วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ขุนทึงขุนเทืองคำฉันท์




............วันที่ 1 มิถุนายน 2561 คล้ายวันเกิดของกระผม นึกหาของขวัญสำหรับตนเอง จะให้อะไรดี เขียนร้อยกรองประเภทคำฉันท์สักเรื่องดีไหม เคยเขียนไปแล้ว 2 เรื่องคือ ปลาบู่ทอง กับ ท้าวก่ำกาดำ อ่านดูแล้วก็เป็นการเล่านิทานธรรมดา ๆนี่แหละ แต่แทนจะเล่าด้วยกาพย์ กลอน ที่กวีสมัยก่อนท่านเล่าให้อ่าน แหวกแนวหน่อยแล้วกัน เอาเล่าด้วยประเภทคำฉันท์ เลือกนิทานพื้นบ้านขุนทึงขุนเทือง คงไม่ซ้ำของใคร ถึงซ้ำก็คงเป็นพวกกาพย์กลอน คำฉันท์มั่นใจว่ายังไม่มีคนแต่งไว้ ตกลงเล่าเรื่องนี้แหละ แต่นิทาน มันยาว เริ่มเขียนมา 30- 31 พฤภาคม 2561 ชักจะยาวแล้ว เลยอัพขึ้นเวบบลอคไว้ก่อน ค่อยไปเขียนต่อ ตั้งใจจะเขียนจนจบนิทานแหละ เขียนต่อก็เอามาเพิ่มเรื่อย ๆ ลำบากคนคิดจะอ่านหน่อยนะ


                                                          ขุนทอง ศรีประจง
                                                         31 พฤษภาคม 2561

...........วันนี้ 14 มิถุนายน 2561 นิทานขุนทึงขุนเทืองคำฉันท์ ก็จบลงจนได้ ใช้เวลาแต่ง 16 วัน วันนี้มาเฝ้าไข้แม่เฒ่าอยู่ที่ โรงพยาบาลพุทธโสธร ตึกใหม่ชั้น 14  จบนะ บันทึกเวลาด้วยเอ้า 15.39 น.                 
                                                          ขุนทอง ศรีประจง

                                                         14 มิถุนายน 2561

ปณามพจน์
วสันตดิลกฉันท์ 14
ก้มกราบพระคุณรตนตรัย มนนัยเพราะศรัทธา
พุทโธนโมจิระคตา สรณังประทับตรึง
ธัมมังนมัสสะสรณัง คติตังก็น้อมถึง
สังฆังนมามิและรำพึง ปฏิปัตติงดงาม
พ่อแม่แลครูบุรพชน คุณดลอุบัติตาม
เลี้ยงดูและสอนวิทยะยาม อธิวัฒนานาน
ซึ้งในคุณาอติยะเลิศ เพราะประเสริฐพิเศษสาน
ได้รับกรุณวรภิบาล ก็เจริญและพัฒนา
ขอบคุณพระไตรสรณยิ่ง ก็เพราะสิ่งจะสิกขา
หนึ่งศีลขจัดอกุสะลา วจนีก็คมคาย
รูปงามเพราะศีลจริยวัตร ก็วิวัฒน์สง่าฉาย
อบรมเพาะบ่มจริยะกลาย คุณะหลากสง่างาม
สองจิตตะสิกขะก็สงบ ก็จะพบพิเศษตาม
ใจพบสงบสุวรนาม อธิจิตสนิทใน
ปัญญาก็สิกขะจะประสบ ศิริพบวิสุทธิ์ใส
ผ่องจิตพิสิทธิ์วิริยะไป ก็จะสบสุมงคล
ชัยชัยชยันติวิริยัง และจะสั่งอุดมผล
บุญบารมีศิริจะดล สุขสมภิรมย์เทอญฯ
ปรารภคล้ายวันเกิด
อินทรวิเชียรฉันท์ 11
วันเกิดจะเวียนมา มิถุนาดิถีงาม
ยังจำปฐมตาม อธิวารสุมงคล
จักทำอะไรนึก จะระลึกคะนึงผล
ร้อยกรองฉลองกล และลิขิตนิทานดู
นิทานอะไรดี ก็จะมีนะผ่านหู
เคยฟังสมัยปู่ แหละนิทานจะเข้านอน
ขุนเทืองก็สนุก เพราะจะบุกลุสาคร
เมืองนาคกะงามงอน เพราะพระมีพระชายา
นางนาคก็งามงด พระอุรสสิเนหา
