วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

พระสุธน มโนราห์

ลิลิตพระสุธน

   ........ผมชอบหาเหตุอ้างที่จะเขียนร้อยกรองเรื่องยาว ๆ ได้หลายอย่างเช่นบันทึก
การท่องเที่ยวหรืึอศึกษาดูงาน ก็ร่ายยาวซะครั้งหนึ่ง วันที่เป็นวันสำคัญต่าง ๆ ก็ใช้
ได้เช่น วันเกิด ปีใหม่ วันสำคัญทางศาสนาถือมาเป็นเหตุเขียนได้เช่นกัน  ลิลิตพระ
สุธนมโนราห์เรื่องนี้เช่นกันเขียนเป็นที่ระลึกเมื่อปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามาแทน แค่นี้
จริง ๆ คนมาเห็นทีหลังอย่าไปสงสัยให้ยาก ไม่มีเหตุซับซ้อนอะไรหรอก แค่นึกอยาก
เขียนเรื่องยาว ๆ หน่อย เลือกพระสุธน เพราะชอบฟังหมอลำเรื่องแบบซอดแจ้ง ถ้า
ได้ยินหมอลำดังมาเล่นงานวัด สาว ๆเขาชวนให้พาไป ก็พาไปฟังลำจริง ๆ บางทีก็
หลับปล่อยสาว ๆเขาฟังหมอลำไป ตอนจะกลับเขาปลุกเอง หมอลำเขาเล่นเรื่องศรีธน
มโนราห์ ชอบมากเพราะนางเอกสวย เสียงดี ลำเก่ง เอ..ยาวไปเนาะปรารภสั้น ๆ ก็ได้.....     

                                   ขุนทอง ศรีประจง
                               ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ เช้า
                                       เริ่มแต่งบทแรก
ร่ายสุภาพ
๑. โอมทวยเทพแถนเจ้า......เดชคุ้มเกล้าทั่วแดน
แถนปกครองแผ่นฟ้า...........จรดแผ่นหล้าจักรวาล
แถนบันดาลฟ้าฝน..............มิดมนฟ้าเมฆมัว
นาคหลายตัวเล่นน้ำ...........หางฟาดซ้ำตีฟอง
เกิดคลื่นคลองระลอก..........กระฉอกล้นระหาน
ฟองหัดปานฟ้ารั่ว...............เป็นฝนทั่วปฐพี
สายน้ำมีฉ่ำชล..................ผู้คนชื่นชมนัก
จักมีน้ำมีท่า.....................จักตกกล้าปักดำ
ได้ทำนาเดือนหก..............ยกคุณท่านเทพแถน
แสนเคารพนบนอบ............มอบหมายนาคเล่นน้ำ
ฝนทุกก้ำนองชล...............พืชผลล้วนขจี
เขียวสดสีงองกงาม............ตามทุ่งไร่ทุ่งนา
กบปูปลาดาดาษ...............คนไถคราดยินดี
มีข้าวกล้างอกงาม..............ยามเดินชมชื่นจิค
ยามพินิจไม่แคล้ว..............คุณท่านแถนเลิศแล้ว
ก่อเกื้อเป็นบญ แลนา
โคลงสี่สุภาพ
๒. กราบคุณสุคตเจ้า..........จอมไตร
มนุษย์เทพพรหมใน...........ภพล้วน
นบนอบยิ่งคุณไกร.............เกริกล่วง โลกแฮ
ไตรโลกมองทั่วถ้วน...........เทียบได้จดจำ
๓. กราบคุณธรรมถ้อย.........เทศนา
สัพพชั่วปาปา...................ละเว้น
กุศลใฝ่สิกขา...................ปฏิบัติ
ชะจิตผ่องตื่นเต้น..............ผ่องแผ้วใจตาม
๔. งดงามธรรมล้วน...........เลิศคุณ
ธรรมก่อมากมายบุญ...........เกิดได้
ถือธรรมย่อมเจือจุน............ทุกกิจ กรรมแล
ธรรมส่องทางถูกไซร้..........แน่แล้วมั่นคง
๕. นบสงฆ์สืบศาสน์ไว้........เรืองรอง
สงฆ์แผ่ธรรมหมายครอง......โลกไว้
สันติสุขที่ปอง...................ธรรมช่วย เกิดแล
คุณท่านสงเคราะห์ไซร้........ก่อเกื้อคุณสงฆ์
๖. จงจิตนบนอบแล้ว.......รัตน์ตรัย
ปกปักปราศผองภัย.............ขัดข้อง
ทำกิจก่อเรืองไว................สมจิต
จักแต่คำกลอนร้อง.............ใคร่ได้พลพร
๗. ขอวอนลุล่วงได้...............ดังหวัง
อุปสรรควิริยัง....................ผ่านพ้น
อุตสาหะพลัง....................เล็งเลิศ
สำเร็จกิจเลิศล้น................เสร็จสร้างกลกานท์

๘. ปัญจาลชื่อนี้.................รมนีย์
เรืองรุ่งเลิศบุรี....................ล่มฟ้า
ทุกกิจเจริญมี....................คำเล่า ลือแล
หาที่ใดใต้หล้า...................เทียบได้นครา
๙. อาทิตยะเจ้า...................ปกครอง
ทศพิธธรรมปอง..................ธใช้
ทานังแหละศีลตรอง............ทุกเมื่อ
ธรรมเย็นแผ่ไต้..................บาทเบื้องร่มเย็น
๑๐. เห็นชนกอปรกิจเกื้อ........เกษตรกรรม
ฝนชุ่มชาวนาดำ.................ปลูกกล้า
วัวควายปล่อยมิจำ..............ใจผูก มัดแล
โจรบ่มีใครกล้า..................ลักได้บาปกลัว
๑๑. ในเมืองมัวค้าแข่ง.......กันขาย
พืชผักผลมากมาย..............แลกบ้าง
หมากแตงแลกปลากราย......มะม่วง แลนา
พริกผักแลกอีกข้าง.............นี่เส้นเมายา
๑๒. ปูปลากบเขียดได้.........มากมี
มาแลกเปลี่ยนกันที............แม่ค้า
คึกตักยิ่งบุรี......................ชนชื่น ใจแฮ
เพราะคุณท่านเจ้าหล้า........ปกป้องโดยดี
๑๓. บารมีพระท่านเจ้า........ทรงธรรม
ผลส่งบุญกอปรกรรม...........เลิศล้น
เทพไทส่องเห็นนำ.............บุญส่ง ผลแฮ
เรืองรุ่งงามยิ่งพ้น................เอ่ยถ้อยบรรยาย
๑๔. สายวัดอาวาสล้วน..........ร่มเย็น
ภิกษุรูปแลเห็น..................เสงี่ยมแล้
ยามรุ่งรับบาตรเห็น.............งามสง่า
มาส่งบุญจริงแท้................น่าไหว้มากมาย
๑๕. วัวควายแถวต่อท้าย.....ออกไป
หมายทุ่งนอกเมืองใย..........เรียบร้อย
ลุมาโผล่ตรงไหน...............งามทุ่ง
มีแต่หญ้าควายคล้อย..........เลาะเลี้ยวเล็มดี
๑๖. มีนาคราชเจ้า..............ชมพู นามแล
สถิตบาดาลดู...................สงบแท้
ทรงศีลก่อธรรมชู..............เชิดยิ่ง
