพราะพริ้งแพรวพราว | ||
คราวหนึ่งไปเที่ยวเอเซีย | อินเดียท่องไปไม่หนาว | ||
ชมบ้านชมเมืองเรื่องราว | วีรกรรมวีรชนสนใจ | ||
แต่งบทสดุดียกย่อง | ผู้ครองแผ่นดินถิ่นไหน | ||
ล้วนเป็นคนดีศิวิไลซ์ | กวีไขเกียรติขจรขจาย | ||
เจ้าเมืองชอบใจให้ลาภ | ซาบซึ้งโคลงกลอนเหลือหลาย | ||
เงินทองมากมีมากมาย | เสียดายห่างบ้านนานมา | ||
จองเรือเดินทะเลเร่ร่อน | จักจรคืนกลับเคหา | ||
ที่กรุงเอเธนส์แก้วตา | ภรรยาครอบครัวคอยรอ | ||
เรือพบพายุกระหน่ำ | เคราะห์กรรมเรือแตกแลหนอ | ||
ผู้คนตื่นกลัวยืนออ | บ้างขอเก็บเงินเก็บทอง | ||
เพชรนิลจินดาหายาก | ค่ามากยิ่งทรัพย์ทั้งผอง | ||
วุ่นวายหีบห่อจับจอง | ข้าวของพะรุงพะรัง | ||
แลเห็นกวีนิ่งอยู่ | มิรู้ถอดใจไร้หวัง | ||
ฤๅว่าตะลึงลืมคลัง | สมบัติเขายังมากมาย | ||
เขาบอกท่านกวีรีบเข้า | เก็บเอาเพชรนิลไว้ขาย | ||
เงินทองกระจัดกระจาย | ภายหน้าจักได้ใช้กัน | ||
กวีใหญ่ส่ายหน้าไม่ครับ | ไม่รับเงินทองพร้อมสรรพ์ | ||
ขอเพียงท่อนไม้สักอัน | โอบมันลอยคอในชล | ||
สมบัติเรามีในหัว | มิกลัวอดตายอย่าฉงน | ||
เตรียมตัวพี่น้องทุกคน | เรือวนเวียนล่มจมไป | ||
หลายคนหนักหีบสมบัติ | น้ำพัดยากว่ายจริงไฉน | ||
จมน้ำชีวันบรรลัย | เพราะใจโลภหลงเงินทอง | ||
บางคนขึ้นฝั่งพบโจร | เลยโดนปล้นจี้ทั้งผอง | ||
แก้วแหวนที่หวังครอบครอง | เลยต้องหมดตัวพอดี | ||
ส่วนเซโมนิดถูกปล้น | ถึงค้นก็ไม่หน่ายหนี | ||
ทรัพย์สินเงินทองไม่มี | โจรไว้ชีวีเมตตา | ||
นายโจรจำโมนิดได้ | กวีใหญ่เอเธนส์นี่หนา | ||
เคยอ่านผลงานท่านมา | ปรีดาได้พบท่านกวี | ||
ขอโทษล่วงเกินท่านไว้ | เพียงได้พบเห็นเป็นศรี | ||
จัดเลี้ยงขออภัยไมตรี | ยินดีถ้วนหน้าประชาชน | ||
ของขวัญหลั่งมามอบให้ | อยากได้ผลงานการกุศล | ||
บทกวีคำกลอนสอนผู้คน | แจกทุกตนทรัพย์กวีคือปรีชา | ||
อันกิเลสโลภหลงปลงลำบาก | อยากได้มั่งมีวาสนา | ||
สั่งสมเพชรนิลจินดา | จวบจนมรณามิปล่อยไป | ||
ส่วนทรัพย์ปัญญาพาฉลาด | สามารถทำการงานไหนไหน | ||
หนักเบาเสร็จสรรพเร็วไว | หาได้เงินทองมวลมี | ||
โจรปล้นวิชชายากนัก | ไม่หนักส่งเสริมเติมศรี | ||
สั่งสมปัญญาแหละดี | โบราณท่านชี้เลิศเลอ | ||
16. คนเลี้ยงแพะกับลูกเสื่อ | |||
กระทาชายนายหนึ่งเลี้ยงแพะ | ต้อนแวะริมทางเสมอ | ||
ทุ่งหญ้างอกงามที่เจอ | เพื่อนเกลอเลี้ยงแพะสบายดี | ||
วันหนึ่งเข้าไปในป่า | หาไม้ทำคอกวิถี | ||
เข้าไปป่าลึกมากมี | ตัดไม้มัดชี้เต็มเกวียน | ||
ขากลับจับได้ลูกเสือ | แปลกเหลือหลงมาพาเหียร | ||
วิ่งมาหาคนวนเวียน | จวนเจียนจักปล่อยทิ้งไป | ||
นำมาเลี้ยงดูที่บ้าน | มินานแข็งแรงไฉน | ||
มักสอนเสือทำจัญไร | ลักแพะมาให้ฆ่ากิน | ||
ชาวบ้านแพะหายบ่อยบ่อย | ไม่น้อยเสียหายทรัพย์สิน | ||
มิเคยมีใครยลยิน | มีโจรใจหินย่องเบา | ||
เวรยามชาวบ้านเร่งรัด | จัดรั้วแน่นหนาพวกเขา | ||
ปืนผาหน้าไม้หยิบเอา | มาเฝ้าแพะแกะปลอดภัย | ||
เสือหิวขโมยลำบาก | หิวมากหาช่องทางไหน | ||
ที่แท้แพะบ้านตนไง | มีให้จับกินมากมาย | ||
นับนานเจ้าของสังเกต | เหตุมีแพะแกะมันหาย | ||
ที่แท้เสืออันตราย | แยบคายแอบจับกินเอง | ||
อันคนคิดคดไม่ซื่อ | ถือเอาประโยชน์ข่มเหง | ||
เอาเปรียบคนอื่นนักเลง | มิเกรงกลัวเวรกลัวกรรม | ||
สุดท้ายอันตรายหวนกลับ | ทุกข์ทับตนเองน่าขำ | ||
การดีผลดีจงจำ | การชั่วจักช้ำตามมา | ||
17. คนเลี้ยงวัวกับวัวที่หายไป | |||
แม่วัวตัวหนึ่งหายไป | อยู่ไหนคนเลี้ยงตามหา | ||
ลัดเลาะไปตามราวป่า | ก็ยังมิเห็นแม้เงา | ||
พอดีมาถึงต้นไทร | นึกได้เทพแห่งป่าเขา | ||
คงช่วยเปลื้องทุกข์ให้เรา | จำลองบนบานดูที | ||
แวะไปกราบไหว้ต้นไทร | ท่านผู้เกรียงไกรทรงศรี | ||
ลูกช้างขอพึ่งบารมี | ช่วยชี้แม่วัวหายไป | ||
อยากเห็นเจ้าโจรตัวฉกาจ | บังอาจลักวัวสงสัย | ||
แม้นเจอจักจับมัดไว้ | เฆี่ยนให้สักห้าสิบที | ||
บัดดลพระไทรบันดาล | ให้พานพบวัวที่หนี | ||
พร้อมกับโจรร้ายทันที | ราชสีห์กำลังกัดวัว | ||
คนเลี้ยงหวาดกลัวตัวสั่น | พรั่นพรึงตอนมันกัดหัว | ||
ท่านเทพได้โปรดข้ากลัว | ไม่เอาอีกแล้วเรื่องโจร | ||
ขอเพียงรอดจากป่านี้ | บัดพลีระบำรำโขน | ||
แถมวัวตัวใหญ่จักโอน | ถวายท่านเทพเจ้าปราณี | ||
อันเทพบันดลบันดาล | หากท่านให้จริงนวลฉวี | ||
สูเจ้าคงขอมากมี | หาได้สิ้นสุดเพียงพอ | ||
ได้ของที่ชอบแย้มยิ้ม | อิ่มอกพึงใจเจียวหนอ | ||
ได้สิ่งน่ากลัวตัวงอ | ขอผ่านไม่เอากลัวลาน | ||
18. ความรักของนางแมว | |||
ความรักก็เหมือนโคถึก | พลังคึกดูไปห้าวหาญ | ||
กล้าคิดกล้าพร่ำสาบาน | กระทำได้ทุกเรื่องไป | ||
ยังมีนางแมวสีสวาด | มันฉลาดยิ่งมิสงสัย | ||
แต่แปลกเออหนอดวงใจ | เฝ้าหลงรักนายผู้ชาย | ||
หากแม้ฉันเป็นผู้หญิง | รักเป็นจริงได้ดังหมาย | ||
จักต้องได้แปลงรูปกาย | มิง่ายแมวเฝ้าตรึกตรอง | ||
จำต้องพึ่งเทพฤทธิ์ | ประสิทธิ์อาคมสมสนอง | ||
เสกให้เป็นหญิงรูปทอง | ผุดผ่องรูปพรรณพิไล | ||
แมวหง่าวดั้นด้นเสาะหา | เทวาท่านอยู่หนไหน | ||
บุกป่าฝ่าดงพงไพร | จนได้พบพานเทวดา | ||
วิงวอนกล่าวอ้างเหตุผล | จนเทพเสกให้หรรษา | ||
สาวแมวยินดีอำลา | กลับมาที่บ้านสมใจ | ||
เป็นคู่สู่สมชายหนุ่ม | รักรุมเร่าร้อนยิ่งไฉน | ||
คลอเคลียมิยอมห่างไกล | สาวแมวรักใครยอดชาย | ||
ผ่านไปนานวันเทพา | สงกานางแมวมิหาย | ||
นิสัยคงไม่กลับกลาย | จำต้องทดลองมันดู | ||
นางแมวกำลังเคลียคลอ | พะนอชายหนุ่มเห็นหนู | ||
มันวิ่งผ่านเข้าประตู | ลืมตัวกลายร่างทันที | ||
เป็นแมวไล่จับหนูหริ่ง | วิ่งไล่รอบห้องอย่าหนี | ||
เมี้ยวเมี้ยวไล่กวดเร็วรี่ | หนูหลบหายวับกับตา | ||
วิมานรักพังทลาย | ร่างกลายเป็นแมวแล้วหนา | ||
นิสัยดั้งเดิมเป็นมา | ลำบากยากจักเปลี่ยนไป | ||
ต้องฝึกอดทนอดกลั้น | ผูกพันจงเจตน์แก้ไข | ||
