...........เดือนเมษายน 2561 ใคร ๆก็คงนึกถึงสงกรานต์ วางแผนจะไปเที่ยวไหน กลับไปเยี่ยมบ้าน หรือไปที่อื่น ผมเองก็ไม่ต่างคนอื่นหรอก แต่งสังขารมันไม่ค่อยเป็นใจ ไปมาลำบาก หากมีคนพาไปก็ดีหน่อย ขับรถเองไกล ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน สงสัยจะได้นั่งรำพันถึงเรื่องราวสงกรานต์แหละมั้ง ง่ายดีไม่ต้องไปไหน แบบนี้ไง
ขุนทอง ศรีประจง
9 เมษายน 2561
--------------------------------------------------------------------------
ยานี 11
ยานี 11
ใกล้มาวันสงกรานต์ | เปิดตำนานดูเรื่องราว | ||
อ่านดูได้สืบสาว | ครั้งก่อนกาลโบราณมี | ||
การเปลี่ยนศักราช | เห็นบทบาทเรื่องราศี | ||
ดาวเมษแหละตัวดี | คอยบอกให้ปีใหม่กัน | ||
สิบสองดาวราศี | Zodicที่นามเสกสรรค์ | ||
โบราณเล่าสัมพันธ์ | โลกหมุนเกิดวันทิวา | ||
กลางคืนสลับให้ | หมุนไปรอบสุริยา | ||
ก่อเกิดกาลเวลา | เป็นระนาบดังวงกลม | ||
เรียกเส้นสุริยะ | ดารกะกลุ่มงามสม | ||
สิบสองกลุ่มน่าชม | เรียกราศีกำหนดนาม | ||
เริ่มต้นราศีเมษ | เวียนไปเขตพฤศกถาม | ||
เมถุนกรกฏตาม | สิงกันย์ตุลพิจิกวน | ||
ธนูแล้วมังกร | กุมภ์แน่นอนจบมีนชน | ||
สิบสองราศีคน | เล่าบอกมีเป็นองศา | ||
สามสิบบอกมาตรา | หนึ่งราศีเท่าเท่ากัน | ||
อาทิตย์เขาโคจร | มิหลับนอนในหนึ่งวัน | ||
ทางหนึ่งองศานั่น | ยี่สิบสี่ชั่วโมงเชียว | ||
เดินผ่านหนึ่งราศี | ก็พอดีสามสิบเที่ยว | ||
ที่เรียกเดือนหนึ่งเจียว | ดูอาทิตย์เขาโคจร | ||
จนครบโหลราศี | เป็นหนึ่งปีดวงสมร | ||
เริ่มเมษปีใหม่ตอน | ช่วงสงกรานต์นั่นแหละคุณ | ||
รอช่วงพระอาทิตย์ | มาประชิดเขตเมษหนุน | ||
องศาศูนย์คอยลุ้น | จะเริ่มหนึ่งองศาพลัน | ||
พอเริ่มเข้าสู่เมษ | เขตปีใหม่ทุกสิ่งสรรพ์ | ||
พอศอก็เปลี่ยนกัน | เอิกเกริกรื่นเริงมี | ||
เรื่องเล่าในตำนาน | ตระกูลท่านผู้เศรษฐี | ||
ภรรยาก็ตั้งสี่ | แต่ไร้บุตรสืบสกุล | ||
ใกล้เคียงบ้านชาวนา | มีภรรยาลูกสองคุณ | ||
มันอวดอ้างเป็นบุญ | ถึงมิรวยมิเป็นไร | ||
เราตายลูกยังอยู่ | เขาย่อมรู้ทำไฉน | ||
ทำบุญทำทานได้ | อุทิศบุญให้พวกเรา | ||
