วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

นิทานอีสป 1-50


.................ช่วงที่ยังเป็นครูที่โรงเรียน (2516-2529)หัดผมเขียนกาพย์กลอน ได้ใช้นิทานต่าง ๆเป็นข้อมูล นิทานก้อมแบบเดอตี้โจ้ก ชอบมาก เขียนได้กว่า 30 เรื่อง นิทานอีสปก็เป็นอีกเรื่องที่นำมาใช้หัดเขียนและยังเก็บไว้อยู่ ส่วนพวกนิทานโจ้กลบทิ้งไปไม่กล้าเผยแพร่ อีสปเขียนแบบตามใจ แบบคนเล่านิทาน แรก ๆ ใช้กาพย์ยานี 11 แต่พอลองเขียนวรรคละหกคำอ่านเล่าเรื่องเพราะดี ก็เลยยึดวรรคละหกคำแต่เค้าโครงยังเอาอย่างกาพย์ยานี อยู่ จะเรียกกลอนหกดีไหม ก็แล้วแต่จะเรียกครับพยายามเขียนให้ได้ 100 เรื่อง จะได้ดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย วันนี้หยิบมาตรวจทานแก้ไขสะกดการันต์ และแผนผังบางบทที่บกพร่อง แล้วนำโพส เผยแพร่ครับ
....................................ขุนทอง ศรีประจง
.....................................6 เมษายน 2561


นิทานอีสป
1. กบเลือกนาย
ในบึงมีกบฝูงใหญ่  แฝงใบบัวบึงพฤกษา
แมกไม้มดแมงนานา  อาหารหาง่ายสบายใจ 
คราหนึ่งกบชุมนุมกัน  ฝันว่ามีนายดีไหม 
คนที่จักช่วยคุ้มภัย  ทุกตัวใคร่จักมีนาย 
พวกกบมันเลือกผู้แทน  มีแผนส่งไปเป็นสาย 
วอนเทพแน่วแน่มิคลาย  หมายมีผู้นำพวกมัน 
เทพโยนขอนไม้มาให้  บึ่งใหญ่สะท้านน่าขัน 
ตูมตูมกระแทกกระทั้น  น้ำนั้นกระเพื่อมตีฟอง 
พวกกบแตกตื่นหลบหนี  ต่างมีความกลัวสยอง
ให้หลังเงียบเสียงแอบมอง  ลองส่งผู้กล้าไปดู 
มันร้องบอกเทพส่งนาย  ท่อนไม้ลวดลายงามหรู 
เกาะเล่นสนุกข้ารู้  วู้วู้รีบมาพวกเรา 
ประชาชาวกบยังหวาด  ขลาดขลาดกลัวกลัวพวกเขา 
มินานชวนกันมาเฝ้า  ขอนไม้เร้าใจใคร่ปีน 
กบน้อยกบใหญ่หัวเราะ  แย่งเกาะลืมไปจำศีล 
แย่งกันกบไทยกบจีน  เหยียบตีนกันมั่วสนุกดี 
ขอนไม้พาลอยไปทั่ว  ไม่กลัวนานไปหน่ายหนี 
นายไม่พูดจาพาที  มิมีฤทธิ์เดชอันใด 
ไปวอนเทพเจ้าอีกครั้ง  หวังนายแบบป้องกันภัย 
มีความสามารถยิ่งใหญ่  ทำได้ชี้ตายชี้เป็น 
เทพไทรำคาญยิ่งนัก  กูจักให้มันได้เห็น 
ส่งนกกระสามาเป็น  นายเช่นพวกมันต้องการ 
นายนกกระสาจับปลา  เดินมาเห็นกบก็หวาน 
จับกินมิช้ามินาน  กบพาลจะหมดสิ้นไป 
อันความไม่รู้จักพอ  มักก่อเหตุร้ายไฉน 
ละโมบโลภมากจัญไร  ดังไฟจักเผาเสียการ
2.  กระต่ายป่ากับกบ
กระต่ายที่ป่าละเมาะ  ลัดเลาะทุ่งหญ้าไพศาล 
มันออกหากินสำราญ  เบิกบานหญ้าแสนสมบูรณ์ 
วัวควายชาวบ้านก็มา  หากินมิเคยสิ้นสูญ 
งอกงามมาเติมเพิ่มพูน  จำรูญจำเริญยินดี 
เสียดายบางคราวคนมา  ผวาตกใจหลบหนี 
บ้างมุดลงรูก็มี  บ้างรี่เข้าป่าไปทัน 
จ่าฝูงจึงเรียกประชุม  กลุ้มนักวิตกผกผัน 
ตกใจแตกตื่นทุกวัน  ชวนกันไปโดดน้ำตาย 
ทุกตัวเห็นพ้องรีบไป  ที่แม่น้ำใหญ่หนึ่งสาย 
เห็นกบกระโดดวุ่นวาย  หมายหนีลงน้ำนั่นเอง 
กระต่ายได้คิดที่จริง  สรรพสิ่งมีภัยข่มเหง 
ทำให้ตกใจหวาดเกรง  นักเลงไม่ฆ่าตัวตาย 
อันความทุกข์ยากลำบาก  มีมากใช่เรื่องเสียหาย 
พบพานแก้ไขกลับกลาย  ดีกว่ายอมพ่ายก่อนเอง
3.  กระต่ายกับเต่า 
กระต่ายหนุ่มน้อยในป่า  ท่าทางกระฉับกระเฉง 
วิ่งเล่นในป่าตามเพลง  มากหมู่กันเองรื่นรมย์ 
แล่นเหนื่อยหลบตามพุ่มไม้  หลบไว้นอนเล่นสุขสม 
มินานก้อนหินกลมกลม  ชวนชมกลิ้งผ่านไกล้มา 
ที่แท้ก็คือตอเต่า  งี่เง่าต้วมเตี้ยมนักหนา 
ทำไมเอ็งจึงชักช้า  ปัญญาคงโง่เต็มทน 
ดูข้ารูปร่างสะสวย  ร่ำรวยปรีชามิสับสน 
วิ่งเร็วกว่าลมทุกตน  ฉลาดกลชั้นเชิงเชี่ยวชาญ 
เต่าฟังดังลมออกหู  ถึงตูต้วมเตี้ยมแต่หาญ 
ทุกตัวล้วนเกิดมานาน  รู้กาลรู้คุณอุ่นใจ 
เป็นต่ายมิควรหมิ่นเต่า  เราขอท้าทายสู้ไหม 
มาวิ่งแข่งขันกันไป  เส้นชัยสักสิบกิโล 
กระต่ายหัวร่อขบขัน  รับคำด้วยมันโมโห 
ได้เลยคุณเต่าตาโต  พิโธ่เล็กน้อยได้เลย 
เริ่มต้นเชิงเขาตรงนี้  คือที่ออกวิ่งอย่าเฉย 
พรุ่งนี้พร้อมกันดังเคย  กรรมการขอเอ่ยเชิญใคร 
คุณเต่าว่าวานจิ้งจอก  บอกเขาพร้อมกันดีไหม 
วานจงอยู่รอเส้นชัย  จักได้เป็นพยานสำคัญ 
ทุกการเตรียมพร้อมยอมรับ  พร้อมสรรพรุ่งขึ้นขยัน 
เต่าต่ายตื่นเช้ามากัน  พร้อมสรรพ์เริ่มแข่งได้เลย 
กระต่ายแคล่วคล่องว่องไว  วิ่งไปราวลมพัดเฉย
ลับหายสายลมรำเพย เต่ามันค่อยคืบคลานไป 
กระต่ายวิ่งเร็วนักหนา  ผ่านมามินานสงสัย 
โน่นแน่แลเห็นเส้นชัย  ดีใจแวะพักข้างทาง 
ร่มไม้ลมพัดเย็นเย็น  ช่างเป็นหดหัวหดหาง 
ปล่อยกายพักผ่อนปล่อยวาง  นึกอ้างสักครู่ค่อยไป 
ลืมหลับสนิทจิตปล่อย  หลับผลอยเนิ่นนานไฉน 
ส่วนเต่าต้วมเตี้ยมคลาไคล  จนได้เห็นกระต่ายหลับนอน 
คลานต่อมิหยุดสุดแรง  แข็งขันอดทนทอดถอน 
พากเพียรกำหนดบทจร  ถึงตอนสุดท้ายเส้นชัย 
กรรมการจิ้งจอกงุนงง  ตรงมาหาเต่าสงสัย 
กระต่ายตายแล้วหรือไร  ทำไมมิยอมวิ่งมา 
มินานกระต่ายวิ่งตาม  ยามนี้ยิ่งแปลกนักหนา 
ทำไมจึงเกิดชักช้า  เสียท่าคุณเต่าติดดิน 
อันความเย่อหยิ่งจองหอง  ลำพองว่าเลิศประเสริฐศิลป์ 
ดูถูกดูแคลนดูหมิ่น  ยินดีตามความพอใจ 
มักเกิดผิดพลาดโดยง่าย  เสียดายความเก่งไฉน 
ปัญญาฉลาดว่องไว  เพียงไร้คุณธรรมนำพา 
ทำการทำกิจผิดพลาด  มิอาจแก้ไขกังขา 
เพราะความประมาทธรรมดา  จรรยาไม่ดีสำแดง 
4. กระต่ายกับหนู 
     กระต่ายหิวโซตัวหนึ่ง  ถึงคราข้าวยากหมากแพง 
หากินยากยิ่งหน้าแล้ง  อดมื้อกินมื้อยากเย็น 
ทำให้ผ่ายผอมโหดหิว  ท้องกิ่วโซเซมาเห็น 
รูหนูสงสัยคงเป็น  ที่ซ่อนอาหารของมัน 
ลองมุดเข้าไปจนได้  นี่ไงข้าวเปลือกพร้อมสรรพ์ 
เม็ดถั่วเม็ดงาสำคัญ  ของโปรดทั้งนั้นโชคตู 
มันแอบกินเพราะหิวมาก  ลำบากหลับในรังหนู 
ตื่นมาหิวอีกมองดู  อาหารมากมีสะดวกดาย 
กินอิ่มนอนหลับอ้วนท้วน  ของกินยั่วยวนเหลือหลาย 
ร่างมันโตใหญ่มากมาย  เคลื่อนกายลำบากยากเย็น 
จักออกก็ออกมิได้  ตัวใหญ่คับรูยากเข็น 
พวกหนูมาพบล้อเล่น  เฮ้ยคุณต่ายจอมโจร 
แอบกินอาหารพวกข้า  โลภาอ้วนพีเคยโผน 
โลดแล่นเร็วไวลองโดน  หนูแทะหางเล่นเป็นไร
รูเล็กที่แกเห็นนั่น  มันทางมุดมาใช่ไหม 
ตอนนี้อ้วนพีตัวใหญ่  เลยออกมิได้สนุกเรา 
ต้องเป็นของเล่นหนูหนู  อยู่นี่ช่วยให้คลายเหงา 
ได้กัดได้ถีบเบาเบา  จนกว่าจักผอมค่อยไป 
อันความโลภโมโทสัน  โทษมันมากมีขอไข 
ชักนำทำผิดพลาดได้  บางคราวเภทภัยตามมา 
พึงรู้จักยั้งชั่งจิต  พึงคิดรอบคอบสอบหา 
ควรหรือมิควรปัญญา  จักได้ไม่พลั้งมากมาย
5. กระต่ายกับเพื่อน
กระต่ายป่าอารมณ์ดี มีเพื่อนสัตว์ป่าหลากหลาย
ม้าวัวแพะแกะมากมาย ภูมิใจโอ้อวดทั่วไป
กระต่ายแบบฉันเพื่อนมาก เขาอยากเป็นมิตรแน่ไหม
สัตว์สร้างสัมพันธ์นั่นไง ฉันมีมากมวลแน่นอน
วันหนึ่งพรานป่าล่าสัตว์ แกจัดฝูงหมาเห่าหอน
ออกล่าไล่ตามดงดอน จวนถึงถิ่นกระต่ายมัน
เพื่อนฝูงฉันก้มีมาก คงมิลำบากน่าขัน
ยามยากอย่างนี้ช่วยกัน สำคัญคิดว่าคงดี
เพื่อนม้าวานเกลอช่วยหน่อย เราคอยนายพาหลบหนี
ม้าบอกธุระฉันมี ลองไปถามไถ่คุณวัว
กระต่ายวิ่งหามินาน พบพานขอร้องน่าหัว
มันบอกกูเองก็กลัว มิหนำมีนัดนวลนาง
งัวสาวสุดสวยเซกซี่ โทษทีกลัวสาวเมินหมาง
ทีหลังมิขัดวัวอ้าง ลองไปหาแพะดูเธอ
เดินทางเทียวหาคุณแพะ แวะไปพบพานเสนอ