เรื่องราวประหลาดนา ก็จะเล่าจะบรรยาย
ความว่าอดีตกาล แหละก็นานนะเหลือหลาย
เซียงเงี้ยมน่ะเมืองนาย พณ ฯ ท่านก็ขุนเทือง
เซียงใหญ่ประชาขาน ก็ตระการเพราะรุ่งเรือง
ใหญ่ยิ่งแหละเอกเมือง ก็เจริญและวัฒนา
รุ่งการกสิกิจ และพณิชย์จะขายค้า
มากมวลประสบมา เพราะประชาก็ร่ำรวย
ช่างเงินและช่างทอง ก็จะคล่องจะค้าขาย
ช่างอื่นก็มากมาย ธุรกิจเจริญไกล
ขุนเทืองมหาราช ก็ฉลาดวินิจฉัย
ปกครองเจริญไว นรสุขสภาพร
นอกในกำแพงเมือง ก็จะเรืองสโมสร
สุขสันต์ ณ นคร เพราะกษัตริย์ธรงธรรม
วิชชุมาลาฉันท์ 8
ท่านพ่อขุนทือง มีเรื่องปรึกษา
บุสดีกัญญา เจ้าแม่คู่ใจ
บ้านเมืองร่มเย็น เป็นสุขทรามวัย
นานแล้วบ่ได้ เที่ยวป่าเที่ยวดง
นึกอยากพักผ่อน คลายร้อนเงียบเหงา
เดินป่าเดินเขา คงเยือกเย็นลง
จักฝากบ้านเมือง อย่าเคืองนวลหงส์
มินานมั่นคง ก็จักกลับมา
พระนางบุสดี มีคำตอบถ้อย
อันตัวข้าน้อย ไม่ขัดบัญชา
บ้านเมืองเรืองรุ่ง ไม่ยุ่งปัญหา
มอบกิจให้ข้า ดูแลยินดี
ขอจงนำทัพ ลำดับเดินดง
เข้าไพรเขาเขิน เชิญชมพงพี
แมกไม้มากมาย หลากหลายหลากสี
ขอทรงสุนทรี ชมป่าพฤกษ์ไพร
ขุนเทืองชอบจิต จึงคิดปลอบขวัญ
แม่เจ้าแจ่มจันทร์ มากมั่นน้ำใจ
โอบอ่อนเอวองค์ ด้วยทรงพิสมัย
ถึงพี่เที่ยวไกล ยังคิดถึงนาง
ฝากบ้านฝากเมือง อย่าเคืองพี่ยา
ไม่นานกลับมา จักแนบนวลปราง
เดินป่าเดินเขา คลายเหงาจักสาง
คิดถึงนวลนาง ไม่นานจักมา
ฉบัง
พร้อมสรรพจักไปเที่ยวป่า ชมสกุณา
สิงขรแมกไม้ไพรพง
พอออกนอกเมืองมุ่งตรง เข้าป่าระหง
แมกไม้แผกพันธ์นานา
โน่นแน่ะเต็งรังมะค่า ประดู่งามตา
เหียงแหนหันหาดชิงชัน
สมอพิเพกปล้าหลวง สูงเด่นยูงพลวง
กระบากแดงเด่นไผ่แจม
ดอกเลาดอกอ้อดอกแขม ไผ่หกเพ็กแซม
โน่นไผ่ข้าวหลามงามตา
ไผ่คายลำคล้ำแลหา ไผ่โจดแกมมา
ไผ่ซางซางคำซางนวล
ซางหม่นซางนั่นน่าสรวล ตากวางชื่อมวล
กอไผ่ชื่อแปลกก็มี
ไผ่บางบงดำบอกสี บงคายก็ดี
บงป่าบงหนามมากมาย
ไผ่ป่าไผ่เปราะเป็นสาย ไผ่รวกกระจาย
ไผ่หกไผ่ซางงดงาม
แลหาวิหคตัวใคร่ถาม เงียบนักเมื่อยาม
ขบวนทัพเข้าพงไพร
สักครูลั่นป่าเรไร เพราะพริ้งไฉน
ไก่ป่าขับขันครื้นเครง
ป๊กป๊กดังลั่นมิเกรง หัวขวานบรรเลง
เจาะไม้หาหนอนนั่นแล
ไทรสุกยินเสียงเซ็งแซ่ กระเลนกระแต
ลิงค่างก็ยังมีมา
นกแก้วนกแขกปรีดา แรกแกรกเริงร่า
เลือกเด็ดลูกไทรกินกัน
ป๊กป๊กนึกว่าเสียงขัน โพรดกมัน
ร่ำร้องเรียกคู่เพราะเพลิน
อ๋อยเอียงอ๋อยเอียงเอี้ยงเขิน เรียกคู่เหลือเกิน
มากคู่ใครคู่ของใคร
จุ๊กกรูคู่จุ๊อยู่ไหน เขาขานเรียกไป
มินานคู่เขามาเคียง
ทัดทาท่าถ้าทา หนุ่มนกเรียกหา
สาวรีบแล่นถึงเร็วไว
กระทาส่งเสียงที่ไหน เจ้าหนุ่มนั่นไง
มินานสาววิ่งถึงมัน
ล่วงถึงแม่น้ำสำคัญ งดงามดังฝัน
