อาจารย์จินตนา กล้ายประยงค์ ผู้เชี่ยวชาญกาพย์กลอน และเพลงพื้นบ้าน
จัดกิจกรรมให้สมาชิกได้แต่งกาพย์กลอน เนื่องในวันทั้ง 7 ของสัปดาห์ ได้เขียนส่ง
ไปร่วมหลายครั้ง กำลังตามหามาไว้ด้วยกัน
------------สุขจันทร์สุขจริง ไตรยางค์----------
กลอนหกครอบจักรวาลวันจันทร์สุขจริงทั้งวัน.................สันติ์สุขสนุกสบสันติ์
จันยาไปสอนวันจันทร์..................ดีครันพบศิษย์ยินดี
นั่นใครมาเรียนนะนั่น..................หนีเรียนมันไหนใครหนี
ปรีดามาไหมไหนปรี......................ดาราชี้ตัวกานดา
เหนื่อยใจเงียบหน่อยครูเหนื่อย....หาเรื่องกวนเรื่อยนักหา
มาเริ่มเรียนกันรีบมา......................ชวนอ่านกอกาชักชวน
แบ่งหมู่ไตรยางค์ลองแบ่ง..............หวนแต่งลองเสียงให้หวน
ทวนเสียงอักษรเออทวน..................กอขอจบชวนมากอ
ห้าจบทบทวนรอบห้า.....................ขอพาสังเกตกอขอ
พอเสียงจัตวาเพียงพอ...................มารอคัดออกจัดมา
หน่อยอ่านตัวขอดูหน่อย...............หาพลอยตัวฉอลองหา
ตาบอกสิบเอ็ดขวัญตา....................มีขอฉอว่ามากมี
นั่นอักษรสูงกลุ่มนั่น.....................สีดาหาพลันนวลศรี
มีกลุ่มผสมอะเสียงมี.....................ฟังเอกและตรีแยกฟัง
กะจะดะตะเหมือนกะ..................หลังคะฆะงะทีหลัง
วังวนแยกสองระวัง......................งามตั้งเก้าตัวงดงาม
กลุ่มอักษรกลางหนึ่งกลุ่ม.............ถามชุมชื่อต่ำเขาถาม
ตามตรีเสียงคะ งะตาม..................มีสองสิบสี่ครบมี
ทดสอบผ่านหมดแบบทด.............สีนวลจดจำนวลศรี
ดีค่ะรางวัลคงดี..............................ครูค่ะมีไหมค่ะครู
ต้องพาพักเที่ยงไม่ต้อง.................หนูร้องรางวัลหรือหนู
ชูใจเขามีนั่นชู...............................มารับพี่แจกรีบมา
สุขใจลูกศิษย์มีสุข.........................หาทุกข์มีเห็นต้องหา
พาเรียนเขียนอ่านนำพา.................ครูว่าสุขล้นจริงครู ฯ
----------------จบบทเรียนไตรยางค์--------------------
--------------------วันพุธหยุดจับแมลงทับ.........................
......ครูชวนแหล่กาพย์ยานีถึงสีเขียววันพุธ เอาเขียวแบบแมลงทับ สวยมากค่ะ
เลยแอบแถมชีพวัฎจักรแมลงทับไว้ด้วย เผื่อใครคิดจะจับ จะได้รู้ เขามีเวลา
แค่สามสัปดาห์ก็ตายแล้ว
----------------------------
......วันพุธสรรสีเขียว.............ยามเหลียวมองพฤกษ์ไพรสณฑ์
เขียวทั่วทุกตำบล................... มิแปลกเห็นเป็นธรรมดา
ยามใดเห็นยอดคูณ................เขียวพิบูลย์งามนักหนา
แวววับจับนัยตา.....................สะท้อนแสงเกาะกิ่งใบ
แน่นอนคล้ายแมงคับ.............ปล่าวแมงทับอย่าสงสัย
ลูกลาวกับลูกไทย...................เรียกต่างกันแต่ตัวเดียว
แมลงพวกปีกแข็ง..................ดังเทพแปลงปีกสีเขียว
มรกตปานนั้นเชียว...............พวกเราชอบตามจับมา
เอาด้ายมัดผูกเท้า....................สำลีเอามัดซ่นหนา
ปล่อยบินแข่งกันจ้า...............เด็กเด็กบ้าสนุกกัน
มันตายเก็บเอาปีก.................ทั้งสองซีกเราเลือกสรร
กระติ๊บเหน็บซักอัน................ที่ฝาปิดสวยมากมาย