กลัวหมาพาหนีหน่อยเกลอ มันร้องใกล้มาทุกที
อยากช่วยเหมือนกันแพะว่า ขนข้ายามนั่งพาหนี
แข็งมากทิ่มตำไม่ดี เพื่อนจักเจ็บตูดทรมาน
ลองถามเจ้าแกะดูนะ ขนมันละเอียดลองขาน
พบมันลองขอไหว้วาน สบายกว่ากันมากเลย
กระต่ายตรงไปหาแกะ ตามแนะฟังเพื่อนเปิดเผย
พวกกูกลัวมิอยากเอ่ย หมามันชอบกัดแกะเรา
ทันใดหมาป่ามาใกล้ กลัวภัยด้วยความขลาดเขลา
ออกวิ่งรวดเร็วมิเบา รอดพ้นความตายปลอดภัย
อันเพื่อนมากมวลที่มี เพื่อนดีพึ่งพาอาศัย
มีน้อยหายากกระไร ส่วนใหม่มักเป็นเพื่อนกิน
ทำการทำกิจน้อยใหญ่ ครวญใคร่ทั้งศาสตร์และศิลป์
ลงมือทำเองยลยิน มักเสร็จได้ด้วยปัญญา
6.  กวางกับเสือ
กวางน้อยหากินในป่า เล็มหญ้าใบไม้เสาะหา
มินานพรานไพรผ่่านมา เห็นท่าไม่ดีหนีไป
นายพรานตามมิลดละ สะกดรอยกวางอยู่ไหน
มินานเห็นหลังไวไว โลดไล่มิยอมเลิกรา
กวางน้อยตกใจยิ่งนัก หักหลบเข้าถ้ำผวา
มิรู้เป็นถ้ำพยัคฆา หน้าตั้งวิ่งมุดเข้าไป
เสือโคร่งก็ตื่นตระหนก ยกคอแอบดูสงสัย
เออหนอนี่มันอะไร หรือภัยวิ่งมาหาเรา
ที่แท้ลูกกวางตัวจ้อย เด็กน้อยช่วยให้คลายเหงา
เอ็งจักเป็นอาหารเรา ย่องเข้าตะครุบทันที
ลูกกวางถึงกาลอวสาน บันดาลคิดหาวิถี
หมดสิ้นคงยากครานี้ มิมีทางรอดใดเลย
อันตรายมากมายนักหนอ ถึงรออยู่นิ่งเฉยเฉย
มัจจุราชเชิญรถมาเกย ยามเผยให้เห็นสะพรึงกลัว
ไม่เลือกเวลาเย็นเช้า พบเข้ายามบ่ายน่าหัว
ยามค่ำยามดึกใช่ชั่ว อย่ามัวประมาทมัวเมา
7.  กวางป่ากับพุ่มไม้
กวางหนุ่มถูกพรานล่า หลบหลีกกลางป่าขุนเขา
วิ่งมาพบพุ่มไม้เก่า ใบอ่อนแตกคลุมรำไร
แวะหลบเช่นเคยดีแน่ นายพรานเหลือบแลอยู่ไหน
มิเห็นวิ่งผ่านเลยไป กวางหนุ่มวางใจยินดี
ยืนนานชักหิวมากนัก หักกิ่งไม้เล็มตรงนี้
กำลังแตกใบมากมี ยอดอ่อนรสเปรี้ยวปรีดา
มินานพรานกลับทางเก่า เห็นเข้าพุ่มไม้แลหา
ทำไมใบหล่นแปลกตา ที่แท้กวางหลบนั่นเอง
ส่องปืนนัดเดียวกวางล้ม สมใจเพราะกวางข่มเหง
พุ่มไม้มีคุณมิเกรง มัวกัดกินใบเสียเพลิน
พุ่มไม้ใบมิดปิดบัง มิได้ระวังขัดเขิน
จนใบโปร่งบางง่ายเกิน พรานเห็นดับดิ้นชีวา
อันคนอกตัญญู มิรู้คุณคนอื่นหนา
มักมีเภทภัยบีฑา เพราะว่าบาปกรรมตนแล
8.  กากับนกยูง
ยายแก้วเรียกลูกมาพบ นิทานอีสปพวกแก
รีบมาอย่ามัวงอแง เรื่องกาอยากเป็นนกยูง
มันอยู่กลางป่ากลางดง ทุกวันคงอยู่กับฝูง
จิตใจมักอวดชักจูง ลืมทุ่งลืมป่าดงดอน
เห็นขนนกยูงสีสวย งงงวยมนต์ขลังเฝ้าสอน
ตัวข้ามีขนอรชร งอนงามแบบนั้นคงดี
ใครเห็นใครคงอิจฉา เพราะงามสง่าราศี
งามกว่ากาดงพงพี ข้านี้สูงส่งเลิศลอย
มันเที่ยวบินวนเลียบป่า หาขนนกยูงใช้สอย
เก็บมาเสียบแซมไม่น้อย แพรวพรายดังพลอยเลื่อมงาม
มันเที่ยวบินอวดนกอื่น เขาตื่นแปลกใจไถ่ถาม
นั่นตัวอะไรมองตาม ยามมองงุนงงสงกา
มันบินเข้าใกล้นกยูง อยากอยู่กับฝูงเสาะหา
เลียบเคียงเข้าใกล้เสวนา บรรดานกยูงในใจ
เจ้านี่อีกาตัวดำ น่าขำแต่งขนแปลกไฉน
ทำท่าเทียบเราเข้าใจ จิกไล่หลีกพ้นคนจร
โดนจิกด่าตีเจ็บปวด รวดเร้าหลบจากสิงขร
บินมาหาเพื่อนในดอน เดือดร้อนหวังพึ่งพวกตน
พวกกาจำได้หมอนี่ อวดดีอวดเด่นสับสน
รังเกียจพวกพ้องยากจน ลนลานอยากเป็นนกงาม
คงถูกขับไล่ไสส่ง ตรงมาไม่ต้องไต่ถาม
ขับไล่ให้ไกลทุกยาม เขาตามจิกตีด่าทอ
อันคนลืมตนลืมชาติ ประหลาดเย่อหยิ่งนี่หนอ
ใครเขารังเกียจเหล่ากอ ไม่อยากพบพ้อสัมพันธ์
ดังกาใฝ่หงส์สูงศักดิ์ มักอวดเขาเห็นเป็นขัน
เพื่อนเก่าทอดทิ้งสำคัญ มาดมั่นสูงไปอีกา
9.  กากับเหยือกน้ำ
ยังมีอีกตัวตาดำ เคราะห์กรรมบินไปในนา
ยามแล้งแสงแดดเจิดจ้า ร้อนจัดจนน่ารำคาญ
นานเข้าก็ชักกระหาย สายตาสอดส่องประสาน
ห้วยหนองขาดน้ำมานาน แห้งผากทุกแห่งเสียดาย
แลเห็นกระท่อมกลางนา แวะหาคงไม่เสียหาย
อาจมีตุ่มน้ำผ่อนคลาย หิวมากจวนจักเป็นลม
มีตุ่มแต่ไม่มีน้ำ ช้ำนักอีกาขื่นขม
เห็นเหยือกอีกใบตาคม แวบแวบในห้องชาวนา
เลาะไปเห็นมีน้ำอยู่ นิดหน่อยก้มดูหรรษา
ก้มลงจักดื่มสักครา เสียดายอยู่ลึกเกินไป
มันคิดตรึกหาวิธี พลันมีความคิดแจ่มใส่
บินหาหินคาบเอาได้ วางใส่ลงเหยือกทดลอง
หลายรอบหลายก้อนน้ำล้น จนดื่มได้ตอบสนอง
ไหวพริบปัญญาดังทอง คุณค่ามากพ้นคณนา
สั่งสมเอาไว้ดีนัก ประจักษ์ยามสบปัญหา
หากแม้นมากมีปัญญา สามารถช่วยได้แน่เธอ
10.  ไก่แจ้กับเหยี่ยว
ไก่แจ้หนุ่มน้อยสองตัว ชอบมั่วแก่งแย่งกันเสมอ
ถึงอยู่ด้วยกันยามเจอ แกอย่ามาแย่งฉันซี
ลานบ้านมันเขตของฉัน เธอนั้นที่หลังกำแพง
ต่างตัวต่างก็ไม่ยอม พร้อมรบอย่ามากำแหง
ที่สุดก็ต้องออกแรง ทิ่มแทงด้วยเดือยจิกตี
ตัวเล็กด้อยพลังพ่ายแพ้ เจ็ดปวดนักแลถอยหนี
แอบอยู่ไต้ถุนรอรี เจ็บนี้ปวดนักร้าวราน
ไก่แจ้ตัวใหญ่ชนะ ประกาศก้องกูกล้าหาญ
ชนะแย่งแดนสำราญ เบิกบานโลกนี้ของกู
โก่งคอขันเอ๊กอีเอ๊ก เด็กเด็กหายไปไหนสู
คนเก่งคนชนะมาดู ยืนอยู่ที่ขอบกำแพง
บัดดลเหยี่ยวใหญ่ผ่านมา แลหาเห็นไก่กำแหง
กำลังอวดเก่งอย่างแรง เหยี่ยวโฉบสำแดงฤทธี
จับไก่ไปกินโดยง่าย มันตายเพราะอวดไม่หนี
ตัวพ่ายออกมายินดี ไม่มีคู่แข่งสบายใจ
อันการแก่งแย่งทำการ รำคาญคนชนะจะไข
มักอวดเย่อหยิ่งกระไร มักได้ดูหมิ่นดูแคลน
บ่อยครั้งตั้งใจประมาท พลาดพลั้งเสียหายหลายแสน
ดังไก่เสียชีพเสียแดน แม่นมั่นเย่อหยิ่งนั่นนา
11.  ไก่ชนกับหมาจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันถึงเล้าไก่แลหา
ช่องทางจักเข้าไปคว้า หาไก่มากินสักตัว
เสียดายเขาทำมั่นคง มันงงเดินวนเวียนหัว
พวกไก่ต่างแตกตื่นกลัว เห็นรั้วมั่นคงผ่อนคลาย
ไก่ชนตัวหนึ่งบินร่อน เกาะคอนบนรั้วใจหาย
จิ้งจอกกระโจนลวดลาย หมายจักจับมันทันใด
มันโจนหลบลงที่เล้า เพื่อนเขาล้อเลียนสงสัย
จักจิกจิ้งจอกแล้วไซร้ แล้วใยหลบหนีลงมา
ไก่ชนบอกไม่ทันเห็น ยากเย็นหลบจิ้งจอกหนา
เมื่อก่อนมันเคยกัดข้า คมเขี้ยวน่ากลัวจริงจริง
ยอมรับว่ายังขี้ขลาด มิอาจสู้มันชายหญิง
ขออภัยยังไม่อยากทิ้ง คอฉันให้มันคาบไป
อันการยอมรับความขลาด ฉลาดระวังสงสัย
ผ่อนหนักผ่อนเบาเภทภัย ดีกว่าอวดกล้าอวดดี
บ้างก็ประมาทเลินเล่อ ยามเจอเรื่องยากหลบหนี
ปมาโทมัจจุโนปทังชี้ สัจจธรรมจำไว้ดีเธอ
12.  ไก่ได้พลอย
 ไก่เอ๋ยเจ้าไก่แจ้ งามแท้ท่วงท่าสง่าเสมอ
ขนงามเลื่อมสลับได้เจอ ขานขันละเมอจำเรียง
เพราะพริ้งเอ๊กอีเอ๊กเอ๊ก ดังเสกมนต์เสน่ห์เสนาะเสียง
ไก่สาววิ่งหาคลอเคียง จำเรียงจ๊ะจ๋าชื่นใจ
ชวนกันผันผายขุดคุ้ย เขี่ยลุยหากินตรงไหน
ร่องรอยขุดหาคลุ้งไป ฝุ่นได้ตลบอบอวล
มินานสาวไก่กระต๊าก หายากเพชรพลอยน่าสรวล
เม็ดงามน้ำดีเนื้อนวล ควรค่านับหมื่นทีเดียว
กุ๊กกุ๊กทุกคนมาดู งามหรูดูดีสีเขียว
เขากลึงงดงามตามเกลียว รีบเทียวมากันไวไว
เจ้าหนุ่มวิ่งมาหยุดอยู่ แลดูยังคงสงสัย
งดงามมีค่าอันใด ไม่อาจเทียบข้าวเปลือกเลย
จักกินก็กินไม่ลง คงเก็บไว้ดูเฉยเฉย
ไร้ค่าไร้คุณสาวเอย ข้าเคยพบพานมากมาย
ฝูงไก่ผ่านเลยหากิน ไม่ยินไม่ยลลับหาย
อันคนบางคนหญิงชาย คล้ายคล้ายกับไก่ได้พลอย
พบพานสิ่งดีมีค่า กลับมีปัญญาถดถอย
แลเห็นมองเป็นเผือกกลอย ค่าน้อยเลยมองข้ามไป
ต่อผู้ปรีชาฉลาด สามารถค่าควรขานไข
รู้เลือกรู้สรรค์เร็วไว ใช้สอยคุ้มค่าดูเป็น
13.  คนเดินทางกับต้นไม้ใหญ่
