.................ช่วงที่ยังเป็นครูที่โรงเรียน (2516-2529)หัดผมเขียนกาพย์กลอน ได้ใช้นิทานต่าง ๆเป็นข้อมูล นิทานก้อมแบบเดอตี้โจ้ก ชอบมาก เขียนได้กว่า 30 เรื่อง นิทานอีสปก็เป็นอีกเรื่องที่นำมาใช้หัดเขียนและยังเก็บไว้อยู่ ส่วนพวกนิทานโจ้กลบทิ้งไปไม่กล้าเผยแพร่ อีสปเขียนแบบตามใจ แบบคนเล่านิทาน แรก ๆ ใช้กาพย์ยานี 11 แต่พอลองเขียนวรรคละหกคำอ่านเล่าเรื่องเพราะดี ก็เลยยึดวรรคละหกคำ แต่เค้าโครงยังเอาอย่างกาพย์ยานี อยู่ จะเรียกกลอนหกดีไหม ก็แล้วแต่จะเรียกครับ พยายามเขียนให้ได้ 100 เรื่อง จะได้ดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย วันนี้หยิบมาตรวจทานแก้ไขสะกดการันต์ และแผนผังบางบทที่บกพร่อง แล้วนำโพส เผยแพร่ครับ
....................................ขุนทอง ศรีประจง
.....................................6 เมษายน 2561
50. มดง่ามกับจักจั่น | |||
ยามเช้าหน้าฝนแจ่มใส | แดดได้ส่องแสงสดศรี | ||
ฝนตกวันวานยังมี | ร่องรอยน้ำฝนฉ่ำเย็น | ||
มดง่ามคึกคักขยัน | ชวนกันทำการลากเข็น | ||
ข้าวเปลือกลำบากยากเย็น | ขนไปทำเป็นโกดัง | ||
สะสมอาหารเก็บไว้ | ยามมีภัยแล้งภายหลัง | ||
อดอยากยากแค้นระวัง | มีคลังอาหารสบายใจ | ||
นับพันนับหมื่นชื่นจิต | ช่วยกิจทำการดีไฉน | ||
ร้องรำทำเพลงเดินไป | มินานเสร็จได้สมควร | ||
ยังมีจั๊กจั่นผอมโซ | โผเผผ่านมาน่าสรวล | ||
มาขอข้าวกินมดชวน | พาทีมากมวลเจรจา | ||
โอท่านจักจั่นผู้เจริญ | ยามเดินโซเซแลหา | ||
อยากกินข้าวน้ำปูปลา | หน้าร้อนข้าวน้ำบริบูรณ์ | ||
ตัวท่านไปทำอะไรอยู่ | มิรู้โอกาสสิ้นสูญ | ||
ควรเก็บอาหารจำรูญ | เพิ่มพูนเก็บไว้เสบียง | ||
จักจั่นตอบคำหน้าร้อน | เขาวอนให้ข้าส่งเสียง | ||
ร้องเพลงเพราะพริ้งเพราะเพียง | เทพพรหมสำเนียงเพราะเพลิน | ||
จนสิ้นหน้าร้อนยามฝน | ข้าวงอกจนสิ้นขัดเขิน | ||
จักเก็บก็ยากเหลือเกิน | จำเดินมาวอนเมตตา | ||
มดง่ามหัวร่อข้องจิต | ท่านคิดแต่เรื่องหรรษา | ||
ร่ำร้องไม่รู้เวลา | หาข้าวหาน้ำไว้กิน | ||
เมือหิวจักโทษใครเล่า | เพราะเจ้าสมควรติฉิน | ||
ละเลยการงานใครยิน | มักสิ้นเมตตาปราณี | ||
อันคนควรรู้จักกาล | ทำงานยามควรเสริมศรี | ||
เรี่ยวแรงมากควรทำดี | สะสมไว้มีพลัง | ||
หาทรัพย์ทำงานการกิจ | รู้คิดรู้หามนต์ขลัง | ||
ยามเจ็บยามแก่ระวัง | อาศัยใช้ตั้งเติมตน | ||
หากไม่สะสมสินทรัพย์ | จับจ่ายเกินตัวขัดสน | ||
ภายหน้าอาภัพอับจน | มืดมนเภทภัยรุกลาม | ||
51. กะรอกเจาะมะพร้าว | |||
ริมฝั่งลำธารแนวป่า | แปลกตาจนต้องไถ่ถาม | ||
ฝั้งหนึ่งแมกไม้ไผ่ลาม | มืดมุงสัตว์ป่ามากมาย | ||
อีกฝั่งดูปคล้ายสวน | มากมงลมะพร้าวหลากหลาย | ||
ลูกดกเห็นแล้วน้ำลาย | กะรอกอีกฝั่งอยากกิน | ||
ถาเราว่ายน้ำเป็นกัน | สวรรค์จักข้ามถึงถิ่น | ||
ได้ลองมะพร้าวมากมวล | หัวหน้าแย้มสรวลชอบใจ | ||
กะรอกว่ายน้ำลำบาก | ยุ่งยากลอยคอมิไหว | ||
คงเอาแต่ดูดูไป | มันยากลำบากพวกเรา | ||
อยู่มาวันหนึ่งมะพร้าว | ต้นยาวลูกดกดังเสา | ||
ค้อมลงทอดข้ามเอา | ค่อยค่อยต่ำลงทุกที | ||
มินานปลายใบระพื้น | ชื่นใจกระรอกครานี้ | ||
ปีนป่ายกิดกินสนุกที | หลายวันมะพร้าวแห้งลง | ||
กระรอกดูดน้ำกินหมด | น้ำหนักลดเบาพิศวง | ||
มันค่อยเงยยอดขึ้นตรง | กระรอกติดบนต้นมัน | ||
จักข้ามคืนไปไฉนนี่ | เมื่อมีทุกข์เหตุแปรผัน | ||
รวมตัวมาปรึกษากัน | จักแก้ปัญหาอย่างไร | ||
ตาเฒ่าหัวหน้าที | แบบนี้คิดดูจริงไหม | ||
มันโน้มยอดระพื้นไป | ฝั่งโน้นเพราะยอดหนักชล | ||
พอเราดูดดื้มมันหมด | น้ำหนักลดลงฉงน | ||
ยอดดีดเงยขึ้นข้างบน | เราต้องช่วยหนักคืนมัน | ||
อมน้ำมากรอกทุกลูก | ดังผูกให้หนักพร้อมสรรพ์ | ||
คงจักน้อมปลายอีกพลัน | มาเถิดลงมือทันใด | ||
กะรอกน้อยใหญ่ปรีดา | พร้อมหน้าเติมน้ำเข้าไป | ||
มะพร้าวหนักน้อมเร็วไว | จนใบระพื้นยืนดี | ||
อันความพร้อมพรรคสมัครสมาน | ทำการยากง่ายตามวิถี | ||
ย่อมเสร็จกันได้มากมี | สมัคคีกันไว้ดีนาย | ||
52. ม้ากับลา | |||
พ่อค้ามีม้ากับลา | สินค้าต่างลาไปขาย | ||
หนักหลังบรรทุกมากมาย | ส่วนม้าตัวเปล่าเดินไป | ||
พ่อค้าหวังมันคงสุข | มิทุกข์ต่างหลังสงสัย | ||
กลัวม้าซูบผอมรายได้ | ขายต่ำราคามิดี | ||
ของหนักจึงตกแก่ลา | ฟันฝ่าไปตามวิถี | ||
เหน็ดเหนื่อยวอนม้าจงมี | น้ำใจวานช่วยแบ่งเบา | ||
ช่วยหน่อยหนาเพื่อนมันหนัก | ข้าชักขาสั่นใช่เขลา | ||
ม้าบอกทุกหนักมิเอา | เจ็บป่วยเดี๋ยวด้อยราคา | ||
จากนั้นมันก็เมินเฉย | มิเคยเหลียวแลเลยหนา | ||
ปีนเขาหนักนักเจ้าลา | พลัดตกจากผาสิ้นใจ | ||
เขาเลยขนเอาสินค้า | บรรทุกหลังม้าหนักไฉน | ||
จำทนลากชักกันไป | ทำไมถึงต้องเป็นเรา | ||
หากแม้กูช่วยลาบ้าง | ช่วยต่างยามป่ายปีนเขา | ||
คงมิพลาดพลั้งหนักเบา | ควรช่วยลาด้วยเพื่อนกัน | ||
อันคนมักเห็นแก่ตัว | มืดมัวด้วยเหตุโมหัน | ||
คิดได้เมื่อทุกข์ตามทัน | มันสายเสียแล้วเชื่อตา | ||
53. แม่เนื้อกับนายพรานป่า | |||
แม่เนื้ออยู่ในป่าใหญ่ | เที่ยวไปตามทุ่งเสาะหา | ||
เลาะเล็มใบไม้เดินมา | ทุ่งหญ้าระบัดใบงาม | ||
เพลินเล็มหญ้าอ่อนสนุก | ลืมทุกข์คืบคลานมาถาม | ||
นายพรานถือหน้าติดตาม | แกะรอยยามนี้จวนตัว | ||
จะวิ่งทุ่งโล่งโจ่งแจ้ง | ดังแสร้งให้ยิงน่าหัว | ||
ฝีมือนายพรานน่ากลัว | เขาลือกันทั่วแม่นยำ | ||
เหลือเห็นเพิงซุ้มเถาวัลย์ | ใบมันปกคลุมน่าขำ | ||
คงพอหลบได้จดจำ | ค่อยค่อยหมอบทำคอยที | ||
พรานป่าเห็นกวางลิบลิบ | หยิบหน้าไม้ถือรอรี | ||
วิ่งมาหาดูตรงนี้ | ไม่มีหายไปอย่างไร | ||
นายพรานถึงป่าลึกแล้ว | กวางแผ้วผ่องจิตแจ่มใส | ||
นึกว่าตัวเองปลอดภัย | กัดกินใบไม้รอบตัว | ||
สักครู่นายพรานย้อนกลับ | วับวับเลือนรางสลัว | ||
มองเห็นกวางไพรพันพัว | มัวกินใบไม้ลืมตน | ||
โก่งหน้ายิงกวางล้มตาย | เสียดายกวางไพรสับสน | ||
ประมาทลืมตัวอับจน | มืดมนทำลายกำแพง | ||
ใบไม้ปิดบังมันไว้ | กลับไปกัดกินกำแหง | ||
ม่านกั้นเปิดเผยสำแดง | ดังแกล้งให้พรานเห็นเอง | ||
ฉันใดใครเขาปกป้อง | อย่าปองทำร้ายข่มเหง | ||
ผู้มีพระคุณยำเกรง | นักเลงไม่เบียนบีฑา | ||
54. แมลงวันกับไหน้ำผึ้ง | |||
มีสาวผิวขาวสดใส | แบกไหน้ำผึ้งผ่านมา | ||
หนุ่มหนุ่มร้องทักกานดา | ชายตากรุ้มกริ่มพิมพ์ใจ | ||
ดีใจชายรักชายหลง | เดินตรงมิมองหนไหน | ||
สะดุดท่อนฟืนทันใด | ไหหล่นตกแตกกระจาย | ||
น้ำผึ้งนองพื้นไปทั่ว | สาวกลัวตกใจวิ่งหาย | ||
แมงวันตอมกลิ่นมากมาย | วุ่นวายดูดดื่มกินเพลิน | ||
น้ำผึ้งติดปีกติดขา | ไปมาก็ดูขัดเขิน | ||
ที่สุดก็ตายยากเดิน | บังเอิญติดอยู่มากมาย | ||
ที่แท้เพราะมันโลภมาก | ความอยากน้ำผึ้งเหลือหลาย | ||
ลืมตัวลืมกลัวลืมตาย | วุ่นวายแต่การดื่มกิน | ||
ประมาทเลินเล่อเผลอไผล | ภัยมามิเห็นโผผิน | ||
เมามัวลืมตัวอาจิน | จนถึงดับดิ้นตกตาย | ||
55. แมวกับไก่ | |||
แมวจับพ่อไก่อ้วนได้ | ตั้งใจจักกินหิวหาย | ||
แต่เกรงเขาด่าวุ่นวาย | ว่าเป็นแมวอันธพาล | ||
มันคิดเหตุผลให้ตน | จนต้องฆ่าไก่ไขขาน | ||
เพราะเจ้ารบกวนชาวบ้าน | แกขันหนวกหูทุกวัน | ||
ไก่เถียงเสียงฉันเพราะออก | เพียงบอกเวลาสร้างสรรค์ | ||
ชาวบ้านรู้โมงยามกัน | เพราะฉันต่างหากนะเออ | ||
ก็ใช่แกมีแรงขัน | เพราะนั่นกินอาหารเสมอ | ||
ฉันเองก็เป็นเหมือนเธอ | ต้องกินไก่ก่อนจึงดี | ||
ส่วนเรื่องบอกกาลเวลา | หาไก่ตัวอื่นแถวนี้ | ||
ช่วยขับขานขันช่วยชี้ | บอกโมงบอกยามได้การ | ||
แล้วมันก็กัดกินไก่ | สมใจตามเหตุที่ขาน | ||
อันธรรมชาติคนพาล | ข้ออ้างมันมีมากมาย | ||
อย่าคบร่วมมือร่วมกิจ | อย่าคิดคบหาเป็นสหาย | ||
อยู่ห่างจักมิวุ่นวาย | สบายใจกว่ากันสัญญา | ||
56. แมวกับหนู | |||
แมวแก่เรี่ยวแรงถดถอย | จับหนูได้น้อยนักหนา | ||
อดอยากหลายวันเวลา | นึกหาอุบายคงดี | ||
หากเรานอนนิ่งเหมือนตาย | มิยอมโยกย้ายหลีกหนี | ||
เก็บเล็บดังสิ้นชีวี | คงมีหนูยอมมาดู | ||
ตอนนั้นคงจับมันง่าย | อุบายวิธีจับหนู | ||
ปัญญาเรามันชั้นครู | เสร็จตูแน่นอนพวกแก | ||
มีหนูหัวหน้าเห็นเข้า | เฝ้าดูมันไม่แยแส | ||
กลับร้องเรียกเพื่อนมาแล | นี่แน่หนูหนูพวกเรา | ||
อ้ายนี่มิใช่กระต่าย | แต่มันตัวร้ายใช่เขลา | ||
เข้าใกล้มันจะตะปบเอา | มันแมวเจ้าเล่ห์แสนกล | ||
อันผู้มีสติปัญญา | รู้ทันท่าทีเห็นหน | ||
