วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นางผมหอมกลกลอน

   
...........นางผมหอมกลกลอน ผมฝึกแต่งกลอนกลบท ไปเห็นแบบอย่างกลอนกลบทในหนังสือที่ กวีท่านแต่งไว้คือ กลบทศิริวิบูลย์กิต ไปขอสำเนามาจากหอสมุดแห่งชาติ เพราะหาซื้อยาก ท่านแต่งเล่านิทานชาดกโดยใช้กลบทต่าง ๆ ก็เลยนึกขำ ๆว่า ถ้าเราจะลองแต่งบ้างก็น่าจะทำได้ แทนที่จะฝึกแต่งแล้วทิ้ง ก็จะเป็นแต่งแล้วเก็บไว้ มีเวลาก็กลับมาอ่านตรวจทานดู ที่สุดก็ลงมือ ที่เลือกนิทานเรื่องนางผมหอม เพราะเป็นนิทานพื้นบ้านที่คนเมืองเลยก็อ้างว่าเป็นเรื่องราวชาวพื้นบ้านเมืองเลย แต่ความจริงพบว่า มีหลายท้องถิ่นเขาก็อ้างว่าเป็นนิทานพื้นบ้านของเขาเหมือนกัน  ก็เลยเลือกมาแต่งเป็นกลกลอน จะได้ไม่มีใครอ้างได้ว่า นางผมหอมกลกลอน เป็นของท้องถิ่นไหนให้ยาก เชื่อเหอะไม่มีใครเลียนแบบกระผมหรอก สงสัยจะมีเรื่องเดียวนี่แหละที่ ใช้กลอนกลบทเล่าเรื่อง  ถึงจะเป็นการฝึกแต่งก็ตาม แต่ก็พยายาม แต่งให้ดูดีเท่าที่จะทำได้  อ้อการตรวจทานปรับปรุงแก้ไข ยังไม่ได้ทำนะครับ มีแต่ตรวจทานการสะกดและแผนผังเท่านั้น มีเวลาจะมาดูอีกที
 ...........................................  ...........ขุนทอง  ศรีประจง        ...........................................................มิถุนายน 2559


ตะเข็บไต่ขอน
......นะโมพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ กระพุ่มจำนงระลึกพระคุณ
ถวายประทีปและเทียนเพาะบุญ ก็หวังพระหนุนอุดมพลัง
มโนขะเจ้าก็ตริจะขีดจะเขียน จะเพียรลิขิตตริกลก็หวัง
จะอ่านผิยากกุศลปะดัง มโนก็ตั้งมิท้อดำเนิน
ประสงค์ลิขิตสฤษดิ์ลุล่วง เพราะปวงติรัตน์มิขัดมิเขิน
ก็อวยสำเร็จประเสริฐเจริญ จะเชิญพระพรหมสถิตนิรันดร์
งูกระหวัดหาง
อดีตกาลผ่านพ้นนับนานแล้ว ลูกหลานแก้วเข้ามาพร้อมหน้าสรรพ์
สามสี่คนครบถ้วนชวนมาพลัน พบยายนั้นอยากฟังนั่งให้ดี
ได้เลยลูกเล่าปางนางผมหอม หากมาพร้อมฟังยายอย่าหน่ายหนี
นานมาแล้วแก้วตาใกล้ป่ามี หมู่บ้านที่ยากจนคนทำนา
หนองบัวบกบอกชื่อคือหมู่บ้าน บ้างเสร็จงานชวนกันเสาะสรรหา
เห็ดมากมีในดงพงพนา ในดงป่ามากมวลชวนกันไป
ช้างประสานงา
สาวเทวีลูกนายบ้านประสานเพื่อน ประสงค์เผื่อคงเหมือนเมื่อก่อนไข
มักเกิดขึ้นเห็ดป่ามาจักไป มาจักปองเก็บได้คงมากมี
คนหมู่มากเข้าป่าแดนภูหลวง เดินภูหลากทั้งปวงล้วนสาวศรี
ลางสาวส่งเสียงเพลงจรลี จะร้องลำเปรมปรีดิ์คงเพลินใจ
คงพลัดจากเพื่อนพ้องมองไม่เห็น มองมิดหายเนื้อเย็นยิ่งหวันไหว
ยิ่งวอกแวกวังเวงเกรงกลางไพร เกรงกลัวพวกทิ้งไปอกเทวี
บัวบานกลีบ
กลัวนัก..หลงทางแน่หนอเรา กลัวนัก..หนอป่าเขาหาวิถี
