วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

นิทานอีสป 51-100




.................ช่วงที่ยังเป็นครูที่โรงเรียน (2516-2529)หัดผมเขียนกาพย์กลอน ได้ใช้นิทานต่าง ๆเป็นข้อมูล นิทานก้อมแบบเดอตี้โจ้ก ชอบมาก เขียนได้กว่า 30 เรื่อง นิทานอีสปก็เป็นอีกเรื่องที่นำมาใช้หัดเขียนและยังเก็บไว้อยู่ ส่วนพวกนิทานโจ้กลบทิ้งไปไม่กล้าเผยแพร่ อีสปเขียนแบบตามใจ แบบคนเล่านิทาน แรก ๆ ใช้กาพย์ยานี 11 แต่พอลองเขียนวรรคละหกคำอ่านเล่าเรื่องเพราะดี ก็เลยยึดวรรคละหกคำ แต่เค้าโครงยังเอาอย่างกาพย์ยานี อยู่ จะเรียกกลอนหกดีไหม ก็แล้วแต่จะเรียกครับ พยายามเขียนให้ได้ 100 เรื่อง จะได้ดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย วันนี้หยิบมาตรวจทานแก้ไขสะกดการันต์ และแผนผังบางบทที่บกพร่อง แล้วนำโพส เผยแพร่ครับ
....................................ขุนทอง ศรีประจง
.....................................6 เมษายน 2561


50.  มดง่ามกับจักจั่น
ยามเช้าหน้าฝนแจ่มใส แดดได้ส่องแสงสดศรี
ฝนตกวันวานยังมี ร่องรอยน้ำฝนฉ่ำเย็น
มดง่ามคึกคักขยัน ชวนกันทำการลากเข็น
ข้าวเปลือกลำบากยากเย็น ขนไปทำเป็นโกดัง
สะสมอาหารเก็บไว้ ยามมีภัยแล้งภายหลัง
อดอยากยากแค้นระวัง มีคลังอาหารสบายใจ
นับพันนับหมื่นชื่นจิต ช่วยกิจทำการดีไฉน
ร้องรำทำเพลงเดินไป มินานเสร็จได้สมควร
ยังมีจั๊กจั่นผอมโซ โผเผผ่านมาน่าสรวล
มาขอข้าวกินมดชวน พาทีมากมวลเจรจา
โอท่านจักจั่นผู้เจริญ ยามเดินโซเซแลหา
อยากกินข้าวน้ำปูปลา หน้าร้อนข้าวน้ำบริบูรณ์
ตัวท่านไปทำอะไรอยู่ มิรู้โอกาสสิ้นสูญ
ควรเก็บอาหารจำรูญ เพิ่มพูนเก็บไว้เสบียง
จักจั่นตอบคำหน้าร้อน เขาวอนให้ข้าส่งเสียง
ร้องเพลงเพราะพริ้งเพราะเพียง เทพพรหมสำเนียงเพราะเพลิน
จนสิ้นหน้าร้อนยามฝน ข้าวงอกจนสิ้นขัดเขิน
จักเก็บก็ยากเหลือเกิน จำเดินมาวอนเมตตา
มดง่ามหัวร่อข้องจิต ท่านคิดแต่เรื่องหรรษา
ร่ำร้องไม่รู้เวลา หาข้าวหาน้ำไว้กิน
เมือหิวจักโทษใครเล่า เพราะเจ้าสมควรติฉิน
ละเลยการงานใครยิน มักสิ้นเมตตาปราณี
อันคนควรรู้จักกาล ทำงานยามควรเสริมศรี
เรี่ยวแรงมากควรทำดี สะสมไว้มีพลัง
หาทรัพย์ทำงานการกิจ รู้คิดรู้หามนต์ขลัง
ยามเจ็บยามแก่ระวัง อาศัยใช้ตั้งเติมตน
หากไม่สะสมสินทรัพย์ จับจ่ายเกินตัวขัดสน
ภายหน้าอาภัพอับจน มืดมนเภทภัยรุกลาม
51.  กะรอกเจาะมะพร้าว
ริมฝั่งลำธารแนวป่า แปลกตาจนต้องไถ่ถาม
ฝั้งหนึ่งแมกไม้ไผ่ลาม มืดมุงสัตว์ป่ามากมาย
อีกฝั่งดูปคล้ายสวน มากมงลมะพร้าวหลากหลาย
ลูกดกเห็นแล้วน้ำลาย กะรอกอีกฝั่งอยากกิน
ถาเราว่ายน้ำเป็นกัน สวรรค์จักข้ามถึงถิ่น
ได้ลองมะพร้าวมากมวล หัวหน้าแย้มสรวลชอบใจ
กะรอกว่ายน้ำลำบาก ยุ่งยากลอยคอมิไหว
คงเอาแต่ดูดูไป มันยากลำบากพวกเรา
อยู่มาวันหนึ่งมะพร้าว ต้นยาวลูกดกดังเสา
ค้อมลงทอดข้ามเอา ค่อยค่อยต่ำลงทุกที
มินานปลายใบระพื้น ชื่นใจกระรอกครานี้
ปีนป่ายกิดกินสนุกที หลายวันมะพร้าวแห้งลง
กระรอกดูดน้ำกินหมด น้ำหนักลดเบาพิศวง
มันค่อยเงยยอดขึ้นตรง กระรอกติดบนต้นมัน
จักข้ามคืนไปไฉนนี่ เมื่อมีทุกข์เหตุแปรผัน
รวมตัวมาปรึกษากัน จักแก้ปัญหาอย่างไร
ตาเฒ่าหัวหน้าที แบบนี้คิดดูจริงไหม
มันโน้มยอดระพื้นไป ฝั่งโน้นเพราะยอดหนักชล
พอเราดูดดื้มมันหมด น้ำหนักลดลงฉงน
ยอดดีดเงยขึ้นข้างบน เราต้องช่วยหนักคืนมัน
อมน้ำมากรอกทุกลูก ดังผูกให้หนักพร้อมสรรพ์
คงจักน้อมปลายอีกพลัน มาเถิดลงมือทันใด
กะรอกน้อยใหญ่ปรีดา พร้อมหน้าเติมน้ำเข้าไป
มะพร้าวหนักน้อมเร็วไว จนใบระพื้นยืนดี
อันความพร้อมพรรคสมัครสมาน ทำการยากง่ายตามวิถี
ย่อมเสร็จกันได้มากมี สมัคคีกันไว้ดีนาย
52.  ม้ากับลา
พ่อค้ามีม้ากับลา สินค้าต่างลาไปขาย
หนักหลังบรรทุกมากมาย ส่วนม้าตัวเปล่าเดินไป
พ่อค้าหวังมันคงสุข มิทุกข์ต่างหลังสงสัย
กลัวม้าซูบผอมรายได้ ขายต่ำราคามิดี
ของหนักจึงตกแก่ลา ฟันฝ่าไปตามวิถี
เหน็ดเหนื่อยวอนม้าจงมี น้ำใจวานช่วยแบ่งเบา
ช่วยหน่อยหนาเพื่อนมันหนัก ข้าชักขาสั่นใช่เขลา
ม้าบอกทุกหนักมิเอา เจ็บป่วยเดี๋ยวด้อยราคา
จากนั้นมันก็เมินเฉย มิเคยเหลียวแลเลยหนา
ปีนเขาหนักนักเจ้าลา พลัดตกจากผาสิ้นใจ
เขาเลยขนเอาสินค้า บรรทุกหลังม้าหนักไฉน
จำทนลากชักกันไป ทำไมถึงต้องเป็นเรา
หากแม้กูช่วยลาบ้าง ช่วยต่างยามป่ายปีนเขา
คงมิพลาดพลั้งหนักเบา ควรช่วยลาด้วยเพื่อนกัน
อันคนมักเห็นแก่ตัว มืดมัวด้วยเหตุโมหัน
คิดได้เมื่อทุกข์ตามทัน มันสายเสียแล้วเชื่อตา
53.  แม่เนื้อกับนายพรานป่า
แม่เนื้ออยู่ในป่าใหญ่ เที่ยวไปตามทุ่งเสาะหา
เลาะเล็มใบไม้เดินมา ทุ่งหญ้าระบัดใบงาม
เพลินเล็มหญ้าอ่อนสนุก ลืมทุกข์คืบคลานมาถาม
นายพรานถือหน้าติดตาม แกะรอยยามนี้จวนตัว
จะวิ่งทุ่งโล่งโจ่งแจ้ง ดังแสร้งให้ยิงน่าหัว
ฝีมือนายพรานน่ากลัว เขาลือกันทั่วแม่นยำ
เหลือเห็นเพิงซุ้มเถาวัลย์ ใบมันปกคลุมน่าขำ
คงพอหลบได้จดจำ ค่อยค่อยหมอบทำคอยที
พรานป่าเห็นกวางลิบลิบ หยิบหน้าไม้ถือรอรี
วิ่งมาหาดูตรงนี้ ไม่มีหายไปอย่างไร
นายพรานถึงป่าลึกแล้ว กวางแผ้วผ่องจิตแจ่มใส
นึกว่าตัวเองปลอดภัย กัดกินใบไม้รอบตัว
สักครู่นายพรานย้อนกลับ วับวับเลือนรางสลัว
มองเห็นกวางไพรพันพัว มัวกินใบไม้ลืมตน
โก่งหน้ายิงกวางล้มตาย เสียดายกวางไพรสับสน
ประมาทลืมตัวอับจน มืดมนทำลายกำแพง
ใบไม้ปิดบังมันไว้ กลับไปกัดกินกำแหง
ม่านกั้นเปิดเผยสำแดง ดังแกล้งให้พรานเห็นเอง
ฉันใดใครเขาปกป้อง อย่าปองทำร้ายข่มเหง
ผู้มีพระคุณยำเกรง นักเลงไม่เบียนบีฑา
54.  แมลงวันกับไหน้ำผึ้ง
มีสาวผิวขาวสดใส แบกไหน้ำผึ้งผ่านมา
หนุ่มหนุ่มร้องทักกานดา ชายตากรุ้มกริ่มพิมพ์ใจ
ดีใจชายรักชายหลง เดินตรงมิมองหนไหน
สะดุดท่อนฟืนทันใด ไหหล่นตกแตกกระจาย
น้ำผึ้งนองพื้นไปทั่ว สาวกลัวตกใจวิ่งหาย
แมงวันตอมกลิ่นมากมาย วุ่นวายดูดดื่มกินเพลิน
น้ำผึ้งติดปีกติดขา ไปมาก็ดูขัดเขิน
ที่สุดก็ตายยากเดิน บังเอิญติดอยู่มากมาย
ที่แท้เพราะมันโลภมาก ความอยากน้ำผึ้งเหลือหลาย
ลืมตัวลืมกลัวลืมตาย วุ่นวายแต่การดื่มกิน
ประมาทเลินเล่อเผลอไผล ภัยมามิเห็นโผผิน
เมามัวลืมตัวอาจิน จนถึงดับดิ้นตกตาย
55.  แมวกับไก่
แมวจับพ่อไก่อ้วนได้ ตั้งใจจักกินหิวหาย
แต่เกรงเขาด่าวุ่นวาย ว่าเป็นแมวอันธพาล
มันคิดเหตุผลให้ตน จนต้องฆ่าไก่ไขขาน
เพราะเจ้ารบกวนชาวบ้าน แกขันหนวกหูทุกวัน
ไก่เถียงเสียงฉันเพราะออก เพียงบอกเวลาสร้างสรรค์
ชาวบ้านรู้โมงยามกัน เพราะฉันต่างหากนะเออ
ก็ใช่แกมีแรงขัน เพราะนั่นกินอาหารเสมอ
ฉันเองก็เป็นเหมือนเธอ ต้องกินไก่ก่อนจึงดี
ส่วนเรื่องบอกกาลเวลา หาไก่ตัวอื่นแถวนี้
ช่วยขับขานขันช่วยชี้ บอกโมงบอกยามได้การ
แล้วมันก็กัดกินไก่ สมใจตามเหตุที่ขาน
อันธรรมชาติคนพาล ข้ออ้างมันมีมากมาย
อย่าคบร่วมมือร่วมกิจ อย่าคิดคบหาเป็นสหาย
อยู่ห่างจักมิวุ่นวาย สบายใจกว่ากันสัญญา
56.  แมวกับหนู
แมวแก่เรี่ยวแรงถดถอย จับหนูได้น้อยนักหนา
อดอยากหลายวันเวลา นึกหาอุบายคงดี
หากเรานอนนิ่งเหมือนตาย มิยอมโยกย้ายหลีกหนี
เก็บเล็บดังสิ้นชีวี คงมีหนูยอมมาดู
ตอนนั้นคงจับมันง่าย อุบายวิธีจับหนู
ปัญญาเรามันชั้นครู เสร็จตูแน่นอนพวกแก
มีหนูหัวหน้าเห็นเข้า เฝ้าดูมันไม่แยแส