บ้างเอาใช้ทำกิ๊ป......................หยิบปักผมงามเหลือหลาย
หนุ่มหนุ่มเห็นกรีดกราย...........ชายตาแลแหมงามจริง
อยากรู้แมลงทับ......................คุณตาครับเราชายหญิง
สงสัยแมงทับทิ้ง.....................เห็นแต่ซากลูกไม่มี
รังไข่แมลงทับ........................อยู่ดงลับในวิถี
เรื่องราวตาช่วยชี้......................เล่าให้ฟังเถิดเอาบุญ
ฟังเล่ากันยายน.......................ฝนตกชุกดินเปียกหนุน
แมงทับโผล่ดินลุ้น..................ปีกแข็งแรงบินว่องไว
เวลาสามอาทิตย์......................รีบรีบคิดอย่าเหลวไหล
หาแฟนแล้ววางไข่.................โคนต้นไม้ขุดหลุมวาง
จากนั้นก็สิ้นชีพ.......................มิรู้รีบยากจักสาง
ไข่อ่อนก็บอบบาง....................พัฒนาอยู่ใต้ดิน
หกเดือนเป็นดักแด้...................แช่ต่อไปดังไข่หิน
สุดท้ายเข้าปลอกปลิ้น..............เปลี่ยนเป็นตัวที่แข็งแรง
ฝนตกเดืนกันยา.......................โผล่ดินมารอแดดแสง
ส่องมาปรับตัวแกร่ง..................ปีกก็กล้าบินได้ดี
เร่รอนหากินครับ......................ผมแมงทับปีกสดสี
ยอดแดงมะค่ามี........................ชอบทั้งนั้นอร่อยจัง
ถึงผมจะชื่อทับ..........................ชื่อเองครับมิได้หวัง
จะทับใครให้พัง.......................โปรดเมตตาแก่พวกเรา
อายุสามสัปดาห์........................ มรณาแล้วใช่เขลา
คงเพราะบุญบางเบา..................อายุสั้นโปรดปรานี ฯ
---------------
จริยญา แสงทอง โพส 21/10/2558
------------------
***..พุธพ้นโศก โลกร่มเย็น..***
กลอนแปด
.....พุธพ้นโศกโลกร่มเย็นเป็นไฉน......หากแม้นใครมีศีลกันเสมอ
อุบาสกอุบาสิกาห้าข้อเจอ..................อย่าให้เก้อสิบข้อสามเณร
สองสองเจ็ดพลวงพี่นี่ใช่น้อย..............คอยระวังกันดีทั้งชีเถร
กายสงบงามวจีมีหลักเกณฑ์...............น่าจะเป็นทางสงบสถาพร
สีเลนสุคติงยันติ...............................เป็นศิริครอบครัวสโมสร
สังคมบ้านเมืองเย็นคามนคร..............มิเดือดร้อนเบียดเบียนกันและกัน
สีเลนโภคสัมปทายิ่ง.........................ทำได้จริงมีศีลช่วยเสกสรรค์
ชนประหยัดละอบายถ้วนหน้ากัน........ศีลสำคัญส่งเสริมทรัพย์เพิ่มพูน
สีเลนนิพพุติงยันติ.............................กิเลสร้อนศีลดับระงับสูญ
เบญจธรรมบำเพ็ญบริบูรณ์.................ศีลเกื้อกูลเยือเย็นเป็นวิมาน
สุคติมีสี่อะไรบ้าง............................อย่างที่หนึ่งมนุสสจุดกล่าวขาน
สองสวรรค์เทวโลกชวบเบิกบาน.........สามภพท่านรูปพรหมชมว่าบุญ
สีอรูปพรหมชั้นสูงสุดแล้ว..................มินับแก้วนิรพานใช่ภพหนุน
อยากให้ทวนเป็นมนุษย์สุดมีคุณ.........เกิดมาอุ่นสุคติภพทุกคน
เพียงอย่าปล่อยกิเลสก่อเหตุชั่ว............มิต้องกลัวเร่าร้อนทุกข์แห่งหน
ศีลจะช่วยดับร้ายคลายกังวล...............ทุกชุมชนสุคติเย็นแน่นอน ฯ
---------------------
จริญญา แสงทอง โพส : 9/12/2558
---------------------
----------------------รอยธรรม รอยทอง--------------------
กลอนแปด
.......เห็นแทกเรื่องรอยธรรมคำรอยทอง.....ยามนั่งมองจับความตามประสา
