กลอนแปด | ||
ที่สิบสี่มีนาน่าตระหนก | เฟซหยิบยกโพสเราเขาสอบสวน | |
มิรู้เรื่องสงสัยในกระบวน | มีสิ่งชวนกังขาหรือว่าไร | |
รอมินานโพสดูรู้ผ่านลง | ก็ยังงงสอบเห็นเป็นไฉน | |
นามศรีทองแสงทองนี่คือใคร | ก็ขอไขออกแสดงแจ้งข้อมูล | |
ตัวจริงชื่อขุนทองศรีประจง | บ้านเกิดคงกมลาไสยไม่สิ้นศูนย์ | |
เมืองคนดีกาฬสินธุ์ถิ่นไพบูลย์a | เจิดจำรูญบ้านแกแดนธัญญา | |
จบประถมบ้านแกส่งเสริมวิทย์a | มิอยากคิดสองสี่เก้าแปดหนา | |
จบมอต้นโนนสังวิทยาa | ย้ายเขตมาสังกัดเมืองอุดร | |
เดียวนี้เป็นหนองบัวลำถูอ้าง | ปีนั้นช่างวุ่นวายให้ทอดถอน | |
เป็นไทครัวแปลกถิ่นเราแรมรอน | ครอบครัวจรอพยพมาอยู่ไกล | |
หนองลุมพุกนามบ้านย่านหนองเรือ | ดังดงเสือป่าทึบทึมไฉน | |
ป่าเต็งรังแดงดู่เรียงรายไป | เรียกพงไพรเหมาะดีมีเรื่องราว | |
ทางทิศเหนือภูเก้าเราเพิ่งเห็น | ใยมิเป็นอย่างที่เรียนนึกสืบสาว | |
ภูมิศาสตร์แผนที่บอกเรื่องยาว | สีดำราวตัวบุ้งภูเขามี | |
เพิ่งเคยเห็นของจริงเป็นครั้งแรก | ยังแปลกจิตคิดฉงนจ้องดูสี | |
ออกดังฟ้าทึมเทายืดยาวดี | ทอดยาวทีทางเหนือคงมิไกล | |
จากหมู่บ้านเดินไปสองชั่วโมง | หากทางโล่งหน้าแล้งมิสงสัย | |
หากหน้าฝนเพิ่มอีกหนึ่งคงได้ | ว่างค่อยไปชมดูภูเก้ากัน | |
อพยพมาอยู่ป่าภูเขา | นานนักเราค่อยปรับได้ให้นึกขัน | |
ต้องศึกษาปรับตัวเอาให้ทัน | เพื่อนบ้านมันหลายคนคอยเอาใจ | |
ตื่นเช้ามากันแล้วจะเที่ยวป่า | เขาสั่งว่าห่อข้าวมัดเอวไหน | |
พลุหนึ่งลำกำลูกดอกสักสิบได้ | มาไวไวลงป่าไปหาสัตว์กัน | |
เจ้าทองใสทองใบสามกับเรา | หมาพรานเขาสองตัวออกเดินนำ | |
ออกเขตบ้านเป็นป่าดูรกชัฏ | ทางเดินลัดเลาะไปให้นึกขำ | |
ทางเกวียนเดินเป็นร่องน้ำเซาะกรรม | ร่องดินซ้ำเรียกโสกก็เข้าใจ | |
เสียงหมาเห่าสองสหายวิ่งนำก่อน | เสียงรุ่มร้อนตามมาชักสงสัย | |
พากันล้อมต้นรังเห็นแต่ใบ | หมาเห่าใหญ่จ้องดูบนต้นรัง | |
ตามไปทันมันว่าหมาไล่บ่าง | แลไม้ต่างสูงใหญ่ใบมุงบัง | |
คงยากไล่ตามทันมันระวัง | เงียบเสียงดังถอดใจเลิกไล่กัน | |
เพื่อนพาเดินไปต่อฝ่าพงรก | สักครูตกใจตื่นเพื่อนขบขัน | |
ได้เวลาแมลงส่งเสียงพลัน | จั๊กจั่นนับหมื่นตื่นตกใจ | |
แถมเยี่ยวรดหูหัวน่ากลัวมาก | แต่ลำบากจักหนีณที่ไหน | |
เสียงมันอยู่รอบตัวน่ากลัวกระไร | เพื่อนบอกให้จั๊กจั่นมิต้องกล้ว | |
เป็นแมลงกินได้ให้ลองจับ | เคี้ยวหยับหยับแปลกใจจึงได้หัว | |
ลองดูบ้างรสแปลกลองหนึ่งตัว | หลับตามั่วกินดูอร่อยดี | |
เหมือนกุ้งสดรสอร่อยเพื่อยค่อยบอก | ใช่จะหลอกลาบอร่อยแท้ดีหลี | |
สักสามสิบทำลาบมะม่วงมี | ต่อมาที่เดินป่าเพื่อนพาลอง | |
