วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ท้าวผาแดงนางไอ่



  คำชี้แจงจากผู้แต่ง
เดือนเมษายน 2562 อากาศร้อน อยู่แต่บ้านไม่ใคร่ได้ไปเที่ยวไหน เหงา ๆนะคนแก่ยิ่งไม่มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว
ก็ยิ่งอาการหนัก ก่อนเคยทำไร่ทำนา ว่าง ๆ ก็เดินไปดูต้นไม้ดูพืชไร่ ดูข้าวกล้าในนา ก็ผ่านวันเวลาไปไม่รู้ตัว แต่คน
ว่างงานนี่เวลมันเดินช้าจังเลย ก็จึงคิดว่าหาเรื่องทำไม่ให้ว่างดีกว่า  เรื่องที่ทำก็พวกขีด ๆ เขียน ๆ นี่แหละ เขียนขาย
หรือเปล่า เขียนเพราะอยากเขียน ไม่มีคนซื้อหรอก งานเขียนสมัยนี้ขายยาก เพราะคนเขาเล่นเนตกัน มีเรื่องราวให้
อ่านมากมาย  เราก็เลยเขียนทิ้งเอาไว้ ใครจะอ่านไม่อ่านก็แล้วแต่ เชื่อเถอะร้อยกรองเล่าเรื่องยาว ๆ แบบนี้มีแต่คน
สมัยก่อนแหละเขียนและอ่านกัน สมัยนี้นิยมเขียนบทสองบทก็จบ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป แต่เราไม่ยอมเปลี่ยนเอง ก็
เขียนยาว ๆ นี่แหละ เอาไว้ให้คนอยากอ่าน ได้มีเรื่องให้อ่านบ้าง เริ่มเขียน ๓ เมษายน ๒๕๖๒ จบเมื่อวันที่ ๒๑ 
เมษายน ๒๕๖๒ รวมเวลา  ๑๙ วันพอดี ได้งานเขียน ๒๓๐ บท จบเรื่องจนได้ สบายใจครับ
                                                                               

ขุนทอง ศรีประจง 
       ผู้แต่ง
 ๒๓ เมษายน ๒๕๖๒




ลิลิตท้าวผาแดงนางไอ่เริ่ม ๓ เมษายน 2562
๑. ขอน้อมนบจบไหว้   คุณพระไตรรัตนา   พระพุทธาพิสุทธิ์   อุตตมะพระธรรม      สังฆนำสัตถุศาสน์
ประกาศแก่ผองชน   มิน้อยคนเลื่อมใส    ลางคนได้ออกบวช   ได้ผนวชเป็นภิกษุ   มุเพ็ญเพียรภาวนา
บ้างศึกษาพระธรรม  จดจำแนวปฏิบัติ  จรรยาวัตรงามงด  ปรากฏด้วยอุบาสก ยกย่องคุณอุบาสิกา 
ศาสนาจำรุญ พิบูลย์มาเนิ่นช้า   ศกล่วงสองพันห้า   เศษด้วยหกสิบสาม แลนา
โคลงสอง๒. ปางหนองแสน่านเจ้า
สุทโธนาคอยู่เฝ้า ปกป้องประชาชน
๓. คุมพลพันนับห้า
เป็นหน่วยนาคราชกล้า แกร่งกล้าฤทธิรง
๔. ตรงเขตเหนือน่านน้ำ
เขตปกครองฝ่ายก้ำ แห่งเจ้านาคสุทโธ แลนา
๕. โยธาทางฝ่ายใต้
ครองอยู่แถบนั้นไซร้ นาคเจ้าสุวรรณ
๖. พลสรรค์มีอยู่ห้า
พันนาคก็เกริกกล้า  ปกป้องแปลงเมือง
โคลงสาม๗. สองนาคครองบ้านเมืองรุ่งเรืองสองฝ่ายเจ้า
ยามรุ่งอรุณเช้าแจ่มแจ้งแสงทอง
๘. เรืองรองปลายขอบฟ้าสุริยาสาดส่องแจ้ง
งามดั่งทิพย์เทพแสร้งเสกไว้เรืองรอง
๙. มองทิชาชาติเช้าเหล่านกการ่อนร้อง
เกาะกลุ่มบินว่อนจ้องจักเข้าเขตราวไพร
๑๐. ได้ยินดุเหว่าแว่วดังขวัญแก้วเธอร่ำร้อง
นึกว่าเสียงนวลน้องร่ำไห้แลโหยหา
ร่าย
๑๑.  สองนาคราชเจ้า     สองเขาเพื่อนรักกัน  ครั้นโอกาสอันดี  มักจะมีชักชวน  เที่ยวไปป่วนทะเล
เร่ร่อนไปกลางสมุทร  หยุดเล่นน้ำตีฟอง  เสียงกึกก้องกำปนาท  ดังฟ้าฟาดนที    เสียงต่อยตีครืนครืน 
ต่างก็ชื่นสนุก ปูปลาทุกสลัด  แตกกระจัดกระจาย  ว่าน้ำหนีอลวล  บ้างก็บ่นดาเอา เจ้านาคบ้าพวกนี้
เล่นตีฟองอุบาท  หางโบกฟาดสบัด หัวมันฟัดกระจาย  ปูปลาตายเป็นเบือ   ซนเอาดเหลือนาคราช สอง
มิพลาดชมดง เข้าป่าพงชอบล่า จับสัตว์ป่าพอใจ  ได้อาหารพอดี  มีมากมายแบ่งปัน สองสุขสันต์สนิทสนม
ต่างรักใครนิยม   ชื่นชมกันไม่น้อย     วันเคลื่อนนับเดือนคล้อย   สืบสร้างสัมพันธ์
โคลงสี่
๑๒. ปางศรีสุทธเจ้านาโค
เดินป่าจับสัตว์โตชื่อช้าง
จัดการแบ่งพูดโหพูดใหญ่
จึงฝากถึงเพื่อนบ้างแบ่งได้มากมาย
๑๓.สุวรรณนาคนั่นยินดี
เขาแบ่งมากมายมีพูดเนื้อ
อร่อยยิ่งเปรมปรีดิ์รักเพื่อน
โอกาสมีอาจเอื้อตอบด้วยน้ำใจ
๑๔. สุวรรณนาคเจ้าใจงาม
มิชอบฆาตกรรมตามแต่รู้
กบเขียดปูปลายามออกล่า
สัตว์ใหญ่มิค่อยสู้จักล้มปล่อยไป
๑๕. คราหนึ่งจับเม่นได้หนึ่งตัว
แบ่งครึ่งห่างจดหัวเรียบร้อย
ฝากถึงเพื่อนมิกลัวมิอิ่ม
ขนเม่นอีกเล็กน้อยฝากให้แปลกดี
๑๖. ศรีสุทโธเปิดแล้วแปลกใจ
นิดหน่อยเองไฉนฝากข้า
กูฝากนั่นตัวใหญ่แบ่งครึ่ง
คชสารกูกล้าฝากให้เพื่อนไป
๑๖.ใยขนมันใหญ่แท้แน่นอน
คงยิ่งกว่าพวกกุญชรนั่นน้อย
ขนเล็กแต่เนื้อตอนกูแบ่ง ให้แล
ยังมากมายหาบห้อยหาบเนื้อพลายสาร
๑๗. มารมันมอบเม่นแม้้นิดเดียว
ขนกลับใหญ่นักเชียวแน่แล้ว
มันโตกว่าช้างเจียวจริงแน่
บักเพื่อนคงมิแคล้วคิดได้กลโกง
๑๘. ตายโหงเพราะนาคเจ้าสุทโธ
มักโกรธมักโมโหกราดเกรี้ยว
มิเคยพบเม่นโตใยเล่า
เทียบดูเพื่อนลดเลี้ยวหลอกได้แบ่งมา
๑๙. ขนมันโตกว่าช้างเส้นขน
ให้แบ่งแผงเล่ห์กลแบ่งให้
หน่อยเดียวแบ่งมาจนเจ็บจิต กูแฮ
เอาส่งคืนมันได้ฝากให้คืนพลัน
๒๐. สุวรรณนาคเจ้าเย็นใจ
รีบเร่งขอพบนัยเรื่องรู้
เพื่อนเราอย่าโกรธใยเพราะเม่น
ตัวเล็กเราก็สู่แบ่งให้พอควร
๒๑. เชิญชวนนึกก่อนนี้สองเรา
รักใคร่กันมิเบาแน่แท้
มีลาภแบ่งลาภเอาลาภครึ่ง แลนา
แบ่งเม่นตัวเล็กแล้เล็กน้อยเนื้อมัน
๒๒. โกรธกันเพราะแค่นี้มิดี เพื่อนเอง
เอาใหม่หากจักมีโชคบ้าง
จับตัวใหญ่อีกทีคราแบ่ง
เกินครึ่งมอบแกล้างผิดให้แก่เรา
๒๓. คืนแกมันเล็กน้อยเอาไป
มิอยากกินของใครเล็กน้อย
มิฟังโกรธดังไฟลุกท่วม
แถมตบตีด่าป้อยโกรธร้ายโทโส
๒๔. นาโคคอยปัดป้องห้ามปราม
อย่าเพื่อนมันมิงามแบบนี้
เราผิดเพื่อนคุกคามมิว่า
เราบ่ผิดเราชี้บอแล้วความจริง
๒๕. ตัวหมาเท่าเม่นได้เทียบดู
นิดหน่อยเนื้อหนังกูบอกให้