แน่วแน่จึงจักผ่านได้ | ขันติมั่นไว้ไตร่ตรองฯ | ||
19. จำอวดกับชาวเมือง | |||
เศรษฐีกรุงโรมใจดี | มีใจจักเฉลิมฉลอง | ||
เทศกาลรื่นเริงทำนอง | ป่าวร้องมีเล่นนานา | ||
อีกทั้งระบำจำอวด | ประกวดเล่นกันหรรษา | ||
มุขใหม่ดีเด่นบอกมา | ถ้าเก่งจักมีรางวัล | ||
ตลกจำอวดมากมาย | หญิงชายสมัครแข่งขัน | ||
ถึงคราประกวดประชัน | เล่นกันครึกครื้นรื่นรมย์ | ||
หลายสิบคณะผ่านไป | ยังมิมีใครเหมาะสม | ||
จักได้รางวัลไปชม | มีแต่มุขแบบธรรมดา | ||
ครั้นมีชายหนุ่มหนึ่งคน | บอกตนมุขแนวแปลกหนา | ||
ซ่อนหมูไว้ในอุรา | ให้ร้องออกมาตลกดี | ||
เขาเดินไปที่กลางวง | คนงงหมูไม่เห็นมี | ||
หนุ่มล้วงอกแล้วชี้ | ซ่อนไว้ตรงนี้คอยดู | ||
แกล้งร้องอู๊ดอู๊ดเหมือนมาก | คนต่างหลากจิตเสียงหมู | ||
บางคนขอค้นอยากรู้ | ไม่เห็นไม่มีแน่นอน | ||
ปรบมือยกย่องเขาเก่ง | เซ็งแซ่ทุกทิศสลอน | ||
ยกมือยกนิ้วบ้างวอน | ขอฟังอีกทีเป็นไร | ||
มีเสียงคัดค้านบอกว่า | ของข้าแน่กว่าฟังไหม | ||
ว่าแล้วกระโดดขึ้นไป | ทำเสียงอู๊ดอู๊ดอีกที | ||
เหมือนกว่าคนแรกแน่นอน | แต่ตอนเขาค้นจักหนี | ||
จับได้ล้วงพุงเจอดี | เพราะมีลูกหมูของจริง | ||
คนชมโห่ฮาดังลั่น | บ้างขันมากมายชายหญิง | ||
ดิ้นหลุดมาได้ออกวิ่ง | กลัวเขาไล่ทุบวุ่นวาย | ||
คนเรานี่มันก็แปลก | มิแยกมันต่างกันหลาย | ||
ของจริงของปลอมมากมาย | สมบัติมันแตกต่างกัน | ||
ชื่นชมของปลอมออกหน้า | ถึงคราของจริงขบขัน | ||
มันแปลกแต่จริงคนนั้น | เขาว่ามันบ้าเอาการ | ||
20. ชาวนากับงูเห่า | |||
ชาวนาใจดีหนึ่งคน | วางตนเมตตาสงสาร | ||
ช่วยคนช่วยสัตว์มานาน | ชาวบ้านยกย่องว่าดี | ||
วันหนึ่งไปตรวจนาข้าว | ยืดยาวหญ้ารกวิถี | ||
สองข้างคันนามากมี | แบบนี้ต้องถางมากมาย | ||
ถางหญ้ามินานพานพบ | งูเห่าหลบอยู่ใจหาย | ||
มันคงลอกคราบผิวกาย | อันตรายผิวบางลมเย็น | ||
จนทำให้มันเป็นเหน็บ | เจ็บปวดนอนนิ่งที่เห็น | ||
ชาวนาเห็นงูลำเค็ญ | อยากเป็นผู้ช่วยเมตตา | ||
โอเจ้านอนขดคงหนาว | ถึงคราวอบอุ่นแล้วหนา | ||
โอบอุ้มแนบอกปรีดา | หลับเถิดลูกยาสบายใจ | ||
งูเห่านอนซบอบอุ่น | โลหิตหมุนเวียนดีไฉน | ||
คืนสภาพปกติเร็วไว | เพราะมีไออุ่นชาวนา | ||
ดีใจเห็นงูขยับ | หวังจับจักปล่อยแลหา | ||
ตรงที่วางงูเมตตา | ทำท่าจักวางโดยพลัน | ||
งูเห่าตกใจฉกกัด | ชาวนาสะบัดหุนหัน | ||
งูเลื้อยหลบหายตรงนั้น | ชาวนาตัวสั่นปวดใจ | ||
พิษแผ่กระจายจนทั่ว | หน้ามืดตามัวปวดไฉน | ||
ที่สุดสิ้นลมจากไป | เพราะได้เมตตาเห่าดง | ||
อันคนจิตใจเป็นพาล | สันดานแก้ยากหากหลง | ||
ทำคุณเมตตามั่นคง | พึงปลงจิตไว้ก่อนเลย | ||
อาจได้โทษตอบแทนกลับ | ฉบับงูเห่าเปิดเผย | ||
แทนคุณชาวนาดังเคย | เอ่ยไว้เป็นเรื่องเป็นราว | ||
21. ชาวนากับสัตว์เลี้ยง | |||
หนุ่มใหญ่คนหนึ่งอยู่บ้าน | พายุพัดผ่านเหน็บหนาว | ||
ติดอยู่หลายเดือนยืดยาว | เสบียงร่อยหรอลำเค็ญ | ||
จำต้องเชือดแกะเอาเนื้อ | น่าเบื่อพายุที่เห็น | ||
ทำไมหยุดยากหยุดเย็น | หลายวันเนื้อแกะหมดไป | ||
เสียดายจำต้องฆ่าแพะ | ชำแหละเอาเนื้อเถือไข | ||
เป็นเสบียงยามวาตภัย | ผ่านไปอีกเดือนหมดลง | ||
เหลือวัวอีกตัวต้องฆ่า | พายุมันชวนพิศวง | ||
ยังพัดอีกนานมั่นคง | จงใจทำร้ายชาวนา | ||
สุนัขสองตัวเลี้ยงไว้ | ได้เห็นเรื่องราวปรึกษา | ||
สัตว์เลี้ยงที่รักถูกฆ่า | แล้วหมาจักรอดฉันใด | ||
ขืนอยู่ก็คงตายแน่ | เว้นแต่จักหลบดีไหม | ||
พวกเรามาลองเสี่ยงภัย | ไปตายดาบหน้าเถอะเรา | ||
สองหมาพากันหลบหลีก | ปลีกตัวไปในขุนเขา | ||
เลยรอดภัยหนักเป็นเบา | ดีกว่านั่งรอความตาย | ||
ยามรู้อุปสรรคปัญหา | ปัญญาแก้ไขไม่สาย | ||
หนักเบาแก้ได้ไม่วาย | ผ่อนคลายด้วยสติชาญเชาวน์ | ||
22. ชาวนากับสิงโต | |||
ชาวนาเห็นราชสีห์ | หลงมาที่บ้านของเขา | ||
อยากมีสัตว์สวยมิเบา | ท่าทางสง่าน่าชม | ||
ให้มันอยู่ที่บ้านนี้ | คงดีคิดว่าเหมาะสม | ||
มีบุญมากหนานิยม | เลี้ยงอย่างสิงโตพึงใจ | ||
ต้องขังมันเกรงหลบหนี | ทุกที่ทุกทางอย่างไหน | ||
เสริมรั้วมั่นคงจงใจ | ปิดทางหลบหนีทุกทาง | ||
มันเดินวนเวียนไปมา | หาช่องออกล้วนถูกขวาง | ||
ชักหิวเห็นวัวเป็นกวาง | ล้มวัวกัดกินสบายใจ | ||
วันหลังก็จับแพแกะ | กัดแทะอร่อยไฉน | ||
ชาวนาเพิ่งเห็นเภทภัย | รีบปล่อยมันไปโดยดี | ||
นั่งบ่นเสียดายสัตว์เลี้ยง | เมียเถียงไม่เชื่อนวลฉวี | ||
ใครบอกให้ขังตัวกาลี | อัปรีย์กินหัวแกเอง | ||
การคบคนพาลหรือโจร | เหมือนโอนเภทภัยข่มเหง | ||
มิเคยรู้จักกริ่งเกรง | นำมาแต่เหตุเภทภัย | ||
23. ชาวไร่กับนกกระเรียน | |||
ชาวไร่ปลูกถั่วปลูกงา | เวลางอกงามดีไฉน | ||
ติดดอกติดผลทั่วไร่ | หนักใจนกกามากมี | ||
ทำหุ่นไล่กาหลายตัว | มันยังมิกลัวมิหนี | ||
ไปหาซื้อแร้วเร็วรี่ | มาดักหลายที่คอยรอ | ||
รุ่งขึ้นไปดูกู้แร้ว | ตามแนวที่ดักจริงหนอ | ||
มีนกติดแร้วมากพอ | ทำเป็นอาหารหลายวัน | ||
มีนกกะเรียนหนึ่งตัว | กลัวตายวิงวอนว่าฉัน | ||
มิเคยกินถั่วงานั้น | อย่าฆ่าเราเลยท่านนาย | ||
ชาวไร่บอกเราจับได้ | ในเขตหวงห้ามมันสาย | ||
มิเคยปล่อยให้รอดตาย | ทำลายพืชพันธุ์ของเรา | ||
อันคนเกลือกกลั้วคนพาล | สันดานดีชั่วเก่งเขลา | ||
ดูยากแยกยากไม่เบา | ถูกเหมาเป็นพาลด้วยกัน | ||
ยามถูกนินทาว่ากล่าว | เรื่องราวมิดีพร้อมสรรพ์ | ||
ย่อมรวมกับเขาด้วยพลัน | มันด่ากราดทั่วพวกพาล | ||
24. ชาวสวนกับลูก | |||
ชาวสวนมีลูกสามคน | ถึงจนแต่ขยันทำงาน | ||
ฐานะพออยู่สำราญ | บ้านช่องมีเป็นของตน | ||
นานเข้าชาวสวนคิดหนัก | ยามจักล่วงลับสับสน | ||
เป็นห่วงลูกยาทุกคน | ผูกกลสั่งสอนแยบคาย | ||
เรียกลูกมาพร้อมหน้ากัน | วันนี้พ่อดีใจหลาย | ||
ลูกรักทุกคนเป็นชาย | แม้นพ่อตายไปจงฟัง | ||
สมบัติอยู่ใต้ร่องสวน | ชวนกันไปดูด้านหลัง | ||
ขุดเอาขึ้นมาระวัง | พ่อสั่งจำไว้ให้ดี | ||