กว้างใหญ่สายน้ำฉ่ำเย็น
ริมฝั่งร่มไม้ได้เห็น พักนี่คงเป็น
ที่ยั้งกองทัพที่ดี
ขุนเทืองหยุดพักตรงนี้ ริมฝั่งนที
พักก่อนสบายกายสบายใจ
สาลินีฉันท์ 11
นาคีสรงน้ำในธาร
นาคีจากบาดาล มิสำราญระทมใจ
รุ่มร้อนลึกทรวงใน จะใคร่ท่องชลาชล
แหวกว่ายมาตามธาร ก็เบิกบานและชื่นมน
ฉ่ำเย็นทั่วสกนธ์ เพราะน้ำชุ่มและฉ่ำเย็น
ล่วงถึงอ่าวต้นไทร ก็ว่ายใกล้เลาะร่มเห็น
หาดทรายงดงามเป็น ประดุจแก้วพะแพราพราย
โอหาดงามลึกล้ำ เพราะเทพทำพิเศษฉาย
สะอาดหินกรวดกระจาย วิมานเทพนิมิตลง
สายลมแผ่วไทรย้อย ก็ดังน้อยจะประสงค์
ขับเพลงกล่อมเจาะจง เพราะเพียงทิพย์ประโคมมา
สุดจักทนจึงเยื้องย่าง ขยับร่างและโยกหา
ร่ายรำงามขวัญตา พิลาสนักนะนาคี
ขุนเทืองยินสำเนียง เพราะพริ้งเพียงพระเทวี
แมนสรวงเอกนารี ประทับจิตสนิทใจ
นับนานชมขับรำ ก็จดจำจะล้นหทัย
หยิบพิณกรีดเสียงใส ระบายก่อนระเบิดทรวง
โอเจ้างามหยาดฟ้า อุราพี่ก็ใคร่หวง
หลงรักเจ้าพุ่มพวง ก็แทบล้นระทึกใจ
พริ้งเพลงบรรเลงกล่อม… และสองพร้อมระทึกไข
พบหน้าสุขสันต์นัย วิสาสาอดีตกาล
รอยบุญร่วมก้นมา บชักช้าก็ผสาน
สองใจสบชื่นบาน สนองรักและศรัทธา
แลกเปลี่ยนถ้อยพาที และต่างมีสิเนหา
สมรักสมปรีดา ก็ชื่นชมภิรมย์ราญ
นาคีจึงชักนำ และพี่จำณบาดาล
สู่ขอตามตำนาน ก็เรียบง่ายเพราะราชา
นาคราชท่านยกให้ ประทับใจเพราะเมตตา
ครองคู่นับนานมา ก็สุขสมภิรมย์ใจ
เซียงเงี้ยมสืบข่าวขุนเทืองหายไป
มาณวกฉันท์ 11
ปางบุสดี มีพิศวง
แปลกนะพระองค์ ข่าวก็มิมี
หายก็จะนาน ปานละวิถี
ฤๅละบุรี ทิ้งพระนคร
เชิญคุรุท่าน วานกรณา
ขุนจระป่า จากพระจะจร
ล่วงทวิตอน เดือนละสมร
ล่วงละพระรอน ยังบมิคืน
โหรก็คำนวณ ชวนจะฉงน
เออนะก็คน กลนะจะฝืน
ใยจะประทับ กับชละกลืน
แปลกมิติตื่น อยู่ณทะเล
ทวนตะละรอบ ตอบก็เสนอ
เดิมแหละก็เจอ เนาว์เพราะสิเนห์
นาคพระก็รัก ใจก็จะเห
ลืมก็เพราะเล่ห์ รักและพะวง
โหรก็จะช่วย ด้วยจะกระทำ
มนต์นิธิกรรม นำพระจะหลง
คิดบุสดี ที่จะพะวง
น่าจิตะคง กลับพระนคร
บมิสำเร็จ เข็ดจะกระทำ
เลิกบ่มินำ เบื่อละสมร
หวังคุณธรรม นำอติพร
นางก็จะวอน เทพยดา
สองปีในบาดาล
อุปัฏฐิตาฉันท์
ขุนเทืองณบุรี ก็เพราะมีภรรยา
แอกไค้พระธิดา วรนาคขัตติทรง
สมสองศิริสุข นิรทุกข์ดังประสงค์
สองปีลุดำรง ภริยานาคบวร
สุขสมมนรื่น และจะชื่นอนุสรณ์
พอดีขณะตอน บุสดีกอปรพิธี
อัญเชิญคณะภูติ ก็จะสูตรพบปะผี
เทพภูมิสุระมี กรุณาตามพระองค์
กราบทูลธสะดับ จรกลับคืนนคร
พลังมนต์แหละพระเวท ก็พิเศษจากสมร
จับใจพระบวร ธระลึกตรึกมินาน
จากบ้านและลุถึง ก็คะนึงจิตผสาน
จากเมืองแหละละบ้าน จิรกาลล่วงลุไป
จักเยือนและแวะหา ภริยานางไฉน
สุขทุกข์อติวัย มนห่วงมากพะวง
อำลาปิตุนาค มิลำบากเมื่อประสงค์