เห็นที่ปัญจาลแล้...............กอปรด้วยคุณธรรม
๑๗. นำคุณบุญก่อเกื้อ.........อวยชัย
เกิดแต่ฝนชลนัย................ลุมน้ำ
สมบูรณ์พืชพันธุ์ไว.............พูนเพิ่ม นักแล
ชนร่ำรวยทุกก้ำ.................ก่อเกื้อบันดล
๑๘. มากคนข่ายแข่งค้า......ชุลมุน
เกิดแต่พอเมืองคุณ.............มากล้น
นาคราชช่วยเรือจุน.............ดียิ่ง แลนา
ทุกส่ำสุขเกษมพ้น..............ยากไร้ห่อนมี
๑๙. ยินดีเสียงแซ่ซร้อง......ขจรไกล
เรืองรุ่งปัญจาลใน..............ลุ่มฟ้า
มีเมืองที่เทียมใด...............เทียบเล่า
คงแต่เมืองบนกล้า.............กล่าวได้อาจมี
๒๐.  ธานีคนแข่งเข้า.........เยือนยล
หลายหลากปักหลักวน........ชีพเลี้ยง
วาณิชก่อกิจวน..................เจริญยิ่ง
เสริมส่งดังเสกเพี้ยง...........เสกด้วยมนต์ตรึง
ร่าย 
๒๑. กล่าวถึงอีกเมืองหนึ่ง....ซึงมีนามมหา
ปัญจาลนคร....... ............ตอนเจ้านันทราช
มีอำนาจปกครอง...........แผกครรลองคณธรรม
มักก่อกรรมทำเข็ญ.......เป็นคนชอบเดินป่า
ชอบล่าเนื้อมากิน..........ยินว่าชอบสาวสาว
คราวละอ่อนระวัง..........พึงปิดบังซ่อนเร้น
อย่าให้เห็นมิได้.............เป็นภัยแก่สาวสาว
คราวแรกรุ่นอวดสาว.....คราวราชาพบเห็น
จับไปเป็นสนม..............สมใจเจ้ายุ่งยาก
หากขัดขืนก็ฆ่า.............พร่าเด็กสาวมากมาย
คนหลากหลายหวาดกลัว....เจ้ามัวเมามากกาม
ยามเดินผ่านบ้านช่อง....หลบอย่ามองอย่าเห็น
มันเป็นคนหยาบกร้าน......เป็นเสนียดแก่ทุกบ้าน
อย่าได้หันมอง
โคลงสี่
๒๒. บาปกรรมของท่านเจ้า...ครองเมือง
ผลส่งเทพพรหมเคือง..........ปล่อยแล้ว
เคราะห์เข็ญล่มลงเปลือง......ทุกที่
ฝนบ่ตกมิแคล้ว....................เหือดแห้งแผ่นไผท
๒๓.  ในนาข้าวหากแห้ง.......เหือดตาย
อดอยากเหลือทนตาย.........ดับดิ้น
นาคาบ่ช่วยคลาย................ทุกข์ท่วม
ดีแต่ช่วยเขาสิ้น...................ทอดทิ้งเมืองเรา
๒๔.  เฒ่าปุโรหิตร้าย...........พอกัน
แนะผิดว่าสำคัญ.................ใส่ไคล้
เพราะนาคไม่เสกสรรค์........มิช่วย แลนา
ลงโทษนาคแล้วไซร้...........จักรู้สมควร
๒๕.  ชวนหานักเวทย์ผู้........เกริกไกร
ยิ่งกว่านาคราชใน................แหล่งหล้า
พบพราหมณ์เฒ่าคุณไสย.....เชิงเชี่ยว
วานช่วยปราบนาคกล้า..........อย่าให้หยิ่งผยอง
๒๖.   ลองเฒ่าเวทย์เก่งกล้า...เกรียงไกร
นาคเล่ามันอยู่ไหน.............จัดซ้ำ
มันจรที่บึงไป......................มนต์เสก
ปั่นปวนไปทุกก้ำ.................รุ่มร้อนเวทย์มัน
๑๗. พลันหนีเดินป่าเข้า......ไพรพง
แปลงร่างเป็นคนตรง...........ล่วงเข้า
พบพรานชื่อบุญคง.............ใจซื่อ ดีแล
ถามไถ่เรืองราวเจ้า.............บอกให้รู้ความ
๒๘..บ้านเมืองยามไม่ร้อน.....ร่มเย็น
เพราะนาคบันดาลเป็น........อย่างนี้
ปัญจาละที่เห็น.................เงียบสงบ ดีแล
เพราะคุณนาคราชชี้............แน่แท้พ่อคุณ
๒๙.บุญเราต่างซาบซึ้ง.......พระคุณ
นาคท่านมากมายบุญ..........เลิศล้น
พบพานใคร่ปองปุน............แทนตอบ คุณแฮ
จริงพ่อคุณนาคพ้น.............จักเอื้อนเอ่ยชม
๓๐. ขอบคุณสมนาคเจ้า....นายพราน
ยินว่านาคคนราน...............รุกล้ำ
เสกมนต์ป่วนบาดาล...........ดังเดือด แลนา
ดูที่สระทางก้ำ...................ฝ่ายโน้นพ่อพราน
๓๑. วานเฒ่าเลาะป่าเข้า....เยี่ยมมอง
เห็นเฒ่าเสกมนต์ปอง..........เร่าร้อน
บึงเดือดพล่านยากครอง......ใครอยู่ ได้ฤๆ
คิดฆ่านาคมันต้อน.............เสกให้เดือดตาย
๓๒. ทำลายนาคท่านผู้.......มีคุณ
คงบ่อาจปล่อยปุน..............แปลกได้
ธนูโก่งกระสุน...................มาดฆ่า
ศรเสียบตาเฒ่าไซร้............ดับสิ้นชีพวาย
๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๒
๓๓. ขอบคุณหลายท่านเจ้า....พรานบุญ
เพราะช่วยเราพระคุณ...........มากล้น
แก้วแหวนนาคเราปุน...........แปลงเสก มีแล
ขอมอบแทนคุณพ้น............ดับร้ายดีเกิน
๓๔. ขอเชิญพรานท่านได้.....ไปเยือน
ถึงถิ่นบาดาลเหมือน............เยี่ยมบ้าน
ยินดีรับถึงเรือน..................คุณท่าน
นาคราชเอ่ยต้าน................โปรดได้กรุณณา
๓๕. ตาพรานนึกใคร่รู้..........บาดาล
เป็นอยู่แบบไหนวาร............เช่นนี้
รับคำตอบคำขาน...............ของนาค
จักลงบาดาลชี้..................นาคเจ้าพาไป
๓๖. สองไวถึงที่น้ำ...........ริมบึง
เห็นช่องชลทางถึง..............ท่านั้น
เป็นทางทอดลงตรึง............ใจยิ่ง
ลองดุ่มเดินต่ำชั้น...............ลึกล้ำลงชล
๓๗. มินานจนพบบ้าน.......เมืองคน
ขวักไขว่เดินสับสน..............พี่น้อง
เสียงคุยหลากชุมชน...........ขวักไขว่
แปลกที่ยามจดจ้อง............รูปล้วนงดงาม
๓๘. ชุมชายยามรัดล้วน........แนบกาย
เขียวขาบแดงเขียวลาย........เพริศแพร้ว
ผมมวยหล่อนักชาย.............ชวนชื่น ชมแฮ
เดินกลุ่มมองดูแล้ว..............แต่ล้วนงามจริง
๓๙. ดูหญิงแปลกนักล้วน.....สาวงาม
คนแก่เห็นอยู่ตาม...............แต่เหย้า
ขวักไขว่อยู่ทุกยาม.............สาวรุ่น