กลุ่มคนเดินทางกลางทุ่ง มุ่งหาร่มไม้แลเห็น
ลิบลิบตรงโน้นคงเย็น หลบเร้นบังเงาเบาแรง
สบายใจสนทนาพาที หัวหน้าท่าทีกำแหง
ยโสโอหังชี้แจง ต้นไม้มันด้อยราคา
หนามแหลมใบขมไร้ดอก ยากบอกสรรพคุณนั่นหนา
กิ่งก้านคดเคี้ยวไปมา แลหาคุณมันไม่มี
ต้นไม้รำคาญเลยบอก อ้ายหอกคนไร้ศักดิ์ศรี
กตัญญูกตเวที เครื่องหมายคนดีทุกคน
ได้รับบุญคุณจากใคร รู้ไว้เป็นดีมิสับสน
ตอบแทนเป็นศรีแก่ตน แต่คนอย่างเธอแปลกไป
อาศัยร่มเงาฉันแล้ว ผ่องแผ้วดวงจิตสงใส
กลับมานินทาฉันไย อย่างนี้เรียกอกตัญญู
เก่งจริงหลบไปลองที จึงชี้ว่าเก่งอ้ายหนู
มันออกจากร่มไม้ดู ครู่เดียวลนลานกลับมา
ร้อนมากเกินทนครับผม แทบลมจับเจียวจริงหนา
ขอโทษผมมันพวกบ้า ไม่รู้คุณร่มมากมาย
14.  คนตกเบ็ดกับลูกปลา
ชายหนุ่มเป็นนักตกปลา นั่งรอแต่เช้าจนสาย
เห็นปลามันมีมากมาย มันแหวกว่ายมากมวลมี
แต่ปลามิยอมติดเบ็ด จนเอวเคล็ดน่าหน่ายหนี
นั่งรอดูปลาท่าที บ่ายคล้อยแล้วชักเหนื่อยใจ
กำลังจะกลับไปบ้าน สายเบ็ดพาลตึงสงสัย
วิดเบ็ดขึ้นมาทันใด ติดปลาตัวจ้อยนิดเดียว
ปลาน้อยร่ำร้องวิงวอน ฟังก่อนท่านผู้ฉลาดเฉลี่ยว
ตัวข้ายังเด็กเล็กเชียว เนื้อน้อยไม่พอต้มแกง
ปล่อยข้าไปเถอะเจ้านาย ภายหน้ายามข้ากำแหง
เติบโตมีเรี่ยวมีแรง จักมาให้จับอีกนาย
เจ้าหนุ่มบอกว่าน่าฟัง แต่ยังมิเชื่อโฉมฉาย
ตัวเล็กตัวใหญ่วุ่นวาย ภายหน้าหวังจับยากเย็น
จับได้ตัวเล็กก็ปลา ได้มาดีแล้วที่เห็น
อดทนลำบากลำเค็ญ จับได้แค่นี้พอใจ
อันการหวังน้ำบ่อหน้า จักหาพบเห็นฤาไฉน
มักจักพลาดพลั้งผิดไป ส่วนมากมากพลาดเคยยิน
15.  คนเรือแตกกับกวี
ซีโมนิดกวีแห่งเอเธนส์ เป็นผู้เชียวชาญเชิงศิลป์
กาพย์โคลงแต่งเป็นอาจิณ ใครเห็นใครอ่านชื่นชม
บ้านอยู่ที่เกาะซีออส สุดยอดคนดีกวีสม
รวยลาภรวยเกียรติชนนิยม คารมเพราะพริ้งแพรวพราว
คราวหนึ่งไปเที่ยวเอเซีย อินเดียท่องไปไม่หนาว
ชมบ้านชมเมืองเรื่องราว วีรกรรมวีรชนสนใจ
แต่งบทสดุดียกย่อง ผู้ครองแผ่นดินถิ่นไหน
ล้วนเป็นคนดีศิวิไลซ์ กวีไขเกียรติขจรขจาย
เจ้าเมืองชอบใจให้ลาภ ซาบซึ้งโคลงกลอนเหลือหลาย
เงินทองมากมีมากมาย เสียดายห่างบ้านนานมา
จองเรือเดินทะเลเร่ร่อน จักจรคืนกลับเคหา
ที่กรุงเอเธนส์แก้วตา ภรรยาครอบครัวคอยรอ
เรือพบพายุกระหน่ำ เคราะห์กรรมเรือแตกแลหนอ
ผู้คนตื่นกลัวยืนออ บ้างขอเก็บเงินเก็บทอง
เพชรนิลจินดาหายาก ค่ามากยิ่งทรัพย์ทั้งผอง
วุ่นวายหีบห่อจับจอง ข้าวของพะรุงพะรัง
แลเห็นกวีนิ่งอยู่ มิรู้ถอดใจไร้หวัง
ฤๅว่าตะลึงลืมคลัง สมบัติเขายังมากมาย
เขาบอกท่านกวีรีบเข้า เก็บเอาเพชรนิลไว้ขาย
เงินทองกระจัดกระจาย ภายหน้าจักได้ใช้กัน
กวีใหญ่ส่ายหน้าไม่ครับ ไม่รับเงินทองพร้อมสรรพ์
ขอเพียงท่อนไม้สักอัน โอบมันลอยคอในชล
สมบัติเรามีในหัว มิกลัวอดตายอย่าฉงน
เตรียมตัวพี่น้องทุกคน เรือวนเวียนล่มจมไป
หลายคนหนักหีบสมบัติ น้ำพัดยากว่ายจริงไฉน
จมน้ำชีวันบรรลัย เพราะใจโลภหลงเงินทอง
บางคนขึ้นฝั่งพบโจร เลยโดนปล้นจี้ทั้งผอง
แก้วแหวนที่หวังครอบครอง เลยต้องหมดตัวพอดี
ส่วนเซโมนิดถูกปล้น ถึงค้นก็ไม่หน่ายหนี
ทรัพย์สินเงินทองไม่มี โจรไว้ชีวีเมตตา
นายโจรจำโมนิดได้ กวีใหญ่เอเธนส์นี่หนา
เคยอ่านผลงานท่านมา ปรีดาได้พบท่านกวี
ขอโทษล่วงเกินท่านไว้ เพียงได้พบเห็นเป็นศรี
จัดเลี้ยงขออภัยไมตรี ยินดีถ้วนหน้าประชาชน
ของขวัญหลั่งมามอบให้ อยากได้ผลงานการกุศล
บทกวีคำกลอนสอนผู้คน แจกทุกตนทรัพย์กวีคือปรีชา
อันกิเลสโลภหลงปลงลำบาก อยากได้มั่งมีวาสนา
สั่งสมเพชรนิลจินดา จวบจนมรณามิปล่อยไป
ส่วนทรัพย์ปัญญาพาฉลาด สามารถทำการงานไหนไหน
หนักเบาเสร็จสรรพเร็วไว หาได้เงินทองมวลมี
โจรปล้นวิชชายากนัก ไม่หนักส่งเสริมเติมศรี
สั่งสมปัญญาแหละดี โบราณท่านชี้เลิศเลอ
16.  คนเลี้ยงแพะกับลูกเสื่อ
กระทาชายนายหนึ่งเลี้ยงแพะ ต้อนแวะริมทางเสมอ
ทุ่งหญ้างอกงามที่เจอ เพื่อนเกลอเลี้ยงแพะสบายดี
วันหนึ่งเข้าไปในป่า หาไม้ทำคอกวิถี
เข้าไปป่าลึกมากมี ตัดไม้มัดชี้เต็มเกวียน
ขากลับจับได้ลูกเสือ แปลกเหลือหลงมาพาเหียร
วิ่งมาหาคนวนเวียน จวนเจียนจักปล่อยทิ้งไป
นำมาเลี้ยงดูที่บ้าน มินานแข็งแรงไฉน
มักสอนเสือทำจัญไร ลักแพะมาให้ฆ่ากิน
ชาวบ้านแพะหายบ่อยบ่อย ไม่น้อยเสียหายทรัพย์สิน
มิเคยมีใครยลยิน มีโจรใจหินย่องเบา
เวรยามชาวบ้านเร่งรัด จัดรั้วแน่นหนาพวกเขา
ปืนผาหน้าไม้หยิบเอา มาเฝ้าแพะแกะปลอดภัย
เสือหิวขโมยลำบาก หิวมากหาช่องทางไหน
ที่แท้แพะบ้านตนไง มีให้จับกินมากมาย
นับนานเจ้าของสังเกต เหตุมีแพะแกะมันหาย
ที่แท้เสืออันตราย แยบคายแอบจับกินเอง
อันคนคิดคดไม่ซื่อ ถือเอาประโยชน์ข่มเหง
เอาเปรียบคนอื่นนักเลง มิเกรงกลัวเวรกลัวกรรม
สุดท้ายอันตรายหวนกลับ ทุกข์ทับตนเองน่าขำ
การดีผลดีจงจำ การชั่วจักช้ำตามมา
17.  คนเลี้ยงวัวกับวัวที่หายไป
แม่วัวตัวหนึ่งหายไป อยู่ไหนคนเลี้ยงตามหา
ลัดเลาะไปตามราวป่า ก็ยังมิเห็นแม้เงา
พอดีมาถึงต้นไทร นึกได้เทพแห่งป่าเขา
คงช่วยเปลื้องทุกข์ให้เรา จำลองบนบานดูที
แวะไปกราบไหว้ต้นไทร ท่านผู้เกรียงไกรทรงศรี
ลูกช้างขอพึ่งบารมี ช่วยชี้แม่วัวหายไป
อยากเห็นเจ้าโจรตัวฉกาจ บังอาจลักวัวสงสัย
แม้นเจอจักจับมัดไว้ เฆี่ยนให้สักห้าสิบที
บัดดลพระไทรบันดาล ให้พานพบวัวที่หนี
พร้อมกับโจรร้ายทันที ราชสีห์กำลังกัดวัว
คนเลี้ยงหวาดกลัวตัวสั่น พรั่นพรึงตอนมันกัดหัว
ท่านเทพได้โปรดข้ากลัว ไม่เอาอีกแล้วเรื่องโจร
ขอเพียงรอดจากป่านี้ บัดพลีระบำรำโขน
แถมวัวตัวใหญ่จักโอน ถวายท่านเทพเจ้าปราณี
อันเทพบันดลบันดาล หากท่านให้จริงนวลฉวี
สูเจ้าคงขอมากมี หาได้สิ้นสุดเพียงพอ
ได้ของที่ชอบแย้มยิ้ม อิ่มอกพึงใจเจียวหนอ
ได้สิ่งน่ากลัวตัวงอ ขอผ่านไม่เอากลัวลาน
18.  ความรักของนางแมว
ความรักก็เหมือนโคถึก พลังคึกดูไปห้าวหาญ
กล้าคิดกล้าพร่ำสาบาน กระทำได้ทุกเรื่องไป
ยังมีนางแมวสีสวาด มันฉลาดยิ่งมิสงสัย
แต่แปลกเออหนอดวงใจ เฝ้าหลงรักนายผู้ชาย
หากแม้ฉันเป็นผู้หญิง รักเป็นจริงได้ดังหมาย
จักต้องได้แปลงรูปกาย มิง่ายแมวเฝ้าตรึกตรอง
จำต้องพึ่งเทพฤทธิ์ ประสิทธิ์อาคมสมสนอง
เสกให้เป็นหญิงรูปทอง ผุดผ่องรูปพรรณพิไล
แมวหง่าวดั้นด้นเสาะหา เทวาท่านอยู่หนไหน
บุกป่าฝ่าดงพงไพร จนได้พบพานเทวดา
วิงวอนกล่าวอ้างเหตุผล จนเทพเสกให้หรรษา
สาวแมวยินดีอำลา กลับมาที่บ้านสมใจ
เป็นคู่สู่สมชายหนุ่ม รักรุมเร่าร้อนยิ่งไฉน
คลอเคลียมิยอมห่างไกล สาวแมวรักใครยอดชาย
ผ่านไปนานวันเทพา สงกานางแมวมิหาย
นิสัยคงไม่กลับกลาย จำต้องทดลองมันดู
นางแมวกำลังเคลียคลอ พะนอชายหนุ่มเห็นหนู
มันวิ่งผ่านเข้าประตู ลืมตัวกลายร่างทันที
เป็นแมวไล่จับหนูหริ่ง วิ่งไล่รอบห้องอย่าหนี
เมี้ยวเมี้ยวไล่กวดเร็วรี่ หนูหลบหายวับกับตา
วิมานรักพังทลาย ร่างกลายเป็นแมวแล้วหนา
นิสัยดั้งเดิมเป็นมา ลำบากยากจักเปลี่ยนไป
ต้องฝึกอดทนอดกลั้น ผูกพันจงเจตน์แก้ไข
แน่วแน่จึงจักผ่านได้ ขันติมั่นไว้ไตร่ตรองฯ
19.  จำอวดกับชาวเมือง
เศรษฐีกรุงโรมใจดี มีใจจักเฉลิมฉลอง
เทศกาลรื่นเริงทำนอง ป่าวร้องมีเล่นนานา
อีกทั้งระบำจำอวด ประกวดเล่นกันหรรษา