กลัวนัก..บ่ายคล้อยในพงพี กลัวนัก..พวกเปรตผีจะหลอกเรา
กลัวนัก..น้ำจะดื่มก็มาหมด กลัวนัก..แสนระทดมันเงียบเหงา
กลัวนัก..รอยเท้าช้างใหญ่มิเบา กลัวนัก..เห็นมีเงาน้ำในรอย
กลัวนัก..ก้มดื่มน้ำในรอยช้าง กลัวนัก..แลเห็นทางมิยอมถอย
กลัวนัก..รีบเดินเพื่อนมิคอย กลัวนัก..ลงจากดอยเวลาเย็น
เทพชุมนุม
กลับถึงถิ่นยินแม่แท้เทียวหนอ นวลนางอ้างรอหลงดงหากเห็น
เทวีว่าน่ากลัวมัวมืดเป็น กรรมลำเค็ญครวญค่ำจำล่วงเลย
ของป่ามีพี่น้องหนองบัวบก ไม่วิตกหลงทางช่างเชือนเฉย
หลังลองใหม่ได้ทีที่แท้เคย หลงคงเหยหายกลัวทั่วทุกคน
ล่วงเลยวันพลันมีที่ประหลาด คงคาดคิดติดข้องมองสับสน
ทุกข์เทวีมีครรภ์มันมืดมนต์ เจ็บจนจิตคิดถามความเป็นไป
มธุรสวาที
เทวีนวลชวนฉงนมืดมนนัก มิรู้จักจดจำจะทำไฉน
มิมีชายหมายล่วงถึงดวงใจ มิมีใครเคยชิดสนิทนาง
พ่อแม่ถามยามใดบอกไม่รู้ ยากนักหนูหนักใจจะใคร่สาง
ลูกมาเกิดเถิดช้ำเคราะห์กรรมวาง มิรู้ข้างใครคือพ่อชักท้อใจ
หลายเดือนผ่านพาลนึกระลึกเหตุ เกิดอาเพทพลัดหลงน่าสงสัย
ดื่มน้ำน้อยรอยช้างหรืออย่างไร จึงทำให้เหตุต้องมีท้องพลัน
ก้านต่อดอก
ยากจะบอกออกไปใยเหลือเชื่อ จนนึกเบื่อโชคชตาน่าขันสรรพ์
จึงเก็บเรื่องปิดปกอกตันอัน เจ็บเหลือกลั้นสุดอายสายใจใย
สิบเดือนครบจบแล้วลูกน้อยสร้อย เกิดมาพลอยลืมทุกข์สุขใยใส
เป็นลูกสาวคราวนี้มีชัยไกร เงินทองไหลหลั่งมาว่าบุญคุณ
ยายตั้งชื่ออีหล่าว่าเหมาะเพราะ ฟังเสนาะน่ารักเทพปุนหนุน
รูปก็งามนามเพราะการุณจุน ครอบครัวอุ่นสุขสันติ์ภิรมย์ชม
กินนรรำ
จะกล่าวถึงฉวีนางสะอางค์ศรี จะจรลีแสวงหาจะสะสม
จะเก็บเห็ดจะเด็ดผักจะพักชม อภิรมย์พนาไพรจะไปกัน
ประดาเพื่อนสะเทือนใจจะไปด้วย จะได้ช่วยเจริญจิตสนิทสรรพ์
ณภูหลวงจะล่วงลึกระทึกพลัน พนานั้นประหลาดนักประจักษ์ตา
ประเดี๋ยวทึบประเดี๋ยวโล่งจะหลงอีก จะเดินหลีกแสวงมองจะจ้องหา
ละเทวีจะเดินเดี่ยวจะจรมา พะวงหน้าพะวงหลังระวังภัย
อักษรสลับล้วน
มองมืดมนจนจิตจริงยิ่งยุ่งยาก ต้องตรากตรำกรรมก่อกิจผิดแผกไผ
หลงลืมแล้วแถวทางถิ่นดินแดนใด พงไพรแผกแปลกเป็นปมงมงุนงง
อรอิดอ่อนวอนไหว้วานท่านเทพแถน..แสนโศกเศร้าเมามืดมนลนลานหลง
ช่วยชี้ช่องปล่องเปิดป่าผ่าไพรพง จงจุนเจือเอื้ออ่อนอวยทวยเทพไท
หิวโหยหาหน้านวลน้องหมองหม่นหมาย วุนวายเวียนเจียนเจ็บจิตคิดขุ่นไข
น้ำหนอน้ำจำจดจ้องคลองโคใคร รอยไรหรือคือขุ่นคล้ำน้ำนิดเดียว
ดวงเดือนประดับดาว
นวลนางย่างย้ายกรายใกล้ใกล้ ได้ดื่มลืมเลยเคยขุ่นเขียว
เมียงมองจ้องจับทับทางเทียว เลี้ยวลดคดโค้งโล่งลับแล
ดุ่มเดินเพลินพิศทิศถูกทาง นางนึกดึกดื่นคืนคอยแข
