วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

วันเพ็ญเดือนสิบสอง


ถ่ายที่ประตูห้องทางออกระเบียงข้างโต๊ะทำงาน
กลอนยังไม่ได้จัดวรรคตอนอัพไว้ก่อน

ใกล้เพ็ญเดือนสิบสอง.............น้ำเจิ่งนองเต็มตลิ่ง
เห็นเขาเหล่าชายหญิง...........ชวนกันไปลอยกระทง
เราล่ะยายว่าไง......................อยากจะไปมิลืมหลง
ไปวัดแล้วก็ตรง......................ไปท่าน้ำมากผู้คน
กระทงลอยเต็มน้ำ...................ดูคลาคล่ำลอยเวียนสน
เราปล่อยมองตามจน................ปะปนหมู่ยากจะจำ
รำลึกครั้งยังเยาว์.....................เราไปงานยังนึกขำ
ในงานมีหมอลำ.......................มีรำวงสนุกดี
รำวงสาวเมืองเหนือ...............มองมิเบื่อนะโฉมศรี
ท่ารำช่างยวนยี......................จนพี่ชายต้องร่วมวง
รอบหนึ่งก็หนึ่งบาท...................มิยอมพลาดเจอนวลหงส์
น่ารักนวลอนงค์......................รำใกล้ใกล้ไม่เสียดาย
อดข้าวประหยัดไว้...................เอาไปใช้รำฉุยฉาย
ค่าบัตรรำวุ่นวาย......................ลืมหิวข้าวเจอสาวงาม
เงินหมดค่อยเลิกรา..................ไปที่ท่าเห็นสาวถาม
ลอยกระทรงยังนงราม...............ลอยไปแล้วเบื่อคอยรอ
ขอโทษสาวยังงอน..................ชวนบังอรเดินเที่ยวงาน
เซียมซีนวลก็ชอบ....................ตอบสนองได้ตาหวาน
หอบของให้นงคราญ................จนต้องฝากท่านหลวงตา
อ้อยขวั้นหน่อยนะพี่...................สองพวงนี่พอไหมหนา
สองสลึงจึงซื้อมา.....................กัดฟันซื้อมันแพงเกิน
ลูกโป่งหนูอยากได้....................เห็นเขาใช้นางงามเดิน
ประกวดถือชมเพลิน..................เต็มสองมือคนชื่นชม
ก็ได้ลูกสลึง..............................ดึงส่งให้คงสุขสม
เห็นเดินท่านิยม..........................แบบนางงามบนเวที
สวยครับสวยใช้ได้......................คงพอใจยิ้มตาหยี
หัวร่อเสียงดังดี.........................ชอบลูกโป่งตามใจนวล
สักครู่บอกหัวข้าว......................ตามใจสาวเจ้าเสสรวล
เดินรี่เรียกเราชวน......................พี่ทางนี้หิวส้มตำ
โถสาวงามบ้านนา......................มิวางท่าจนนึกขำ
แม่ค้าจ้าวประจำ.........................เห็นคุ้นเคยให้ทดลอง
ขอพริกห้าเม็ดค่า........................กระเทียมห้าเขาสนอง
มะนาวครึ่งซีกต้อง......................พอน้ำอ้อยนิดหน่อยตาม
ชูรสยังไม่เกิด.............................แค่นี้เลิศแล้วลองถาม
อร่อยไหมคนงาม........................ผักกระถินเด็ดยอดมา
ข้าวเหนียวขาดมิได้.....................สาวบอกให้นั่งนี้หนา
ก็เอาได้ขวัญตา...........................ทานส้มตำกับสาวงาม
มันเผ็ดน้ำตาไหล........................พี่ร้องไห้หรือสาวถาม
อร่อยเกินนงราม.........................น้ำตาไหลมันตื้นตัน
หัวร่อกันชอบใจ..........................บ่าวร้องไห้สาวเลยขัน
อิ่มแล้วรีบไปกัน..........................หาอมน้ำมันร้อนใน
หนูอยากดูหมอลำ.......................สาวเดินนำดูวงไหน
ลำกลอนน่าสนใจ........................แวะเข้าไปลองชมดู
ทำไมเรียกชิงกัน.........................เขาแข่งกันชายเป็นคู่
หนึ่งสาวให้ชิงชู้...........................ชายไหนเก่งคารมดี
กล้อนเกี้ยวต้องแพรวพราว............สาวหมอลำฟังคุณพี่
สุดท้ายตัดสินที............................ใครเก่งสาวเลือกคุณ
กลอนลำเกี้ยวสาวกัน....................คนฟังขันส่งเสียงหนุน
หมอลำชิงชู้ปุน.............................ทำเป็นแข่งแย่งสาวกัน
คนดูมีสองกลุ่ม............................พ่อหนุ่มกอลำสร้างสรรค์
ส่งเสียงเชียร์นี่นัน.........................สาวสำคัญตอบกลอนมา
หนุ่มขอกลอนเกี้ยวบ้าง..................ทั้งแก้ทางหนุ่มกอหนา
ทั้งเกี่ยวสาวกานดา.......................สาวหมอลำชัดอ่อนเอน
คนเชียร์ปรบมือให้.........................แก้กันไปตามเหลักเกณฑ์
สามคนนี่เขาเป็น............................ทีมเดียวกันยามออกงาน
ไปดูหมอลำหมู่...............................อยู่ห่างกันคณะหาญ
บันเทิงแสนสำราญ.........................ชื่อยาวดีพวกหมอลำ
กำลังเล่นพอดี................................สีทนท้าวตามงามขำ