งามแม่งามนักเจ้า...............อ่อนอ้อนอรชร
๔๐. ตาพรานตอนเหม่อต้อง...คอยเตือน
ถึงที่ดูดังเรือน...................ใหญ่กว้าง
เงียบสงบเหมือน................คนไม่ มีแล
ฤานั่นรูปเขาสร้าง...............แบบปั้นตุ๊กตา
๔๑. นาคาแลหญิงนั้น.........มากมาย
กลับเงียบนิ่งแปลกหลาย......ที่แท้
วังนาคระเบียบชาย.............แข็งแกร่ง
มากพิษฤทธิ์แรงแล้.............เก่งกล้าฤทธิ์ณรงค์
๔๒. อนงค์นาคลักษณ์ล้ำ.....ทรวดทรง
อวบอ่อนอรอนงค์...............อ่อนอ้อน
แรงเดชสมเพศตรง.............ราครุ่ม นักแฮ
เพียงสบเนตรนุชร้อน...........รุ่มร้อนกามา
๔๓. รับรองตาเฒ่าด้วย........นาคี
อบอุ่นนักพาที...................นอบน้อม
นาคราชรับรองดี................เกินยิ่ง
ละอ่อนมาแวดล้อม..............ออดอ้อนเอาใจ
๔๔. ในยามกินช่วยป้อน......พรานบุญ
พักผ่อนตักสาวหนุน............นวดเฟ้น
เอาคืนช่วยนวดคุณ.............หนาแม่
นวดหน่อยนวดคลายเส้น......เฒ่าล้าหมดกัน
๔๕. เจ็ดวันผันผ่านแล้ว.......เร็วไว
นาคราชมันอยู่ไหน.............ไม่รู้
มัวเมานาคสาวไง................ตาเฒ่า
ลืมแก่หมดทางสู้................หลับแล้วสลบไสล
๔๖. พอตื่นใยแปลกแท้.......คันคะเยอ
หนูนี่นิ่มนักเธอ..................พ่อเคล้น
มีเปลือกนี่นะเออ................แปลกนี่
งูใหญ่ตาพรานเต้น.............ช่วยด้วยงูงู
๔๗. นางหนูเขาตื่นแล้ว......งูหาย
ไหนพ่อไหนพี่ชาย..............ร่ำร้อง
มีงูที่ไหนตาย....................คุณพี่
มาพี่มานี่น้อง....................กอดให้หายกลัว
๔๘. สมควรชมทั่วถ้วน.......กลับมา
มิอิ่มดอกสิเนหา.................นาคน้อง
ยามสาวแม่งามตา...............นักยิ่ง
ยามเป็นนาคยากต้อง...........จับเจ้าล้วนงู
๔๙. เสียดายมีอยู่บ้าง.........บางคราว
ขนลุกงูสาวสาว.................กอดกลั้ว
รอดมานึกเรื่องราว..............ดูแปลก
งูใหญ่พันยะยั้ว..................ยะเยี้ยเมียงู
๕๐. หลายวันดูเฒ่าคล้อย...คลาไคล
กลับสู่เมืองตนใน...............ก่อนหน้า
ยังคงเที่ยวพงไพร..............ราวป่า
ชอบจับสัตว์เก่งกล้า............เฒ่ากล้าเคยมา
๕๑. คราหนึ่งไปเที่ยวโพ้น....หิมวันต์
เห็นหมู่หงส์สาวมัน.............ร่อนร้อง
เกรียวกราวร่ายรำกัน............บินร่อน
คงมุ่งไปสระจ้อง................อยากรู้สำคัญ
๕๒. หลายวันลุล่วงเข้า........เขตขัณฑ์
แดนแห่งหิมวันต์................แน่แท้
พงไพรแปลกจริงสรรพ์.........แตกต่าง
ดูต่างมิเคยแล้...................ที่บ้านไป่มี
๕๓. อโนดาตนี่น้ำ..............สะอาดตา
ใสส่องท้องธารา................โปร่งแจ้ง
ทรายงามดาดดาษดา..........ชวนเยี่ยม แลนา
สักครูเสียงสาวแกล้ง...........หยอกล้อเกรียวกราว
๕๔. เสียดายสาวอยู่โน้น.......ห่างไกล
หางปีกอยู่ตรงไหน..............นิ่มน้อง
ลอยคอเล่นทรามวัย............ดูคล่อง
พรานเฒ่าตะลึงจ้อง............แม่เจ้าช่างงาม
๕๕. เสียดายยามกลุ่มนั้น.....บัวบัง
บัวแม่ตูมงามดัง.................ช่างแต้ม
ขาวนวลยิ่งนวลสังข์............งามผ่อง
ตะละนางแรกแย้ม..............อิ่มแก้มพวงงาม
๕๖. คงเป็นตามที่รู้.............กินรี
แบบที่พระฤๅษี..................บอกไว้
รูปทรงอย่างคนมี................หางปีก
บินร่อนไปมาได้.................ใช่แล้วกินรี
๕๗. คงดีจักจับใช้..............นาคบาศ
หาเพื่อนนาคหมายมาด........บอกให้
ยืมนาคบ่วงเพราะคาด..........จักจับ นางแล
นาคบ่ขัดยืมได้.................เสร็จแล้วส่งคืน
๕๘. ตื่นตานาคบาศพร้อม...ดีใจ
พรานเฒ่ารีบออกไป............บ่ช้า
นับเดือนเร่งรอนมา.............ถึงที่
สระอโนดาดล้า.................เหนื่อยล้าพักนอน
๕๙. ตอนดาบสเล่าให้........พรานฟัง
เจ็ดแห่งสระสุดขลัง............เขตนี้
อโนดาตเยี่ยมยัง................สุดยอด  งามแล
สองชื่อกัณณชี้...................ต่อท้ายมุณฑี
๖๐. มีรถการะนั้น................ชลใส
งามยิ่งบุษบาใน..................สระนั้น
มัจฉาว่ายแหวกไป..............เป็นหมู่
หลากกลุ่มลใพัดชั้น............แล่นพริ้วตามกัน
๖๑. ฉัททัณฑ์นับสี่นั้น.........งดงาม
บัวเบ่งบานอยู่ตาม...............ขอบข้าง
หลากสีออกทุกยาม.............บานสลับ กนแฮ
ดังแข่งกันอวดบ้าง...............หลอกล้วนแมลงมา
๖๒. กุณาละสระนี้...............ปลางาม
ปลาบู่ชะโดยาม..................ว่ายเร้น
พรางตัวยากจักตาม..............สอดส่อง
ปลากดปลาหลดเต้น............หลบหลี้ทุกยาม
๖๓. มัณฑานามสระท้าย........กิณี
แลหลากบัวหลากสี..............เบ่งแล้ว
เหลืองแดงอ่อนมากมี............บานหมู่ แลนา
งามยิ่งงามบัวแก้ว.................ยิ่งแย้มแก้วดี
๖๖. สีหัปปาตะท้าย..............สระชล
เจ็ดชื่อสระมงคล..................เขตนี้
ชวนชมชื่นเวียนวน................เทียวท่อง
งามยิ่งงามชวนชี้..................อยากให้ออนซอน
ร่าย
๖๗. กินนรนครรัฐ.....อธิปัตย์ทุมราช...อาชญาแห่งกินนร
บังอรมเหสี......มีโอรสธิดา.....แจ่มพักตราน้องนุช  สุด