เลือนลางทางเทียวเดี่ยวดวงแด แน่นอนก่อนกลับคับข้องใจ
ทางเทียวเดี่ยวเดินเขินเขาคุ้น ปุนแปลกแผกเผยเลยหลงไหล
หลงลืมดื่มด่ำค่ำคลาไคล ใยยุ่งนุงนังวังเวงวน
รักร้อย
กลับมาบ้านบ้านรอพ่อใจหาย วุนวายนักนักหนอรอสับสน
เทวีมามาลูกผูกกมล ถึงจนใจใจดีที่ลูกมา
มินานนักนักหนอก็ตั้งครรภ์ พลันพ่อแม่แม่ถามใครกันหนา
เป็นพ่อมันมันใครหนอลูกยา บอกมาลูกลูกท้องกับชายใด
เทวีงงงงนักยากจักเล่า เยาว์มิรู้รู้เลศเหตุไฉน
มันท้องจริงจริงหรือคือลูกใคร สงสัยนักนักนึกตรึกเรื่องราว
กินนรเก็บบัว
นานนับวันถึงวันก็พลันคลอด ก็ปลอดภัยปราศภัยได้ลูกสาว
ชื่อนางลุนหนูลุนบุญดังดาว งามราวเดือนดุจเดือนเหมือนดวงใจ
เลี้ยงลูกน้อยหนูน้อยพลอยเติบกล้า สองหน้ามนดังมนต์เสกสดใส
เจ้างามพักตร์ผ่องพักตร์พิศพิไล เติบใหญ่มีมากมีเสน่ห์นาง
คนเขาล้อหยอกล้อพ่อมิมี คนดีจ๋าหนูจ๋ามาสะสาง
ไปถามแม่คุณแม่แกรู้ทาง มาอ้างเราพวกเราจักชื่นชม
อักษรสังวาส
ทางนางหล่าล่วงวันพลันใหญ่ใส งามทรามวัยดังเดือนนิยมสม
จำคำถามถึงบิดาตากลมคม แม่แพ้ลมลูกถามตามคำจำ
นางช่างคิดคำบอกฟังดูหนู คิดคิดรู้เรื่องช้างช่างขำถลำ
เป็นเช่นพ่อแผกคนเพราะกรรมนำ หนูรู้ทำไฉนหนอพอดีมี
จำคำแม่หมายใจวันหน้าหนา ตามถามหาให้เห็นดูทีผี
ในไพรพงคงอวยช่วยชีวี ผูกลูกนี้พบบิดาป่าดงพง
หล่าลุนน้อง(น้องลุน)วุ่นวายหนอ ขอไปป่า(ป่าไป)ไพรระหง
ตามหาพ่อ (พ่อหา) ตายายจง คงได้ไป(ไปได้)แม่ตามใจ
สองพี่น้อง(น้องพี่)ยินดีนัก จักเดินป่า(ป่าเดิน)เนินเขาไข
มุ่งดงหลวง(หลวงดง)พิศพงไพร ในภูหลวง(หลวงภู)ดูยากเย็น
เดินสบาย(สบายเดิน)เพลิดเพลินจิต พิศพงหนา(หนาพง)ดงได้เห็น
หล่ากับลุน(ลุนกับ)สลับเป็น เล่นร้องรำ(รำร้อง)ก้องกลางไพร
ดำเนินนางสระ
นวลน้องสองสาวผ่องพราวพักตร์ จักจรร้อนแรงคงแข็งไข
นานเนิ่นเดินดงเจาะจงใจ ใคร่คบพบพ่อหนอเนื้อนวล
ล่วงล้ำถ้ำถิ่นเดินดินดุ่ม พุ่มพฤกษ์ลึกล่วงห้วงเหหวน
แดงดู่ลู่ลมจันทน์จมจวน มวลมีสีสันพรรณพฤกษ์ไพร
หากเห็นเช่นช้างแตกต่างตรอง น้องนางห่างเห็นขุกเข็ญไข
เมียงมองตรองแต่งจึงแจ้งใจ ใหญ่ยิ่งจริงเจียวเล็งเหลียวแล
กบเต้นต่อยหอย
เห็นช้างป่าหาใช่เป็นดังเช่นหมาย ช้างเจ้าขาช้าจงคลายเดือดดวงแข
พวกหนูมาพาน้องมาดวาดดวงแด ตามช้างลองตรองเช่นแลหาพ่อกัน
เขาบอกช้างข้างบนชี้คีรีมาศ เป็นพ่อน้องปองเพราะนาถเล็งแลสรรพ์
เห็นท่านหลากหากทักเล่นเป็นพ่อพลัน หลงทักท้วงล่วงโทษทัณฑ์โปรดอภัย
ช้างได้ฟังชั่งดูฝ่ายค่อยคลายโกรธ นางลองดูหนูลองโดดป่ายปีนไหม
ขี่หลังมั่นขั้นลองหมายสบายใจ คือลูกช้างข้างหล่นใช่จะต้องตาย
กบเต้นสลักเพชร
นางลุนลองน้องหล่นลงนงเลยลับ ถูกช้างโหดโทษชนหับทับฉิบหาย