มินานชาวสวนสิ้นใจ | ทุกคนจำได้วิถี | ||
สมบัติฝังดินคงมี | พ่อชี้ร่องสวนทุกคน | ||
ต่างคนต่างขุดร่องสวน | ยวนใจสมบัติสับสน | ||
ขุดมาสามรอบกังวล | จนใจไม่เห็นเงินทอง | ||
แปลกนักพ่อไม่โกหก | ตกใจไม่พบทั้งผอง | ||
หยุดคุ้ยมานึกตรึกตรอง | ยังมองไม่เห็นช่องทาง | ||
เรือกสวนพืชพันธุ์แตกกิ่ง | ทิ้งดอกออกช่องสะสาง | ||
เต็มสวนงดงามทุกอย่าง | เก็บขายได้เงินทุกวัน | ||
เงินทองไหลเข้ามิขาด | สามารถเก็บออมพร้อมสรรพ์ | ||
มินานรู้เลศสำคัญ | พ่อสอนให้ขยันทำการ | ||
ความฉลาดความโง่ก็ดี | หากมีความขยันอาจหาญ | ||
ตั้งใจประพฤติทำงาน | บันดาลสำเร็จผลดี | ||
ขอเพียงซื่อสัตย์สุจริต | รู้คิดมิยอมหน่ายหนี | ||
งานหนักงานเบาทุกที | เป็นศรีสง่าน่านิยม | ||
25. เด็กกับลูกเกาลัด | |||
อ้ายหนูผมจุกคนหนึ่ง | ตะลึงขวดโหลขนม | ||
แม่ใส่เกาลัดเปิดดม | สุกแล้วหอมหวนโอ้โฮ | ||
แกล้วงกอบเต็มกำมือ | แล้วยื้อติดปากขวดโหล | ||
ดึงดันอยู่นานอาโก | ผ่านมาเห็นเข้าชอบใจ | ||
อ้ายจุกเอ็งอย่าโลภมาก | ลำบากปล่อยมือดีไหม | ||
หยิบทีสามลูกพอได้ | หยิบหลายหลายครั้งง่ายดี | ||
ได้คิดทำตามอาโก | พิโธ่หยิบง่ายดีหลี | ||
อันคนความคิดโลภมี | มักเป็นอุปสรรคการงาน | ||
หลายกิจต้องทำช้าช้า | เวลานับเนิ่นกิจการ | ||
ผลิดอกออกผลเบ่งบาน | หาใช่เร่งวันเวลา | ||
อย่างเช่นสูเจ้าทำสวน | กระบวนหลายเดือนเขียวหนา | ||
พืชผักเพาะลงเป็นกล้า | ผ่านมาเป็นเดือนเป็นปี | ||
ใจร้อนเร่งรัดมิได้ | ทำไปวิริยะวิถี | ||
มินานก็เสร็จพอดี | โบราณชี้ใจเย็นเย็น | ||
โลภทำการใหญ่ลำบาก | มันหากขวางกิจยากเข็น | ||
ค่อยคิดค่อยทำควรเป็น | มินานผลเสร็จได้เจอ | ||
26. เด็กจับตั๊กแตน | |||
เด็กน้อยตัวจ้อยผมจุก | ซุกซนคะนองเสมอ | ||
ใจร้ายกับสัตว์ที่เจอ | มิเผลอรังแกร่ำไป | ||
เจ้าตูบโดนเตะประจำ | ทำร้ายสุนัขสงสัย | ||
เดินผ่านงัวควายชอบใจ | หักไม้เฆี่ยนตีรื่นรมย์ | ||
วันหนึ่งเจ้าจุกลุกเดิน | เพลิดเพลินกลางสนามสุขสม | ||
โลดไล่ตั๊กแตนเล่นลม | ชื่นชมจับได้มากมาย | ||
ใส่ถุงขังไว้หลายตัว | ใจมัวมืดมนเหลือหลาย | ||
พอใจข่มเหงสัตย์กลาย | เป็นคนใจร้ายใจดำ | ||
สักครูแมลงป่องน้อย | ตัวจ้อยจุกเห็นก็ขำ | ||
กระโดดตะครุบเต็มกำ | จำเรียงแมงป่องท้าทาย | ||
เหวยเหวยเจ้าเด็กเกเร | อุเหม่มึงอยากฉิบหาย | ||
มาต้องตัวข้าตาลาย | จักหาที่ตายหรือไร | ||
ตัวข้าผิดแผกตั๊กแตน | แม้นต้องตัวข้าสงสัย | ||
เอ็งอาจร่ำร้องร่ำไร | ร้องไห้ปางตายเชียวนา | ||
ตั๊กแตนมากมายที่จับ | หายวับระวังกังขา | ||
หลบไปข้ายังเมตตา | หาไม่ข้าสู้ไม่กลัว | ||
เด็กจ้อยมิสนตะปบ | โดนขบต่อยปวดเจ็บตัว | ||
ทิ้งถุงปวดสั่นระรัว | ร้องไห้เป็นวักเป็นเวร | ||
อันคนผู้มีอำนาจ | อาจข่มคนด้อยเคยเห็น | ||
พวกมันหวั่นหวาดเพราะเป็น | เพียงชั่วขลาดเขลาเบาปัญญา | ||
หากพบคนจริงคนเก่ง | ข่มเหงมิได้ดอกหนา | ||
ขืนพาลสุ่มสี่สุ่มห้า | จักพาเจ็บปวดเจียนตาย ฯ | ||
27. เด็กเลี้ยงแกะ | |||
มีเด็กเลี้ยงแกะหนึ่งคน | ชอบกลเจ้าเล่ห์เหลือหลาย | ||
ชอบแกล้งคนอื่นวุ่นว่าย | พอใจหลอกได้ยินดี | ||
คราวหนึ่งต้อนแกะไปเลี้ยง | มองเมียงไปตามวิถี | ||
ทำเลใกล้ป่าพอดี | อีกด้านก็เป็นทุ่งนา | ||
ปล่อยแกะแล้วออกเดินเล่น | ลมเย็นกลางทุ่งแลหา | ||
พวกคนกำลังหอบกล้า | ปักดำคร่ำเคร่งทำงาน | ||
ผู้คนกำลังเมื่อยล้า | ถ้าได้ตื่นเต้นฮึกหาญ | ||
สนุกแน่นอนคิดการ | หาเรื่องหลอกเขาคงดี | ||
จักได้ลืมความเหน็ดเหนื่อย | คิดเรื่อยจนเห็นวิถี | ||
จึงร้องช่วยด้วยน้องพี่ | หมาป่าไล่แกะฉันไป | ||
ชาวนานับสิบยินเสียง | สำเนียงเด็กร้องสงสัย | ||
หมาป่ากัดแกะเภทภัย | จำต้องไปช่วยด้วยกัน | ||
หยุดงานวิ่งมาจักช่วย | ฉวยได้มีดไม้พร้อมสรรพ | ||
มาถึงถามหาหมามัน | อยู่ไหนพวกฉันจัดการ | ||
เด็กน้อยปรบมือหัวร่อ | คุณพ่อคุณพี่ขอขาน | ||
ฉันเห็นเหน็ดเหนื่อยทำงาน | เลยหาเรื่องสนุกให้ทำ | ||
เห็นวิ่งหน้าตั้งคงสนุก | หมดทุกข์หายเหนื่อยน่าขำ | ||
หมาป่าหนีแล้วแหละกรรม | มันคงหวาดกลัวรีบไป | ||
หลายคนก่นด่าเด็กผี | พาทีโกหกสงสัย | ||
พ่อแม่มิสอนหรือไร | หลอกให้เสียการเสียงาน | ||
หลายวันเลี้ยงแกะเช่นเคย | ละเลยมัวเล่นสนุกสนาน | ||
หมาป่ามันมาพบพาน | ฝูงแกะไล่กัดล้มตาย | ||
เด็กน้อยวิ่งไปทุ่งนา | ลุงป้าช่วยด้วยฉิบหาย | ||
หมาป่ากัดแกะวุ่นวาย | ช่วยด้วยย่ำแย่จริงเจียว | ||
ชาวนาหัวร่ออ้ายหนู | อย่ามาหลอกกูให้เสียว | ||
มิเชื่อน้ำคำมึงเชียว | พวกเราทำงานต่อไป | ||
หมดท่าเสียแกะมากมาย | วอดวายเสียสัตย์ขานไข | ||
โป้ปดมดเท็จจัญไร | ใครเขาจักเชื่อน้ำคำ | ||
อันคนที่เสียสัจจะ | ตระบัดบ่อยจนถลำ | ||
ถึงคราวพูดจริงจักช้ำ | มิมีคนเชื่อจัญไร | ||
28. ต้นไทรกับต้นอ้อ | |||
คราวหนึ่งพายุแรงจัด | พัดหมุนผ่านมาป่าใหญ่ | ||
รุนแรงขนาดต้นไทร | หักโค่นลอยในน้ำวน | ||
มินานมาติดพงแขม | แซมกอริมฝั่งฉงน | ||
ลมแรงพัดมาใยทน | หลุดพ้นอยู่ได้ทั้งมวล | ||
จึงเอ่ยปากถามคุณแขม | แย้มหน่อยยามลมพัดหวน | ||
เมื่อคืนข้าโดนมันป่วน | ดินร่วนถอนรากถอนโคน | ||
ล้มลงลอยน้ำลำธาร | ยากจัดทัดทานหิ้วโหน | ||
ลดเลี้ยวเร่รอนกระโจน | ฟองน้ำฟาดโยนไปมา | ||
กระทั่งพบพานพวกท่าน | ขอวานช่อยตอบปัญหา | ||
เหตุใดพวกท่านนานา | มีพายุยังปลอดภัย | ||
พงแขมแย้มคำบอกเล่า | ลมเบาลมแรงมิสงสัย | ||
พวกเรารู้แจ้งแก่ใจ | ทำให้ต้นอ่อนลู่ลม | ||
ลมพัดผ่านได้โดยง่าย | สบายอยู่ดีสุขสม | ||
หาไม่ก็คงล่มจม | นิยมเช่นนี้มานาน | ||
อันคนที่แข็งกระด้าง | มักร้างไมตรีที่ขาน | ||
แตกหักเสียกิจเสียการ | ทุกข์ทนลนลานมาเยือน | ||
สวนผู้นอบน้อมถ่อมตน | ผู้คนรักใคร่หาใดเหมือน | ||
ช่วยกิจมิเคยละเลือน | มีเพื่อนพวกพ้องสบายดี | ||
29. ต้นสนกับต้นฉำฉา | |||
ในป่านานาพืชพันธุ์ | แมกไม้มันมากมวลมี | ||