สายใจมารดร นามกรมโนราห์  หาพี่เลี้ยงงดงาม ตามดูแล
เป็นเพื่อน  เหมือนเป็นที่พักพิง  พาวิ่งเล่นในสวน ชวนเล่น
เล่นน้ำลำธาร  อุทยานงามงด  ปรากฏมวลบุปผา งามนานา
แผกพรรณ   จันทร์จิกจวงจดจ่อ  ยอยมยินดอกดก ยินเสียง
นกร่อนร้อง ชวนพี่น้องเพลิดเพลิน  เดินเหนื่อยอ่อนหยุดพัก
น้อรักรออยู่นี่....พี่ไปเก็บดอกไม้.....ร้อยมาลัยช่วยกัน
พี่ใหญ่สรรเครือไม้....ใช้แทนด้ายร้อยวง   จงจัดดอกจำปี
มีจำปามาแซม แกมดอกกรรณิการ์ งามมาลามาลัย สวมให้
น้องช่างงาม ยามพิศเพียงนางฟ้า ลงเยือนหล้ายินดี ผองพี่
ชื่นชมแล้ว  งามยิ่งแก้วกัลยา มาแม่มาบ่ายคล้อย    กลับ
เถิดหนาน้องน้อย  ค่ำแล้วเดินทาง แลนา
๖๘. หกนางพระพี่เลี้ยง...........อุ้มชู
มโนราห์งามดู.......................แช่มช้อย
รูปทรงยิ่งตราตรู....................ชนชื่น ชมแฮ
เสียงร่ำลือนุชน้อย..................ดั่งฟ้าประทาน
๖๙. วัยสคราญงามยิ่งน้อย..... ..โนราห์
อวบอิ่มพิมพ์พักตรา.................ลักษณ์ล้ำ
งามรูปยิ่งสิเนหา.....................ชวนชื่น ใจแล
งามจริตอีกซ้ำ........................เลิศแล้วจรรยา
๗๐. พักตราอรอ่อนน้อย...........ชวนตะลึง
งามจับใจตราตรึง....................แช่มช้อย
ฤๅเทพท่านวาดถึง.................งามยิ่ง นักแฮ
งามแม่งามน้องน้อย................ล่มฟ้าจดดิน
โคลงสี่สุภาพ ๗๑. ยินสาวพระพี่เลี้ยง............พอใจ
ชวนนิ่มนุชออกไป...................เที่ยวบ้าง
ชมสวนป่าพฤกษ์ไพร...............เทียวเล่น
ชมแอ่งชลเสริมสร้าง................สุขให้กนิษฐา
๗๒. เจ็ดวันลาเที่ยวบ้าง...........บินไกล
ชมสระบึงบางใส......................เล่นน้ำ
เด็ดดวงบุปผาใน.....................ธารเบ่ง บานแล
เก็บกรวดหินงามล้ำ..................ดั่งแก้วมณีดง
๗๓. ทรงธรรมฝันเรื่องร้าย..........ถูกฟัน
เขาควักดวงเนตรพลัน...............ปวดร้อง
ตระหนกตื่นสำคัญ...................ดูแปลก
ยากหลับจนรุ่งจ้อง...................ยากแล้วหลับลง
๗๔. ปรึกษาตรงเฒ่าผู้...............โหรา
เห็นบอกพระชะตา...................ช่วงนี้
ดวงตกแต่งบูชา......................ทวยเทพ
หาไม่เสียหายชี้.......................แบบต้องเสียใจ
๗๕. ทรงชัยหนักมากล้น..........ลืมฝัน
คราหนึ่งหกสาวสรรพ์...............ร่ำร้อง
จักไปเที่ยวหิมวันต์..................นาพ่อ
หมายเล่นน้ำกับน้อง.................แบบได้เคยมา
๗๖. บิดาเห็นลูกล้วน................ไปมา
ยังไม่มีปัญหา.........................ขุ่นข้อง
ตกลงเร่งไคลคลา....................เถิดแม่
อย่าค่ำนักพี่น้อง......................พ่อนี้ห่วงหนา
๗๗. หกสาวลาพ่อแล้ว..............จักจร
ปีกใส่หางงามงอน.....................เรียบร้อย
กระโดดสู่ฟ้ารอน......................แรมเรื่อย แลนา
บินดั่งหงส์แช่มช้อย...................ผ่านฟ้าแรมไกล
๗๘. ไปอโนดาดแท้..................ที่หมาย
ถึงที่ถอดปีกสาย.......................สวาทเจ้า
ลองลอยล่องวุ่นวาย..................โลดไล่ กันนา
มั่วเล่นกันหยอกเย้า...................เล่นน้ำสำราญ
๗๙. พรานบุญยินเรื่องครั้ง...........ก่อนกาล
ดาบสบอกตำนาน......................ป่านี้
กินนรอาจพบพาน......................มีอยู่
ทุมราชเจ้าชี้.............................ชื่อนี้ราชา
ร่ายสุภาพ ๘๐. ครองพาราที่ล้วน.................กินนร
หญิงเรียกกินรีตอน.....................อยู่เหย้า
เหมือนคนทั่วไปจร.....................เดินเที่ยว แลนา
ยามที่ไปไกลเจ้า.......................ต่างใช้บินวน
๘๑. ท่อนบนดูดุจผู้....................คนเรา
ส่วนล่างเหมือนนกเขา.................อยู่โน้น
หิมวันต์แดนเนาว์.......................มีปีก
บินเก่งไกลนักโพ้น.....................เก่งด้วยทุกทาง
๘๒. ถอดปีกหางออกได้..............เหมือนคน
รูปร่างมิแผกจน.........................ยากรู้
พูดจาท่วงทีกล..........................เราท่าน
ฉลาดแกร่งนักสู้.........................ผ่านร้อนฤๅหนาว
๘๓. คราวธิดาพ่อเจ้า..................หกนาง
งามยิ่งสาวสุรางค์.......................จากฟ้า
คนเล็กเลิศลักษณ์ทาง.................พระแม่ 
ยามเอ่ยนามน้องหล้า...................เรียกน้อยมโนราห์
๘๔. จัดหาหกพี่เลี้ยง..................ดูแล
ละอ่อนมิอาจแปร........................ผิดได้
งดงามเงื่อนกระแส......................สาวแห่ง  วังแล
งามจริตจรรยาไซร้......................หกเจ้ากานดา
๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒
๘๕. ทุมราชราชา   อาชญาแห่งกินนร  ครองนครแห่งนี้
มีประชาทวยราษฎร์  ล้วนประหลาดส่วนบน เหมือนผู้คนปกติ
ผิท่องล่างคือนก  ผกผินบินบนได้  ใช้ปีกหางชำนาญ เชี่ยว
ชาญท่องเวหา บินไปมาเหมือนนก  มีหกนางธิดาเจ้า เยาว์ดรุณ
อุ่นอ่อน ล้วนงามงอนงดงาม ยามนี้มาอำลา จักกันไปท่อง
ลอยล่องเล่นธารา  พระบิดาไม่ขัด หกนางชัดธิดา เลียงมา
หกนาง บางบินบนเป็นฝูง   บันอยู่สูงแปลกตา ชาวพาราย่อมรู้