สงสารพวกไร้ลูก | ใครจักผูกพันพวกเขา | ||
ตายไปคงน่าเศร้า | สายโลหิตไม่มีเลย | ||
มันโม้อวดทุกวัน | เศรษฐีนั้นยากจักเฉย | ||
เดินสายบวงสรวงเอ่ย | วอนท่านเทพได้เมตตา | ||
ประทานลูกสักคน | เป็นมงคลยิ่งสิหนา | ||
เครื่องเซ่นเครื่องบูชา | จัดถวายมากมายมวล | ||
เรื่องไปถึงองค์อินทร์ | ยินเรื่องร้อนจึงแย้มสรวล | ||
เรียนเทพมาชักชวน | ถึงเวลาจุติไป | ||
ธรรมบาลเทพบุตร | ที่สุดเกิดจริงไฉน | ||
เป็นบุตรเศรษฐีได้ | เจริญวัยชาญปัญญา | ||
สามารถสั่งสอนชน | บอกมงคลการศึกษา | ||
หลายศาตร์เลื่องลือชา | ธรรมบาลฉลาดเกิน | ||
ภาษาคนภาษาสัตว์ | ล้วนสันทัดน่าสรรเสริญ | ||
ประชาต่างชวนเชิญ | สาธุการด้วยยินดี | ||
ชื่อเสียงขจรไกล | ถึงเทพไทพรหมวิถี | ||
กบิลพรหมมิปรานี | จักดังเกินธรรมบาล | ||
ลงมาขอท้าทาย | ถามง่ายง่ายจงไขขาน | ||
พนันหัวเป็นการ | ใครพ่ายแพ้ตัดบูชา | ||
ถามหาคนมีศรี | สถิตที่แห่งใดหนา | ||
เช้าเที่ยงและเย็นว่า | ศรีไปมาอยู่แห่งใด | ||
กุมารนึกมิออก | บอกขอผัดเจ็นวันไหว | ||
จักหาคำตอบให้ | หากยังพ่ายยอมตัดคอ | ||
มืดมิดธรรมบาล | มืดแปดด้านจริงเจียวหนอ | ||
เจ็ดวันชักทดท้อ | ขอเดินเล่นตรึกตรองดู | ||
แลเห็นกระท่อมนา | เดินเข้ามานึกอดสู | ||
นอนพักมันสักครู่ | ฤาจะพ่ายกบิลพรหม | ||
ต้นตาลอยู่ใกล้ใกล้ | รังนกใหญ่นอนแลชม | ||
มินานเสียงแรงลม | นกบินกลับมาที่รัง | ||
อินทรีสองผัวเมีย | สองอ่อนเพลียที่พลาดหวัง | ||
หาเหยื่อยากเสียจัง | บินทั้งวันกบตัวเดียว | ||
ไม่นานผัวบอกเจ้า | พรุ่งนี้เช้าข่าวหวาดเสียว | ||
มีผู้คอขาดเขียว | ศพสดสดสบายเรา | ||
เมียถามเรื่องอันใด | ผัวบอกให้เพราะพวกเขา | ||
กบิลพรหมท้าทายเชาวน์ | ถามปัญหาธรรมบาล | ||
ราศีอยู่ที่ไหน | เช้าเที่ยงได้เย็นผสาน | ||
สามตอนหากเชี่ยวชาญ | ตอบมิได้พ่ายแพ้กัน | ||
คนแพ้ต้องตัดคอ | รอบูชาศาลพร้อมสรรพ์ | ||
ต้องมีหนึ่งฝ่ายนั่น | ถูกตัดคอแน่ทีเดียว | ||
เมียว่าก็คงใช่ | ตอบยังไงน่าหวาดเสียว | ||
ผัวบอกมันยากเชียว | แต่ฉันรู้มาเนิ่นนาน | ||
เช้าศรีอยู่ที่หน้า | อยู่อกว่าเที่ยงประสาน | ||