มองออกอุบายแยบยล | มิค่อยเสียท่าง่ายดาย | ||
สุวิชาโนภวังโหติ | อริยะสงฆ์ท่านส่องฉาย | ||
ผู้รู้เรียนดีมากมาย | ย่อมเจริญแน่นอนสีกา | ||
57. ยายแก่กับหมอ | |||
ยังมียายแก่คนหนึ่ง | ถึงคราวเคราะห์ร้ายถามหา | ||
มีโรกรุกลามถึงตา | เป็นฝ้ามืดมัวลำเค็ญ | ||
ยายวานลูกหลานพาไป | หมอใหญ่อยากรู้อยากเห็น | ||
วานช่วยรักษายากเย็น | จักเซ่นเงินทองข้ามี | ||
หมอตรวจดูก็รู้เหตุ | สังเกตมองเห็นวิถี | ||
ตกลงรักษาหายดี | บ่งชี้ค่ายามันแพง | ||
ยายบอกข้ามีสมบัติ | พอจัดให้ตามแถลง | ||
ตกลงยายฉันจักแจง | แต่งยาไปดูทุกวัน | ||
ยามหมอมาถึงที่บ้าน | ลานตาสมบัติพร้อมสรรพ | ||
แบบนี้คงรักษากัน | นานครันจึงจักหายดี | ||
ใส่ยาขากลับหยิบของ | เงินทองติดมือทุกที | ||
สมบัติร่อยหรอมากมี | รักษาแบบนี้เนิ่นนาน | ||
สมบัติหมดแล้วใส่ยา | รักษาให้หายกล่าวขาน | ||
บัดนี้หายแล้วขอวาน | ท่านจ่ายค่ายาให้เรา | ||
ยายเห็นสมบัติหมดเกลี้ยง | รู้เพียงหมอยาหยิบเอา | ||
จึงบอกไม่จ่ายดอกเจ้า | เงินเราไม่มีให้ท่าน | ||
หมอยาพิโรธด่ายาย | ใจร้ายจักไปฟ้องศาล | ||
เขานัดยายไปให้การ | วานบอกเรื่องราวเป็นไป | ||
ข้าแต่ศาลที่เคารพ | ข้าพบเคราะห์ร้ายไฉน | ||
ก่อนนั้นตาดีเห็นไกล | ในบ้านสมบัติมากมาย | ||
ต่อมาตามัวกลัวบอด | อยากรอดขอให้ตาหาย | ||
ไปหาหมอมามากราย | ตายายก็ยังไม่ดี | ||
คุณหมอคือคนรักษา | ใส่ยาตรงตามวิถี | ||
บอกว่าตายายยังมี | หายแล้วชี้ให้มองดู | ||
ข้ามองไปทั่วทั้งบ้าน | รำคาญมันน่าอดสู | ||
เคยเห็นสมบัติเชิดชู | ไม่รู้ไม่เห็นแปลกตา | ||
แบบนี้มันคงไม่หาย | จักให้จ่ายเงินนั่นหนา | ||
หากมันหายดีไม่ว่า | ข้าคงเห็นแก้วเงินทอง | ||
ศาลพิเคราะห์เหตุผล | รู้กลเป็นไปสิ่งของ | ||
ตายายหายดีเห็นพ้อง | ต้องจ่ายค่ายาเขาไป | ||
ส่วนหมอต้องทำจนจบ | ตายายมองพบสดใส | ||
สมบัติเคยมีอย่างไร | ให้ยายมองดูรับรอง | ||
จากนั้นค่อยมารับโทษ | ฐานโปรดลักเอาสิ่งของ | ||
ตัดสินกันตามครรลอง | ทำนองทำดีได้ดี | ||
ทำชั่วก็ต้องรับชั่ว | อย่ามัวโลภหลงวิถี | ||
คนเห็นแก่ได้มากมี | ทำชั่วบาปกรรมลงทัณฑ์ | ||
58. ราชสีห์กับลาและหมาจิ้งจอก | |||
ราชสีห์ลากับหมาจิ้งจอก | ร่วมกันออกล่าสบสันติ์ | ||
ได้กวางหนึ่งตัวสำคัญ | แบ่งปันแบบไหนจึงดี | ||
ราชสีห์บอกให้เจ้าลา | รีบมาจัดการอย่าหนี | ||
ลาแบ่งสามกองพอดี | ขนาดสูสีตามควร | ||
จึงบอกสีหะเชิญท่าน | ประธานเลือกก่อนสงวน | ||
เป็นสิทธิ์ผู้ใหญ่บรบวร | ผู้น้อยตามหลังมิเป็นไร | ||
ราชสีห์มิค่อยชอบนัก | มันมิรู้จักเป็นไฉน | ||
หัวหน้าลูกน้องแบบใด | แบ่งให้เท่ากันมิสมควร | ||
ตะปบลาน้อยย่อยยับ | ดับชีพหนึ่งศพแย้มสรวล | ||
ถึงตาจิ้งจอกเชิญชวน | ช่วยแบ่งให้ทีจักรอ | ||
จิ้งจอกเลือกแบ่งสองส่วน | หนึ่งล้วนเนื้อหนังนั่นหนอ | ||
เหลือไว้นิดเดียวก็พอ | บอกว่าข้าขอนิดเดียว | ||
ราชสีห์พอใจยิ้มร่า | เอ็งมีปัญญาฉลาดเฉลียว | ||
ร่ำเรียนจากที่ไหนเชียว | รอบรู้ยุติธรรมชำนาญ | ||
จิ้งจอกบอกว่าลานั่น | สำคัญยิ่งคนบอกขาน | ||
ได้รู้แจกแจงควรการ | ประมาณพอเหมาะพอดี | ||
เคราะห์กรรมลำเค็ญผู้คน | เล่ห์กลมากมวลวิถี | ||
เรียนรู้ศึกษามากมี | จักได้ปัญญาชำนาญ | ||
รู้เหตุรู้ผลกลไฉน | หนักไปหรือเบาสืบสาน | ||
ยามสบปัญหาแผ้วพาน | แก้ไขมินานคลาคลาย | ||
59. ราชสีห์กับวัวสี่ตัว | |||
จ้าวป่าคือราชสีห์ | มันมีพลังเหลือหลาย | ||
จับเหยื่อสัตว์ป่ามากมาย | กลัวตายเมื่อพบหน้ามัน | ||
คราหนึ่งพบกลุ่มวัวหนุ่ม | ชุมนุมสี่ตัวพร้อมสรรพ์ | ||
แปลกดีไม่วิ่งหนีกัน | หันหน้าเตรียมพร้อมทุกตัว | ||
พวกมันหันหน้าสี่ทิศ | ท้ายชิดโผล่เพียงส่วนหัว | ||
ระแวดระวังมิกลัว | จ้าวป่าจำต้องหลีกไป | ||
หลายคราช่วยกันดังนี้ | ราชสีห์หมดทางแก้ไข | ||
เลยอยู่กันรอดปลอดภัย | ร่วมมือร่วมใจกันดี | ||
อยู่มาวันหนึ่งเกิดเรื่อง | เคืองกันเพราะราชสีห์ | ||
เจอเราหลบไปทุกที | มันกลัวใครแน่นะเออ | ||
ต่างบอกมันกลัวฉันเอง | มันเกรงพลังฉันเสมอ | ||
เขาแหลมอีกด้วยถ้าเจอ | ฉันขวิดพุงทะลุแน่นอน | ||
มิมีใครยอมเชื่อใคร | จำแยกทางไปทอดถอน | ||
ต่างตัวต่างออกเดินจร | ลำพังตัวเดียวสะดวกใจ | ||
จ้าวปาจึงสบโอกาส | มิพลาดง่ายดายไฉน | ||
จับวัวตัวเดียวกลางไพร | ไม่ช้าหมดสิ้นทุกตัว | ||
อันความร่วมแรงรวมใจ | ยิ่งใหญ่พลังถ้วนทั่ว | ||
อุปสรรคหักหาญไม่กลัว | ฟันฝ่าไปได้ง่ายดาย | ||
ยามใดเห็นแปลกแตกต่าง | แยกข้างแยกพวกแยกสาย | ||
อ่อนแรงเกราะพลังพังทลาย | ย่อมง่ายย่อยยับอัปรีย์ | ||
60. ราชสีห์กับหนู | |||
อดีตกาลนานมา | ราชาแห่งไพรราชสีห์ | ||
รูปร่างกำยำล่ำพี | ยินดีพักผ่อนหลับนอน | ||
แลดูเถื่อนถ้ำอำไพ | เร้นลับอยู่ในสิงขร | ||
หินงอกหินย้อยอรชร | แง่งอนเงื่อนง้ำชวนชม | ||
หอมกลิ่นบุปผามาลัย | เอื้องไพรลำดวนฉุนฉม | ||
สุคันธ์จันจวงลอยลม | จิตจมจนเคลิ้มหลับไป | ||
มินานสะดุ้งผวา | แลหาด้วยเหตุไฉน | ||
ตะปบหนูน้อยทันได | ใยเอ็งเหยียบย่ำตัวกู | ||
ข้าคือเจ้าแห่งราวป่า | เอ็งมาหมิ่นเกียรติอดสู | ||
จะไปจะมาไม่ดู | เหยียบหัวย่ำหูมิเกรงเลย | ||
จะกินมิพอยาไส้ | จะไล่โมโหมิเหย | ||
จำจักบี้บดชดเชย | หายแค้นเอ็งเอ๋ยจงตาย | ||
หนูน้อยออดอ้อนสิงโต | อย่าเคืองโมโหมากหลาย | ||
ข้าน้อยผิดพลั้งวุ่นวาย | ซุกซนมักง่ายล่วงเกิน | ||
อภัยข้าน้อยปล่อยเถิด | ประเสริฐควรค่าสรรเสริญ | ||
เป็นบุญเป็นคุณจำเริญ | จักเชิญเทอดไว้บูชา | ||
หากท่านมีกิจน้อยใหญ่ | จะขอรับใช้เรียกหา | ||
แทนคุณที่ท่านเมตตา | ขอให้สัญญาลูกผู้ชาย | ||
ขำก๊ากเจ้าหนูตัวจ้อย | ตัวน้อยคุยโตเหลือหลาย | ||
เอ็งหรือจักช่วยผ่อนคลาย | ปัญหาให้หายคุยโต | ||
เอาเถอะข้าไม่ถือสา | รีบไปเดียวข้าโมโห | ||
เปลี่ยนใจกินหนูพุงโร | อย่ามัวโยเยรีบไป | ||
หนูน้อยขอบคุณขอบคุณ | หมุนตัววิ่งเร็วไฉน | ||
เกือบตายซะแล้วปลอดภัย | โชคดีเขาปล่อยเป็นบุญ | ||
หลายวันเวลาผ่านไป | ปัจจัยแห่งป่าเกื้อหนุน | ||
ส่ำสัตว์ร่มเย็นเป็นคุณ | อบอุ่นถ้วนหน้าสุขสบาย | ||
จวบจนวันหนึ่งพรานป่า | เข้ามาวางบ่วงซ่อนสาย | ||
ดักเนื้อเก้งกวางกลับกลาย | เจ้านายราชสีห์ติดไป | ||
ด้วยพละกำลังยังเหลือ | เมื่อดิ้นสุดแรงสงสัย | ||
มิหลุดมิขาดเหตุใด | บ่วงบาศใยเหนียวเหลือเกิน | ||
มันรัดเจ็บปวดครวญคราง | หมดทางนึกไปให้เขิน | ||
ราชาแห่งป่าสง่าเดิน | ติดบ่วงดำเนินดังใด | ||
หนูน้อยผ่านมายินเสียง | เพียงเพราะอยากรู้เหตุไฉน | ||
เสียงดังโครมครามเร็วไว | วิ่งมาแอบใกล้มองดู | ||
ที่แท้สัตว์ใหญ่ติดบ่วง | ดวงตาเบิกโพลงอ้ายหนู | ||
ที่แท้ท่านนายของตู | รู้กิจควรทำลงมือ | ||
เข้าไปบอกท่านขอรับ | ช่วยจับตึงเชือกยึดถือ | ||
มั่นไว้จักช่วยให้ลือ | ไว้ชื่อหนูน้อยฟันคม | ||
กัดแทะเกลียวเชือกไวว่อง | หลายร่องจำเพาะเหมาะสม | ||
บ่วงขาดราชสีห์ชื่นชม | นิยมหนูน้อยขอบใจ | ||
อันคนตัวเล็กมีคุณ | อุดหนุนควรค่ายิ่งไฉน | ||
รูปชั่วตัวดำถมไป | ปัญญาใหญ่ยิ่งควรการ | ||
ผู้น้อยผู้ใหญ่ไม่ต่าง | รู้ช่างชั้นเชิงอาจหาญ | ||
ช่ำชองช่างเชียวชำนาญ | ร่วมงานร่วมการวางใจ | ||
61. ราชสีห์กับหมาจิ้งจอก | |||
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว | ยายแก้วเล่านิทานขานไข | ||
อีสปมีเรื่องสอนใจ | จำไว้เป็นคติเตือนตน | ||
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง | มันพึ่งหลงทางสับสน | ||
ขึ้นเขาวนเวียนวกวน | จวบจนเข้าเขตอันตราย | ||
ป่าลึกเขตราชสีห์ | พอดีพบเข้าใจหาย | ||
มันหมอบกับพื้นกลัวตาย | มิวายเหลือบตาแอบมอง | ||
ราชสีห์เดินผ่านไปเฉย | มิเคยชายตาสนอง | ||
ออกเดินถัดมาริมคลอง | เจอตัวที่สองตกใจ | ||
ครานี้ลองยืนนิ่งนิ่ง | เออจริงชักหายสงสัย | ||
จ้าวป่ามียศเกริกไกร | ไม่สนสัตว์เล็กอย่างเรา | ||
ราชสีห์ผ่านไปอีกที | ครานี้จักมิขลาดเขลา | ||
ออกเดินต่อมาเห็นเงา | เจ้าป่าสง่างามยืนมอง | ||
จิ้งจอกเดินเข้าไปหา | ราชาแห่งสัตว์ทั้งผอง | ||
ทักทายถามไถ่ทดลอง | จ้าวป่ายิ้มให้ใจดี | ||
บอกทางจากป่าดงดิบ | ไกลลิบตรงไปวิถี | ||
ยอดเขาลูกโน้นแหละมี | เพื่อนบ้านเจ้าอยู่มากมาย | ||
อันความกล้าหาญอดทน | ตริตรองเหตุผลสืบสาย | ||
เรื่องยากเรื่องยุ่งอาจคลาย | เป็นง่ายเพราะสติยังดี | ||