หมู่นุชน้องมโนราห์ คงพากันไปเที่ยว  เดี๋ยวบ่ายคงกลีบมา
พากันสาธุการ จงสำราญเถิดเจ้า  สุขจิตหายห่างเศร้า เปี่ยม
ด้วยรมณีย์ แม่รา

โคลงสองสุภาพ
๘๖. มีอโนดาดแล้ว.........ธารยิ่งใสดั่งแก้ว   
เทพสร้างแปลงมา แลฤๅ
๘๗. แนวผาสองฝั่งนี้........มากพุ่มไพรพฤกษ์ชี้
ดาดด้วยบุษบง
๘๘. มาลาคงเบ่งบ้าง.......แดงดาดเขียวขอบข้าง
เบียดขึ้นเหลืองแซม
๘๙. แกมกันเขียวขาบคล้อง.งามยิ่งยามจดจ้อง
สุดซึ้งตะลึงลาน

โคลงสามสุภาพ
๙๐. งามธารน้ำสุดใส..........ในชลคลาคล่ำนั้น
มัตสยาใฝ่ฝั้น....................ใคร่ได้คู่เคียง แลนา
๙๑. เมียงมองปลาบู่โน้น......โดนชะโดไล่ล้าง
แตกออกไปสองข้าง............หลบเร้นซอกหิน
๙๒. ปลาบินแปลกนักเจ้า.....เขากวดจวนตัวไซร้
กางปีกร่อนบินได้...............รอดพ้นภัยพาล แลนา
๙๓. นานปลาไหลมุดตม.....หวังชมรอก่อนเจ้า
สักครู่รอคอยเฝ้า................เมื่อขึ้นหายใจ แลนา
๙๔. ทรามวัยเล่นน้ำพลาง....หกนางสาดวิดซ้ำ
พี่เลี้ยงสาดเปียกน้ำ............ยั่วให้เอาคืน  แม่นา
๙๕. เดิมขืนเล่นกับน้อง......ใยพี่จ้องแอบข้าง
ชอบแกล้งเอาคืนบ้าง.........แบบนี้สนุกกัน  พี่ฮา
๙๖. ยุดยื้อพลันสาดซัด.......ปัดป่ายจับสองแก้ม
นี่นี่หอมพวงแย้ม...............หมั่นใส้นักนวล แม่ฮา
๙๗. ชวนเล่นธารสุขสันต์....สนุกกันพี่น้อง
จวนค่ำคงจักต้อง..............ต่าวห้องคือเรือน แม่นา
๙๘. เตือนหยุดแลปีกหาง...ทุกนางใส่เรียบร้อย
ผองพี่งามชดช้อย.............นุชน้องโผบิน แม่เอย
๙๙. หกยุพินพี่เอื้อย.........โผตามเรื่อยร่อนร้อง
เชิ่ญนิ่มนุชรีบต้อง.............ต่าวบ้านไวไว แม่เอย
๑๐๐. อย่าบินไปทางนั้น......หิมวันต์ดงงิ้ว
ครุฑดุนักโฉบพริ้ว.............จับได้ถึงตาย แม่นา

โคลงสี่สุภาพ
ร่าย ๑๐๑. หลายวันมาเที่ยวได้........สบสันต์
สาวสิบสองนางพลัน.............จากห้อง
ชมธารป่าเขากัน..................เพลินบิ่ง
ไปเที่ยวบินร่อนร้อง...............ผ่านฟ้าเพลินเพลง
เพลงรำวง
นักเลงเขามีคู่ใหม่..............แอบเอาไว้อยู่ในแดนดง
รูปหล่อลูกคุณตาโต้ง..........เจอสาวหงส์จะว่าอย่างไร
หงส์น้อยรักพี่บ้างไหม........บอกเอาไว้อ้ายลูกกำนัน
เดือนอ้ายจะบอกแล้วกัน.....เป็นแฟนฉันนะหนูโนราห์
วอนแม่จะให้มาขอ.............มิให้รอนานดอกกานดา
แต่งแล้วจะให้เป็นแม่..........ดีแน่แน่เลี้ยงลูกด้วยนม ฯ
โคลงสี่สุภาพ
๑๐๒. ชมอโนดาดเจ้า..........น้องนาง
สะอาดยิ่งทุกทาง...............ดาดพื้น
ทรายขาวลาดปูลาง.............ลองย่าง แลนา
รอยเหยียบยุบมิตื้น..............ทุกนี้วร่อยรอย
๑๐๓. ปีกหางมิปล่อยไว้........รอยนก   เห็นแล
ปลดก่อนมิตระหนก..............นุชน้อง
เห็นยังนี่ใครยก....................เดินหน่อย
เออนี่รอยน่าจ้อง..................แน่แท้โนราห์
๑๐๔. ใครหนาน่ารักแท้.........แม้รอย
ยังน่ารักน่าออย...................น่าอ้อน
ตามไปนั่นไงคอย................อยู่นั่น
มิน่ารอยเร่าร้อน..................ที่แท้โนราห์
๑๐๕. คราสาวลงเล่นน้ำ.......ตีฟอง
กระหึ่มแข่งตีกลอง..............ทุ่มทุ้ม
เรียกใครพี่เห็นมอง..............หาอยู่
มีแต่พวกเรากลุ้ม.................ร่ำร้องหาใคร
๑๐๖. พรานเฒ่าใยซ่อนเร้น...ลับพราง
คอยเหล่ดูนวลนาง..............เล่นน้ำ
ปีกเธอุถอดอีกหาง...............เปลือยเปล่า
ดูดั่งคนยิ่งช้ำ......................นั้งจ้องแอบดู
๑๐๗. นังหนูคนเล็กนั้น..........เกินงาม
เขาเรียกโนราห์ยาม..............ย่างย้าย
ชวนรักยิ่งนงราม..................ดีแน่
จับไปฝากดีร้าย..................ท่านท้าวสุธน
๑๐๘. นายหัวมนชอบแท้.......งามเกิน
เพียงแค่ชมรูปเพลิน..............เลิศล้ำ
พิศนางเมื่อยามเดิน...............ดูสง่า
ง่ามดั่งหงส์ด้วยซ้ำ................เลิศล้นจัดการ
๑๐๙. นาคบาศพรานเฒ้าขว้าง..พันคอ
แตกตื่นนวลลออ...................พี่น้อง
ปีกหางส่วมใส่พอ..................บินว่อน
หายหนึ่งเสียงร่ำร้อง...............นุชน้อยโนราห์
๑๑๐. พี่จ๋ามาช่วยด้วย.............ตาพราน
มีบ่วงบาศระราน....................มัดไว้
ยากหลุดแน่นจึงขาน..............หาพี่
ช่วยหน่อยกลัวมากไซร้...........อย่าทิ้งช่วยหนู
๑๑๑. สิบเอ็ดนางสู่ฟ้า............บินวน
ยินแต่เสียงเรียกตน...............นั่นน้อง
กลัวนักนั่นมีคน.....................จับอยู่
มันจับอีหล่าร้อง....................ลากให้เดินตาม
๑๑๒.  พรานบุญยามเรียกน้อย...เดินมา
ลุงบ่ตีเฆี่ยนหนา.....................เชื่อได้
ขอเพียงช่วยเดินครา................ลุงจ่อง จูงแล
ไปพบคนหนึ่งไซร้...................จักสร้างสัมพันธ์
๑๑๓.  สาวกลัวยันร่ำไห้.............เดินตาม
เหน็ดเหนื่อยพักครู่ยาม..............ออกได้
เดินทางต่อรงราม.....................แสนเหนื่อย
ยามบ่ายถึงแล้วไซร้...................อ่อนล้ากังวล
๑๑๔. พระสุธนเที่ยวด้าน.............ป่าเขา
ชมป่าล่าสัตว์เหงา.....................อยู่บ้าง
