วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ไปวัดจำศีล

ไปวัดจำศีล

.----------------
...............พ่อตา ๆ ไปวัดจำศีล คือทำอย่างไร ลูกหลานเรียน มัธยมต้น จะเขียนรายงานส่งครู หัวข้อ 
 "ไปวัดจำศีล" สมัย ก่อนไม่ใช่เรื่องยาก รู้จักกันทุกครอบครัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมี คนไปวัดจำศีล
ขนาดวัดก็ลืมไปแล้ว ว่าการจำศีลเป็นกิจกรรม ชาวพุทธ โดยเฉพาะอุบาสกอุบาสิกา วันพระแปดค่ำ 
สิบสี่สิบห้า ค่ำ นิยมไปวัดจำศีลกัน ผมบวชเมื่อ พ.ศ. 2510 ยังทันกิจกรรม ไปวัดจำศีลอยู่ เมื่อลูกหลาน
มาถาม เลยบอกได้ว่าคืออะไร และ ทำอย่างไร 
.............จำศีลก็คือปฏิบัติรักษาศีลมิให้ขาด นิยมไปรักษาศีลกัน ที่วัด มีพระช่วยแนะนำ มีเพื่อนร่วมกิจกรรมมากหลายไม่เหงา แล้วยังได้ฟังเทศน์ด้วย ดังนั้นเมือถึงวันพระ ชาวบ้านจิงนิยม ไปทำบุญ
แล้วถือโอกาสรักษาศีล นอนค้างที่วัด 1 คืน เลยเรียก กันว่า "จำศีล" คือไปนอนที่วัดด้วย รักษาศีล
ด้วย นั่นเอง
............ไปจำศีลไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดเพศ ส่วนมากก็ผู้ใหญ่ คนแก่ วัดรับได้กี่คน ก็เต็มศาลานั่นแหละ 
แต่เท่าที่เห็นสัก 10 คน ถือว่าเยอะแล้ว ถึงวันพระตื่นเช้าทำวัตรสวดมนต์ สมาทานศีลห้า แผ่เมตตา 
แล้วไปอาบน้ำแต่งตัว จัดข้าวของไปนอนค้างที่วัด บางที ก็มีลูกหลานไปส่ง ไม่ก็เดินไปเอง เจอเพื่อน
ฝูงก็เดินไปด้วยกัน ไป ถึงวัดมรรคทายกจะนำพาสวดมนตร์ทำวัตรเช้า เสียงดังจนพระรู้ ท่านจะลงมา
ให้สมาทานศีลอุโบสถ บางวัดก็เทศน์แนะนำการจำศีล ว่า ศีลอุโบสถก็คือศีลแปดข้อ ที่ต้องตั้งใจรักษา
มิให้ขาดตลอดเวลา อยู่จำศีล จนวันรุ่งขึ้น ตอนเช้าค่อยลาศีลแปดแล้วรับศีลห้ากลับบ้านไป จากนั้น
ก็ปล่อยให้ไปฝึกสมาธิ เดินจงกรม ตามอัธยาศัย 
............วันพระชาวบ้านออกมาทำบุญตักบาตร ลูกหลานเราก็เตรียม ไทยทานมาให้เราทำบุญด้วย ก็
มาร่วมกิจกรรมถวายทาน จนเสร็จ ก็ขอรับอาหารที่เหลือจากพระมาร่วมรับประทานกัน ชาวบ้านเขารู้ 
ช่วยจัดแยกเป็นสำรับ ๆ ให้เลย รับประทานอาหารเสร็จ ก็เป็นช่วง รักษาศีล ศึกษาปฏิบัติสมาธิ บางวัด
ก็มีพระอาจารย์ลงมาช่วยแนะนำ วิธีนั่งสมาธิวิปัสสนา บางวัดก็แสดงพระธรรมเทศนา ช่วงเพลก็หยุด 
อาหารเที่ยงส่วนมากงดกัน ช่วงบ่ายก็ฝึกสมาธิตามลำพัง ตอนเย็น ฟังเทศน์และถวายน้ำปานะ ทำวัตร
เย็น ฝึกสมาธิและพักผ่อน 
.............เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นเช้าทำวัตรเช้า บอกลาศีลอุโบสถและขอ รับศีล 5 แล้วลากลับบ้าน เป็นอัน
จบกิจกรรม "ไปวัดจำศีล" รอวันพระ ถัดไปก็มาจำศีลกันอีก คำขอศีล และศีลที่เป็นภาษาบาลี มีมาก
มายทั้ง เป็นหนังสือที่วัดทำแจก หรือจะค้นหาในอินเตอร์เน็ตก็มีหาไม่ยาก เลยไม่บันทึกไว้ เพราะจะ
ยาวเกินไป 
............ก่อนจบ ขอบอกให้ทราบว่า รักษาศีลคือการปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวังมิให้ผิดไปจากเรื่อง
ที่ศีลห้ามไว้ เช่นศีลข้อ 4 ห้ามพูดปด ก็ระวังปากให้ดี ด่าก็ศีลขาดนะ เพราะคำด่า ล้วนแต่เป็นเรื่องเท็จ
สังเกต ดูก็รู้เองว่าทำไมด่าจึงศีลขาด สถานที่รักษาศีล ใช้ได้ทุกสถานที่ที่เราอยู่บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน 
ชุมชน เวลาที่ปฏิบัติ ก็ตลอดเวลาที่ยังไม่หลับ ตื่นมากลางดึกก็รักษาศีลต่อ แบบพระเณรท่านรักษาศีล
กันนั่นแหละ อย่างนี้ ถึงจะป็นการรักษาศีลอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ แล้วยังจะได้ อานิสงส์แห่ง
การรักษาศีลที่พระบอกทุกครั้งที่รับศีลว่า "สีเลน สุคติง ยันติง พวกเธอ จะดำเนิน(ชีวิต)ถึงสุคติได้ 
เพราะศีล สีเลน โภคสัมปทา พวกเธอ สามารถสั่งสม โภคะสมบัติ ได้ดี ก็เพราะศีล สีเลน นิพพุติง 
ยันติ พวกเธอ จะดำเนินชีวิตจนถึงความดับทุกข์ได้เพราะศีล) ตัสมา สีลัง วิโสธ เย ด้วย เหตุนี้ จึง
สมควรที่พวกเธอจะรักษาศีลให้ดี 
----------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น