กลับร้องเรียกเพื่อนมาแล นี่แน่หนูหนูพวกเรา
อ้ายนี่มิใช่กระต่าย แต่มันตัวร้ายใช่เขลา
เข้าใกล้มันจะตะปบเอา มันแมวเจ้าเล่ห์แสนกล
อันผู้มีสติปัญญา รู้ทันท่าทีเห็นหน
มองออกอุบายแยบยล มิค่อยเสียท่าง่ายดาย
สุวิชาโนภวังโหติ อริยะสงฆ์ท่านส่องฉาย
ผู้รู้เรียนดีมากมาย ย่อมเจริญแน่นอนสีกา
57.  ยายแก่กับหมอ
ยังมียายแก่คนหนึ่ง ถึงคราวเคราะห์ร้ายถามหา
มีโรกรุกลามถึงตา เป็นฝ้ามืดมัวลำเค็ญ
ยายวานลูกหลานพาไป หมอใหญ่อยากรู้อยากเห็น
วานช่วยรักษายากเย็น จักเซ่นเงินทองข้ามี
หมอตรวจดูก็รู้เหตุ สังเกตมองเห็นวิถี
ตกลงรักษาหายดี บ่งชี้ค่ายามันแพง
ยายบอกข้ามีสมบัติ พอจัดให้ตามแถลง
ตกลงยายฉันจักแจง แต่งยาไปดูทุกวัน
ยามหมอมาถึงที่บ้าน ลานตาสมบัติพร้อมสรรพ
แบบนี้คงรักษากัน นานครันจึงจักหายดี
ใส่ยาขากลับหยิบของ เงินทองติดมือทุกที
สมบัติร่อยหรอมากมี รักษาแบบนี้เนิ่นนาน
สมบัติหมดแล้วใส่ยา รักษาให้หายกล่าวขาน
บัดนี้หายแล้วขอวาน ท่านจ่ายค่ายาให้เรา
ยายเห็นสมบัติหมดเกลี้ยง รู้เพียงหมอยาหยิบเอา
จึงบอกไม่จ่ายดอกเจ้า เงินเราไม่มีให้ท่าน
หมอยาพิโรธด่ายาย ใจร้ายจักไปฟ้องศาล
เขานัดยายไปให้การ วานบอกเรื่องราวเป็นไป
ข้าแต่ศาลที่เคารพ ข้าพบเคราะห์ร้ายไฉน
ก่อนนั้นตาดีเห็นไกล ในบ้านสมบัติมากมาย
ต่อมาตามัวกลัวบอด อยากรอดขอให้ตาหาย
ไปหาหมอมามากราย ตายายก็ยังไม่ดี
คุณหมอคือคนรักษา ใส่ยาตรงตามวิถี
บอกว่าตายายยังมี หายแล้วชี้ให้มองดู
ข้ามองไปทั่วทั้งบ้าน รำคาญมันน่าอดสู
เคยเห็นสมบัติเชิดชู ไม่รู้ไม่เห็นแปลกตา
แบบนี้มันคงไม่หาย จักให้จ่ายเงินนั่นหนา
หากมันหายดีไม่ว่า ข้าคงเห็นแก้วเงินทอง
ศาลพิเคราะห์เหตุผล รู้กลเป็นไปสิ่งของ
ตายายหายดีเห็นพ้อง ต้องจ่ายค่ายาเขาไป
ส่วนหมอต้องทำจนจบ ตายายมองพบสดใส
สมบัติเคยมีอย่างไร ให้ยายมองดูรับรอง
จากนั้นค่อยมารับโทษ ฐานโปรดลักเอาสิ่งของ
ตัดสินกันตามครรลอง ทำนองทำดีได้ดี
ทำชั่วก็ต้องรับชั่ว อย่ามัวโลภหลงวิถี
คนเห็นแก่ได้มากมี ทำชั่วบาปกรรมลงทัณฑ์
58.  ราชสีห์กับลาและหมาจิ้งจอก
ราชสีห์ลากับหมาจิ้งจอก ร่วมกันออกล่าสบสันติ์
ได้กวางหนึ่งตัวสำคัญ แบ่งปันแบบไหนจึงดี
ราชสีห์บอกให้เจ้าลา รีบมาจัดการอย่าหนี
ลาแบ่งสามกองพอดี ขนาดสูสีตามควร
จึงบอกสีหะเชิญท่าน ประธานเลือกก่อนสงวน
เป็นสิทธิ์ผู้ใหญ่บรบวร ผู้น้อยตามหลังมิเป็นไร
ราชสีห์มิค่อยชอบนัก มันมิรู้จักเป็นไฉน
หัวหน้าลูกน้องแบบใด แบ่งให้เท่ากันมิสมควร
ตะปบลาน้อยย่อยยับ ดับชีพหนึ่งศพแย้มสรวล
ถึงตาจิ้งจอกเชิญชวน ช่วยแบ่งให้ทีจักรอ
จิ้งจอกเลือกแบ่งสองส่วน หนึ่งล้วนเนื้อหนังนั่นหนอ
เหลือไว้นิดเดียวก็พอ บอกว่าข้าขอนิดเดียว
ราชสีห์พอใจยิ้มร่า เอ็งมีปัญญาฉลาดเฉลียว
ร่ำเรียนจากที่ไหนเชียว รอบรู้ยุติธรรมชำนาญ
จิ้งจอกบอกว่าลานั่น สำคัญยิ่งคนบอกขาน
ได้รู้แจกแจงควรการ ประมาณพอเหมาะพอดี
เคราะห์กรรมลำเค็ญผู้คน เล่ห์กลมากมวลวิถี
เรียนรู้ศึกษามากมี จักได้ปัญญาชำนาญ
รู้เหตุรู้ผลกลไฉน หนักไปหรือเบาสืบสาน
ยามสบปัญหาแผ้วพาน แก้ไขมินานคลาคลาย
59.  ราชสีห์กับวัวสี่ตัว
จ้าวป่าคือราชสีห์ มันมีพลังเหลือหลาย
จับเหยื่อสัตว์ป่ามากมาย กลัวตายเมื่อพบหน้ามัน
คราหนึ่งพบกลุ่มวัวหนุ่ม ชุมนุมสี่ตัวพร้อมสรรพ์
แปลกดีไม่วิ่งหนีกัน หันหน้าเตรียมพร้อมทุกตัว
พวกมันหันหน้าสี่ทิศ ท้ายชิดโผล่เพียงส่วนหัว
ระแวดระวังมิกลัว จ้าวป่าจำต้องหลีกไป
หลายคราช่วยกันดังนี้ ราชสีห์หมดทางแก้ไข
เลยอยู่กันรอดปลอดภัย ร่วมมือร่วมใจกันดี
อยู่มาวันหนึ่งเกิดเรื่อง เคืองกันเพราะราชสีห์
เจอเราหลบไปทุกที มันกลัวใครแน่นะเออ
ต่างบอกมันกลัวฉันเอง มันเกรงพลังฉันเสมอ
เขาแหลมอีกด้วยถ้าเจอ ฉันขวิดพุงทะลุแน่นอน
มิมีใครยอมเชื่อใคร จำแยกทางไปทอดถอน
ต่างตัวต่างออกเดินจร ลำพังตัวเดียวสะดวกใจ
จ้าวปาจึงสบโอกาส มิพลาดง่ายดายไฉน
จับวัวตัวเดียวกลางไพร ไม่ช้าหมดสิ้นทุกตัว
อันความร่วมแรงรวมใจ ยิ่งใหญ่พลังถ้วนทั่ว
อุปสรรคหักหาญไม่กลัว ฟันฝ่าไปได้ง่ายดาย
ยามใดเห็นแปลกแตกต่าง แยกข้างแยกพวกแยกสาย
อ่อนแรงเกราะพลังพังทลาย ย่อมง่ายย่อยยับอัปรีย์
60.   ราชสีห์กับหนู
อดีตกาลนานมา ราชาแห่งไพรราชสีห์
รูปร่างกำยำล่ำพี ยินดีพักผ่อนหลับนอน
แลดูเถื่อนถ้ำอำไพ เร้นลับอยู่ในสิงขร
หินงอกหินย้อยอรชร แง่งอนเงื่อนง้ำชวนชม
หอมกลิ่นบุปผามาลัย เอื้องไพรลำดวนฉุนฉม
สุคันธ์จันจวงลอยลม จิตจมจนเคลิ้มหลับไป
มินานสะดุ้งผวา แลหาด้วยเหตุไฉน
ตะปบหนูน้อยทันได ใยเอ็งเหยียบย่ำตัวกู
ข้าคือเจ้าแห่งราวป่า เอ็งมาหมิ่นเกียรติอดสู
จะไปจะมาไม่ดู เหยียบหัวย่ำหูมิเกรงเลย
จะกินมิพอยาไส้ จะไล่โมโหมิเหย
จำจักบี้บดชดเชย หายแค้นเอ็งเอ๋ยจงตาย
หนูน้อยออดอ้อนสิงโต อย่าเคืองโมโหมากหลาย
ข้าน้อยผิดพลั้งวุ่นวาย ซุกซนมักง่ายล่วงเกิน
อภัยข้าน้อยปล่อยเถิด ประเสริฐควรค่าสรรเสริญ
เป็นบุญเป็นคุณจำเริญ จักเชิญเทอดไว้บูชา
หากท่านมีกิจน้อยใหญ่ จะขอรับใช้เรียกหา
แทนคุณที่ท่านเมตตา ขอให้สัญญาลูกผู้ชาย
ขำก๊ากเจ้าหนูตัวจ้อย ตัวน้อยคุยโตเหลือหลาย
เอ็งหรือจักช่วยผ่อนคลาย ปัญหาให้หายคุยโต
เอาเถอะข้าไม่ถือสา รีบไปเดียวข้าโมโห
เปลี่ยนใจกินหนูพุงโร อย่ามัวโยเยรีบไป
หนูน้อยขอบคุณขอบคุณ หมุนตัววิ่งเร็วไฉน
เกือบตายซะแล้วปลอดภัย โชคดีเขาปล่อยเป็นบุญ
หลายวันเวลาผ่านไป ปัจจัยแห่งป่าเกื้อหนุน
ส่ำสัตว์ร่มเย็นเป็นคุณ อบอุ่นถ้วนหน้าสุขสบาย
จวบจนวันหนึ่งพรานป่า เข้ามาวางบ่วงซ่อนสาย
ดักเนื้อเก้งกวางกลับกลาย เจ้านายราชสีห์ติดไป
ด้วยพละกำลังยังเหลือ เมื่อดิ้นสุดแรงสงสัย
มิหลุดมิขาดเหตุใด บ่วงบาศใยเหนียวเหลือเกิน
มันรัดเจ็บปวดครวญคราง หมดทางนึกไปให้เขิน
ราชาแห่งป่าสง่าเดิน ติดบ่วงดำเนินดังใด
หนูน้อยผ่านมายินเสียง เพียงเพราะอยากรู้เหตุไฉน
เสียงดังโครมครามเร็วไว วิ่งมาแอบใกล้มองดู
ที่แท้สัตว์ใหญ่ติดบ่วง ดวงตาเบิกโพลงอ้ายหนู
ที่แท้ท่านนายของตู รู้กิจควรทำลงมือ
เข้าไปบอกท่านขอรับ ช่วยจับตึงเชือกยึดถือ
มั่นไว้จักช่วยให้ลือ ไว้ชื่อหนูน้อยฟันคม
กัดแทะเกลียวเชือกไวว่อง หลายร่องจำเพาะเหมาะสม
บ่วงขาดราชสีห์ชื่นชม นิยมหนูน้อยขอบใจ
อันคนตัวเล็กมีคุณ อุดหนุนควรค่ายิ่งไฉน
รูปชั่วตัวดำถมไป ปัญญาใหญ่ยิ่งควรการ
ผู้น้อยผู้ใหญ่ไม่ต่าง รู้ช่างชั้นเชิงอาจหาญ
ช่ำชองช่างเชียวชำนาญ ร่วมงานร่วมการวางใจ
61.  ราชสีห์กับหมาจิ้งจอก
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยายแก้วเล่านิทานขานไข
อีสปมีเรื่องสอนใจ จำไว้เป็นคติเตือนตน
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันพึ่งหลงทางสับสน
ขึ้นเขาวนเวียนวกวน จวบจนเข้าเขตอันตราย
ป่าลึกเขตราชสีห์ พอดีพบเข้าใจหาย
มันหมอบกับพื้นกลัวตาย มิวายเหลือบตาแอบมอง
ราชสีห์เดินผ่านไปเฉย มิเคยชายตาสนอง
ออกเดินถัดมาริมคลอง เจอตัวที่สองตกใจ
ครานี้ลองยืนนิ่งนิ่ง เออจริงชักหายสงสัย
จ้าวป่ามียศเกริกไกร ไม่สนสัตว์เล็กอย่างเรา
ราชสีห์ผ่านไปอีกที ครานี้จักมิขลาดเขลา
ออกเดินต่อมาเห็นเงา เจ้าป่าสง่างามยืนมอง
จิ้งจอกเดินเข้าไปหา ราชาแห่งสัตว์ทั้งผอง
ทักทายถามไถ่ทดลอง จ้าวป่ายิ้มให้ใจดี
บอกทางจากป่าดงดิบ ไกลลิบตรงไปวิถี