ตาพรานจับนงเยาว์....................มามอบ ให้แล
โปรดยิ่งนึกจักสร้าง.....................เสกให้สุขสม
๑๑๕. บุญปมคงคู่สร้าง................ปางบรรพ์
รักก่อรักเกิดสรรพ์..........................เสกสร้าง
เหมือนสนิทอนันต์.........................อบอุ่น
ทรงจับมือชวนอ้าง.........................ดั่งน้องขวัญตา
๑๑๖. มโนราห์ยิ่งอึ้ง.......................อ่อนใจ
เอมอิ่มอบอุ่นใน.............................ท่านเกื้อ
ยินดียิ่งพระทัย..............................โอนอ่อน  แลนา
อบอุ่นนักท่านเอื้อ..........................อ่อนน้อยพึงใจ
๑๑๗. นี่นางใยพบแล้ว....................พึงใจ
ชอบยิ่งพิสมัย...............................มากล้ำ
รอยบุญร่วมกันใน.........................ปางก่อน
จึงส่งเราสองก้ำ............................จักได้ปรีดา
๑๑๘. มโนราห์ยิ่งอึ้ง.......................อ่อนใจ
เอมอิ่มอบอุ่ยใน.............................ท่านเกื้อ
ยินดียิ่งพระทัย..............................โอนอ่อน  แลนา
อบอุ่นนักท่านเอื้อ........................อ่อนน้อยพึงใจ
๑๑๙. พระไขพระนุชน้อง..............โนราห์
ฮักยิ่งพระมารดา..........................ท่านเอื้อ
พิศโฉมยิ่งเมตตา..........................ทรงโปรด
มาห่างไกลทรงเกื้อ........................อย่าได้โศกา
๑๒๐.  พระบิดารับเจ้า....................จากใจ จริงแฮ
จัดอภิเษกใน...............................มิช้า
จงเป็นสุนิสา...............................ของพ่อ
ครองสุขกันชั่วฟ้า.........................ดับสิ้นดินลาย
๑๒๑. มากมายชนแซ๋ซ้อง...............อวยพร
ทรงเจริญงามงอน........................อ่อนน้อย
สุขสมสโมสร..............................ชมชื่น
ชนม์ยิ่งยืนยิ่งร้อย..........................กว่าล้นนับนาน
๑๒๒. เกษมศานต์สุขได้................มินาน
เกิดศึกต่างเมือนราน....................ศึกเข้า
สุธนราชทรงชาญ........................ปราบศึก
ยกทัพบอกลาเจ้า.........................อยู่เหย้ารอคอย
๑๒๓. รอยศึกคงปราบได้................มินาน
คงกลับมานงคราญ........................อย่าร้อน
อยุ่หลังช่วยจัดการ.......................พ่อแม่
เป็นห่วงนักอย่าอ้อน......................อ่อนอ้อนแอบทรวง
๑๒๔. ทัพหลวงออกจากบ้าน...........เมืองไป
คงล่วงหลายเดือนภัย.....................ศึกนี้
ในเมืองเรื่องเกิดนัย.......................ตาเฒ่า
คนปรึกษากิจชี้...........................ช่องให้ธิดา
๑๒๕. ถวายมาแด่ท้าว..................สุธน
เป็นพระสนมคน..........................หนึ่งนั้น
พระบอกไม่รับจน........................ใจยิ่ง
เมียหนึ่งนางนี้ชั้น........................เยี่ยมแล้วพึงใจ
๑๒๖. ท่านหมายมีอีกให้...................เป็นสอง
เราอยู่เรือนเคียงครอง...................สุขล้น
มิชอบมิอาจปอง..........................มีอีก
ขอขอบใจยากพ้น.........................รับได้บ่ควร
๑๒๗. ชนวนเขาเจ็บแค้น..................เรื่องราว
เกิดแต่นังนกสาว..........................ต่างบ้าน
รอไปเมื่อถึงคราว.........................ดีแน่
จักฆ่าเสียกูคร้าน.........................แย่งแล้วรำคาญ
๑๒๘. วางแผนกับเพื่อนบ้าน...........ปัจจันต์
เมืองเขตแดนชิดกัน......................อยู่ใกล้
ยกทัพแย่งแดนพลัน......................ก่อศึก
พระบิดามอบให้............................ทัพกล้าปราพลัน
๑๒๙. ยามบิดาฝันร้าย..................ยักษ์มาร
มันล่วงหมายสังหาร.....................ดับดิ้น
สองมือควักตาพาล......................เลือดหลั่ง
แตกตื่นหวาดกลัวสิ้น....................สั่นเทิ้มกายา
๑๓๐. โหราเรียกพบพร้อม...............ปรึกษา
โหรเฒ่าชอบแผนมา.....................สอดคล้อง
ทำนายนั่นชะตา..........................นายท่าน
ดวงขาดแถมเมืองต้อง...................เรื่องร้ายพอกัน
๑๓๑. สรรหาการแก้เรื่อง................อัปรีย์
พึงจัดกองอัคคี............................เทพไท้
บูชาสัตว์ที่มี...............................ทวิบท
แบบพูดจาคำคนได้.....................อย่างนี้จลฟัง
๑๓๒. รับสั่งสูอย่าช้า...................สืบหา
สัตว์ทวิบทมา..............................มากแท้
นกเป็ดไก่อีกา.............................ดูใช่
เพียงไม่อาจพูดแล้........................ไม่รู้คำคน
๑๓๓. จนใจรับสั่งให้.......................เรียกหา
ปุโรหิตรีบมา.................................รับรู้
จำทูลเรื่องยากครา.........................จนตรอก
มีอยู่สัตว์ทุกผู้...............................ต่างรู้ยากตรอง
๒๒-ธ.ค.-๖๑
สุธนมโนราห์ ยกที่ ๕ บทที่  ๑๓๔ - ๑๖๔ (๒๓ ธค. ๒๕๖๒)
๑๓๔. สองบทหางปีกพร้อม..............บินบน
แถมพูดภาษาคน...........................เก่งแล้ว
ลำบากไม่อยากรน..........................หาเรื่อง
เกรงพิโรธมิแคล้ว..........................จักต้องอาชญา