คนละครึ่งแบ่งตูปันส่วน จริงแล
มิหลอกเราก็ได้เทียบได้คำยืน
๒๖ คืนไปมิรับไว้ของเอ็ง
แกเพื่อนเส็งเคร็งลดเลี้ยว
มิซื่อต่อเพื่อนเล็งเอาเปรียบ กูฤๅ
มาต่อยตบตีมึงเบี้ยวส่วนให้แบ่งกัน
๒๗.สุวรรณนาคเจ้าโมโห
ดุด่าเรื่องใหญ่โตโกรธเกรี้ยว
ตบตีกัดพาโลข่มเพื่อน
สุทธเอาแต่เลี้ยวหลบป้องเกรงใจ
๒๘. มันเล่นแรงแบบให้ถึงตาย  แลฤๅ
จำต่อยตบประปรายอดไว้
สุวรรณโกรธมากมายมิผ่อน
สุดที่จะทนได้สดท้ายต่อยตี
ร่าย
๒๙.  มีโทสะรุมเร้า  สองเจ้านาคราชแรง  แข็งข่มกันมิหยุด สุดจักยับยั้งได้  ก่อเกิดไฟลามรุก อุกอาจ
เกิดสงตรามลุกลามกันใหญ่โต โกรธาบ้าอำนาจ  หวังพิฆาตเข่นฆ่า  กรีฑาทัพต่อสู้  เกณฑ์งูน้อยงูใหญ่
 รุกเข้าไปประจันเข้าฟาดฟันศัตรู  งูเหลือมรุกเข้าใส่  จงอางไล่พ่นพิษ  หวังปลัดชีพแมวเซา  งูเห่ามิ
ยอมถอย พวกงูน้อยแตกพ่าย ลายพร้อยงูสามเหลี่ยม ยอดเยี่ยมเขียวหางไหม้  ว่องไวเขียวกาบหมาก 
 หายากแสงอาทิตย์ วิจิตรหลามลวดลายร้ายมากสิงดงดำ นำพวกเข้าไล่ฟัด นายสั่งกัดสั้งขบ  รุกรบ
กันพัลวัน  ทัพงูมาพร้อมสรรพ์ ฟาดฟันให้บัลลัย ล้มตายไปเป็นเบือ เพื่อเจ้านายนาคราช  พิฆาตกันมิหยุด 
โคลงสอง
๓๐. สองนาคราชเจ้า  
สองต่างรุกรบเร้า    ผ่านพ้นคืนวัน
๓๑. หลายเดือนผันผ่านได้  
รบยิ่งรุนแรงไซร้     เดือดยิ่งทุกแดน
๓๒. สองนาคราชเก่งกล้า
ปล่อยฤทธิ์ลือโลกหล้า   สั่นสะท้านทั่วแดน
๓๓. แสนปั่นป่วนยิ่งแล่ว
หนองนี่คงมิแคล้ว   จักได้ภินท์พัง
๓๔. ดินยังถล่มรอบด้าน
แนวฝั่งยากจักต้าน  หมู่เจ้าตีกัน
๓๕. สรรพสัตว์ต่างเดือดร้อน
โดนไล่รุกกวาดต้อน  หลีกเร้นหนีตาย
๓๖. หลากหลายหลบมิพ้น
ตายดับก็หลากล้น  แต่น้อยหลีกทัน
๓๗. แถนพลันพบเรื่องร้าย
มิปล่อยจำให้ย้าย     ห่างท้องถิ่นไป
ร่าย
๓๘.  ภัยเกิดแถนสะดุ้ง  มุ่งสอดส่องบนฟ้า  หมู่เมฆาสบายดี  มิมีใครเดือดร้อน  ย้อนส่องลงดูโลก
ใครทุกโศกกันหนอ  พอได้เห็นเรื่องใหญ่  สองนาคไซร้ฟัดกัน  มันบ้าบอทั้งคู่  สู้กันจนเลอะเลือน
สะเทือนคุ้งแม่น้ำ  กรรมปูปลากบเขียด  เบียดเบียนเขาทำไม ตัวใหญ่กันเสียเปล่า เอาแต่ขี้โมโห
โต่แต่กายด้อยปัญญา  ควรศึกษาพระธรรม  น้อมนำมาปฏิบัติ จัดการบ้านการเมือง ให้รุ่งเรืองจำรัส 
ให้วิวัฒน์จำรูญ  บ้านเมืองพูนสวัสดิ์ ศิริพิพัฒนา ทวยประชาร่มเย็น เป็นแนวทางผู้นำ มีคุณธรรมคู่ควร
ทุชนชวนนอบน้อม  เต็มใจโอนอ่อนพร้อม   กราบเกื้ออวยพร แลนา
โคลงสอง
๓๙. กูเจ้าแถนอยู่ฟ้า
จำล่วงลงสู่หล้า   หยุดได้พวกมึง
๔๐. ปูปลาถึงดับดิ้น
ตายดับแทบหมดสิ้น   เนื่องด้วยพวกมึง
๔๑. ถึงรบเพราะเหตุอ้าง
เพียงแค่เม่นใช่ช้าง   แย่งได้แย่งดี
๔๒. มีอย่างไหนท่านเจ้า
นาคราชรบเร้า    แย่งเนื้อเม่นกัน
๔๓. น่าขันนักพวกบ้า
เป็นเจ้ายังชั่วช้า   แย่งเข้าของกิน
๔๔.ตัดสินนับแต่นี้
พาพวกจงหลีกลี้   ห่างห้วงหนองแส
๔๕. ฝืนแลกูจักให้
วิบัติล่มจมไซร้     สาบให้จมดิน
๔๖. ยินฟังกันทั่วถ้วน
ปักข์หนึ่งไปกันล้วน   อย่าได้เหลือหลอ
๔๗. องค์แถนบอกสั่งเจ้า
สองนาคราชเฝ้า   นอบน้อมรับคำ
๔๘. จำยอมพลาดผิดแล้ว
ยามเมื่อจิตผ่องแผ้ว   ค่อยรู้ที่ควร
๔๙. ชวนสองนาคราชเจ้า  เฝ้าฟังแถนสั่งการ  เพราะคิดพาลทะเลาะ  มิเหมาะมิควรการ
แถนท่าจึงลงโทษ มิโกรธมิเคืองขุ่น  บุญจักได้โยกย้าย หมายหาที่เมืองใหม่  มิใช่เรื่องยากเข็ญ
เห็นควรแยกทางกัน สุวรรณไปทางนี้  โชคดีส่วนทางนั้น สุทโธผันผายไป  สองนาคได้หารือ ถือ
ถือเป็นข้อตกลง คงพาเหล่าบริพาร ประมาณนับห้าพัน พร้อมสรรพ์ก็เครื่อนย้าย แยกกันไปขวาซ้าย   
ต่างริ้วงามขบวน 
๕๐. ส่วนสุทโธมุ่งซ้ายมุดดิน
เป็นปล่องทางเดินยินร่ำร้อง
พลไพร่เคลื่อนเลาะหินเป็นแหล่ง
ทางอุทกไหลต้องเกิดน้ำโขงชล
๕๑. บนสองฟากฝั่งกว้างพอควร
งามแง่สองฝั่งชวนชื่นแม้
นานาแมกไม้มวลดาดาด แลนา
ลางผลิดอกงามแท้แต่งแต้มริมของ
๕๒. องค์แถนตรองถี่ถ้วนสั่งความ
ใครแต่งทางลุตามล่วงแล้ว
ทะเลปล่อยลงยามชลเอ่อ นองแล
จักปล่อบปลาบึกแก้วเกิดได้แพร่พันธุ์
๕๓. สุทโธสรรค์แต่งได้ดังหมาย
ชองล่วงทะเลปลายสุดได้
ปลาบึกเกิดโขงคลายแถ่นมอบ พรแล
โดดเด่นของนักไซร้เมื่อได้บึกมี
๕๓. ศรีสุทธนาคสร้างบาดาล
ลึกล่างลำโขงสานสืบเค้า
สัตตนาคนหุตนานจนชั่ว นานแล
คนร่ำลือนาคเจ้าอยู่ใต้ลำของ
๕๔. เพราะของไหลล่วงด้านสมุทร
พระท่านแถนพิสุทธิ์เสกให้
ปลาบึกก่อเกิดอุด-ตมยิ่ง แลนา
มีแหล่งเดียวแถนให้อยู่น้ำลำของ
๕๕. ครองเมืองสัตตนาคได้นับนาน
เป็นสุขแสนสราญเนิ่นช้า
มีบุตรหนึ่งเบิกบานนักยิ่ง
ยามว่าภังคีกล้าเก่งกล้าชาตรี
๕๖. ธสอนธสั่งเจ้าภังคี
ศิลปะวิชชามีไม่น้อย
อีกมวลเดชฤทธีควรนาค รู้แล
นาคหนุ่มสาวนับร้อยจัดให้บริวาร
๕๗. กล่าวสุวรรณนาคเจ้าจรไกล
ขวามุ่งหลายวันใจจักสร้าง
ธารชลอยู่อาศัยบึงบ่อ
ปลายเชื่อมหมายดุจอ้างจักให้ลงทะเล
๕๘. คนเรียกแนวน้ำน่านงดงาม
ตามเชื่อสุวรรณนามนาคนี้
สัตย์ซื่อรักสวยยามจักก่อ
ธารอยู่อาศัยชี้ขีดให้ทางตรง
๕๙. ภูมิสถานก่อสร้างสวยสม
งามถิ่นเอกอุดมกล่าวอ้าง
ผองชนต่างชื่นชมลือเลือง
เมืองน่านงามยิ่งสร้างไม่แพ้เมืองสวรรค์
๖๐. สันติศิริได้เกิดมี
เย็นยิ่งนาคบุรีก่อเกื้อ
จำเรืญรุ่งเรืองดีนานเนิ่น
เมืองเจริญเทพเอื้อส่งให้เกษมศรี