นางหล่าขี่นี้ลงคล่องน้องเลยคลาย พ่อช้างหาพาชวนหายผายชิดเฮือน
สร้างถ้ำใหญ่ใสถิ่นเย้าเสาทองใย วอนลูกเนาว์เว้าลูกนัยรักใคร่เหมือน
เพียงดวงตาพาได้ติดพิศดูเตือน รักลูกเยาว์เร้าลูกเยือนเรือนหล่าเยาว์
หาผลไม้ให้พอมากหากผลามวล สบายน้อยสร้อยบอกนวลส่วนบ้านเนาว์
สุขใจกายสายจิตก่องส่องแจ้งเกลา หลายวันเคลื่อนเลื่อนวันเข้าเล่าวันคืน
พยัคฆ์ข้ามห้วย
ก่อถ้ำสร้างกลางเขาลำเนาสร้าง ยากลูกฝืนพญาช้างยากจักฝืน
ทุกวันชื่นนางหล่าพักตราชื่น เช้ามากมีเมื่อยามตื่นของกินมี
พ่อจัดให้มากมวลขวานขวายให้ ผลหลากสีหมากไม้แลหลากสี
สรงวารีเย็นค่อยลอยวารี ลงน้ำเลยสายนทีนามน้ำเลย
ชมบัวขาบนิลุบลยลเข้มขาบ บัวบานเผยผ่องทราบยามกลีบเผย
ชายฝั่งเตยตูมตั่งต้างต่างเตย ลมพัดพานพรมรำเพยยามพัดพาน
ละลอกแก้วกระทบฝั่ง
มองมัจฉามวลมาช่อนสลอนสลิด ตะพาบเวียนตะเพียนวิดติดสืบสาน
กระดี่โลดกระโดดไล่วิไลลาน ปลาหลดคาดปลาหลาดคลานผ่านมุดตม
ปลาซิวอ้วนปลาส่วนอ้างสำอางนัก มองน่ารักมันนักรำขำสวยสม
พวกปลากัดแผกปัดกรายพรายแพรวชม ปลาหมูรอปลาหมอรมนิยมรำ
กระทิงงงกระทงงามตามติดติด ปลานิลควรปลานวลคิดคงถลำ
ฝูงปลากรายฝ่าปลายกลุ่มชุมกาดำ กระโห้ควรก็หวนขำกรรมของปลา
ครอบจักรวาล
แจ้งแล้วพ่อพาไปในดงแจ้ง หาชมแสงอรุณรุ่งมุ่งแลหา
มาชมไม้มืดมนวนเวียนมา ดูผลาหมากไม้ได้ชมดู
หลากไผ่พงปรงเปราะลัดเลาะหลาก หนู่หล่าอยากชมไม้ได้เลยหนู
ภูหลวงรกพ่อช้างย่างผ่านภู ไพรชวนดูบุษบาบานเต็มไพร
กุ่มแกมจันทน์เล็บเหยี่ยวเกี่ยวกกกุ่ม ไหนฮางสุ่มเล็บมือนางอยู่ทางไหน
ใยกระพ้อกระเจียวเที่ยวชมใย ชมมิ่งไม้เพลิดเพลินดังเดินชม
กบเต้นสามตอน
ยามเช้าเยาว์ช้างย่างชวน มาสาวมาสรวลเหมาะสม
นกกกนกกาหน้ากลม กระยางกลางยมก้มยืน
กระสากาสรก่อนสรรพ์ ยังใฝ่ใยฝันยันฝืน
จับกบจบใกล้ใจกลืน ควายชื่นคืนเช้าเขาเชย
นกเขาเนาว์ขันนั่นใคร กระเรียนเกรียนไรไก่เฉย
กาบบัวกลัวบ้างกร่างเสบย กระสากาเสยเกยซวนฯ
สุรางค์ระบำ
นับนานเข้าเนาว์ข่วงนับหน่วงเข้า สิบเจ็ดให้ใจหายขจายหวน
เป็นสาวน้อยสร้อยองค์ประสงค์นวล หอมกลิ่นยวนกวนยันหอมกัลยา
ป่วนจิดได้ใจดอมเจ้าจอมแด เฝ้ามองแน่แม้นึกระทึกหนา
เจ้าเพียงเดือนเพื่อนดาวพะพราวสุดา ดังเทพาถ้าพิศสถิตพรหม
สงสัยนักสักหน่อยหนอสร้อยนวล จับใจป่วนจวนป่นก็จนปม
พารัญจวนรวนจิตเมาฤทธิ์จม มากคนชมคมชื่นทุกคืนชาย
นารายณ์ทรงเครื่อง
นวลสาวน้าวศรีสรีสุรางค์ นางป่วนนวลปรางก็จางกระจาย
พักตร์ผ่องพ้องพรรณกระสันกระสาย ยลพิมพ์ยิ้มพรายมิคลายมิคลา
งามองค์งงอรสมรสมาน นวลคงนงคราญสวยนานสิหนา
น่ารักนักรื่นควรตื่นคงตรา สายใจใสจาคณาคะนึง
ชายเห็นเช่นหายุพายุพิน ดีใจได้จินต์ก็ทินก็ถึง