62. ราชสีห์ชันสูตรลมหายใจ | |||
สิวห์โตท่านผู้เป็นใหญ่ | อยู่กลางพงไพรวิถี | ||
วันหนึ่งอยากรู้คดี | ลีลาแห่งลมหายใจ | ||
ตัวเองมิเคยทราบกลิ่น | ยากสิ้นมันเป็นไฉน | ||
จำเป็นจำต้องท่องไป | ถามใครเขาวานบอกดู | ||
รุ่งขึ้นออกเดินชมป่า | ผ่านมาทักแกะนี่หนู | ||
ข้าเองหายใจใคร่รู้ | บอกตูกลิ่นเป็นยังไง | ||
แกะน้อยหวาดกลัวตัวสั่น | ตัวมันงุนงงสงสัย | ||
เดินมาดมดูใกล้ใกล้ | บอกไปว่าเหม็นเหลือเกิน | ||
ราชสีห์พอฟังก็โกรธ | กล่าวโทษแกะไปไม่เขิน | ||
จับกินเสียแล้วออกเดิน | บังเอิญพบหมาหนึ่งตัว | ||
ร้องถามนี่คุณหมาป่า | ข้ามีคำถามชวนหัว | ||
กลิ่นลมหายใจดีชั่ว | อย่ากลัวบอกข้าหน่อยซี | ||
หมาป่าก็ตื่นตกใจ | กลัวภัยยากจักหลบหนี | ||
ดมดมแล้วบอกทันที | หอมหวนดีนักราชา | ||
ราชสีห์รู้มันโกหก | ตกลงจับกินอีกหนา | ||
ผ่านไปจิ้งจอกเดินมา | ถามหากลิ่นลมหายใจ | ||
จิ้งจอกดมดูครู่หนึ่ง | จึงทำท่าจามสงสัย | ||
ข้าเป็นหวัดแรงเกินไป | มิได้กลิ่นเอาเสียเลย | ||
เชิญท่านไปข้างหน้าเถิด | ประเสริฐคงมีคนเผย | ||
ราชสีห์มิได้เอื้อนเอ่ย | ตามเคยมันเดินผ่านไป | ||
รับมือกับคนเป็นพาล | รู้การระวังแบบไหน | ||
จึงจักอยู่รอดปลอดภัย | เรียกได้ความฉลาดปัญญา | ||
63. ลากับไก่และราชสีห์ | |||
ชาวไร่เลี้ยงลากับไก่ | รักใคร่กันดีนักหนา | ||
ยามเช้ามักเดินเล็มหญ้า | ไก่เดินตามลาประจำ | ||
วันหนึ่งมีราชสีห์ | พอดีผ่านมามันขำ | ||
เห็นลาชักหิวแล้วกรรม | มันทำหมอบหมอบคลานคลาน | ||
ไก่เหลือบมาเห็นจ้าวป่า | ทำท่าคงนึกว่าหวาน | ||
ลาโง่ไม้รู้ภัยพาล | รีบขานขับขันเตือนไป | ||
ราชสีห์ยินเสียงตระหนก | ยกหัวยืนเสียงจากไหน | ||
ฤาว่าจักมีเภทภัย | จำใจวิ่งหลบทันที | ||
ฝ่ายลาทันเห็นจ้าวป่า | อ้ายบ้าเห็นตูวิ่งหนี | ||
ขาดคุณสมบัติผู้ดี | ต้องตีมันกลัวลนลาน | ||
ลากวดราชสีห์จนทัน | แต่มันหยุดรอไขขาน | ||
ลาโง่เอ็งมันแสนพาล | ควรเป็นอาหารคงดี | ||
โดนกัดเป็นอาหารเช้า | นึกว่าเขากลัวหลบหนี | ||
เพราะโง่ปัญญาไม่มี | เสียทีอวดเก่งเกินการ | ||
อันคนขลาดเขลามีชัย | มีใจฮึกเหิมอาจหาญ | ||
นึกว่าตนเองชำนาญ | เลยพาลประมาทร่ำไป | ||
ถึงคราวมีกิจสำคัญ | ฝ่าฟันก็มิอาจไหว | ||
มักต้องพ่ายแพ้เพาะภัย | อย่าได้เอาอย่างแบบมัน | ||
64. ลากับจิ้งหรีด | |||
ลาโง่ตัวหนึ่งในป่า | เล็มหญ้ายามเช้าสุขสันต์ | ||
อากาศเย็นเย็นสำคัญ | นี่นันหรีดหริ่งเรไร | ||
เพราะพริ้งจี้งหรีดกรีดเสียง | เพียงพิณบรรเลงสงสัย | ||
ตัวมันเล็กเล็กทำไม | ไพเราะยามร้องระงม | ||
เจ้าลาเดินตรงไปหา | เพื่อนยาเพลงเพราะเหมาะสม | ||
ร้องได้ไพเราะน่าชม | อบรมฝึกมาอย่างไร | ||
จิ้งหรีดฟังคำขบขัน | ลามันมิรู้ฤๅไฉน | ||
เสียงร้องส่ำสัตว์พงไพร | ย่อมไม่เหมือนกันธรรมดา | ||
จำจักล้อเล่นเจ้าโง่ | พิโถเพื่อนใยเสาะหา | ||
อยากรู้ดูด้วยปัญญา | เช้ามาข้าดื่มอันใด | ||
น้ำค้างดูดดื่มชื่นจิต | ยามคิดปลอดโปร่งโล่งไฉน | ||
ยามร้องเพราะพริ้งเพลงไพร | นี่ไงข้าทำมานาน | ||
เจ้าลาดีใจเหลือหลาย | ขอบคุณมากมายไขขาน | ||
ข้าจักฝึกฝนมินาน | ได้การสำเนียงคงดี | ||
เลิกกัดกินหญ้าเด็ดขาด | ประหลาดเห็นหญ้าหลีกหนี | ||
เที่ยวดูดน้ำค้างมวลมี | รูปร่างอ้วนพีกลับกลาย | ||
ซูบผอมเสียงร้องแหบแหบ | แบบขาดเรี่ยวแรงเสียหาย | ||
เสียงเปลี่ยนดีใจงมงาย | ที่สุดล้มตายจากไป | ||
อันความโง่เขาเบาความ | ยามทำสิ่งสุดวิสัย | ||
หลงผิดทำผิดเป็นภัย | พึงใช้ปัญญาไตร่ตรอง | ||
65. ลากับรูปเคารพ | |||
ล่าต่างตัวหนึ่งโชคดี | มีโอกาสร่วมขบวนฉลอง | ||
เขาจับแต่งงามดังทอง | หลังตั้งเทวรูปจักรี | ||
ขบวนแห่ไปรอบเมือง | ธงทิวแดงเหลืองหลากสี | ||
เพราะพริ้งแตรสังข์ดนตรี | เจ้าลามีความภูมิใจ | ||
เดินผ่านผู้คนเคารพ | บ้างจบนอบน้อมดีไฉน | ||
มันหยุดผงกหัวเรื่อยไป | ทำให้ชักช้าห่างขบวน | ||
เจ้าของมองดูรู้เลศ | เพราะเหตุลาบ้าน่าสรวล | ||
หวดตีลาบ้องอย่ากวน | เขาไหว้เทวรูปหรอกแก | ||
รีบไปให้ทันกระบวนเขา | อย่าเมาลืมตนนี่แส้ | ||
จักหวดให้ตื่นดีแน่ | รีบไปอ้ายบ้าลืมตน | ||
ผู้มีหัวโขนอำนาจ | มักอาจลืมตัวสับสน | ||
เห็นเขาเคารพเหลือล้น | นับถือทำให้มัวเมา | ||
แท้จริงเพียงเพราะยศศักดิ์ | เขารักอำนาจอย่าเขลา | ||
วันใดมันหมดตัวเรา | ก็เพียงตัวตนสำคัญ | ||
66. ลากับหมาจิ้งจอก | |||
มีลากับหมาจิ้งจอก | บอกว่ารักใคร่ใฝ่ฝัน | ||
อยากเป็นเพื่อนเกลอแก่กัน | ใจมั่นเพื่อนตัวเพื่อนตาย | ||
ยามทุกข์ก็ทุกข์ทั้งดู่ | ดูแลเปลื้องทุกข์สหาย | ||
ยามสุขสุขสองมิคลาย | สัญญามั่นหมายดิบดี | ||
สองสหายท่องไปด้วยกัน | สัมพันธ์ผูกไว้ไม่หนี | ||
ดูแลแก่กันมากมี | ไมตรีปกติธรรมดา | ||
จวบจนเกิดเรื่องไม่ดี | พบราชสีห์ขวัญผวา | ||
จะหลบไม่ทันมันมา | จิ้งจอกพาทีเพื่อนตาย | ||
พ่อแพะเพื่อนยากมีภัย | หยุดไว้รอก่อนสหาย | ||
ข้าจักไปขอผ่อนคลาย | หมายไว้คงไม่ยากเย็น | ||
มันวิ่งไปหาราชสีห์ | พาทีบอกความตามเห็น | ||
ข้าจักหลอกลาเป็นเป็น | มาเซ่นแก่ท่านงายดาย | ||
ขอเพียงท่านให้สัญญา | ปล่อยข้าละโทษฉิบหาย | ||
ขอเว้นอย่าให้ถึงตาย | เจ้านายได้โปรดเมตตา | ||
ราชสีห์ตกลงตรองตรึก | พลางนึกนี่มันเป็นหมา | ||
เจ้าคิดเจ้าเล่ห์นานา | ชาวป่าเขารู้สันดาน | ||
จิ้งจอกกลับมาหลอกเพื่อน | ทำเหมือนเรียบร้อยไขขาน | ||
ราชสีห์มิใช่คนพาล | ไหว้วานยกโทษโปรดเรา | ||
หลอกลาเดินไปติดหล่ม | จมโคลนติดอยู่เพราะเขลา | ||
จิ้งจอกกลับไปบอกเอา | ลาโง่งี่เง่าติดโคลน | ||
เชิญท่านไปกินมันเถิด | ประเสริฐมันคิดจักโผน | ||
หลบไปราชสีห์กระโจน | ตะปบมันโยนตกตาย | ||
จัดการกินจิ้งจอกก่อน | ค่อยย้อนกินลาไม่สาย | ||
สองเพื่อนสิ้นชีพวางวาย | เพราะหมายเอาตัวรอดเอง | ||
มีเพื่อนชั่วช้าหน่ายหนี | อัปรีย์หาเรื่องข่มเหง | ||
ความชั่วมันมิยำเกรง | มีเพื่อนนักเลงบาปกรรม | ||
67. ลิงกับคนทอดแห | |||
ยังมีนักเลงทอดแห | ลอยแพทอดอยู่กลางน้ำ | ||
ปลาชุมทอดแหแล้วดำ | ได้ปลาแก้มช้ำแก้มนวล | ||
ปลากดปลาหลดปลาไหล | ทอดแหเหวี่ยงไปเสสรวล | ||
ปลาติดขึ้นมาเป็นพรวน | ยวนใจให้ทอดเนิ่นนาน | ||
ฝั่งน้ำเห็นมีต้นหว้า | หน้านี้ลูกมันสุกหวาน | ||
พวกลิงสุดแสนเบิกบาน | พบพานลูกหว้าชอบใจ | ||
จ่าฝูงแลเห็นตาเฒ่า | มันเบาปัญญาสงสัย | ||
ตาแก่นี่ทำอันใด | เหวี่ยงไปจมน้ำเป็นแพ | ||
กระโดดลงไปดำมุด | ที่สุดจับปลาจากแห | ||
มันน่าสนุกของแก | อยากลองดูแน่สักคราว | ||
ตาแก่ทอดแหเหนื่อยนัก | หยุดพักพอดีลูกสาว | ||
มาเชิญให้รู้เรื่องราว | ข่าวว่าอยากได้สตางค์ | ||
กลับไปที่พักสักครู่ | ไม่อยู่มิมีคนขวาง | ||
เจ้าลิงแลเห็นช่องทาง | ลงมากางแหเหวี่ยงดู | ||
แหพันหัวหางชักยุ่ง | พันคุงจากหัวแลหู | ||
อีลุงตุงนังนักตู | เสียรู้ตกน้ำสิ้นใจ | ||
อันคนมิรู้ประมาณ | ทำการเกินตัวไฉน | ||
มักเกิดมีเหตุเภทภัย | สังวรสำราญชาญเชาวน์ | ||
68. ลูกแกะหลงฝูงกับหมาป่า | |||
แกะน้อยเล็มหญ้าเพลิดเพลิน | เดินพลัดหลงฝูงกลางเขา | ||
ลัดเลาะร่มไม้บังเงา | ยังเยาว์แต่มิตกใจ | ||
ยินเสียงแกะร้องแว่วมา | ดูท่าคงห่างสงสัย | ||
หากมุ่งทิศทางนี้ไซร้ | คงได้เจอฝูงแน่นอน | ||
เคราะห์ร้ายมันพบหมาป่า | หมดท่าเย็นไว้พ่อสอน | ||
จึงออกปากไหว้วิงวอน | โอ้ท่านผู้เกรียงไกร | ||
เคราะห์กรรมตามทันข้าแล้ว | มิแคล้วสิ้นชีพตักษัย | ||
เป็นภักษาผู้ยิ่งใหญ่ | เยี่ยงท่านข้าพลอยยินดี | ||
ก่อนตายขอท่านสักอย่าง | เขาอ้างโบราณวิถี | ||
เพราะพริ้งหมาป่าเป่าปี่ | บุญมีถึงจักได้ยิน | ||
ท่วงท่าทำนองไพเราะ | เหมาะจักเรียกยอดแห่งศิลป์ | ||
ร่ายรำดังหนึ่งโบยบิน | หวังว่าท่านคงเอ็นดู | ||
หมาป่าภาคภูมิใจนัก | กูจักแสดงอ้ายหนู | ||
หยิบปี่มาเป่าอูอู | ตัวมันเคลิบเคลิ้มหลับตา | ||
แกะน้อยมิรอรีแล้ว | รีบหลบหนีแจวแหละหนา | ||
เพลงปี่จบลงตื่นมา | อ้าวหายหัวซะแล้วแกะเวร | ||
อันลาภสักการมีมา | บางคราวบางคราที่เห็น | ||
อย่ามัวระเริงหลงเล่น | จนปล่อยลอยวับหายไป | ||
จักมาเสียดายภายหลัง | อย่าหวังคืนคงสงสัย | ||
ดังวันเวลาคลาไคล | ไหนจักย้อนกลับฤๅมี | ||
69. ลูกปูกับแม่ปู | |||
ปูมันแลขามากมาย | โชคร้ายหัวปูหลบหนี | ||
แม่ปูลูกปูชวนชี้ | ไปที่ชายหาดสนุกกัน | ||
น้ำใสสะอาดน่าเล่น | ลมเย็นสนุกสุขสันต์ | ||