ยอดเขาลูกโน้นแหละมี เพื่อนบ้านเจ้าอยู่มากมาย
อันความกล้าหาญอดทน ตริตรองเหตุผลสืบสาย
เรื่องยากเรื่องยุ่งอาจคลาย เป็นง่ายเพราะสติยังดี
62.  ราชสีห์ชันสูตรลมหายใจ
สิวห์โตท่านผู้เป็นใหญ่ อยู่กลางพงไพรวิถี
วันหนึ่งอยากรู้คดี ลีลาแห่งลมหายใจ
ตัวเองมิเคยทราบกลิ่น ยากสิ้นมันเป็นไฉน
จำเป็นจำต้องท่องไป ถามใครเขาวานบอกดู
รุ่งขึ้นออกเดินชมป่า ผ่านมาทักแกะนี่หนู
ข้าเองหายใจใคร่รู้ บอกตูกลิ่นเป็นยังไง
แกะน้อยหวาดกลัวตัวสั่น ตัวมันงุนงงสงสัย
เดินมาดมดูใกล้ใกล้ บอกไปว่าเหม็นเหลือเกิน
ราชสีห์พอฟังก็โกรธ กล่าวโทษแกะไปไม่เขิน
จับกินเสียแล้วออกเดิน บังเอิญพบหมาหนึ่งตัว
ร้องถามนี่คุณหมาป่า ข้ามีคำถามชวนหัว
กลิ่นลมหายใจดีชั่ว อย่ากลัวบอกข้าหน่อยซี
หมาป่าก็ตื่นตกใจ กลัวภัยยากจักหลบหนี
ดมดมแล้วบอกทันที หอมหวนดีนักราชา
ราชสีห์รู้มันโกหก ตกลงจับกินอีกหนา
ผ่านไปจิ้งจอกเดินมา ถามหากลิ่นลมหายใจ
จิ้งจอกดมดูครู่หนึ่ง จึงทำท่าจามสงสัย
ข้าเป็นหวัดแรงเกินไป มิได้กลิ่นเอาเสียเลย
เชิญท่านไปข้างหน้าเถิด ประเสริฐคงมีคนเผย
ราชสีห์มิได้เอื้อนเอ่ย ตามเคยมันเดินผ่านไป
รับมือกับคนเป็นพาล รู้การระวังแบบไหน
จึงจักอยู่รอดปลอดภัย เรียกได้ความฉลาดปัญญา
63.  ลากับไก่และราชสีห์
ชาวไร่เลี้ยงลากับไก่ รักใคร่กันดีนักหนา
ยามเช้ามักเดินเล็มหญ้า ไก่เดินตามลาประจำ
วันหนึ่งมีราชสีห์ พอดีผ่านมามันขำ
เห็นลาชักหิวแล้วกรรม มันทำหมอบหมอบคลานคลาน
ไก่เหลือบมาเห็นจ้าวป่า ทำท่าคงนึกว่าหวาน
ลาโง่ไม้รู้ภัยพาล รีบขานขับขันเตือนไป
ราชสีห์ยินเสียงตระหนก ยกหัวยืนเสียงจากไหน
ฤาว่าจักมีเภทภัย จำใจวิ่งหลบทันที
ฝ่ายลาทันเห็นจ้าวป่า อ้ายบ้าเห็นตูวิ่งหนี
ขาดคุณสมบัติผู้ดี ต้องตีมันกลัวลนลาน
ลากวดราชสีห์จนทัน แต่มันหยุดรอไขขาน
ลาโง่เอ็งมันแสนพาล ควรเป็นอาหารคงดี
โดนกัดเป็นอาหารเช้า นึกว่าเขากลัวหลบหนี
เพราะโง่ปัญญาไม่มี เสียทีอวดเก่งเกินการ
อันคนขลาดเขลามีชัย มีใจฮึกเหิมอาจหาญ
นึกว่าตนเองชำนาญ เลยพาลประมาทร่ำไป
ถึงคราวมีกิจสำคัญ ฝ่าฟันก็มิอาจไหว
มักต้องพ่ายแพ้เพาะภัย อย่าได้เอาอย่างแบบมัน
64.  ลากับจิ้งหรีด
ลาโง่ตัวหนึ่งในป่า เล็มหญ้ายามเช้าสุขสันต์
อากาศเย็นเย็นสำคัญ นี่นันหรีดหริ่งเรไร
เพราะพริ้งจี้งหรีดกรีดเสียง เพียงพิณบรรเลงสงสัย
ตัวมันเล็กเล็กทำไม ไพเราะยามร้องระงม
เจ้าลาเดินตรงไปหา เพื่อนยาเพลงเพราะเหมาะสม
ร้องได้ไพเราะน่าชม อบรมฝึกมาอย่างไร
จิ้งหรีดฟังคำขบขัน ลามันมิรู้ฤๅไฉน
เสียงร้องส่ำสัตว์พงไพร ย่อมไม่เหมือนกันธรรมดา
จำจักล้อเล่นเจ้าโง่ พิโถเพื่อนใยเสาะหา
อยากรู้ดูด้วยปัญญา เช้ามาข้าดื่มอันใด
น้ำค้างดูดดื่มชื่นจิต ยามคิดปลอดโปร่งโล่งไฉน
ยามร้องเพราะพริ้งเพลงไพร นี่ไงข้าทำมานาน
เจ้าลาดีใจเหลือหลาย ขอบคุณมากมายไขขาน
ข้าจักฝึกฝนมินาน ได้การสำเนียงคงดี
เลิกกัดกินหญ้าเด็ดขาด ประหลาดเห็นหญ้าหลีกหนี
เที่ยวดูดน้ำค้างมวลมี รูปร่างอ้วนพีกลับกลาย
ซูบผอมเสียงร้องแหบแหบ แบบขาดเรี่ยวแรงเสียหาย
เสียงเปลี่ยนดีใจงมงาย ที่สุดล้มตายจากไป
อันความโง่เขาเบาความ ยามทำสิ่งสุดวิสัย
หลงผิดทำผิดเป็นภัย พึงใช้ปัญญาไตร่ตรอง
65.  ลากับรูปเคารพ
ล่าต่างตัวหนึ่งโชคดี มีโอกาสร่วมขบวนฉลอง
เขาจับแต่งงามดังทอง หลังตั้งเทวรูปจักรี
ขบวนแห่ไปรอบเมือง ธงทิวแดงเหลืองหลากสี
เพราะพริ้งแตรสังข์ดนตรี เจ้าลามีความภูมิใจ
เดินผ่านผู้คนเคารพ บ้างจบนอบน้อมดีไฉน
มันหยุดผงกหัวเรื่อยไป ทำให้ชักช้าห่างขบวน
เจ้าของมองดูรู้เลศ เพราะเหตุลาบ้าน่าสรวล
หวดตีลาบ้องอย่ากวน เขาไหว้เทวรูปหรอกแก
รีบไปให้ทันกระบวนเขา อย่าเมาลืมตนนี่แส้
จักหวดให้ตื่นดีแน่ รีบไปอ้ายบ้าลืมตน
ผู้มีหัวโขนอำนาจ มักอาจลืมตัวสับสน
เห็นเขาเคารพเหลือล้น นับถือทำให้มัวเมา
แท้จริงเพียงเพราะยศศักดิ์ เขารักอำนาจอย่าเขลา
วันใดมันหมดตัวเรา ก็เพียงตัวตนสำคัญ
66. ลากับหมาจิ้งจอก
มีลากับหมาจิ้งจอก บอกว่ารักใคร่ใฝ่ฝัน
อยากเป็นเพื่อนเกลอแก่กัน ใจมั่นเพื่อนตัวเพื่อนตาย
ยามทุกข์ก็ทุกข์ทั้งดู่ ดูแลเปลื้องทุกข์สหาย
ยามสุขสุขสองมิคลาย สัญญามั่นหมายดิบดี
สองสหายท่องไปด้วยกัน สัมพันธ์ผูกไว้ไม่หนี
ดูแลแก่กันมากมี ไมตรีปกติธรรมดา
จวบจนเกิดเรื่องไม่ดี พบราชสีห์ขวัญผวา
จะหลบไม่ทันมันมา จิ้งจอกพาทีเพื่อนตาย
พ่อแพะเพื่อนยากมีภัย หยุดไว้รอก่อนสหาย
ข้าจักไปขอผ่อนคลาย หมายไว้คงไม่ยากเย็น
มันวิ่งไปหาราชสีห์ พาทีบอกความตามเห็น
ข้าจักหลอกลาเป็นเป็น มาเซ่นแก่ท่านงายดาย
ขอเพียงท่านให้สัญญา ปล่อยข้าละโทษฉิบหาย
ขอเว้นอย่าให้ถึงตาย เจ้านายได้โปรดเมตตา
ราชสีห์ตกลงตรองตรึก พลางนึกนี่มันเป็นหมา
เจ้าคิดเจ้าเล่ห์นานา ชาวป่าเขารู้สันดาน
จิ้งจอกกลับมาหลอกเพื่อน ทำเหมือนเรียบร้อยไขขาน
ราชสีห์มิใช่คนพาล ไหว้วานยกโทษโปรดเรา
หลอกลาเดินไปติดหล่ม จมโคลนติดอยู่เพราะเขลา
จิ้งจอกกลับไปบอกเอา ลาโง่งี่เง่าติดโคลน
เชิญท่านไปกินมันเถิด ประเสริฐมันคิดจักโผน
หลบไปราชสีห์กระโจน ตะปบมันโยนตกตาย
จัดการกินจิ้งจอกก่อน ค่อยย้อนกินลาไม่สาย
สองเพื่อนสิ้นชีพวางวาย เพราะหมายเอาตัวรอดเอง
มีเพื่อนชั่วช้าหน่ายหนี อัปรีย์หาเรื่องข่มเหง
ความชั่วมันมิยำเกรง มีเพื่อนนักเลงบาปกรรม
67.  ลิงกับคนทอดแห
ยังมีนักเลงทอดแห ลอยแพทอดอยู่กลางน้ำ
ปลาชุมทอดแหแล้วดำ ได้ปลาแก้มช้ำแก้มนวล
ปลากดปลาหลดปลาไหล ทอดแหเหวี่ยงไปเสสรวล
ปลาติดขึ้นมาเป็นพรวน ยวนใจให้ทอดเนิ่นนาน
ฝั่งน้ำเห็นมีต้นหว้า หน้านี้ลูกมันสุกหวาน
พวกลิงสุดแสนเบิกบาน พบพานลูกหว้าชอบใจ
จ่าฝูงแลเห็นตาเฒ่า มันเบาปัญญาสงสัย
ตาแก่นี่ทำอันใด เหวี่ยงไปจมน้ำเป็นแพ
กระโดดลงไปดำมุด ที่สุดจับปลาจากแห
มันน่าสนุกของแก อยากลองดูแน่สักคราว
ตาแก่ทอดแหเหนื่อยนัก หยุดพักพอดีลูกสาว
มาเชิญให้รู้เรื่องราว ข่าวว่าอยากได้สตางค์
กลับไปที่พักสักครู่ ไม่อยู่มิมีคนขวาง
เจ้าลิงแลเห็นช่องทาง ลงมากางแหเหวี่ยงดู
แหพันหัวหางชักยุ่ง พันคุงจากหัวแลหู
อีลุงตุงนังนักตู เสียรู้ตกน้ำสิ้นใจ
อันคนมิรู้ประมาณ ทำการเกินตัวไฉน
มักเกิดมีเหตุเภทภัย สังวรสำราญชาญเชาวน์
68.  ลูกแกะหลงฝูงกับหมาป่า
แกะน้อยเล็มหญ้าเพลิดเพลิน เดินพลัดหลงฝูงกลางเขา
ลัดเลาะร่มไม้บังเงา ยังเยาว์แต่มิตกใจ
ยินเสียงแกะร้องแว่วมา ดูท่าคงห่างสงสัย
หากมุ่งทิศทางนี้ไซร้ คงได้เจอฝูงแน่นอน
เคราะห์ร้ายมันพบหมาป่า หมดท่าเย็นไว้พ่อสอน
จึงออกปากไหว้วิงวอน โอ้ท่านผู้เกรียงไกร
เคราะห์กรรมตามทันข้าแล้ว มิแคล้วสิ้นชีพตักษัย
เป็นภักษาผู้ยิ่งใหญ่ เยี่ยงท่านข้าพลอยยินดี
ก่อนตายขอท่านสักอย่าง เขาอ้างโบราณวิถี
เพราะพริ้งหมาป่าเป่าปี่ บุญมีถึงจักได้ยิน
ท่วงท่าทำนองไพเราะ เหมาะจักเรียกยอดแห่งศิลป์
ร่ายรำดังหนึ่งโบยบิน หวังว่าท่านคงเอ็นดู
หมาป่าภาคภูมิใจนัก กูจักแสดงอ้ายหนู
หยิบปี่มาเป่าอูอู ตัวมันเคลิบเคลิ้มหลับตา
แกะน้อยมิรอรีแล้ว รีบหลบหนีแจวแหละหนา
เพลงปี่จบลงตื่นมา อ้าวหายหัวซะแล้วแกะเวร
อันลาภสักการมีมา บางคราวบางคราที่เห็น
อย่ามัวระเริงหลงเล่น จนปล่อยลอยวับหายไป
จักมาเสียดายภายหลัง อย่าหวังคืนคงสงสัย
ดังวันเวลาคลาไคล ไหนจักย้อนกลับฤๅมี
69.  ลูกปูกับแม่ปู
