|
ตอนที่ ๓
กลอนแปด |
|
|
สวัสดีครับพ่อคุณนามขุนทอง |
คงมิต้องนามแฝงกันดอกหนา |
|
นามศรีทองคนรู้กันนานมา |
คงนึกว่าหนุ่มหล่อที่ไหนกัน |
|
ใช้นามจริงแหละเพื่อนเหมือนเธอหน่อย |
คนมิถอยชนฝาจนน่าขัน |
|
เคยชวนไปจับผีตีกลองมัน |
กลัวจนสั่นแกบ้าว่าไม่กลัว |
|
พระเณรห้าไฟฉายห้ากระบอก |
เดือนมืดออกมาระวังเอ็งยังหัว |
|
สักสามทุ่มระฆังดังระรัว |
เปิดไฟทั่วส่องสว่างดังกลางวัน |
|
ผีตุ๊กแกปากคาบตะขาบฟัด |
เห็นชัดชัดผีบ้านึกน่าขัน |
|
ก่อนคนเล่าวัดนี้ผีดุกัน |
ระวังมันหลอกทีตีระฆัง |
|
บ้างตีกลองวันพระมิละเว้น |
หลอกพระเณรวัดเราเล่าความหลัง |
|
พอจับได้เป็นตุ๊กแกมันระวัง |
จับเหยื่อตั้งฟัดฟาดให้เหยื่อตาย |
|
บ้างตะขาบจิ้งจกหรือนกหนู |
ตรงมันอยู่หน้ากลองน่าใจหาย |
|
นึกว่าผีตีกลองกลัวมากมาย |
อ้ายผีลายเขากลัวมานานปี |
|
จนหลวงพี่ขุนทองส่องไฟพบ |
เกมจึงจบกันดอกเรื่องหลอกผี |
|
อ้าวมาชวนสนทนาธรรมนะนี่ |
มัวเซ้าซี้นอกเรื่องเปลืองคารม |
|
อยากจะฟังภาษิตหมวดขันติ |
วิริยะมากมายนายเหมาะสม |
|
สาธยายหน่อยนะจะนั่งชม |
ข้าพรหมาไหว้ละจะขอเชิญ |
|
ขอบคุณเพื่อนชวนคุยเรื่องธัมมะ |
เลิกแล้วจะร้อยรัดมิขัดเขิน |
|
เป็นคำกรองสรรคำให้จำเริญ |
คงอ่านเพลินดีฉันสันทนา |
|
เริ่มจับหมวดขันติริแปลงสาร |
ตั้งใจอ่านสำนวนควรศึกษา |
|
ต้องแปลอรรถแปลงถ้อยร้อยสารา |
ดัดแปลงมากำหนดบทคำกลอน |
|
แรก ขันติ ปรมัง ตโป |
วิเสโส ตีติกขา ครูบาสอน |
|
ขันติเป็นตบะอย่างยิ่งตอน |
สู้กิจร้อนกิจหนักต้องอดทน |
|
มิท้อถอยทดท้อใช้ขันติ |
วิริยะทำการงานมิสับสน |
|
ที่สุดจักเสร็จการงานมงคล |
ขันติดลวิริยะพยายาม |
|
ขันติ ตโป ตปัสสิโน |
วิเสโสขันติที่อยากถาม |
|
เป็นตบะอย่างไรท่านองค์ราม |
จิงติดตามดาบสที่พากเพียร |
|
พระดาบสสายสรรค์สมถะ |
สมาธิฝึกมันกันจำเนียร |
|
กรรมฐานสมถะจะร่ำเรียน |
จนวิเชียรโชติช่วงชำนาญฌาน |
|
ล้วนอาศัยขันติวิระยะ |
อุตสาหะมากด้วยช่วยฮึกหาญ |
|
ถัดไปเป็นหมวดธรรมคำที่จาร |
อ่านบทแรกมโนปุปพังคมา |
|
ธรรมทั้งมวลมีใจเป็นหัวหน้า |
มโนพาทำกิจประกอบกรรม |
|
สามกรรมคิอกายาวจีจิต |
มโนคิดเริ่มต้นจนน่าขำ |
|
ไม่ได้คิดพูดจาหรือกระทำ |
ยากจากนำผลตอบที่ชวบควร |
|
ไม่มโนสื่อใครไม่รู้เรื่อง |
พูดจาเปลืองถ้อยคำกรรมสอบสวน |
|
มิรู้เรื่องทำไปไร้กระบวน |
มโนชวนพูดจาสื่อสารกัน |
|
บทถัดมากล่าวว่าธัมโม |
สุจิณโณสุขมาวหาสรรพ์ |
|
ประพฤติธรรมดีงามผลดีพลัน |
หฤหรรษ์สบสุขสถาพร |
|
ภาษิตกล่าวชอบแล้วนะขอรับ |
แบบฉบับภิญโญสโมสร |
|
กระทำชอบควรกิจวิวิธบวร |