ยามเย็นที่เท้าการ | บำรุงด้วยพรมน้ำเย็น | ||
กุมารยินนกเล่า | หายโศกเศร้าค่อยมองเห็น | ||
ทางออกมิลำเค็ญ | รอดตายแล้วขอขอบคุณ | ||
วันพรุ่งพรหมพ่ายแพ้ | แต่ยึดถือสัจจะหนุน | ||
ตัดคอหวังทำบุญ | บูชาหนุ่มธรรมบาล | ||
เรียกลูกมาทั้งเจ็ด | สั่งไว้เสร็จเรื่องจัดการ | ||
ศีรษะตกชลธาร | น้ำเหือดแห้งโลกลำเค็ญ | ||
หรือโยนไปอากาศ | เกิดอุบาตคงได้เห็น | ||
ไฟไหม้ล้างโลกเป็น | ระเบิดใหญ่บัลลัยกัลป์ | ||
ฝังลงในแผ่นดิน | แตกดับสิ้นส่ำสัตว์สรรพ์ | ||
ดับดิ้นสิ้นชีวัน | เฉพาะหัวเก็บให้ดี | ||
ธิดาหาพานรับ | แห่กลับเขาสุเมรุศรี | ||
แห่วนเจ็ดรอบมี | คันธชุลีนามถ้ำทอง | ||
เก็บไว้ณถ้ำนั้น | เมื่อถึงวันจักฉลอง | ||
สงกรานต์มาประคอง | ออกจากถ้ำแห่ทุกปี | ||
ธิดาสาวเจ็ดนาง | ต่างวาระตามดิถี | ||
ประกาศสงกรานต์ชี้ | ตามชื่อวันต่างกันไป | ||
อาทิตย์เวรทุงษะ | โคราคะเวรจันทร์ไข | ||
รากษสอังคารไป | วันพุธให้มณฑาเวร | ||
พหัสกิริณี | ศุกร์กิมิทาตาเถร | ||
วันเสาร์รีบเข้าเลน | มโหทรมารับไว | ||
เจ็ดนางกลายเป็นองค์ | นางสงกรานต์สุดไฉไล | ||
เป็นเวรนางคนไหน | แล้วแต่ตรงวันสงกรานต์ | ||
โหรามีประกาศ | ตามเคยคาดแต่โบราณ | ||
เมษาสิบสามวาร | พระอาทิตย์ครอบรอบวน | ||
จากเมษสิบสองเดือน | เหมือนกลับมามิสับสน | ||
จักชนเมษอีกกล | ปีเก่าสิ้นจักผ่านไป | ||
สิบสี่เป็นวันเนาว์ | เริ่มย่างเข้าเมษาไข | ||
ลิบดาหนึ่งโดยนัย | เป็นวันอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง | ||
สิบห้าเมษองศา | ดูลิบดาหกสิบแฝง | ||
บวกหนึ่งจึงได้แจ้ง | เปลี่ยนจอศอบริบูรณ์ | ||
เรียกวันเถลิงศก | ตกปีใหม่ได้เพิ่มพูน | ||
มงคลมิเสื่อสูญ | วิถีไทยวิวัฒน์กาล | ||
ประกาศปีหกหนึ่ง | อาทิตย์ถึงเมษไขขาน | ||
สิบสี่เมษาวาร | เก้าโมงเกินตรงเวลา | ||
หนึ่งจุดสี่แปดว่า | ยามที่โยคราศีตรง | ||
จากจอศอเจ็ดเก้า | เข้าแปดศูนย์มิไหลหลง | ||
วันเสาร์เป็นมั่นคง | เวรแห่เศียรกบิลพรหม | ||
ต้องจัดกระบวนแห่ | งดงามแท้ให้เหมาะสม | ||
มโหทรนามนิยม | เวรบังอรนั่นแหละนาง | ||
ภาระรับพานเศียร | ไปเวียนรอบเธอสะสาง | ||
