นั่งช้างอารมณ์ดี ที่สวนนงนุชพัทยา ปีที่แล้ว
ตอนที่ ๑
กาพย์ยานี ๑๑
ผ่านมาวันที่สี่ | ศุกร์แล้วนี่ขอเดินชม | |
ต้นไม้รอบบ้านผม | ปลูกเอาไว้ไม้มากมาย | |
บ้านเราแบบชั้นเดียว | อยากลงเที่ยวสะดวกหลาย | |
หน้าบ้านมิวุ่นวาย | สองขั้นเองลงบันได | |
ซ้ายมือเป็นตอปลอม | ท่อเตรียมพร้อมปลูกดอกไม้ | |
พีวีซีขนาดใหญ่ | ซักแปดนิ้วพอประมาณ | |
หุ้มด้วยกระสอบป่าน | ตะแกรงสานอีกขั้นดี | |
เอาไม้พวกต้นหวาย | อีกพวกง่ายสับปะรสสี | |
หุ้มกาบมะพร้าวมี | มัดรอบชิดเป็นวงกลม | |
วางแผนไว้สี่ชั้น | ตรงยอดนั้นดูเหมาะสม | |
กระถางปิดรูกลม | พญานาคราชงาม | |
ปล่อยเลื้อยสักสี่ก้าน | เลื้อยหย่อนยานมิต้องถาม | |
ถูกใจสวยทุกยาม | อยู่บนยอดตอไม้เทียม | |
รอบท่อกะเลกะร่อน | แกมหวายอ่อนตามที่เตรียม | |
สับปะรดแกมดีเยี่ยม | เบียดแน่นทึบเป็นวงกลม | |
สี่ชั้นจัดสี่วง | งามรูปทรงดูเหมาะสม | |
ตอเทียมเสร็จน่าชม | เป็นตอเขียวสบายตา | |
ทำไว้เพียงสองท่อ | ตอประดับเสาบ้านหนา | |
ใครเห็นมักสงกา | อะไรหวาปลูกได้ไง | |
พอเห็นกาบมะพร้าว | อัดแน่นราวหมดสงสัย | |
เปียกน้ำสบายใจ | ต้นไม้ชอบมันชุ่มเย็น | |
ปุ๋คอกขี้ค้างขาว | มีบางคราวปุ๋ยดินเห็น | |
ใส้เดือนดินอัดถุงเป็น | ดินพิเศษใส่เข้าไป | |
อีกพวกปุ๋ยเคมี | ใส่ก็ดีพวกเร่งใบ | |
เขียวงามชักชอบใจ | งามตอไม้เขียวขจี | |
คุณยายชอบหอยกาบ | เพิ่งจะทราบตรงสองสี | |
ตรงเขียวก็สดดี | ตัดกับม่วงพุ่มพวงงาม | |
ห้อยย้อยหนวดฤาษี | พวงดกดีเคยไถ่ถาม | |
ผูกร้อยห้อยไว้ตาม | ราวหน้าบ้านไม่มีดิน | |
รดน้ำสามวันที | แต่งามดีทนดังหิน | |
มินานพวงใหญ่ชิน | ได้แยกให้ปลูกง่ายดาย | |
เคยลองกาบมะพร้าว | เป็นแกนยาวรอบเป็นสาย | |
เส้นหนวดเรียงรอบราย | เชือกปอมัดรัดเบาเบา | |
รดน้ำชุ่มได้นาน | คงชื่นบานโตเป็นเถา | |
งอกงามเร็วมากเข้า | ได้ขยายกันเรื่อยไป | |
ตรงตอกะเรกะร่อน | มัดติดท่อนตอตรงไหน | |
พอติดแตกยอดใบ | หนาทึบโอ้อวดพุ่มงาม | |
บางทีเห็นมีดอก | นึกว่าหลอกเลยมาถาม | |
คุณกูจึงเห็นยาม | มันมีดอกเหมือนบ้านเรา | |
โคนตอมีกระถาง | วางเรียงรายพวกว่านเขา | |
กวักมรกตเจ้า | คชเศวตยาวแหลมเรียว | |
งามดีธรณีสาร | ยามดอกบานแดงก้านเขียว | |
เปราะหอมหอมนักเชียว | สาวรุ่นทวดประประจำ | |
เสน่ห์จันแบบขาว | ก้านอวบยาวเคยยินขำ | |
พกหัวกัดขย้ำ | ไปจีบสาวเสน่ห์แรง | |
๕ มกราคม ๒๕๖๒ | ||
กาพย์ฉบัง ๑๖ | ||
ทักกันวันที่ห้าแจ้ง | อยากจักเปลี่ยนแปลง | |