หากินก็ง่ายแถวนั้น | มันมีอาหารมากมาย | ||
ลูกปูชอบใจไปก่อน | สนุกตอนลุยโคลนใจหาย | ||
เดินเซไปมาขวาซ้าย | โยกย้ายคดเคี้ยวร่องรอย | ||
แม่ปูเห็นแล้วหนักใจ | ทำไมไม่อายพวกหอย | ||
เดินตรงดีดีเด็กน้อย | ค่อยเดินรีบร้อนทำไม | ||
ลูกปูหัวร่อแม่จ๋า | พวกข้าเดินดีสงสัย | ||
เซมาแล้วก็เซไป | แปลกใจเดินดีแล้วนา | ||
แม่ปูชักมีเสียงดัง | น่าชังจริงนะเด็กจ๋า | ||
เดี๋ยวแม่เดินแบบดารา | จำท่าแม่แล้วเดินตาม | ||
แม่ปูออกเดินแบบอย่าง | แต่ช่างแปลกกระไรไต่ถาม | ||
แม่เดินคดเคี้ยวทุกยาม | ดูงามกว่าพวกหนูเดิน | ||
ปูน้อยห่อร่อคิกคัก | ยากจักไปตรงให้เขิน | ||
แม่แบบคดเคี้ยวเหลือเกิน | จักเชิญฝึกได้ดังใด | ||
อันคนจักสอนผู้อื่น | พึงตื่นตาดูตัวไว้ | ||
ตนเองสามารถทำไซร้ | จึงควรสอนให้เขาทำ | ||
หาไม่ไร้ค่าคำสอน | เขาย้อนกลับมาน่าขำ | ||
แม่ปูลูกปูจดจำ | พร่ำสอนตัวดีระวัง | ||
70. ลูกแพะกับหมาป่า | |||
แพะน้อยตัวหนึ่งเดินมา | เล็มหญ้าเชิงเขาลำพัง | ||
มันเพลินชะตาน่าชัง | เสียงดังหมาป่าทักทาย | ||
เฮ้ยเจ้าแพะตัวจ้อย | เด็กน้อยอย่าวิ่งเสียหาย | ||
แม้เหงื่อเจ้าออกท่วมกาย | เหม็นหลายมันไม่น่ากิน | ||
แพะน้อยตกใจได้สติ | ดำริท่านผู้มีศิลป์ | ||
ข่าวว่าหากใครได้ยิน | เสียงปี่ท่านรินหลั่งเพลง | ||
ถึงตายก็สมควรอยู่ | อยากรู้ไม่ควรข่มเหง | ||
โปรดได้เมตตาบรรเลง | ฟังแล้วไม่เกรงกลัวตาย | ||
หมาป่าชอบใจแพะน้อย | คอยฟังข้าภูมิใจหลาย | ||
เป่าปี่ให้ฟังหลานชาย | ภายหลังค่อยจับเจ้ากิน | ||
ตะริดติ๊ดตี่ปี่หมาป่า | พรรณนาแบบผู้มีศิลป์ | ||
เพราะยิ่งใครยลใครยิน | เจิดจินตนาการเพราะเพลิน | ||
หมาพรานล่าเนื้อยินเสียง | จำเรียงจึงข้ามเขาเขิน | ||
มาถึงแลเห็นบนเนิน | หมาป่าเดินเป่าบรรเลง | ||
หมาพรานโลดไล่หมาป่า | ว่องไวนักหนาข่มเหง | ||
กลัวตายลนลานลืมเพลง | มันเร่งรีบหนีกลัวตาย | ||
แพะน้อยเลยรอดปลอดภัย | หลบไปเข้าป่าลับหาย | ||
อันคนทำการมากมาย | ไม่วายลืมตัวลืมตน | ||
ไม่รู้ภาระหน้าที่ | มีใจเรื่องอื่นสับสน | ||
มัวทำเรื่องอื่นกังวน | งานตนเสียหายมากมี | ||
หมาป่าปัญญาบางเบา | หลงเงาศิลปินวิถี | ||
กำลังหากินดีดี | เมาปี่เป่าเพลงเพลิดเพลิน | ||
ลาภลอยตรงหน้าก็หาย | หนีตายวิ่งเข้าเขาเขิน | ||
ต้องโทษตนเองโง่เกิน | บังเอิญไม่รู้จักตน | ||
71. ลูกหมูกับฝูงแกะ | |||
ลูกหมูพลัดหลงกับแม่ | ชะแง้มองหาอาหาร | ||
ขุดคุ้ยกินไผ่เนิ่นนาน | แม่ลับตาไม่รู้ตัว | ||
จวนค่ำมันก็ตกใจ | มองทางไหนเริ่มสลัว | ||
หมอกมืดปกคลุมไปทั่ว | น่ากลัวมันอยู่เดียวดาย | ||
ออกวิ่งตามหาแม่แม่ | ลองแลลับจนใจหาย | ||
หลงทางกลัวจนแทบตาย | แม่จ๋าแม่อยู่หนใด | ||
มันหลงเข้ายังฝูงแกะ | แบะแบะเสียงร้องเป็นไฉน | ||
ปะปนหากินเรื่อยไป | มิกล้าเปิดเผยตัวตน | ||
วันหนึ่งชาวนาเจ้าของ | เมียงมองเห็นหมูชวนฉงน | ||
ไล่จับมันวิ่งเวียนวน | หลบในฝูงแกะหายไป | ||
พวกแกะแปลกนักบอกเล่า | เจ้าหมูหลบหลีกเป็นไฉน | ||
ยืนนิ่งเขาจับเป็นไร | ใครใครก็ยืนเหมือนกัน | ||
หมูน้อยตอบคำพี่ข้า | พาทีมิค่อยสร้างสรรค์ | ||
เขาจับแกะด้วยสำคัญ | ตัดขนแค่นั้นพี่ยา | ||
ส่วนเขาไล่จับหมูน้อย | ใช่ย่อยแค่นั้นดอกหนา | ||
เขาจับไปเชือดมรณา | สถานการณ์มิเหมือนกัน | ||
ยามเห็นเคราะห์กรรมคนเขา | อย่าเอาเรื่องราวเคยสรรค์ | ||
ของตัวเราเองสำคัญ | จักแก้เคราะห์กรรมฉันใด | ||
72. ลูกอ้นกับแม่อ้น | |||
มีอ้นสองตัวแม่ลูก | ผูกพันอยู่ที่พงไผ่ | ||
หากินกลางดงท่องไป | มุดใต้ดินดอนขุดรู | ||
สงสารลูกน้อยตาบอด | แม่กอดกระซิบข้างหู | ||
ตาบอดมิอาจแลดู | เราอยู่ที่มืดมิเป็นไร | ||
แม่จักช่วยดูแลเจ้า | ค่ำเช้าอย่างงสงสัย | ||
ตามหลังแม่จักพาไป | หากินหน่อไม้มากมาย | ||
อ้นน้อยมีแม่ปกป้อง | ลำพองว่าเก่งเหลือหลาย | ||
มิค่อยพบอันตราย | สุขสบายลืมโง่ลืมตัว | ||
วันหนึ่งอ้นน้อยคุยโว | อวดโตอวดเก่งชวนหัว | ||
แม่จ๋าตาฉันเห็นทั่ว | ไม่กลัวหลงแล้วมารดา | ||
แม่อ้นรู้ลูกโอ้อวด | เจ็บปวดลองตรึกนึกหา | ||
วิธีสั่งสอนลูกยา | จึงหากำยานวางลง | ||
ถามลูกแม้เจ้ามองเห็น | นี่เป็นอันใดพิศวง | ||
วางอยู่ข้างหน้ามองตรง | จงตอบแม่มาโดยพลัน | ||
อ้นน้อยดมดมคลำคลำ | จดจำมิได้น่าขัน | ||
บอกแม่ก้อนหินสำคัญ | ยืนยันถูกต้องแน่นอน | ||
แม่อ้นสมเพชลูกน้อย | ตอบถ้อยหนูอ้นสั่งสอน | ||
ตาบอดไม่พองามงอน | กำยานว่าก้อนหินไป | ||
จมูกก็บอดสนิท | อยู่ชิดกำยานรู้ไหม | ||
กลิ่นฉุนมิทราบกลิ่นใด | สงสัยเจ้าบอดจริงจริง | ||
อันคนอวดดีอวดเก่ง | มักเบ่งข่มเขาชายหญิง | ||
มินานเขารู้กลอกกลิ้ง | ที่แท้ชิงอวดโง่ไง | ||
73. ลูกโอ๊กกับฟักทอง | |||
กะทาชายนายสิง | มิเคยอยู่นิ่งสงสัย | ||
คิดโน่นคิดนี่เรื่อยไป | บางครั้งก็เกินพอดี | ||
อย่างเช่นมันคิดเรื่องไก่ | ออกไข่ตัวเมียหลากสี | ||
พวกเป็ดพวกนกก็มี | แบบนี้มิแตกต่างกัน | ||
ทำไมตูเป็นผู้ชาย | กลับกลายมีไข่หนอสวรรค์ | ||
สร้างผิดหรือเปล่าสำคัญ | มันคิดแบบนี้แปลกคน | ||
วันหนึ่งไปเที่ยวในป่า | เมื่อยล้ายามอยู่ไพรสณฑ์ | ||
มองหาร่มเงาพักตน | เจอต้นไม้โอ๊กพอดี | ||
เอนตัวนอนใต้ร่มไม้ | ได้เห็นลูกโอ้กหลากสี | ||
ต้นโอ้กใหญ่โตกลับมี | ลูกไม้ขนาดเล็กนิดเดียว | ||
ฟักทองเถาเล็กลูกใหญ่ | ทำไมโตนักฟักเขียว | ||
เทวดาสร้างผิดแน่เชียว | มันถึงได้กลับแผกกัน | ||
ทันใดลูกโอ้กหล่นลง | ถูกตรงหน้าผากน่าขัน | ||
หัวโนหลบหลีกไม่ทัน | ฉับพลันคิดใหม่อีกที | ||
ต้นโอ้กลูกเล็กเหมาะนัก | หล่นปักหน้าผากยากหนี | ||
แค่ปวดแค่บวมยังมี | หยูกยาทาได้หายไป | ||
แม้มันโตเท่าฟักทอง | สมองแตกแน่มิสงสัย | ||
ชีพเราก็คงบรรลัย | มิทันได้สั่งญาติกา | ||
สิ่งใดที่เรามิรู้ | มิคู่ควรจักสรรหา | ||
ถ้อยคำวิพากย์จรรจา | ศึกษารู้ก่อนเชี่ยวชาญ | ||
74. สามช่างซ่อมกำแพง | |||
เอกทาพาราภูวง | มีเรื่องยังคงกล่าวขาน | ||
ถึงช่างผู้ชำนาญการ | หารือจักซ่อมกำแพง | ||
คราวนั้นมีข่าวการศึก | มันฮึกอวดเก่งกำแหง | ||
ประกาศสงครามร้อนแรง | หวาดกลัวกันทั่วทั้งบาง | ||
อมาตย์มนตรีปรึกษา | พารามีสิ่งกีดขวาง | ||
ค่ายคูกำแพงจัดวาง | หอรบต่างก็พอมี | ||
ทุกอย่างเรียบร้อยเว้นแต่ | แลรอบกำแพงวิถี | ||
ชำรุดต้องซ่อมให้ดี | มนตรีปรึกษาเร็วไว | ||
มนตรีเกษตรแนะนำ | จำต้องมีอิฐมากไฉน | ||
ปรับซ่อมกำแพงจึงได้ | มั่นคงแข็งแรงแน่นอน | ||
เดิมเป็นช่างทำอิฐ | จึงคิดว่าเหมาะพ่อสอน | ||
จำมาบอกกล่าวทุกตอน | ขอให้ที่ประชุมพิจารณ์ | ||
มนตรีป่าไม้กล่าวอ้าง | ท่อนซุงจับวางขอขาน | ||
ทำง่ายแข็งแรงมินาน | จักได้กำแพงสมใจ | ||
เพราะเคยเป็นงานช่างเรือน | แนะนำจึงมิสงสัย | ||
ซุงแข็งกว่าอิฐบอกให้ | ทุกฝ่ายเห็นคล้อยพาที | ||
มนตรีอุตสาหกรรม | เอ่ยคำขอค้านทุกวิถี | ||
อิฐเผาเราก็ไม่มี | ทำอยากอาจไม่ทันการ | ||
ท่อนซุงจักเอาจากไหน | มีไหมช้างม้าประสาน | ||
ลากซุงมาให้ใช้งาน | ชักช้ามิทันศึกสงคราม | ||
เราขอให้ใช้แผ่นหนัง | ซ่อมผังกำแพงอย่าถาม | ||
เหนียวแน่นเบาบางทุกยาม | ทนทานแน่นอนเชื่อเรา | ||
ความคิดความอ่านของคน | นึกว่าตนไม่ใช่เขลา | ||
รู้ดีเก่งกาจมิเบา | ล้วนขึ้นกับประสบการณ์ | ||
เคยพบเคยทำก่อนมา | นึกว่าดีแล้วจึงขาน | ||
ความคิดคับแคบมิชาญ | คนควรเปิดกว้างดวงใจ | ||
รับรู้วิทยาหลากหลาย | มากมายสิ่งดีมีที่ไหน | ||
ศึกษารอบรู้กว้างไกล | จักได้เป็นปราชญ์แพรวพราว | ||
75. หญิงชรากับสาวใช้ | |||
มีเรื่องเล่าขานคุณยาย | เป็นนายลูกจ้างสองสาว | ||
ยายเฮี้ยบเขาบอกเรื่องราว | สุดยอดหาใครเทียบทัน | ||
แกเลี้ยงไก่บอกเวลา | ตื่นมาอีหนูไก่ขัน | ||
รีบตื่นมาทำงานกัน | ขยันหน่อยซีพวกเธอ | ||
บางวันทำงานเหน็ดเหนื่อย | หลับเรื่อยลืมตื่นเสมอ | ||
ไก่ขันยังนอนละเมอ | ต้องเจอน้ำสาดพอดี | ||
สองสาวลองปรึกษากัน | ไก่ขันรบกวนนวลฉวี | ||
หลับนอนรบกวนทุกที | แบบนี้เราต้องจัดการ | ||
สองสาวเชือดไก่ต้มกิน | ไม่ยลไม่ยินไก่ขาน | ||
ค่อยหลับสุขสันต์สำราญ | เบิกบานความฉลาดปัญญา | ||
แต่เรื่องกลับตาลปัด | การจัดระเบียบเคหา | ||
ยายไม่รู้เรื่องนาฬิกา | เวลาต้องไก่บอกยาย | ||
ไก่ขันยายตื่นนานเนิ่น | บังเอิญเงียบเสียงไก่หาย | ||
เลยตื่นก่อนเวลามากมาย | ปลุกเรียกสองสาวทำงาน | ||