ปูมันแลขามากมาย โชคร้ายหัวปูหลบหนี
แม่ปูลูกปูชวนชี้ ไปที่ชายหาดสนุกกัน
น้ำใสสะอาดน่าเล่น ลมเย็นสนุกสุขสันต์
หากินก็ง่ายแถวนั้น มันมีอาหารมากมาย
ลูกปูชอบใจไปก่อน สนุกตอนลุยโคลนใจหาย
เดินเซไปมาขวาซ้าย โยกย้ายคดเคี้ยวร่องรอย
แม่ปูเห็นแล้วหนักใจ ทำไมไม่อายพวกหอย
เดินตรงดีดีเด็กน้อย ค่อยเดินรีบร้อนทำไม
ลูกปูหัวร่อแม่จ๋า พวกข้าเดินดีสงสัย
เซมาแล้วก็เซไป แปลกใจเดินดีแล้วนา
แม่ปูชักมีเสียงดัง น่าชังจริงนะเด็กจ๋า
เดี๋ยวแม่เดินแบบดารา จำท่าแม่แล้วเดินตาม
แม่ปูออกเดินแบบอย่าง แต่ช่างแปลกกระไรไต่ถาม
แม่เดินคดเคี้ยวทุกยาม ดูงามกว่าพวกหนูเดิน
ปูน้อยห่อร่อคิกคัก ยากจักไปตรงให้เขิน
แม่แบบคดเคี้ยวเหลือเกิน จักเชิญฝึกได้ดังใด
อันคนจักสอนผู้อื่น พึงตื่นตาดูตัวไว้
ตนเองสามารถทำไซร้ จึงควรสอนให้เขาทำ
หาไม่ไร้ค่าคำสอน เขาย้อนกลับมาน่าขำ
แม่ปูลูกปูจดจำ พร่ำสอนตัวดีระวัง
70. ลูกแพะกับหมาป่า
แพะน้อยตัวหนึ่งเดินมา เล็มหญ้าเชิงเขาลำพัง
มันเพลินชะตาน่าชัง เสียงดังหมาป่าทักทาย
เฮ้ยเจ้าแพะตัวจ้อย เด็กน้อยอย่าวิ่งเสียหาย
แม้เหงื่อเจ้าออกท่วมกาย เหม็นหลายมันไม่น่ากิน
แพะน้อยตกใจได้สติ ดำริท่านผู้มีศิลป์
ข่าวว่าหากใครได้ยิน เสียงปี่ท่านรินหลั่งเพลง
ถึงตายก็สมควรอยู่ อยากรู้ไม่ควรข่มเหง
โปรดได้เมตตาบรรเลง ฟังแล้วไม่เกรงกลัวตาย
หมาป่าชอบใจแพะน้อย คอยฟังข้าภูมิใจหลาย
เป่าปี่ให้ฟังหลานชาย ภายหลังค่อยจับเจ้ากิน
ตะริดติ๊ดตี่ปี่หมาป่า พรรณนาแบบผู้มีศิลป์
เพราะยิ่งใครยลใครยิน เจิดจินตนาการเพราะเพลิน
หมาพรานล่าเนื้อยินเสียง จำเรียงจึงข้ามเขาเขิน
มาถึงแลเห็นบนเนิน หมาป่าเดินเป่าบรรเลง
หมาพรานโลดไล่หมาป่า ว่องไวนักหนาข่มเหง
กลัวตายลนลานลืมเพลง มันเร่งรีบหนีกลัวตาย
แพะน้อยเลยรอดปลอดภัย หลบไปเข้าป่าลับหาย
อันคนทำการมากมาย ไม่วายลืมตัวลืมตน
ไม่รู้ภาระหน้าที่ มีใจเรื่องอื่นสับสน
มัวทำเรื่องอื่นกังวน งานตนเสียหายมากมี
หมาป่าปัญญาบางเบา หลงเงาศิลปินวิถี
กำลังหากินดีดี เมาปี่เป่าเพลงเพลิดเพลิน
ลาภลอยตรงหน้าก็หาย หนีตายวิ่งเข้าเขาเขิน
ต้องโทษตนเองโง่เกิน บังเอิญไม่รู้จักตน
71.  ลูกหมูกับฝูงแกะ
ลูกหมูพลัดหลงกับแม่ ชะแง้มองหาอาหาร
ขุดคุ้ยกินไผ่เนิ่นนาน แม่ลับตาไม่รู้ตัว
จวนค่ำมันก็ตกใจ มองทางไหนเริ่มสลัว
หมอกมืดปกคลุมไปทั่ว น่ากลัวมันอยู่เดียวดาย
ออกวิ่งตามหาแม่แม่ ลองแลลับจนใจหาย
หลงทางกลัวจนแทบตาย แม่จ๋าแม่อยู่หนใด
มันหลงเข้ายังฝูงแกะ แบะแบะเสียงร้องเป็นไฉน
ปะปนหากินเรื่อยไป มิกล้าเปิดเผยตัวตน
วันหนึ่งชาวนาเจ้าของ เมียงมองเห็นหมูชวนฉงน
ไล่จับมันวิ่งเวียนวน หลบในฝูงแกะหายไป
พวกแกะแปลกนักบอกเล่า เจ้าหมูหลบหลีกเป็นไฉน
ยืนนิ่งเขาจับเป็นไร ใครใครก็ยืนเหมือนกัน
หมูน้อยตอบคำพี่ข้า พาทีมิค่อยสร้างสรรค์
เขาจับแกะด้วยสำคัญ ตัดขนแค่นั้นพี่ยา
ส่วนเขาไล่จับหมูน้อย ใช่ย่อยแค่นั้นดอกหนา
เขาจับไปเชือดมรณา สถานการณ์มิเหมือนกัน
ยามเห็นเคราะห์กรรมคนเขา อย่าเอาเรื่องราวเคยสรรค์
ของตัวเราเองสำคัญ จักแก้เคราะห์กรรมฉันใด
72.  ลูกอ้นกับแม่อ้น
มีอ้นสองตัวแม่ลูก ผูกพันอยู่ที่พงไผ่
หากินกลางดงท่องไป มุดใต้ดินดอนขุดรู
สงสารลูกน้อยตาบอด แม่กอดกระซิบข้างหู
ตาบอดมิอาจแลดู เราอยู่ที่มืดมิเป็นไร
แม่จักช่วยดูแลเจ้า ค่ำเช้าอย่างงสงสัย
ตามหลังแม่จักพาไป หากินหน่อไม้มากมาย
อ้นน้อยมีแม่ปกป้อง ลำพองว่าเก่งเหลือหลาย
มิค่อยพบอันตราย สุขสบายลืมโง่ลืมตัว
วันหนึ่งอ้นน้อยคุยโว อวดโตอวดเก่งชวนหัว
แม่จ๋าตาฉันเห็นทั่ว ไม่กลัวหลงแล้วมารดา
แม่อ้นรู้ลูกโอ้อวด เจ็บปวดลองตรึกนึกหา
วิธีสั่งสอนลูกยา จึงหากำยานวางลง
ถามลูกแม้เจ้ามองเห็น นี่เป็นอันใดพิศวง
วางอยู่ข้างหน้ามองตรง จงตอบแม่มาโดยพลัน
อ้นน้อยดมดมคลำคลำ จดจำมิได้น่าขัน
บอกแม่ก้อนหินสำคัญ ยืนยันถูกต้องแน่นอน
แม่อ้นสมเพชลูกน้อย ตอบถ้อยหนูอ้นสั่งสอน
ตาบอดไม่พองามงอน กำยานว่าก้อนหินไป
จมูกก็บอดสนิท อยู่ชิดกำยานรู้ไหม
กลิ่นฉุนมิทราบกลิ่นใด สงสัยเจ้าบอดจริงจริง
อันคนอวดดีอวดเก่ง มักเบ่งข่มเขาชายหญิง
มินานเขารู้กลอกกลิ้ง ที่แท้ชิงอวดโง่ไง
73.  ลูกโอ๊กกับฟักทอง
กะทาชายนายสิง มิเคยอยู่นิ่งสงสัย
คิดโน่นคิดนี่เรื่อยไป บางครั้งก็เกินพอดี
อย่างเช่นมันคิดเรื่องไก่ ออกไข่ตัวเมียหลากสี
พวกเป็ดพวกนกก็มี แบบนี้มิแตกต่างกัน
ทำไมตูเป็นผู้ชาย กลับกลายมีไข่หนอสวรรค์
สร้างผิดหรือเปล่าสำคัญ มันคิดแบบนี้แปลกคน
วันหนึ่งไปเที่ยวในป่า เมื่อยล้ายามอยู่ไพรสณฑ์
มองหาร่มเงาพักตน เจอต้นไม้โอ๊กพอดี
เอนตัวนอนใต้ร่มไม้ ได้เห็นลูกโอ้กหลากสี
ต้นโอ้กใหญ่โตกลับมี ลูกไม้ขนาดเล็กนิดเดียว
ฟักทองเถาเล็กลูกใหญ่ ทำไมโตนักฟักเขียว
เทวดาสร้างผิดแน่เชียว มันถึงได้กลับแผกกัน
ทันใดลูกโอ้กหล่นลง ถูกตรงหน้าผากน่าขัน
หัวโนหลบหลีกไม่ทัน ฉับพลันคิดใหม่อีกที
ต้นโอ้กลูกเล็กเหมาะนัก หล่นปักหน้าผากยากหนี
แค่ปวดแค่บวมยังมี หยูกยาทาได้หายไป
แม้มันโตเท่าฟักทอง สมองแตกแน่มิสงสัย
ชีพเราก็คงบรรลัย มิทันได้สั่งญาติกา
สิ่งใดที่เรามิรู้ มิคู่ควรจักสรรหา
ถ้อยคำวิพากย์จรรจา ศึกษารู้ก่อนเชี่ยวชาญ
74.  สามช่างซ่อมกำแพง
เอกทาพาราภูวง มีเรื่องยังคงกล่าวขาน
ถึงช่างผู้ชำนาญการ หารือจักซ่อมกำแพง
คราวนั้นมีข่าวการศึก มันฮึกอวดเก่งกำแหง
ประกาศสงครามร้อนแรง หวาดกลัวกันทั่วทั้งบาง
อมาตย์มนตรีปรึกษา พารามีสิ่งกีดขวาง
ค่ายคูกำแพงจัดวาง หอรบต่างก็พอมี
ทุกอย่างเรียบร้อยเว้นแต่ แลรอบกำแพงวิถี
ชำรุดต้องซ่อมให้ดี มนตรีปรึกษาเร็วไว
มนตรีเกษตรแนะนำ จำต้องมีอิฐมากไฉน
ปรับซ่อมกำแพงจึงได้ มั่นคงแข็งแรงแน่นอน
เดิมเป็นช่างทำอิฐ จึงคิดว่าเหมาะพ่อสอน
จำมาบอกกล่าวทุกตอน ขอให้ที่ประชุมพิจารณ์
มนตรีป่าไม้กล่าวอ้าง ท่อนซุงจับวางขอขาน
ทำง่ายแข็งแรงมินาน จักได้กำแพงสมใจ
เพราะเคยเป็นงานช่างเรือน แนะนำจึงมิสงสัย
ซุงแข็งกว่าอิฐบอกให้ ทุกฝ่ายเห็นคล้อยพาที
มนตรีอุตสาหกรรม เอ่ยคำขอค้านทุกวิถี
อิฐเผาเราก็ไม่มี ทำอยากอาจไม่ทันการ
ท่อนซุงจักเอาจากไหน มีไหมช้างม้าประสาน
ลากซุงมาให้ใช้งาน ชักช้ามิทันศึกสงคราม
เราขอให้ใช้แผ่นหนัง ซ่อมผังกำแพงอย่าถาม
เหนียวแน่นเบาบางทุกยาม ทนทานแน่นอนเชื่อเรา
ความคิดความอ่านของคน นึกว่าตนไม่ใช่เขลา
รู้ดีเก่งกาจมิเบา ล้วนขึ้นกับประสบการณ์
เคยพบเคยทำก่อนมา นึกว่าดีแล้วจึงขาน
ความคิดคับแคบมิชาญ คนควรเปิดกว้างดวงใจ
รับรู้วิทยาหลากหลาย มากมายสิ่งดีมีที่ไหน
ศึกษารอบรู้กว้างไกล จักได้เป็นปราชญ์แพรวพราว
75.  หญิงชรากับสาวใช้
มีเรื่องเล่าขานคุณยาย เป็นนายลูกจ้างสองสาว
ยายเฮี้ยบเขาบอกเรื่องราว สุดยอดหาใครเทียบทัน
แกเลี้ยงไก่บอกเวลา ตื่นมาอีหนูไก่ขัน
รีบตื่นมาทำงานกัน ขยันหน่อยซีพวกเธอ
บางวันทำงานเหน็ดเหนื่อย หลับเรื่อยลืมตื่นเสมอ
ไก่ขันยังนอนละเมอ ต้องเจอน้ำสาดพอดี
สองสาวลองปรึกษากัน ไก่ขันรบกวนนวลฉวี
หลับนอนรบกวนทุกที แบบนี้เราต้องจัดการ
สองสาวเชือดไก่ต้มกิน ไม่ยลไม่ยินไก่ขาน
ค่อยหลับสุขสันต์สำราญ เบิกบานความฉลาดปัญญา
แต่เรื่องกลับตาลปัด การจัดระเบียบเคหา
ยายไม่รู้เรื่องนาฬิกา เวลาต้องไก่บอกยาย
ไก่ขันยายตื่นนานเนิ่น บังเอิญเงียบเสียงไก่หาย