คำง่ายง่ายแต่ลึกล้ำเหลือคณา...................ยกศาลาหอไตรตอบไม่พอ
รอยธรรมนั่นอยู่ไหนใครรู้จัก...................แลรูปลักษณ์เป็นไฉนกันล่ะหนอ
หลวงปูว่ารอยธรรมงามลออ....................เปรียบดังล้อรถงามวิศิษฐ์ไกร
ดูรอยรถรอยเกวียนเพียรลองเลื่อน............ยามมันเคลื่อนรอยปรากฏหมดสงสัย
อันธรรมเล่าพุทธองค์ทรงเลื่อนไป............พอเข้าใจปวัตติ์ธรรมคำแสดง
เพ็ญเดือนหกตรัสรู้ธรรมพิเศษ..................ล่วงเข้าเขตสองเดือนทรงแถลง
เพ็ญเดือนแปดจวบวารการเปลี่ยนแปลง....โลกได้แจ้งธรรมจักรปวัตติไป
ทรงหมุนล้อแห่งธรรมนำชาวโลก..............สิ้นทุกข์โศกมอดมลายหายสงสัย
นามพระสูตรธรรมจักรชัดเจนนัย..............กงล้อใหญ่แห่งธรรมพระศาสดา
ยามกงจักรหมุนไปได้เห็นชัด..................อริยสัจเชื่อมกงล้อนั่นหนา
หรือจักมองแปดช่องก็มรรคา....................รอยธรรมมามรรคแปดปรากฎมี
แตกสิบหกช่องธรรมก็ทำได้.....................เปลี่ยนมาใช้วิปัสสนาญาณวิถี
ปัจจยาการไปกลับครบพอดี....................สองสิบสี่ช่องธรรมนำเป็นรอย
แต่งจักรงามสามสิบเจ็ดช่วงพร้อมพรัก......โพธิปักษ์สามสิบเจ็ดมิถดถอย
ธรรมจักรงามผ่องลองตามคอย.................ดังแต่งสร้อยพราวเพชรเก็จมณี
จักตามรอยแห่งธรรมนำสิ้นทุกข์...............จำต้องปลุกสติงามตามวิถี
ปัฏฐานธรรมกายาแลจิตมี........................เวทนาชี้อีกตัวธรรมารมณ์
ตั้งสติตามดูให้รู้เห็น................................สติเป็นปัจจุบันทันเหมาะสม
จนแน่วแน่มันคงเอกอุดม..........................ปัญญาคมรูปนามตถาตา
ตามต่อไปไม่หยุดสุดประเสริฐ...................จนก่อเกิดปรีชาญวาสนา
เดินตามมรรคตามรอยพระศาสดา...............ทรงนำพาพ้นทุกข์สบสุขแล ฯ
-------------------
จริญญา แสงทอง โพส : 19/11/2558
-------------------
-------------แหล่ได้แหล่ดี------------------
......พี่ป้าน้าอาว์ชวนแหล่วันเสาร์ ติดตามดูแล้วไม่ทราบตั้งหัวข้ออะไร อยากร่วมแจมบ้าง
เลยเลือกนทานโจ้กอีสานมาทำเป็แหล่ ผิดตกบกพร่อง ก็แนะนำได้ค่ะ
----------------
.....ชวนแหล่วันเสาร์..........ยังเยาว์หนาพี่
นานนานแหล่ที..................แต่ยังชอบใจ
หนูเป็นคนแหล่..................แม่ดำสดใส
พ่อคล้ำกระไร.....................หนู(จึง)แหล่เต็มตัว
O เล่านิทานก้อม..................มันพร้อมชวนหัว
บางเรื่องน่ากลัว..................แต่หนูชอบฟัง
พ่อตาลูกเขย.......................เพียงเอ่ยชื่อขลัง
ปีนเกลียวระวัง..................เอาเปรียบร่ำไป
O วันหนึ่งเดินป่า...............หาเสาเก่งไฉน
ถากเที่ยงเสร็จไว................ทานข้าวกินแกง
ต้มเห็ดละโงก....................เคราะห์โชคพลิกแพลง
มีช้อนต้องแย่ง...................ซดได้ด้ามเดียว
O พ่อตายึดก่อน.................แกงร้อนตาเขียว
เขยหลอกหลายเที่ยว.......หลอกไม่ได้ความ
กัดฟันเจ็บนัก..................รอจักมีหาม
ต้นเสาจองงาม...............เด็กแบกต้นดี
พ่อรู้ประชด.....................มิลดเองหนี
ต้นเสาพ่อมี......................พลังมากมาย