ไปเจอเห็นเต็มขอนท่อนไม้ใหญ่ | เห็ดอะไรเพื่อนสั่งระวังของ | |
ค่อยค่อยเก็บคอยดูกูรับรอง | เราจะต้องได้อิ่มลองชิมกัน | |
ไปพักเถียงก่อไฟดืทำเห็ด | ล้างดีเสร็จใส่เกลือผักพร้อมสรรพ์ | |
ห่อให้แน่นปิ้งไฟไม่นานพลัน | สุกเพื่อนมันบอกชิมอร่อยดี | |
ในป่าดงของกินมันมีมาก | มิยุ่งยากรู้จักริมวิถี | |
พวกยอดไม้ใบไม้กินได้มี | เพื่อนมันชี้สอนให้ได้รู้ความ | |
หน่อไม้ซางโผล่นดินสักสองสอก | ตัดไม่ปอกเผาไฟไม่ต้องถาม | |
จนกาบดูมันไหม้ก็มิปาน | ราดน้ำผ่านปอกเปลือกเอาทิ้งไป | |
เนื้อสุกเหลืองน่ากินรออีกหน่อย | ปล่อยเพื่อนล้างน้ำเย็นอย่าสงสัย | |
ล้างรสขมออกบ้างดีกระไร | ชิมหน่อไม้หอมหวานอร่อยดี | |
ขูดเขี่ยนเส้นเหลืองอร่ามช่างงามแท้ | เพื่อนตัดมาเขาสับสลับสี | |
แล้วทำก้อยหน่อไม้รสแซบมี | กลางป่ามีก้อยกินยินชอบใจ | |
ได้เที่ยวป่าเดินดงฝ่าพงรก | ทางเดินวกเวียนวนจนสงสัย | |
มีแต่ป่ามิหลงทางหรือไร | กูจำได้แถบนี้มาประจำ | |
เพื่อนบอกเล่ารู้เรื่องมิเคืองขัด | เขาสันทัดแถบนี้ดีนึกขำ | |
คงอีกนานกว่าตูจะรู้นำ | มากเรื่องพร่ำบ่นยากหลากวิธี | |
หมดเวลาเที่ยวเล่นโรงเรียนเปิด | ช่างประเสริฐชอบใจไม่หลบหนี | |
ได้เรียนต่อมัธยมสมใจดี | พ่อปรานีฝากฝังตั้งใจเรียน | |
เข้าโรงเรียนโนนสังวิทยา | ปีต่อมาแปลกนามตามเขาเขียน | |
ศิริภูธรวิทยามาพากเพียร | ปีสามเวียนคืนกลับไปชื่อเดิม | |
สามปีจบมอสามตามคาดหวัง | แต่ก็ยังอยากเพียรเรียนต่อเสริม | |
สองพันห้าชัยภูมิเรียนต่อเติม | เรียนเกษตรเมืองพ่อพญาแล | |
เกษตรกรรมชัยภูมินามโดดเด่น | สอบคัดเฟ้นสี่สิบห้าว่ากระแส | |
แข่งกันมากภาคอีสานเป็นตัวแปร | มาสอบแท้สักร้อยห้าสิบคน | |
ทุนเรียนดีมีแล้วห้ารายครบ | เอามาลบเหลือสี่สิบชักฉงน | |
รอดไม่รอดสอบแข่งแรงกังวล | ประกาศผลสามสิบเก้าแทบใจวาย | |
เป็นนักเรียนกินนอนอยู่หอพัก | ได้รู้จักชาวหอก็หลายหลาย | |
กิจกรรมเด็กเกษตรมีมากมาย | เช้ามืดคล้ายตีห้ารีบตื่นคุณ | |
เพียงสามสิบนาทีกิจส่วนตัว | พร้อมกันทั่วเข้าแถวแทบหัวหมุน | |
มีการงานฝึกฝนเป็นต้นทุน | ฝึกจนวุ่นหลายหลากกิจกรรม | |
งานบุกเบิกเจ็ดวันค่อผัดเปลี่ยน | ครานี้เรียนเรื่องสวนก็ชวนขำ | |
ต่อไปเรียนผลไม้สวนลองทำ | เปลี่ยนอีกนำเลี้ยงไก่อยู่เจ็ดวัน | |
สนุกหน่วยเลี้ยงวัวเนื้อวัวนม | เลี้ยงหมูสมลุยคลองเด็ดผักขัน | |
ยอดผักตบในคลองแย่งเด็ดกัน | เต็มถังนั้นล้างดีไปที่แปร | |
เข้าเครื่องปั่นหั่นซอยเรียบร้อยแล้ว | ไปเทแถวโรงงานตามกระแส | |
ภารโรงรอพอแล้วคลุกรำแล | เศษข้าวแน่ปนลงคลุกกันไป | |
เสร็จแกตักลงถังส่งนักเรียน | เฝ้าพากเพียรหอบหิ้วจักไปไหน | |
เลี้ยงคุณหมูเป็ดห่านย่านนั้นไง | เขาเรียกใช้แรงเด็กทำการงาน | |