เลยตื่นก่อนเวลามากมาย ปลุกเรียกสองสาวทำงาน
บางคืนโดนปลุกสองหน สองคนยากจักไขขาน
มิกล้าขัดยายทำการ หนักยิ่งกว่าเดิมเวรกรรม
อันคนคิดไม่ซื่อตรง คงหาอุบายถลำ
คดโกงเอาเปรียบประจำ จึงทำนอกรีตนอกรอย
มินานผลกรรมตามทัน แปรผันผลสุขถดถอย
กลับเป็นทุกข์โทษที่คอย ตามทันซ้ำเติมลำเค็ญ
76.  หนูกบกับเหยี่ยว
หนูน้อยหากินใกล้หนอง ท่องไปไม่นานได้เห็น
คุณกบคุยกันได้เป็น เพื่อนเล่นเพื่อนตายชอบใจ
ทุกวันออกมาหากิน ยินดีบอกวานขานไข
กบจับตั๊กแตนยากไซร้ หนูไล่ตะครุบฝากมัน
หนูมันอยากกินข้าวเปลือก กบเลือกทุ่งนาเลือกสรร
ข้าเห็นรวงข้าวสาระพัน ไปกันเลือกเก็บกินสบาย
สองรักผูกพันเช่นนี้ ยินดีรักกันสองสหาย
สองเราเมื่อเป็นเพื่อนตาย ดีร้ายจักดูแลกัน
เสียดายที่มีอุปสรรค ข้ามักเดินช้าน่าขัน
หนูเอ็งเดินวิ่งเร็วพลัน ข้าตามไม่ทันแน่นอน
หนูว่าถ้าขามัดไว้ ล่ามเชือกเอาไว้ไม่ถอน
ไปไหนได้ด้วยแรมรอน ตอนสุขสุขด้วยเสมอใจ
ตกลงผูกขากบหนู เป็นคู่เพื่อนตายดีไฉน
เพลินเที่ยวหากินกันไป ถึงหนองบึงใหญ่ยินดี
กบโดดลงน้ำดำดิ่ง หนูหริ่งจมน้ำยากหนี
มินานจบสิ้นชีวี มีมีอากาศหายใจ
นกเหยี่ยวผ่านมาแลเห็น ดังเช่นหนูนาสงสัย
โฉบลงจับหนูทันใด แถมได้กบน้อยอีกตัว
เหตุเพราะกบเพลินเกินสนุก มิเห็นทุกข์เพื่อนน่าหัว
สุดท้ายอันตรายพันพัว ถึงตัวฉิบหายด้วยกัน
77.  หนูกับหอยมุก
อดีตกาลนานปี มีหนูโง่เง่าหนึ่งนั้น
นึกอยากเที่ยวไปสำคัญ โลกนี้คงจักสวยงาม
อยากชวนเพื่อนไปด้วยกัน สำคัญพวกเขาคงถาม
ติดตามคงน่ารำคาญ เดินทางคงเดียวคงดี
รุ่งเช้าอากาศแจ่มใส เดินไปบูรพาวิถี
นกการ่ำร้องมากมี อึงมี่ไม่เปลี่ยวเดียวดาย
มองเห็นจอมปลวกใหญ่โต โอ้โฮภูเขาใจหาย
แปลกดีมีอยู่มากมาย บุญแล้วได้มาพบพาน
หนูอื่นไม่มีวาสนา โลกากว้างใหญ่ไพศาล
เหมาะกับผู้ปรีชาชาญ แบบข้านี่แหละแน่นอน
ผ่านไปได้เจอหนองน้ำ เคยยินคำแม่กล่าวสอน
แบบนี้ทะเลข้าจร มาพบคนแรกแปลกใจ
พวกหนูอื่นคงอิจฉา หูตากว่ากว้างไฉน
ชื่อเสียงข้าคงเกริกไกร เพราะได้รอบรู้นานา
มินานมาถึงแม่น้ำ จำได้ทะเลฝันหา
อยากเห็นทะเลตัวข้า บุญพาได้พบสมใจ
มาถึงทะเลริมหาด ประหลาดมันกว้างจริงไฉน
อันนี้มหาสมุทรมองไป ไกลสุดลูกหูลูกตา
มันเพลินลัดเลาะชายหาด ทรายสะอาดชวนฝันหรรษา
ชื่นชมลมเย็นพัดมา หอยมุกปากอ้าแปลกใจ
ตรงกาบคงมีอาหาร บันดาลให้หิวสงสัย
ลองมุดไปดูทันใด หอยงับกาบไว้เวรกรรม
อันพวกงี่เง่าเต่าตุ่น ลงทุนท่องโลกน่าขำ
เห็นผิดรู้ผิดประจำ ยังทำเป็นเก่งอวดดี
ถึงคราวพบพานอุปสรรค ก็มักหมดท่ายากหนี
อวดกล้าอวดเด่นมากมี ที่แท้ต่ำต้อยรำคาญ
78.  หมากับเงา
มีหมาหนุ่มน้อยหนึ่งตัว เดินทั่วตามตลาดอาจหาญ
ทำเหมือนมันมาตรวจ การ เช้าผ่านตลาดสดทุกวัน
สายหน่อยมันโผล่ที่วัด พบหมาจรจัดพร้อมสรรพ์
คืนค่ำไปบาร์ผับพลัน อเนกอนันต์อาหารดีดี
ยามเช้าวันจันทร์ปกติ ดำริตลาดใหญ่ไม่หนี
พบเนื้อก้อนใหญ่เข้าที คาบได้เร็วรี่รีบไป
หลบหลีกจนออกนอกบ้าน มินานแม่น้ำลึกไหล
ขวางทางสะพานท่อนไม้ พาดให้เดินข้ามแคบเกิน
ค่อยค่อยไต่ไปดูเท้า พลาดเข้าตกน้ำนึกเขิน
คงเปียกหากมัวคิดเพลิน เดินไม่ระวังตกลง
แลดูสายน้ำใครหนา เหมือนหมางี่เง่าพิศวง
คาบเนื้อก้อนโตงุนงง แปลกตรงใหญ่กว่าของเรา
แบบนี้มันมาท้าทาย หมายจักแย่งเนื้อของเขา
ปล่อยเนื้อจากปากมิเอา จักเข้าแย่งเนื้อจากมัน
เนื้อหลุดลงน้ำจมหาย อ้ายบ้าก็คงหุนหัน
ปล่อยเนื้อหลุดปากเช่นกัน เนื้อสันอย่างดีหายไป
เดินข้ามถึงฝังหวังแย่่ง มันแปลงกายวับสงสัย
ลับหายพร้อมเนื้อก้อนใหญ่ อดได้กินเนื้อก้อนโต
อันลาภสักการน้อยนิด ใกล้ชิดในมือในโถ
มีค่าอย่าพาลพาโล โมหะอยากได้ไกลมือ
หาไม่จักพลอยเสื่อมลาภ เนื้อติดปากคาบไม่ถือ
หลุดลอยไปได้เสียชื่อ เขาเรียกคนโง่ด่าเอา
79.  หมาจิ้งจอกกับแกะและผู้ตัดสิน
ยังมีจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เกเรหาเรื่องแกะเขา
บอกว่าเป็นหนี้ไม่เบา หลายแสนไม่ใช้สักที
มันตามไปทวงถึงถิ่น ได้ยินแล้วหนาอย่าหนี
แกะงงไม่รู้ไม่ชี้ มิเคยไปยืมเงินใคร
ฉันกินแต่หญ้าหาง่าย มากมายมองดูทางไหน
มิอดมิอยากทำไม จักเป็นหนี้สินกับเอ็ง
จิ้งจอกว่าเอ็งปากแข็ง เป็นหนี้ยังแกล้งข่มเหง
มาทวงกลับร้องตะเบ็ง อวดว่าไม่เคยยืมเรา
แบบนี้ต้องหาบัณฑิต ช่วยคิดไปพึ่งพวกเขา
พวกนี้เที่ยงธรรมบรรเทา รอบรู้กฏหมายคดี
จิ้งจอกชวนแกะเข้าป่า ไปหาตลาการวิถี
หนึ่งนั้นคือเจ้าอินทรีย์ ยังมีหมาป่าอีกตัว
จิ้งจอกบรรยายคำฟ้อง เรียกร้องกล่าวโทษชวนหัว
แกะเป็นหนี้มันพันพัว มึนมัวไม่ยอมใช้คืน
อินทรีย์ปรึกษาหมาป่า ประกาศอาญายากฝืน
เป็นหนี้ถึงจนทนกลืน ใช้เขาจึงถูกจึงควร
บอกปัดผัดผ่อนไม่ได้ ไล่เรียงระบอบสอบสวน
โทษหนักมาตราประมวล ประหารเร็วพลันอาญา
พวกมันจัดการฆ่าแกะ ชำแหละกินกันหรรษา
อันพวกโง่เขลาปัญญา ย่อมตกเป็นเหยื่อชนพาล
แถมยังฉลาดแกมโกง เชื่อมโยงผิดถูกประสาน
ยกเป็นข้ออ้างดักดาน ประกอบบาปกรรมทำมา
80.  หมาจิ้งจอกกับคนตัดไม้
ยังมีจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงคราวอับจนนักหนา
พรานไพรมันไล่กวดมา สุนัขล่าเนื้อติดตาม
มันวิ่งหนีสุดชีวิต เพียงคิดพบใครได้ถาม
ขอความช่วยเหลือสักยาม เพียงพ้นอยู่รอดชีวี
มินานพบคนตัดไม้ แวะไปช่วยเราบ้างถี
พรานไพรสุนัขมากมี กวดตามมานี้แน่นอน
วอนหาที่หลบภัยบ้าง บอกทางปลอดภัยได้สอน
พระคุณครานี้อาทร วันหน้าทดแทนเมตตา
ชายคนตัดไม้ชี้บอก นึกออกในบ้านฉันหนา
ข้างเตียงหลบดีเพื่อนยา นอกนั้นข้าจักจัดการ
สักครูพวกไล่มาถึง เขาจึงบอกได้ไขขาน
ไม่เคยพบเห็นมานาน จิ้งจอกที่ท่านติดตาม
แอบชี้มือไปในบ้าน นายพรานมิรู้มิถาม
ออกเดินผ่านไปในยาม สักครู่ก็หายลับไป
จิ้งจอกออกมาจักหลับ ลาลับมิยอมขานไข
มิยอมขอบคุณใดใด เจ้าบ้านสงสัยครามครัน
จึงถามจิ้งจอกเนรคุณ ทำบุญแล้วไม่สร้างสรรค์
ช่วยแกไม่รู้คุณกัน วันหน้าอย่าพบกันเลย
จิ้งจอกขำขันพลันตอบ ทำชอบพึงทำเปิดเผย
มิใช่ปากดีแกล้งเอ่ย จักช่วยให้รอดปลอดภัย
แต่มือชี้บอกศัตรู สัญญาณให้รู้ตรงไหน
ข้าซ่อนหวาดกลัวจับใจ ทำได้ลงคอหนอคน
เขาเรียกพวกมือถือสาก พวกปากถือศีลสับสน
อย่างนี้ยังมาอวดตน ทำคุณเอาบาปไม่กลัว
81.  หมาจิ้งจอกกับจระเข้
อตีตากาเล ยังมีจรเข้หนึ่งตัว
ชอบอวดเก่งนักไม่กลัว ศักดาสูงส่งเกินใคร
คนอื่นมิอยากเป็นเพื่อน เพราะคุยเลอะเลือนนั่นเอง
วันหนึ่งมันเจอจิ้งจอก จึงบอกคุยโขมงโฉงเฉง
พวกข้าสกุลนักเลง เขาเกรงกันทั่วตัวจริง
ผิวหนังเหนียวกัดมิเข้า เจ้าชู้เก่งเที่ยวเกี้ยวหญิง
ปู่ชาลวันเคยชิง สองสาวตะเภาแก้วตะเภาทอง
ไตรเทพเวทมนต์เชิงเชี่ยว เทียวไปไตรภพทั้งผอง
ต้นตระกูลคือเทพเรืองรอง นามก้องเทพไดใหญ่โต
จิ้งจอกยินแล้วหัวร่อ พอแล้วชักมีโมโห
เทพไดซอรัสฮิปโป พวกไดโนเสาร์ล่ะซี
ดูรูปหาหล่อยากนัก อัปลักษณ์น่าอายหน่ายหนี
ชอบแช่น้ำเน่าตลอดปี ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวจัญไร
แหมยังมีหน้ามาอวด ตะกวดหล่อกว่าไหนไหน
ห่างห่างฉันหน่อยรีบไป คลื่นใส้มันเหม็นขี้ฟัน
อันคนขี้โม้โอ้อวด เขาสวดว่ามิสร้างสรรค์
คุณค่ามิมีสักอัน ต่ำชั้นด้อยค่าน่าอาย
82.  หมาจิ้งจอกกับนกกระสา
เขาว่าพวกหมาจิ้งจอก กลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