๖๑.  นาคบุรีศรีสุทโธ   ภิญโญยิงจำเริญ   ดำเนินมานับนาน  สุขสราญนาคประชา พากันชื่นและชม
สมควรยกยอย่อง  เห็นพ้องเพราะท่านเจ้า  เอาภาระปกครอง ผองนาคน้อยนาคใหญ่  ใครเดือดร้อน
ลำบาก หายากปลาเขียดกบ พบสุทโธพ่อเจ้า   เอาภาระป้องปลด  เสกได้หมดวิชาคุณ หนุนให้เกิด
ฟ้าฝน ดลให้น้ำนองทุ่ง มุ่งดึงปลาวางไข่   ให้กบเขียดร่ำร้อง  เต็มห้วยหนองบึงบาง  สร้างอุดมสมบูรณ์
บึงบางพูปูปลา  นานเขียดแลกบ  สบใจประชานาค มิลำบากแล้วไซร้ ได้พ่อเจ้าเมตตา พากันมาแซ่ซ้อง
เนืองแน่นนาคร่ำร้อง   พ่อเจ้าจงเจริญ ฯ
โคลงสี่สุภาพ
๖๒. เพลินใจทุกหย่อมหญ้าชาวเมือง
ตกแต่งแปลงเรือนเรืองรุ่งแล้ว
เย็นนักยิ่งบ่เคืองเป็นอยู่
งามยิ่งดังเมืองแก้วแต่ล้วนสะดวกสบาย
๖๓. หลายเดือนผันผ่านได้มงคล
เกิดหน่อนาคเพียบพลเดชกล้า
ภังคีชื่นนาคตนประเสริฐ
ศรีสุทโธอิ่มหน้าบุตรน้อยเกิดมา
๖๔. เวลาผันผ่านได้เดือนปี
เด็กหนุ่มนามภังคีชื่นหน้า
พวกผองต่างมากมีกินเที่ยว
เพลินเล่นทุกย่านกล้าเลียบล้วนสนุกสนาน
๖๕. ปูปลาย่านน้ำนั่นมากมาย
ปลาบู่ดุกสวายกดสร้อย
ช่อนกระดี่ปลากรายวนวุ่น
เหยื่อมดผ่านนับร้อยแย่งยื้อฮุบกัน
๖๖.กระเบนกระสูบย้ายล่องไป
แหนจอกแหวกทางไวผ่านพ้น
กระพงบู่แลไหนหายห่าง
ปลาช่อนงูเห้าค้นเหยื่อได้ยินดี
๖๗. มีกดซิวแก้วแก่งคางเบือน
กระสูบลอยลางเลือนห่างพ้น
ดุกอุยบึกแลเหมือนเล็กอยู่
คอยหลบทางแต่ต้นห่างเจ้าชะโด
๖๘. ตะเพียนขาวแปลกเจ้าสีทอง
นวลจันทร์แผนนวลผองแจ่มหน้า
เทโพชอบปรองดองนิลหนุ่ม
ปลากะพงปลาบ้าตื่นเต้นแตกกระจาย
๖๙. ภังคีมากเพื่อนพ้องมัสยา
แหวกว่ายวนธาราสนุกล้น
โลดไล่จับกันพาสนุกยิ่ง
ลืมเหนื่อยกันแต่ต้นสุดท้ายเหนื่อยแรง
๗๐. บางคราวชวนนาคน้อยนาคี
แปลงรูปนวลนารีแช่มช้อย
โลดไล่เกาะกุมมีใจร่วม นักเอย
นวลต่างหวังติดต้อยอยู่ใกล้ภังคี
๗๑. นาคีนางที่ต้องตาใจ
เลือกสมัครรักใคร่คู่จ้าว
ฐานะเท่าเทวีนาคราช
ร่ายนาคหนุ่มสาวมักห้าวเลือกไว้เคียงครอง
๗๒.เมืองสุวรรณโคมคำ   ตำนานพญาขอม  เป็นจอมเจ้าปกครอง  ผองประชาร่มเย็น  ต่างเป็นสุขมากมี 
 ต่างเป็นศรีสวัสดิ์ แจ่มจำรัสดำเนิน  จำเริญด้วยการเกษตร  มากมายเขตพาณิช ประกอบกิจค้าขาย มีมาก
มายโรงงาน ทำจักสานหัตถกรรมบ้านเรือดูงดงาม พระอารามลำดับ  ผู้คนรับศาสนา  พากันก่อกุศล ส่งผล
ให้ร่มเย็น  เป็นเมืองที่สุขสงบ พบแม่เจ้าชายาพระนามว่าจันทร์เทวี  นางเป็นศรีแห่งเมือง  งามประเมืองดุจ
ดาว  พิมพ์แพรวพราวดังอัปสร บังอรมีหนึ่งธิดา ลือว่านางงามล้ำเป็นสาวงามเลิศซ้ำ  กว่าอคว้นเขตคาม
โคลงสอง
๗๓. งามเลิศคือไอ่แก้ว
งามแม่งามลิศแล้ว     ลุ่มฟ้าชวนชม แม่เอย
๗๔. ผมนางดำขลับคล้าย
ปีกภุมรินย้าย      เคลื่อยซ้ายสลับบิน
๗๕. ผินพักตร์นวลเจิดจ้า
งามดุจจันทร์ส่องฟ้า    สาดพื้นโลมดิน
โคลงสาม
๗๖.  นิลเนตรดังเนตรทรายพะแพรวพรายแจ่มแจ้ว
ใสดั่งใสลูกแก้วเนตรน้อยยียวน แม่นา
๗๗.  ยงลขนงโก่งงามยามเพ่งดังโก่งก้าน
คันศรงามทุกด้านแช่มช้อยนวลขนง
๗๘. ตรงศององามนุช ดูดุจหงส์แช่มช่อย
อวดอ่อนอรเรียบร้อยเทพสร้างเสกมา
๗๙. โสตามาลาแซมสายหยุดแกมกลิ่นฟุ้ง
จำปีหอมคละคลุ้งเสียบไว้แซมผม
๘๐.  ชมปรางคำไอ่น้องผ่องชมพูยั่วแย้ม
ชวนชื่นชมสองแก้มยิ่งยิ้มใจสลาย
๘๑. อิ่มโอฐสายสวาดิ์นุชนาถอวบอิ่มพริ้ม
งามช่างงามจิ้มลิ้มชาดไล้งดงาม
ร่าย
๘๒. ฟันถี่งามสะอาด  ขาวพิลางเพียงสังข์  ตั้งตรงคอกลมกลึง  พึงพิศชมสองไหล่ คอสวมใส่ชุดประดับ 
 งามระยับเพชรพลอย  นวลไอ่น้อนน่ารัก พิมพ์สะพักชวนชื่นร่างกลมกลืนสมส่วน   แพรพรรณชวนชื่นพิศ
  ลายพิจิตรพิไล ซิ่นหมี่ไหมลายพร้อย สมไอ่น้อยนางงาม ยามแม่เดินย่างย้าย  สองเนตรคมชะม้าย  
โลกเพี้ยงล่มสลาย แม่เอย
โคลงสี่สุภาพ
๘๓. กลับกลายเป็นข่าวให้เลื่องลือ
งามล่มเมืองระบือไอ่แก้ว
ปากต่อปากกระพือทีปทั่ว
เขตข่อเขตเลื่องแล้วไอ่น้อยงดงาม
๘๔. ยามสาวงามเลิศล้ำโฉมสอาง
วันพระนวลไอ่นางจากคุ้ม
ชมสวนบ่อยเดินทางผองเพื่อน
หกเจ็ดนางคอยตุ้มแวดล้อมบังอร
๘๕. ยามจรสองฝั่งใกล้ริมทาง
หนุ่มแก่แอบดูพลางแซ่ซร้อง
งามนักไอ่คำนางงามแม่
งามเยี่ยงอัปสรจ้องจากฝ้าลงดิน
๘๖.หนุ่มแก่ชวนชื่นหน้าชื่นชม
รักใคร่นวลไอ่สมลูกเจ้า
งามตายิ่งงามคมงามเสน่ห์
งามแม่งามยิ่งเย้ายั่วเย้าเสน่ห์นวล
๘๗. ต่างเขตชวนเที่ยวบ้านพญาขอม
ช่มป่าชมเมืองดอมเผื้อไว้
สาวงามยิ่งยินยอมผูกมิตร แลนา
ดียิ่งอาจคู่ได้คู่ไว้สัมพันธ์
๘๘. โชคดีอาจพบน้องไอ่คำ
ยามแม่เดินเที่ยวนำพี่น้อง
ชมสวนงามจดจำใจสั่น เจียวนา
โฉมแม่งามล้วนต้องสุดต้องเต็งใจ
๘๙.  ชุมชนขวักไขว่ล้วนหนุ่มจร
ไกลถิ่นยินข่าวอรไอ่น้อย
งามเหลือพบบังอรสักครู่
บุญยิ่งพบแหวนสร้อยค่าล้ำอเนกอนันต์
ร่าย
๙๐.  เมืองผาโพงข่ากระพือ  ลือกันทั่วพญาขอม   งามพร้อมนาถธิดาเดียว  นิลเนตรเขียวมรกต  งดงามเยี่ยง
นางฟ้าสง่าเยี่ยงสาวสวรรค์  ชวนใฝฝันพบหน้า  ชวนให้กล้าเดินใกล้  ชวนใคร่ร้องทักทาย  ชวนให้หมายสนิท
 ชวนให้ชิดเคียงใกล้   บ้างก็ใส่ความแผก  แตกต่างกันออกไป  นางไอ่ผิวสีทอง  สองแก้มนวชมพู สองใบหู
กลมเรียว  สีเขียวใสนิลเนตร งามเกศเกล้าดำขลับ  หลายฉบับบรรยาย ยินถึงนายผาแดง จึงแต่งคนไปหา
เอาตัวมาสอบถาม เรื่องนางงามเป็นไฉน ฟังมากจนคลั่งไคล้  ชอบนางไอ่สำคัญ มิทันจะเห็นตน ดังถูกมนต์