ทุกบทตอนพึงเจริญดำเนินการ |
|
ธัมมปิติสุขังเสติ |
วิริยะยินดีธรรมประสาน |
|
จบสบสุขเริงรื่นสดชื่นบาน |
ปีติสานสุขสมภิรมยา |
|
ธัมมจารีสุขังเสติ |
ตริตรึกมีคุณธรรมนำศึกษา |
|
ปฏิบัติถูกต้องพัฒนา |
จะนำพาสบสุขสถาพร |
|
ธัมมัญจเร สุจริตตัง |
พึงระวังจิตสรรค์สโมสร |
|
ประกอบด้วยคุณธรรมวิวิธบวร |
ทุกบทตอนจักจำเริญดำเนินไป |
|
นำมาซึ่งมงคลดลสุขสันติ์ |
อภินันท์จิตกายคลายสงสัย |
|
มีคุณธรรมนำทางกระจ่างใจ |
จบพบได้สุขเกษมเปรมปรีดา |
|
จบหมวดธรรมน่ำทางสว่างจิต |
มากข้อคิดเตือนใจให้ศึกษา |
|
นำประพฤติปฏิบัติพัฒนา |
จะนำพาสบสันติ์นิรันดร |
|
....ต่อไปขอหมวดตนสหายา |
อัตตาหิอัตตโนโถคำสอน |
|
พึ่งตนเองเถิดหนาประชากร |
ดีแน่นอนพึ่งได้อย่างไรกัน |
|
จักพึ่งตนลำบากยากกันหน่อย |
ผู้ใหญ่คอยประคองครรลองสรรค์ |
|
หนึ่งสุขภาพกายใจก็สำคัญ |
สองปัญญาหัดเขียนเรียนชาญเชาวน์ |
|
สามประกอบกิจการงานชาญทำกิจ |
ผลสัมฤทธิ์ทำได้ไม่ขลาดเขลา |
|
สามารถเลี้ยงตนเองได้เก่งไม่เบา |
มิมีเหงาเก่งการชาญปัญญา |
|
ฉะนี้พึ่งตนทำคุณธรรมสร้าง |
เป็นช่องทางสำนวนควรศึกษา |
|
จะพึ่งได้ต้องแกร่งเชาวน์วิชชา |
และนำมากอปรกิจสฤษดิ์การ |
|
อัตตา หเว ชิตัง เสยโย |
วิเสโส ชนะตน มีคำขาน |
|
เป็นชนะที่เลิศประเสริฐชาญ |
คนโบราณยกย่องวิเศษชัย |
|
อัตตามีมารคอยขัดขวาง |
ทางกุศลคอยห้ามน่าสงสัย |
|
อกุศลกลับเสริมเติมเอาใจ |
ยุเข้าไปทำเลยนั่นแหละมาร |
|
มีอยู่สามโลภะและโทสะ |
กับโมหะพุทธองค์ทรงสื่อสาร |
|
สอนสาวกให้รู้ดูให้ชาญ |
นั่นคืองานรบกิเลสพิเศษคุณ |
|
ดำเนินผ่านสมาธิวิปัสสนา |
จักนำพามรรคผลพลังหนุน |
|
วิริยะอุตสาหะจะเพ็ญบุญ |
จักเจือนจุนชนะตนได้นั่นแล |
|
อัตตนา ว กตัง ปาปัง |
สังกิลิส สันติ พึงได้แท้ |
|
ทำบาปเองเศร้าหมองคือตัวแปร |
ดังดวงแขม่านหมอกเมฆบดบัง |
|
อัตตนา อกตัง ปาปัง |
ยังวิสุชฌติ มนต์ขลัง |
|
มิทำบาปย่อมพิสุทธิ์พลัง |
กุศลสั่งสมให้ได้งดงาม |
|
อัตตนา โจทยัตตานัง |
พึงระวังเตือนตนด้วยตนถาม |
|
คนอื่นเตือนลำบากยากทุกยาม |
มิได้ตามใกล้ชิดสนิทเรา |
|
แม้หวังดีแต่เตือนได้ตามโอกาส |
มีบ้างคลาดลำบากยากมิเบา |
|
แต่ตนเองอยู่กับตัวแต่ยังเยาว์ |
จนแก่เฒ่าก็อยู่ด้วยช่วยตัวตน |
|
เป็นตัวตนหวังดีมีความรัก |
ลึกล้ำหนักยิ่งใหญ่ไม่สับสน |
|
จะดีชั่วแบบไหนใช่ตัวตน |
รู้เหตุผลทุกอย่างกระจ่างใจ |
|
อยากให้ดนเตือนตนจึงเหมาะสม |
รู้อารมณ์เหตุผลกลไหนไหน |
|
เตือนตนถูกกาละเทศะได้ |
ไม่หวังร้ายสบายจิตตนเตือนตน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น