มีเรื่องร่ำลือมากมาย จนกลายมาเป็นตำนาน
นี่ก็เรื่องของจิ้งจอก เขาบอกเล่าไว้ไขขาน
อีสปเชี่ยวเชิงนิทาน เคยอ่านเคยรู้เรื่องราว
เจ้าหนุ่มจิ้งจอกในดง หลงเคี้ยวกินปลาหน้าหนาว
ก้างปลาติดคอชิ้นยาว ยากคราวสำรอกออกมา
มันติดมิยอมหลุดออก ไปบอกเพื่อนเพื่อนเสาะหา
ให้ช่วยจัดการก้างปลา ต่างหมดปัญญาช่วยมัน
จนคออักเสบปวดร้าว เคยห้าวเหี้ยมหาญน่าขัน
เจ็บป่วยครวญครางทุกวัน สำคัญนกฮูกตาโต
ได้ยินเสียงครางสงสาร ไปวานหมอซิพิโถ
ชื่อนกกระสาพาโล เอ็งโง่ทำไมมิไป
จิ้งจอกฟังคำจำจด ทนอดเจ็บปวดไฉน
คลินิกกระสามิไกล มันได้พบหมอมินาน
หมอนกกระสาตรวจสอบ ระบอบระเบียนไขขาน
ให้อ้าปากดูรู้การ ชำนาญดึงก้างออกมา
ปากยาวประโยชน์ดีมาก ลำบากแค่ลองแลหา
เห็นก้างประจักษ์แก่ตา มิช้าดึงออกได้พลัน
เจียดยาแก้ปวดให้ด้วย ค่าช่วยรักษาพร้อมสรรพ์
คิดเพียงสองร้อยช่วยกัน สำคัญจิ้งจอกเปลี่ยนใจ
มันบอกสองร้อยน้อยนิด คิดเทียบคุณข้าอสงไขย
ยามเจ้ายื่นปากเข้าไป ข้ายอมอดให้เมตตา
ไม่กินเจ้าเป็นจานเด็ด เหมือนเป็ดเหมือนไก่นั่นหนา
บุญคุณที่ไว้ชีวา มากกว่าสองร้อยแน่นอน
ยังจะมาถามให้จ่าย อยากตายหรือไรใครสอน
เพราะข้าเมตตาอาวรณ์ หาไม่ม้วยมรณ์แน่จริง
อันคนนิสัยพวกพาล สันดานรังแกชายหญิง
เอาเปรียบข่มเหงยากติง จักแก้จักสอนยากเย็น
หารู้คุณใครโดยง่าย เสียดายที่รู้ที่เห็น
กลับตัวยากยิ่งจักเป็น ดังเช่นจิ้งจอกน่าอาย
83.  หมาจิ้งจอกกับแพะ
เรื่องราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ สนเท่ห์ใจนักเหลือหลาย
เขาให้สวมบทผู้ร้าย มากมายตำนานดำเนิน
วันหนึ่งวิ่งไล่จับสัตว์ ลัดเลาะดักเลียบเขาเขิน
กะรอกกะแตมัวเพลิน บังเอิญจับได้ยินดี
อิ่มท้องภูมิใจตนฉลาด สามารถจับสัตว์ศักดิ์ศรี
เพราะด้วยปัญญามากมี ยากหนีพ้นมือแห่งเรา
กระหยิ่มยิ้มย่องพองขน วิ่งวนแวะเวียนเนินเขา
มินานตกบ่องี่เง่า ที่แท้ยังเยาว์ปัญญา
ขอบบ่อก็สูงเกินนัก ยากจักปีนพ้นเสาะหา
วิธีหลุดพ้นนานา หมดท่าจิ้งจอกถอดใจ
จำเกาะข้างบ่อนิ่งนิ่ง ประวิงกำลังสงสัย
คงมีทางรอดปลอดภัย ไม่นานแพะโง่โผล่มา
เห็นบ่อหิวน้ำเหลือหลาย มันหมายดื่มกินแลหา
แลเห็นจิ้งจอกจมชลา สงกาสอบถามเรื่องราว
น้ำลึกหรือตื้นตรงกลาง บอกบ้างใยหน้าซีดขาว
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์แพรวพราว เลยลวงแพะโง่จงดู
รสน้ำฉ่ำเย็นสดชื่น ข้ายืนเฝ้านานเหิงสู
หวานหอมหากแกอยากรู้ รออยู่กระโดดลงมา
เจ้าแพะโง่เง่ากระหาย ลืมตายยินดีนักหนา
กระโดดลงบ่อมิช้า เสียท่าจิ้งจอกมันไป
จิ้งจอกกระโดดขี่หลัง ขึ้นฝั่งรวดเร็วไฉน
แพะโง่ประสบเภทภัย เพราะไร้สติไต่ตรอง
ยามพบสบกิจน้อยใหญ่ ควรใคร่ก่อนตอบสนอง
รอบคอบดีตามครรลอง หาไม่จักต้องวุ่นวาย
84.  หมาจิ้งจอกกับเม่น
หมาจิ้งจอกหิวน้ำเห็นธาร ลนลานดีใจเหลือหลาย
มิดูน้ำไหลมากมาย ลืมตายกระโจนลงไป
ดื่มกินอิ่มแล้วผวา น้ำมันพัดพาแรงไฉน
ติดอยู่ซอกหินดิ้นใหญ่ ยังไม่หลุดรอดออกมา
ต้องรอน้ำลดอีกนาน บันดาลเจ็บปวดนักหนา
แง่หินขูดขีดกายา เลือดซึมทั่วน่าเจ็บใจ
ฝูงเหลือบซ้ำเติมดูดเลือด นึกเดือดยากดิ้นไฉน
จำปล่อยพวกมันดูดไป ทนไว้นิ่งอยู่คอยรอ
เจ้าเม่นผ่านมาท่าน้ำ นึกขำแลเห็นโอหนอ
จิ้งจอกทุกข์ทนมากพอ อยากขอช่วยไล่เหลือบมัน
จิ้งจอกขอบคุณไม่ต้อง หากลองคิดดูพร้อมสรรพ์
ดูดเลือดอิ่มถ้วนหน้ากัน พลันเกาะนิ่งอยู่นั่นแล
หากไล่มันไปแล้วไซร้ ฝูงใหม่มาตามกระแส
ดูดเลือดอีกครั้งคงแด ตายแน่น้องเอ๋ยปล่อยวาง
อันความทุกข์ยากใดใด ควรใคร่ตริตรองสะสาง
อาจต้องรับทุกข์น้อยพลาง ละข้างทุกข์หนักปล่อยไป
ความฉลาดผ่อนหนักเป็นเบา เป็นเชาวน์ควรมีดีไฉน
จักช่วยผ่านพ้นผองภัย สอนใจดีหลากมากมาย
85.  หมาจิ้งจอกกับราชสีห์
ยังมีสุนัขจิ้งจอก กลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ฟังว่ามันอยากมีนาย หมายว่าเป็นเจ้าสิงโต
มันเข้าไปหาราชสีห์ พาทีอย่าเพิ่งโมโห
ข้าขอรับใช้คงโก้ ใช่พาลพาโลจริงใจ
ท่านเดินป่าเขาจักช่วย เดินด้วยมีกิจไหนไหน
ยินดีอาสารับใช้ แล่นไล่ล่าสัตว์ยินดี
ตกลงสิงโตรับไว้ คนใช้จิ้งจอกสามสี
ถึงวันผ่านเข้าพงพี มันวิ่งเร็วรี่ติดตาม
สักครู่ได้กลิ่นสาบเนื้อ ไม่เบื่อมิเคยเข็ดขาม
พุ่มไม้ข้างหน้าคุกคาม ยามเห่าเนื้อวิ่งออกมา
ราชสีห์จับได้อิ่มท้อง มองดูขอบใจเจ้าหนา
จมูกดีช่วยตามไล่ล่า กวางป่ายากรอดเงื้อมมือ
จิ้งจอกภูมิใจนายชม นิยมคำยอนับถือ
คราวหลังข้าขอไว้ชื่อ ให้ลือไล่จับเนื้อเอง
วันหนึ่งได้พบกวางใหญ่ จิ้งจอกออกไล่ข่มเหง
กระโดดขี่หลังไม่เกรง มันเร่งจักกัดกวางไพร
กวางพาวิ่งหนีสุดฤทธิ์ มาติดหน้าผาสงสัย
วิ่งอ้อมผ่านหน้าพรานใหญ่ จึงได้ถูกปืนนายพราน
ล้มตายทั้งกวางทั้งหมา เขาว่าเรื่องราวกล่าวขาน
ทะนงตัวเกินไปไม่นาน จักพานประสบพบภัย
วางตัวพอดีมีสมถะ รู้จักจังหวะแบบไหน
ควรทำควรละกิจใด รู้ไว้เป็นมงคลนา
86.  หมาจิ้งจอกกับหน้ากาก
นิทานจิ้งจอกกลอกกลิ้ง มากจริงจนนึกกังขา
มันเลวเขาจึงนินทา มิมีดีบ้างหรือไร
เรื่องนี้เล่าว่ามันฉลาด สามารถเชี่ยวชาญขานไข
คราวหนึ่งมันแอบเข้าไป หากินที่บ้านดารา
เคยได้ขนมนมเนย เลยรุกอีกทีลองหา
ของกินคงมีปูปลา เจ้าของไม่อยู่สดวกดี
ได้ของกินอิ่มเดินดู อยากรู้ทางหลบหลีกหนี
ห้องหับเขาจัดมากมี มาถึงที่ห้องแต่งตัว
แลเห็นหน้าคนงามสง่า แปลกตามีแต่ส่วนหัว
มันจ้องมองดูน่ากลัว ตกใจกระโจนออกมา
ลองนึกอีกทีสงสัย ทำไมเงียบเสียงเจียวหนา
ถ้าคนคงร้องออกมา บ่นด่าไล่กวดไล่ตี
เลยย่องกลับไปดูใหม่ ได้รู้หน้ากากหลากสี
ข้างในกลวงกลวงแปลกดี ไม่มีอะไรน่ากลัว
อันภาพที่ตามองเห็น บางทีเป็นเรื่องชวนหัว
ดูงามสง่าถ้วนทั่ว แท้จริงแค่ภาพลวงตา
บางคนท่วงทีดังปราชญ์ คงฉลาดคนอยากคบหา
ตัวจริงกลับด้อยปัญญา มันน่าหัวร่อมากมาย
87.  หมาจิ้งจอกหมาป่าและม้า
โบราณเขาว่าจิ้งจอก กลับกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ตัวเล็กกลโกงมากมาย คุณยายท่านเล่านิทาน
ลูกหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงเล็กแต่มันอาจหาญ
กล้าพูดกล้าทำชำนาญ ฉลาดทันการทันกล
มีเพื่อนเป็นลูกหมาป่า ปัญญาค่อนข้างสับสน
คิดช้าไม่ค่อยทันคน อวดตนว่าเป็นผู้ดี
วันหนึ่งจิ้งจอกเดินเล่น เห็นม้าชาวบ้านวิ่งหนี
ผ่านมาใกล้มันรอรี ท่วงทีสง่าเหลือเกิน
มันกลับเจอเพื่อนหมาป่า บอกข้าเดินเล่นตรงเนิน
พบตัวแปลกตามันเดิน เล็มหญ้ากินเพลินข้าดู
รูปหล่อคล้ายข้าแต่ตัวใหญ่ คืออะไรข้าอายอดสู
นึกมิออกยากบอกให้รู้ มันอยู่ตรงโน้นน่ะนาย
หมาป่ายืดอกไม่ยาก ลำบากข้าไปเดี๋ยวหาย
ข้ารู้ปัญญามากมาย เพื่อนชายมาไปดูกัน
สักครู่ก็มาเห็นม้า จิ้งจอกวางท่าขบขัน
ร้องถามตัวใหญ่สำคัญ เอ็งมันตัวอะไรบอกที
ม้ามองลูกหมาทั้งคู่ ย่อมรู้ไม่ประสาประสี
แกล้งบอกที่เกือกข้ามี ชื่อที่ช่างสลักชัดเจน
จิ้จอกมองหน้าเพื่อนรัก รู้จักฉันใดไม่เห็น
หนังสืออ่านได้ยากเย็น เป็นคนไม่ได้ร่ำเรียน
หมาป่าภูมิใจไว้ข้า ผ่านมาปอหกขีดเขียน
อ่านได้ไม่ยากพากเพียร แกเซียนสอบตกประจำ
หมาป่าเดินดูใกล้ใกล้ จักอ่านให้ชัดชักขำ
เลยโดนม้าถีบเคราะห์กรรม เพราะทำเป็นเก่งวิชชา
ความรู้ร่ำเรียนทุกคน แต่กลการใช้ให้หา
ฉลาดคิดฉลาดกลปัญญา พึ่งพาเชาวน์ชาญเฉพาะตน
