วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รำพึงรำพัน ๒


                              ผู้เขียนนั่งเรือเหาะนกแอร์ไปเลยบุรีศรีนครพายับ แห่งมณฑลอีสาน
                                                          มีผู้กำกับไปด้วย
                      


                                                          ตอนที่ ๒                   

กาพย์ยานี ๑๑
พักผ่อนกายสบายจิต หลับสนิทแปลกไฉน
ดึงแขนเอ๊ะนี่ใครไวสิช้ามิทันการ
ตาเฒ่าเพื่อนกันมา สนทนาเรื่องสืบสาน
ความหลังนับเนิ่นนาน ครั้งบวชเรียนเคยพบกัน
เป็นคู่สนทนา หาเรื่องถามเชิงสร้างสรรค์
คู่เทศน์สองประชัน สองธัมมาสน์คู่กันมา
ตอนนี้อยู่เมืองกรุง ทำการยุ่งเจียวจริงหนา
แทกซี่รับจ้างว่า กิจการเจริญดี
ตอนนี้ยึดบริหาร ข้าจัดการรถมากมี
ห้าสิบคันตอนนี้ ให้ลูกสาวรับงานแทน
พอมีเวลาว่าง ผ่านมาทางนี้ยากแสน
ใกล้กันติดเขตแดน ต่อจังหวัดใกล้กันจริง
มันยุ่งงานมิว่าง จนสะสางให้ลูกหญิง
มันเก่งมิต้องติง เขาทำได้ค่อยคลายใจ
วันนี้ขอแม่เฒ่า บอกว่าเรามิเฉไฉ
แอบเที่ยวที่อื่นไกล แค่หาเพื่อนฉะเชิงเทรา
ชื่อนายเครดิตดี แม่มิมีสงสัยเรา
แถมบอกให้ถือเอา ผลไม้มาฝากนาย
ใกล้เที่ยงพอดีครับ ชวนให้รับของหลากหลาย
ส้มตำชอบมากมาย อีกไก่ย่างสะดวกดี
ข้าวเหนียวอุ่นร้อนร้อน ชอบทุกตอนตามวิถี
คนลาวเจอกันมี ลูกอีสานไม่ยากเย็น
ดีหน่อยก็ลาบแดง ลาบเป็ดแต่งสีให้เห็น
ลาบสุกเขาบีบเค้น เลือดเป็ดเคล้าจนสีแดง
นึกว่าเป็นลาบสด เพื่อนแกอดขยะแขยง
ลาบสุกเราแสดง ตักเครื่องในพิสูจน์ดู
ต้องสั่งจานที่สอง มันน่าถองนักเจียวสู
พอชิมอร่อยรู้ หมดสองชามเลยเพื่อนเรา
เบียร์สองมิต้องขาน หากเธออ่านคงมิเหงา
ดึงหูยานซิเอ้า หมอเขาห้ามเมียควบคุม
เรียบร้อยสนทนา พาทีถามดังประชุม
ถามทีชวนให้กลุ้ม ถามธัมมะออกธัมโม
ทานเสมอด้วยการรบ ฟังจบแล้วน่าโมโห
ภาษิตตัวโตโต ยกมาอ้างเป็นอย่างไร
ทานัญ จ ยุทธัง อาหุนัง กันตรงไหน
การทานและรบไง อธิบายให้ฟังที
มิเหมือนกันดอกครับ ทานสะดับตามวิถี
ข้าวของเรามากมี แบ่งทานไปไม่ยากเย็น
การรบมันต้องสู้ เก่งกว่าอยู่แบบที่เห็น
คนพ่ายล้มตายเป็น วิถีแห่งการสงคราม
เพื่อนว่าบาลีอ้าง นึกคลางแคลงจึงมาถาม
สาระตริตรองตาม แตกต่างกันนั่นแน่นอน
ที่คล้ายคงการรบ ทานจักจบตามครูสอน
ชนะโลภรานรอน ผ่านมาได้จึงได้ทาน
การรบฟาดฟันอยู่ กับศัตรูด้วยฮึกหาญ
รบราอยู่นักนาน ชนะผ่านจึงยืนยง
รบกิเลศหรือศัตรู ก็ต้องสู้ตามประสงค์
แกร่งกายแกร่งใจตรง สติมั่นบัญชาการ
คล้ายกันตรงการรบ พบข้าศึกษายังฮึกหาญ
สู้กันรุกโรมราญ ชนะได้ชัยเกิดมา
นัคถิ จิตเต ตริ ปสันนัมหิ อัปปกา
คือนามทักขินา มีค่าสูงยิ่งนักแล
เพื่อนถามความหมายเล่า เอามาบอกออกมาแฉ
ความหมายใจแน่วแน่ อยากทำทานใจมั่นคง
ละโลภเบาบางลง มุ่งประโยชน์ทักษิณา
ทานแล้วก็ยินดี มิได้มีข้อกังขา
ขอแลกสิ่งนำมา มวลกิเลสมิต้องการ
อย่างเช่นทานนิดหน่อย คอยหวังผลมหาศาล
สวรรค์สมบัติปาน ค่านับล้านอเนกอนันต์
ละโลภเพียยงนิดหน่อย คอยตัวใหม่ใหญ่พร้อมสรรพ์
ทำทานเสียของนั่น โลภตัวใหม่ใหญ่ยิ่งเกิน
ทำทานจึงต้องรบ พบโลภะพึงประเมิน
รู้ทันมันอย่าเพลิน โลภโหมกลับท่วมมโน
วิเจยยทานัง ปสัตถัง สุคโต
เพื่อนถามถึงอัตโถ แห่งภาษิตเป็นเช่นไร
วิเจยย์คือวิเคราะห์ เจาะอัตถาเป็นไฉน
อย่างคำทานก็ได้ แจกแจงดูให้รู้ความ
จากคำสุภาษิต ชวนให้คิดวิจัยถาม
แจกแจงทานตริตาม เป็นไฉนเข้าใจดี
เลือกทำทานที่เลิศ ผลประเสริฐตามวิถี
แบบนี้ทานจักมี อานิสงส์มงคลการ
ตัวอย่างทานวิเคราะห์ เลือกให้เหมาะคำไขขาน
อามิสชนิดทาน ให้สิ่งของบุญมากมี
ธรรมทานเลิศยิ่ง บุญมากจริงตรองวิถี
สั่งสอนอบรมดี คนรับรู้เกิดปัญญา
ใช้ได้ชั่วชีวิต ประสิทธิ์ภาพการศึกษา
ก่อเกิดวิทยา รู้ผิดชอบชั่วฤๅดี
ทานังจึงแบ่งสอง ตามครรลองปรากฏมี
เลือกทำเจตนาชี้ ทานแบบไหนใคร่ดำเนิน
วิเจยยะคือแจกแจง แสดงออกการประเมิน
ผลสรุปแนวจำเริญ จึงเลือกทำดำเนินการ
สาธุสาธุเพื่อน เหมือนฟังเทศน์พระอาจารย์
อีกบทว่าธัมโม สจิณโณ  จักพบพาน
ความสุขจริงหรือท่าน สุขมา ว หาติ ไง
ธรรมที่ประพฤติชอบ ประกอบด้วยดีไฉน
ผลกรรมยอมรับได้ จะเกิดสุขและเจริญ
พักก่อนดีไหมครับ ยินดีรับมีเคยเขิน
อวดเก่งใครจักเกิน เราตาเฒ่าหายากแล
ขุนทอง ประพันธ์
โพส 3 กพ.2562

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น