๑๓๕. เออมากูนึกรู้.......................มันมี
เพียงแต่ทำไงดี............................ไม่ได้
นึกนานน่าบัดสี............................จักฆ่า
เออนั่นลูกสะใภ้..........................จักล้างมิเอา
๑๓๖. ปุโรหิตเฒ่าบ้า....................เลือดเย็น
ทูลว่าภาระเป็น...........................กิจข้า
ทำเองไม่ควรเห็น.........................การกิจ
ไปจัดที่ป่าช้า..............................ห่างบ้านทั้งปวง
๑๓๗.  หลอกลวงนุชนาถน้อย..........โนราห์
ไปแต่งการบูชา............................แต่งแก้
สะเดาะเคราะห์กัญญา...................กำหนด
เขาแต่การพร้อมแล้.......................จับเจ้าจักเผา
๑๓๘. ยงเยาว์สติตั้ง.....................เตือนตน
เคยทราบเหตุเขาวน......................ฆ่านั้น
บุตรเขานั่นคือคน..........................เขามาด ถวายแฮ
พระมิรับสะบั้น.............................ตัดทิ้งไมตรี
๑๓๙. กาลีนักเฒ่าแค้น...................โนราห์
หวังจักเชือดชีวา...........................ดับสิ้น
หมดนางค่อยธิดา..........................ดูเด่น
พระสุธนคงดิ้น.............................ยากพ้นเขยเรา
๑๔๐. ดูกรตาเฒ่าผู้......................ปรีชา
สูจับตัวโนราห์.............................แต่นี้
คงตายแน่ขอลา...........................ดูก่อน
ยามจักตาบก่อนกี้.........................พี่น้องเรามี
๑๔๑. กินรีชอบร่ำร้อง...................ร่ายรำ
ฉลองเกิดแต่ทำ..........................เรื่องร้อง
มีงานแต่งร่ายรำ..........................เริงเรื่อย
ตายเร่งรำถูกต้อง.........................แบบนี้จึงดี
๑๔๒. มิมีใครจักร้อง.....................เริงรำ
ขอหน่อยฉันจักทำ.......................สืบไว้
ปีกหางใส่ครบกรรม......................กิจส่ง สการแล
พูดจบพลางรำไซร้.......................แต่แกล้งพาโล
๑๔๓. ปุโรหิตร้อง........................ทัดทาน
หางปีกใส่ก่อนการ........................จัดฟ้อน
ครบครันเริ่มนงคราญ.....................เริงร่าย รำแฮ
ง่ามยิ่งงามอ่อนอ้อน......................อ่อนช้อยเริงระบำ
๑๔๔. สูงหน่อยรำร่อนได้.............งดงาม
สูงอีกหนอนงราม.........................ยอดไม้
สูงเกินหมู่เมฆยาม........................บินร่อน
สูงลิบลับตาไซร้...........................ไม่รู้แลหาย
ร่ายสุภาพ
๑๔๕. ปางภัยร้ายผ่านมา..มโนราห์หลบหนี...หลีกลี้จากเภทภัย
ไปจากที่สังหาร.....ด้วยเชาว์ชาญปัญญา...เหิรเวหาจักคืน
บ้านเมืองอืนมิรู้....เคยอยู่แต่ทุมราช....คิดถึงบาทบิดดร
เคยออดอ้อนมารดา...เมื่อถึงคราอับจน....แทบวายชนม์ดับ
สูญ...อาดูรโชคชิวิต....ช่างวิปริตยิ่งไฉน...ชลนัยนองเนตร
นึกสมเพศแก่ตน....บัดดลเห็นอาศรม.....ก้มมองใช้จริงจริง
ตาแลหลิงตรงนั่น.......คนเสกสรรค์จริงแน่....ลานโล่งแท้
คนทำ.....จำจักลงไปดู...เห็พ่อปู่ดาบส ประณตไหว้กราบกราน
มินานสนทนา....เรื่องเป็นมาอย่างไร.....ท่านใจดีเมตตา สอน
ว่าคงมีเวรกรรม......นำใหพบวิปริต....ชีวิตจึงลำบาก...ยากจะทน
อยู่ได้....บัดนี้ไซร้กลับเมือง...เรื่องวุ่นวายคงหมด......บทต่อนี้
ผ่องแผ้ว.....คล้วคลาดผองภัยพาล......กลับถึงบ้านร่มเย็น
เห็นบิดามารดร.....คลายทุกข์ร้อนต่อหน้า.....สุขจักมาแทน
โศก วิปโยคห่างหาย....กลายเป็นโชคลาภล้น.....คนหายก็
กลับได้......พบหน้ากันแน่ไซร้.....สุขสมเกษมสันต์ แม่เอย
โคลงสอง
๑๔๖. สำคัญพระพ่อเจ้า...........นำเรื่องเป็นห่วงเว้า
นาถน้อยโนราห์
๑๔๗. ไปคบหาต่างบ้าน.........แปลกเผ่าคนจักต้าน
ต่างด้วยฮีตคอง
๑๔๘. ยินว่าปองสัตว์ไซร์........จับกินก็ทำได้
โหดร้ายหนอคน
๑๔๙. ฆ่าฟันจนดับสิ้น........แข็งข่มอ่อนยากดิ้น
มักต้องเบียดเบียน
โคลงสามสุภาพ
๑๕๐. จำเนียรเจ้าจากไป......ไหนจักถูกจับสิ้น
มันข่มใจยากดิ้น.......ข่มเจ้ารังแก
๑๕๑.  ราคีแลแปดเปื้อน......เหมือนจมปลักนุชน้อง
เหม็นกลิ่นคนแตะต้อง.........ปลุกปล้ำบัดสี  แม่เอย
๑๕๒. ชี้ควรทำชำฮะ...........ทำการสระส่งล้าง
มวลอัปรีย์ที่อ้าง.................ขัดให้หมดไป
๑๕๓. ไวไวเตรียมน้ำสรง......จงอาบที่โอ่งส้ม
ขัดสีผิวแน่งน้อย................ชะล้างมลทิน
๑๕๔. โอ่งสองขมิ้นไพล......สดใสผิวผ่องแผ้ว
งามยิ่งงามเลิศแล้ว.............แน่งน้อยโนราห์
๑๕๕. ถัดมาโอ่งว่านหอม.....พวงพะยอมสระไซร้
นวลผ่องน่าลูบไล้...............ยิ่งล้ำนางใด
โคลงสี่สุภาพ
๑๕๖. ทรามวัยเสร็จสรรพสิ้น....โสดสรง
ครบเครื่องเขาแต่งองค์...........ลักษณ์ล้ำ
ราชครูร่ายมนต์ตรง...............กระท่อม
เฒ่าแก่มาช่วยย้ำ.................สระล้างสรงศรี
๑๕๗. โอมผีเทพปู้เจ้า...........สังกะสา
เชิญท่านยายจงมา................ช่วยตุ้ม
ขวัญนางเที่ยวไพรหา............หลงทีป
ฤๅเที่ยวเพลินหลงคุ้ม.............ต่างบ้านพารา
๑๕๘. กลับมาเถิดนุชน้อย........ขวัญคูณ
กลับสู่คิงมาพูน......................ลาภล้น
เงินทองยิ่งสมบูรณ์.................นาแม่