ลองใช้เป็นกาพย์ฉบัง | ||
จังหวะเป็นคู่ระวัง | ชมสวนก็ยัง | |
รอบบ้านต้นไม้มากมี | ||
ชมต่อจึงรีบจรลี | ต้นอะไรนี่ | |
ว่านรวยไม่เลิกนะคุณ | ||
ใบสีนวลเขียวละมุน | เห็นแล้วอบอุ่น | |
ดังแขนละอ่อนนวลเนียน | ||
แสยะแสยกก็เพียร | ออกเสียงหรือเขียน | |
ยังงงสงสัยอยู่ดี | ||
บานมิรู้โรยกอนี้ | ลำต้นเหี่ยวสี | |
ต้นตายเหี่ยวไปหลายวัน | ||
แต่ดอกยังบานสีสัน | ยังสดสำคัญ | |
สมชื่อบานมิรู้โรย | ||
เมื่อก่อนตายายหิวโหย | หิวหมากโอดโอย | |
รีบหน่อยพานหมากยกมา | ||
บ้านนอกเราเคยเห็นหนา | ชอบค้นเหรียญตา | |
ที่พานหมากเจอประจำ | ||
เหรียญห้าหรือว่าเหรียญสิบ | หลายอันแอบหยิบ | |
เอาเพียงเหรียญห้าสตางค์ | ||
นิดหน่อยแต่ก็พออ้าง | แลกขนมกินบ้าง | |
ลอดช่องถ้วยห้าสอตอ | ||
กระถางนั่นแปลกแตกกอ | ยอดพุ่มละออ | |
สีเหลืองแดงเขียวแปลกดี | ||
ต้นเข็มริมแดงเขาชี้ | พุ่มงามสดสี | |
สุดสวยดังสาวสำอาง | ||
โกศลแตกพุ่มอยู่ข้าง | แตกใบสล้าง | |
หลากสีหลากสันพุ่มพวง | ||
พลูด่างพลูลายน่าหวง | ลอดเลื้อยชูงวง | |
แตกกิ่งแตกใบตามมา | ||
เรือนนอกเรือนในใครหนา | เศรษฐีเขาว่า | |
มีเรือนหลายอย่างต่างกัน | ||
คุณเขียวหมื่นปีสีสัน | สดใสสำคัญ | |
เห็นแล้วชวนชื่นตื่นใจ | ||
ต้นตีนตุ๊กแกแบบไหน | ฝรั่งหรือไทย | |
ต่างสวยมิมีใครยอม | ||
กล้วยไม้กลิ่นหอม | สร้อยทองดมดอม | |
ส่งกลิ่นแข่งกระดังงา | ||
หอมเล็บมือนางนั่นหนา | ดังหอมกานดา | |
ยามเจ้าลูบไล้เจือจันทน์ | ||
ชมเพลินพฤกษาสีสัน | รอบบ้านสำคัญ | |
ยายชอบปลูกไว้ให้ชม | ||
โพสเมื่อ ๖ มกราคม ๒๕๖๒ | ||
กาพย์ยานี ๑๑ | ||
มีเสียงเรียกร้องตา | ดังดงป่าก็ดูสม | |
บ้านตาหอมตามลม | เล็บมือนางโชยชื่นใจ | |
พวกสัตว์มีไหมครับ | ตาชอบจับก่อนจริงไหม | |
เข้าป่าชอบเดินไพร | รอบบ้านตาน่าจะมี | |
อยากดูตาชมสัตว์ | จัดให้หน่อยลองดูถี | |
บ้ายออยู่พอดี | ได้จ้าได้จัดให้ดู | |
วิ่งชนจากด้านหลัง | มิระวังล้มนะหนู | |
ทาโร่ซนมากรู้ | ชอบกระโดดชนขาเรา | |
อีกตัวคุณคุกกี้ | นี่ก็หมาไม่มีเหงา | |
วิ่งตามดังเป็นเงา | เดินรอบบ้านก็ตามมา | |
ผ่านหน้าคอนโดบึ๊ก | เสียงระทึกเห่าดังหวา | |
เสียงดังคงโกรธา | เจ้าทาโร่เดินใกล้กรง | |
สี่ตัวขังเอาไว้ | จะปล่อยให้มิลืมหลง | |
หกโมงจะปล่อยลง | เป็นหมายามตลอดคืน | |
ชื่อบั๊กและบึ๊กหนุ่ม | สองตัวคุมอยู่ยามยืน | |
หมาสาวสองชู้ชื่น | ซูกับซ่ามาช่วยกัน | |
รวมแล้วหมาหกตัว | มิต้องกลัวจะเงียบงัน | |