มัวเมา เหงายามมิมีข่าว  ยินเรื่องสาวก็สว่าง  ช่างแปลกใจยิ่งนัก กูจักใคร่ได้เห็น นางจักเป็นไฉน  นานวันยิ่ง
คลั่งไคล้ ตกลงเดินทางไซร้   อยากได้เห็นนาง
โคลงสอง
๙๑. พลางชวนพวกพี่น้อง
มาเถิดเป็นเพื่อนพ้องใคร่ได้อุ่นทรวง พี่เอย
๙๒. ดวงดีนักพี่เลี้ยง
หนุ่มแน่นฟังชวนเพี้ยงพรั่งพร้อมมากัน
๙๓.ฉกรรจ์นักเหนุ่มเหน้า
ฟังว่าจักเดินเข้าป่าไม้ไพรพง แลฤๅ
๙๔. จงใจชอบตอบถ้อย
ผองเรามิใช่น้อยจักต้อยติดตาม พ่อเอย
๙๕. ยามสุขมีสุขพร้อม
ยามทุกข์เราห้อมล้อมบ่ได้ทิ้งกัน แลนา
๙๖. สรรมาผองหนุ่มเหน้า
เป็นหกคนแล้วเจ้าเท่านี้เพียงพอ
ร่าย
๙๗. ขอใจใจก็พรัก  ขอฮักฮักให้มา  พระพี่ยาของน้อง  ผาแดงต้องขอบคุณ บุญอ้ายที่เป็นห่วง
ยามจักล่วงเดินดง ยามเข้าพงเขาเขิน  เดินมีเพื่อนอุ่นอก  ถึงพงรกมิกลัว  ตัวข้อขอขอบคุณ 
บุญหลากเหลือล้นเกล้า  รับนำเข้าใส่หัว  มิเกรงกลัวภัยแล้ว  คุณพระช่วยคลาดแคล้ว ห่างสิ้นโภยภัย แลนา 
โคลงสาม
๙๘. ออกไปกันแต่งเช้ามุ่งป่าเขาไพรกว้าง
หดหู่ใจอ้างว้างห่วงบ้านเรือนตน แลนา
๙๙. ครบคนออกเดินจรสูดงดอนมิช้า
สายแดดจักแรงกล้าเร่งร้อนรีบไป
๑๐๑. ไวหน่อยหนาพี่ท่านผ่านจากเขาลูกนี้
รกป่ามากกว่านี้อยากให้ชมไพร
๑๐๒.  ใช่หญ้าแต่เรียกเพ็ก  ไผ่พันธุ์เล็กใบหนา  แตกกอมาเป็นดง  สัตว์ป่าคงชื่นชอบ  ใบกรอบอ่อนรสหวาน
เก้งกวางฟานชอบเล็ม   กินอิ่มเต็มแน่นท้อง  ช้างยังจ้องมาเล็ม เต็มอิ่มแล้วจากไป โน่นป่าไผ่หน้าฝน งดงาม
จนใบดก ปกคลุมมืดพงหนา งามประดูเต็งรัง  งามกระสังหนามดก หมากตีนครกเหลืองอร่าม  ลูกมันงาม
น่ากิน ถวิลหามานาน รสหอมหวานจับจิต ชิมติดอกติดใจ ผ่านดงใหญ่มืดครึ้ม  มิลืมเลือกลัดเลาะ เสาะทาง
ไปให้ผ่าน หลายด่านหุบเขาเขิน เดินกันแสนเมื่อยล้า  วันเวลาเชื่องช้า  เหนื่อยเส้นหมดแรง
โคลงสี่สุภาพ
๑๐๓. แข็งขันเดินไม่ยั้งกึ่งเดือน
พักอยู่ยอดดอยเหมือนทุ่งข้าว
แลไกลแค่เล็งเลือนมีป่า
กอไผ่ตาลมะพร้าวใช่บ้านเมืองคน
๑๐๔. มาจนจะสู่ห้องโคมคำ  แลฤๅ
หายเหนื่อยเรากระทำเรียบร้อย
พานายดุ่มเดินนำถึงที่
เมืองแห่งนางหนูน้อยแม่แก้วไอ่คำ
๑๐๕. นำมาถึงถิ่นแล้วผาแดง
มาหยุดพักเอาแรงก่อนน้อง
ริมธารหลากสีแสงบานเบ่ง แลนา
บุปผชาติจดจ้องช่างคล้ายคนสรรค์
๑๐๖. พลันเสียงคนร่ำร้องแว่วมา
ดังหนึ่งเสียงกานดาคึกครื้น
ชมสวนต่างเฮฮาคงเล่น กันนา
มาแอบดูลึกตื้นเล่นน้ำฤๅไฉน
๑๐๗. ไปกันพวกพี่เลี้ยงเร็วพลัน
นับเนิ่นมิผายผันกลับได้
เย็นมากค่อยมากันดูแปลก
เงียบนิ่งมิบอกให้ใคร่รู้เรื่องใด
๑๐๘. อะไรกันเล่าอ้ายบอกที
ไปพบเรื่องมิดีอุบไว้
ฤๅพบเห็นภูตผีเชิญเล่า แลนา
เอาแต่นิ่งเป็นใบ้หมดแล้วทุกคน
๑๐๙. จนผ่านสักครู้ได้บอความ
ผองพี่พบสาวงามเล่นน้ำ
สุดสวยยิ่งมัวตามชมอยู่ นาพ่อ
มีอยู่คนงามล้ำนั่งร้อยมาลัย
๑๑๐. ผองพี่แอบส่งให้สัญญาณ
หลอกเหล่านวลนงคราญเลิกแล้ว
ชวนนางที่ยวสวนสานมิตรก่อ 
ใจก่อใจผ่องแผ้วชอบล้วนใจดี
๑๑๑. พี่สาวพาน้องนุชเที่ยวเพลิน
เหน็ดเหนือยหยุดพักเดินสระแก้ว
แลธารฉ่ำเย็นเกินเย็นยั่ว ใจนา
ลงเล่นธารกันแล้วร่ำรองเพลงเพลิน 
๑๑๒. ผูกมิตรมิตรก่อเกื้อผองเรา
ครบคู่ครบนงเยาว์พี่น้อง
อีกหนึ่งโฉมเฉลางามยิ่ง
งามเยี่ยงอัปสรจ้องสั่นสะท้านยำเกรง
๑๑๓. พี่เลี้ยงเองบอกเล่า  พบนงเยาว์ห้านวล  งามยียวนบังอร ดังอัปสรจากสวรรค์ งามแจ่มจันทร์ทุกผู้
ตะลึงดูลุ่มหลง จึงตรงไปทักทาย เธอทั้งหลายใจดี ผองพี่ฝากน้ำจิต พวกเธอคิดเมตตา ชวนพาทีไต่ถาม
ยามแยกพบต่อสอง แจ้งความต้องประสงค์ นวลอนงค์รับไว้  ชะรอยได้สายแนน เกาะแขนพบจับคู่
ดูราบรื่นชื่นจิต จนสนิทสนม ได้เฝ้าชมน้องน้อย ถ้อยปราศัยตาถาม น้องนามงามไอ่แก้ว  งามเลิศแล้วเกินใคร
จักเทียบได้ในหล้า  เป็นธิดาพ่อเมือง เลื่อชื่อพญาขอม งามพร้อมนักจรรยา  งามทีท่าอีสตรี ดูสมศรีสมง่า
ดังนางฟ้าเธอจร จากอมรเมืองฟ้า  มาอวดโฉมในหล้า  แปลกแท้ผาแดง พ่อเอย
โคลงสี่สุภาพ
๑๑๔. แจกแจงผองพี่เลี้ยงรายงาน
ดูนี่มวลหลักฐานคู่อ้าย
ผองนางที่สำราญเทียวท่อง
ชมสวนอยู่พาย้ายย่างเข้ามาเยือน พ่อเอย
๑๑๕. เหมือนอสนิบาตต้องมึนมัว
มิคาดงามนักกลัวหลอกข้า
ขอจับมือมีตัวตนอยู่ นาพี่
เขาดุกับว่าบ้าค่อยรู้สึกตัว
๑๑๖.มัวแต่แตกตื่นข้าขออภัย
งามยิ่งงามเหลือใจแปลกแล้ว
เมืองบนอยู่แสนใกลแสนห่าง นาแม่
มีเหล่าอัปสรแก้วจากฟ้าลอยลง
๑๑๗. คงมึนเมาน่าท้าวผาแดง
เธอนี่ใช่จำแลงจากฟ้า
พวกเธอพี่สาวแฝงสวนอยู่
ปล่อยอีกคนน้องหล้านั่นแล้วนางสวรรค์
๑๑๘. สาวงามยามยั่วยิ้มพิมพ์ใจ
เธอว่าพวกเราใช่ยอดสร้อย
กัญญาเยี่ยมสดใสนางโน่น
นางนั่งสอดงานร้อยอวดสร้างมาลัย
๑๑๙. เออนี่อยากพบพ้องนวลนาง
จริงแน่อย่าแคลงคลางบอกให้
แอบไปหลบทุกทางแอบก่อน
พวกพี่จะจัดได้พวกเจ้าพบกัน
๑๒๐. ขันนักพวกพี่เลี้ยงคุยโต
บอกอ่อนงามพาโลเลิศล้ำ
อยากเห็นสมคำโวฤๅนั่น
จึงลอบแอบไปก้ำที่น้อยพักกาย
๑๒๑. สายใจเจ้านั้งร้อยมาลา
มองแค่หลังงามตานักเจ้า
ผินพักตร์หน่อยเถิดนาหนอแม่
มิยอมผินนานเข้ารุ่มร้อนรึงใจ
๑๒๒. ศาลาริมท่าน้ำคงดี
แอบพุ่มผักตบหนีหลบหน้า
ลอยคอแอบดูทีมิห่าง
อยากจักเห็นน้องหล้าเมื่อใกล้ชัดดี
โคลงสามสุภาพ
๑๒๓. ผองพี่เลี้ยงจัดการสานพ่มผักตบให้
เจาช่องตรงกลาวไว้  แอบซ่อนแอบมอง