แอกไค้แหละอนงค์ อนุญาตกลับบุรี
ไปแล้วพระคะนึง ธจะพึงกลับวิถี
ไปมาก็จะดี ภริยารอมิเลือน
ขุนทืองจรจาก มิลำบากดูเสมือน
ฝั่งชลขณะเยือน บริวารส่งพระองค์
แอกไค้ละก็คลอด วรยอดบุตรประสงค์
ตองทึงก็สะลง ตะละห่อหุ้มกุมาร
มอบให้พระบิดา จะนำพาจิตผสาน
ห่างไกลก็จะนาน อนุสรณ์ถึงพระนาง
มีบุตรก็จะเตือน บมิเลือนลืมสะสาง
ดีแน่จะลุทาง และจะให้อุ้มกุมาร
ถึงเมืองบุสดี และก็มีใจประสาน
เลี้ยงดูมุทุการ นิติขุนทึงพระนาม
สุรางคนางค์ 32
ต่อตามตำนาน ล่วงกาลต่อมา
บุสดีมารดา มิใครพอใจ
ลูกงูลูกนาค เลี้ยงยากสงสัย
คงเป็นจัญไร มิเป็นมงคล
รู้สึกนึกชัง ระวังเสมอ
ก็มิอยากเจอ ดุด่ากังวล
เฆี่ยนตีรุนแรง แกล่งด่าสับสน
เจ็บตัวเจ็บตน น่าเวทนา
ขุนเทืองเคืองนัก… ก็จักให้ปล่อย
จงจับเด็กน้อย ไปดอยภูผา
ทิ้งไว้กลางดง มิปลงดอกหนา
มันลูกนาคา มิดับง่ายดาย
ก็จริงดังว่า เทวาสงสาร
ขุนทึงกุมาร มิเคยวุ่นวาย
เหล่าเทพธิดา ลงมาบริบาล
ขุนทึงสำราญ เติบโตเจริญวัย
งูเหลือมงูหลาม ตามมาเป้นเพื่อน
อันตรายคอยเตือน… กันเหตุเภทภัย
ที่แท้ลูกนาค งูหากพอใจ
ยินดีรับใช้ ปกป้องอันตราย
แม่นมเทพธิดา ลงมาเลี้ยงดู
ส่ำสัตว์ต่างรู้ เป็นเพื่อนเจ้าชาย
ล่วงไปหนึ่งปี มีบุญมากหลาย
อยู่สุขสบาย มิได้กังวล
ขุนเทืองบิดา อยู่มาวันหนึ่ง
พระได้คำนึง ถึงบุตรแห่งตน
เจ้าเป็นลูกนาค มิยากสับสน
มิน่ากังวล คงรอดแน่นอน
ส่งคนไปดู รู้ข่าวขุนทึง
ขุนเทืองคะนึง เชิญคืนนคร
เลี้ยงดูอย่างดี สุขีสโมสร
มิเคยรุ่มร้อน สุขกายสุขใจ
ภุชงคประยาติฉันท์ 12
เพราะนานวันก็ผ่านไป เจริญวัยน่ะขุนทึง
ลุสิบห้าจะตราตรึง คณาขวบก็กำยำ
สง่างามอุดมลักษณ์ ก็ประจักษ์แหละคมขำ
ฉลาดรู้ลิขิตจำ เพราะร่ำเรียนวิชาชาญ
จะการศึกก็ฝึกฝน และฝึกกลจะประสาน
สะสมใช้วิธีการ จะหอกดาบสบายใจ
เพราะผู้นำทหารรบ ก็เจนจบจะศึกไหน
ก็กล้าหาญและชาญชัย ฉลาดฝึกนะขุนทึง
สง่างามนะพ่อหนุ่ม เพราะสาวรุมแหละคิดถึง
และเมื่อคราจะคำนึง พระมารดาก็ถอนใจ
ประชาชนก็เล่าขาน และบอกท่านประหลาดไฉน
เพราะแม่นาคแหละเกิดไซร้ พระกุมารแหละเรื่องจริง
พระถามไถ่พระบิดา ก็บอกว่าพระแม่หญิง
แหละแอกไค้มิได้ทิ้ง พระนางอยู่ ณ บาดาล
จะหวังพบพระมารดา ณที่ท่าอธิษฐาน
ตวัดแส้สบัดพาน กระทบน้ำซะสามครา
จะมีนาคประสานจิต นิมิตให้เสาะสืบหา
จะเดินทางลุมรรคคา ณบาดาลสบายใจ
กุมารหนุ่มพระขุนทึง ก็ล่วงถึงชลาศัย
กระทำตามบิดาให้ แนะนำมาสะดวกดี
อมาตย์นาคราชไท้ ก็นำไปสะดวกมี
ลุถึงบาดาลชี้ พระมารดาและตายาย
และล้วนชื่นระรื่นจิต เพราะได้ชิดกุมารหลาย
ก็แอกไค้หทัยคลาย และรับขวัญพระลูกยา
สถิตอยู่ณเมืองนาค มิลำบากพระมารดา
แหละได้รับพระเมตตา พระเจ้ายายก็ปรานี