ยามหอนหนวกหูพลัน | หมาหกตัวหอนระงม | |
กลางวันหมาเข้ากรง | บ้านเงียบลงสงบสม | |
สัตว์อื่นมีให้ชม | เงียบเงียบไว้จะได้ดู | |
กลุ่มแรกนกกางเขน | แวะมาเล่นเชิญหนูหนู | |
รดน้ำต้นไม้รู้ | โฉบมาจับดื่มน้ำกัน | |
นกปรอดเงียบอยู่นาน | รังข้างบ้านยังนึกขัน | |
มีลูกเลิกเงียบงัน | ส่งเสียงดังระวังภัย | |
พวกมันหัดลูกบิน | เซ็งแซ่ยินยังสงสัย | |
นึกว่ามันมีภัย | ที่แท้ฝึกลูกนักบิน | |
หมาเห่ากันเซ็งแซ่ | อะไรแน่น่าติฉิน | |
อยู่อยู่ก็ได้ยิน | เจ้าบึ๊กบั๊กเห่าแข่งกัน | |
แอบมองสิ่งหน้าต่าง | ตัวที่ย่างเยื้องนึกขัน | |
กินข้าวเศษหมามัน | มิสนเสียงหมาเห่าเลย | |
ตัวเงินตัวทองเขา | เก่งมิเบามันเดินเฉย | |
มาบ่อยเพราะมันเคย | โผล่จากท่อมาบ้านเรา | |
กรงหมาเศษอาหาร | มันพบพานเลือกเก็บเอา | |
หมาเห็นส่งเสียงเห่า | มันมิสนเดินเรื่อยไป | |
บ่ายคล้อยปล่อยทาโร่ | มันเห่าโห่นึกสงสัย | |
ตัวเหี้ยยังมิไป | ปีนเสาเรือนมองหมามัน | |
คุกกี้มาอีกตัว | วิ่งกันมั่วยังนึกขัน | |
มันอยู่สูงปานนั้น | มันมิกลัวหมาหน่อยเลย | |
มันชอบปีหลังคา | กระโดดหาพุ่มไม้เฉย | |
ลับหายป่าตามเคย | ข้างบ้านเรารกชัฏดี | |
ตัวเต่านานานมา | เจ้าทาโร่เห่ามิหนี | |
คว่ำหน้าเชิญเห่าซี | เต่ามิกล้วหลับสบาย | |
ทาโร่เห่าหมดแรง | เต่ามันแกล้งทำเป็นตาย | |
เบื่อนักมิย่างย้าย | หมดอารมณ์เห่าไม่มัน | |
วันนี้มีแซงแซว | อีกเสียงแว่วนกเขาขัน | |
โพระดกแอบมานั่น | รู้จักนะเชิญจ้าเชิญ | |
นกเขานกกระจอก | พิราบบอกเขามิเขิน | |
มาหาเหยื่อเพลิดเพลิน | ธัญญพืชบ้านนี้มี | |
งูเขียวเลี้ยวลัดเลาะ | เกาะกิ่งไม้อำพรางสี | |
ซุ้มเล็บมือนางชี้ | ก่อนเด็ดดมเคาะแรงแรง | |
งูเห่านานนานมา | ซู่ซ่าเห่าทำเสียงแข็ง | |
จัดกัดอวดสำแดง | ต้องไล่งูไปไวไว | |
งูสิงก็มาด้วย | ช้วยบ้านเราเป็นพงไพร | |
รกมากหรืออย่างไร | แวะมาเยือนเหมือนถิ่นมัน | |
วันหนึ่งเจองูหลาม | มิไถ่ถามยังนึกขัน | |
หมาเจอสนุกกัน | ช่วยมิทันดับแน่นอน | |
ยังดีที่ยายเจอ | เรายังเซ่อจนยายค้อน | |
โทรเรียกหน่วยงานจร | ช่วยจับไปปล่อยให้ที | |
จบได้แหละขอรับ | กลับขึ้นบ้านเหนื่อยอีหลี | |
รดน้ำเสร็จพอดี | วันหลังค่อยมาเดินดู | |
วันที่ ๗ -๑๐ มกราคม ๒๕๖๒ | ||
มาแล้วตามสัญญา | จะพาชมนะคุณหนู | |
มาโร่มายืนดู | จะติดตามเพราะชอบไป | |
วันนี้นั่งบนชาน | ดอกพุดบานหอมไฉน | |
เอนลงเก้าอี้ไม้ | มาโดดมาเจ้าหมาซน | |
ทาโรโดดมาก่อน | มันชอบนอนเบียดกับคน | |