บางคืนโดนปลุกสองหน | สองคนยากจักไขขาน | ||
มิกล้าขัดยายทำการ | หนักยิ่งกว่าเดิมเวรกรรม | ||
อันคนคิดไม่ซื่อตรง | คงหาอุบายถลำ | ||
คดโกงเอาเปรียบประจำ | จึงทำนอกรีตนอกรอย | ||
มินานผลกรรมตามทัน | แปรผันผลสุขถดถอย | ||
กลับเป็นทุกข์โทษที่คอย | ตามทันซ้ำเติมลำเค็ญ | ||
76. หนูกบกับเหยี่ยว | |||
หนูน้อยหากินใกล้หนอง | ท่องไปไม่นานได้เห็น | ||
คุณกบคุยกันได้เป็น | เพื่อนเล่นเพื่อนตายชอบใจ | ||
ทุกวันออกมาหากิน | ยินดีบอกวานขานไข | ||
กบจับตั๊กแตนยากไซร้ | หนูไล่ตะครุบฝากมัน | ||
หนูมันอยากกินข้าวเปลือก | กบเลือกทุ่งนาเลือกสรร | ||
ข้าเห็นรวงข้าวสาระพัน | ไปกันเลือกเก็บกินสบาย | ||
สองรักผูกพันเช่นนี้ | ยินดีรักกันสองสหาย | ||
สองเราเมื่อเป็นเพื่อนตาย | ดีร้ายจักดูแลกัน | ||
เสียดายที่มีอุปสรรค | ข้ามักเดินช้าน่าขัน | ||
หนูเอ็งเดินวิ่งเร็วพลัน | ข้าตามไม่ทันแน่นอน | ||
หนูว่าถ้าขามัดไว้ | ล่ามเชือกเอาไว้ไม่ถอน | ||
ไปไหนได้ด้วยแรมรอน | ตอนสุขสุขด้วยเสมอใจ | ||
ตกลงผูกขากบหนู | เป็นคู่เพื่อนตายดีไฉน | ||
เพลินเที่ยวหากินกันไป | ถึงหนองบึงใหญ่ยินดี | ||
กบโดดลงน้ำดำดิ่ง | หนูหริ่งจมน้ำยากหนี | ||
มินานจบสิ้นชีวี | มีมีอากาศหายใจ | ||
นกเหยี่ยวผ่านมาแลเห็น | ดังเช่นหนูนาสงสัย | ||
โฉบลงจับหนูทันใด | แถมได้กบน้อยอีกตัว | ||
เหตุเพราะกบเพลินเกินสนุก | มิเห็นทุกข์เพื่อนน่าหัว | ||
สุดท้ายอันตรายพันพัว | ถึงตัวฉิบหายด้วยกัน | ||
77. หนูกับหอยมุก | |||
อดีตกาลนานปี | มีหนูโง่เง่าหนึ่งนั้น | ||
นึกอยากเที่ยวไปสำคัญ | โลกนี้คงจักสวยงาม | ||
อยากชวนเพื่อนไปด้วยกัน | สำคัญพวกเขาคงถาม | ||
ติดตามคงน่ารำคาญ | เดินทางคงเดียวคงดี | ||
รุ่งเช้าอากาศแจ่มใส | เดินไปบูรพาวิถี | ||
นกการ่ำร้องมากมี | อึงมี่ไม่เปลี่ยวเดียวดาย | ||
มองเห็นจอมปลวกใหญ่โต | โอ้โฮภูเขาใจหาย | ||
แปลกดีมีอยู่มากมาย | บุญแล้วได้มาพบพาน | ||
หนูอื่นไม่มีวาสนา | โลกากว้างใหญ่ไพศาล | ||
เหมาะกับผู้ปรีชาชาญ | แบบข้านี่แหละแน่นอน | ||
ผ่านไปได้เจอหนองน้ำ | เคยยินคำแม่กล่าวสอน | ||
แบบนี้ทะเลข้าจร | มาพบคนแรกแปลกใจ | ||
พวกหนูอื่นคงอิจฉา | หูตากว่ากว้างไฉน | ||
ชื่อเสียงข้าคงเกริกไกร | เพราะได้รอบรู้นานา | ||
มินานมาถึงแม่น้ำ | จำได้ทะเลฝันหา | ||
อยากเห็นทะเลตัวข้า | บุญพาได้พบสมใจ | ||
มาถึงทะเลริมหาด | ประหลาดมันกว้างจริงไฉน | ||
อันนี้มหาสมุทรมองไป | ไกลสุดลูกหูลูกตา | ||
มันเพลินลัดเลาะชายหาด | ทรายสะอาดชวนฝันหรรษา | ||
ชื่นชมลมเย็นพัดมา | หอยมุกปากอ้าแปลกใจ | ||
ตรงกาบคงมีอาหาร | บันดาลให้หิวสงสัย | ||
ลองมุดไปดูทันใด | หอยงับกาบไว้เวรกรรม | ||
อันพวกงี่เง่าเต่าตุ่น | ลงทุนท่องโลกน่าขำ | ||
เห็นผิดรู้ผิดประจำ | ยังทำเป็นเก่งอวดดี | ||
ถึงคราวพบพานอุปสรรค | ก็มักหมดท่ายากหนี | ||
อวดกล้าอวดเด่นมากมี | ที่แท้ต่ำต้อยรำคาญ | ||
78. หมากับเงา | |||
มีหมาหนุ่มน้อยหนึ่งตัว | เดินทั่วตามตลาดอาจหาญ | ||
ทำเหมือนมันมาตรวจ การ | เช้าผ่านตลาดสดทุกวัน | ||
สายหน่อยมันโผล่ที่วัด | พบหมาจรจัดพร้อมสรรพ์ | ||
คืนค่ำไปบาร์ผับพลัน | อเนกอนันต์อาหารดีดี | ||
ยามเช้าวันจันทร์ปกติ | ดำริตลาดใหญ่ไม่หนี | ||
พบเนื้อก้อนใหญ่เข้าที | คาบได้เร็วรี่รีบไป | ||
หลบหลีกจนออกนอกบ้าน | มินานแม่น้ำลึกไหล | ||
ขวางทางสะพานท่อนไม้ | พาดให้เดินข้ามแคบเกิน | ||
ค่อยค่อยไต่ไปดูเท้า | พลาดเข้าตกน้ำนึกเขิน | ||
คงเปียกหากมัวคิดเพลิน | เดินไม่ระวังตกลง | ||
แลดูสายน้ำใครหนา | เหมือนหมางี่เง่าพิศวง | ||
คาบเนื้อก้อนโตงุนงง | แปลกตรงใหญ่กว่าของเรา | ||
แบบนี้มันมาท้าทาย | หมายจักแย่งเนื้อของเขา | ||
ปล่อยเนื้อจากปากมิเอา | จักเข้าแย่งเนื้อจากมัน | ||
เนื้อหลุดลงน้ำจมหาย | อ้ายบ้าก็คงหุนหัน | ||
ปล่อยเนื้อหลุดปากเช่นกัน | เนื้อสันอย่างดีหายไป | ||
เดินข้ามถึงฝังหวังแย่่ง | มันแปลงกายวับสงสัย | ||
ลับหายพร้อมเนื้อก้อนใหญ่ | อดได้กินเนื้อก้อนโต | ||
อันลาภสักการน้อยนิด | ใกล้ชิดในมือในโถ | ||
มีค่าอย่าพาลพาโล | โมหะอยากได้ไกลมือ | ||
หาไม่จักพลอยเสื่อมลาภ | เนื้อติดปากคาบไม่ถือ | ||
หลุดลอยไปได้เสียชื่อ | เขาเรียกคนโง่ด่าเอา | ||
79. หมาจิ้งจอกกับแกะและผู้ตัดสิน | |||
ยังมีจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ | เกเรหาเรื่องแกะเขา | ||
บอกว่าเป็นหนี้ไม่เบา | หลายแสนไม่ใช้สักที | ||
มันตามไปทวงถึงถิ่น | ได้ยินแล้วหนาอย่าหนี | ||
แกะงงไม่รู้ไม่ชี้ | มิเคยไปยืมเงินใคร | ||
ฉันกินแต่หญ้าหาง่าย | มากมายมองดูทางไหน | ||
มิอดมิอยากทำไม | จักเป็นหนี้สินกับเอ็ง | ||
จิ้งจอกว่าเอ็งปากแข็ง | เป็นหนี้ยังแกล้งข่มเหง | ||
มาทวงกลับร้องตะเบ็ง | อวดว่าไม่เคยยืมเรา | ||
แบบนี้ต้องหาบัณฑิต | ช่วยคิดไปพึ่งพวกเขา | ||
พวกนี้เที่ยงธรรมบรรเทา | รอบรู้กฏหมายคดี | ||
จิ้งจอกชวนแกะเข้าป่า | ไปหาตลาการวิถี | ||
หนึ่งนั้นคือเจ้าอินทรีย์ | ยังมีหมาป่าอีกตัว | ||
จิ้งจอกบรรยายคำฟ้อง | เรียกร้องกล่าวโทษชวนหัว | ||
แกะเป็นหนี้มันพันพัว | มึนมัวไม่ยอมใช้คืน | ||
อินทรีย์ปรึกษาหมาป่า | ประกาศอาญายากฝืน | ||
เป็นหนี้ถึงจนทนกลืน | ใช้เขาจึงถูกจึงควร | ||
บอกปัดผัดผ่อนไม่ได้ | ไล่เรียงระบอบสอบสวน | ||
โทษหนักมาตราประมวล | ประหารเร็วพลันอาญา | ||
พวกมันจัดการฆ่าแกะ | ชำแหละกินกันหรรษา | ||
อันพวกโง่เขลาปัญญา | ย่อมตกเป็นเหยื่อชนพาล | ||
แถมยังฉลาดแกมโกง | เชื่อมโยงผิดถูกประสาน | ||
ยกเป็นข้ออ้างดักดาน | ประกอบบาปกรรมทำมา | ||
80. หมาจิ้งจอกกับคนตัดไม้ | |||
ยังมีจิ้งจอกตัวหนึ่ง | ถึงคราวอับจนนักหนา | ||
พรานไพรมันไล่กวดมา | สุนัขล่าเนื้อติดตาม | ||
มันวิ่งหนีสุดชีวิต | เพียงคิดพบใครได้ถาม | ||
ขอความช่วยเหลือสักยาม | เพียงพ้นอยู่รอดชีวี | ||
มินานพบคนตัดไม้ | แวะไปช่วยเราบ้างถี | ||
พรานไพรสุนัขมากมี | กวดตามมานี้แน่นอน | ||
วอนหาที่หลบภัยบ้าง | บอกทางปลอดภัยได้สอน | ||
พระคุณครานี้อาทร | วันหน้าทดแทนเมตตา | ||
ชายคนตัดไม้ชี้บอก | นึกออกในบ้านฉันหนา | ||
ข้างเตียงหลบดีเพื่อนยา | นอกนั้นข้าจักจัดการ | ||
สักครูพวกไล่มาถึง | เขาจึงบอกได้ไขขาน | ||
ไม่เคยพบเห็นมานาน | จิ้งจอกที่ท่านติดตาม | ||
แอบชี้มือไปในบ้าน | นายพรานมิรู้มิถาม | ||
ออกเดินผ่านไปในยาม | สักครู่ก็หายลับไป | ||
จิ้งจอกออกมาจักหลับ | ลาลับมิยอมขานไข | ||
มิยอมขอบคุณใดใด | เจ้าบ้านสงสัยครามครัน | ||
จึงถามจิ้งจอกเนรคุณ | ทำบุญแล้วไม่สร้างสรรค์ | ||
ช่วยแกไม่รู้คุณกัน | วันหน้าอย่าพบกันเลย | ||
จิ้งจอกขำขันพลันตอบ | ทำชอบพึงทำเปิดเผย | ||
มิใช่ปากดีแกล้งเอ่ย | จักช่วยให้รอดปลอดภัย | ||
แต่มือชี้บอกศัตรู | สัญญาณให้รู้ตรงไหน | ||
ข้าซ่อนหวาดกลัวจับใจ | ทำได้ลงคอหนอคน | ||
เขาเรียกพวกมือถือสาก | พวกปากถือศีลสับสน | ||
อย่างนี้ยังมาอวดตน | ทำคุณเอาบาปไม่กลัว | ||
81. หมาจิ้งจอกกับจระเข้ | |||
อตีตากาเล | ยังมีจรเข้หนึ่งตัว | ||
ชอบอวดเก่งนักไม่กลัว | ศักดาสูงส่งเกินใคร | ||
คนอื่นมิอยากเป็นเพื่อน | เพราะคุยเลอะเลือนนั่นเอง | ||
วันหนึ่งมันเจอจิ้งจอก | จึงบอกคุยโขมงโฉงเฉง | ||
พวกข้าสกุลนักเลง | เขาเกรงกันทั่วตัวจริง | ||
ผิวหนังเหนียวกัดมิเข้า | เจ้าชู้เก่งเที่ยวเกี้ยวหญิง | ||
ปู่ชาลวันเคยชิง | สองสาวตะเภาแก้วตะเภาทอง | ||
ไตรเทพเวทมนต์เชิงเชี่ยว | เทียวไปไตรภพทั้งผอง | ||
ต้นตระกูลคือเทพเรืองรอง | นามก้องเทพไดใหญ่โต | ||
จิ้งจอกยินแล้วหัวร่อ | พอแล้วชักมีโมโห | ||
เทพไดซอรัสฮิปโป | พวกไดโนเสาร์ล่ะซี | ||
ดูรูปหาหล่อยากนัก | อัปลักษณ์น่าอายหน่ายหนี | ||
ชอบแช่น้ำเน่าตลอดปี | ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวจัญไร | ||
แหมยังมีหน้ามาอวด | ตะกวดหล่อกว่าไหนไหน | ||
ห่างห่างฉันหน่อยรีบไป | คลื่นใส้มันเหม็นขี้ฟัน | ||
อันคนขี้โม้โอ้อวด | เขาสวดว่ามิสร้างสรรค์ | ||
คุณค่ามิมีสักอัน | ต่ำชั้นด้อยค่าน่าอาย | ||
82. หมาจิ้งจอกกับนกกระสา | |||
เขาว่าพวกหมาจิ้งจอก | กลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย | ||
มีเรื่องร่ำลือมากมาย | จนกลายมาเป็นตำนาน | ||
นี่ก็เรื่องของจิ้งจอก | เขาบอกเล่าไว้ไขขาน | ||