๑๒๔. ลองลงน้ำซ่อนดูอยากจักรู้แบบนี้
ยามแอบหลบหลีกลี้ซ่อนได้แน่นอน
๑๒๕. ลงทางเหนื่อสายน้ำผุดดำลอยล่องช้า
จดจ่อนางไม่ช้าอยู่ใกล้ศาลา แม่เอย
๑๒๖. งามตานักนวลนางช่างงามนักแม่เจ้า
งามแม่งามยวนเย้าฮักล้นเหลือใจ แม่เอย
๑๒๗. นบนานนัยจดจ้องมัวมองนางเนิ่นช้า
เหน็บหนาวแทบเป็นบ้าเจ็บแท้เหน็บกิน
๑๒๘. ยินเสียงผองพี่เลียงมายืนเคียงน้องน้อย
ชวนนางจงเคลื่อนคล้อยท่าโน้นจึงดี
๑๒๙. พี่เลี้ยงห้านวลนาง  ต่างมีคู่เกี่ยวแขน  แสนน่าชมน่าชื่น  ดูระรื่นพึงใจ ได้พบเพื่อนพันผูก
ปลูกรักสนิทสนม ได้มิตรชมเพื่อนชาย ต่างสมหมายความรัก ต่างสมัตรสมานสม  สองภิรมสราญ
ต่างเบิกบานดวงจิต  ชื่นสนิทดวงใจ  มากรักในน้ำคำ  มากสิ่งพร่อพรอดบอก มากหยิกหยอก
ยั่วเย้า มากที่เคล้าคลอเคียง มากเสียงอ้อนออเซาะ  มากเสนาะเสียงเพลง  มิยำเกรงอายกัน  
สายสัมพันธ์เจริญ  เกินจะหยุดยับยั้ง  สองฝั่งฝากไมตรี  สองต่างมีความรัก  สองต่างปักใจมั่น
สองไฝ่ฝั้นน้ำจิต  มากน้ำมิตรไมตรี  ต่างมีใจสมัคร  จะขอรักผูกพัน  ปลงใจมั่นแน่วแน่ เป็นรักแท้จากจิต
ขอเชยชิตเป็นคู่ ขอเคียงอยู่เป็นสอง  ขอครองคู่ชั่วนาน  ตลอดกาลชีวัง  ห้าคู่ดังกล่าวอ้าง ต่างชวนกัน
มาเฝ้า ท่านเจ้าฟ้าผาแดง  แจ้งประสงค์ได้โปรด โผดผายให้พวกเฮา  มีคู่เคล้าเคียงคอง  รับรองมี
ใจภักดิ์  รักกันแท้จากจิต  หวังเชยชิดเคียงครอง เป็นคู่สองตลอดไป ท้าวจึงดีปรารภ ครบห้าคู่พอดี
มีเรื่องเป็นมงคล อย่ากังวลเข้าใจ ขอให้ได้ครองคู่  อยู่เป็นามีภรรยา  อย่าลืมพากับบ้าน ไปพบพาน
พ่อแม่ ขอแต่ท่านลุโทษ โปรดให้สองรักกัน ผูกสัมพันธ์สนิท อยู่ใกล้นชิดคู่ซ้อน  จงอยู่เย็นอย่าร้อน
ช่วยสร้างสัมพันธุ์ โสดเทอญฯ
โคลงสี่สุภาพ
130.  ผาแดงฝันใฝ่น้องไอ่คำ
จนอยู่ยากจึงจ่ำจากห้อง
รอยบุญก่อเกิดกรรมปางก่อน
จึงจ่องจูงจนต้องจากบ้านเมืองมา
131.  รักเอยเพียงข่าวรู้นางงาม
จนพี่ออกติดตามแต่บ้าน
ละเมืองบ่คิดยามรักรุ่ม รนแฮ
หวังแต่พบนางต้านอยากต้านต่อคำ
132. จำทนทุกข์ยากแท้ เดินทาง
ฟันฝ่าบุกบึงบางหล่มห้วย
เขาเขินป่ายปีนพลางมิย่อ 
นับเนิ่นพรหมโปรดด้วยล่วงเข้าถึงเมือง
133. อย่าเคืองคำพี่อ้ายรำพัน แม่เอย
ทุกอย่างจากใจสรรพ์ทุกถ้อย
รักนางอยากแนบฉันอกพี่
อกนุชบอกรักน้อยนิ่มเนื้อยาใจ
134 ยินเสียงอกว่าเจ้ารักเรียม
ใยท่าทางจะเขียมเล่าน้อง
รักจริงเอ่ยมาเตรียมฟังอยู่
จริงบ่จริงฮักต้องบอกให้ยินคำ 
135 กรรมสิใครจักกล้าบอกใคร
หญิงน่าอายถึงใจรักล้น
มิควรกล่าวออกไปอายนี่
มิกล่าวดีกว่าพ้นจักต้องอับอาย
136 เออใช่เรียมย่อมรู้ไอ่คำ
น่างยิ่งคนงามจำเรียบร้อย
รักมากบ่อยากทำเก็บอยู่
จริงใช่ไหมน้องน้อยรักล้นแต่อาย
137.  พี่ทายถูกต้องพี่ผาแดง
ถึงไอ่จักฮักแพงอดไว้
มิพูดมิอาจแฝงทำอวด 
ขอนิ่งดีกว่าได้อยากได้เป็นทอง
138 ครรลองพ่อแม่ได้บอกสอน
พูดมากเสียไพตอนกล่าวอ้าง
ตำลังรับนิ่งนอนดีกว่า
ขอไม่พูดดูบ้างอยากได้ก้อนคำ
๑๓๙. ผาแดงจำสื่อรัก   ปักใจยามพบนาง ช่างน่ารักน่าหลง  จงจักป่วงเจียนบ้า หากชักช้าเย็นใจ  ท้าวจึง
ได้ประชิด รับขวัญจิตบอกรัก อ้ายมักน้องไอ่คำ  ยินเขาร่ำลือนาน  เจ้างามปานนางฟ้า ยามข้าได้มาพบ
สบตัวเจ้างามล้ำ งามยิ่งคำเขาอ้าง  งามกว่าข้างสาวสรรค์  อ้ายใฝ่ฝันถึงเจ้า ทุกค่ำเช้าเจ็บอก ตกหลุ่มรัก
ไอ่น้อง  ดังพี่ต้องมนต์สวรรค์  เทพช่างสรรอุ้มสม  สองภิรมย์สมรัก  พักพิงเพียงค่อนคืน  พอตื่นกลับมิเห็น
เนื้อเย็นเจ้าอยู่ไหน พี่โหยไห้ร่ำหา เจียนจักบ้ามึนมัว  จนปวดหัวเป็นไข้ หาน้องไอ่มิเห็น รอตอนเย็นค่อยพบ
สบเนตรน้องยินดี เป็นเช่นนี้หลายวัน จะว่าฝันมิใช่ จะว่าไข้มิเป็น  หรือว่าเล่นไม่จริง น้องหญิงลวงหลอกอ้าย
ใจพี่หายมากเจ้า  ขาดแม่แสนโศกเศร้า   ปวดร้าวนักแล แม่เอย
๑๔๐. แน่นักนะพี่เจ้าผาแดง
หลอกไอ่หมดตัวแรงยิ่งน้อย
คุมเหงช่างกำแหงนักนี่
มาข่มใจด้วยถ้อยหลอกข้าดีใจ
๑๔๑. หมดตัวไปสิ้นอย่าเยาะกัน พี่เอย
ถึงไอ่เป็นเมียวันหนึ่งนี้
เป็นไปชั่วชีวันมีเปลี่ยน ใจแล
ขอโปรดรักอย่าลี้หลบให้ปวดใจ
๑๔๓. ไหนมาจักปลอบเจ้าขวัญเรียม
รักแม่หาใดเทียมไอ่น้อย
มามะแม่อย่าเหนียมแอบอุ่น อกเอย
อบแอบอกยอดสร้อยไอ่น้องสุขเกษม
๑๔๔. เปรมปรีดิ์ซิพี่เจ้าตามใจ
มากัดมาขบไหนอย่าดิ้น
รักจริงอย่าหลบไวกัดหน่อย
อยากกัดกินหมดสิ้นพ่อเจ้าปากหวาน
๑๔๕. ตามใจมิขัดข้องขุ่นเคือง
ปากพี่หวานประเทืองจิตได้
ดูเลยแม่จักเฮืองใจแน่
มาพี่ดูดดื่มให้ข่วยให้อิ่มเอม
๑๔๖. เปรมใจมากซิอ้ายเบาเบา
รัดแน่นอึดอัดเขาเจ็บแล้ว
จะจ๋าแม่นงเยาว์ขอโทษ
มิอยากคลายน้องแก้วกอดเจ้าอุ่นใจ
๑๔๗. นี่แน่ะใจอุ่นอ้างหลอกกัน
หากอุ่นปล่อยวางฉันห่างไว้
วางยากโรคความดันกำเริบ นาแม่
ดันทุรังอยากได้ไอ่น้อยเคียงกาย
ร่ายสุภาพ
๑๔๘. เพลียใจนักผัวดื้อ  ถืออารมณ์เป็นใหญ่  ไอ่บอกอย่ากอดรัด พี่กลับฟัดแทบแหลก  อกแทบแตก
รัดรึง  ขอบดูดดึงเจ็บอก  ตกจากฟูกไม่วาง  กอดฟัดอย่างกับบ้า  ด่าก็ไม่ยินฟัง  ชั่งเอาแต่ใจตน คน
เขาเบื่อแล้วนะ จะมิให้หอมอีก หลีกไปอยู่ห่าง ๆ แน่ะช่างบ้ามาเชื่อ  เบื่อไอ่น้อยจริงหรือ ทำไขสือมิสน
เล่นเอาคนใจหาย  นึกว่าหน่ายไอแล้ว  โหพ่อยอดดวงแก้ว   ไอ่ล้อเล่นนา พ่อนา
โคลงสามสุภาพ
๑๔๙.  คราสองครองรักกันสองพันผูกลึกล้ำ