นอนตักท่ารุกรน | คงกลัวห้ามตามสบาย | |
วันนี้มีตำรา | หยืนเอามาก่อนทำหาย | |
ของฝากจากคุณยาย | ไปงานศพเขาแจกมา | |
เรื่องพุทธภาษิต | ข้อคิดมากมายหนา | |
อ่านไปจากตำรา | พาขบคิดให้เข้าใจ | |
อัตตาหินาโถ | อัตตโนมิสงสัย | |
คนอื่นพึ่งเมื่อใด | ยังละอ่อนมีแข็งแรง | |
ฝึกตนให้ฉลาด | จนสามารถแลเข้มแข็ง | |
พลังกายปัญญาแกร่ง | พร้อมทุกการงานหนักเบา | |
เมื่อนั่นพึ่งตนได้ | แกร่งวินัยมิขลาเขลา | |
ทำงานด้วยชาญเชาวน์ | ย่อมเจริญเป็นมงคล | |
อัตตาหเวชิตัง | เสยโยฟังชนะตน | |
วิเศษนักเลิศล้น | กว่าชนะคนทั่วไป | |
ชนะคนอื่นมิยาก | หากหวังชนะใคร | |
ต้องดีกว่าเขาได้ | ทุกกรรมกายจิตวาจา | |
ฉลาดเชาวน์วิชชา | ทั้งองอาจทำการงาน | |
แนวทางชนะเขา | ฝึกปรือเอาจนชำนาญ | |
สักวันคงได้ผ่าน | ชนะได้ดังเจตนา | |
แต่มีอยู่คนหนึ่ง | ช่างเข้าถึงยากแลหา | |
ตัวตนอยู่กันมา | ยิ่งนานวันยิ่งงุนงง | |
มันชอบสั่งการเรา | นั่นจะเอาแหละประสงค์ | |
รับหามาอย่างง | ขนมนั่นแหละชอบใจ | |
เสื้อผ้าทรวดทรงงาม | หลากสีตามนั่นเห็นไหม | |
ของกินก็อยากได้ | ซื้อให้หน่อยอยากจะกิน | |
จักรยานเบื่อแล้วหนา | มอไซด์น่าอย่าติฉิน | |
มีสาวซ้อนท้ายบิน | เพื่อนเขาทำน่าชื่นชม | |
ตามใจตนมิใช่ง่าย | ช่างหลากหลายชักขื่นขม | |
เบรคยากตามอารมณ์ | สุดลำบากยากมิเบา | |
สมควรรู้ประมาณ | รู้จักการมีควรเขลา | |
ตามใจตนเกินเรา | จะลำบากยุ่งยากใจ | |
ชนะตนกำกับดี | แล้วจักมีมากมงคล | |
ฝึกตนให้ฉลาด | มิให้พลาดอกุศล | |
ละบาปมิหมองมน | ทำถูกต้องครรลองธรรม | |
ชำระจิตสดใส | ควบคุมใจมิถลำ | |
ทางบาปหรือมนต์ดำ | มิอาจข้องห่างเภทภัย | |
ภาษิตบทต่อมา | อัตตนา ว กตัง ไข | |
ปาปัง เศร้าหมองได้ | เพราะกระทำเองชัดเจน | |
บาปนั้นมีสาม | ตามช่องจักรู้เห็น | |
ทางกายก็ยากเย็น | ทุจริตกายกรรมมี | |
ปาณานิบาตหนึ่ง | ถึงอทินนาวิถี | |
ลักทรัพย์ก็มิดี | สามกาเมมิจฉาจาร | |
สามกายทุจริต | เป็นสิ่งผิดคำกล่าวขาน | |
บัณฑิตแต่บราณ | ท่านเตือนไว้ให้สอนกัน | |
พูดเท็จหรือหยาบคาย | ล้วนเสียหายมิสร้างสรรค์ | |
ส่อเสียดเพ้อเจ้อนั่น | นับสี่ข้อทุวาจา | |
ท่านถือเป็นเรื่องบาป | ก็ควรทราบใส่ใจหนา | |
มโนทุโลภา | อภิชฌาอยากได้เกิน | |
ทุสพยาบาท | ถึงอาฆาตมิจำเริญ | |
มุหะหลงผิดชั่ว | เมามัวผิดมิขัดเขิน | |
เห็นบาปเป้นสิ่งเพลิน | เดินผิดทางสร้างเคราะห์กรรม | |
สามมโนทุจริต | คิดแล้วบาปอย่าถลำ | |
พุทธสอนให้จดจำ | ชำระใจให้ผ่องนวล | |