คนโง่ก็เรียนรู้ได้ ยามใช้ยุ่งยากสับสน
ใช้ผิดยุ่งยากวนวน เล่ห์กลฝึกไว้เชิงชาย
88.  หมาจิ้งจอกหางด้วน
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย
เคยเที่ยวลักไก่มากมาย ผู้คนเบื่อหน่ายระวัง
เขาวางกับดักเอาไว้ มีไก่ชาวบ้านจับขัง
ในเล้ารอบข้างยายยัง กับตั้งเรียงรายหลายอัน
ที่สุดก็พลาดจนได้ กลไกกับดักผลักผัน
งับหางจิ้งจอกขาดพลัน มันดิ้นหลุดรอดออกไป
แผลหายหลายวันเจ็บนัก หางเคยน่ารักพิสมัย
กลายเป็นหางกุดเสียใจ ไฉนจึงช่างมาเป็น
พอดีนึกออกอุบาย สุนัขทั้งหลายมาเห็น
หางด้วนน่าอายลำเค็ญ เว้นแต่หางด้วนทุกตน
จำต้องเรียกประชุมใหญ่ ฟังไว้โปรดอย่าสับสน
ข้ามีเรื่องราวชอบกล ช่วยให้หลุดพ้นทุกข์ใจ
หาวยาวพ่วงพีดีดอก แต่พอตัดออกดีไฉน
คล่องตัวเดินเหินว่องไว เสีอไล่ก็ยากจักทัน
เพราะรักเอ็นดูพวกเรา สูเจ้ามาตัดพร้อมสรรพ์
หางกุดคุณค่าสาระพัน ฉันแจ้งประจักษ์ชัดเจน
เซ็งแซ่หลายตัวสนับสนุน ขอบคุณหัวหน้าข้าเห็น
อยากตัดข้าอยากจักเป็น เช่นท่านหางกุดคงงาม
หมาใหญ่ตัวหนึ่งได้ยิน ผินหน้าสงสัยไถ่ถาม
เห็นชอบวิ่งเร็วทุกยาม เชื่อตามที่ท่านบอกมา
แต่ที่เคยทราบก่อนนี้ ตอนที่ยืนเดินยากหนา
ทำให้พวกเราเดินช้า แถมยังขาเป๋สิ้นดี
ไม่จริงจักเดินให้ดู เสียรู้เสียศักดิ์เสียศรี
เขาเห็นหางด้วนทันที หมาใหญ่จึงชี้เรื่องราว
ที่แท้เอ็งโดนตัดหาง มาอ้างดำว่าเป็นขาว
หมาหมาส่งเสียงเกรียวกราว เป็นเรื่องฉาวโฉ่น่าอาย
อันคนปกติทำชั่ว กลัวคนอื่นทราบเสียหาย
อ้างชั่วเป็นดีกลับกลาย เรื่องร้ายว่างามหลอกลวง
หากคนเขารู้เท่าทัน อาจเสียเพื่อนรักเพื่อนหวง
ยามเขารู้กันทั้งปวง ทักท้วงได้ขายหน้าตา
89.  หมาดุ
ชาวบ้านเลี้ยงสัตว์ ตัวหนึ่ง ดื้อดึงดุร้ายเป็นหมา
ชอบแอบกัดคนนานา เจ้าขอระอาเหลือเกิน
จึงหากระพรวนผูกคอ ดังเสียงเกราะลอเพราะพลิน
ไว้บอกเวลามันเดิน บังเอิญให้คนได้ยิน
จักได้เตรียมตัวต่อสู้ ย่อมรู้วิธีตัดสิน
มีไม้สักท่อนก้อนดิน ปาบินใส่หัวมันไป
เจ้าหมายินดีเหลือหลาก หายากเครื่องประดับสดใส
สุดยอดงามสง่าวิไล เที่ยวได้อวดเขาชื่นชม
คุณหมาสาวสาวเชื่อสนิท อยากชิดพาทีดีสม
พี่ท่านสง่างามนิยม พรหมท่านส่งพี่ลงมา
สุนัขหนุ่มหนุ่มกลุ้มจิต เห็นสาวใกล้ชิดอิจฉา
ทำไมนายของพวกข้า ไม่มาให้ผูกสักอัน
ความทราบถึงหมาผู้ใหญ่ รู้นัยเรื่องที่หมาฝัน
จึงบอกกล่าวเรื่องสำคัญ ต่างกันกับเธอรู้มา
เขาผูกระพรวนที่คอ เทียวจ้อยินดีนักหนา
ทำไมลองใช้ปัญญา เพราะหมาตัวนั้นดุเกิน
เขาติดสัญญาณเตือนจิต เพียงคิดข้ายังนึกเขิน
ยามมันจักวิ่งจักเดิน บังเอิญกระพรวนดังไกล
ผู้คนเขาจักรู้ตัว มิกลัวเตรียมการไหนไหน
ก้อนดินอิฐหินเตรียมไว้ หมาไล่ต้องโดนเจ็บตัว
อันคนประพฤติไม่ดี เขามีเครื่องหมายน่าหัว
ตั้งชื่อนักเลงน่ากลัว ยังมัวโอ้อวดทำไม
90.  หมาป่ากับแกะโง่
กาละครั้งหนึ่งนานแล้ว ยายแก้วเล่านิทานขานไข
อีสปหลายเรื่องชอบใจ จำไว้หมาป่าแสนกล
นับแต่เจ้าของฝูงแกะ หมั่นแวะมาเฝ้าทุกหน
จับแกะยากเย็นกลัวคน ลำบากลำบนจริงจริง
มีหมาเลี้ยงแกะมาช่วย สุดซวยเหลือเกินน้องหญิง
หมาป่าคุยกันติติง บ้างนิ่งนึกหาอุบาย
จ่าฝูงนึกออกบอกได้ จักให้เป็นทูตโฉมฉาย
เธอสาวเธอสวยแพรวพราย พูดจาน่าเชื่อศรัทธา
สุนัขสาวสวยรับคำ จดจำอุบายไปหา
พบพานฝูงแกะเจรจา ตัวข้าเป็นทูตไมตรี
พวกหมาในป่าส่งสาร ถึงท่านแกะศักดิ์ทรงศรี
เมื่อก่อนพวกเราไม่ดี ราวีพวกท่านระราน
ไมตรีสองฝ่ายห่างเหิน ยากเกินที่จักประสาน
พวกเราสำนึกบาปพาล หวังท่านโปรดได้อภัย
สองฝ่ายเป็นมิตรชิดเรือน เป็นเหมือนญาติกันขานไข
สะดวกจักมาจักไป มิต้องกลัวภัยระราน
มิต้องให้หมามันคุม น่ากลุ้มมันเห่ามันหาญ
ขู่กัดท่านแกะรำคาญ ควรไล่จากบ้านพวกเรา
อยากเดินเที่ยวดงบ้านข้า มีหมาพวกฉันไม่เหงา
สนุกเที่ยวชมไพรไม่เบา เชิญท่านเข้าป่าตามสบาย
แกะเขลาหลงเชื่อคำหวาน เลยพาลพวกหมาไม่หาย
ต้อนหน้าต้อนหลังวุ่นวาย หลายตัวหลบลี้หลีกไป
พบพวกหมาป่าพาเที่ยว สนุกเชียวมินึกสงสัย
ตกเย็นมาส่งเข้าใจ เชื่อได้เขามีไมตรี
ฝูงแกะหลงชื่อมากเข้า หูเบาชวนกันแอบหนี
หลายตัวหลงป่าพงพี มีบ้างหมาป่าจับไป
อันคนขาดเขลาปัญญา ถูกล่าถูกหลอกมิสงสัย
เชื่อง่ายเชื่อเร็วเชื่อใจ ประสบพบภัยง่ายดาย
91.  หมาป่ากับลูกแกะ
ส่ำสัตว์ในป่าใหญ่ อาศัยลำธารกระหาย
เร่าร้อนลอยธารคลาคลาย ดื่มกินน้ำเย็นสบายดี
ลูกแกะลอยเล่นทวนน้ำ สำราญลืมภัยลืมหนี
เหนือน้ำหมาป่าคอยที ตะโกนด่าแกะบ้าจริง
ชาติชั่วลุยน้ำลุยโคลน กระโจนเล่นยังกับหญิง
น้ำขุ่นเมือไรจักนิ่ง กำลังกระหายอยู่เลย
แกะน้อยร้องตอบนายท่าน วานดูมั่งอย่าทำเฉย
ต้นน้ำที่ท่านนั่งเคย ไหลมาที่ข้านี่นา
แล้วมันจักขุ่นอย่างไร หมาป่าว่าจริงของแก
ปีกลายข้ายังจำได้ ใช่เอ็งลอยกวนกระแส
น้ำขุ่นข้าหิวย่ำแย่ ดื่มน้ำไม่ได้เพราะเธอ
แกะน้อยหัวร่องอหงาย ปีกลายที่อ้างน่ะเหรอ
ข้ายังมิเกิดนะเออ จะทำน้ำขุ่นอย่างไร
หมาป่าบอกอย่าพูดมาก ถ้าหากเอ็งยังสงสัย
ชาติก่อนจริงแท้ประไร เอ็งกวนน้ำขุ่นแน่นอน
ว่าแล้วจับแกะกัดกิน ดับดิ้นในอุ้งมือมาร
วิสัยพาโลมีเหตุ หาเลศทำชั่วบอกขาน
มากมายข้ออ้างทำการ สันดานแก้ยากจริงมัน
92.  หมาไล่เนื้ออายุมาก
เจ้าดำเป็นหมาล่าเนื้อ เมื่อหนุ่มกำยำล่ำสัน
นายพรานให้ความสำคัญ เห็นมันเป็นหมาเทวดา
วันไหนจักไปไล่เนื้อ ดีเหลือเจ้าดำเรียกหา
ดำเอ๋ยลูกพ่อตามมา เดินป่าล่าเนื้อด้วยกัน
ทุกคราวมิเคยผิดหวัง พลังเจ้าดำดังฝัน
ไล่เนื้อด้วยดีตามทัน เสร็จมันทุกทีร่ำไป
นายพรานรักมากดังลูก พันผูกมิเคยสงสัย
ผ่านมาล่วงเลยแก่วัย เจ้าดำไม่หนุ่มดังเดิม
หูตาฝ้าฟางไม่ชัด ติดขัดกำลังไม่เสริม
เขี้ยวก็โยกคลอนยากเติม มันเริ่มแก่เฒ่าตามกาล
วันหนึ่งเดินป่าล่าหมู นายชี้ให้ดูไขขาน
ลูกพ่อไล่กัดอย่านาน นายพรานสั่งให้ติดตาม
เจ้าดำไล่ทันไม่ช้า หมูป่าหันสู้น่าขาม
สู้ตายขบกัดเต็มกราม ถึงหามเจ้าหมีเจ็บใจ
นายพรานมาถึงมิช้า ร้องด่าเจ้าหมีเหตุไหน
ปล่อยหมูหลุดออกหนีไป เงื้อไม้จักฟาดให้ตาย
เจ้าดำช้ำใจยิ่งนัก ยากจักให้รู้ความหมาย
บัดนี้ตัวมันกลับกลาย แก่เฒ่าวุ่นวายในใจ
ถึงตีจนตายก็ยาก ลำบากหมดแรงสงสัย
ความดีที่เคยทำไว้ ทำไมหมดค่าหนอนาย
อันคนเป็นผู้นำเขา พึงเอาใจใส่มุ่งหมาย
ยามดีใช้งานวุ่นวาย ยามร้ายอาฆาตตัดรอน
ความดีมีคุณค่ามาก หากรู้จักใช้ได้สอน
ให้เขาคำนึงบทตอน เป็นพรส่งเสริมมากมาย
93.  หมาอยู่ในรางหญ้า
เจ้าด่างหมาหนุ่มพ่วงพี หน้าตาดูดีเหลือหลาย
นิสัยค่อนข้างใจร้าย มักง่ายคนเขานินทา
วันหนึ่งมันไปคอกงัว เดินทั่วแวะเวียนแลหา
อาจได้ของกินนานา รางหญ้ามันมีสิ่งใด
แปลกดีมีหญ้านุ่มนัก จักลองนอนดูดีไหม
มิช้าล้มนอนเร็วไว หลับใหลสบายตัวสบายกาย
เจ้าวัวเดินมาที่คอก กลอกตาแลดูที่หมาย
รางหญ้าจักกินให้สบาย วุ่นวายหมาหลับในราง
จึงปลุกเจ้าหมารีบตื่น ข้ายืนรอนานอย่าขวาง
ลุกแล้วออกไปเจ้าด่าง แกช่างไม่รู้ที่นอน
เจ้าด่างไล่งับไม่ยอม มันพร้อมต่อสู้เห่าหอน
วัวแสนรำคาญกล่าววอน สั่งสอนไอ้ด่างหน้าลาย
เอ็งมันลูกหมาหวงก้าง กีดขวางตัวข้าเสียหาย
เอ็งไม่กินหญ้าวุ่นวาย ทำคล้ายหวงแหนนักแล
เหมือนคนที่เห็นแก่ตัว มัวหวงทำไม่แยแส
จนเสียประโยชน์มากแท้ แน่นอนสมควรด่าตี
94.  หมูป่ากับลาโง่
ลาหนุ่มจอมซุกซน เห็นผู้คนมิหลีกหนี