ทุกพรรณงอกงามทุกที่ | ทรงคุณแตกต่างกันไป | ||
ต้นเล็กคลุมดินดูเด่น | ร่มเงาเย็นมิสงสัย | ||
ต้นสูงบังแดดเอาไว้ | ธรรมชาติต่างเอื้ออวยกัน | ||
คุณค่าแมกไม้ต่างมี | ความเด่นดีเทพเสกสรรค์ | ||
ลางเป็นหยูกยาสำคัญ | แก้โรคได้สรรพคุณ | ||
ทำสีหยูกยาสารพัด | บ้างขจัดพวกกลิ่นเฉียวฉุน | ||
ไล่มดแมลงมีคุณ | หลายชนิดลวดลายงามดี | ||
บางพวกงามมากตรงแก่น | ค่าหมื่นค่าแสนตามวิถี | ||
คราวหนึ่งพืชในวนา | สนป่าเอ่ยอ้างอวดตน | ||
คุยข่มพวกไม้ฉำฉา | เองด้อยค่าในไพรสณฑ์ | ||
กิ่งก้านเปราะบางเสียจน | ต้องลมพัดหักง่ายดาย | ||
ทรงพุ่มก็ดูเกะกะ | กิ่งก้านระมักเสียหาย | ||
เนื้อในก็มิมีลาย | แกด้อยค่าเสียจริงเจียว | ||
ดูฉันซิดีแข็งแรง | ลำต้นแกร่งเนื้อในเหนียว | ||
รูปทรงพุ่มชูดูเพรียว | ยามต้องลมเอนลู่งาม | ||
เสียงสนเพราะพริ้งนัก | เธอรู้จักในโลกสาม | ||
เสียงสนไพเราทุกยาม | โอ้สนเราค่าควรการ | ||
ฉำฉาชื่นชมคำสน | ฉันจนปัญญาไขขาน | ||
เป็นจริงดังว่ามานาน | แต่วานฟังคำฉันที | ||
ถึงฉันด้อยค่าพอใจ | เภทภัยมักห่างวิถี | ||
เติบโตสุขเกษมเปรมปรีดิ์ | สุขดีตามสภาพพึงใจ | ||
ยามที่ชาวบ้านเข้าป่า | หาดูเสาเรือนต้นไหน | ||
คานตงขื่อเคร่าต้นอะไร | เหมาะที่จักใช้การงาน | ||
ทุกคนคงเล็งต้นสน | ตัดจนหมดป่าข้าขาน | ||
ข้าคงมิอิจฉาพวกท่าน | เชิญให้เบิกบานต่อไป | ||
อันคนที่ค่าสูงส่ง | ฐานะมั่นคงเป็นไฉน | ||
มักมีศัตรูเภทภัย | แผ้วพานมิเว้นคืนวัน | ||
ส่วนพวกต่ำต้อยด้อยศักดิ์ | มักอยู่สุขสบายพร้อมสรรพ | ||
ศัตรูมิเห็นสำคัญ | สุขสันต์สำเริงสำราญ | ||
30. เต่ากับเป็ดป่า | |||
คุณเต่าตัวหนึ่งช่างคิด | มีจิตทะเยอทะยาน | ||
มันคิดคำนึงห้าวหาญ | บินผ่านบนฟ้าคงดี | ||
คงเป็นหนึ่งเดียวในโลก | สบโชคสง่าราศี | ||
ใครใครคงชมมากมี | ยอดเต่าเก่งกล้าชำนาญ | ||
แต่ปีกเราไม่มีหรอก | ต้องบอกนกกาไขขาน | ||
คบหาเป็นเพื่อนวอนวาน | เขาช่วยคงเสร็จสมใจ | ||
มันคอยผูกมิตรเป็ดป่า | เวลานับนานไฉน | ||
มีเพื่อนคุณเป็ดจนได้ | แล้วมันก็กล่าววิงวอน | ||
นี่แน่ะคุณเป็ดเพื่อนรัก | เพื่อนมักบินบนช่วยสอน | ||
ยามอยูบนฟ้าคงร้อน | เพราะใกล้ตะวันกว่าเรา | ||
เป็ดว่ามิร้อนดอกแก | ยามแลลงมาขุนเขา | ||
ทุ่งนาป้าไม้งามเงา | งามเงื่อนสวรรค์จำลอง | ||
เต่าว่าฉันอยากจะเห็น | ยากเย็นวอนเพื่อนสนอง | ||
พาขึ้นบินบนอยากมอง | มันสวยแค่ไหนเพื่อนยา | ||
มันหาไม้มาหนึ่งท่อน | เป็ดวอนคาบให้ดีหนา | ||
สองตัวช่วยกันนำพา | หามเต่าบินบนสมใจ | ||
หนักนักบินสูงลำบาก | สัตว์ป่าหากเห็นสงสัย | ||
เฮ้ยเต่าเหาะเหิรยังไง | แปลกใจมาดูพวกเรา | ||
คุณเต่าภูมิใจนักหนา | สัตว์ป่าพวกนี้มันเขลา | ||
อ้าปากด่าพวกงี่เง่า | ฉันเต่าผู้มีปรีชา | ||
ปากหลุดท่อนไม้ร่วงหล่น | กระทบบนแผ่นหินผา | ||
กระดองกระจายมรณา | อนิจจาความโง่ไม่ปราณี | ||
ถึงได้ลาภรวยยศศักดิ์ | ก็มักจำต้องห่างหนี | ||
มิอาจครอบครองนานปี | ไม่มีสำรวมระวัง | ||
เสื่อมลาภเสื่อมยศจนได้ | เพราะไม่มีศีลหมดขล้ง | ||
จาดธรรมกะลีประดัง | ทับถมติดตามดังเงา | ||
31. ท้องกับตัว | |||
อดีตกาลนานมา | เขาว่าอวัยวะคนเรา | ||
สามารถพูดคุยกันเบาเบา | มีเรื่องบอกเล่ากันมา | ||
คราวหนึ่งมันมีเรื่องกัน | ยืนยันใครทำงานหนา | ||
งานหนักงานเบาเจรจา | ผมว่าฉันร้อนกว่าใคร | ||
บังแดดแผดเผากลางแจ้ง | หัวแย้งคิดยากไฉน | ||
หูฟังสื่อเสียงใดใด | ตาใคร่อยากรู้ดูเอา | ||
ปากพูดบอกกล่าวคนอื่น | ฟันฝืนขบเคี้ยวงานเขา | ||
ขาแบกพาเดินไม่เบา | มือเจ้าหยิบจับทุกอัน | ||
ท้องว่าข้าก็มิรู้ | นอนอยู่นึกไปก็ขัน | ||
พวกสูต้องช่วยทั้งวัน | งานฉันจึงจักดำเนิน | ||
สรุปทุกคนงานหนัก | ได้พักคือท้องมิเขิน | ||
เอาเปรียบคนอื่นเหลือเกิน | แต่นี้ไปเชิญตามสบาย | ||
ทุกส่วนประท้วงหยุดงาน | ประสานยากนักใจหาย | ||
หัวไม่ยอมคิดวุ่นวาย | ขาไม่ยอมกรายไม่เดิน | ||
แขนไม่ยอมจับอาหาร | ฟันพาลไม่เคี้ยวขัดเขิน | ||
ท้องขาดอาหารหิวเกิน | ดำเนินสามวันตาลาย | ||
ทุกส่วนหิวโหยหมดแรง | จำต้องแจ้งความเสียหาย | ||
ประชุมของจงกลับกลาย | สื่อสายสัมพันธ์ดังเดิม | ||
อันกลุ่มประชุมร่างกาย | ล้วนมีความหมายส่งเสริม | ||
สนับสนุนต่อกันพูนเพิ่ม | ต่อเติมให้มีพลังงาน | ||
หากมีอึดอัดขัดแย้ง | ดังแกล้งตัดทอนประสาน | ||
ย่อหย่อนพลังทำงาน | การง่ายกลับยากเสมอมา | ||
32. เทพารักษ์กับคนขับเกวียน | |||
ชายหนุ่มขับเกวียนกลับบ้าน | ผ่านป่าขุนเขาดงหนา | ||
ข้ามห้วยหลายแห่งผ่านมา | หนทางทุรกันดาร | ||
มินานก็เจอหล่มลึก | โคถึกออกแรงสงสาร | ||
เกวียนมิเขยื้อนเนิ่นนาน | จวบจวนค่ำมืดน่ากลัว | ||
เสือสางออกมาหากิน | ดับดิ้นแน่ตูยามสลัว | ||
ภูตผีที่มองมิเห็นตัว | คงออกหากินมากมาย | ||
หวาดหวั่นไหว้วอนเทพา | ช่วยข้าด้วยเถิดใจหาย | ||
หากมืดกลางดงคงตาย | น่ากลัวเหลือหลายเจ้าประคุณ | ||
ชายหนุ่มวิงวอนเทพเจ้า | โปรดเข้ามาช่วยเอาบุญ | ||
ขอบนข้าวของเจือจุน | ข้าวปลาอาหารมากมี | ||
เทพารักษ์ปรากฏกาย | วุ่นวายบนบานบายศรี | ||
อ้อนวอนเสียเวลานาที | ทำไมไม่โกยโคลนเธอ | ||
เอาท่อนไม้มารองเข้า | ตัวเจ้าแบกคานให้เสมอ | ||
ตีวัวให้ลากอย่าเซ่อ | ออกแรงดันด้วยช่วยกัน | ||
ชายหนุ่มทำตามที่แนะ | แหละแล้วเกวียนเคลื่อนพร้อมสรรค์ | ||
ดีใจจักกราบเทพพลัน | หายวับไปแล้วเสียดาย | ||
ยามมีอุปสรรค์ปัญหา | พึงใช้ปัญญาหลากหลาย | ||
ช่วยตนนั่นดีมากมาย | ดีกว่ากราบไหว้วอนเวียน | ||
33. เหยี่ยวกับกระต่ายตื่นตูม | |||
นกเหยี่ยวเที่ยวหากิน | มันบินบนนับพาเหียร | ||
นกหนูเคยแวะเวียน | จับกินได้หายากเย็น | ||
ร่อนมาแถบชายป่า | ประจักษ์ตาที่แลเห็น | ||
กระต่ายมันวิ่งเล่น | ล้วนอวบอ้วนน่ากินดี | ||
โฉบลงหวังจักจับ | มันหายวับคงหลบหนี | ||
ไปไหนมิเห็นมี | ป่าบังแลโล่งแปลกใจ | ||