มุขใหม่ดีเด่นบอกมา ถ้าเก่งจักมีรางวัล
ตลกจำอวดมากมาย หญิงชายสมัครแข่งขัน
ถึงคราประกวดประชัน เล่นกันครึกครื้นรื่นรมย์
หลายสิบคณะผ่านไป ยังมิมีใครเหมาะสม
จักได้รางวัลไปชม มีแต่มุขแบบธรรมดา
ครั้นมีชายหนุ่มหนึ่งคน บอกตนมุขแนวแปลกหนา
ซ่อนหมูไว้ในอุรา ให้ร้องออกมาตลกดี
เขาเดินไปที่กลางวง คนงงหมูไม่เห็นมี
หนุ่มล้วงอกแล้วชี้ ซ่อนไว้ตรงนี้คอยดู
แกล้งร้องอู๊ดอู๊ดเหมือนมาก คนต่างหลากจิตเสียงหมู
บางคนขอค้นอยากรู้ ไม่เห็นไม่มีแน่นอน
ปรบมือยกย่องเขาเก่ง เซ็งแซ่ทุกทิศสลอน
ยกมือยกนิ้วบ้างวอน ขอฟังอีกทีเป็นไร
มีเสียงคัดค้านบอกว่า ของข้าแน่กว่าฟังไหม
ว่าแล้วกระโดดขึ้นไป ทำเสียงอู๊ดอู๊ดอีกที
เหมือนกว่าคนแรกแน่นอน แต่ตอนเขาค้นจักหนี
จับได้ล้วงพุงเจอดี เพราะมีลูกหมูของจริง
คนชมโห่ฮาดังลั่น บ้างขันมากมายชายหญิง
ดิ้นหลุดมาได้ออกวิ่ง กลัวเขาไล่ทุบวุ่นวาย
คนเรานี่มันก็แปลก มิแยกมันต่างกันหลาย
ของจริงของปลอมมากมาย สมบัติมันแตกต่างกัน
ชื่นชมของปลอมออกหน้า ถึงคราของจริงขบขัน
มันแปลกแต่จริงคนนั้น เขาว่ามันบ้าเอาการ
20.  ชาวนากับงูเห่า
ชาวนาใจดีหนึ่งคน วางตนเมตตาสงสาร
ช่วยคนช่วยสัตว์มานาน ชาวบ้านยกย่องว่าดี
วันหนึ่งไปตรวจนาข้าว ยืดยาวหญ้ารกวิถี
สองข้างคันนามากมี แบบนี้ต้องถางมากมาย
ถางหญ้ามินานพานพบ งูเห่าหลบอยู่ใจหาย
มันคงลอกคราบผิวกาย อันตรายผิวบางลมเย็น
จนทำให้มันเป็นเหน็บ เจ็บปวดนอนนิ่งที่เห็น
ชาวนาเห็นงูลำเค็ญ อยากเป็นผู้ช่วยเมตตา
โอเจ้านอนขดคงหนาว ถึงคราวอบอุ่นแล้วหนา
โอบอุ้มแนบอกปรีดา หลับเถิดลูกยาสบายใจ
งูเห่านอนซบอบอุ่น โลหิตหมุนเวียนดีไฉน
คืนสภาพปกติเร็วไว เพราะมีไออุ่นชาวนา
ดีใจเห็นงูขยับ หวังจับจักปล่อยแลหา
ตรงที่วางงูเมตตา ทำท่าจักวางโดยพลัน
งูเห่าตกใจฉกกัด ชาวนาสะบัดหุนหัน
งูเลื้อยหลบหายตรงนั้น ชาวนาตัวสั่นปวดใจ
พิษแผ่กระจายจนทั่ว หน้ามืดตามัวปวดไฉน
ที่สุดสิ้นลมจากไป เพราะได้เมตตาเห่าดง
อันคนจิตใจเป็นพาล สันดานแก้ยากหากหลง
ทำคุณเมตตามั่นคง พึงปลงจิตไว้ก่อนเลย
อาจได้โทษตอบแทนกลับ ฉบับงูเห่าเปิดเผย
แทนคุณชาวนาดังเคย เอ่ยไว้เป็นเรื่องเป็นราว
21.  ชาวนากับสัตว์เลี้ยง
หนุ่มใหญ่คนหนึ่งอยู่บ้าน พายุพัดผ่านเหน็บหนาว
ติดอยู่หลายเดือนยืดยาว เสบียงร่อยหรอลำเค็ญ
จำต้องเชือดแกะเอาเนื้อ น่าเบื่อพายุที่เห็น
ทำไมหยุดยากหยุดเย็น หลายวันเนื้อแกะหมดไป
เสียดายจำต้องฆ่าแพะ ชำแหละเอาเนื้อเถือไข
เป็นเสบียงยามวาตภัย ผ่านไปอีกเดือนหมดลง
เหลือวัวอีกตัวต้องฆ่า พายุมันชวนพิศวง
ยังพัดอีกนานมั่นคง จงใจทำร้ายชาวนา
สุนัขสองตัวเลี้ยงไว้ ได้เห็นเรื่องราวปรึกษา
สัตว์เลี้ยงที่รักถูกฆ่า แล้วหมาจักรอดฉันใด
ขืนอยู่ก็คงตายแน่ เว้นแต่จักหลบดีไหม
พวกเรามาลองเสี่ยงภัย ไปตายดาบหน้าเถอะเรา
สองหมาพากันหลบหลีก ปลีกตัวไปในขุนเขา
เลยรอดภัยหนักเป็นเบา ดีกว่านั่งรอความตาย
ยามรู้อุปสรรคปัญหา ปัญญาแก้ไขไม่สาย
หนักเบาแก้ได้ไม่วาย ผ่อนคลายด้วยสติชาญเชาวน์
22.  ชาวนากับสิงโต
ชาวนาเห็นราชสีห์ หลงมาที่บ้านของเขา
อยากมีสัตว์สวยมิเบา ท่าทางสง่าน่าชม
ให้มันอยู่ที่บ้านนี้ คงดีคิดว่าเหมาะสม
มีบุญมากหนานิยม เลี้ยงอย่างสิงโตพึงใจ
ต้องขังมันเกรงหลบหนี ทุกที่ทุกทางอย่างไหน
เสริมรั้วมั่นคงจงใจ ปิดทางหลบหนีทุกทาง
มันเดินวนเวียนไปมา หาช่องออกล้วนถูกขวาง
ชักหิวเห็นวัวเป็นกวาง ล้มวัวกัดกินสบายใจ
วันหลังก็จับแพแกะ กัดแทะอร่อยไฉน
ชาวนาเพิ่งเห็นเภทภัย รีบปล่อยมันไปโดยดี
นั่งบ่นเสียดายสัตว์เลี้ยง เมียเถียงไม่เชื่อนวลฉวี
ใครบอกให้ขังตัวกาลี อัปรีย์กินหัวแกเอง
การคบคนพาลหรือโจร เหมือนโอนเภทภัยข่มเหง
มิเคยรู้จักกริ่งเกรง นำมาแต่เหตุเภทภัย
23.  ชาวไร่กับนกกระเรียน
ชาวไร่ปลูกถั่วปลูกงา เวลางอกงามดีไฉน
ติดดอกติดผลทั่วไร่ หนักใจนกกามากมี
ทำหุ่นไล่กาหลายตัว มันยังมิกลัวมิหนี
ไปหาซื้อแร้วเร็วรี่ มาดักหลายที่คอยรอ
รุ่งขึ้นไปดูกู้แร้ว ตามแนวที่ดักจริงหนอ
มีนกติดแร้วมากพอ ทำเป็นอาหารหลายวัน
มีนกกะเรียนหนึ่งตัว กลัวตายวิงวอนว่าฉัน
มิเคยกินถั่วงานั้น อย่าฆ่าเราเลยท่านนาย
ชาวไร่บอกเราจับได้ ในเขตหวงห้ามมันสาย
มิเคยปล่อยให้รอดตาย ทำลายพืชพันธุ์ของเรา
อันคนเกลือกกลั้วคนพาล สันดานดีชั่วเก่งเขลา
ดูยากแยกยากไม่เบา ถูกเหมาเป็นพาลด้วยกัน
ยามถูกนินทาว่ากล่าว เรื่องราวมิดีพร้อมสรรพ์
ย่อมรวมกับเขาด้วยพลัน มันด่ากราดทั่วพวกพาล
24.  ชาวสวนกับลูก
ชาวสวนมีลูกสามคน ถึงจนแต่ขยันทำงาน
ฐานะพออยู่สำราญ บ้านช่องมีเป็นของตน
นานเข้าชาวสวนคิดหนัก ยามจักล่วงลับสับสน
เป็นห่วงลูกยาทุกคน ผูกกลสั่งสอนแยบคาย
เรียกลูกมาพร้อมหน้ากัน วันนี้พ่อดีใจหลาย
ลูกรักทุกคนเป็นชาย แม้นพ่อตายไปจงฟัง
สมบัติอยู่ใต้ร่องสวน ชวนกันไปดูด้านหลัง
ขุดเอาขึ้นมาระวัง พ่อสั่งจำไว้ให้ดี
มินานชาวสวนสิ้นใจ ทุกคนจำได้วิถี
สมบัติฝังดินคงมี พ่อชี้ร่องสวนทุกคน
ต่างคนต่างขุดร่องสวน ยวนใจสมบัติสับสน
ขุดมาสามรอบกังวล จนใจไม่เห็นเงินทอง
แปลกนักพ่อไม่โกหก ตกใจไม่พบทั้งผอง
หยุดคุ้ยมานึกตรึกตรอง ยังมองไม่เห็นช่องทาง
เรือกสวนพืชพันธุ์แตกกิ่ง ทิ้งดอกออกช่องสะสาง
เต็มสวนงดงามทุกอย่าง เก็บขายได้เงินทุกวัน
เงินทองไหลเข้ามิขาด สามารถเก็บออมพร้อมสรรพ์
มินานรู้เลศสำคัญ พ่อสอนให้ขยันทำการ
ความฉลาดความโง่ก็ดี หากมีความขยันอาจหาญ
ตั้งใจประพฤติทำงาน บันดาลสำเร็จผลดี
ขอเพียงซื่อสัตย์สุจริต รู้คิดมิยอมหน่ายหนี
งานหนักงานเบาทุกที เป็นศรีสง่าน่านิยม
25.  เด็กกับลูกเกาลัด
อ้ายหนูผมจุกคนหนึ่ง ตะลึงขวดโหลขนม
แม่ใส่เกาลัดเปิดดม สุกแล้วหอมหวนโอ้โฮ
แกล้วงกอบเต็มกำมือ แล้วยื้อติดปากขวดโหล
ดึงดันอยู่นานอาโก ผ่านมาเห็นเข้าชอบใจ
อ้ายจุกเอ็งอย่าโลภมาก ลำบากปล่อยมือดีไหม
หยิบทีสามลูกพอได้ หยิบหลายหลายครั้งง่ายดี
ได้คิดทำตามอาโก พิโธ่หยิบง่ายดีหลี
อันคนความคิดโลภมี มักเป็นอุปสรรคการงาน
หลายกิจต้องทำช้าช้า เวลานับเนิ่นกิจการ
ผลิดอกออกผลเบ่งบาน หาใช่เร่งวันเวลา
อย่างเช่นสูเจ้าทำสวน กระบวนหลายเดือนเขียวหนา
พืชผักเพาะลงเป็นกล้า ผ่านมาเป็นเดือนเป็นปี
ใจร้อนเร่งรัดมิได้ ทำไปวิริยะวิถี
มินานก็เสร็จพอดี โบราณชี้ใจเย็นเย็น
โลภทำการใหญ่ลำบาก มันหากขวางกิจยากเข็น
ค่อยคิดค่อยทำควรเป็น มินานผลเสร็จได้เจอ
26.  เด็กจับตั๊กแตน
เด็กน้อยตัวจ้อยผมจุก ซุกซนคะนองเสมอ
ใจร้ายกับสัตว์ที่เจอ มิเผลอรังแกร่ำไป
เจ้าตูบโดนเตะประจำ ทำร้ายสุนัขสงสัย
เดินผ่านงัวควายชอบใจ หักไม้เฆี่ยนตีรื่นรมย์
วันหนึ่งเจ้าจุกลุกเดิน เพลิดเพลินกลางสนามสุขสม
โลดไล่ตั๊กแตนเล่นลม ชื่นชมจับได้มากมาย
ใส่ถุงขังไว้หลายตัว ใจมัวมืดมนเหลือหลาย
พอใจข่มเหงสัตย์กลาย เป็นคนใจร้ายใจดำ
สักครูแมลงป่องน้อย ตัวจ้อยจุกเห็นก็ขำ
กระโดดตะครุบเต็มกำ จำเรียงแมงป่องท้าทาย
เหวยเหวยเจ้าเด็กเกเร อุเหม่มึงอยากฉิบหาย
มาต้องตัวข้าตาลาย จักหาที่ตายหรือไร
ตัวข้าผิดแผกตั๊กแตน แม้นต้องตัวข้าสงสัย
เอ็งอาจร่ำร้องร่ำไร ร้องไห้ปางตายเชียวนา
ตั๊กแตนมากมายที่จับ หายวับระวังกังขา