สุขยิ่งสิ่งเย้าต่างเล้าตะลึง ต่างแจ้งแต่งจึงรำพึงรำพัน
นาคราชแผลงฤทธิ์
ความในจ้าวสาวหล่าครุ่นคราจิต คิดครุ่นใจใคร่พิศดังจิตฝัน
ดั้นเจตน์ส่งตรงชู้เคียงคู่กัน ครั้นคิดกรรมทำพลันจะสรรลอง
จองเสกล้วนควรคู่แลผู้เกิด เลิศเพราะกรรมนำเกิดประเสริฐสอง
ประสมส่วนล้วนบุญครุ่นคิดคลอง ข้องคงควรนวลตรองทำนองกล
ทนนั่งเก็บเส้นผมม้วนกลมได้ ไม้กลัดดีสอดผอบจนจบผล
จงจิตแผ่แต่บุญพระคุณดล พลคงเดชเพทย์มนต์กุศลตรง ฯ
กลบทบวรโตฎก
ยุวดี ดีใจจะไปเที่ยว ชลเชี่ยว น้ำเลยเคยประสงค์
ยุวภา ลาพ่อจะขอลง ชลคง อาบน้ำในลำธาร
คชพ่อ พาไปใกล้ลำน้ำ คชพร่ำ รีบอาบทราบคำขาน
คชบอก ไปธุระจะมินาน คชท่าน มารับกลับถ้ำทอง
สิรินุช อธิษฐานต่อเทพไท้ สิรินาถ วอนไว้ได้สนอง
สิรินวล วอนดูนวลละออง สิรินง ขอให้พบผอบนาง
บัวบานกลีบขยาย
ดีใจ..มากพ่อช้างหากเดินจากไป ดีใจ..ยิ่งน้ำเลยใสได้สะสาง
ดีใจ..ล้ำชำระกายโฉมสะอาง ดีใจ..พลางมองตามผอบทอง
ดีใจ..หวังตั้งจิดสัมฤทธิ์ผล ดีใจ..จนอิ่มอกโอกทั้งผอง
ดีใจ..ดูชมพูล้วนน่ามอง ดีใจ..น้องนางหล่าสุขารมณ์
ดีใจ..พ่อมารับกลับถ้ำพัก ดีใจ..นักของกินยินดีสม
ดีใจ..กลับพักผ่อนอ่อนยังจม ดีใจ..ปมอยากมีรักนวลพักตร์รอ
คุณบท



สะบัดสะบิ้ง
วรจิตคิดคลายทุกข์สนุกสนาน จักชมธารน้ำนองฉลองไฉน
ลาบิดาชวนเพื่อนก็เคลื่อนก็ไคล น้ำเลยใสหลากธารก็ลานก็แล
ลงน้ำเก็บบัวแดงแสลงสลวย บัวหลวงสวยงามดอกผิจอกผิแหน
กระทุ่มน้ำกระเทือนก็เชื่อนก็แช ลอยเป็นแพกอสวะกระจัดกระจาย
แลลิบลิบหยิบได้ไฉนฉะนี้ ผอบสีแปลกนะสหสหาย
กลับถึงบ้านชอบกลกระวนกระวาย แปลกเหลือหลายผอบมาศพิลาสพิไล
เปิดเห็นผมชมชืนระรื่นระรวย อกระทวยหลงนุชพิสุทธิ์พิสัย
อยากพบนวนป่วนจิตพินิจพินัย ตัดสินใจจักตามดูพธูผกา
สิงหฬวาท
อหํ ข้าวรจิตคิดถึงเสน่ห์ ตุมเห น้องกลางไพรอยู่ไหนหนา
ภาตา พี่ได้พบผอบมา เกสา นางสุดหอมกล่อมดวงใจ
กนิฎฐา น้องเอ๋ยอยากเชยชิด หทยัง พี่พินิจพิสมัย
พนฺธนัง ผูกพันมั่นหมายใน ทาริกา ทรามวัยเพียงคนเดียว
กุมารี ยอดพธูอยู่หนไหน คจฉติ จะไปป่าพนาเขียว
จินเตติ หวังชมชื่นกลมเกลียว เคหํ เทียวจักรับเจ้ากลับมา
คณฺหาติ เก็บผอบดังพบรัก ตกฺเกติ..ตรองตริสิเนหา
คเตสิ  ลอยไปในธารา วนิดา คืนไวไปหานวล
ฉัตรสามชั้น
--------------------
มวลไผ่กอ .มากหนอ กอไผ่มวล ซางแกมล้วน ไผ่นวล ล้วนแกมซาง
หนามหนานัก ขีดข่วน นักหนาหนาม ถางเงี่ยงดุก ลุมพุก ดุกเงี่ยงถาง
กางเล็บเหยี่ยว เกาะเกี่ยว เหยี่ยวเล็บกาง กุนทาง้าง แหวกทางง้างกุนทา
มากเถาววัลย์ ดงหวาย วันเถาว์มาก หายากทาง เครือมุง ทางยากหา
ยานางเครือ ส้มลม เครือนางยา หลากหลายป่าเถาวัลย์มาป่าหลายหลาก