แนบแน่นทั้งสองก้ำต่างเคล้าเคลียคลอ
๑๕๐. พอดีล่วงเลยกาลนานกว่าเดือนยิ่งแล้ว
นางไอ่คำไม่แคล้วกล่าวถ้อยคำควร พี่เอย
๑๕๑. ขอชวนวอนพี่ชายยามเมื่อกลายเจ้า
ครองคู่นางแค่เค้าหมดสิ้นหมดตัว แลนา
๑๕๒. เรียกผัวคงจักได้นางมอบให้หมดสิ้น
วอนพี่อย่างพลิกลิ้นช่วยให้จัดการ
๑๕๓. วานพี่ไปในเมืองกล่าวเรื่องเราชื่นชู่
พ่อแม่ควรจักรู้พี่อ้ายว่าไร
๑๕๔. ไอ่คำว่าควรนักพี่รักมากนักน้อง
คำที่นวลเรียกร้องย่อมได้ยินดี
๑๕๕. พี่คงกลับคืนเมืองบอกเรื่องปู่ย่าไซร้
เป็นเฒ่าแกขอให้อย่างนี้จึ่งควร เจ้าเอย
๑๕๖. นวลนางกอดผาแดงฮักแพงนักพี่อ้าย
ยากจักห่างกันคล้ายจักสิ้นขาดใจ พี่เอย
๑๕๗. ไอ่คำอย่าตระหนกพี่ยกให้นวลน้อง
เป็นเมียที่ถูกต้องจัดให้ดีงาม
๑๕๘. ยามพี่ไกลห่างเมียเสียใจหนักนาถน้อง
หวังจัดการถูกต้องมิท้ออดทน เจ้าเอย
๑๕๙. จนใจยามพี่ห่างนางอย่าหมองหม่นเศร้า
รักษานวลน้องเจ้าพี่นี้สุดถนอม
ร่ายสุภาพ
๑๖๐.  จอมขวัญเอ๋ยเมียรัก   อ้ายฮักเจ้าเพียงใจ อ้ายฮักไอ่เพียงตา  ยามจักลาสั่งน้อย คอยพี่อยู่ข้างหลัง
ระวังกายแลใจ  อย่ายอมใครเกาะแกะ   อย่าให้แตะผิวนวล  ผู้บ่าวชวนอย่าเหลียว ใครมาเกี้ยวอย่าสน
อ้ายกังวลหวงแหน  แพงเหลือแสนสองแก้ม  ใครอย่าแต้มเกาะแกะ  ชายอย่าแปะแอบลูบ ใครอย่าจูบ
ของพี่ ยามอ้ายหนีห่างไกล  แพงหัวใจเนื้อนวล  หนุ่มใดชวนอย่าหลง ใจมั่นคงเถิดน้อง ฝากใจเจ้าปกป้อง
ไอ่น้อยจอมขวัญ พี่เอย
๑๖๑. หลายวันฟันฟฝ่าพงบุกป่าดงมากหมู่ไม้
ขุนเขามากยิ่งไซร้สัตว์ร้ายนานา
๑๖๒. มาเห็นแดนนาคราชประหลาดงูชุมล้น
งูสิงงูเห่าพ้นแอบเร้นซอกหิน
๑๖๓. ยินเสียงแปลกจงอางมองอีทางสามเหลี่ยมปล้อง
สิงดงมันจดจ้องอยู่โน้นงูหลาม
๑๖๔. ยามเห็นนั่นงูเขียวเกี่ยวพันกิ่งแมกไม้
สามเหลี่ยมหลบแล้วไซร้อย่างนี้งูหลาม
๑๖๕. งามเหลือมแลลวดลายงูสายทองปี่แก้ว
ทางมะพร้าวลายแพร้วอวบอ้วนงูปลา
๑๖๖. แลหางูห่างไว้ออกไปมิอยากใกล้
ฟาดพุ่มทำเสียงไว้อยากให้งูไกล
๑๖๗. ผ่านไปเป็นแนวป่าหนาแน่นมะค่าแต้
มะหาดหันที่แท้เบียดขึ้นเป็นดง
๑๖๘. ตรงหน้ายูงยางดูเคียงคู่ตะบากกั้น
บังเบียดกระถินสั้นสักใกล้มะสัง
๑๖๙. คนทาบังไผ่รวกพวกยาวงามไผ่ปล้อง
ไผ่หกไผ่หอมจ้องอยากใกล้กลิ่นหอม
๑๗๐ ซอมดูไผ่ไร่บ้างพุ่มงาม
ฝนตกแตกหน่อยามพบเข้า
ขอขุดแบ่งเอาถามขอไผ่
เอาแค่พอกินเจ้าอย่าได้ขุ่นเคือง
๑๗๑. ฟูเฟื่องคุณหน่อเจ้าไผ่มี
ขุดหน่อดินงามสีสะอาดแท้
ยามสุกแน่นหม้อดีรสอร่อย
หวานนิดมันยิ่งแล้ไผ่ต้มแซบหลาย
๑๗๒. หน่อยาวเผาสุกได้สีเหลือง
อัดหน่อปี๊บมิเปลืองเก็บได้
ขูดขีดเขียนมิเคืองวางแดด ผึ่งนา
เก็บเผื่อยามแล้งได้เก็บไว้ทำแกง
๑๗๓. เขาแปลงเป็นหน่อไม้แบบดอง
เก็บอยู่หลายเดือนลองรสลิ้ม
เปรี้ยวมากเร่งจับจองขายถูก
แกงไก่เชิญลองลิ้มเลิศล้นรสแกง
๑๗๓. แฝงค่าประโยชน์ล้นไผ่พันธุ์
ควรจักสงวนช่วยกันปลูกไว้
ทดแทนที่ชอบฟันถางออก มากแฮ
เขาโล่งหลายลูกไซร้ไผ่ล้วนถูกถาง
๑๗๔. ปางพญาขอมเจ้า  นงเยาว์ไอ่เติบกล้า  นวลหน้าน้องงดงาม คนลือตามทั่วเขต
ทั่วประเทศแดนใกล้  ลือไปถึงต่างแดน นางไอ่แสนงดงาม ยามนี้พระพ่อเจ้า อยาก
จัดลูกแต่งเหย้า   จัดให้สมควรแลนา
๑๗๕.  พญาขอมประกาศ  ถึงญาติมิตรประชากร  ตอนนี้เป็นเดือนหก ตกถึงคราวจักบูชา
พญาแถนตนอาจ   ประกาศบุญบั้งไฟ   ใครทำเก่งเร่งจัดมา  จักมีท้าประลอง ของใครขึ้น
ชนะเลิศ ประเสริฐยิ่งรางวัล ของกำนัลมากมาย ยอดโฉมฉายนางไอ่ ยกให้ได้ตบแต่ง
แปลงเป็นมเหสี  รางวัลดีเลิศล้ำ  เชิญทัวแดนทุกก้ำ  แข่งท้าประลอง กันแล
๑๗๖.  ผองชนยินข่าวแล้ว ชื่นชม
คุณท่านคิดเหมาะสมนักแล้ว
ไอ่คำงดงามคมนวลเนตร
ควรแก่คนยอดแก้วเก่งกล้าเกินใคร
๑๗๗. แผ่ไปสารสื่อแจ้งชุมชน
คามเขตเมืองสกลทั่วหล้า
ปากต่อปากคำคนไปทั่ว
บางกลุ่มชนหาญกล้าจักเข้าแข่งขัน
๑๗๘. หลายเมืองพลันจัดสร้างเร็วพลัน
หนักหมื่นนี่สำคัญไม่น้อย
เลือกหาช่างทำกันยากยุ่ง
ทำหมื่นดินดำด้อยบ่ได้มิแรง
๑๗๙. แยงหากระบอกไม้ไผ่ตง
หกศอกวัดมั่งคงลุข้อ
ลนไฟชะเนาะคงสามรอบ
ขั่นแน่นตีเถียดข้อสุดท้ายสลักแทง
๑๘๐. แปลงดินดำขับให้สมควร
เป็นช่างทราบกระบวนรอบด้าน
หกสามหนึ่งมวลน้ำหนัก
หกนั่นขี้เจียบ้านเรียกขี้ประสิว
๑๘๑. สามแบบดำถ่านไม้ฉำฉา
สองอย่างเคี่ยวก่อนคราหนึ่งนั้น
ดินจะเปื่อยน้ำมานองเจิ่ง
เติมถ่านลงดูดนั้นเหือดแห้งจึงดี
๑๘๒. ผึ่งทีพอหมาดแห้งบดกัน
ครกบดละเอียดพลันเรียบร้อย
เขาเรียกหมื่อสำคัญอัดหลอด
กระบอกหนึ่งใช่น้อยหมื่นน้ำหนักมวล
๑๘๓. ชวนกันทำสากไม้ช่วยตำ
ยัดหมื่อกระบอกทำยืดเยื้อ
หลายวันแน่นเต็มกรรมตีเถียด
ปากและก้นทะลุเชื้อสอดใส้ชะนวน
๑๘๓. ควรช่างออกแบบใส้ทะลวง
แทงช่องสอดรูกลวงแต่งไว้
เสร็จสรรพมัดลูกพวงติดรอบ
ติดแน่นหางด้วยไม้ไผ่ล้วนหางยาว
๑๘๔. คราวนี้ตาช่างเอ้บั้งไฟ
เช่นแต่งสุดไฉไลหยดย้อย
แพรวพราวยิ่งไฉนยามแห่
จักอวดกันของข้อยเลิศล้นหลากงาม
รายสุภาพ
๑๘๕  ยามเที่ยวบุญบั้งไฟ  ไปเมืองท่านพญาขอม  คนยอมเดินทางยาก ลำบากสองสามวัน
มาถึงทันงานสนุก ทุกบ้านเขาเตรียมการ เลี้ยงอาหารผู้คน มิสนใจต่างถิ่น จัดให้กินอิ่มหนำ
เสร็จแล้วนำไปงาน เชินเบิกบานเต็มที่  เหล้ายามีดาดดื่น  ผู้คนตื่นเบิกบาน สุขสราญสมใจ
แบกบั้งไฟเที่ยงเซิ้ง  เถิงบ้านนี้ขอข้าว  ถึงบ้านสาวขอเกี้ยว  เที่ยวสนุกสนาน เขาแจกทาน