สุเมรุเจ็ดรอบทาง | แต่งเครื่องทรงอลงกรณ์ | ||
เพื่อจัดขบวนแห่ | งดงามแน่นวลสมร | ||
เครื่องทรงยอดบังอร | ศิริโฉมสรพางค์ | ||
ต้นแขนพาหุรัด | ทัดสามหาวน่าสะสาง | ||
ดอกผักตบเขาอ้าง | ตบชะวาก็สวยดี | ||
อาภรณ์นิลรัตนะ | พะแพรวพรายรัศมี | ||
หัตถ์ขวาทรงจักรชี้ | อีกตรีศูลหัตถ์ซ้ายทรง | ||
เนื้อทรายภักษาหาร | นกยูงยานเหาะดังหงส์ | ||
พิรุณศาสตร์เจาะจง | อธิบดีพุธทำนาย | ||
โดยรวมหกร้อยห่า | ตามตำราแบ่งเป็นสาย | ||
ตกเขาจักรวาลราย | สองสี่ศูนย์ฝนตกไป | ||
หิมวันต์หนึ่งแปดศูนย์ | ก็สมบูรณ์ดีไฉน | ||
หนึ่งสองศูนย์ห่าใน | มหาสมุทรได้มากมาย | ||
เหลือเพียงหกสิบห่า | หล่นลงมาโลกเป็นสาย | ||
น้ำน้อยโหรทำนาย | ปลายปีว่าฝนชุกเกิน | ||
ธัญญาเกณฑ์ลาภะ | ข้าวกล้าจะงามเจริญ | ||
ได้เก้าเสียหนึ่งเชิญ | สบายใจเกณฑ์มงคล | ||
ปีใหม่ในช่วงนี้ | หลายวันดีน่าสับสน | ||
ครั้งแรกปีใหม่วน | เปลี่ยนนามปีนั่นยังไง | ||
หนึ่งค่ำขึ้นเดือนห้า | ปีระกาลับกายไป | ||
ปีจอมาแทนใหม่ | นี่ครั้งหนึ่งพึงจดจำ | ||
ปฏิทินเดือนมีนา | แรมสิบห้าเดือนสี่ขำ | ||
สิ้นปีระกากรรม | ถึงเดือนห้าเป็นปีจอ | ||
สิบสี่เดือนมีนา | ปีระกาสิ้นสุดหนอ | ||
สิบห้าเป็นปีจอ | ลองอ่านดูจะรู้ความ | ||
ปีใหม่รอบที่สอง | ต้องเมษาที่สิบสาม | ||
อาทิตย์วนรอบตาม | ชนราศีเมษพอดี | ||
จะเรียกครบศกเก่า | ต่อไปเข้าใหม่วิถี | ||
องศาครบเต็มที่ | วันสิบสี่เมษายน | ||
ให้ถือเป็นวันเนาว์ | ยังมิเปลี่ยนศักราชวน | ||
หนึ่งสามเจ็ดเก้าชน | วันพรุ่งถึงจักเปลี่ยนไป | ||
สิบห้าเมษายน | วนหนึ่งสามแปดศูนย์ไข | ||
ตรงนี้คือปีใหม่ | จอศอเปลี่ยนครบสมบูรณ์ | ||
เลยได้สองปีใหม่ | ฉลองได้มิเสื่อมสูญ | ||
เสียดายไม่จำรูญ | คนลืมวันเปลี่ยนนามปี | ||
ระกามาเป็นจอ | มิเห็นรอฉลองมี | ||
ตอนเปลี่ยนจอศอนี้ | กลับฉลองกันมากมาย | ||
ก็วันสงกรานต์นั่น | ฉลองกันออกเดินสาย | ||
สาดน้ำกันวุ่นวาย | เพราะปีใหม่รอบสองแล | ||
บันทึกเรื่องสงกรานต์ | เล่าตำนานบอกนวลแข | ||
เรื่องราวมีมากแท้ | อีกหลายเรื่องน่าจดจำ | ||
การเล่นแบบพื้นบ้าน | อีกมินานนักคมขำ | ||