ประสบสุขสวัสดี ก็นับนานสราญรมย์
อาขยานิกาฉันท์ 11
อยู่มา ณ วันหนึ่ง พระคะนึงพระนคร
กุมารจะใคร่จร พระก็ทูลพระมารดา
แอกไค้ก็เอ็นดู และก็รู้และแจ้งว่า
จะกลับนะลูกยา แวะนมัสการยาย
คุณตาก็สำคัญ และก็ควรจะกราบลา
คะนึงกระทำตาม มนงามและหรรษา
กราบคุณพระเจ้าตา พระประทานแหละเครื่องลาง
ก็มีแหละหนึ่งหม้อ และตะขอแหละง้าววาง
สามดาบประทานอ้าง ผิจะใช้ก็ถามดู
เพราะแม่น่ะเชี่ยวชาญ พระกุมารจำใส่หู
หอบของเพราะใคร่รู้ และจะหาพระมารดร
แอกไค้ก็ปรีดา ก็เพราะตาประทานพร
ของดีก็บอกสอน พระกุมารจำจงดี
กฎุมพิเศษมาก มิลำบากเสาะวิถี
อยากได้อะไรมี พิษฐานเคาะเบาเบา
เพราะของจะออกมา จะเสาะหาแหละเลือกเอา
ดาบใหญ่จะสู้เขา อริพ่ายมิยากเย็น
แหละง้าวสิสำคัญ เกาะและพันจะลากเดิน
ห้ามแบกฤจับมัน เพราะสำคัญแหละดำเนิน
มิหยุดมิยากเกิน กว่าจะเกาะและติดตรึง
พักได้และหยุดนอน เพราะคำสอนพระคำนึง
อำลาดำเนินถึง ลุประตูบุรีรมย์
เข้าป่าพนาสัณฑ์ อภินันท์มโนสม
พนาพินิจชม ก็ระรื่นและชื่นใจ
วังสัฏฐฉันท์ 12
พนาพนมาศ จะประพาสพนาพิสัย
กุมารดำเนินไป เลาะพนมระเริงสราญ
พินิจพิมลมาศ ติณชาติผสมผสาน
ขจายขจีเบิกบาน มนชื่นระรื่นภิรมย์
ระลึกคำมารดา ก็จะหาง้าวประสานประสม
ขะลากจะดึงปม วจนาประคับประคอง
ก็คำพระมารดา ก็อุสาห์เสนอสนอง
จะลากจะดึงจ้อง จะเกาะติดสถานกระไร
จะหยุดเพราะเมื่อยล้า ก็มิน่าจะเหมาะพิสัย
เพราะแม่ก็สั่งไว้ จรเรื่อยมิหยุดดำเนิน
เพราะง้าวจะเกาะติด และสถิตสถานเผชิญ
จะนิ่งมิเคลื่อนได้ ก็จะให้จะพักจะนอน
กุมารก็ลากง้าว จรราวจะแรมจะรอน
บติดก็จำจร ระเรื่อยลิ่วก็ลากก็ไป
ลุฝั่งนทีธาร ก็ละลานชลาศไล
ระรื่นพนมไพร และละหานก็ชวนภิรมย์
ตะขอเกาะติดตรึง เพราะจะดึงมิอาจจะไป
กุมารก็หยุดยั้ง พระระวังระแวงระไว
เพราะเหนื่อยก็หลับไหล และสนิทภิรมย์สราญ
พระยาแถนเนรมิตรบ้านเมือง
อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11
พระยามหาแถน มนแสนจะเร่าร้อน
จะนั่งจะพักผ่อน กลไฟจะสุมลน
ฤใครจะเดือดร้อน พระก็อ่อนพระทัยสน
ธส่องพระญาณมนต์ ปฐพีพระเมตตา
พระเห็นกุมารน้อย ก็จะคอยและนิทรา
และง้าวก็ติดคา บมิหลุดเพราะบุญมี
นครพระราชา ปุรพาพระทรงศรี
จะเกิดณะตรงนี้ อภิแถนนิมิตพลัน
นโมนมัตไท้ ก็จะได้บุรีสรรค์
นิมิตพิมานอัน ศิริสมพิมานแมน
กำแพงก็ดังแก้ว แหละพะแพรวพิลาสแสน
ถนนเสมือนแดน ณพิมานสุขาวดี
ตลาด ฤ บ้านช่อง ผิจะมองเจริญศรี
จำเริญจำรูญมี ศิวิไลวิรังรอง
แหละคูกะสายชล ก็วิมลสะอาดผอง
ก็มากแหละคูคลอง ก็สะดวกจะพายเรือ
พระยาพระแถนเจ้า พระก้เอาประชาเหลือ
ประจงประกาศเพื่อ บริวารพระขุนทึง
สำเร็จก็อำลา ณนภาเสด็จถึง
อำนวยธคะนึง พระกุมารสวัสดิ์ชัย
ขุนทึงครองเมือง