อักษรกลอนตาย (แก้ไขเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค)
พระบาทออกสืบเสาะเกาะติดบก ผอบตกหลุดติดคิดทุกข์มาก
รกชัฏนักจักบุกทุกหุบหลาก ผอบหากลับมิดติดขัดนัก
เจ็บจุกอกวิตกมากหากลับหมด สุดเก็บกดรุกอีกจำเพาะรัก
เลาะเลียบหาดจุกเจ็บเหน็บจับกัก แทบจะปักมุดมิดติดเดือดดูด
ผอบวับลับอีกหลีกลัดเลาะ ติดตรึกเกาะหกลุกกะโหลกปูด
หลุดปลักเตะหลักแปลกแหลกยากพูด เก็บผักกูดจับหลุดยวบมิดลด ฯ
เบญจวรรณห้าสี
--------------------
หลุดแล้วลองเล็งแล ผอบหนอ เพียงพบพอผ่องแผ้ว พอจักทด
ติดตามต่อต่างตา ป่าปลงปลด จวงจันทน์จดจิกจ่อง จ้องตูมกา
พิศผองไผ่ไพรเพก ลำเล็กใหญ่ แหนหันให้หากเห็น นุ่นหนามหนา
ยลยางใหญ่ยืนยิ่ง ยามย่างมา หลงแล้วหล่าหลากหลาย เจ้าสายใจ
หุบห้วยหอมหากเห็น เป็นผอบ พอพี่พบเพ่งพิศ จิตสงสัย
นวลนางเนาว์แน่นอน ทางนั้นนัย ทวยเทพไททิศทาง ช่างเมตตา ฯ
จาตุรงคนายก
----------------------
ยามบ่ายยามหล่ายามมายามเที่ยว ชมน้ำชมดี่ยวชมเกี่ยวชมชลา
ลอยล่องลอยล้ำลอยน้ำลอยมา เห็นกล่องเห็นท่าเห็นน่าเห็นงาม
หยิบดูหยิบอ่านหยิบผ่านหยิบมอง รู้เรื่องรู้คลองรู้ช่องรู้ขาม
เห็นแล้วเห็นหล่าเห็นหน้าเห็นนาม ยิ้มยั่วยิ้มยามยิ้มตามยิ้มนำ
พี่เหนื่อยพี่หายพี่ชายพี่พาน นงนุชนงคราญนงต้านนงขำ
รักเจ้ารักมากรักจากรักจำ จักกอปรจักทำจักกำจักกอง
สาวหล่าสาวนวลสาวชวนสาวสม พี่ทุกพี่ตรมพี่งมพี่ผอง
นวลรู้นวลชอบนวลตอบนวลตรอง เรานี้เราสองเราต้องเราควร
เป็นคู่เป็นบุญเป็นคุณเป็นปูรณ์ เหมาะเพิ่มเหมาะพูนเหมาะคูณเหมาะหวน
รักกันรักน้องรักครองรักป่วน คู่เราคู่นวลคู่ชวนคู่กรรม
อักษรบริพันธ์ หรือ ช้างประสานงา
-------------------
วรจิตชิดน้องปองสวาท ปองแสวงแต่งมาดอาจถลำ
อรแถลงแปลงสารพี่อ่านจำ เพราะอ่านเจอนางพร่ำร่ำพรรณนา
เรื่องผองนางเสี่ยงทายหมายเลือกคู่ มาเลือกคนคิดดูประกาศหา
ประกาศให้พบคู่แต่ก่อนมา ตรงกับหมายอักษราพี่ยานวล
เพียงยลน้องปองรักอยู่เต็มอก ยอมตามอ่อนไม่วกกลับคืนหวน
กล้าขอให้รับรักพี่ชักชวน พี่ชิดเชยรบกวนนวลตอบมา
นางตอบหมายมอบใจให้พี่รัก หากพี่รู้นวลภักดิ์วาสนา
ว่าสองนี้คู่กันเพราะบุญญา เพราะบุญใหญ่สองรามาพบกัน ฯ
ดุริยางคจำเรียง
-------------------
หนุ่มหนุ่มอึ้งถึงถึงหล่าข้าข้าเขิน เจ้าเจ้าเกินเหินเหินห่างช่างช่างสรรค์
แผ่แผ่ให้ไมไมตรีดีดีพลัน อ้ายอ้ายนั้นฝันฝันหรือคือคือจริง
สาวสาวหยิกจิกจิกแขนแสนแสนสอด บ่าวบ่าวกอดยอดยอดชู้ดูดูหญิง
ฮักฮักเจ้าเท่าเท่าฟ้ามามาอิง ไม่ไม่ทิ้งนิ่งนิ่งนวลอวลอวลอร
สองสองชื่นรื่นรื่นรมย์สมสมสวาท เคียงเคียงคาดวาดวาดฝันสันติ์สรรพ์สมร