อีสปเชี่ยวเชิงนิทาน | เคยอ่านเคยรู้เรื่องราว | ||
เจ้าหนุ่มจิ้งจอกในดง | หลงเคี้ยวกินปลาหน้าหนาว | ||
ก้างปลาติดคอชิ้นยาว | ยากคราวสำรอกออกมา | ||
มันติดมิยอมหลุดออก | ไปบอกเพื่อนเพื่อนเสาะหา | ||
ให้ช่วยจัดการก้างปลา | ต่างหมดปัญญาช่วยมัน | ||
จนคออักเสบปวดร้าว | เคยห้าวเหี้ยมหาญน่าขัน | ||
เจ็บป่วยครวญครางทุกวัน | สำคัญนกฮูกตาโต | ||
ได้ยินเสียงครางสงสาร | ไปวานหมอซิพิโถ | ||
ชื่อนกกระสาพาโล | เอ็งโง่ทำไมมิไป | ||
จิ้งจอกฟังคำจำจด | ทนอดเจ็บปวดไฉน | ||
คลินิกกระสามิไกล | มันได้พบหมอมินาน | ||
หมอนกกระสาตรวจสอบ | ระบอบระเบียนไขขาน | ||
ให้อ้าปากดูรู้การ | ชำนาญดึงก้างออกมา | ||
ปากยาวประโยชน์ดีมาก | ลำบากแค่ลองแลหา | ||
เห็นก้างประจักษ์แก่ตา | มิช้าดึงออกได้พลัน | ||
เจียดยาแก้ปวดให้ด้วย | ค่าช่วยรักษาพร้อมสรรพ์ | ||
คิดเพียงสองร้อยช่วยกัน | สำคัญจิ้งจอกเปลี่ยนใจ | ||
มันบอกสองร้อยน้อยนิด | คิดเทียบคุณข้าอสงไขย | ||
ยามเจ้ายื่นปากเข้าไป | ข้ายอมอดให้เมตตา | ||
ไม่กินเจ้าเป็นจานเด็ด | เหมือนเป็ดเหมือนไก่นั่นหนา | ||
บุญคุณที่ไว้ชีวา | มากกว่าสองร้อยแน่นอน | ||
ยังจะมาถามให้จ่าย | อยากตายหรือไรใครสอน | ||
เพราะข้าเมตตาอาวรณ์ | หาไม่ม้วยมรณ์แน่จริง | ||
อันคนนิสัยพวกพาล | สันดานรังแกชายหญิง | ||
เอาเปรียบข่มเหงยากติง | จักแก้จักสอนยากเย็น | ||
หารู้คุณใครโดยง่าย | เสียดายที่รู้ที่เห็น | ||
กลับตัวยากยิ่งจักเป็น | ดังเช่นจิ้งจอกน่าอาย | ||
83. หมาจิ้งจอกกับแพะ | |||
เรื่องราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ | สนเท่ห์ใจนักเหลือหลาย | ||
เขาให้สวมบทผู้ร้าย | มากมายตำนานดำเนิน | ||
วันหนึ่งวิ่งไล่จับสัตว์ | ลัดเลาะดักเลียบเขาเขิน | ||
กะรอกกะแตมัวเพลิน | บังเอิญจับได้ยินดี | ||
อิ่มท้องภูมิใจตนฉลาด | สามารถจับสัตว์ศักดิ์ศรี | ||
เพราะด้วยปัญญามากมี | ยากหนีพ้นมือแห่งเรา | ||
กระหยิ่มยิ้มย่องพองขน | วิ่งวนแวะเวียนเนินเขา | ||
มินานตกบ่องี่เง่า | ที่แท้ยังเยาว์ปัญญา | ||
ขอบบ่อก็สูงเกินนัก | ยากจักปีนพ้นเสาะหา | ||
วิธีหลุดพ้นนานา | หมดท่าจิ้งจอกถอดใจ | ||
จำเกาะข้างบ่อนิ่งนิ่ง | ประวิงกำลังสงสัย | ||
คงมีทางรอดปลอดภัย | ไม่นานแพะโง่โผล่มา | ||
เห็นบ่อหิวน้ำเหลือหลาย | มันหมายดื่มกินแลหา | ||
แลเห็นจิ้งจอกจมชลา | สงกาสอบถามเรื่องราว | ||
น้ำลึกหรือตื้นตรงกลาง | บอกบ้างใยหน้าซีดขาว | ||
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์แพรวพราว | เลยลวงแพะโง่จงดู | ||
รสน้ำฉ่ำเย็นสดชื่น | ข้ายืนเฝ้านานเหิงสู | ||
หวานหอมหากแกอยากรู้ | รออยู่กระโดดลงมา | ||
เจ้าแพะโง่เง่ากระหาย | ลืมตายยินดีนักหนา | ||
กระโดดลงบ่อมิช้า | เสียท่าจิ้งจอกมันไป | ||
จิ้งจอกกระโดดขี่หลัง | ขึ้นฝั่งรวดเร็วไฉน | ||
แพะโง่ประสบเภทภัย | เพราะไร้สติไต่ตรอง | ||
ยามพบสบกิจน้อยใหญ่ | ควรใคร่ก่อนตอบสนอง | ||
รอบคอบดีตามครรลอง | หาไม่จักต้องวุ่นวาย | ||
84. หมาจิ้งจอกกับเม่น | |||
หมาจิ้งจอกหิวน้ำเห็นธาร | ลนลานดีใจเหลือหลาย | ||
มิดูน้ำไหลมากมาย | ลืมตายกระโจนลงไป | ||
ดื่มกินอิ่มแล้วผวา | น้ำมันพัดพาแรงไฉน | ||
ติดอยู่ซอกหินดิ้นใหญ่ | ยังไม่หลุดรอดออกมา | ||
ต้องรอน้ำลดอีกนาน | บันดาลเจ็บปวดนักหนา | ||
แง่หินขูดขีดกายา | เลือดซึมทั่วน่าเจ็บใจ | ||
ฝูงเหลือบซ้ำเติมดูดเลือด | นึกเดือดยากดิ้นไฉน | ||
จำปล่อยพวกมันดูดไป | ทนไว้นิ่งอยู่คอยรอ | ||
เจ้าเม่นผ่านมาท่าน้ำ | นึกขำแลเห็นโอหนอ | ||
จิ้งจอกทุกข์ทนมากพอ | อยากขอช่วยไล่เหลือบมัน | ||
จิ้งจอกขอบคุณไม่ต้อง | หากลองคิดดูพร้อมสรรพ์ | ||
ดูดเลือดอิ่มถ้วนหน้ากัน | พลันเกาะนิ่งอยู่นั่นแล | ||
หากไล่มันไปแล้วไซร้ | ฝูงใหม่มาตามกระแส | ||
ดูดเลือดอีกครั้งคงแด | ตายแน่น้องเอ๋ยปล่อยวาง | ||
อันความทุกข์ยากใดใด | ควรใคร่ตริตรองสะสาง | ||
อาจต้องรับทุกข์น้อยพลาง | ละข้างทุกข์หนักปล่อยไป | ||
ความฉลาดผ่อนหนักเป็นเบา | เป็นเชาวน์ควรมีดีไฉน | ||
จักช่วยผ่านพ้นผองภัย | สอนใจดีหลากมากมาย | ||
85. หมาจิ้งจอกกับราชสีห์ | |||
ยังมีสุนัขจิ้งจอก | กลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์เหลือหลาย | ||
ฟังว่ามันอยากมีนาย | หมายว่าเป็นเจ้าสิงโต | ||
มันเข้าไปหาราชสีห์ | พาทีอย่าเพิ่งโมโห | ||
ข้าขอรับใช้คงโก้ | ใช่พาลพาโลจริงใจ | ||
ท่านเดินป่าเขาจักช่วย | เดินด้วยมีกิจไหนไหน | ||
ยินดีอาสารับใช้ | แล่นไล่ล่าสัตว์ยินดี | ||
ตกลงสิงโตรับไว้ | คนใช้จิ้งจอกสามสี | ||
ถึงวันผ่านเข้าพงพี | มันวิ่งเร็วรี่ติดตาม | ||
สักครู่ได้กลิ่นสาบเนื้อ | ไม่เบื่อมิเคยเข็ดขาม | ||
พุ่มไม้ข้างหน้าคุกคาม | ยามเห่าเนื้อวิ่งออกมา | ||
ราชสีห์จับได้อิ่มท้อง | มองดูขอบใจเจ้าหนา | ||
จมูกดีช่วยตามไล่ล่า | กวางป่ายากรอดเงื้อมมือ | ||
จิ้งจอกภูมิใจนายชม | นิยมคำยอนับถือ | ||
คราวหลังข้าขอไว้ชื่อ | ให้ลือไล่จับเนื้อเอง | ||
วันหนึ่งได้พบกวางใหญ่ | จิ้งจอกออกไล่ข่มเหง | ||
กระโดดขี่หลังไม่เกรง | มันเร่งจักกัดกวางไพร | ||
กวางพาวิ่งหนีสุดฤทธิ์ | มาติดหน้าผาสงสัย | ||
วิ่งอ้อมผ่านหน้าพรานใหญ่ | จึงได้ถูกปืนนายพราน | ||
ล้มตายทั้งกวางทั้งหมา | เขาว่าเรื่องราวกล่าวขาน | ||
ทะนงตัวเกินไปไม่นาน | จักพานประสบพบภัย | ||
วางตัวพอดีมีสมถะ | รู้จักจังหวะแบบไหน | ||
ควรทำควรละกิจใด | รู้ไว้เป็นมงคลนา | ||
86. หมาจิ้งจอกกับหน้ากาก | |||
นิทานจิ้งจอกกลอกกลิ้ง | มากจริงจนนึกกังขา | ||
มันเลวเขาจึงนินทา | มิมีดีบ้างหรือไร | ||
เรื่องนี้เล่าว่ามันฉลาด | สามารถเชี่ยวชาญขานไข | ||
คราวหนึ่งมันแอบเข้าไป | หากินที่บ้านดารา | ||
เคยได้ขนมนมเนย | เลยรุกอีกทีลองหา | ||
ของกินคงมีปูปลา | เจ้าของไม่อยู่สดวกดี | ||
ได้ของกินอิ่มเดินดู | อยากรู้ทางหลบหลีกหนี | ||
ห้องหับเขาจัดมากมี | มาถึงที่ห้องแต่งตัว | ||
แลเห็นหน้าคนงามสง่า | แปลกตามีแต่ส่วนหัว | ||
มันจ้องมองดูน่ากลัว | ตกใจกระโจนออกมา | ||
ลองนึกอีกทีสงสัย | ทำไมเงียบเสียงเจียวหนา | ||
ถ้าคนคงร้องออกมา | บ่นด่าไล่กวดไล่ตี | ||
เลยย่องกลับไปดูใหม่ | ได้รู้หน้ากากหลากสี | ||
ข้างในกลวงกลวงแปลกดี | ไม่มีอะไรน่ากลัว | ||
อันภาพที่ตามองเห็น | บางทีเป็นเรื่องชวนหัว | ||
ดูงามสง่าถ้วนทั่ว | แท้จริงแค่ภาพลวงตา | ||
บางคนท่วงทีดังปราชญ์ | คงฉลาดคนอยากคบหา | ||
ตัวจริงกลับด้อยปัญญา | มันน่าหัวร่อมากมาย | ||
87. หมาจิ้งจอกหมาป่าและม้า | |||
โบราณเขาว่าจิ้งจอก | กลับกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย | ||
ตัวเล็กกลโกงมากมาย | คุณยายท่านเล่านิทาน | ||
ลูกหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง | ถึงเล็กแต่มันอาจหาญ | ||
กล้าพูดกล้าทำชำนาญ | ฉลาดทันการทันกล | ||
มีเพื่อนเป็นลูกหมาป่า | ปัญญาค่อนข้างสับสน | ||
คิดช้าไม่ค่อยทันคน | อวดตนว่าเป็นผู้ดี | ||
วันหนึ่งจิ้งจอกเดินเล่น | เห็นม้าชาวบ้านวิ่งหนี | ||
ผ่านมาใกล้มันรอรี | ท่วงทีสง่าเหลือเกิน | ||
มันกลับเจอเพื่อนหมาป่า | บอกข้าเดินเล่นตรงเนิน | ||
พบตัวแปลกตามันเดิน | เล็มหญ้ากินเพลินข้าดู | ||
รูปหล่อคล้ายข้าแต่ตัวใหญ่ | คืออะไรข้าอายอดสู | ||
นึกมิออกยากบอกให้รู้ | มันอยู่ตรงโน้นน่ะนาย | ||
หมาป่ายืดอกไม่ยาก | ลำบากข้าไปเดี๋ยวหาย | ||
ข้ารู้ปัญญามากมาย | เพื่อนชายมาไปดูกัน | ||
สักครู่ก็มาเห็นม้า | จิ้งจอกวางท่าขบขัน | ||
ร้องถามตัวใหญ่สำคัญ | เอ็งมันตัวอะไรบอกที | ||
ม้ามองลูกหมาทั้งคู่ | ย่อมรู้ไม่ประสาประสี | ||
แกล้งบอกที่เกือกข้ามี | ชื่อที่ช่างสลักชัดเจน | ||
จิ้จอกมองหน้าเพื่อนรัก | รู้จักฉันใดไม่เห็น | ||
หนังสืออ่านได้ยากเย็น | เป็นคนไม่ได้ร่ำเรียน | ||
หมาป่าภูมิใจไว้ข้า | ผ่านมาปอหกขีดเขียน | ||
อ่านได้ไม่ยากพากเพียร | แกเซียนสอบตกประจำ | ||
หมาป่าเดินดูใกล้ใกล้ | จักอ่านให้ชัดชักขำ | ||
เลยโดนม้าถีบเคราะห์กรรม | เพราะทำเป็นเก่งวิชชา | ||
ความรู้ร่ำเรียนทุกคน | แต่กลการใช้ให้หา | ||
ฉลาดคิดฉลาดกลปัญญา | พึ่งพาเชาวน์ชาญเฉพาะตน | ||
คนโง่ก็เรียนรู้ได้ | ยามใช้ยุ่งยากสับสน | ||
ใช้ผิดยุ่งยากวนวน | เล่ห์กลฝึกไว้เชิงชาย | ||