หลายครั้งพยเห็นเช่นเดิม | มันเพิ่มสังเกตอันใด | ||
มีรูหลบซ่อนนั่นไง | หลบภัยกระต่ายพวกมัน | ||
อืมที่แท้เป็นเช่นนี้ | ยามภัยมีก็น่าขัน | ||
วิ่งหนีอย่างเร็วพลัน | จนลืมหลุมที่หลบภัย | ||
แบบนี้ต้องหลอกกระต่าย | คงจับง่ายมิสงสัย | ||
แกล้งร้องประกาศไป | ไฟไหม้ป่ามาโน้นดู | ||
กระต่างตื่นตกใจ | นึกว่าไฟยินเต็มหู | ||
ออกวิ่งจนลืมรู | บ้างตกน้ำลงลอยคอ | ||
เหยี่ยวโฉบจับง่ายดาย | ถึงวอดวายแล้วซิหนอ | ||
สติยั้งไม่เพียงพอ | ยากหลบภัยปมาโท | ||
ประมาทภัยร้ายแรง | ใช่จักแช่งให้โมโห | ||
ภาษิตมัจจุโน | เพราะประมาทมีมากมาย | ||
34. เทพารักษ์กับคนตัดไม้ | |||
เจ้าหนุ่มบ้านป่าชาวไร่ | ตัดไม้ทำฟืนค้าขาย | ||
ขยันซื่อสัตย์สมชาย | ลำบากกายใจซื่อตรง | ||
งานหนักเงินน้อยอดออม | ยอมทำการหนักพิศวง | ||
ขับเกวียนเข้าไปในดง | คงหาตัดฟืนคืองาน | ||
วันหนึ่งอาวุธหลุดมือ | ก็คือเครื่องตัดนามขวาน | ||
หล่นลงตรงกลางลำธาร | เนิ่นนานนั่งเฝ้าเศร้าใจ | ||
อยากลงว่ายน้ำมิเป็น | ลำเค็ญนักทำไฉน | ||
ลองวอนเทพท่านท้าวไทร | โปรดได้เมตตาปราณี | ||
พระไทรสงสารปรากฏ | กำหนดงมขวานสดสี | ||
ขวานทองใช่ไหมเล่มนี้ | หนุ่มชี้ไม่ใช่ของตน | ||
งมใหม่ขวานเงินจงดู | ของสูใช่แน่ฉงน | ||
หนุ่มบอกไม่ใช่ลองค้น | ลนลานกราบไหว้เมตตา | ||
พระไทรงมขวานของแท้ | หนุ่มบอกใช่แน่นี่หนา | ||
คือขวานเล่มจริงของข้า | เทวาได้ช่วยเอ็นดู | ||
พระไทรรู้มันสัตย์ซื่อ | บอกให้จงถือเอาหนู | ||
สองเล่มยกให้จงรู้ | ชื่นชูเจ้าซื่อสัตย์จริง | ||
กลับบ้านเขาลือกันทั่ว | ชายชั่วสนใจสุงสิง | ||
แอบถามทำไมช่วงชิง | ยิ่งขวานเงินทองได้มา | ||
ชายหนุ่มเล่าเรื่องหมดสิ้น | ชายชั่วยินดีนักหนา | ||
วางแผนตัดฟืนในป่า | ถึงคราโยนขวานทิ้งไป | ||
ทำท่าละห้อยสร้อยเศร้า | วอนเขาท่านเทพอยู่ไหน | ||
รีบมาช่วยข้าเร็วไว | พระไทรปรากฏกายมี | ||
งมเอาขวานทองส่งให้ | คงใช่ของเจ้าดูถี | ||
ชายชั่วรับคำเล่มนี้ | ชี้ชัดคือขวานข้าเอง | ||
พระไทรหัวเราะชอบใจ | เจ้าไม่สัตย์ซื่อข่มเหง | ||
จิตใจชอบกลนักเลง | มิเกรงมิกลัวเราเลย | ||
ขวานทองเราก็มิให้ | เจ้าได้ทิ้งขวานเฉยเฉย | ||
มิช่วยงมให้ดังเคย | สังเวยโลภมากลากไป | ||
เสียการเสียขวานเสียชื่อ | เขาลือมากคงสงสัย | ||
โลภมากขวานทองอยากได้ | เทพไทรู้ทันด่าเอา | ||
บอกเจ้ามิได้สัตย์ซื่อ | อย่าถือขวานทองคนเขลา | ||
ขวานหล่นโยนลงเองเจ้า | งมเองอยากได้คืนมา | ||
เพราะโลภลาภเลยหลุดหาย | เสียดายทิ้งขวานอีกหนา | ||
ซื่อสัตย์ดีกว่าท่านว่า | โลภมากลาภหายเสียใจ | ||
35. นกกระจาบกับชาวนา | |||
นางนกกระจาบทำรัง | หวังยึดกอข้าวอาศัย | ||
ทำรังฟักลูกนานไป | ดีใจลูกน้อยเกิดมา | ||
นับวันลูกก็เติบโต | โวเวคุยกันนั่นหนา | ||
ลูกนกกระจาบเล่าว่า | ชาวนาจะเก็บเกี่ยวกัน | ||
ชิงเล่ายามแม่กลับรัง | ฟังข่าวลูกนกแข่งขัน | ||
บอกเล่าเรื่องราวทุกวัน | อยู่รังกอข้าวพบอะไร | ||
ถัดมาแม่นกก็รู้ | หนูน้อยบอกมิสงสัย | ||
เขาจักเกี่ยวข้าวแน่ใจ | กำลังไหว้วานเพื่อนกัน | ||
ชวนมาลงแขกเกี่ยวข้าว | เรื่องราวแบบนี้ไม่ขัน | ||
อพยพเถอะแม่คงทัน | วันนี้พวกเราจากไป | ||
แม่นกบอกว่ารอก่อน | ตอนนี้มิน่าสงสัย | ||
คงมิมีเหตุเภทภัย | ใจเย็นไว้ก่อนลูกยา | ||
ผ่านไปอีกสองสามวัน | พลันทราบเรื่องราวอีกหนา | ||
พวกเขาไม่รอใครมา | จักเก็บเกี่ยวข้าวกันเอง | ||
แม่นกตกลงอพยพ | เพราะพบอาจถูกข่มเหง | ||
ชาวนาคงมิยำเกรง | รังแตกกระจายแน่นอน | ||
อันคนที่เป็นผู้ใหญ่ | รู้เหตุทุกข์ภัยสังหรณ์ | ||
อาศัยเหตุผลทุกตอน | ตัดสินให้ควรแก่การ | ||
วิเคราะห์เหตุผลถ้วนถี่ | ยินดีตัดสินอาจหาญ | ||
ถูกต้อทำนองเชี่ยวชาญ | ประสบการณ์มีคุณมากมาย | ||
36.นกมีหูหนูมีปีก | |||
อดีตกาลนานมา | ป่าใหญ่ส่ำสัตว์หลากหลาย | ||
คราวหนึ่งเกิดเรื่องวุ่นวาย | แย่งเขตทำมาหากิน | ||
สัตว์ป่ารังเกียจพวกนก | ฉกชิงผลไม้โผผิน | ||
อวดดีมีปีกโบยบิน | ประกาศสงครามรบกัน | ||
พวกนกเกณฑ์พลนกสู้ | พันตูทั่วป่าพร้อมสรรพ์ | ||
ค้างคาวหารือโรมรัน | น่าเบื่อพี่น้องล้มตาย | ||
คอยดูข้างไหนได้เปรียบ | ลองเทียบน่าชนะไม่สาย | ||
จึงช่วยพวกนั้นจักง่าย | ตกลงแบบนี้พวกเรา | ||
สงครามสัตว์ป่าดำเนิน | บังเอิญพวกนกบนเขา | ||
นับแสนรุมล่าไล่เอา | สัตว์ป่าถอยร่นหลบไป | ||
ค้างคาวบินหาทัพนก | ยืดอกอวดปีกขานไข | ||
พากเราคือนกเกรียงไกร | เต็มใจช่วยรบราวี | ||
มินานสัตว์ป่ารวมพล | ปรับกลการรบมิหนี | ||
เสือสิงห์ช้างป่าต่างมี | เสียงกัมปนาทก้องดง | ||
นกกาตกใจบินหลบ | ลิงพบค่างตีพิศวง | ||
มากมียากจักร่อนลง | ค่ำคืนถูกล่าล้มตาย | ||
สงครามผกผันนกถอย | ค้างคาวคอยดูใจหาย | ||
ชวนกันไปพบท่านนาย | ราชสีห์แม่ทัพเชิญดู | ||
พวกข้ามากันพร้อมสรรพ | เสริมทัพสัตว์ป่ามีหู | ||
ยินดีร่วมขจัดศัตรู | ให้รู้ฤทธิ์เดชอย่างเรา | ||
สงครามผ่านไปนานวัน | พวกมันสองฝ่ายโง่เขลา | ||
เพิ่งรู้สงครามมัวเมา | ยากเอาชนะคะคาน | ||
ตกลงเจรจาสงบศึก | นึกถึงค้างคาวไขขาน | ||
พวกนี้ฝ่ายนกหรือหนูท่าน | ก่อนกาลรบช่วยนกกา | ||
แล้วไยมารบช่วยหนู | มันอยู่ฝ่ายใดแน่หนา | ||
อวดปีกยามไปพบข้า | บอกว่าเป็นนกแน่นอน | ||
ราชสีห์พวกมันไปพบ | ประจบอวดหูสลอน | ||
เป็นสัตว์สี่เท้านามกร | ค้างคาวออกรบกับเรา | ||
ตกลงพวกนกมีหู | พวกหนูมีปีกโฉดเขลา | ||
สองหัวสองใจงี่เง่า | มิน่าจักคบพวกมัน | ||
ขับไล่ไปอยู่ในถ้ำ | คืนค่ำหากินพร้อมสรรพ์ | ||
กลางวันเวลานอนนั้น | ห้อยหัวคือโทษสมควร | ||
อันคนไม่มีสัจจะ | ละมิตรทิ้งญาติยากหวน | ||
มักจักโดดเดียวเรรวน | เพราะขาดคุณธรรมชักจูง | ||
37. นกอินทรีกับหมาจิ้งจอก | |||
ราชาแห่งนกอินทรี | มีคู่ทำรังอยู่สูง | ||
บนยอดต้นไม้ยางยูง | ห่างฝูงนกกาปลอดภัย | ||