O สองคนแบกเสา..........ปลายเบาเหลือหลาย
ต้นหนักแทบตาย.............พ่อตากัดฟัน
โซซัดโซเซ........................เขยเห่สร้างสรรค์
พ่อใหญ่สำคัญ..................เก็บผักรายทาง
O มันร้องเพลงเชียร์........ได้เสียแบกหาง
มันเบาเลยอ้าง..................ร่ำร้องเพลงไป
พ่อตาเจ็บปวด...................รวดร้าวไฉน
ฝากก่อนทีใคร..................ทีมันนะมึง
O ทานอาหารเย็น...............ที่เห็นมาถึง
ลาบปลาแกงนึ่ง.................ผักน้อยนิดเดียว
พ่อตาแกบ่น......................ชอบกลอ้ายเขียว
ผักเม็กผักเสี้ยว....................มึงไปหามา
O ลูกเขยตอบถ้อย.............ไม่น้อยพ่อจ๋า
พ่อเก็บชักช้า.....................ตลอดทางรูดมี
อ้ายห่าลูกเขย....................มันเลยย้อนผี
เสียท่าอีกที........................เจ็บใจนักกู
O พ่อลูกผูกพัน..............สำคัญนักหนู
น้ำใจควรรู้.......................รักใคร่จึงควร
เคารพผู้ใหญ่..................อย่าได้ยียวน
ดูแลทั่วถ้วน....................น้ำใจไมตรีฯ
-----------
จริญญา แสงทอง โพสเมื่อ 10/10/2558
-------------
O=ทานตะวันผ่อหน้า..........สู่ตะวัน
รอรับพลังสรรค์....................กลีบอ้า
เจริญยิ่งพิศพรรณ................พราวเพริศ
เหลืองอร่ามทั่วหล้า..............ดอกเจ้าเบ่งบาน
O=ชนชาญฉลาดท้า...............ทุกข์ทน
สุตตะส่องธรรมจน.............รอบรู้
จิตจินต์แจกแจงจน.............เจิดแจ่ม...แลนา
ปุจฉะถามไถ่สู้....................ลิขิตได้ศึกษา
O=หันหลังหาใช่ผู้..............ใฝ่ธรรม
ยึดมั่นสิกขาจำ....................จดไว้
สีลสิกขะกรรม....................กิจก่อ
เติมสมาธิให้.......................ลุห้วงปัญญา
------------------------
จริญญา แสงทอง11/11/2558
------------------------
................ขจีพุธขจายพุทธ.......................
กลอนหกทำมะดา
----------------------
..........วันพุธงามขจีสีเขียว...............สุขแท้แลเหลียวเย็นเสมอ
โลกร้อนขาดเขียวนั่นเออ.................อย่ามัวพร่ำเพ้อช่วยกัน
ปลูกป่ารักษ์ด้วยช่วยชาติ.....................จักพ้นพินาศเสกสรรค์
คืนป่าคืนสุขสำคัญ..............................เขียวขจีทุกวันแหละดี
พุทธธรรมขจายแบบไหน..................ตัวเองซึ้งในวิถี
สรณะฝึกไว้ให้ดี..................................จนแจ้งใจมีสรณา
ค่อยปลูกขยายบุตรหลาน....................งอกงามเบิกบานพฤกษา
พุทธะงอกงามตรึงตรา..........................กระจายปัญญาเป็นคุณ
สรณะข้อเดียวพอแล้ว..........................เป็นพุทธผ่องแผ้วพึงหนุน
กระจายแบบนี้เป็นบุญ.........................โลกจะอบอุ่นร่มเย็น ฯ
จริญญา แสงทอง โพส 2/12/2558
------------------------------
-------------สุขอุราฟ้าวันศุกร์-------------------------
กาพย์ยานี 11
------------------------
O=อยากสุขมิสงสัย.............แปลกเข้าใจยากนักหนอ
แบบไหนนวลลออ...............จึงเรียกสุขที่ต้องการ
O=หิวนมได้นมดื่ม..............ก็ลืมหิวสนุกสนาน
ทารกเขาเบิกบาน.................พ่อแม่สุขด้วยยินดี