หลบไปข้ายังเมตตา หาไม่ข้าสู้ไม่กลัว
เด็กจ้อยมิสนตะปบ โดนขบต่อยปวดเจ็บตัว
ทิ้งถุงปวดสั่นระรัว ร้องไห้เป็นวักเป็นเวร
อันคนผู้มีอำนาจ อาจข่มคนด้อยเคยเห็น
พวกมันหวั่นหวาดเพราะเป็น เพียงชั่วขลาดเขลาเบาปัญญา
หากพบคนจริงคนเก่ง ข่มเหงมิได้ดอกหนา
ขืนพาลสุ่มสี่สุ่มห้า จักพาเจ็บปวดเจียนตาย ฯ
27.  เด็กเลี้ยงแกะ
มีเด็กเลี้ยงแกะหนึ่งคน ชอบกลเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ชอบแกล้งคนอื่นวุ่นว่าย พอใจหลอกได้ยินดี
คราวหนึ่งต้อนแกะไปเลี้ยง มองเมียงไปตามวิถี
ทำเลใกล้ป่าพอดี อีกด้านก็เป็นทุ่งนา
ปล่อยแกะแล้วออกเดินเล่น ลมเย็นกลางทุ่งแลหา
พวกคนกำลังหอบกล้า ปักดำคร่ำเคร่งทำงาน
ผู้คนกำลังเมื่อยล้า ถ้าได้ตื่นเต้นฮึกหาญ 
สนุกแน่นอนคิดการ หาเรื่องหลอกเขาคงดี
จักได้ลืมความเหน็ดเหนื่อย คิดเรื่อยจนเห็นวิถี
จึงร้องช่วยด้วยน้องพี่ หมาป่าไล่แกะฉันไป
ชาวนานับสิบยินเสียง สำเนียงเด็กร้องสงสัย
หมาป่ากัดแกะเภทภัย จำต้องไปช่วยด้วยกัน
หยุดงานวิ่งมาจักช่วย ฉวยได้มีดไม้พร้อมสรรพ
มาถึงถามหาหมามัน อยู่ไหนพวกฉันจัดการ
เด็กน้อยปรบมือหัวร่อ คุณพ่อคุณพี่ขอขาน
ฉันเห็นเหน็ดเหนื่อยทำงาน เลยหาเรื่องสนุกให้ทำ
เห็นวิ่งหน้าตั้งคงสนุก หมดทุกข์หายเหนื่อยน่าขำ
หมาป่าหนีแล้วแหละกรรม มันคงหวาดกลัวรีบไป
หลายคนก่นด่าเด็กผี พาทีโกหกสงสัย
พ่อแม่มิสอนหรือไร หลอกให้เสียการเสียงาน
หลายวันเลี้ยงแกะเช่นเคย ละเลยมัวเล่นสนุกสนาน
หมาป่ามันมาพบพาน ฝูงแกะไล่กัดล้มตาย
เด็กน้อยวิ่งไปทุ่งนา ลุงป้าช่วยด้วยฉิบหาย
หมาป่ากัดแกะวุ่นวาย ช่วยด้วยย่ำแย่จริงเจียว
ชาวนาหัวร่ออ้ายหนู อย่ามาหลอกกูให้เสียว
มิเชื่อน้ำคำมึงเชียว พวกเราทำงานต่อไป
หมดท่าเสียแกะมากมาย วอดวายเสียสัตย์ขานไข
โป้ปดมดเท็จจัญไร ใครเขาจักเชื่อน้ำคำ
อันคนที่เสียสัจจะ ตระบัดบ่อยจนถลำ
ถึงคราวพูดจริงจักช้ำ มิมีคนเชื่อจัญไร
28.  ต้นไทรกับต้นอ้อ
คราวหนึ่งพายุแรงจัด พัดหมุนผ่านมาป่าใหญ่
รุนแรงขนาดต้นไทร หักโค่นลอยในน้ำวน
มินานมาติดพงแขม แซมกอริมฝั่งฉงน
ลมแรงพัดมาใยทน หลุดพ้นอยู่ได้ทั้งมวล
จึงเอ่ยปากถามคุณแขม แย้มหน่อยยามลมพัดหวน
เมื่อคืนข้าโดนมันป่วน ดินร่วนถอนรากถอนโคน
ล้มลงลอยน้ำลำธาร ยากจัดทัดทานหิ้วโหน
ลดเลี้ยวเร่รอนกระโจน ฟองน้ำฟาดโยนไปมา
กระทั่งพบพานพวกท่าน ขอวานช่อยตอบปัญหา
เหตุใดพวกท่านนานา มีพายุยังปลอดภัย
พงแขมแย้มคำบอกเล่า ลมเบาลมแรงมิสงสัย
พวกเรารู้แจ้งแก่ใจ ทำให้ต้นอ่อนลู่ลม
ลมพัดผ่านได้โดยง่าย สบายอยู่ดีสุขสม
หาไม่ก็คงล่มจม นิยมเช่นนี้มานาน
อันคนที่แข็งกระด้าง มักร้างไมตรีที่ขาน
แตกหักเสียกิจเสียการ ทุกข์ทนลนลานมาเยือน
สวนผู้นอบน้อมถ่อมตน ผู้คนรักใคร่หาใดเหมือน
ช่วยกิจมิเคยละเลือน มีเพื่อนพวกพ้องสบายดี
29.  ต้นสนกับต้นฉำฉา
ในป่านานาพืชพันธุ์ แมกไม้มันมากมวลมี
ทุกพรรณงอกงามทุกที่ ทรงคุณแตกต่างกันไป
ต้นเล็กคลุมดินดูเด่น ร่มเงาเย็นมิสงสัย
ต้นสูงบังแดดเอาไว้ ธรรมชาติต่างเอื้ออวยกัน
คุณค่าแมกไม้ต่างมี ความเด่นดีเทพเสกสรรค์
ลางเป็นหยูกยาสำคัญ แก้โรคได้สรรพคุณ
ทำสีหยูกยาสารพัด บ้างขจัดพวกกลิ่นเฉียวฉุน
ไล่มดแมลงมีคุณ หลายชนิดลวดลายงามดี
บางพวกงามมากตรงแก่น ค่าหมื่นค่าแสนตามวิถี
คราวหนึ่งพืชในวนา สนป่าเอ่ยอ้างอวดตน
คุยข่มพวกไม้ฉำฉา เองด้อยค่าในไพรสณฑ์
กิ่งก้านเปราะบางเสียจน ต้องลมพัดหักง่ายดาย
ทรงพุ่มก็ดูเกะกะ กิ่งก้านระมักเสียหาย
เนื้อในก็มิมีลาย แกด้อยค่าเสียจริงเจียว
ดูฉันซิดีแข็งแรง ลำต้นแกร่งเนื้อในเหนียว
รูปทรงพุ่มชูดูเพรียว ยามต้องลมเอนลู่งาม
เสียงสนเพราะพริ้งนัก เธอรู้จักในโลกสาม
เสียงสนไพเราทุกยาม โอ้สนเราค่าควรการ
ฉำฉาชื่นชมคำสน ฉันจนปัญญาไขขาน
เป็นจริงดังว่ามานาน แต่วานฟังคำฉันที
ถึงฉันด้อยค่าพอใจ เภทภัยมักห่างวิถี
เติบโตสุขเกษมเปรมปรีดิ์ สุขดีตามสภาพพึงใจ
ยามที่ชาวบ้านเข้าป่า หาดูเสาเรือนต้นไหน
คานตงขื่อเคร่าต้นอะไร เหมาะที่จักใช้การงาน
ทุกคนคงเล็งต้นสน ตัดจนหมดป่าข้าขาน
ข้าคงมิอิจฉาพวกท่าน เชิญให้เบิกบานต่อไป
อันคนที่ค่าสูงส่ง ฐานะมั่นคงเป็นไฉน
มักมีศัตรูเภทภัย แผ้วพานมิเว้นคืนวัน
ส่วนพวกต่ำต้อยด้อยศักดิ์ มักอยู่สุขสบายพร้อมสรรพ
ศัตรูมิเห็นสำคัญ สุขสันต์สำเริงสำราญ
30.  เต่ากับเป็ดป่า
คุณเต่าตัวหนึ่งช่างคิด มีจิตทะเยอทะยาน
มันคิดคำนึงห้าวหาญ บินผ่านบนฟ้าคงดี
คงเป็นหนึ่งเดียวในโลก สบโชคสง่าราศี
ใครใครคงชมมากมี ยอดเต่าเก่งกล้าชำนาญ
แต่ปีกเราไม่มีหรอก ต้องบอกนกกาไขขาน
คบหาเป็นเพื่อนวอนวาน เขาช่วยคงเสร็จสมใจ
มันคอยผูกมิตรเป็ดป่า เวลานับนานไฉน
มีเพื่อนคุณเป็ดจนได้ แล้วมันก็กล่าววิงวอน
นี่แน่ะคุณเป็ดเพื่อนรัก เพื่อนมักบินบนช่วยสอน
ยามอยูบนฟ้าคงร้อน เพราะใกล้ตะวันกว่าเรา
เป็ดว่ามิร้อนดอกแก ยามแลลงมาขุนเขา
ทุ่งนาป้าไม้งามเงา งามเงื่อนสวรรค์จำลอง
เต่าว่าฉันอยากจะเห็น ยากเย็นวอนเพื่อนสนอง
พาขึ้นบินบนอยากมอง มันสวยแค่ไหนเพื่อนยา
มันหาไม้มาหนึ่งท่อน เป็ดวอนคาบให้ดีหนา
สองตัวช่วยกันนำพา หามเต่าบินบนสมใจ
หนักนักบินสูงลำบาก สัตว์ป่าหากเห็นสงสัย
เฮ้ยเต่าเหาะเหิรยังไง แปลกใจมาดูพวกเรา
คุณเต่าภูมิใจนักหนา สัตว์ป่าพวกนี้มันเขลา
อ้าปากด่าพวกงี่เง่า ฉันเต่าผู้มีปรีชา
ปากหลุดท่อนไม้ร่วงหล่น กระทบบนแผ่นหินผา
กระดองกระจายมรณา อนิจจาความโง่ไม่ปราณี
ถึงได้ลาภรวยยศศักดิ์ ก็มักจำต้องห่างหนี
มิอาจครอบครองนานปี ไม่มีสำรวมระวัง
เสื่อมลาภเสื่อมยศจนได้ เพราะไม่มีศีลหมดขล้ง
จาดธรรมกะลีประดัง ทับถมติดตามดังเงา
31.  ท้องกับตัว
อดีตกาลนานมา เขาว่าอวัยวะคนเรา
สามารถพูดคุยกันเบาเบา มีเรื่องบอกเล่ากันมา
คราวหนึ่งมันมีเรื่องกัน ยืนยันใครทำงานหนา
งานหนักงานเบาเจรจา ผมว่าฉันร้อนกว่าใคร
บังแดดแผดเผากลางแจ้ง หัวแย้งคิดยากไฉน
หูฟังสื่อเสียงใดใด ตาใคร่อยากรู้ดูเอา
ปากพูดบอกกล่าวคนอื่น ฟันฝืนขบเคี้ยวงานเขา
ขาแบกพาเดินไม่เบา มือเจ้าหยิบจับทุกอัน
ท้องว่าข้าก็มิรู้ นอนอยู่นึกไปก็ขัน
พวกสูต้องช่วยทั้งวัน งานฉันจึงจักดำเนิน
สรุปทุกคนงานหนัก ได้พักคือท้องมิเขิน
เอาเปรียบคนอื่นเหลือเกิน แต่นี้ไปเชิญตามสบาย
ทุกส่วนประท้วงหยุดงาน ประสานยากนักใจหาย
หัวไม่ยอมคิดวุ่นวาย ขาไม่ยอมกรายไม่เดิน
แขนไม่ยอมจับอาหาร ฟันพาลไม่เคี้ยวขัดเขิน
ท้องขาดอาหารหิวเกิน ดำเนินสามวันตาลาย
ทุกส่วนหิวโหยหมดแรง จำต้องแจ้งความเสียหาย
ประชุมของจงกลับกลาย สื่อสายสัมพันธ์ดังเดิม
อันกลุ่มประชุมร่างกาย ล้วนมีความหมายส่งเสริม
สนับสนุนต่อกันพูนเพิ่ม ต่อเติมให้มีพลังงาน
หากมีอึดอัดขัดแย้ง ดังแกล้งตัดทอนประสาน
ย่อหย่อนพลังทำงาน การง่ายกลับยากเสมอมา
32.  เทพารักษ์กับคนขับเกวียน
ชายหนุ่มขับเกวียนกลับบ้าน ผ่านป่าขุนเขาดงหนา
ข้ามห้วยหลายแห่งผ่านมา หนทางทุรกันดาร
มินานก็เจอหล่มลึก โคถึกออกแรงสงสาร
เกวียนมิเขยื้อนเนิ่นนาน จวบจวนค่ำมืดน่ากลัว
เสือสางออกมาหากิน ดับดิ้นแน่ตูยามสลัว
ภูตผีที่มองมิเห็นตัว คงออกหากินมากมาย
หวาดหวั่นไหว้วอนเทพา ช่วยข้าด้วยเถิดใจหาย