ไม่ทำบาปมิหมอง | จิตยังผ่องมิแปรปรวน | |
ใส่ธรรมดีงามควร | จักสดใสวิมลมาลย์ | |
ใส่ใจตนเสมอ | เจอขัดข้องกรองผสาน | |
เตือนตนสมควรการ | รู้ผิดชอบประกอบกรรม | |
คนอื่นเตือนก็ดี | นานจึงมีกลัวถลำ | |
บาปเกินกิจที่ทำ | ยากจักแก้อาจแพ้ภัย | |
สติตนพึงตั้งมั่น | สำคัญยิ่งนักไฉน | |
ทุกกิจกระทำไป | มีสติพิจารณา | |
ดีชั่วถูกหรือผิด | สติคิดกรองวิชชา | |
ท่านเรียกใช้ปัญญา | ตักเตือนตนมงคลมี | |
๑๑-๑๕ มกราคม ๒๕๖๒ | ||
พักผ่อนสบายใจ | มิได้เดินชมรุกขี | |
ระเบียงบ้านเราดี | มองแกมไม้นานาพรรณ | |
กระถางเรียงรายหลาก | ก็มีมากหลากสีสัน | |
ห้อยแขวนก็ปานนั้น | รกต้นไม้ร่มเย็นดี | |
เอนกายบนผ้าใบ | เตียงเตรียมไว้มิหน่ายหนี | |
ตรงชานโชยพัดมี | หอมมาลีมะลิวรรณ | |
หนังสือเปิดอ่านต่อ | มาถึงข้อไหนสำคัญ | |
หมวดตนจบแล้วนั่น | หมวดประมาทถัดกันไป | |
อัปปมาโท ปทัง | อมตัง คำที่ไข | |
มิประมาททางนี้ใช่ | อมตะทางมิตาย | |
ใจความคำประมาท | พูดทำพลาดจะเสียหาย | |
พลั้งไปก็เสียดาย | เพราะสติอ่อนพลัง | |
ท่านเรียกปมาทะ | สติละใจมิขลัง | |
หลงง่ายลืมระวัง | การงานพลาดอันตราย | |
งานเล็กพอรับได้ | หากงานใหญ่สิเสียหาย | |
ขับรถคนมากมาย | ชีพวางวายคนขับเมา | |
จนพลาดขาดสติ | อุตริร่วงลงเขา | |
ตายหมดนับดูเอา | สี่สบศพเพราะคนเดียว | |
สติเลือนมาขับรถ | ฉิบหายหมดมิต้องเสียว | |
คนอื่นเดือดร้อนเชียว | มารับกรรมคนขับเมา | |
สติมิเต็มเต็ง | ดีแต่เบ่งแต่ขลาดเขลา | |
ขับพลาดแถมนำเอา | คนอื่นอื่นร่วมบรรลัย | |
ตกเหวหลายสิบเมตร | เกินขอบเขตจะรอดไหว | |
สติมิช่วยได้ | มัวแต่เขลาเยาว์ปัญญา | |
โบราณท่านบอกไว้ | ประมาทไปนั่นสิหนา | |
ประหนึ่งถึง มตา | คือคนตายนั่นแน่นอน | |
ปมาโท มตัง | ปทัง คือบาลีสอน | |
ประมาทเหมื่อนจักจร | สู่ความตายวอดวายไป | |
และ เย ปมัตตา | ยถา ตายอย่าสงสัย | |
ความว่าหากผู้ใด | ประมาทตนอันตราย | |
สติมิเข้มแข็ง | มักอ่อนแรงพาฉิบหาย | |
รุนแรงงอาจถึงตาย | ท่านสอนไว้จำให้ดี | |
ต่อไปอ่านภาษิต | ถึงหมวดจิตตามวิถี | |
จิครักษ์เมธาวี | ผู้ฉลาดชาญปัญญา | |
ดูแลรักษ์ดวงจิต | อย่าปล่อยคิดบาปเลยหนา | |
พูดทำกรรมต่อมา | ดังถูกสาปล้วนบาปกรรม | |
จิตตะทันต์ สุขา | วะหัง มาเกิดสุขนำ | |
ฝึกจิตเป็นประจำ | ก่อกุศลผลงดงาม | |
กายกรรมและวจี | มีกุศลจิตติดตาม | |
ส่งผลดีทุกยาม | นำพาสู่ความเจริญ | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น