O=หาเงินไว้ใช้สอย...............สุขไม่น้อยตามวิถี
เพื่อนฝูงก็มากมี......................แสนสุขสมสบายใจ
O=ยามเรียนก็เรียนจบ............สุขที่พบมิสงสัย
หวังรักรักสมวัย......................สุขเหลือหลายรักสองเรา
O=อาชีพเป็นหลักแหล่ง........สุขค่าแพงโฉมเฉลา
ได้แต่งกับนงเยาว์................ว่าสุขเลิศประเสริฐมี
O=อีกหน่อยมีบุตรหลาน........สุขสราญบุญส่งศรี
ว่านอนสอนง่ายดี.................สุขสมใจบุตรธิดา
O=สุขใจนับถือพุทธ.............จิตพิสุทธิ์วาสนา
ติรัตน์นับถือมา.....................สรณะประจำใจ
O=ทำทานก็เป็นสุข..............นิรทุกข์ศีลสุกใส
บำเพ็ญตลอดไป..................ภาวนาวิชชาชาญ
O=สุโขปุญญัสสะ................อุจจโยองอาจหาญ
มากบุญญาธิการ..................นิพพานะปัจจโย
O=นัตถิสันติปรัง..................สุขังใดเลิศนาโถ
เทียบสงบจบโสโก................สันติสุขสถาพร
O=นิพพานปรมัง.................สุดสุขังสโมสร
สุขแท้นิรันดร......................พุทธองค์ประกาศแล ฯ
(แทรกพุทธภาษิย 3 บท คือ
สุโข ปุญสส อุจจโย สังสมบุญนำสุขมาให้
นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุข๋ สุขอื่นเสมอด้วยสันติ ไม่มี
นิพพานฺ ปรมฺ สุขฺ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง)
--------------------------
จริญญา แสงทอง โพส 6/11/2558
---------------------------
------------แหล่ดอกแคแสด------------
--------------
O=ครูชวนให้แหล่...........ดอกแคพฤหัส
หนูไม่สันทัด..................ต้องพึ่งตำรา
เปิดดูแปลกหลาย...........มากมายนักหนา
แคบ้านแคป่า.................แคแสดหายไป
O=ตามดูสีสัน...............ดอกมันเป็นไฉน
แคขาวแดงได้...............แคม่วงยังมี
แคป่าเหลืองออก...........ดอกงามสดสี
แคฝรั่งขาวชี้..................ดอกดกนักแล
O=ดอกแครู้จัก.............เป็นผักนวลแข
ลวกจิ้มอร่อยแน่...........กินกันมานาน
บางถิ่นทำซุบ..............อุบไว้คนอีสาน
เก็บดอกแคบาน...........ทำซุบอร่อยเกิน
O=ตามหาแคแสด.......ลือแซดนึกเขิน
นำเข้าปลูกเพลิน.........สีสวยงามตา
มากข้อบ่งใช้..............สมุนไพรดีหนา
เป็นผักมากค่า............แคแสดมากคุณ
O=อึกชื่อแคฝอย.........ร้อยค่าควรหนุน
ปาริชาตอุ่น.................ไม้ในตำนาน
ประจำแดนสรวง.........ข่วงเขตไขขาน
ดาวดึงส์พิมาน.............มิ่งไม้มงคล
O=แคฝอยปาฏลิ..........ผลิช่อสับสน
ประจำภพตน..............เหล่าอสูรภูมิใจ
เกือบลืมแคฝอย..........น้อยหน้าที่ไหน
ทองหลางเรียกได้........สีแสดงดงาม
O=แคฝอยร้อยชื่อ.......คือศรีตรังถาม
ดอกก็งดงาม...............มึนงงดอกแค
เพียงชื่อมีมาก.............ยากนักนวลแข
จักนำมาแผ่..................ให้แจ้งแจ่มใจ
O=ด้วยแคร์พี่น้อง........ผองเพื่อนขอไข
จงทุกท่านได้...............สบสุขสวัสดี
ทุกวารเดือนปักข์..........ผ่องพักตร์เพ็ญศรี
ลาภยศพูนทวี................สบสันติ์ตลอดไป ฯ
-------------------
จริญญา แสงทอง โพส 29/10/2558
-------------------
............แหล่ฝากลูกหลานจะบวช..............