อินทรวิเชียรฉันท์ 11
วันใหม่อรุณแล้ว มนแผ้วกุมารขวัญ
ขุนทึงตะลึงงัน เพราะประทม ณ เวียงวัง
แตรสังข์ประโคมขับ ก็สะดับสำเนียงดัง
ขอทรงพระรับสั่ง บริวารถวายพร
ศรีสัตนาคหุต คณบุตรพระภูธร
ทวยราษฎรฺสโมสร เพราะจะขอถวายตน
รองบาทพระองค์ท่าน อภิบาลประชาชน
ครองราชย์พิลาสกล มฆวานณดาวดึงส์
อิ่มในหทัยมาก และก็หลากผิคิดถึง
รอยบุญพระรำพึง อติเทพประทานมา
มีราชโองการ บริพารสิเนหา
ขอบคุณนะเมตตา นรชนสมัคคี
ยกข้าแหละครอบบ้าน มิติผ่านณกรุงศรี
ขอมอบสุวาที และจะครองบุรีรมย์
โดยชอบและโดยธรรม ทศพิธวิวิธการ
เพื่อสุขสโมสร นิราทรเกษมศานติ์
ร่มเย็นประชาบาล กิติก้องและเกริกไกร
ศรีสัตตนาครุ่ง จะผดุงพิเศษไข
กำขรขจายไป ลุติโลกแหละเลื่องลือ
บ้านเมืองก็เรืองรุ่ง นรมุ่งจะยึดถือ
ศีลธรรมแหละระบือ และขยันประกอบการ
ศึกษาขยันเรียน แหละจะเพียรวิชาชาญ
จำเริญพิพิธงาน จะเพาะสุขพระนคร
ชัยโยพระขุนทึง พระคะนึงประชากร
ถวยเกียรติพระภูธร พระจะทรงพระจำเริญ
ยืนชนม์ลุหมื่นปี ปิติมีคำสรรเสริญ
ครองราชย์และดำเนิน จิระกาลก็ผ่านมา
อภิเษกสมรส
ฉบัง 16
สมเด็จพระเจ้าขุนทึง ทรงคิดคำนึง
คุณค่าของหม้อทองแดง
แม่สั่งเมื่อจักพลิกแพลง ลองเคาะแรงแรง
จักมีเรื่องประหลาดใจ
ท้าวทรงเคาะหม้อทันใด พลันเกิดเรื่องใหญ่
ทึงทองสองสาวโสภา
ขุนทึงสุดแสนปรีดา รับเป็นชายา
ครองราชย์สุขีรื่นรมย์
บ้านเมืองสงบสุขสม ทุกคามนิคม
ไร่นาจำเริญสมบูรณ์
กล้วยอ้อยหมากพร้าวเพิ่มพูน เมี่ยงหมากจำรูญ
มะม่วงมะเฟืองมะไฟ
ศรีสัตนาวิไล เกริกเกียรติกรุงไกร
พระเจ้าขุนทึงระบือ
ประชาชื่นชมเล่าลือ พ่อเมืองท่านถือ
ศีลธรรมซื่อสัตย์ดีงาม
ส่งผลร่มเย็นเขตคาม นิคมทุกยาม
ประชาปิติยินดี
อยู่มาคำนึงพระมี จักเดินพงพี
ชมป่าล่าสัตว์ลำพัง
ห้าคนติดตามระวัง จัดสเบียงกรัง
ติดตามรับใช้พอควร
เรียบร้อยพรักพร้อมกระบวน หกคนชักชวน
ประพาสป่าดงพงพี
พระหมายประพาสไพร พระหทัยก็คะนึง
ก่อนนั้นธขุนทึง ก็นิยมพนาจร
ชมป่าและล่าสัตว์ กิติวัตรอนุสสรณ์
ธะมุ่งจะแรมรอน วนหมายจะคลายใจ
กระบวนประพาสป่า คมนาจะครรไล
ฤกษ์ดีก็เคลื่อนไป นคราก็จากจร
เข้าป่าประพาสพง  แหละเลาะดงกะสิงขร
พินิจพนาดอน ก็สลอนและชวนชม
ประดู่และชิงชัน ระดะชันและสูงสม
ไม้ใหญ่จะต้านลม ก็ละลิ่วและสูงงาม
เต็งรังและแดงดู่ ระดะหมู่มะค่าขาม
ตะแบกตะเคียนยาม แหละพระพายจะพัดมา
ก็เอนลู่และหวีดหวิว และละลิ่วและลู่พา
แกว่งไกวแหละสาขา กละร่ายระเริงรำ
สักทองก็มืดมุง ก็จะยุ่งจะฝ่าจำ
เพราะหวายแหละหนามตำ ก็จะแซมและทั่วดง
เลาะเนินพนมไพร กละไผ่ประหลาดคง
มากมายเพราะเทพทรง พระนิมิตประสาทมา
ไผ่รวกและไผ่หก ก็จะรกเพราะไผ่หนา
เปราะบงและซางคา ลำมะลอกและตากวาง.