หอมหอมนักพักตร์พักตร์นวลยวนยวนวอน รักรักร้อนศรศรกามตามตามทะลวง
วิสูตรสองไข
----------------
สนิทสนมชมชื่นระรื่นระรมย์ พระชื่นพระชมสมซึ้งก็หีงก็หวง
พระนุชพระน้องต้องใจมิไล่มิลวง จะเหนี่ยวจะหน่วงดวงเราพะเน้าพะนอ
จะนำจะนวลควรพักประจักษ์ประเจิด ก็ล้ำก็เลิศประคองณห้องณหอ
ก็หลบก็หลีกปลีกเลี่ยงมิเพียงมิพอ ละอ่อนละออทุกคำสำเริงสำราญ
ลุล่วงลุกาลนานเข้าเฉลาฉลวย ก็เออก็อวยอรสุขสนุกสนาน
ละวังละเวียงเลี่ยงกิจก็ผิดก็พลาด พระคงพระคาดควรกลับประคับประคอง
จะชักจะชวนนวลหล่ายุพายุพักตร์ ประแจงประจักษ์สมัครเสมอเสนอสนอง
พระพี่พระนวลชวนลับก็จับก็จอง คะไลคะลองล่องลับก็กลับก็ไกล ฯ
กลบทจตุรงคประดับ
----------------
กลับเมือง...แล้วแก้วยุพินยุพาพักตร์ กลับเมือง...จักป่าวประสิทธิ์ประสาทสมัย
กลับเมือง...จักรักษ์ ประเทศประทักษ์ ไกร กลับเมือง...ไซร้สมสวาทสวัสดิ์มี
ฮ่มขาว...เมืองเรืองฉลองเฉลิมราช ฮ่มขาว...คาด สุขกระสันเกษมศรี
ฮ่มขาว...ชนคน พิธานพิทักษ์ดี ฮ่มขาว...ชี้นางเสงี่ยมสง่านวล
ปรีดา...ด้วยอวยสมรสมรรถงาน ปรีดา...หานแก้ววิสิทธิ์วิเศษหวน
ปรีดา...ชนพลทะแกล้วทกล้าควร ปรีดา...ล้วนทุกสกุลสกลนคร ฯ
กลบทตรียมก
----------------
คชสาร คชศรี คชเศร้า เพราะนางเล่า เพราะนางลี้ เพราะหนีหลอน
คิดถึงนวล ครวญถึงนาง คร่ำถึงนอน เจ็บยิ่งตอน เจ็บยามเตรียม เจ็บยิ่งตน
หาลูกไม้ ให้ลูกมอบ หอบลูกมาก ลูกหนีหาก หลากหนีหาย หลายหนีหน
ตกใจสม ตรมใจสุด ตรอมใจซน หลายเดือนปน ล้วนเดือนแปลก แลกเดือนปลง
เจ้าล้มลุก จุกล้มแล้ว จักล้มลับ รอยบุญสับ ฤาบุญสิ้น ไร้บุญสง
ขอเทพช่วย ขอทวยชี้ ขอเทพชง กายเป็นทอง กองเป็นธง กรงเป็นธรรม
อักขระโกศล
------------------------
พระน้องพระนางช่างสบสุข มิทุกข์มิทนค้นคลองขำ
ถือศีลถือสัตย์จัดแจงจำ ยามค่ำยามคืนชื่นชิดเชย
สามีสามารถอาจองเอก คอยเสกคอยสร้างพ่างแผกเผย
รักนวลนักนางข้างเคียงเคย มิเลยมิเลือนเดือนดุจดาว
มีลูกมีหลานสานสืบสกุล อบอุ่นอบอวลสรวลสืลสาว
เทวีเทวาย่ายายยาว พบท้าวพวชบที่ชี้ชมเชย
ย้ายเลี้ยงยายแลแขควรไข เปลไกวเปลแกว่งแห่งหาเหย
เพลงรำเพลงร้องล่องลอยเลย หวานนักหวานเอ่ยเคยค่ำครวญ ฯ
ยายกล่อมหลาน (เพลงกล่อมเด็ก)
------------------------
เออ เอ่อ เอ้อ อือ อื่อ อื้อ นอนสาหล่า แม่ใหญ่สิพานอน
นอน เอ้า นอน หลับตาแม่สิกล่อม เจ้าบ่นอนบ่ให้กินกล้วย
แม่ไปห้วยหาปูหาปลา แม่ไปนาจับปลาข่อใหญ่
แม่ไปไฮ่เก็บเห็ดล่ะโงก แม่ไปโคกเก็บเห็ดแทดเห็ดทา
กลับคืนมาแกงปล่าข่อใหญ่ อย่าฮ้องไห่แมวเป้าแมวโพง
ฟ้าวนอนสาแมวมันมาเถิงแล้ว อย่าสุแอ่วมันสิจกตา