ทั่วถึง งานจึงได้สนุก  ทุกผู้คนเบิกบาน  สามวันงานถึงจุด  ที่สุดชมบั้งไฟ จักขึ้นไปสมปอง
พี่น้องมากันพร้อม  กราบไหว้เทพท่านพร้อม  ช่วยให้สู่สวรรค์ เถิดนา
รายสุภาพ
๑๘๖. สรรมามากมายนัก  มักเป็นบั้งไฟน้อย  ขึ้นหายจ้อยมองมิเห็น  บ่ายจึงเป็นบั้งไฟหมื่น
แตกตื่นมีเจ็ดเมือง  มีเรื่องประกาศไป ใครชนะมีรางวัล ที่จัดสรรเงินทอง แถมอีกน้องนางไอ่
ใครชนะอภิเษก เป็นเอกอัครมเหสี  ต่างยินดีทั่วหล้า  ต่างหลั่งมาใคร่เห็น ใครจักเป็นเขยเจ้า
หลั่งไหลกันมาเฝ้า   แต่เช้าจนเย็น แลนา
โคลงสามสุภาพ
๑๘๗.เห็นบั้งไฟฟ้าแดดแผดเสียงดังกึกก้อง
ดังเยี่ยงเสียงฟ้าร้องลับฟ้าหายไป
๑๘๘.ถัดมาใช่ท่านท้าวสงยางยาวไม่น้อย
จุดปล่อยไปเรียบร้อยสู่ฟ้าเพียงดาว  แลนา
๑๘๙. คราวของท่านพญาขอมฝักแคออมแต่งไว้
ยาวยิ่งแปลกนักได้ตื่นเต้นฮือฮา
๑๙๐. ฟังว่าจักจำเรียงแหละยินเสียงดั่งช้าง
สามครบรอบที่อ้างร่ำร้องเสียงพลาย
๑๙๑. หลายเสียงกะโพกช้างอีกข้างพลุดังใกล้
แตกตื่นกันยิ่งไซร้ตื่นเต้นพอใจ
๑๙๒. ตะไลสี่กระบอกหมุนออกขับสู้ฟ้า
ควันส่งเกลียวส่องหน้าใคร่รู้ถึงไหน
๑๙๓. ไฟชะนวนถึงฐานผ่านจุดโหวดไฟบั้ง
ทะยานขึ้นบ่รั้งโหวดพริ้วส่งเสียง
๑๙๔. เพียงครูจินายตื้อบรือส่งเสียงร้อง
สายตาคนจดจ้องบักตื้อมันหมุน
๑๙๕. ฝักแคดุนชะนวนควันป่วนสีขาวคลุ้ง
เปลวไฟดังสีรุ้งจุดบั้งไฟแสน
รายสุภาพ
๑๙๖. แถนแตกตื่นตกใจ  ชมบั้งไฟพญาขอม  จินายก้อมปรู๊ดปร๊าด  สวยงามขาดตะไล
หมุ่นขึ้นไปเมืองฟ้า  ควันเกลียวน่าชื่นชม  แบกโยนตมน่ายช่าง   อ้างเพราะบั้งไฟซุ 
ดุงจริงพวกนักเซิ้ง  เล่นรื่นเริงมิถือ  ฝึกฝีมือมาใหม่ ปีหน้าให้มันขึ้น อย่าได้มึนเมาค้าง
จ้างก็มิยอมไป เป็นบั่งไฟมันซุ  เสียงกุรุกะระ  ประเดียวก็ระเบิด  เกิดมันขายขี้หน้า  
บั้งไฟพญาขอม เมืองที่พร้อมชนะ  ก็จะมีศรีแก้ว อีกหนึ่งแล้วเซียงเหียน เมืองที่เพียรฟ้าแดด
เมืองคู่แฝดสงยาง ต่างก็พึงพอใจ  ถามเจ้าใหญ่พญาขอม จะยอกยกนางไอ่ แต่งกับใคร
หนอเจ้า โกรธดั่งผีมันเข้า  แบบนี้บ่เอา
รายสุภาพ
๑๙๗.  เล่ามากระฮอกน้อย  คอยติดตามขบวน  จ้อรถนวลน่างไอ่  กระโดดไปต้นขาม  ไต่ตามกิ่งฉำฉา
โดดมาต้นมะยม  จ้องชมงามไอ่คำ  ทำเสียงร้องกริ๊กกริ๊ก  ไอ่น้อยพลิกผินหน้า ตาสบกระฮอกด่อน
อ่อนเจ้ารักหลงไหล  อยากจะได้มาชม บุญเคยสมปางก่อน  อ่อนเจ้าเป็นภรรยา  สามีเป็นหนุ่มหล่อ
นางก่อพลอยหลงไหล  มีใจต่อเจ้าชาย เสียดายมันเย่อหยิ่ง มิมองหญิงใดใด  เขาจับให้แต่งงาน
นางคราญลูกเศรษฐี  มันมิมีน้ำใจ  มิได้รักแหนหวง  ล่วงคืนวันเปล่าดาย สุดท้ายถึงวันพราก จาก
กันเพราะวางวาย  โฉมฉายพยาบาท คาดโทษวันข้าวหน้า  ข้ากับมันอย่าได้คบ  สบเป็นผัวเมียกัน
ให้มันคอยหลงไหล  ใฝ่รักฉันฝันหา เจียนจักบ้าเลยแก แต่นั้นก็ดับขันธ์ วันนับนานเกิดมา เป็นกัลยา
ไอ่แก้วงามเลิศแล้วในปฐพี  ส่วนสามีจอมหยิ่ง ชิงเกิดเป็นภังคี  กรรมมันมีหลงไหล นางไอ่คำเจียนบ้า
บุพกรรมมิช้า  ส่งให้หลงนาง แลนา
โคลงสามสุภาพ
๑๙๘.ทางไหนเสียงกะฮอกนางไอ่บอกพี่เลี้ยง
เพราะมากมันเพราะเพี้ยงเทพไท้บันดาล
๑๙๙. นงคราญแลคบไม้ พบทันไดกะฮอกน้อย
กระโดดหายไปจ้อยแบบนี้เสียดาย
๒๐๐.ตรงปลายมาอีกนวลชวนกันมองมิช้า
กระฮอกมันด่อนจ้าแปลกแท้แม่คุณ
๒๐๑.บุญนักที่และเห็นมันเป็นกระฮอกข้อย
มามะกระฮอกน้อยอยากได้เจ้าจริง
๒๐๒. นักการหญิงไปแจ้งคำแพงนางอยากได้
กะฮอกด่อนนั่นไซร้ช่วยด้วยพ่อพราน
๒๐๓. มินานเขาสะกัดลัดทางกระฮอกเจ้า
ตามมั่นมินโดดเข้านั่นต้นใหญ่โต
๒๐๔. มะเดื่อกะฮอกชอบไต่ตามขอบกิ่งไม้
เจอลูกมันเกาะไว้กัดเคี้ยวขบพลาง
 ๒๐๕.  ทางหนึ่งมันแลนางช่างงดงามนักไอ่เจ้า
ภังคีวิ่งคอยเฝ้าไต่ต้อยตามขบวน
๒๐๖. พรานตามชวนจดจ้องจนต้องยกหน้าไม้
ยิงถูกกระฮอกได้หล่นแล้วดีใจ
รายสุภาพ
๒๐๗. ภัยถึงฆาตภังคี  คงเพราะมีกรรมเก่า  เจ้าจึงถูกยิงเจียนตาย แต่มิวายอาฆาต พยาบาท
ผู้คน ทำร้ายตนถึงตาย หมายจักกินเนื้อกู  ขอให้สูพบเห็น  เป็นเนื้อกินมิสิ้น กินทั้งบ้านบึงบาง
ต่างมีรสอร่อย  คนตั้งร้อยตั้งพัน  ได้กินกันอิ่มหนำ คำที่อธิษฐาน  จงบันดาลเป็นไป พิษฐาน
ไว้เช่นนี้  ทวยเทพจงโปรดชี้  ช่องให้เป็นไป โสดเทอญฯ
โคลงสองสุภาพ
๒๐๘. ในเอกซธีตา ร่ำลือว่าแจกเนื้อ 
พรานไพรเขาก่อเกื้อ  แจกให้ทุกคน
๒๐๙. จนใจพวกเป็นม่าย  วุ่นวายพรานบ่ให้
เสียดายเลยบ่ได้ยกเว้นกลุ่มเดียว๑๗-มี.ค.-๐๕
๒๑๐. แปลกเจียวกระฮอกด่อนตอนแรกมีเล็กน้อย
เขาแบ่งคนกว่าร้อยบ่สิ้นยังเหลือ
๒๑๑. เมื่อข่างลือออกไปใครเขายินต่างจ้อง
รีบช่วยแบ่งขอร้องอยากได้รีบมา
๒๑๒. นานาคนได้แบ่งรีบไปแต่งกับข้าว
คักคักต่างฮึกห้าวลาบเนื้อบ้างแกง
๒๑๓. แสงไฟส่องสว่างกระจ่างทั่วทุกบ้าน
เซ็งแซ่เสียงกล่าวต้านอิ่มแท้อร่อยเกิน
๒๑๔. เพลินกันจนดึกดื่นเริงรื่นกันทั่วหน้า
ค่อนคืนคงเหนื่อยล้าเงียนถ้วนทุกคาม
ร่ายสุภาพ
๒๐๙. ยามข่าวร้ายไปถึง   บึงบาดาลสุวรรณ นาคราชนั้นพิโรธ  โทษมันฆ่าภังคี
แบบนี้มันต้องถล่ม   เอาให้จมบาดาล  บ้านเมืองเอกซะธีตา  มากำแหงกับกู
มาเหวยสูลูกหลาน  กูมีงานให้ล่ม ไปจมเมืองพญาขอม  พวกมันพร้อมกินลูกกู  
สูอย่าเอามันไว้  ถล่มไล่จมให้หมด งดให้พวกไม่เกี่ยว  นาคาเที่ยวประกาศ ดาดาด
