|
|
|
|
กาพย์ยานี ๑๑ |
|
|
พักผ่อนกายสบายจิต |
หลับสนิทแปลกไฉน |
|
ดึงแขนเอ๊ะนี่ใคร | ไวสิช้ามิทันการ |
|
ตาเฒ่าเพื่อนกันมา |
สนทนาเรื่องสืบสาน |
|
ความหลังนับเนิ่นนาน |
ครั้งบวชเรียนเคยพบกัน |
|
เป็นคู่สนทนา |
หาเรื่องถามเชิงสร้างสรรค์ |
|
คู่เทศน์สองประชัน |
สองธัมมาสน์คู่กันมา |
|
ตอนนี้อยู่เมืองกรุง |
ทำการยุ่งเจียวจริงหนา |
|
แทกซี่รับจ้างว่า |
กิจการเจริญดี |
|
ตอนนี้ยึดบริหาร |
ข้าจัดการรถมากมี |
|
ห้าสิบคันตอนนี้ |
ให้ลูกสาวรับงานแทน |
|
พอมีเวลาว่าง |
ผ่านมาทางนี้ยากแสน |
|
ใกล้กันติดเขตแดน |
ต่อจังหวัดใกล้กันจริง |
|
มันยุ่งงานมิว่าง |
จนสะสางให้ลูกหญิง |
|
มันเก่งมิต้องติง |
เขาทำได้ค่อยคลายใจ |
|
วันนี้ขอแม่เฒ่า |
บอกว่าเรามิเฉไฉ |
|
แอบเที่ยวที่อื่นไกล |
แค่หาเพื่อนฉะเชิงเทรา |
|
ชื่อนายเครดิตดี |
แม่มิมีสงสัยเรา |
|
แถมบอกให้ถือเอา |
ผลไม้มาฝากนาย |
|
ใกล้เที่ยงพอดีครับ |
ชวนให้รับของหลากหลาย |
|
ส้มตำชอบมากมาย |
อีกไก่ย่างสะดวกดี |
|
ข้าวเหนียวอุ่นร้อนร้อน |
ชอบทุกตอนตามวิถี |
|
คนลาวเจอกันมี |
ลูกอีสานไม่ยากเย็น |
|
ดีหน่อยก็ลาบแดง |
ลาบเป็ดแต่งสีให้เห็น |
|
ลาบสุกเขาบีบเค้น |
เลือดเป็ดเคล้าจนสีแดง |
|
นึกว่าเป็นลาบสด |
เพื่อนแกอดขยะแขยง |
|
ลาบสุกเราแสดง |
ตักเครื่องในพิสูจน์ดู |
|
ต้องสั่งจานที่สอง |
มันน่าถองนักเจียวสู |
|
พอชิมอร่อยรู้ |
หมดสองชามเลยเพื่อนเรา |
|
เบียร์สองมิต้องขาน |
หากเธออ่านคงมิเหงา |
|
ดึงหูยานซิเอ้า |
หมอเขาห้ามเมียควบคุม |
|
เรียบร้อยสนทนา |
พาทีถามดังประชุม |
|
ถามทีชวนให้กลุ้ม |
ถามธัมมะออกธัมโม |
|
ทานเสมอด้วยการรบ |
ฟังจบแล้วน่าโมโห |
|
ภาษิตตัวโตโต |
ยกมาอ้างเป็นอย่างไร |
|
ทานัญ จ ยุทธัง |
อาหุนัง กันตรงไหน |
|
การทานและรบไง |
อธิบายให้ฟังที |
|
มิเหมือนกันดอกครับ |
ทานสะดับตามวิถี |
|
ข้าวของเรามากมี |
แบ่งทานไปไม่ยากเย็น |
|
การรบมันต้องสู้ |
เก่งกว่าอยู่แบบที่เห็น |
|
คนพ่ายล้มตายเป็น |
วิถีแห่งการสงคราม |
|
เพื่อนว่าบาลีอ้าง |
นึกคลางแคลงจึงมาถาม |
|
สาระตริตรองตาม |
แตกต่างกันนั่นแน่นอน |
|
ที่คล้ายคงการรบ |
ทานจักจบตามครูสอน |
|
ชนะโลภรานรอน |
ผ่านมาได้จึงได้ทาน |
|
การรบฟาดฟันอยู่ |