สุรางคนางค 32
1.กลอนแหล่หรือหนอ...จะขอพรรณา
ลูกหลานเขาลา...............บอกจะไปบวช
แทนคุณพ่อแม่...............ฟังแหล่กลอนสวด
แล้วค่อยผนวช...............ปลูกบุญเต็มกอ
2. ทดแทนแน่วแน่.........คุณแม่คุณพ่อ
มากมวลยิ่งหนอ.............ตอบแทนให้ดี
ท่านเลี้ยงเรามา...............เมตตาวิถี
โอบอ้อมอารี...................จำเริญวัฒนา
3. ยินคำคนเฒ่า...............เมื่อเข้าวัดวา
ท่องบ่นตำรา....................จดจำขึ้นใจ
รีบเสาะหาบุญ................คือคุณรู้ไหม
ค่อยเอามาใช้..................ทดแทนบุญคุณ
4. หลักสามประการ.........หนึ่งทานอุดหนุน
ทานธรรมเจือจุน.............มีจิตเมตตา
รักสรรพสัตว์.................สันทัดธรรมมา
แบ่งปันวิชชา.................เป็นทานวิวัฒน์
5. วินัยอย่าปีน...............มีศีลมีสัตย์
ระวังอาบัติ ...................จดจำขึ้นใจ
เป็นบุญทั้งนั้น...............ตั้งมั่นสีลมัย
บุญอสงไขย.................ศีลงามคือตรา
6. บุญจักวิวัฒน์............วิปัสสนา
จักได้ปัญญา.................สงสัยไต่ถาม
พระครูอาจารย์..............ชำนาญรูปนาม
บุญก่อเกิดตาม...............อบรมภาวนา
7. สะสมแต่คุณ.............อันบุญกริยา
สามอย่างเอ่ยมา............แหล่งบุญยิ่งใหญ่
บวชพึงบำเพ็ญ.............จักเห็นบุญได้
สะสมมากไว้................บุญสาระพัด
8. ถือศีลให้ดี.................อย่ามีวิบัติ
ไม่ทำกิจวัตร..................ก็ไม่มีบุญ
จักเอาอะไร...................มาใช้เจือจุน
กุศลไม่หนุน.................บาปท่วมหัวแล ฯ
jinya :12/9/58
---------หอมธรรม หอมทน-----------
O=หอมธรรมทนยิ่งล้ำ............หอมใด
หอมทั่วทุกทิศไกล..................กว่าล้น
หอมสนิทติดกายใจ................แนบแน่น
สุขก่อเย็นยิ่งพ้น....................กล่าวถ้อยคำชม
O=เบญจศีลชื่อนั้น.................มนุสสธรรม
ผนึกแน่นกายจิตจำ................ก่อเกื้อ
ปฏิบัติก่อกรรม.......................สุจริต
สุคติงอาจเอื้อ.........................สุขเอื้อเกษมสันติ์
O=เบญจธรรม์ฝึกพร้อม........กันไป
ละฆ่ากระทำใจ......................อ่อนเอื้อ
ละโลภสุจริตนัย....................อาชีพ
สังวรต่อกามไกล...................ละเมิด
มีสัจจะวจีเกื้อ.......................ก่อเกื้อคนฟัง
O=พลังสติต่อตั้ง...................สัมปชัญญ์
อัปปมาทะสรรพ์...................เสกสร้าง
ครบเบญจหลักธรรม์............ฝึกคู่ ศีลนา
เบญจศีลเบญจอ้าง...............เลิศล้วนธรรมคุณ
O=บุญธรรมเสริมส่งให้...........งดงาม
ขันติอดทนยาม.....................ยากแค้น
ขัดเคืองขุ่นใจถาม................ขันติ
โสรัจจะยิ้มแป้น....................เสงี่ยมไร้หมองมัว
O=กลัวบาปชำระด้วย.............บุญกุศล
โลภะทานแปรผล..................ขัดได้
โทสะปลุกศีลจน...................โทษผ่อน และนา
โมหะภาวนาไว้.....................หลักแก้งมงาย
O=หมายสุขสะสมไว้...........มวลกุศล
พลังอาจดาลดล......................สุขล้วน
พัฒนาจิตกายตน...................เป็นใหญ่
พรหมวิหารธรรมถ้วน..........สั่งไว้บริบูรณ์
---------------------
จริญญา แสงทอง โพส : 16/11/2558
--------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น