มินานสองตัวลูกน้อย | ค่อยค่อยเจริญเติบโต | ||
โคนต้นมีโพรงจิ้งจอก | ออกลูกน่ารักอักโข | ||
เห่าหอนเจ้าเล่ห์เยโย | เพื่อนบ้านลูกอ่อนหกตัว | ||
แม่นกแม่หมาหากิน | ย่อมยินเสียงนกบนหัว | ||
แม่นกเลี้ยงลูกน่ากลัว | ลำบากยากเย็นเหมือนเรา | ||
หมาเองก้ใช่จะง่าย | กระต่ายจับหนูบนเขา | ||
บางวันไม่เห็นแม้เงา | ต้องให้ดูดนมไปพลาง | ||
ฝ่ายนกอินทรีย์ลำบาก | หายากนกหนูรุ่งสาง | ||
บินออกหากินทุกทาง | หาเหยื่อลูกน้อยคอยรอ | ||
บ่ายคล้อยยังไม่เจอเหยื่อ | น่าเบื่อหายากจริงหนอ | ||
กลับรังยินเสียงแงงอ | ลูกหมามันหยอกเย้ากัน | ||
แอบโฉบเอามาตัวหนึ่ง | ตะลึงลูกหมาน่าขัน | ||
มันร้องหาแม่สำคัญ | แอ๋งแอ๋งหนวกหูเหลือเกิน | ||
แม่หมากลับมาลูกหาย | วุ่นวายวิ่งเลาะเขาเขิน | ||
ยินเสียงลูกร้องบังเอิญ | จากรังนกใหญ่อินทรี | ||
เข้าใจจึงวอนคุณท่าน | สงสารข้าน้อยด้อยศรี | ||
คืนลูกให้เถิดปราณี | ประทานชีวีให้ผู้เยาว์ | ||
ฝ่ายนกอยู่บนยอดไม้ | กระหยิ่มในใจไม่เขลา | ||
ตอบว่าข้าเองโฉบเอา | เก็บเขาทำเหยื่อลูกยา | ||
คืนให้ลูกข้าก็อด | ไม่หมดลูกแกนั่นหนา | ||
ยังเหลือนับดูตั้งห้า | เอ็งอย่าเสียดมเสียดาย | ||
จิ้งจอกเจ็บใจเขาหมิ่น | สิ้นคิดเยาะเย้ยเสียหาย | ||
หาที่ซ่อนลูกทุกราย | สบายใจแล้วจัดการ | ||
คาบฟืนสะสุมโพรงไม้ | คาบไฟมาจุดประสาน | ||
ควันโขมงพุ่งขึ้นมินาน | รมรังนกมารอินทรี | ||
อินทรีร่อนร้องหยุดก่อน | ลูกอ่อนข้ามิอาจหนี | ||
หาไม่คงสิ้นชีวี | ยินดีคืนลูกเจ้าไป | ||
ขอโปรดดับฟืนดับควัน | ข้านั้นผิดขออภัย | ||
อันคนผู้ที่เป็นใหญ่ | พึงใช้เมตตาปราณี | ||
เห็นคนเขาด้อยต่ำกว่า | เมตตายอมรับศักดิ์ศรี | ||
เขาก็หวงแหนชีวี | มิควรกดขี่ร่ำไป | ||
หากแม้นเขามิทนอด | ถูกกดมากนักมิไหว | ||
เขาลุกขึ้นสู้เมื่อใด | จักเกิดเภทภัยเวรา | ||
38. นายพรานกับไก่ฟ้า | |||
ยังมีนายพรานคนหนึ่ง | ใจถึงท่องไพรดงหนา | ||
เที่ยวดักจับสัตว์นานา | ได้มาทำเป็นของกิน | ||
แกชอบดักจับนกไก่ | วางไว้บ่วงบาศช่องหิน | ||
ริมผานกไก่โบยบิน | ผ่านมาดับดิ้นจับเอา | ||
คราหนึ่งพรานป่าวางข่าย | โปรยปรายเหยื่อล่อบนเขา | ||
ไก่ฟ้าบินผ่านเห็นเงา | ดังเหยื่อที่เจ้าชอบใจ | ||
ถลาบินร่อลงตรงพื้น | ยืนมองด้วยความสงสัย | ||
อาหารมากมายเหตุใด | กองอยู่กลางไพรแปลกตา | ||
เพราะความหิวโหยเป็นเหตุ | สังเกตมิเห็นปัญหา | ||
มันรี่เข้าไปไม่ช้า | เสียท่าติดข่ายนายพราน | ||
ยิ่งดิ้นยิ่งฟัดรัดแน่น | น่าแค้นเจ็บใจไขขาน | ||
เออกูนี่เสียสันดาล | ใจพาลมักเห็นแก่กิน | ||
จึงต้องประสบเภทภัย | ทันใดนายพรานโหดหิน | ||
เข้ามาจับไก่บนดิน | ได้ยินไก่ฟ้าวิงวอน | ||
นี่แน่ะพรานผู้เป็นใหญ่ | เกรียงไกรรู้ทั่วสิงขร | ||
เมตตาปล่อยข้าบทจร | จักต้อนเพื่อนเพื่อนลงมา | ||
หลอกติดบ่วงบาศของท่าน | สำราญสุดง่ายจริงหนา | ||
ขอเพียงวอนท่านปล่อยข้า | เมตตาไม่ลืมพระคุณ | ||
นายพรานฟังแล้วก็ขำ | จงจำเอาไว้ใคร่หนุน | ||
ตัวเจ้าไม่รู้บาปบุญ | เจือจุนผองเพื่อนไม่เป็น | ||
ดีแต่จักหลอกลวงเขา | หวังเอาประโยชน์ที่เห็น | ||
ปล่อยไปก็โทษลำเค็ญ | ดังเช่นโรคร้ายกระจาย | ||
จำต้องปลงชีพบัดนี้ | มิมีทางรอดแลหาย | ||
ที่สุดไก่ฟ้าตกตาย | เพราะใจมุ่งร้ายพวกมัน | ||
อันคนใจคดคิดผิด | มีจิตสกปรกผกผัน | ||
หมายผิดต่อพวกเดียวกัน | สักวันฉิบหายบรรลัย | ||
39. นายพรานผู้ขมังธนูกับราชสีห์ | |||
ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล | ส่ำสัตว์เบิกบานวิสัย | ||
อุดมอาหารพงไพร | สัตว์ใหญ่สัตว์เล็กยินดี | ||
อยู่มาไม่นานอาเภท | มีเหตุอันตรายในวิถี | ||
เก้งกวางล้มตายวายชีวี | ด้วยมีพรานไพรใจทมิฬ | ||
เทียวออกล่าสัตว์เข่นฆ่า | ไร้ความเมตตาใจหิน | ||
มันบอกทำมาหากิน | ยามยินแล้วน่าเจ็บใจ | ||
วันหนึ่งนายพรานออกล่า | สัตว์ป่าหลบซ่อนอยู่ไหน | ||
ป่าแตกต่างหลบหลีกภัย | วิ่งเข้ากลางไพรหลบกัน | ||
จ้าวป่าหลบนิ่งรอดู | พอรู้เตรียมตัวพร้อมสรรพ์ | ||
จะโดดงับคอพรานพลัน | พรานลั่นบอกช้าก่อนนาย | ||
เดียวส่งทูตไปขอพบ | พูดจบสู้กันไม่สาย | ||
ว่าแล้วพรานวาดลวดลาย | ยิงธนูถูกข้างสิงโต | ||
มันร้องเจ็บปวดวิ่งหนี | เสียทีพรานไพรโมโห | ||
จิ้งจอกตัวจ้อยพาโล | ร้องโถจ้าวป่าผู้เกรียงไกร | ||
ข้าเห็นท่านสู้พรานป่า | ท่านฆ่ามันแล้วฤๅไฉน | ||
ศัตรูพวกเราท่านไล่ | ขับไสมันแล้วเก่งเกิน | ||
ราชสีห์กัดฟันเจ็บปวด | มันอวดมันเก่งมันเขิน | ||
ประมาทศัตรูบังเอิญ | ไม่รู้หนักเบาแทบวาย | ||
แถมยังถูกหมาเยาะเย้ย | ตามเคยนะอ้ายฉิบหาย | ||
ธนูมันปวดแทบตาย | เจ็บกายเจ็บใจไปนาน | ||
40. ปลาทูนากับปลาโลมา | |||
ปลาทูนากับโลมา | ต่างว่าเก่งกระไรไขขาน | ||
พละกำลังเชี่ยวชาญ | แหวกว่ายรวดเร็วทันใจ | ||
ทูน่าว่าฉันเก่งกว่า | เพราะว่ารูปทรงตรงไหน | ||
เพรียวกลมสมส่วนกระไร | มิอ้วนเทอะทะเหมือนเธอ | ||
โลมาว่าฉันแข็งแรง | แข่งกันเล่นน้ำเสมอ | ||
กล้ามเป็นมัดมัดที่เจอ | มิใคร่อวบอ้วนไร้แรง | ||
สองต่างถกเถียงใครเก่ง | เร่งรัดประลองกล้าแข็ง | ||
ว่ายน้ำสู้กันแจกแจง | กติกาเรียบร้อยลองดู | ||
สองเก่งว่าเร็วยิ่งนัก | ยากจักแซงได้อดสู | ||
โลมาโดดกระแทกปลาทู | เล่นโกงโลมากระเด็น | ||
ทางโค้งตกที่หาดทราย | มากมายเร่าร้อนที่เห็น | ||
ปลาทูเสียหลักลำเค็ญ | กระดอนมาตกใกล้กัน | ||
สองต่างทุรนทุราย | เจียนตายพูดคุยน่าขัน | ||
พวกเราประกวดประชัน | ทิฐิอวดเก่งอวดดี | ||
สุดท้ายประสบเคราะห์กรรม | กระทำอวดเก่งบัดสี | ||
คงจักสูญสิ้นชีวี | ถึงที่ดับดิ้นสิ้นใจ | ||
41. ปลาโลมากับลิงขี้คุย | |||
สมัยก่อนกลาสีเรือ | เมื่อออกทะเลทางไกล | ||
มีลิงและหมาเอาไว้ | เป็นเพื่อนยามเหงากลางชล | ||
คราหนึ่งล่องเรือออกไป | นับได้หลายวันชวนฉงน | ||
เหตุใดลมมันพัดวน | ท้องฟ้ามืดมัวหวั่นใจ | ||