กับศัตรูด้วยฮึกหาญ |
|
รบราอยู่นักนาน |
ชนะผ่านจึงยืนยง |
|
รบกิเลศหรือศัตรู |
ก็ต้องสู้ตามประสงค์ |
|
แกร่งกายแกร่งใจตรง |
สติมั่นบัญชาการ |
|
คล้ายกันตรงการรบ |
พบข้าศึกษายังฮึกหาญ |
|
สู้กันรุกโรมราญ |
ชนะได้ชัยเกิดมา |
|
นัคถิ จิตเต ตริ |
ปสันนัมหิ อัปปกา |
|
คือนามทักขินา |
มีค่าสูงยิ่งนักแล |
|
เพื่อนถามความหมายเล่า |
เอามาบอกออกมาแฉ |
|
ความหมายใจแน่วแน่ |
อยากทำทานใจมั่นคง |
|
ละโลภเบาบางลง |
มุ่งประโยชน์ทักษิณา |
|
ทานแล้วก็ยินดี |
มิได้มีข้อกังขา |
|
ขอแลกสิ่งนำมา |
มวลกิเลสมิต้องการ |
|
อย่างเช่นทานนิดหน่อย |
คอยหวังผลมหาศาล |
|
สวรรค์สมบัติปาน |
ค่านับล้านอเนกอนันต์ |
|
ละโลภเพียยงนิดหน่อย |
คอยตัวใหม่ใหญ่พร้อมสรรพ์ |
|
ทำทานเสียของนั่น |
โลภตัวใหม่ใหญ่ยิ่งเกิน |
|
ทำทานจึงต้องรบ |
พบโลภะพึงประเมิน |
|
รู้ทันมันอย่าเพลิน |
โลภโหมกลับท่วมมโน |
|
วิเจยยทานัง |
ปสัตถัง สุคโต |
|
เพื่อนถามถึงอัตโถ |
แห่งภาษิตเป็นเช่นไร |
|
วิเจยย์คือวิเคราะห์ |
เจาะอัตถาเป็นไฉน |
|
อย่างคำทานก็ได้ |
แจกแจงดูให้รู้ความ |
|
จากคำสุภาษิต |
ชวนให้คิดวิจัยถาม |
|
แจกแจงทานตริตาม |
เป็นไฉนเข้าใจดี |
|
เลือกทำทานที่เลิศ |
ผลประเสริฐตามวิถี |
|
แบบนี้ทานจักมี |
อานิสงส์มงคลการ |
|
ตัวอย่างทานวิเคราะห์ |
เลือกให้เหมาะคำไขขาน |
|
อามิสชนิดทาน |
ให้สิ่งของบุญมากมี |
|
ธรรมทานเลิศยิ่ง |
บุญมากจริงตรองวิถี |
|
สั่งสอนอบรมดี |
คนรับรู้เกิดปัญญา |
|
ใช้ได้ชั่วชีวิต |
ประสิทธิ์ภาพการศึกษา |
|
ก่อเกิดวิทยา |
รู้ผิดชอบชั่วฤๅดี |
|
ทานังจึงแบ่งสอง |
ตามครรลองปรากฏมี |
|
เลือกทำเจตนาชี้ |
ทานแบบไหนใคร่ดำเนิน |
|
วิเจยยะคือแจกแจง |
แสดงออกการประเมิน |
|
ผลสรุปแนวจำเริญ |
จึงเลือกทำดำเนินการ |
|
สาธุสาธุเพื่อน |
เหมือนฟังเทศน์พระอาจารย์ |
|
อีกบทว่าธัมโม |
สจิณโณ
จักพบพาน |
|
ความสุขจริงหรือท่าน |
สุขมา ว หาติ ไง |
|
ธรรมที่ประพฤติชอบ |
ประกอบด้วยดีไฉน |
|
ผลกรรมยอมรับได้ |
จะเกิดสุขและเจริญ |
|
พักก่อนดีไหมครับ |
ยินดีรับมีเคยเขิน |
|
อวดเก่งใครจักเกิน |
เราตาเฒ่าหายากแล |
|
|
ขุนทอง ประพันธ์
โพส 3 กพ.2562 |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น