เจ้านอนซ้ามันสิจกหำ นอนยามค่ำมันสิจกก้น
เออ เอ่อ เอ้อ อือ อื่อ อื้อ นอนสาหล่า แม่ใหญ่พานอน
แม่ไปไฮ่ได้แตงหน่วยหนา แม่ไปนาหาของมาฝาก
ได้หมากหว่าหมากเหว่อหมากหวาย มีอีกหลายหมากไฟหมากส่าน
สุกคาฮ้านแตงจิงแตงโม ปาดทิโทหลายซายหลับแล้ว
ได้หน่วยแก้วพระอินทร์พระพรหม อมนะโมพุทธโธเป็นเค้า
ขอให้เจ้าใหญ่กล้าหน้าบาน เป็นทหารมีฤทธิ์มีเดช
ในขงเขตให้ซ่าให้ลือ อื้อ ฮึ อือ ฮึ อื้อ ฮึ อือ ฯ
กินนรรำ
------------------------
O=พระหากหวนพระนวลนึกพระตรึกติด คะนึงนิจก็คิดใคร่จะให้หวน
จะงอยเหงาจะเศร้าซมจะขมควร เสาะสืบสวน มิรวนเรจะเหว่ไว
จะเยี่ยมยามจะถามถึงก็พึงพร้อม พระอ้อมอ้อนพระกรกาง ก็ครางไข
ก็สามทรงก็คงคาคะลาคะไล เสด็จได้ไสวสว่าง พะพร่างพรม
ประทับถ้ำประจำจักประทักเทิด ก็ก่อเกิดประเสริฐสิทธิ์ ลิขิตขม
ก็คิดคุณธปุนปลอบธชอบชม ภิรมย์รักษ์พิทักษ์ธาตุพิลาสลาน
ขมาหมายสลายโลดละโทษเทศ เพราะหากเหตุเพราะเลศล่วงเพราะห้วงหาญ
ลุถึงทัณฑ์จะพลันเพลินจะเนิ่นนาน ก็ทำทานประมาณไหม อภัยพลี ฯ
กลบทเลวงวางตรวจ
--------------------
กราบกรานก่อขอขมาลาลับแล้ว ก่องเก็จแก้วแวววับสับแสงสี
ซากศพสิ้นจินดามามวลมี ทองถ้วนถี่มวลมากหลากเหลือแล
ขอบคุณค่าตราตรึงซึ้งทรัพย์สรรพ์ พ่อผูกพันหากให้ใคร่ครองแข
คิดขนของทองแท่งแปลงปลอบแปร พูนเพียบแพเรืองรุ่งมุ่งเมือเมือง
สองเสกสร้างฮ่มขาวคราวครั้งไข รังรองไร้อริรานลานแลเหลือง
เฮือนหอฮ้านย่านยาวฮาวฮองเฮือง ปองปุนเปลืองใจเตือนเงื่อนงดงาม
--------------------
สิงห์โตเล่นหาง
--------------------
สองครองเมืองเรืองรุ่งคุ้งเขตแขวง ฮ่มขาวแกร่งเกรียงไกรใครก็ขาม
ชุมชนรักภักดีมีใจตาม สุขสมสามโลกลือชื่อกำจร
วรจิตท้าวจ้าวราชอาจองนัก นางหล่าอัครเทวีศรีสมร
สุขสืบสานนานเนิ่นเพลินบวร ประชากรชื่นชมนิยมการณ์
ตอนสุดท้ายหมายจบครบเนื้อหา พรรณนาถ้วนครบจบตอนสาร
ขอบพระคุณอุ่นใจได้เบิกบาน พระคุณท่านมากได้ให้พลัง
ขอขมาลาโทษโปรดอย่าขึ้ง ล่วงเกินถึงผู้ใดในแผนผัง
เล่าผิดพลาดคาดไว้ไม่ระวัง ลดโทสังอภัยข้อยผู้น้อยเทอญ ฯ

   สรุป 
------------------------
การโพส มีหลายครั้งคือ........     
นางผมหอมกลกลอนตอนที่ 1 โพสเมื่อ.....9/9/1958..... 13/78
นางผมหอมกลกลอนตอนจบ  โพสเมื่อ.....13/10/1958.....2/14

บันทึกเวลาที่แต่ง......
------------------------
เริ่มแต่ง 5 กันยายน 2558 โพสครั้งแรก  9 กันยายน 2558  ครั้งสุดท้าย 13 ตุลาคม 2558
รวม 25 + 13 = 38 วัน 
-----------------------
สรุปใช้ 46 กลบท 1 เพลงกล่อมลูก ความยาว 300 คำกลอน  150 บท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น