เรืออ้อมปลายแหลมเมืองกรีก | ยากหลีกลมแรงยิ่งไฉน | ||
มินานประสบวาตภัย | พายุซัดใส่เรือจม | ||
ต่างคนต่างเอาตัวรอด | กอดฟูกลอยคอบุญถม | ||
หลายคนจมน้ำสิ้นลม | ลิงรอดแหวกว่ายวนเวียน | ||
โลมาผ่านมาแลเห็น | โลดเล่นแหวกว่ายฉวัดเฉวียน | ||
ให้ลิงขี่หลังพากเพียร | จักพาเข้าฝั่งปลอดภัย | ||
เพราะนึกว่าช่วยเด็กน้อย | ลอยคอมุ่งตรงนึกสงสัย | ||
เป็นคนเอเธนส์แน่ใจ | คงรู้ชื่อพิรุสดี | ||
จึงถามว่าพ่อหนุ่มน้อย | ตอบถ้อยเรามาดูถี | ||
ใช่คนเอเธนส์ไหมนี่ | สงสัยเลยถามพ่อนาย | ||
ลิงน้อยได้ทีขี้โอ่ | พิโธ่ของจริงโฉมฉาย | ||
พ่อแม่พี่น้องมากมาย | ล้วนอยู่เอเธนส์ทุกคน | ||
ตระกูลฉันขุนนางเก่า | พวกเราได้รับฝึกฝน | ||
ผู้ดีทั้งนั้นทุกตน | โลมาท่านถามทำไม | ||
อ้อเป็นผู้ดีเอเธนส์ | รู้เห็นพิรุสดีไหม | ||
อยากรู้ว่ามันคืออะไร | ลิงจ้อคุยใหญ่ทันที | ||
แน่นอนนั่นคือเพื่อนข้า | เคยพากันเทียวแอบหนี | ||
ยิงนกตกปลานานปี | เพื่อนซี้ฉันเองแหละเธอ | ||
โลมาอ้ายนี่มันบ้า | ท่าเรือชื่อนี้เสมอ | ||
พบคนเอเธนส์เมื่อเจอ | ถามถึงเขารู้ทุกคน | ||
หมอนี่มันขี้โกหก | ตกลงดำน้ำล่องหน | ||
ลิงจมแหวกว่ายน้ำวน | สุดท้ายชีพดับลับไป | ||
อันการคุยโวโอ้อวด | มักชวดโชคอย่าสงสัย | ||
บางคราวถึงกับมีภัย | ใครเขามิอยากสัมพันธ์ | ||
42. พรานใหม่กับคนตัดไม้ | |||
พรานหนุ่มทดลองเข้าป่า | ปืนผาหน้าไม้พร้อมสรรพ์ | ||
จักลองวิชาสำคัญ | ร่ำเรียนจากครูพรานไพร | ||
บุกป่าฝ่าดงพงหนาม | เลาะตามหุบผาเนินไศล | ||
เนิ่นนานพบคนตัดไม้ | จึงได้แวะถามพี่ชาย | ||
ตัดไม้แถวนี้นานเปล่า | ช่วยเล่าสัตว์ป่ามากหลาย | ||
เสือสิงห์มีบ้างไหมนาย | อยากยิงสัตว์ใหญ่คงดี | ||
อ๋อหากินแถวนี้มานาน | ลานตาเก้งกวางหมูหมี | ||
สัตว์ใหญ่ตัวหนึ่งแถวนี้ | ราชสีห์เพิ่งจับคนไป | ||
รอยเท้ายังอุ่นอยู่นั่น | พรานมั่นจงอย่าสงสัย | ||
รีบตามเลยท่านเร็วไว | คงจักได้ยิงแน่นอน | ||
พรานหนุ่มด้อมด้อมมองมอง | จ้องดูรอยเท้าทอดถอน | ||
หันกลับอีกทางบทจร | ฝ่ายคนตัดไม้สงกา | ||
อ้าวนายทางนี้ราชสีห์ | มันหนีไปโน่นแหละหนา | ||
พรานหนุ่มบอกที่ฉันเข้ามา | ดูรอยบาทามันไป | ||
พอแล้วดูแค่นี้แหละ | แพะแกะทางโน้นสงสัย | ||
คงมีเลือกยิงเอาได้ | ฉันลาแหละนะท่านนาย | ||
อันคนอวดกล้ากำแหง | กล้าแกร่งกำลังเหลือหลาย | ||
เพราะยังมิสบอันตราย | จึงกล้าอวดอ้างคุยโว | ||
ยามใดสบภัยพิบัติ | ชอบทำฮึดฮัดโมโห | ||
หลบหลีกไปอวดคุยโต | มิกล้าลงมือประลอง | ||
43. พวกหนูประชุมปรึกษากัน | |||
ที่บ้านกลางสวนชวนฉงน | ตายายคือคนเจ้าของ | ||
แต่หนูมากมายจับจอง | ทุกห้องมันอยู่สบาย | ||
ตาเฒ่าก็แสนรำคาญ | บ้านรกรุงรังเหลือหลาย | ||
มันกัดมันแทะวุ่นวาย | ขี้หนูกระจายทั่วเรือน | ||
จึงหาแมวโพงมาเลี้ยง | ส่งเสียงข่มขู่ดูเหมือน | ||
ได้ผลหนูกลัวทั้งเดือน | บางตัวลืมเลือนจับตาย | ||
สังคมพวกหนูวิกฤต | มันคิดหนทางหลากหลาย | ||
ประชุมปรึกษาวุ่นวาย | เลวร้ายแย่ลงทุกที | ||
ออกมาหากินลำบาก | หากแมวมันเห็นวิ่งหนี | ||
หลบทันก็รอดชีวี | ไม่ดีจับได้ต้องตาย | ||
มันกัดขบกินดิบดิบ | พวกพ้องมากมวลฉิบหาย | ||
มิกล้าหากินวุ่นวาย | ใครมีอุบายช่วยกัน | ||
บางหนูบอกจ้างมือปืน | ค่ำคืนแมวมาน่าขัน | ||
ยิงโป้งตายแน่ยืนยัน | ใครกันจักเป็นมือปืน | ||
หนูเก่งทรงภูมิความรู้ | ดูก่อนลำบากยากฝืน | ||
แมวมันออกมาค่ำคืน | เต็มกลืนไม่ยินเสียงมัน | ||
พอรู้แมวมาถึงแล้ว | ไม่แคล้วถูกจับน่าขัน | ||
หากมีกระพรวนสักอัน | ผูกคอแมวนั้นคงดี | ||
มันมาเมื่อไรยินเสียง | เพียงพอให้เราหลบหนี | ||
ทุกหนูชื่นชมเปรมปรีดิ์ | แบบนี้ได้ผลแน่นอน | ||
เซ็งแซ่ปรบมือให้เก่ง | สมชื่อนักเลงสั่งสอน | ||
ฉลาดเป็นกรดบทตอน | ประชากรหนูจักสบาย | ||
เฒ่าหนูประกาศช้าไว้ | อย่าเพิ่งดีใจสหาย | ||
ความคิดเข้าท่าคุณชาย | แต่หมายจักทำยากเย็น | ||
กระพรวนฉันพอหาให้ | แต่ใครจักอาสาเข็น | ||
ไปผูกคอแมวให้เป็น | ดังเช่นสัญญาณเตือนภัย | ||
เงียบกริบทั้งห้องประชุม | ต่างกลุ่มมิต้องสงสัย | ||
แนวคิดเสนอใดใด | ย่อมดีมีค่าควรชม | ||
ยามทำอาจพบยุ่งยาก | ลำบากมิค่อยเหมาะสม | ||
ต้องปรับต้องแก้กันจม | เพียงลมพูดคุยไม่พอ | ||
มันต้องทำได้จึงแน่ | ของแท้แบบนั้นแหละหนอ | ||
พูดได้ทำได้ไม้ท้อ | เพียงพอมีชื่อคนดัง | ||
44. พิราบกับกา | |||
พิราบผัวเมียหนึ่งคู่ | พวกมันอยู่ในกรงขัง | ||
เศรษฐีได้มาจากวัง | เลี้ยงไว้ด้วยความชื่นชม | ||
เม็ดถั่วนานาอาหาร | บันดาลหาไห้เหมาะสม | ||
น้ำท่าบริบูรณ์ภิรมย์ | สุขกายสบายจิตนับนาน | ||
ต่อมามีลูกผูกพัน | พวกมันรู้สึกสุขสานติ์ | ||
ฉลองเอิกเกริกเบิกบาน | กาดำรำคาญสิ้นดี | ||
จึงบอกว่าสองเอ็งเอ๋ย | มิเคยดำริวิถี | ||
ดำเนินครอบครัวมากมี | ปัญหาควรรู้เข้าใจ | ||
ตอนนี้สองเจ้าต้องโทษ | ดังโจทย์จองจำจริงไหม | ||
ถูกขังอยู่กรงคือภัย | จักไปจักมายากเย็น | ||
อาหารก็รอเขาให้ | ทุกข์ใจลำบากยากเข็ญ | ||
อิสระเสรีหลีกเร้น | ดังเช่นไม่มีหัวใจ | ||
สองเจ้าทุกข์ทนข้นแค้น | ก็แสนยากเย็นยิ่งไฉน | ||
ลูกน้อยเกิดมาดังไฟ | สุมให้เร่าร้อนทับทวี | ||
เพราะรักเพราะหลงลูกน้อย | สองเจ้าต้องคอยส่งศรี | ||
เลี้ยงดูอาหารไม่มี | จักออกนอกกรงยากเย็น | ||
ลูกเจ้าก็คงลำบาก | มิยากตรึกดูรู้เห็น | ||
เภทภัยเคราะห์กรรมลำเค็ญ | คงเป็นแบบนั้นแน่นอน | ||
พวกเจ้ายังเฉลิมฉลอง | มาตรองคดีที่ข้าสอน | ||
รู้ทันปัญหาคราจร | เร่าร้อนจักคลายอัคคี | ||
45. พ่อกับลูก | |||
ตาสิงห์ยายแก้วกลอยใจ | บ้านใต้บ้านเหนือรู้ดี | ||
ลูกเต้าห้าคนต่างมี | อายุที่ไล่เลี่ยกัน | ||
คนโตอายุสิบห้า | คนหล้าสิบเอ็ดเสร็จสรรพ์ | ||
เสียดายไม่ค่อยสัมพันธ์ | แข่งขันเอาชนะคะคาน | ||
มอบหมายช่วยกันทำกิจ | เริ่มคิดก็มักหักหาญ | ||
เกี่ยงกันไม่ช่วยทำงาน | สานกันไม่ติดล้มไป | ||