88. หมาจิ้งจอกหางด้วน | |||
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง | ถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย | ||
เคยเที่ยวลักไก่มากมาย | ผู้คนเบื่อหน่ายระวัง | ||
เขาวางกับดักเอาไว้ | มีไก่ชาวบ้านจับขัง | ||
ในเล้ารอบข้างยายยัง | กับตั้งเรียงรายหลายอัน | ||
ที่สุดก็พลาดจนได้ | กลไกกับดักผลักผัน | ||
งับหางจิ้งจอกขาดพลัน | มันดิ้นหลุดรอดออกไป | ||
แผลหายหลายวันเจ็บนัก | หางเคยน่ารักพิสมัย | ||
กลายเป็นหางกุดเสียใจ | ไฉนจึงช่างมาเป็น | ||
พอดีนึกออกอุบาย | สุนัขทั้งหลายมาเห็น | ||
หางด้วนน่าอายลำเค็ญ | เว้นแต่หางด้วนทุกตน | ||
จำต้องเรียกประชุมใหญ่ | ฟังไว้โปรดอย่าสับสน | ||
ข้ามีเรื่องราวชอบกล | ช่วยให้หลุดพ้นทุกข์ใจ | ||
หาวยาวพ่วงพีดีดอก | แต่พอตัดออกดีไฉน | ||
คล่องตัวเดินเหินว่องไว | เสีอไล่ก็ยากจักทัน | ||
เพราะรักเอ็นดูพวกเรา | สูเจ้ามาตัดพร้อมสรรพ์ | ||
หางกุดคุณค่าสาระพัน | ฉันแจ้งประจักษ์ชัดเจน | ||
เซ็งแซ่หลายตัวสนับสนุน | ขอบคุณหัวหน้าข้าเห็น | ||
อยากตัดข้าอยากจักเป็น | เช่นท่านหางกุดคงงาม | ||
หมาใหญ่ตัวหนึ่งได้ยิน | ผินหน้าสงสัยไถ่ถาม | ||
เห็นชอบวิ่งเร็วทุกยาม | เชื่อตามที่ท่านบอกมา | ||
แต่ที่เคยทราบก่อนนี้ | ตอนที่ยืนเดินยากหนา | ||
ทำให้พวกเราเดินช้า | แถมยังขาเป๋สิ้นดี | ||
ไม่จริงจักเดินให้ดู | เสียรู้เสียศักดิ์เสียศรี | ||
เขาเห็นหางด้วนทันที | หมาใหญ่จึงชี้เรื่องราว | ||
ที่แท้เอ็งโดนตัดหาง | มาอ้างดำว่าเป็นขาว | ||
หมาหมาส่งเสียงเกรียวกราว | เป็นเรื่องฉาวโฉ่น่าอาย | ||
อันคนปกติทำชั่ว | กลัวคนอื่นทราบเสียหาย | ||
อ้างชั่วเป็นดีกลับกลาย | เรื่องร้ายว่างามหลอกลวง | ||
หากคนเขารู้เท่าทัน | อาจเสียเพื่อนรักเพื่อนหวง | ||
ยามเขารู้กันทั้งปวง | ทักท้วงได้ขายหน้าตา | ||
89. หมาดุ | |||
ชาวบ้านเลี้ยงสัตว์ ตัวหนึ่ง | ดื้อดึงดุร้ายเป็นหมา | ||
ชอบแอบกัดคนนานา | เจ้าขอระอาเหลือเกิน | ||
จึงหากระพรวนผูกคอ | ดังเสียงเกราะลอเพราะพลิน | ||
ไว้บอกเวลามันเดิน | บังเอิญให้คนได้ยิน | ||
จักได้เตรียมตัวต่อสู้ | ย่อมรู้วิธีตัดสิน | ||
มีไม้สักท่อนก้อนดิน | ปาบินใส่หัวมันไป | ||
เจ้าหมายินดีเหลือหลาก | หายากเครื่องประดับสดใส | ||
สุดยอดงามสง่าวิไล | เที่ยวได้อวดเขาชื่นชม | ||
คุณหมาสาวสาวเชื่อสนิท | อยากชิดพาทีดีสม | ||
พี่ท่านสง่างามนิยม | พรหมท่านส่งพี่ลงมา | ||
สุนัขหนุ่มหนุ่มกลุ้มจิต | เห็นสาวใกล้ชิดอิจฉา | ||
ทำไมนายของพวกข้า | ไม่มาให้ผูกสักอัน | ||
ความทราบถึงหมาผู้ใหญ่ | รู้นัยเรื่องที่หมาฝัน | ||
จึงบอกกล่าวเรื่องสำคัญ | ต่างกันกับเธอรู้มา | ||
เขาผูกระพรวนที่คอ | เทียวจ้อยินดีนักหนา | ||
ทำไมลองใช้ปัญญา | เพราะหมาตัวนั้นดุเกิน | ||
เขาติดสัญญาณเตือนจิต | เพียงคิดข้ายังนึกเขิน | ||
ยามมันจักวิ่งจักเดิน | บังเอิญกระพรวนดังไกล | ||
ผู้คนเขาจักรู้ตัว | มิกลัวเตรียมการไหนไหน | ||
ก้อนดินอิฐหินเตรียมไว้ | หมาไล่ต้องโดนเจ็บตัว | ||
อันคนประพฤติไม่ดี | เขามีเครื่องหมายน่าหัว | ||
ตั้งชื่อนักเลงน่ากลัว | ยังมัวโอ้อวดทำไม | ||
90. หมาป่ากับแกะโง่ | |||
กาละครั้งหนึ่งนานแล้ว | ยายแก้วเล่านิทานขานไข | ||
อีสปหลายเรื่องชอบใจ | จำไว้หมาป่าแสนกล | ||
นับแต่เจ้าของฝูงแกะ | หมั่นแวะมาเฝ้าทุกหน | ||
จับแกะยากเย็นกลัวคน | ลำบากลำบนจริงจริง | ||
มีหมาเลี้ยงแกะมาช่วย | สุดซวยเหลือเกินน้องหญิง | ||
หมาป่าคุยกันติติง | บ้างนิ่งนึกหาอุบาย | ||
จ่าฝูงนึกออกบอกได้ | จักให้เป็นทูตโฉมฉาย | ||
เธอสาวเธอสวยแพรวพราย | พูดจาน่าเชื่อศรัทธา | ||
สุนัขสาวสวยรับคำ | จดจำอุบายไปหา | ||
พบพานฝูงแกะเจรจา | ตัวข้าเป็นทูตไมตรี | ||
พวกหมาในป่าส่งสาร | ถึงท่านแกะศักดิ์ทรงศรี | ||
เมื่อก่อนพวกเราไม่ดี | ราวีพวกท่านระราน | ||
ไมตรีสองฝ่ายห่างเหิน | ยากเกินที่จักประสาน | ||
พวกเราสำนึกบาปพาล | หวังท่านโปรดได้อภัย | ||
สองฝ่ายเป็นมิตรชิดเรือน | เป็นเหมือนญาติกันขานไข | ||
สะดวกจักมาจักไป | มิต้องกลัวภัยระราน | ||
มิต้องให้หมามันคุม | น่ากลุ้มมันเห่ามันหาญ | ||
ขู่กัดท่านแกะรำคาญ | ควรไล่จากบ้านพวกเรา | ||
อยากเดินเที่ยวดงบ้านข้า | มีหมาพวกฉันไม่เหงา | ||
สนุกเที่ยวชมไพรไม่เบา | เชิญท่านเข้าป่าตามสบาย | ||
แกะเขลาหลงเชื่อคำหวาน | เลยพาลพวกหมาไม่หาย | ||
ต้อนหน้าต้อนหลังวุ่นวาย | หลายตัวหลบลี้หลีกไป | ||
พบพวกหมาป่าพาเที่ยว | สนุกเชียวมินึกสงสัย | ||
ตกเย็นมาส่งเข้าใจ | เชื่อได้เขามีไมตรี | ||
ฝูงแกะหลงชื่อมากเข้า | หูเบาชวนกันแอบหนี | ||
หลายตัวหลงป่าพงพี | มีบ้างหมาป่าจับไป | ||
อันคนขาดเขลาปัญญา | ถูกล่าถูกหลอกมิสงสัย | ||
เชื่อง่ายเชื่อเร็วเชื่อใจ | ประสบพบภัยง่ายดาย | ||
91. หมาป่ากับลูกแกะ | |||
ส่ำสัตว์ในป่าใหญ่ | อาศัยลำธารกระหาย | ||
เร่าร้อนลอยธารคลาคลาย | ดื่มกินน้ำเย็นสบายดี | ||
ลูกแกะลอยเล่นทวนน้ำ | สำราญลืมภัยลืมหนี | ||
เหนือน้ำหมาป่าคอยที | ตะโกนด่าแกะบ้าจริง | ||
ชาติชั่วลุยน้ำลุยโคลน | กระโจนเล่นยังกับหญิง | ||
น้ำขุ่นเมือไรจักนิ่ง | กำลังกระหายอยู่เลย | ||
แกะน้อยร้องตอบนายท่าน | วานดูมั่งอย่าทำเฉย | ||
ต้นน้ำที่ท่านนั่งเคย | ไหลมาที่ข้านี่นา | ||
แล้วมันจักขุ่นอย่างไร | หมาป่าว่าจริงของแก | ||
ปีกลายข้ายังจำได้ | ใช่เอ็งลอยกวนกระแส | ||
น้ำขุ่นข้าหิวย่ำแย่ | ดื่มน้ำไม่ได้เพราะเธอ | ||
แกะน้อยหัวร่องอหงาย | ปีกลายที่อ้างน่ะเหรอ | ||
ข้ายังมิเกิดนะเออ | จะทำน้ำขุ่นอย่างไร | ||
หมาป่าบอกอย่าพูดมาก | ถ้าหากเอ็งยังสงสัย | ||
ชาติก่อนจริงแท้ประไร | เอ็งกวนน้ำขุ่นแน่นอน | ||
ว่าแล้วจับแกะกัดกิน | ดับดิ้นในอุ้งมือมาร | ||
วิสัยพาโลมีเหตุ | หาเลศทำชั่วบอกขาน | ||
มากมายข้ออ้างทำการ | สันดานแก้ยากจริงมัน | ||
92. หมาไล่เนื้ออายุมาก | |||
เจ้าดำเป็นหมาล่าเนื้อ | เมื่อหนุ่มกำยำล่ำสัน | ||
นายพรานให้ความสำคัญ | เห็นมันเป็นหมาเทวดา | ||
วันไหนจักไปไล่เนื้อ | ดีเหลือเจ้าดำเรียกหา | ||
ดำเอ๋ยลูกพ่อตามมา | เดินป่าล่าเนื้อด้วยกัน | ||
ทุกคราวมิเคยผิดหวัง | พลังเจ้าดำดังฝัน | ||
ไล่เนื้อด้วยดีตามทัน | เสร็จมันทุกทีร่ำไป | ||
นายพรานรักมากดังลูก | พันผูกมิเคยสงสัย | ||
ผ่านมาล่วงเลยแก่วัย | เจ้าดำไม่หนุ่มดังเดิม | ||
หูตาฝ้าฟางไม่ชัด | ติดขัดกำลังไม่เสริม | ||
เขี้ยวก็โยกคลอนยากเติม | มันเริ่มแก่เฒ่าตามกาล | ||
วันหนึ่งเดินป่าล่าหมู | นายชี้ให้ดูไขขาน | ||
ลูกพ่อไล่กัดอย่านาน | นายพรานสั่งให้ติดตาม | ||
เจ้าดำไล่ทันไม่ช้า | หมูป่าหันสู้น่าขาม | ||
สู้ตายขบกัดเต็มกราม | ถึงหามเจ้าหมีเจ็บใจ | ||
นายพรานมาถึงมิช้า | ร้องด่าเจ้าหมีเหตุไหน | ||
ปล่อยหมูหลุดออกหนีไป | เงื้อไม้จักฟาดให้ตาย | ||
เจ้าดำช้ำใจยิ่งนัก | ยากจักให้รู้ความหมาย | ||
บัดนี้ตัวมันกลับกลาย | แก่เฒ่าวุ่นวายในใจ | ||
ถึงตีจนตายก็ยาก | ลำบากหมดแรงสงสัย | ||
ความดีที่เคยทำไว้ | ทำไมหมดค่าหนอนาย | ||
อันคนเป็นผู้นำเขา | พึงเอาใจใส่มุ่งหมาย | ||
ยามดีใช้งานวุ่นวาย | ยามร้ายอาฆาตตัดรอน | ||
ความดีมีคุณค่ามาก | หากรู้จักใช้ได้สอน | ||
ให้เขาคำนึงบทตอน | เป็นพรส่งเสริมมากมาย | ||
93. หมาอยู่ในรางหญ้า | |||
เจ้าด่างหมาหนุ่มพ่วงพี | หน้าตาดูดีเหลือหลาย | ||
นิสัยค่อนข้างใจร้าย | มักง่ายคนเขานินทา | ||
วันหนึ่งมันไปคอกงัว | เดินทั่วแวะเวียนแลหา | ||
อาจได้ของกินนานา | รางหญ้ามันมีสิ่งใด | ||
แปลกดีมีหญ้านุ่มนัก | จักลองนอนดูดีไหม | ||
มิช้าล้มนอนเร็วไว | หลับใหลสบายตัวสบายกาย | ||
เจ้าวัวเดินมาที่คอก | กลอกตาแลดูที่หมาย | ||
รางหญ้าจักกินให้สบาย | วุ่นวายหมาหลับในราง | ||
จึงปลุกเจ้าหมารีบตื่น | ข้ายืนรอนานอย่าขวาง | ||
ลุกแล้วออกไปเจ้าด่าง | แกช่างไม่รู้ที่นอน | ||
เจ้าด่างไล่งับไม่ยอม | มันพร้อมต่อสู้เห่าหอน | ||
วัวแสนรำคาญกล่าววอน | สั่งสอนไอ้ด่างหน้าลาย | ||
เอ็งมันลูกหมาหวงก้าง | กีดขวางตัวข้าเสียหาย | ||
เอ็งไม่กินหญ้าวุ่นวาย | ทำคล้ายหวงแหนนักแล | ||
เหมือนคนที่เห็นแก่ตัว | มัวหวงทำไม่แยแส | ||
จนเสียประโยชน์มากแท้ | แน่นอนสมควรด่าตี | ||
94. หมูป่ากับลาโง่ | |||
ลาหนุ่มจอมซุกซน | เห็นผู้คนมิหลีกหนี | ||