ทำเก่งมันอยากอวดดี เป็นผู้กล้ามิกลัวใคร
อยู่ป่าก็คึกคะนอง ชอบลองเล่นเป็นวิสัย
ลืมตัวลืมกลัวเภทภัย พบสัตว์ร้ายมิเกรงกลัว
วันหนึ่งมันพบหมู่ป่า มันทำหน้าอยากเล่นหัว
เข้าใกล้ทักทายคุยมั่ว ไฮ้นี่ตัวสบายดี
หมูป่ายินยังงุนงง มันหลงลืมหรือไรนี่
เพื่อนลาเรามิเคยมี จึงหลบลี้เลี่ยงเลยไป
ลาโง่มิยอมปละปล่อย คอยดักหน้าจักไปไหน
เพื่อนหมูรีบร้อนนักใย คุยกันก่อนนะเพื่อนยา
วันวานเพื่อนได้ไปเที่ยว ในไพรเขียวถิ่นใดหนา
สนุกไหมลองบอกมา ข้าอยากรู้หมูบอกที
หมูป่ามันนึกรำคาญ ไม่ขานเดินหลบหลีกหนี
ลาโง่มันมิรอรี ตามเซ้าซี้น่ารำคาญ
ร้องบอกตูไม่มีเพื่อน แชเชือนทำอวดอาจหาญ
พูดจาทำวาทะการ ไร้สารสาระไม่มี
ลาโง่ยังมิยอมถอย คอยตามต่อมิหลีกหนี
หมู่ป่าวิ่งใส่เร็วรี่ จักขบกัดให้วางวาย
ฉุกใจหมูคงได้คิด ปลิดชีพลาโมโหหาย
สาระเลยไร้ลวดลาย ไร้คุณค่ามิควรการ
อดกลั้นหลบหลีกรีบหนี ยังดีกว่าเสาะสืบสาน
คบคนผู้เป็นพวกพาล เสียเวลาเสียการอย่าตาม
95.  หมูป่ากับหมาจิ้งจอก
หมูป่ากำยำล่ำสัน เขี้ยวมันยาวโง้งน่าขาม
มันชอบลับเขี้ยวคมกราม สัตว์ป่าเห็นแล้วเกรงกลัว
วันหนึ่งมันแทงเปลือกไม้ หวังได้ลับเขี้ยวส่วนหัว
ทำเป็นประจำฝึกตัว มิได้ประมาทขลาดใคร
หมาป่าผ่านมามองเห็น ลองเล่นพี่หมูจริงไหม
เห็นทำทุกวันแปลกใจ ใยเสียเวลาลับคม
ในป่าแห่งนี้ใครเล่า เขาจักเทียบพี่เหมาะสม
ว่องไวไปมาปานลม กล้าแกร่งเทียมท่านมิมี
พรานไพรก็มิเคยผ่าน ใครจักหาญเทียบรัศมี
สบายใจได้เลยคุณพี่ มิต้องลับเขี้ยวเสียเวลา
แบบฉันสบายมากลองดู หมูร้องอู๊ดอู๊ดอ้ายหมา
แบบเอ็งคนประมาทนี่นา ระวังจักพลาดเสียที
หมูอย่างเราใช่เขลาขลาด มิประมาทลับเขี้ยวทุกวิถี
ยามเกิดเภทภัยราวี พร้อมเข้าต่อตีทุกเวลา
อปมาโทอมตังปะทัง พึงยังไม่ประมาทนั่นหนา
ให้เกิดมีพร้อมถ้วนหน้า เพราะเป็นไม่ตายมรรคา
96.    ห่านออกไข่เป็นทอง
ชาวบ้านเลี้ยงห่านไว้หนึ่งคู่ ดูแลด้วยดีเสมอมา
วันหนึ่งห่านตกไข่มา แปลกตาเป็นทองเนื้อดี
ลองนำไปขายร้านค้า เขาให้เงินมาตามวิถี
ราคาทองคำอย่างนี้ คงเป็นเศรษฐีมิยากเย็น
ขายไข่ทองคำมานาน เบิกบานร่ำรวยได้เห็น
เมื่อก่อนชาวนาลำเค็ญ มาเป็นพ่อเลี้ยงหน้าบาน
วันหนึ่งปรีกษายายเฒ่า สองเราหารือไขขาน
หากผ่าเอาทองท้องห่าน คงได้ไข่ทองมากมาย
มิต้องรอทีละฟอง นวลน้องว่าไงโฉมฉาย
ยินดีเห็นด้วยคุณยาย ต่างฝ่ายก็โลภพอกัน
จับห่านมาเชือดทั้งคู่ แหวะดูหาไข่น่าขัน
มีแต่ตับไตใส้มัน แถมขี้ห่านนั้นเหม็นจริง
ไม่มีไข่ทองให้ขาย วุ่นวายโลภมากชายหญิง
มักชวดจากลาภขอติง ควรรู้พอเพียงยลยิน
97.  โหรคนหนึ่ง
คราหนึ่งเล่าเรื่องโหรา ปรีชาเชิงเชี่ยวชาญศิลป์
ศาสตร์เรื่องดางดาวยลยิน รอบรู้ตำแหน่งโคจร
กลางวันอ่านพระคัมภีร์ ราตรีดวงดาวสลอน
ติดตามตำแหน่งทุกตอน โหรารอบรู้จริงเจียว
คืนหนึ่งฟ้าโล่งปลอดเมฆ โหรเอกเกิดเรื่องหวาดเสียว
เดินพลัดตกบ่อนั่นเชียว ปีนขึ้นมิได้เวรกรรม
รุ่งเช้าชาวบ้านมาเห็น ลากเข็นขึ้นมาน่าขำ
เขาว่าท่านโหรด้วยซ้ำ ดีแต่มองหาดวงดาว
รู้หมดทุกดวงบนฟ้า ปัญญาไม่เคยสืบสาว
ถนนหนทางมิยาว ทำไมไม่รู้บ่อมี
ทางเดินดวงดาวรู้หมด จำจดได้ทุกวิถี
แต่ทางตัวเองจรลี กลับหลงมิเคยจดจำ
อันคนหลงใหลมัวเมา เขาเก่งเรื่องนั้นน่าขำ
เรื่องอื่นมักเขลาหนอกรรม เหมือนดังโหราแกเป็น
98.  อีกากับหอยกาบ
อีกาตาดำตัวหนึ่ง บินผ่านบึงใหญ่ได้เห็น
หอยกาบตัวใหญ่ลุยเย็น เดินขึ้นริมฝั่งสนใจ
บินมาค่อนวันโหยหิว ท้องกิ่วเหนื่อยยิ่งไฉน
มันโฉบลงมาทันใด หอยกาบหุบเปลือกซ่อนตัว
กาจิกกาบหอยเนิ่นนาน มันพาลมิแตกน่าหัว
ทำไมมันแข็งน่ากลัว มิได้กินแน่หนอกู
ทันใดกาแก่ตัวหนึ่ง มาถึงก็พูดกรอกหู
ลองเปลี่ยนวิธีใหม่ดู จักรู้มันแสนง่ายดาย
คาบหอยบินบนเวหา ปล่อยทิ้งลงมาเปลือกหาย
รับรองเปลือกแตกกระจาย โดนหินตรงโน้นแน่นอน
มันรีบทำตามเขาแนะ แกะหอยตามที่กาสอน
คาบหอยบินไปทางดอน ลานหินเบื้องล่างปลอยลง
บินวนกลับมาหาหอย เห็นเพียงร่องรอยพิศวง
เศษเปลือกกระจายนึกงง เนื้อหอยมิเห็นหายไป
โน่นแน่ะกาเฒ่าตัวเก่ง มันเร่งกินหอยสงสัย
หมดแล้วอ้ายหนูขอบใจ ร้องบอกโบยบินลับตา
อันคนชอบแนะระวัง บางครั้งมุ่งหวังสืบหา
อยากไห้ตอบแทนนานา ปัญญาแก้ข้อคลุมเคลือ
99.  อึ่งอ่างกับวัว
ท้องนาน้ำแห้งขอดนัก มีปลักหลุมพอหลงเหลือ
น้ำขังนิดหน่อยจุนเจือ สัตว์น้ำอาศัยไม่ตาย
อึ่งอ่างกับลูกหลายร้อย ลอยคอในแอ่งกระหาย
แม่อึ่งกระวนกระวาย ออกหาสายธารในนา
หากแอ่งเดิมน้ำขอดแห้ง ฝนแล้งต่อไปผวา
ต้องย้ายเสาะแหล่งชลธา จากมาแต่เช้าจนเย็น
กล่าวถึงแม่วัวเขาเก โซเซกินหญ้ามาเห็น
แอ่งน้ำเล็กเล็กช่างเป็น หญ้างอกเร้นอยู่มากมาย
แม่วัวเล็มหญ้าไปทั่ว มันมั่วย่ำอยู่จนสาย
ลูกอึ่งถูกย่ำจนตาย สุดท้ายเหลือเพียงหนึ่งตัว
แม่อึ่งกลับมายามเย็น มาเห็นยามมืดสลัว
เศร้าสร้อยเสียงสั่นระรัว น่ากลัวมันเรื่องอันใด
ลูกน้อยบอกว่าอึ่งโอ่ง ตัวโย่งสูงยิ่งไฉน
เหยียบย่ำพี่น้องตายไป เหลือไว้เพียงข้าตัวเดียว
แม่อึ่งชักไม่ชอบจิต มันคิดใหญ่แค่ไหนเชียว
ลองเบ่งพองตัวสักเที่ยว หน้าตาบูดเบี้ยวพองลม
ถามลูกคงใหญ่เท่านี้ ลูกชี้ยังไม่เหมาะสม
หกเที่ยวแม่เบ่งให้ชม อกตรมยังไม่พอดี
สุดท้ายเบ่งสุดแรงเกิด ระเบิดอกตายคาที่
ตับไตใส้พุงมากมี กระเด็นยากชี้ส่วนใด
อันความพอดีพอควร ชวนคิดศึกษาไฉน
อย่าทำเกินตัวเกินไป อาจจักมีภัยปั้งปวง
100.  แอนโดรคลีสกับสิงโต
เอนโรลิสเป็นทาส ทำงานราชที่วังหลวง
แต่เช้ายันค่ำงานทั้งปวง ต้องเสร็จตามสั่งทุกงาน
ยามค่ำต้องขังกันหนี แบบนี้นับนานหลายสิบปี
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอนาคต มืดหมดเสียสิ้นศักดิ์ศรี
มิต่างจากสัตว์คงมี สักวันจักหนีออกไป
ครั้นแล้วโอกาสมาถึง มันจึงหลบหนีเร็วไฉน
ปีนออกนอกกำแพงได้ วิ่งวิ่งเข้าไพรพนา
หลายวันคงไกลอักโข เอนโดรลิสจึงเดินเสาะหา
ที่พักเป็นถ้ำกลางป่า สายตาเหลือบเห็นสิงโต
หนีเสือปะสิงห์หรือนี่ ภัยมีอีกน่าโมโห
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพิโธ่ วิ่งหนีทันใดกลัวตาย
แลหลังเห็นมันนิ่งอยู่ อยากรู้ทำไมใจหาย
แอบย่องกลับมามิวาย กล้ากล้ากลัวกลัวเพ่งมอง
เห็นมันนอนนิ่งเหยี่ยดขา ท่าทางคงปวดมีหนอง
มันครางเบาเบาเสียงร้อง คงต้องช่วยมันสักครา
เดินไปลูบขาขอดู ได้รู้มีหนามปักหนา
บ่งหนามดึงออกคลายคลา คัดหนองออกแล้วปวดคลาย
ราชสีห์ขอบคุณที่ช่วย ด้วยใจซาบซึ้งเหลือหลาย
เลียมือเลียเท้าเจ้านาย ข้าคงรอดตายแน่นอน
ชวนนายไปอยู่ที่ถ้ำ คืนค่ำมิได้ทอดถอน
ข้าวปลาอาหารอาวรณ์ ราชสีห์มีให้มากมวล
ต่อมาถูกจับทั้งคู่ แต่อยู่ต่างกันผันผวน
สัตว์ใส่กรงขังก็ควร แต่คนล่ามโซ่หนีคดี
พิพากษาลงโทษให้ตาย หมายให้สิงโตคาบหนี
ไปเป็นอาหารเข้าที แบบนี้จึงควรโทษมัน
เขามัดเอนโดรลีสไว้ ปักไม้กลางลานแล้วขัน
ด้วยเชือดมันแน่นกลางวัน แล้วปล่อยราชสีห์ออกมา
มันกลับหมอบนิ่งดมดู คงรู้เจ้านายนี่หนา
มันกลับยินดีปรีดา เลียแข้งเลยขาเจ้านาย
พระราชาให้ไต่สวน กระบวนรู้ความไม่สาย
คนดีมิสมควรตาย ปล่อยให้พ้นทาสจากไป
ราชสีห์ปล่อยคืนสู่ป่า กลับมาที่เนินไศล
คนดีทำดีพลังใจ ยิ่งใหญ่ผู้คนเมตตา
เขียนโดย Sritong Sriprajong 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น