มโนราหนีเจ้ากรรม..........................กลับบ้านเมืองหิมพานต์
ศรีธญก็ไปรบ..................................ยังมิจบศึกรุกราน
อยู่เมืองมีคนพาล............................หาเรืองสาวมโนราห์
เป็นคนกลีร้าย.................................บ้านวุ่นวายเคราะห์เข็นมา
สมควรจักต้องฆ่า............................นางขอรำก่อนจักตาย
ติดปีกและติดหาง............................ช่างรำสวยนักโฉมฉาย
มินานก็โยกย้าย..............................ร่อนบินบนลับหายไป
สาวฟังสงสารนัก............................ชักมิดีทนมิไหว
น้ำตาจักตกใน................................สงสารน้องมโนราห์
งั้นไปดูโรงหนัง...............................ปลัดตื้อเสียงดังหนา
บักแหมบแสบวาจา..........................มิรู้มันพูดอะไร
หันดูหัวเราะลั่น...............................คงชอบกันมิสงสัย
เขาเล่นเรืองอันใด............................อ้อที่แท้เรื่องสังข์ทอง
จับตอนรจนา....................................เลือกคู่มาตามสนอง
บิดาจัดคู่ครอง.................................ให้ธิดาทุ้งเจ็ดนาง
ประกาศเชิญชายหนุ่ม........................มาชุมนุมจากทุกทาง
จะเลือกเจ็ดเขยอ้าง..........................หนุ่หนุ่มต่างออกันมา
หกสาวเลือกไปแล้ว..........................เหลือน้องแก้วรจนา
เกณฑ์หนุ่มทุกพารา.........................เลือกมิได้มิพอใจ
จนท่านท้าวสามล.............................จงหาคนเหลืออีกไหม
เขาบอกเหลือบักใบ้...........................เจ้าเงาะป่าบ้าบอมัน
เวทีกำลังลำ.....................................นำเจ้าเงาะเข้าเมืองขัน
แกล้งเล่นสนุกกัน............................ท่านผู้ชมชอบเฮฮา
ถึงคราวแม่สาวน้อย............................ชะรอยบุญแต่กอนมา
เป็นคู่สิเนหา.....................................ได้มองเห็นรูปสังข์ทอง
นางเพิ่งพินิจดู...................................ก็ได้รู้จึงสนอง
มาลัยนำไปคล้อง...............................ให้เจ้าเงาะคนชอบใจ
ดึกแล้วไปส่งสาว...............................หมดเรื่องราวของนวลไข
ตัวเราก็กลับไป..................................ชมงานต่อหลายเรื่องราว
รำวงมืดขอรับ....................................จับตาอยู่แต่อายสาว
ตอนนี้คงถึงคราว..............................แอบไปดูให้รู้ดี
ล้อมผ้าคนห้าสิบ.............................หยิบส่งให้บาทหนึ่งถี
ทองมาสองสลึงนี่............................แค่ยืนชมภิรมย์ใจ
อยากรำกับสาวงาม..........................ตามราคาสามบาทไข
เวทีเขาส่องไฟ................................รำวนไปหลังเวที
ข้างในดับมืดมิด...............................คงติดขัดสาวอยากหนี
วีดว้ายเสียงตบตี..............................สักครู่โผล่รำออกมา
วนอยู่ครบสามรอบ............................หนุ่มหนุ่มชอบสิเนหา
เหมารอบชอบกานดา........................กระเป๋าฉีกไม่รู้ตัว
เที่ยวเบื่อทำบุญบ้าง..........................มีหลายอย่างซื้อดอกบัว
บูชาพระเดินทั่ว.................................กัลปพฤกษ์สอยลองดู
เสี่ยงทายพระให้ยก...........................น่าตระหนกนึดอดสู
ครั้งแรกยกขึ้นรู้.................................ยกอีกทีไม่เคลื่อนเลย
หยอดตู้บริจาค..................................มิมากดอกบาทเดียวเผย
ตอนนั้นมากค่าเคย............................ซื้อส้มตำครกหนึ่งเทียว
ได้บุญเสร็จก็กลับ..............................จบแหละครับพอแลเหลียว
คนอื่นกลับหมดเชียว..........................เหลือโด่เด่อยู่ทำไม
เล่าเรื่องก็สมควร...............................จบกระบวนที่ขานไข
นิดหน่อยพอเข้าใจ.............................ไว้คราวหลังค่อยว่ากัน
ขอบคุณที่ทนอ่าน...............................เรื่องเล่าขานมิค่อสรรค์
เล่าเล่นสาระพัน.................................ตามประสาผู้สูงวัย
ชอบนึกถึงความหลัง...........................จำเพาะครั้งหนุ่มสมัย
โลดแล่นตามเรื่องไป...........................ได้จดจำเล่าสืบมา ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น