ทำเก่งมันอยากอวดดี | เป็นผู้กล้ามิกลัวใคร | ||
อยู่ป่าก็คึกคะนอง | ชอบลองเล่นเป็นวิสัย | ||
ลืมตัวลืมกลัวเภทภัย | พบสัตว์ร้ายมิเกรงกลัว | ||
วันหนึ่งมันพบหมู่ป่า | มันทำหน้าอยากเล่นหัว | ||
เข้าใกล้ทักทายคุยมั่ว | ไฮ้นี่ตัวสบายดี | ||
หมูป่ายินยังงุนงง | มันหลงลืมหรือไรนี่ | ||
เพื่อนลาเรามิเคยมี | จึงหลบลี้เลี่ยงเลยไป | ||
ลาโง่มิยอมปละปล่อย | คอยดักหน้าจักไปไหน | ||
เพื่อนหมูรีบร้อนนักใย | คุยกันก่อนนะเพื่อนยา | ||
วันวานเพื่อนได้ไปเที่ยว | ในไพรเขียวถิ่นใดหนา | ||
สนุกไหมลองบอกมา | ข้าอยากรู้หมูบอกที | ||
หมูป่ามันนึกรำคาญ | ไม่ขานเดินหลบหลีกหนี | ||
ลาโง่มันมิรอรี | ตามเซ้าซี้น่ารำคาญ | ||
ร้องบอกตูไม่มีเพื่อน | แชเชือนทำอวดอาจหาญ | ||
พูดจาทำวาทะการ | ไร้สารสาระไม่มี | ||
ลาโง่ยังมิยอมถอย | คอยตามต่อมิหลีกหนี | ||
หมู่ป่าวิ่งใส่เร็วรี่ | จักขบกัดให้วางวาย | ||
ฉุกใจหมูคงได้คิด | ปลิดชีพลาโมโหหาย | ||
สาระเลยไร้ลวดลาย | ไร้คุณค่ามิควรการ | ||
อดกลั้นหลบหลีกรีบหนี | ยังดีกว่าเสาะสืบสาน | ||
คบคนผู้เป็นพวกพาล | เสียเวลาเสียการอย่าตาม | ||
95. หมูป่ากับหมาจิ้งจอก | |||
หมูป่ากำยำล่ำสัน | เขี้ยวมันยาวโง้งน่าขาม | ||
มันชอบลับเขี้ยวคมกราม | สัตว์ป่าเห็นแล้วเกรงกลัว | ||
วันหนึ่งมันแทงเปลือกไม้ | หวังได้ลับเขี้ยวส่วนหัว | ||
ทำเป็นประจำฝึกตัว | มิได้ประมาทขลาดใคร | ||
หมาป่าผ่านมามองเห็น | ลองเล่นพี่หมูจริงไหม | ||
เห็นทำทุกวันแปลกใจ | ใยเสียเวลาลับคม | ||
ในป่าแห่งนี้ใครเล่า | เขาจักเทียบพี่เหมาะสม | ||
ว่องไวไปมาปานลม | กล้าแกร่งเทียมท่านมิมี | ||
พรานไพรก็มิเคยผ่าน | ใครจักหาญเทียบรัศมี | ||
สบายใจได้เลยคุณพี่ | มิต้องลับเขี้ยวเสียเวลา | ||
แบบฉันสบายมากลองดู | หมูร้องอู๊ดอู๊ดอ้ายหมา | ||
แบบเอ็งคนประมาทนี่นา | ระวังจักพลาดเสียที | ||
หมูอย่างเราใช่เขลาขลาด | มิประมาทลับเขี้ยวทุกวิถี | ||
ยามเกิดเภทภัยราวี | พร้อมเข้าต่อตีทุกเวลา | ||
อปมาโทอมตังปะทัง | พึงยังไม่ประมาทนั่นหนา | ||
ให้เกิดมีพร้อมถ้วนหน้า | เพราะเป็นไม่ตายมรรคา | ||
96. ห่านออกไข่เป็นทอง | |||
ชาวบ้านเลี้ยงห่านไว้หนึ่งคู่ | ดูแลด้วยดีเสมอมา | ||
วันหนึ่งห่านตกไข่มา | แปลกตาเป็นทองเนื้อดี | ||
ลองนำไปขายร้านค้า | เขาให้เงินมาตามวิถี | ||
ราคาทองคำอย่างนี้ | คงเป็นเศรษฐีมิยากเย็น | ||
ขายไข่ทองคำมานาน | เบิกบานร่ำรวยได้เห็น | ||
เมื่อก่อนชาวนาลำเค็ญ | มาเป็นพ่อเลี้ยงหน้าบาน | ||
วันหนึ่งปรีกษายายเฒ่า | สองเราหารือไขขาน | ||
หากผ่าเอาทองท้องห่าน | คงได้ไข่ทองมากมาย | ||
มิต้องรอทีละฟอง | นวลน้องว่าไงโฉมฉาย | ||
ยินดีเห็นด้วยคุณยาย | ต่างฝ่ายก็โลภพอกัน | ||
จับห่านมาเชือดทั้งคู่ | แหวะดูหาไข่น่าขัน | ||
มีแต่ตับไตใส้มัน | แถมขี้ห่านนั้นเหม็นจริง | ||
ไม่มีไข่ทองให้ขาย | วุ่นวายโลภมากชายหญิง | ||
มักชวดจากลาภขอติง | ควรรู้พอเพียงยลยิน | ||
97. โหรคนหนึ่ง | |||
คราหนึ่งเล่าเรื่องโหรา | ปรีชาเชิงเชี่ยวชาญศิลป์ | ||
ศาสตร์เรื่องดางดาวยลยิน | รอบรู้ตำแหน่งโคจร | ||
กลางวันอ่านพระคัมภีร์ | ราตรีดวงดาวสลอน | ||
ติดตามตำแหน่งทุกตอน | โหรารอบรู้จริงเจียว | ||
คืนหนึ่งฟ้าโล่งปลอดเมฆ | โหรเอกเกิดเรื่องหวาดเสียว | ||
เดินพลัดตกบ่อนั่นเชียว | ปีนขึ้นมิได้เวรกรรม | ||
รุ่งเช้าชาวบ้านมาเห็น | ลากเข็นขึ้นมาน่าขำ | ||
เขาว่าท่านโหรด้วยซ้ำ | ดีแต่มองหาดวงดาว | ||
รู้หมดทุกดวงบนฟ้า | ปัญญาไม่เคยสืบสาว | ||
ถนนหนทางมิยาว | ทำไมไม่รู้บ่อมี | ||
ทางเดินดวงดาวรู้หมด | จำจดได้ทุกวิถี | ||
แต่ทางตัวเองจรลี | กลับหลงมิเคยจดจำ | ||
อันคนหลงใหลมัวเมา | เขาเก่งเรื่องนั้นน่าขำ | ||
เรื่องอื่นมักเขลาหนอกรรม | เหมือนดังโหราแกเป็น | ||
98. อีกากับหอยกาบ | |||
อีกาตาดำตัวหนึ่ง | บินผ่านบึงใหญ่ได้เห็น | ||
หอยกาบตัวใหญ่ลุยเย็น | เดินขึ้นริมฝั่งสนใจ | ||
บินมาค่อนวันโหยหิว | ท้องกิ่วเหนื่อยยิ่งไฉน | ||
มันโฉบลงมาทันใด | หอยกาบหุบเปลือกซ่อนตัว | ||
กาจิกกาบหอยเนิ่นนาน | มันพาลมิแตกน่าหัว | ||
ทำไมมันแข็งน่ากลัว | มิได้กินแน่หนอกู | ||
ทันใดกาแก่ตัวหนึ่ง | มาถึงก็พูดกรอกหู | ||
ลองเปลี่ยนวิธีใหม่ดู | จักรู้มันแสนง่ายดาย | ||
คาบหอยบินบนเวหา | ปล่อยทิ้งลงมาเปลือกหาย | ||
รับรองเปลือกแตกกระจาย | โดนหินตรงโน้นแน่นอน | ||
มันรีบทำตามเขาแนะ | แกะหอยตามที่กาสอน | ||
คาบหอยบินไปทางดอน | ลานหินเบื้องล่างปลอยลง | ||
บินวนกลับมาหาหอย | เห็นเพียงร่องรอยพิศวง | ||
เศษเปลือกกระจายนึกงง | เนื้อหอยมิเห็นหายไป | ||
โน่นแน่ะกาเฒ่าตัวเก่ง | มันเร่งกินหอยสงสัย | ||
หมดแล้วอ้ายหนูขอบใจ | ร้องบอกโบยบินลับตา | ||
อันคนชอบแนะระวัง | บางครั้งมุ่งหวังสืบหา | ||
อยากไห้ตอบแทนนานา | ปัญญาแก้ข้อคลุมเคลือ | ||
99. อึ่งอ่างกับวัว | |||
ท้องนาน้ำแห้งขอดนัก | มีปลักหลุมพอหลงเหลือ | ||
น้ำขังนิดหน่อยจุนเจือ | สัตว์น้ำอาศัยไม่ตาย | ||
อึ่งอ่างกับลูกหลายร้อย | ลอยคอในแอ่งกระหาย | ||
แม่อึ่งกระวนกระวาย | ออกหาสายธารในนา | ||
หากแอ่งเดิมน้ำขอดแห้ง | ฝนแล้งต่อไปผวา | ||
ต้องย้ายเสาะแหล่งชลธา | จากมาแต่เช้าจนเย็น | ||
กล่าวถึงแม่วัวเขาเก | โซเซกินหญ้ามาเห็น | ||
แอ่งน้ำเล็กเล็กช่างเป็น | หญ้างอกเร้นอยู่มากมาย | ||
แม่วัวเล็มหญ้าไปทั่ว | มันมั่วย่ำอยู่จนสาย | ||
ลูกอึ่งถูกย่ำจนตาย | สุดท้ายเหลือเพียงหนึ่งตัว | ||
แม่อึ่งกลับมายามเย็น | มาเห็นยามมืดสลัว | ||
เศร้าสร้อยเสียงสั่นระรัว | น่ากลัวมันเรื่องอันใด | ||
ลูกน้อยบอกว่าอึ่งโอ่ง | ตัวโย่งสูงยิ่งไฉน | ||
เหยียบย่ำพี่น้องตายไป | เหลือไว้เพียงข้าตัวเดียว | ||
แม่อึ่งชักไม่ชอบจิต | มันคิดใหญ่แค่ไหนเชียว | ||
ลองเบ่งพองตัวสักเที่ยว | หน้าตาบูดเบี้ยวพองลม | ||
ถามลูกคงใหญ่เท่านี้ | ลูกชี้ยังไม่เหมาะสม | ||
หกเที่ยวแม่เบ่งให้ชม | อกตรมยังไม่พอดี | ||
สุดท้ายเบ่งสุดแรงเกิด | ระเบิดอกตายคาที่ | ||
ตับไตใส้พุงมากมี | กระเด็นยากชี้ส่วนใด | ||
อันความพอดีพอควร | ชวนคิดศึกษาไฉน | ||
อย่าทำเกินตัวเกินไป | อาจจักมีภัยปั้งปวง | ||
100. แอนโดรคลีสกับสิงโต | |||
เอนโรลิสเป็นทาส | ทำงานราชที่วังหลวง | ||
แต่เช้ายันค่ำงานทั้งปวง | ต้องเสร็จตามสั่งทุกงาน | ||
ยามค่ำต้องขังกันหนี | แบบนี้นับนานหลายสิบปี | ||
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอนาคต | มืดหมดเสียสิ้นศักดิ์ศรี | ||
มิต่างจากสัตว์คงมี | สักวันจักหนีออกไป | ||
ครั้นแล้วโอกาสมาถึง | มันจึงหลบหนีเร็วไฉน | ||
ปีนออกนอกกำแพงได้ | วิ่งวิ่งเข้าไพรพนา | ||
หลายวันคงไกลอักโข | เอนโดรลิสจึงเดินเสาะหา | ||
ที่พักเป็นถ้ำกลางป่า | สายตาเหลือบเห็นสิงโต | ||
หนีเสือปะสิงห์หรือนี่ | ภัยมีอีกน่าโมโห | ||
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพิโธ่ | วิ่งหนีทันใดกลัวตาย | ||
แลหลังเห็นมันนิ่งอยู่ | อยากรู้ทำไมใจหาย | ||
แอบย่องกลับมามิวาย | กล้ากล้ากลัวกลัวเพ่งมอง | ||
เห็นมันนอนนิ่งเหยี่ยดขา | ท่าทางคงปวดมีหนอง | ||
มันครางเบาเบาเสียงร้อง | คงต้องช่วยมันสักครา | ||
เดินไปลูบขาขอดู | ได้รู้มีหนามปักหนา | ||
บ่งหนามดึงออกคลายคลา | คัดหนองออกแล้วปวดคลาย | ||
ราชสีห์ขอบคุณที่ช่วย | ด้วยใจซาบซึ้งเหลือหลาย | ||
เลียมือเลียเท้าเจ้านาย | ข้าคงรอดตายแน่นอน | ||
ชวนนายไปอยู่ที่ถ้ำ | คืนค่ำมิได้ทอดถอน | ||
ข้าวปลาอาหารอาวรณ์ | ราชสีห์มีให้มากมวล | ||
ต่อมาถูกจับทั้งคู่ | แต่อยู่ต่างกันผันผวน | ||
สัตว์ใส่กรงขังก็ควร | แต่คนล่ามโซ่หนีคดี | ||
พิพากษาลงโทษให้ตาย | หมายให้สิงโตคาบหนี | ||
ไปเป็นอาหารเข้าที | แบบนี้จึงควรโทษมัน | ||
เขามัดเอนโดรลีสไว้ | ปักไม้กลางลานแล้วขัน | ||
ด้วยเชือดมันแน่นกลางวัน | แล้วปล่อยราชสีห์ออกมา | ||
มันกลับหมอบนิ่งดมดู | คงรู้เจ้านายนี่หนา | ||
มันกลับยินดีปรีดา | เลียแข้งเลยขาเจ้านาย | ||
พระราชาให้ไต่สวน | กระบวนรู้ความไม่สาย | ||
คนดีมิสมควรตาย | ปล่อยให้พ้นทาสจากไป | ||
ราชสีห์ปล่อยคืนสู่ป่า | กลับมาที่เนินไศล | ||
คนดีทำดีพลังใจ | ยิ่งใหญ่ผู้คนเมตตา | ||
เขียนโดย Sritong Sriprajong |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น