ด้วยงูใหญ่ พ่นไฟเล่นไปทั่ว เสียงน่ากลัวครั้นครื้น   คนแตกตื่นยิ่งไซร้ มหันต์ภัย
เริ่มเค้า  ถล่มบ้านจมเมือง
โคลงสี่สุภาพ
๒๑๐. เหลืองแดงเขียวสลับล้างถล่มเมือง
ขบวนนาคธงเหลืองถล่มซ้าย
ธงเขียวอ้อมขวาเคืองพิษพ่น
ทัพใหญ่ธงแดงย้ายถล้มด้านกลางเมือง
๒๑๑. เรือนชานยุบสู่ใต้บาดาล
เซ็งแซ่เสียงคนปานร่ำไห้
ครืนครืนแผ่นดินลานถล่ม
นองท่วมชลหลั่งได้ท่วมท้นชะธีตา
๒๑๒. ประชานับหมื่นได้ดับไป
ดับเนื่องเหตุเภทภัยมิร้อน
เย็นท่วมทับดับไปดินถล่ม
ไหลท่วมเมืองดั่งต้องสู่หม้อทองแดง
๒๑๓. แยงยลเหลือหมู่บ้านยังยืน
ยังอยู่พวกม่ายฝืนอยู่ได้
เขามิแจกเนื้อคืนคงสงบ
ดอนแม่ม่ายนั่นไซร้บัดนี้เรียกขาน
๒๑๔. ผาแดงกลับจากบ้าน รีบมา
ขับขี่บักสามครารีบร้อน
ครืนครืนเยี่ยงแผ่นผาถล่ม
เป็นห่วงนักไอ่อ้อนแจ่มเจ้าเป็นไฉน
๒๑๕. ทันเห็นนางไอ่น้อยส่งเสียง
ช่วยหน่อยเคาะจำเรียงนั่นฆ้อง
นางตีบอกคนเพียงเรียกช่วย
ยังช่วยเตือนพี่น้องรีบได้หลีกไป
๒๑๖. บักสามรีบกลับแล้วหมุนวน
น่างไอ่จับหางทนยึดไว้
ดินล่มไล่จวนจนตามติด
ยากจักคิดช่วยได้ไอ่น้อยหลุดไป
๒๑๗.เสียใจนักนิ่มน้องหลุดมือ
แกงอ่อมนั่นแหละคือเหตุแท้
กินกระฮอกเลยถือเป็นบาป
คอยฉุดจมยากแก้ฉุดให้หลุดลอย
ร่ายสุภาพ
๒๑๘. เห็นน้อยจมต่อหน้า   อ้ายเจียนบ้าไอ่คำ  คงเพราะกรรมจึงพราก  จากเจ้า
เจียนขาดใจ โถไอ่น้อยยอดรัก  เจ้าจักจมอยู่ไหน  นากดึงไปบาดาล   พาลนัก
นาคพวกนี้  ถือดีว่ามีฤทธิ์ จมจนมิดบ้านเมือง  ขุนเคืองคนเขาไย  ใครจักรู้ดูออก 
คนเขาบอกแจกเนื้อ  เพื่อครอบครัวรับเอา  เขาผิดแค่อาหาร รับทานกันเข้าไป 
นาคกลับให้เขาตาย ล่มสลายทั้งบ้าน พาลนักหนานาคราช  ไม่ฉลาดก่อกรรม 
จำจากไปแล้วน้อง  ได้แต่มองลับลา โอ้ขวัญตาขวัญใจ  น้อไอ่คำนางแก้ว
ห่างน้องแล้ว สุดหล้าดับดิน แม่เอย 
ร่ายสุภาพ
๒๑๙. สิ้นคนรักคำแพง  ท้าวผาแดงหดหู่  อยู่ที่เมืองผาโพง  มิมีโล่งเบาใจ  หนัก
หน่วงไซร้โศกศัลย์  คิดถึงวันเคียงคู่  อยู่กับนางไอ่แก้ว  คิดแล้วสะอื่นอก คิดมิตก
เจ็บหนัก เสียคนรักต่อหน้า ฟ้าใยจึงหฤโหด  โทษนางเพียงเล็กน้อย  พลอยวิบัติ
ฉิบหาย จนถึงตายย่อยยับ  นาคมันกลับทำลาย อ้ายเสียใจยิ่งนัก ขอหักหาญแก้แค้น  
ขอคุณแถนอวยข้า ถ้าผาแดงเป็นผี  จักต่อตีกับนาก มันพรากไอ่น้อยไป ข้าจักใคร่ 
ฟาดฟัน เอาให้มันย่อยยับ สมกับทำเมียข้า แรงอาฆาตรุนแรง จนผาแดงล้มตาย 
กลายเป็นผีพยาบาท  อาฆาตเมืองบาดาล  พาลยกทัพไปตี  ศรีสุวรรณนาคราช 
ฟาดฟันกันไม่หยุด สุดแต่ใครมีฤทธิ์ หวังพิชิตให้พ่าย คล้ายสิบวันสิบคืน  ตายแล้ว
ฟื้นมารบ ไม่รู้จบรู้สิ้น เดือนร้อนอินทร์บนฟ้า ต้องลงมาสั่งสอน สัตว์เดือดร้อนทั่วไป
ภัยจากสูรบกัน เวรกรรมนั่นไม่จบ  รบกันมิรู้สิ้น  ทั้งบนดินใต้น้ำ ไพร่พลซ้ำวอดวาย
บาปเหลือหลายก่อกรรม  จักนำสู่วิบัติ  รู้แจ่มชัดเช่นนี้  ยังต่อตีไม่หยุด สุดผู้นำบ้าใบ้
เดียวกูสาบส่งอีกไซร้  หากแม้นไม่รา
โคลงสองสุภาพ
๒๒๐. สองนายทัพย่อมรู้ขืนต่อรบยากสู้
จักได้ชนะชัย
๒๒๑. ตายไปมันต่างฟื้นมาก่อรบคึกครื้น
บ่ได้หวาดกลัว
๒๒๒. สองหัวทัพที่เฝ้านบท่านพระอินทร์เจ้า
นอบน้อมยินดี
๒๒๓. ทันทีอินทร์บอกแจ้งสูแต่งทัพรบแสร้ง
เสกให้สงคราม
โคลงสี่สุภาพ
๒๒๔. ยามพลสองฝ่ายล้วนผูกมนต์
เสกแต่งรบกันกลเก่งกล้า
ตายไปเสกอีกหนหลอกล่อ
รบเล่นยังอวดท้าดังบ้ามัวเมา
๒๒๕. เขลานักบอกหน่อยให้แถลงไข
เพราะเหตุผลอันใดขุ่นข้อง
รบอาจดับเหตุไหมอาจสงบ
หากมิอาจสงบต้องต่อนสู้นานไหม
๒๒๖. ใจสองคงตอบได้สงคราม
ยากจบอาจคุกคามไม่สิ้น
รบต่อยิ่งต่อตามนานแน่
มิอาจเดายากปลิ้นแผ่นฟ้าแผ่นดิน
๒๒๗. อินทร์แจงสูรบแล้วทุกข์ทน
เสียไพร่ทหารพลมากแล้ว
ควรหยุดไต่ถามตนดูหน่อย
รบหาโล่บแคล้วจักได้ตะบอง
๒๒๘. สูสองเป็นดั่งจ้าวครองพล
ควรช่วยส่งสุขชนรอบข้าง
เภทภัยปัดเป่าคนชมชื่น
ควรมุ่งหมายดังอ้างนี่แท้ผู้นำ
๒๒๙. กรรมสูเอาแต่ข้างเภทภัย
บาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย
กิจก่อเสื่อมเสียไหนบอกหน่อย
นำแต่เดือดร้อนสร้อยส่งให้ปวงประชา
ร่ายสุภาพ
๒๓๐.  นาคราชไม่แย้ง  ผาแดงก็เห็นด้วย  ช่วยให้การสงบ จบสงครามเสียได้
สองฝ่ายไซร้เย็นลง   คงยินดีเชื่อฟัง คำสั่งสอนองค์อินทร์ ยินดีเลิกกองทัพ
กลับคืนเมืองแห่งตน  ฝึกฝนใฝ่คุณธรรม  ละบาปกรรมสั่งกุศล   ชำระตนให้
จิตผ่อง  ตามครรลองศาสนา  มุ่งประชาเป็นสุข  ทุกกิจเกื้อครรลอง คลอง
แห่งธรรมดีงาม  ตามที่อินทร์ท่านแจ้ง ผาแดงพึงทราบไว้ นางไอ่แก้มีกรรม
บาปเคยทำไว้มาก  ถูกลากจมดับดิ้น  สิ้นชีพไปถูกจำ  บำเพ็ญเพียรใช้บาป
ไต้ทะเลสาบบาดาล คงนับนานจักพ้น  จงตั้งตนทางดี  ที่เป็นบุญกุศล อุทิศ
ผลถึงนาง ได้สะสางบาปกรรม นำไปสูภาคหน้า ถ้าบุญสูคู่กัน สิ่งที่ฝันคงได้
บุญกุศลส่งให้  สุขเกษมโสดเทอญฯ
๒๓๑ เดินมาสุดหยุดยั้ง นิฏฐิตังสังวัณณา   บรรยายมาแต่ต้น    จนถึงตอนอวสาน  
ขอกราบกรานคุณพระ   รัตนตรัยแก้ว  ช่วยให้แผ้วผ่องจิต  สิ่งที่คิดเลื่อนไหล  
เป็นไปตามมุ่งหวัง  ทั้งบิดามารดร   คุณให้พรสัมฤทธิ์   พรให้กิจสมประสงค์ 
สิ่งจำนงเรียบร้อย ผาแดงนางไอ่สร้อย เสกไว้กลกานท์ แลนา 
ขุนทอง ศรีประจง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น