คงเลือนหายแน่กรรม | ลองทบทวนที่ไหนมี | ||
ขอเล่าเพียวแต่ชื่อ | คือการเล่นตามวิถี | ||
ของเด็กก่อนเรามี | การละเล่นน่าสนใจ | ||
หมากเก้บมอญซ่อนผ้า | ลองซ่อนหาแปะโป้งไข | ||
รีรีข้าวสารไง | ม้าหลังโปกสนุกดี | ||
หนุ่มสาวโค้งตีนเกวียน | หมุนวนเวียนล้มกันที | ||
ทับกันสนุกพี่ | ลองอีกใหม่ได้ทั้งวัน | ||
แข่งขันเดินกะลา | ขาโถกเถกก็ชวนขัน | ||
โยกเยกเดินไปนั่น | มันจะเร็วได้อย่างไร | ||
อ้ายหนุ่มเป็นหัวงู | ดูหางสาวน่ารักไหม | ||
กินทางจับเร็วไว | เอามาไช้เป็นหางตัว | ||
ตี่จับก็สนุก | รับและรุกรบชวนหัว | ||
บั้งป๊ะแตกน่ากลัว | ยิงสนั่นลั่นกลางดง | ||
หิงอี่ม้าก้านกล้วย | ชวนคนสวยนวลหงส์ | ||
นุ่งเหน็บโจงบรรจง | ขี่ม้าวิ่งขาเธองาม | ||
ทอยเส้นหรือเล่นว่าว | พวกหนุ่มสาวเขาไถ่ถาม | ||
ชอบไหมเล่านงราม | ลูกสะบ้าจานซ้อนใบ | ||
ชอบเต้นตากะโหลก | โยกเยกเอวลงตาไหน | ||
อีกามาฟักไข | หรือเรือบกเล่นโพงพาง | ||
หน้ากากผีตาโขน | สวมแล้วโขนมีปีกหาง | ||
ร่ายรำไปตามทาง | อวดสาวสาวสนุกดี | ||
เต้นเชือกเดี่ยวหรือหมู่ | ก็น่าดูนะนวลศรี | ||
หนุ่มหนุ่มเมียงมองมี | คนไหนหนอน่ารักเกิน | ||
จ้ำจี้ดึงครกสาก | มิลำบากเอ้าอย่าเขิน | ||
ดึงหนังสนุกเกิน | สามัคคีมีพลัง | ||
ตาเองชอบตีคลี | สนุกดีดูมันขลัง | ||
คลีไฟไม่ระวัง | โดนมันลวกร้อนแทบตาย | ||
ที่สุดแข่งรถกัน | มันเอามากแบ่งเป็นสาย | ||
จิ้งล้อมีมากมาย | แข่งเป็นกลุ่มชุมนุมมี | ||
สงกรานต์สมัยก่อน | ชอบเดินจรตามวิถี | ||
หนุ่มสาวล้วนมากมี | ชวนกันเล่นน่าสนใจ | ||
บันทึกไว้แต่ชื่อ | อยากรู้คือเล่นแบบไหน | ||
ถามกูรูย่อมได้ | คุณกูเกิลเขารู้ดี | ||
จบละยาวมากแล้ว | คงมิแคล้วลงบลอกมี | ||
โพสลิงค์หน้าเพจชี้ | ผู้สนใจเชิญเยี่ยมชม |
เล่าตำนานสงกรานต์ไว้ให้ลูกหลานได้อ่านกัน เขียนเป็นกาพย์ยานี 11 เพราะง่ายกว่ากลอนแปด ตรวจแก้ไขไปรอบหนึ่งแล้ว ทิ้งไว้ก่อนมาอ่านอีกอาจเจอที่บกพร่องก็แก้ไขอีก การเขียนร้อยกรองไม่ค่อยครั้งเดียวหรอก เพราะเวลาเขียนอยากเขียนให้จบไว ๆ จบแล้วก็โพส เลยมีงานตรวจทานให้ทำประจำ
ตอบลบ