หากมืดกลางดงคงตาย น่ากลัวเหลือหลายเจ้าประคุณ
ชายหนุ่มวิงวอนเทพเจ้า โปรดเข้ามาช่วยเอาบุญ
ขอบนข้าวของเจือจุน ข้าวปลาอาหารมากมี
เทพารักษ์ปรากฏกาย วุ่นวายบนบานบายศรี
อ้อนวอนเสียเวลานาที ทำไมไม่โกยโคลนเธอ
เอาท่อนไม้มารองเข้า ตัวเจ้าแบกคานให้เสมอ
ตีวัวให้ลากอย่าเซ่อ ออกแรงดันด้วยช่วยกัน
ชายหนุ่มทำตามที่แนะ แหละแล้วเกวียนเคลื่อนพร้อมสรรค์
ดีใจจักกราบเทพพลัน หายวับไปแล้วเสียดาย
ยามมีอุปสรรค์ปัญหา พึงใช้ปัญญาหลากหลาย
ช่วยตนนั่นดีมากมาย ดีกว่ากราบไหว้วอนเวียน
33. เหยี่ยวกับกระต่ายตื่นตูม
นกเหยี่ยวเที่ยวหากิน มันบินบนนับพาเหียร
นกหนูเคยแวะเวียน จับกินได้หายากเย็น
ร่อนมาแถบชายป่า ประจักษ์ตาที่แลเห็น
กระต่ายมันวิ่งเล่น ล้วนอวบอ้วนน่ากินดี
โฉบลงหวังจักจับ มันหายวับคงหลบหนี
ไปไหนมิเห็นมี ป่าบังแลโล่งแปลกใจ
หลายครั้งพยเห็นเช่นเดิม มันเพิ่มสังเกตอันใด
มีรูหลบซ่อนนั่นไง หลบภัยกระต่ายพวกมัน
อืมที่แท้เป็นเช่นนี้ ยามภัยมีก็น่าขัน
วิ่งหนีอย่างเร็วพลัน จนลืมหลุมที่หลบภัย
แบบนี้ต้องหลอกกระต่าย คงจับง่ายมิสงสัย
แกล้งร้องประกาศไป ไฟไหม้ป่ามาโน้นดู
กระต่างตื่นตกใจ นึกว่าไฟยินเต็มหู
ออกวิ่งจนลืมรู บ้างตกน้ำลงลอยคอ
เหยี่ยวโฉบจับง่ายดาย ถึงวอดวายแล้วซิหนอ
สติยั้งไม่เพียงพอ ยากหลบภัยปมาโท
ประมาทภัยร้ายแรง ใช่จักแช่งให้โมโห
ภาษิตมัจจุโน เพราะประมาทมีมากมาย
34.  เทพารักษ์กับคนตัดไม้
เจ้าหนุ่มบ้านป่าชาวไร่ ตัดไม้ทำฟืนค้าขาย
ขยันซื่อสัตย์สมชาย ลำบากกายใจซื่อตรง
งานหนักเงินน้อยอดออม ยอมทำการหนักพิศวง
ขับเกวียนเข้าไปในดง คงหาตัดฟืนคืองาน
วันหนึ่งอาวุธหลุดมือ ก็คือเครื่องตัดนามขวาน
หล่นลงตรงกลางลำธาร เนิ่นนานนั่งเฝ้าเศร้าใจ
อยากลงว่ายน้ำมิเป็น ลำเค็ญนักทำไฉน
ลองวอนเทพท่านท้าวไทร โปรดได้เมตตาปราณี
พระไทรสงสารปรากฏ กำหนดงมขวานสดสี
ขวานทองใช่ไหมเล่มนี้ หนุ่มชี้ไม่ใช่ของตน
งมใหม่ขวานเงินจงดู ของสูใช่แน่ฉงน
หนุ่มบอกไม่ใช่ลองค้น ลนลานกราบไหว้เมตตา
พระไทรงมขวานของแท้ หนุ่มบอกใช่แน่นี่หนา
คือขวานเล่มจริงของข้า เทวาได้ช่วยเอ็นดู
พระไทรรู้มันสัตย์ซื่อ บอกให้จงถือเอาหนู
สองเล่มยกให้จงรู้ ชื่นชูเจ้าซื่อสัตย์จริง
กลับบ้านเขาลือกันทั่ว ชายชั่วสนใจสุงสิง
แอบถามทำไมช่วงชิง ยิ่งขวานเงินทองได้มา
ชายหนุ่มเล่าเรื่องหมดสิ้น ชายชั่วยินดีนักหนา
วางแผนตัดฟืนในป่า ถึงคราโยนขวานทิ้งไป
ทำท่าละห้อยสร้อยเศร้า วอนเขาท่านเทพอยู่ไหน
รีบมาช่วยข้าเร็วไว พระไทรปรากฏกายมี
งมเอาขวานทองส่งให้ คงใช่ของเจ้าดูถี
ชายชั่วรับคำเล่มนี้ ชี้ชัดคือขวานข้าเอง
พระไทรหัวเราะชอบใจ เจ้าไม่สัตย์ซื่อข่มเหง
จิตใจชอบกลนักเลง มิเกรงมิกลัวเราเลย
ขวานทองเราก็มิให้ เจ้าได้ทิ้งขวานเฉยเฉย
มิช่วยงมให้ดังเคย สังเวยโลภมากลากไป
เสียการเสียขวานเสียชื่อ เขาลือมากคงสงสัย
 โลภมากขวานทองอยากได้ เทพไทรู้ทันด่าเอา
บอกเจ้ามิได้สัตย์ซื่อ อย่าถือขวานทองคนเขลา
ขวานหล่นโยนลงเองเจ้า งมเองอยากได้คืนมา
เพราะโลภลาภเลยหลุดหาย เสียดายทิ้งขวานอีกหนา
ซื่อสัตย์ดีกว่าท่านว่า โลภมากลาภหายเสียใจ
35.  นกกระจาบกับชาวนา
นางนกกระจาบทำรัง    หวังยึดกอข้าวอาศัย 
ทำรังฟักลูกนานไป  ดีใจลูกน้อยเกิดมา 
นับวันลูกก็เติบโต  โวเวคุยกันนั่นหนา 
ลูกนกกระจาบเล่าว่า ชาวนาจะเก็บเกี่ยวกัน 
ชิงเล่ายามแม่กลับรัง ฟังข่าวลูกนกแข่งขัน 
บอกเล่าเรื่องราวทุกวัน อยู่รังกอข้าวพบอะไร
ถัดมาแม่นกก็รู้  หนูน้อยบอกมิสงสัย 
เขาจักเกี่ยวข้าวแน่ใจ  กำลังไหว้วานเพื่อนกัน 
ชวนมาลงแขกเกี่ยวข้าว  เรื่องราวแบบนี้ไม่ขัน 
อพยพเถอะแม่คงทัน  วันนี้พวกเราจากไป 
แม่นกบอกว่ารอก่อน  ตอนนี้มิน่าสงสัย 
คงมิมีเหตุเภทภัย  ใจเย็นไว้ก่อนลูกยา 
ผ่านไปอีกสองสามวัน  พลันทราบเรื่องราวอีกหนา 
พวกเขาไม่รอใครมา  จักเก็บเกี่ยวข้าวกันเอง 
แม่นกตกลงอพยพ  เพราะพบอาจถูกข่มเหง
ชาวนาคงมิยำเกรง รังแตกกระจายแน่นอน
อันคนที่เป็นผู้ใหญ่ รู้เหตุทุกข์ภัยสังหรณ์
อาศัยเหตุผลทุกตอน ตัดสินให้ควรแก่การ
วิเคราะห์เหตุผลถ้วนถี่ ยินดีตัดสินอาจหาญ
ถูกต้อทำนองเชี่ยวชาญ ประสบการณ์มีคุณมากมาย
36.นกมีหูหนูมีปีก
    อดีตกาลนานมา ป่าใหญ่ส่ำสัตว์หลากหลาย
คราวหนึ่งเกิดเรื่องวุ่นวาย แย่งเขตทำมาหากิน
สัตว์ป่ารังเกียจพวกนก ฉกชิงผลไม้โผผิน
อวดดีมีปีกโบยบิน ประกาศสงครามรบกัน
พวกนกเกณฑ์พลนกสู้ พันตูทั่วป่าพร้อมสรรพ์
ค้างคาวหารือโรมรัน น่าเบื่อพี่น้องล้มตาย
คอยดูข้างไหนได้เปรียบ ลองเทียบน่าชนะไม่สาย
จึงช่วยพวกนั้นจักง่าย ตกลงแบบนี้พวกเรา
สงครามสัตว์ป่าดำเนิน บังเอิญพวกนกบนเขา
นับแสนรุมล่าไล่เอา สัตว์ป่าถอยร่นหลบไป
ค้างคาวบินหาทัพนก ยืดอกอวดปีกขานไข
พากเราคือนกเกรียงไกร เต็มใจช่วยรบราวี
มินานสัตว์ป่ารวมพล ปรับกลการรบมิหนี
เสือสิงห์ช้างป่าต่างมี เสียงกัมปนาทก้องดง
นกกาตกใจบินหลบ ลิงพบค่างตีพิศวง
มากมียากจักร่อนลง ค่ำคืนถูกล่าล้มตาย
สงครามผกผันนกถอย ค้างคาวคอยดูใจหาย
ชวนกันไปพบท่านนาย ราชสีห์แม่ทัพเชิญดู
พวกข้ามากันพร้อมสรรพ เสริมทัพสัตว์ป่ามีหู
ยินดีร่วมขจัดศัตรู ให้รู้ฤทธิ์เดชอย่างเรา
สงครามผ่านไปนานวัน พวกมันสองฝ่ายโง่เขลา
เพิ่งรู้สงครามมัวเมา ยากเอาชนะคะคาน
ตกลงเจรจาสงบศึก นึกถึงค้างคาวไขขาน
พวกนี้ฝ่ายนกหรือหนูท่าน ก่อนกาลรบช่วยนกกา
แล้วไยมารบช่วยหนู มันอยู่ฝ่ายใดแน่หนา
อวดปีกยามไปพบข้า บอกว่าเป็นนกแน่นอน
ราชสีห์พวกมันไปพบ ประจบอวดหูสลอน
เป็นสัตว์สี่เท้านามกร ค้างคาวออกรบกับเรา
ตกลงพวกนกมีหู พวกหนูมีปีกโฉดเขลา
สองหัวสองใจงี่เง่า มิน่าจักคบพวกมัน
ขับไล่ไปอยู่ในถ้ำ คืนค่ำหากินพร้อมสรรพ์
กลางวันเวลานอนนั้น ห้อยหัวคือโทษสมควร
อันคนไม่มีสัจจะ ละมิตรทิ้งญาติยากหวน
มักจักโดดเดียวเรรวน เพราะขาดคุณธรรมชักจูง
37.  นกอินทรีกับหมาจิ้งจอก
ราชาแห่งนกอินทรี มีคู่ทำรังอยู่สูง
บนยอดต้นไม้ยางยูง ห่างฝูงนกกาปลอดภัย
มินานสองตัวลูกน้อย ค่อยค่อยเจริญเติบโต
โคนต้นมีโพรงจิ้งจอก ออกลูกน่ารักอักโข
เห่าหอนเจ้าเล่ห์เยโย เพื่อนบ้านลูกอ่อนหกตัว
แม่นกแม่หมาหากิน ย่อมยินเสียงนกบนหัว
แม่นกเลี้ยงลูกน่ากลัว ลำบากยากเย็นเหมือนเรา
หมาเองก้ใช่จะง่าย กระต่ายจับหนูบนเขา
บางวันไม่เห็นแม้เงา ต้องให้ดูดนมไปพลาง
ฝ่ายนกอินทรีย์ลำบาก หายากนกหนูรุ่งสาง
บินออกหากินทุกทาง หาเหยื่อลูกน้อยคอยรอ
บ่ายคล้อยยังไม่เจอเหยื่อ น่าเบื่อหายากจริงหนอ
กลับรังยินเสียงแงงอ ลูกหมามันหยอกเย้ากัน
แอบโฉบเอามาตัวหนึ่ง ตะลึงลูกหมาน่าขัน
มันร้องหาแม่สำคัญ แอ๋งแอ๋งหนวกหูเหลือเกิน
แม่หมากลับมาลูกหาย วุ่นวายวิ่งเลาะเขาเขิน
ยินเสียงลูกร้องบังเอิญ จากรังนกใหญ่อินทรี
เข้าใจจึงวอนคุณท่าน สงสารข้าน้อยด้อยศรี
คืนลูกให้เถิดปราณี ประทานชีวีให้ผู้เยาว์
ฝ่ายนกอยู่บนยอดไม้ กระหยิ่มในใจไม่เขลา
ตอบว่าข้าเองโฉบเอา เก็บเขาทำเหยื่อลูกยา
คืนให้ลูกข้าก็อด ไม่หมดลูกแกนั่นหนา
ยังเหลือนับดูตั้งห้า เอ็งอย่าเสียดมเสียดาย
จิ้งจอกเจ็บใจเขาหมิ่น สิ้นคิดเยาะเย้ยเสียหาย
หาที่ซ่อนลูกทุกราย สบายใจแล้วจัดการ