แนะไผ่และรวกดำ ตะละลำก็ผิวบาง
นกเขาและไผ่เซิม เลาะและเริ่มจะรกเกิน
ไผ่หนามและบงเล็ก กะละเพ้กก็รกเนิน
และเหลืองก็จำเริญ ก็ระรื่นประพาสพง
ล่วงถึงป่าหิมพานต์ 
สุรางคนางค์32
ขุนทึงเดินดง ลืมหลงเวลา
ล่วงไปสิบห้า ทิวาราตรี
เห็นป่าประหลาด รุกขชาติผลมี
รูปอย่างสตรี รุ่นเยาว์งดงาม
บัดเดี๋ยวมีคน บินบนมากมาย
แต่ล้วนเป็นชาย มุ่งมาคุกคาม
เด็ดผลสาวน้อย แล้วค่อยลวนลาม
กอดแนบอกยาม บินหลบหลีกไป
ตนหนึ่งมาล่า ยากหาสักผล
มันเกลี้ยงทั้งต้น เสียดายเสียใจ
มันเจอขุนทึง ตะลึงสงสัย
นี่เจ้าทำไม ปีกหางมิมี
ขุนทึงพูดจา ตัวข้าเป็นคน
เดินทางดั้นด้น ป่าดงพงพี
หวังเที่ยวชมป่า มาลามาลี
หลงทางมานี่ พบสิ่งแปลกตา
เห็นผลสตรี แปลกดีจ้องดู
พวกชายคงรู้ แห่กันเลือกหา
เด็ดเอาลูกสวย คงด้วยชอบพา
โอบอุ้มหลบหน้า โบยบินจากไป
คนธรรพ์หัวร่อ นี่พ่อคนป่า
คงเพิ่งเข้ามา หิมพานต์พงไพร
อันนารีผล คนธรรพ์สงสัย
จักโตเมื่อไร เด็ดเอาชอบชม
วันนี้ข้าพลาด มิอาจเด็ดได้
คงต้องรอไป หกเดือนอกตรม
จึงจักมีผล เติบโตสวยสม
พวกเรานิยม มาเด็ดดมกัน
นางทึงนางทองยินดีขุนทึงกลับมา และยินดีรับท้าวอำคาไว้เลี้ยงดู
กมลฉันท์ ๑๒ เดินทัพ
จะดำเนินนิทานธรรม ปุรคำจะพรรณนา
แหละชะนีบำเพ็ญมา อภิบุญกุศลกรรม
ณอรุณจะเข้าป่า เสาะผลาและจักนำ
จะถวายกุศลทำ กะพระเจ้าพระหลวงตา
อิสิโปรดประทานพร และก็สอนสุวิชชา
เพราะฉลาดชะนีกล้า อธิเวทย์และอาคม
จะจำแลง ฤ แปลงกาย และก็ง่ายประสิทธิ์สม
เพราะชะนีฉลาดทม พระฤษีก็เมตตา
ณอรุณก็เดินดง จะเลาะพงแสวงหา
ผลไม้สะสมมา และถวายสะสมบุญ
ขณะนางชะนีน้อย จระคอยจะนำหนุน
และเสาะผลผลาปุน ก็ดำเนินเลาะพงไพร
ก็ประสบพระขุนทึง และตะลึงพระทรงชัย
พระก็งามและชอบใจ ขณะหลับก็งดงาม
ก็ชะนีชำนาญเวทย์ แหละวิเศษจำแลงตาม
วนิดาแหละนงราม ศิริลักษณ์ดรุณี
และก็เสกละลวยเวทย์ ประจุเหตุและหลงมี
ปฏิพัทธ์และหลงศรี เสาะสวาทกะนวลนาง
พระกุมารก็รู้สึก และก็นึกสวาทพลาง
ก็เกาะเกี่ยวและเกี้ยวกาง กรกอดและพรอดนวล
ทวิเนตรพิเศษสบ ก็สยบและเสสรวล
ทวิกรเกาะกอดชวน เสาะสนิทเสน่ห์ชม
ทวิชนสวาทสอง และก็ปองพิเศษสม
สุขสันต์สวรรค์พรหม บมิอาจจะสุขปาน
ณอรุณแหละสายเที่ยง ก็มิเพียงจะพอขาน
เพราะสวาทก็นับนาน บมิยอมจะเลิกรา
พระก็หลงเสน่ห์นาง และก็ค้างสเน่หา
ก็ประหนึ่งพระชายา กลนานก็ผ่านไป
แหละชะนีก็คลอดบุตร บริสุทธิ์กุมารใส
พระอำคากุมารได้ แหละพระนามพระมงคล
ฤจะเรียกพระอู่แก้ว ศิริแผ้วจะผ่องมน
ติคณาวสากล จิรกาลก็ผ่านไป