หลายครั้งงานล่มเสียหาย | เสียดายเวลาไฉน | ||
สอนยากสอนเย็นกระไร | ลองใช้มาแล้วหลายทาง | ||
ตาสิงห์นึกหาวิธี | แบบนี้คงได้สะสาง | ||
ประชุมลูกชายนายนาง | พลางสั่งหักกิ่งไผ่มา | ||
ส่งพ่อคนละสองท่อน | ตัดทอนแค่ศอกนั่นหนา | ||
มัดรวมสิบท่อนเจรจา | ลูกยาลองหักดูที | ||
คนโตออกแรงแข็งขัน | มันมิหักเลยยาหยี | ||
น้องสองน้องสามก็ดี | ต่างชี้มิอาจหักมัน | ||
ห้าคนลองแล้วไม่หัก | ประจักษ์แจ้งใจพร้อมสรรพ์ | ||
พ่อรับมาแก้ออกพลัน | ส่งให้หนึ่งอันลองดู | ||
ทุกคนหักได้โดยง่าย | ความหมายฟังพ่อหนูหนู | ||
สัพเพสังสังฆะเชิดชู | สามัคคีสู่สาธิกา | ||
ร่วมแรงร่วมใจพลังเกิด | ประเสริฐอุปสัคหนักหนา | ||
เอาชนะง่ายดายทุกครา | ข้าศึกมิอาจรอนราน | ||
หากขาดรู้รักสามัคคี | มิมีพลังอาจหาญ | ||
เรื่องเล็กผิดพลาดเสียงาน | พบพานศึกพ่ายยับเยิน | ||
ดังไม้กิ่งเล็กรวมมัด | รวบรัดหักยากขาดเขิน | ||
แยกกิ่งหักง่ายเหลือเกิน | เชิญลูกตั้งใจไตร่ตรอง | ||
ทุกคนเข้าใจพ่อสอน | งามงอนเห็นควรสนอง | ||
ชวนกันหันมาปรองดอง | หายข้องขุ่นเคืองร่วมกัน | ||
ช่วยกิจทำการเล็กใหญ่ | ทำได้สนุกสุขสันต์ | ||
ครอบครัวร่มเย็นโดยพลัน | รู้รักสามัคคีมากมาย | ||
46. พ่อค้าเกลือกับโคต่าง | |||
วัวต่างของพ่อค้าเกลือ | เบื่อนักลากของไปขาย | ||
พ่อค้าบังคับมากมาย | ยากหมายจักเว้นทำการ | ||
วันหนึ่งต้องเดินทางไกล | ไปยังเมืองไกลไพศาล | ||
ต่างเกลือเต็มหลังไม่นาน | เดินทางผ่านไปใกล้บึง | ||
บังเอิญฝนตกทางลื่น | ยากฝืนพลัดตกไปถึง | ||
ท้องน้ำท่วมหลังตะลึง | พ่อค้าดึงมันขึ้นไป | ||
ต่างหลังรู้สึกเบามาก | หลากจิตลาคิดสงสัย | ||
ทบทวนดูเหตุอันใด | ทำไมมันเบานักแล | ||
ครั้งนี้ต่างหลังตกน้ำ | ดำมุดโดยไม่แยแส | ||
แปลกจริงน้ำหนักเบาแท้ | ใช่แน่ตกน้ำจริงจริง | ||
วันหลังต่างเกลือมาอีก | หลบหลีกผู้คนชายหญิง | ||
ลาโง่หลบได้ออกวิ่ง | ชิงลงแช่น้ำลำธาร | ||
ต่างหลังเบาเบาสบายสบาย | มันทำหลายครั้งอาจหาญ | ||
เสียหายชักไม่ได้การ | พ่อค้าพบพานเลศนัย | ||
วันหลังต่างนุ่นมาแทน | อัดแน่นเต็มที่พิสัย | ||
ลาจักลากจูงดึงได้ | พาไปตามเส้นทางเดิม | ||
ลาลากจูงต่างตามนาย | สบายใจมันยังฮึกเหิม | ||
ถึงที่ลำธารจักเติม | น้ำเพิ่มให้ต่างเบาสบาย | ||
พอถึงวิ่งลงจุ่มน้ำ | น่าช้ำนุ่นกลับแปลกหลาย | ||
อุ้มน้ำหนักขึ้นมากมาย | แทบตายหลังแอ่นลำเค็ญ | ||
แต่นั้นมามันก็เข็ด | งานเสร็จเรียบร้อยที่เห็น | ||
อันคนชอบโกงมักเป็น | ยากเร้นกลโกงได้นาน | ||
ยามใดเขารู้เห็นเหตุ | จับเลศกลได้ประสาน | ||
แก้เผ็ดเสียกิจเสียการ | นิทานบอกไว้ดีเชียว | ||
47. แพะกับคนเลี้ยง | |||
ชายหนุ่มรับจ้างเลี้ยงแพะ | แวะวนชายป่าหญ้าเขียว | ||
มีแพะเกเรตัวเดียว | เทียวแอบหลบหนีร่ำไป | ||
บางคราวตามหาจนทั่ว | มืดมัวแล้วมันอยู่ไหน | ||
เลาะหากลางดงพงไพร | จนค่ำจึงได้พบพาน | ||
กลับค่ำนายจ้างก็ด่า | มิกล้าเอ่ยคำไขขาน | ||
กล้ำกลืนเอาไว้นับนาน | แพะดื้อก็ยังเกเร | ||
วันหนึ่งมันหนีแต่เช้า | เข้าป่ามิยอมหันเห | ||
ตามหาโซซัดโซเซ | เหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง | ||
แลเห็นวับวับเรียกหา | รีบกลับเอ็งอย่ากำแหง | ||
ข้าเหนื่อยเดินจนเท้าแพง | อย่าแกล้งหลบหนีอีกเลย | ||
ต้อนกลับมันยังเลี่ยงหลบ | พบแล้วยังวิ่งหนีเฉย | ||
หยิบหินปาใส่ดังเคย | แม่นจริงโดนขาล้มลง | ||
ต้องอุ้มมันกลับทับก่อน | ให้นอนใส่ยาพิศวง | ||
บาดแผลเล็กน้อยยังงง | ทำไมเดินยากจริงเจียว | ||
จึงบอกแพะน้อยปิดไว้ | อย่าได้บอกนายหวาดเสียว | ||
หาไม่โดนด่าแน่เชียว | แพะน้อยหัวร่อชอบใจ | ||
ก็แผลมันเจ็บเดินยาก | ลำบากแกรู้ใช่ไหม | ||
นายเขาเป็นคนตาไว | เห็นได้รู้เองแน่นอน | ||
ไม่เห็นจำเป็นต้องฟ้อง | ไม่ต้องมาบอกมาสอน | ||
ประจักษ์พยานมันย้อน | เดี๋ยวนายย่อมประจักษ์ตา | ||
48. แพะกับลูกแกะและหมาป่า | |||
แม่แพะเลี้ยงดูลูกแกะ | แม่แพะรักใคร่นักหนา | ||
ราวกับลูกในอุรา | หลายวันเวลาผ่านไป | ||
คราหนึ่งพาแกะเล็มหญ้า | ชายป่ายามเช้าสดใส | ||
พลันเห็นหมาป่าตัวใหญ่ | มาใกล้ทักทายสวัสดี | ||
หนูน้อยลูกแกะแปลกหนา | ใยมาอยุ่ไกลวิถี | ||
ฝูงแกะอยู่ใกล้แค่นี้ | ไปซีไปหาพวกเธอ | ||
ที่นี่พวกเขาฝูงแพะ | จำไว้เป็นแกะเสมอ | ||
พ่อแม่พี่แกะนะเออ | มาซีฉันจักพาไป | ||
แกะน้อยรู้ทันหัวร่อ | พอทีอย่ามาขานไข | ||
หมาป่าเจ้าเล่ห์แน่ไซร้ | จักใช้อุบายหลอกลวง | ||
ถึงฉันเป็นแกะตัวน้อย | แม่แพะคอยดูคอยหวง | ||
เหมือนแพะพี่น้องทั้งปวง | ฉันอยู่ด้วยสุขสบายดี | ||
ฉันรักแม่แพะเหมือนแม่ | จริงแท้มิคิดหลีกหนี | ||
อย่ามาหลอกล่อพอที | ฉันรู้มิอยากจะลอง | ||
49. มดกับนกเขา | |||
มดง่ามตัวหนึ่ง | ไต่มาถึงฝั่งห้วยหนอง | ||
กำลังกระหายใคร่ลอง | ดื่มน้ำสักหยดอดนาน | ||
มันไต่กิ่งไม้ลงไป | จวนได้ดื่มน้ำฮึกหาญ | ||
ทันใดลมแรงพัดพาน | กิ่งพาลหักพลัดตกลง | ||
มันจมลำน้ำกิ่งไม้ | จำให้ต้องปล่อยประสงค์ | ||
ลอยคอเข้าฝั่งมั่นคง | เสียดายพลัดตกมาไกล | ||
นกเขาบนพุ่มพฤกษา | สายตาแลเห็นสงสัย | ||
มิช่วยคงม้วยด้วยใจ | เด็ดกิ่งไม้แห้งแล้วโยน | ||
มันลอยอยู่ใกล้มดน้อย | มดลอยมาเกาะยึดโหน | ||
คลื่นน้ำซัดมาพาโดน | ซัดกิ่งเข้าฝั่งปลอดภัย | ||
มดคลานเข้ามาหาฝั่ง | ระวังนกเขาอยู่ไหน | ||
หวังจักกล่าวคำขอบใจ | ทันใดเหลือเห็นนายพราน | ||
จดจ้องส่องปืนปลายไม้ | เภทภัยนกเขามันหาญ | ||
ผู้มีพระคุณถูกราน | จำต้องช่วยตามกำลัง | ||
มันรี่เข้ากัดง่ามเท้า | พรานเขาเขี่ยดินสิ้นหวัง | ||
ร้องโอ๊ยตกใจเสียงดัง | นกเขาบินหลบเลี่ยงไป | ||
อันความเมตตาปราณี | ดีงามมิต้องสงสัย | ||
สะสมมากมวลเอาไว้ | จักได้กุศลผลดี ฯ |
ขอบคุณมากค่ะ กลอนไพเร่ะสนุกดีค่ะ ชอบค่ะ ไว้อ่านให้ลูกฟังค่ะ
ตอบลบชอบครับ
ตอบลบ