คาบฟืนสะสุมโพรงไม้ คาบไฟมาจุดประสาน
ควันโขมงพุ่งขึ้นมินาน รมรังนกมารอินทรี
อินทรีร่อนร้องหยุดก่อน ลูกอ่อนข้ามิอาจหนี
หาไม่คงสิ้นชีวี ยินดีคืนลูกเจ้าไป
ขอโปรดดับฟืนดับควัน ข้านั้นผิดขออภัย
อันคนผู้ที่เป็นใหญ่ พึงใช้เมตตาปราณี
เห็นคนเขาด้อยต่ำกว่า เมตตายอมรับศักดิ์ศรี
เขาก็หวงแหนชีวี มิควรกดขี่ร่ำไป
หากแม้นเขามิทนอด ถูกกดมากนักมิไหว
เขาลุกขึ้นสู้เมื่อใด จักเกิดเภทภัยเวรา
38.  นายพรานกับไก่ฟ้า
ยังมีนายพรานคนหนึ่ง ใจถึงท่องไพรดงหนา
เที่ยวดักจับสัตว์นานา ได้มาทำเป็นของกิน
แกชอบดักจับนกไก่ วางไว้บ่วงบาศช่องหิน
ริมผานกไก่โบยบิน ผ่านมาดับดิ้นจับเอา
คราหนึ่งพรานป่าวางข่าย โปรยปรายเหยื่อล่อบนเขา
ไก่ฟ้าบินผ่านเห็นเงา ดังเหยื่อที่เจ้าชอบใจ
ถลาบินร่อลงตรงพื้น ยืนมองด้วยความสงสัย
อาหารมากมายเหตุใด กองอยู่กลางไพรแปลกตา
เพราะความหิวโหยเป็นเหตุ สังเกตมิเห็นปัญหา
มันรี่เข้าไปไม่ช้า เสียท่าติดข่ายนายพราน
ยิ่งดิ้นยิ่งฟัดรัดแน่น น่าแค้นเจ็บใจไขขาน
เออกูนี่เสียสันดาล ใจพาลมักเห็นแก่กิน
จึงต้องประสบเภทภัย ทันใดนายพรานโหดหิน
เข้ามาจับไก่บนดิน ได้ยินไก่ฟ้าวิงวอน
นี่แน่ะพรานผู้เป็นใหญ่ เกรียงไกรรู้ทั่วสิงขร
เมตตาปล่อยข้าบทจร จักต้อนเพื่อนเพื่อนลงมา
หลอกติดบ่วงบาศของท่าน สำราญสุดง่ายจริงหนา
ขอเพียงวอนท่านปล่อยข้า เมตตาไม่ลืมพระคุณ
นายพรานฟังแล้วก็ขำ จงจำเอาไว้ใคร่หนุน
ตัวเจ้าไม่รู้บาปบุญ เจือจุนผองเพื่อนไม่เป็น
ดีแต่จักหลอกลวงเขา หวังเอาประโยชน์ที่เห็น
ปล่อยไปก็โทษลำเค็ญ ดังเช่นโรคร้ายกระจาย
จำต้องปลงชีพบัดนี้ มิมีทางรอดแลหาย
ที่สุดไก่ฟ้าตกตาย เพราะใจมุ่งร้ายพวกมัน
อันคนใจคดคิดผิด มีจิตสกปรกผกผัน
หมายผิดต่อพวกเดียวกัน สักวันฉิบหายบรรลัย
39.  นายพรานผู้ขมังธนูกับราชสีห์
ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล ส่ำสัตว์เบิกบานวิสัย
อุดมอาหารพงไพร สัตว์ใหญ่สัตว์เล็กยินดี
อยู่มาไม่นานอาเภท มีเหตุอันตรายในวิถี
เก้งกวางล้มตายวายชีวี ด้วยมีพรานไพรใจทมิฬ
เทียวออกล่าสัตว์เข่นฆ่า ไร้ความเมตตาใจหิน
มันบอกทำมาหากิน ยามยินแล้วน่าเจ็บใจ
วันหนึ่งนายพรานออกล่า สัตว์ป่าหลบซ่อนอยู่ไหน
ป่าแตกต่างหลบหลีกภัย วิ่งเข้ากลางไพรหลบกัน
จ้าวป่าหลบนิ่งรอดู พอรู้เตรียมตัวพร้อมสรรพ์
จะโดดงับคอพรานพลัน พรานลั่นบอกช้าก่อนนาย
เดียวส่งทูตไปขอพบ พูดจบสู้กันไม่สาย
ว่าแล้วพรานวาดลวดลาย ยิงธนูถูกข้างสิงโต
มันร้องเจ็บปวดวิ่งหนี เสียทีพรานไพรโมโห
จิ้งจอกตัวจ้อยพาโล ร้องโถจ้าวป่าผู้เกรียงไกร
ข้าเห็นท่านสู้พรานป่า ท่านฆ่ามันแล้วฤๅไฉน
ศัตรูพวกเราท่านไล่ ขับไสมันแล้วเก่งเกิน
ราชสีห์กัดฟันเจ็บปวด มันอวดมันเก่งมันเขิน
ประมาทศัตรูบังเอิญ ไม่รู้หนักเบาแทบวาย
แถมยังถูกหมาเยาะเย้ย ตามเคยนะอ้ายฉิบหาย
ธนูมันปวดแทบตาย เจ็บกายเจ็บใจไปนาน
40.  ปลาทูนากับปลาโลมา
ปลาทูนากับโลมา ต่างว่าเก่งกระไรไขขาน
พละกำลังเชี่ยวชาญ แหวกว่ายรวดเร็วทันใจ
ทูน่าว่าฉันเก่งกว่า เพราะว่ารูปทรงตรงไหน
เพรียวกลมสมส่วนกระไร มิอ้วนเทอะทะเหมือนเธอ
โลมาว่าฉันแข็งแรง แข่งกันเล่นน้ำเสมอ
กล้ามเป็นมัดมัดที่เจอ มิใคร่อวบอ้วนไร้แรง
สองต่างถกเถียงใครเก่ง เร่งรัดประลองกล้าแข็ง
ว่ายน้ำสู้กันแจกแจง กติกาเรียบร้อยลองดู
สองเก่งว่าเร็วยิ่งนัก ยากจักแซงได้อดสู
โลมาโดดกระแทกปลาทู เล่นโกงโลมากระเด็น
ทางโค้งตกที่หาดทราย มากมายเร่าร้อนที่เห็น
ปลาทูเสียหลักลำเค็ญ กระดอนมาตกใกล้กัน
สองต่างทุรนทุราย เจียนตายพูดคุยน่าขัน
พวกเราประกวดประชัน ทิฐิอวดเก่งอวดดี
สุดท้ายประสบเคราะห์กรรม  กระทำอวดเก่งบัดสี
คงจักสูญสิ้นชีวี ถึงที่ดับดิ้นสิ้นใจ
41.  ปลาโลมากับลิงขี้คุย
สมัยก่อนกลาสีเรือ เมื่อออกทะเลทางไกล
มีลิงและหมาเอาไว้ เป็นเพื่อนยามเหงากลางชล
คราหนึ่งล่องเรือออกไป นับได้หลายวันชวนฉงน
เหตุใดลมมันพัดวน ท้องฟ้ามืดมัวหวั่นใจ
เรืออ้อมปลายแหลมเมืองกรีก ยากหลีกลมแรงยิ่งไฉน
มินานประสบวาตภัย พายุซัดใส่เรือจม
ต่างคนต่างเอาตัวรอด กอดฟูกลอยคอบุญถม
หลายคนจมน้ำสิ้นลม ลิงรอดแหวกว่ายวนเวียน
โลมาผ่านมาแลเห็น โลดเล่นแหวกว่ายฉวัดเฉวียน
ให้ลิงขี่หลังพากเพียร จักพาเข้าฝั่งปลอดภัย
เพราะนึกว่าช่วยเด็กน้อย ลอยคอมุ่งตรงนึกสงสัย
เป็นคนเอเธนส์แน่ใจ คงรู้ชื่อพิรุสดี
จึงถามว่าพ่อหนุ่มน้อย ตอบถ้อยเรามาดูถี
ใช่คนเอเธนส์ไหมนี่ สงสัยเลยถามพ่อนาย
ลิงน้อยได้ทีขี้โอ่ พิโธ่ของจริงโฉมฉาย
พ่อแม่พี่น้องมากมาย ล้วนอยู่เอเธนส์ทุกคน
ตระกูลฉันขุนนางเก่า พวกเราได้รับฝึกฝน
ผู้ดีทั้งนั้นทุกตน โลมาท่านถามทำไม
อ้อเป็นผู้ดีเอเธนส์ รู้เห็นพิรุสดีไหม
อยากรู้ว่ามันคืออะไร ลิงจ้อคุยใหญ่ทันที
แน่นอนนั่นคือเพื่อนข้า เคยพากันเทียวแอบหนี
ยิงนกตกปลานานปี เพื่อนซี้ฉันเองแหละเธอ
โลมาอ้ายนี่มันบ้า ท่าเรือชื่อนี้เสมอ
พบคนเอเธนส์เมื่อเจอ ถามถึงเขารู้ทุกคน
หมอนี่มันขี้โกหก ตกลงดำน้ำล่องหน
ลิงจมแหวกว่ายน้ำวน สุดท้ายชีพดับลับไป
อันการคุยโวโอ้อวด มักชวดโชคอย่าสงสัย
บางคราวถึงกับมีภัย ใครเขามิอยากสัมพันธ์
42.   พรานใหม่กับคนตัดไม้
พรานหนุ่มทดลองเข้าป่า ปืนผาหน้าไม้พร้อมสรรพ์
จักลองวิชาสำคัญ ร่ำเรียนจากครูพรานไพร
บุกป่าฝ่าดงพงหนาม เลาะตามหุบผาเนินไศล
เนิ่นนานพบคนตัดไม้ จึงได้แวะถามพี่ชาย
ตัดไม้แถวนี้นานเปล่า ช่วยเล่าสัตว์ป่ามากหลาย
เสือสิงห์มีบ้างไหมนาย อยากยิงสัตว์ใหญ่คงดี
อ๋อหากินแถวนี้มานาน ลานตาเก้งกวางหมูหมี
สัตว์ใหญ่ตัวหนึ่งแถวนี้ ราชสีห์เพิ่งจับคนไป
รอยเท้ายังอุ่นอยู่นั่น พรานมั่นจงอย่าสงสัย
รีบตามเลยท่านเร็วไว คงจักได้ยิงแน่นอน
พรานหนุ่มด้อมด้อมมองมอง จ้องดูรอยเท้าทอดถอน
หันกลับอีกทางบทจร ฝ่ายคนตัดไม้สงกา
อ้าวนายทางนี้ราชสีห์ มันหนีไปโน่นแหละหนา
พรานหนุ่มบอกที่ฉันเข้ามา ดูรอยบาทามันไป
พอแล้วดูแค่นี้แหละ แพะแกะทางโน้นสงสัย
คงมีเลือกยิงเอาได้ ฉันลาแหละนะท่านนาย
อันคนอวดกล้ากำแหง กล้าแกร่งกำลังเหลือหลาย
เพราะยังมิสบอันตราย จึงกล้าอวดอ้างคุยโว
ยามใดสบภัยพิบัติ ชอบทำฮึดฮัดโมโห
หลบหลีกไปอวดคุยโต มิกล้าลงมือประลอง
43.  พวกหนูประชุมปรึกษากัน
ที่บ้านกลางสวนชวนฉงน ตายายคือคนเจ้าของ
แต่หนูมากมายจับจอง ทุกห้องมันอยู่สบาย
ตาเฒ่าก็แสนรำคาญ บ้านรกรุงรังเหลือหลาย
มันกัดมันแทะวุ่นวาย ขี้หนูกระจายทั่วเรือน
จึงหาแมวโพงมาเลี้ยง ส่งเสียงข่มขู่ดูเหมือน
ได้ผลหนูกลัวทั้งเดือน บางตัวลืมเลือนจับตาย
สังคมพวกหนูวิกฤต มันคิดหนทางหลากหลาย
ประชุมปรึกษาวุ่นวาย เลวร้ายแย่ลงทุกที
ออกมาหากินลำบาก หากแมวมันเห็นวิ่งหนี
หลบทันก็รอดชีวี ไม่ดีจับได้ต้องตาย
มันกัดขบกินดิบดิบ พวกพ้องมากมวลฉิบหาย
มิกล้าหากินวุ่นวาย ใครมีอุบายช่วยกัน
บางหนูบอกจ้างมือปืน ค่ำคืนแมวมาน่าขัน
ยิงโป้งตายแน่ยืนยัน ใครกันจักเป็นมือปืน
หนูเก่งทรงภูมิความรู้ ดูก่อนลำบากยากฝืน
แมวมันออกมาค่ำคืน เต็มกลืนไม่ยินเสียงมัน
พอรู้แมวมาถึงแล้ว ไม่แคล้วถูกจับน่าขัน
หากมีกระพรวนสักอัน ผูกคอแมวนั้นคงดี
มันมาเมื่อไรยินเสียง เพียงพอให้เราหลบหนี
ทุกหนูชื่นชมเปรมปรีดิ์ แบบนี้ได้ผลแน่นอน