กะเช้าเย็นทำกันไร้วันหยุด | พืชสวนชุดรดน้ำครูเรียกขาน | |
เสาร์อาทิตย์รดน้ำครูอาจารย์ | มาตรวจผ่านมาดูครูตรวจตรา | |
พวกพืชไร่ไม้ผลก็มีเวร | เด็กถูกเกณฑ์เข้างานเป็นกลุ่มหนา | |
มีเจ็ดคนต่อกลุ่มครูบัญชา | เช้าตีห้ารับงานไปทำกัน | |
หกโมงครึ่งเลิกงานพักกันได้ | โมงครึ่งให้ทานข้าวมาพร้อมสรรพ์ | |
แปดโมงครึ่งเข้าแถวเสาธงพลัน | เก้าโมงนั้นเริ่มเข้าไปห้องเรียน | |
สี่โมงเย็นเลิกเรียนเริ่มรับงาน | ไปทำการเรียนรู้ครูเกษียน | |
มีคำสั่งกำกับให้พากเพียร | นับจำเนียรสามปีเกษตรกรรม | |
จบมอหกมีฉลองกันถ้วนหน้า | ถึงเวลาออกบินยินแล้วขำ | |
มีประกาศรับคนเข้าประจำ | ทุกตำบลเจ้าหน้าที่ชำนาญการ | |
ทางเกษตรมอหกคือคุณวุฒิ | วิเศษสุดเพื่อนเราเขาบอกขาน | |
ไปสอบกันบรรจุพนักงาน | ด้านเกษตรตำบลคนสำคัญ | |
แต่กระผมเสียใจไม่มีสิทธิ์ | อย่าเพิ่งคิดสอบเลยเพื่อนเขาขัน | |
สิบหกขวบพอดีเลยอดกัน | สิบแปดนั้นเกณฑ์รับราชการ | |
ต้องรออีกสองปีถึงจะได้ | แต่ช้าไปสองปีมีคำขาน | |
ยกเลิกหมดมอหกไม่รับงาน | เกณฑ์ต้องผ่านมอปลายจึงรับรอง | |
ถึงคราวต้องตกงานมานานนัก | มันหักเหชีวิตเราทั้งผอง | |
เริ่มต้นใหม่เรียนรู้ตามครรลอง | ชาวบ้านต้องทำการงานอันใด | |
ใช้ชีวิตช่าวบ้านชนบท | เรียนรู้กฎชาวบ้านเป็นไฉน | |
จะทำมาหากินกันอย่างไร | ทำนาไร่เริ่มเรียนพากเพียรไป | |
ลูกผู้ชายต่อไปต้องออกเรือน | ยังเลอะเลือนมิรู้เรื่องอันไหน | |
เริ่งศึกษาฝึกฝนจนแจ้งใจ | เริ่มงานไม้จักสานการถักทอ | |
หัดถากไม้เสากลมแลเสาเหลี่ยม | งานยอดเยี่ยมแปรรูปไม้สิหนอ | |
หัดดึงเลื่อยสองคนอดทนพอ | ผลงานต่อเติมบ้านการจำเป็น | |
เครื่องมือทำนาไร่พวกไถคราด | พึงฉลาดทำได้ก็ได้เห็น | |
ลูกผู้ชายหลายหลากงานยากเย็น | ถึงยากเข็ญมิท้อขอฝ่าฟัน | |
สามปีผ่านงานมาทำนาไร | จนเจ้าใจงานยากลำบากสรรพ์ | |
ประเมินผ่านระดับดีนี่สำคัญ | เข้ารู้กันชาวนามัธยม | |
จบมอหกเกษตรวิเศษนัก | ย่อมรู้จักพัฒนาไร่นาสม | |
จนเพื่อนบ้านชอบใจได้ชื่นชม | เข้าสังคมชาวบ้านสราญใจ | |
ชีวิตอยู่บ้านนอกก็ราบรื่น | ผ่านวันคืนเจ็ดปีมิสงสัย | |
เป็นชาวบ้านแถมขยันการใดใด | ค่อยเป็นไปพัฒนาน่าชื่นชม | |
ปีสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | ชีวิตผัดเปลี่ยไปได้เหมาะสม | |
อายุควรบวชเรียนเพียรภิรมย์ | อุปสมบทเป็นพระขุนทอง | |
ฉายาสุขุมาโลโหแปลกแปลก | เพราะแผกนิสัยไม่สนอง | |
คนใจร้อนสุขุมได้คงไต่ตรอง | เราจักลองปรับตนให้พัฒนา ฯ |
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
รำพึงรำพันตอนที่ ๔
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น