ขุนทึงเชิญนางชะนีมาอยู่ในเมือง
11.  วังสัฏฐฉันท์ 12  
วสันต์ก็สามปี และชะนีพระทรงภิรมย์
สนิทเสน่ห์สม ภริยาก็พอพระทัย
คะนึงพระนคร และจะย้อนจะเยือนสมัย
พระทึงพระทองทรามวัย จะสบายภิรมย์ฤดี
ฉะนี้พระนางสอง ก็จะครองนครวิถี
กิจราชพระนวลศรี ฤจะยากลำบากลำบน
พระแจ้งพระชายา จะอำลาแหละนะวิมล
อำคาจะพายล พระนครบิดาภิรมย์
ชะนีก็อวยพร พระจะรอนจะกลับก็สม
พระผ่านก็นานนม ตติยาวสันต์ลุกาล
บิดาก็ขุนทึง เพราะคะนึงประเทศประสาน
อำคาก็ตามท่าน พระบิดาจะกลับนคร
กระบวนเสด็จยาตร วรบาทนิวัตรบวร
เสด็จและแรมรอน ก็จะนานเพราะทางก็ไกล
พระล่วงพนาสัณฑ์ หิมวันต์พนมไศล
และสุดก็จึงได้ ประลุถึงณศรีนคร
ประชาก็ยินดี ปิติมีประนมสลอน
แหละขอถวายพร พระบิดาพระทรงเจริญ
ก็องค์พระชายา กิติพาแหละสรรเสริญ
ระตีแหละขอเชิญ ธเสด็จนิวัตรนคร
อำคาพระบุตรด้วย ก็จะช่วยจะสั่งจะสอน
ประดุจพระบุตรอ่อน มุทุตาก็ชื่นก็ชม
ณสัตตนาคหุต ก็พระบุตรเจริญภิรมย์
พระเพียรวิชาคม และเจริญฉกาจฉกรรจ์
บิดาก็ยินดี และจะมีภิเษกจะสรรค์
จะมอบบ้านแหละสำคัญ เพราะบิดาชราแหละวัย
พระมอบกุมารครอง นิติผองประชาพิสัย
นครกษัตย์ใหม่ พระอำคาธิราชจำรูญ
วสันตดิลกฉันท์ 14
ขุนทึงคะนึงวรสตรี ก็ชะนีพระชายา
ส่งคนดำเนินณหิมวาน์ เพราะจะเชิญชะนีนาง
มาเมืองอำคาปุตระอ้าง เพราะระลึกพระมารดร
รับสั่งระวังสุนขะไว้ ภยใหญ่ชนีวอน
วันพรุ่งพระแม่ก็กะจะจร ลุนครระวังภัย
ทึงทองพระอัครพระแม่ ก็จะแก้และปลดไข
สั่งลับประชาสุนขะให้ ณอรุณก็ปล่อยมัน
คนเขาจะเชิญวรชะนี ลุบุรีสถิตพลัน
พวกเรามิเอามนุสนั้น มิควรจะร่วมเรือน
สัตว์ป่าต่ำค่าก็บมิสม อภิรมย์จะแชเชือน
อาจเอื้อมจะเป็นสทิสะเดือน ก็ชะนีแหละสมควร
ชาวเมืองก็เคืองมุหก็หลง และก็คงกระแสสวน
ปล่อยหมาสะดวกและก็จะกวน ผิจะฝ่าก็น่าดู
นางนีขบวนลุพระนคร ก็จะจรแหละอดสู
มันเห่ากระโชกสุนขะรู้ และก็กรูจะฟัดฟอน
ยอมแพ้มิไหวเพราะภยะใหญ่ ก็ละไปณดงดอน
อยู่ป่าอนาริยะตะลอน อยูณะป่าประสาตน
ขุนทึงตะลึงพระก็ระทึก พระก็ตรึกสลับวน
แก่เฒ่าจะเบาธุระระคน พระจะวางประกอบการ
ถือศีลและธรรมกุสละมั่น ธก็ฝันจะสืบสาน
ทึงทองแหละสองก็บ่มิทาน จะเสด็จบำเพ็ญตาม
นางนีจำแลงก็ปิตินัก พระจะพักกุฎีถาม
สี่หลังก็รอบกุฎิพระยาม เพราะอิสีก็การุณ
ให้ถืออุโปสถะวิรัติ กระทำวัตรพลังหนุน
ผลไม้ก็ฉันเพราะจะเพาะบุญ และระวังสมาทาน
เย็นกายและใจสุขภิรมย์ ก็สะสมกุศลสาน
บำเพ็ญเพราะคุณกุสละยาน อติโพธิธรรมคุณ ฯ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น