เซ็งแซ่ปรบมือให้เก่ง สมชื่อนักเลงสั่งสอน
ฉลาดเป็นกรดบทตอน ประชากรหนูจักสบาย
เฒ่าหนูประกาศช้าไว้ อย่าเพิ่งดีใจสหาย
ความคิดเข้าท่าคุณชาย แต่หมายจักทำยากเย็น
กระพรวนฉันพอหาให้ แต่ใครจักอาสาเข็น
ไปผูกคอแมวให้เป็น ดังเช่นสัญญาณเตือนภัย
เงียบกริบทั้งห้องประชุม ต่างกลุ่มมิต้องสงสัย
แนวคิดเสนอใดใด ย่อมดีมีค่าควรชม
ยามทำอาจพบยุ่งยาก ลำบากมิค่อยเหมาะสม
ต้องปรับต้องแก้กันจม เพียงลมพูดคุยไม่พอ
มันต้องทำได้จึงแน่ ของแท้แบบนั้นแหละหนอ
พูดได้ทำได้ไม้ท้อ เพียงพอมีชื่อคนดัง
44.  พิราบกับกา
พิราบผัวเมียหนึ่งคู่ พวกมันอยู่ในกรงขัง
เศรษฐีได้มาจากวัง เลี้ยงไว้ด้วยความชื่นชม
เม็ดถั่วนานาอาหาร บันดาลหาไห้เหมาะสม
น้ำท่าบริบูรณ์ภิรมย์ สุขกายสบายจิตนับนาน
ต่อมามีลูกผูกพัน พวกมันรู้สึกสุขสานติ์
ฉลองเอิกเกริกเบิกบาน กาดำรำคาญสิ้นดี
จึงบอกว่าสองเอ็งเอ๋ย มิเคยดำริวิถี
ดำเนินครอบครัวมากมี ปัญหาควรรู้เข้าใจ
ตอนนี้สองเจ้าต้องโทษ ดังโจทย์จองจำจริงไหม
ถูกขังอยู่กรงคือภัย จักไปจักมายากเย็น
อาหารก็รอเขาให้ ทุกข์ใจลำบากยากเข็ญ
อิสระเสรีหลีกเร้น ดังเช่นไม่มีหัวใจ
สองเจ้าทุกข์ทนข้นแค้น ก็แสนยากเย็นยิ่งไฉน
ลูกน้อยเกิดมาดังไฟ สุมให้เร่าร้อนทับทวี
เพราะรักเพราะหลงลูกน้อย สองเจ้าต้องคอยส่งศรี
เลี้ยงดูอาหารไม่มี จักออกนอกกรงยากเย็น
ลูกเจ้าก็คงลำบาก มิยากตรึกดูรู้เห็น
เภทภัยเคราะห์กรรมลำเค็ญ คงเป็นแบบนั้นแน่นอน
พวกเจ้ายังเฉลิมฉลอง มาตรองคดีที่ข้าสอน
รู้ทันปัญหาคราจร เร่าร้อนจักคลายอัคคี
45.  พ่อกับลูก
ตาสิงห์ยายแก้วกลอยใจ บ้านใต้บ้านเหนือรู้ดี
ลูกเต้าห้าคนต่างมี อายุที่ไล่เลี่ยกัน
คนโตอายุสิบห้า คนหล้าสิบเอ็ดเสร็จสรรพ์
เสียดายไม่ค่อยสัมพันธ์ แข่งขันเอาชนะคะคาน
มอบหมายช่วยกันทำกิจ เริ่มคิดก็มักหักหาญ
เกี่ยงกันไม่ช่วยทำงาน สานกันไม่ติดล้มไป
หลายครั้งงานล่มเสียหาย เสียดายเวลาไฉน
สอนยากสอนเย็นกระไร ลองใช้มาแล้วหลายทาง
ตาสิงห์นึกหาวิธี แบบนี้คงได้สะสาง
ประชุมลูกชายนายนาง พลางสั่งหักกิ่งไผ่มา
ส่งพ่อคนละสองท่อน ตัดทอนแค่ศอกนั่นหนา
มัดรวมสิบท่อนเจรจา ลูกยาลองหักดูที
คนโตออกแรงแข็งขัน มันมิหักเลยยาหยี
น้องสองน้องสามก็ดี ต่างชี้มิอาจหักมัน
ห้าคนลองแล้วไม่หัก ประจักษ์แจ้งใจพร้อมสรรพ์
พ่อรับมาแก้ออกพลัน ส่งให้หนึ่งอันลองดู
ทุกคนหักได้โดยง่าย ความหมายฟังพ่อหนูหนู
สัพเพสังสังฆะเชิดชู สามัคคีสู่สาธิกา
ร่วมแรงร่วมใจพลังเกิด ประเสริฐอุปสัคหนักหนา
เอาชนะง่ายดายทุกครา ข้าศึกมิอาจรอนราน
หากขาดรู้รักสามัคคี มิมีพลังอาจหาญ
เรื่องเล็กผิดพลาดเสียงาน พบพานศึกพ่ายยับเยิน
ดังไม้กิ่งเล็กรวมมัด รวบรัดหักยากขาดเขิน
แยกกิ่งหักง่ายเหลือเกิน เชิญลูกตั้งใจไตร่ตรอง
ทุกคนเข้าใจพ่อสอน งามงอนเห็นควรสนอง
ชวนกันหันมาปรองดอง หายข้องขุ่นเคืองร่วมกัน
ช่วยกิจทำการเล็กใหญ่ ทำได้สนุกสุขสันต์
ครอบครัวร่มเย็นโดยพลัน รู้รักสามัคคีมากมาย
46.  พ่อค้าเกลือกับโคต่าง
วัวต่างของพ่อค้าเกลือ เบื่อนักลากของไปขาย
พ่อค้าบังคับมากมาย ยากหมายจักเว้นทำการ
วันหนึ่งต้องเดินทางไกล ไปยังเมืองไกลไพศาล
ต่างเกลือเต็มหลังไม่นาน เดินทางผ่านไปใกล้บึง
บังเอิญฝนตกทางลื่น ยากฝืนพลัดตกไปถึง
ท้องน้ำท่วมหลังตะลึง พ่อค้าดึงมันขึ้นไป
ต่างหลังรู้สึกเบามาก หลากจิตลาคิดสงสัย
ทบทวนดูเหตุอันใด ทำไมมันเบานักแล
ครั้งนี้ต่างหลังตกน้ำ ดำมุดโดยไม่แยแส
แปลกจริงน้ำหนักเบาแท้ ใช่แน่ตกน้ำจริงจริง
วันหลังต่างเกลือมาอีก หลบหลีกผู้คนชายหญิง
ลาโง่หลบได้ออกวิ่ง ชิงลงแช่น้ำลำธาร
ต่างหลังเบาเบาสบายสบาย มันทำหลายครั้งอาจหาญ
เสียหายชักไม่ได้การ พ่อค้าพบพานเลศนัย
วันหลังต่างนุ่นมาแทน อัดแน่นเต็มที่พิสัย
ลาจักลากจูงดึงได้ พาไปตามเส้นทางเดิม
ลาลากจูงต่างตามนาย สบายใจมันยังฮึกเหิม
ถึงที่ลำธารจักเติม น้ำเพิ่มให้ต่างเบาสบาย
พอถึงวิ่งลงจุ่มน้ำ น่าช้ำนุ่นกลับแปลกหลาย
อุ้มน้ำหนักขึ้นมากมาย แทบตายหลังแอ่นลำเค็ญ
แต่นั้นมามันก็เข็ด งานเสร็จเรียบร้อยที่เห็น
อันคนชอบโกงมักเป็น ยากเร้นกลโกงได้นาน
ยามใดเขารู้เห็นเหตุ จับเลศกลได้ประสาน
แก้เผ็ดเสียกิจเสียการ นิทานบอกไว้ดีเชียว
47.  แพะกับคนเลี้ยง
ชายหนุ่มรับจ้างเลี้ยงแพะ แวะวนชายป่าหญ้าเขียว
มีแพะเกเรตัวเดียว เทียวแอบหลบหนีร่ำไป
บางคราวตามหาจนทั่ว มืดมัวแล้วมันอยู่ไหน
เลาะหากลางดงพงไพร จนค่ำจึงได้พบพาน
กลับค่ำนายจ้างก็ด่า มิกล้าเอ่ยคำไขขาน
กล้ำกลืนเอาไว้นับนาน แพะดื้อก็ยังเกเร
วันหนึ่งมันหนีแต่เช้า เข้าป่ามิยอมหันเห
ตามหาโซซัดโซเซ เหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง
แลเห็นวับวับเรียกหา รีบกลับเอ็งอย่ากำแหง
ข้าเหนื่อยเดินจนเท้าแพง อย่าแกล้งหลบหนีอีกเลย
ต้อนกลับมันยังเลี่ยงหลบ พบแล้วยังวิ่งหนีเฉย
หยิบหินปาใส่ดังเคย แม่นจริงโดนขาล้มลง
ต้องอุ้มมันกลับทับก่อน ให้นอนใส่ยาพิศวง
บาดแผลเล็กน้อยยังงง ทำไมเดินยากจริงเจียว
จึงบอกแพะน้อยปิดไว้ อย่าได้บอกนายหวาดเสียว
หาไม่โดนด่าแน่เชียว แพะน้อยหัวร่อชอบใจ
ก็แผลมันเจ็บเดินยาก ลำบากแกรู้ใช่ไหม
นายเขาเป็นคนตาไว เห็นได้รู้เองแน่นอน
ไม่เห็นจำเป็นต้องฟ้อง ไม่ต้องมาบอกมาสอน
ประจักษ์พยานมันย้อน เดี๋ยวนายย่อมประจักษ์ตา
48.  แพะกับลูกแกะและหมาป่า
แม่แพะเลี้ยงดูลูกแกะ แม่แพะรักใคร่นักหนา
ราวกับลูกในอุรา หลายวันเวลาผ่านไป
คราหนึ่งพาแกะเล็มหญ้า ชายป่ายามเช้าสดใส
พลันเห็นหมาป่าตัวใหญ่ มาใกล้ทักทายสวัสดี
หนูน้อยลูกแกะแปลกหนา ใยมาอยุ่ไกลวิถี
ฝูงแกะอยู่ใกล้แค่นี้ ไปซีไปหาพวกเธอ
ที่นี่พวกเขาฝูงแพะ จำไว้เป็นแกะเสมอ
พ่อแม่พี่แกะนะเออ มาซีฉันจักพาไป
แกะน้อยรู้ทันหัวร่อ พอทีอย่ามาขานไข
หมาป่าเจ้าเล่ห์แน่ไซร้ จักใช้อุบายหลอกลวง
ถึงฉันเป็นแกะตัวน้อย แม่แพะคอยดูคอยหวง
เหมือนแพะพี่น้องทั้งปวง ฉันอยู่ด้วยสุขสบายดี
ฉันรักแม่แพะเหมือนแม่ จริงแท้มิคิดหลีกหนี
อย่ามาหลอกล่อพอที ฉันรู้มิอยากจะลอง
49.  มดกับนกเขา
มดง่ามตัวหนึ่ง ไต่มาถึงฝั่งห้วยหนอง
กำลังกระหายใคร่ลอง ดื่มน้ำสักหยดอดนาน
มันไต่กิ่งไม้ลงไป จวนได้ดื่มน้ำฮึกหาญ
ทันใดลมแรงพัดพาน กิ่งพาลหักพลัดตกลง
มันจมลำน้ำกิ่งไม้ จำให้ต้องปล่อยประสงค์
ลอยคอเข้าฝั่งมั่นคง เสียดายพลัดตกมาไกล
นกเขาบนพุ่มพฤกษา สายตาแลเห็นสงสัย
มิช่วยคงม้วยด้วยใจ เด็ดกิ่งไม้แห้งแล้วโยน
มันลอยอยู่ใกล้มดน้อย มดลอยมาเกาะยึดโหน
คลื่นน้ำซัดมาพาโดน ซัดกิ่งเข้าฝั่งปลอดภัย
มดคลานเข้ามาหาฝั่ง ระวังนกเขาอยู่ไหน
หวังจักกล่าวคำขอบใจ  ทันใดเหลือเห็นนายพราน 
จดจ้องส่องปืนปลายไม้ เภทภัยนกเขามันหาญ
ผู้มีพระคุณถูกราน จำต้องช่วยตามกำลัง
มันรี่เข้ากัดง่ามเท้า พรานเขาเขี่ยดินสิ้นหวัง
ร้องโอ๊ยตกใจเสียงดัง นกเขาบินหลบเลี่ยงไป
อันความเมตตาปราณี ดีงามมิต้องสงสัย
สะสมมากมวลเอาไว้ จักได้กุศลผลดี ฯ
http://newjarinya.blogspot.com/2018/04/51-100.html

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ​ กลอนไพเร่ะสนุกดีค่ะ​ ชอบค่ะ​ ไว้อ่านให้ลูกฟังค่ะ

    ตอบลบ