เสพสุขสมบัติต้น...................ดอกแก้วแวววาม
๑๕๙. ชุดงามสวยยิ่งผ้า...........แพรพรรณ
ขวัญแม่เชิญเลือกสรร.............แต่งแล้ว
จักง่ามยิ่งสำคัญ....................งามกว่า  ใครเลย
รัตนชาติยิ่งแก้ว.....................ค่าล้นดุจดาว
๑๖๐. อาหารคาวก็พร้อม..........มากมวล
ปลาแต่งแกงอ่อมควร..............แซบล้น
ปลาปิ้งย่างเชิญนวล...............ลองเลือก แลนา
แกงไก่ลาบหมูค้น..................แบบต้นตำรา
๑๖๑ ของหวานมาต้มเผือก.......หัวมัน
ข้าวปาดกะทสรร....................ใส่อ้อย
ข้าวเปียกยิ่งพอกัน..................หอมอร่อย
มันลูกเห็บไม่น้อย...................เชื่อมแล้วชอบใจ
๑๖๒. นานาผลหมากไม้...........เตรียมมา
หมากบกหมากไฟหา...............จัดพร้อม
หมากโอหมากหนุนครา.............สุกหง่อม
แตงสุกบักโมล้อม....................หมากพร้าวลำไย
๑๖๓. เฉลิมฉลองในเมื่อน้อง...กลับมา
สระสนานนาถขวัญตา.............เรียบร้อย
ชาวเมืองร่มเย็นครา.................จิตอิ่ม เอมแล
ขวัญนุชโนราห์น้อย.................พี่น้องชื่นชม
๑๖๔.  ยินดีขมซ่อนไว้..............อกครม
เป็นห่วงพระพี่ปม....................ศึกสู้
เงียบงันข่าวระทม...................นักยิ่ง
ยามกลับหากทรงรู้...................อยู่ได้ฉันใด

สุธนมโนราห์ ยกที่ ๖ บทที่ ๑๖๕..๑๙๕ (๒๔ ธค. ๒๕๖๒)
ร่ายสุภาพ
๑๖๕. สมัยเจ้าสุธน..ประจญศึกต่างเมือง...เรื่องคุกคามเขตแคว้น
รุกเขตแดนปกป้อง.....ยกทัพจ้องระวัง....ว่ากล่าวยังแม่ทัพ
พึงกลับใจอย่าราน......วานหยุดรบต่อยตี....จักมีคนล้มตาย
ฝ่ายเรามีกองทัพ...พร้อมสรรพทั้งช้างม้า....ศาตราวุธพร้อมมรรพ
เพียงพอรับศึกใหญ่......มีไว้ป้องกันเมือง....มิใช่เรื่องเกรงกลัว
หากท่านมัวข่มเหง...เรามิเกรงกลัวดอก.....นอกจากทหารกล้า
บนเวหาเราก็มี......พลราวีกินนร.....บินร่อนเกาะยอดไม้....ยิ่ง
ช่วยได้นับน้อย......มิใช่น้อยธนู.....จู่โจมจากยอดไม้...ให้ฟัง
เสียงเขาโห่....เสียงไชโยโห่ฮิ้ว......บิ่นร่อนพริ้วไปมา....น่าหวด
กลัวธนู......ยิ่งขู่ปักเต็มหน้า.......ทหารกล้าก็หด....อดมิได้ระรัว
บ้าสั่นกลัวยอมถอย....มินานเรียร้อยเลิก....เศิกสงบเลิกรากัน
สบสันต์สองฝ่ายอ้าง......ถอยห่างกันสองข้าง  บ่ต้องรบรา
๑๖๗. ศัตรูมาเลิกสิ้น.......กลับไป
ดับง่ายหน่อยหนาไฟ........หมดเชื้อ
ผืนดินหมดเภทภัย...........การศึก
ถึงคราวกลับการเอื้อ.........กลับได้สบายใจ
๑๖๘. ยินดีพลไพร่ได้.......กลับกัน
ศึกหย่ายินดีสรรพ์............ทั่วถ้วน
สักเดือนหนึ่งคงทัน..........บุญใหญ่
เดือนหกยินดีล้วน............ใช่แล้วมีงาน
๑๖๙. เทศกาลเขาจุดบั้ง......ไฟแรง
แบบจินายดัดแปลง.............หลากแท้
ตะไลน่าดูแสง..................ควันส่ง งามแฮ
ดังหน่อยกระโพกแล้...........ทุกโป้งหนอกรรม
๑๗๐. บางคนทำพลุให้.......แคกดัง
สาวแส่มิระวัง...................ชอบได้
แอบจุดระเบิดปัง...............สาวตื่น
ตกตั่งเขาคึกครื้น...............ชอบได้แกล้งคน
๑๗๑. กระบอกกลใหญ่บั้ง......หมื่นแสน
ทำยากเขาอิดแกน.................ระเบิดไว้
ดินดำหนักหมื่นแทน..............เรียกใหญ่
สิบเท่านับแสนได้..................ต่างโอ้อวดยิน
๑๗๒. ดินประสิวยากแท้..........เสาะหา
มีแหล่งในหุบผา....................หลืบถ้ำ
อีเจียถ่ายมูลมา......................กองท่วม แลนา
คนจับกรองเอาน้ำ..................กลั่นก้อนไวไฟ
๑๗๓. โพแตซไนเตรทอ้าง........นามสาร
พวกเราใช้มานาน....................อยู่แล้ว
ดินปืนที่เรียกขาน....................คือหมื่อ
ทำจากมันไม่แคล้ว..................เก็บไว้ยิงปืน
๑๗๔. ยืนยันดินขับบั้ง.............ไฟกัน
มีถ่านและมาดสรร...................สูตรใช้
เขาเรียกหมื่อสำคัญ.................อัดแน่น
อัดกระบอกเขาทำได้................จุดได้บั่งไฟ
๑๗๕. สนุกกันยามได้...............เล่นมัน
จุดเล่นก็สบสันต์......................อยู่บ้าง
สนุกมากที่สำคัญ.....................ไหแกลบ
มีแต่สาโทอ้าง.........................จัดไว้ฉลองงาน
๑๗๖. ช่างไฟหาญเหล้าน้อย........แรงทำ
ทำหมื่อบ่แรงกรรม.....................เมื่อใช้
จุดดูซุยากนำ...........................โยนบก
จับช่างโยนบวกน้ำ....................หมื่อเจ้าบ่แฮง
๑๗๗.  ช่างไหนแจงหมื่อได้.........แรงดี
ยามจุดพุ่งไปมี.........................ฤทธิ์กล้า
แลลิบลิ่วขึ้นที..........................แหงนส่ง ตามแล
เก่งช่างเก่งบ่ช้า........................กลั่นน้ำรางวัล
๑๗๘.สุราขาวกลั่นแล้ว...............ฤทธิ์แรง
พวกช่างเขาชอบแปลง................เก็บไว้
บั้งไฟซุแสวง............................เอาแจก
มาดื่มสองแก้วให้.......................ผ่องแผ้วมันสมอง
๑๗๙. ตรองสูตรหมื่อจักได้.............พอดี
พลุตะไลมิมี.............................พลาดได้
บั้งไฟช่างจุดที.........................มันพุ่ง แลนา
มิหล่นลงโคลนไซร้....................รีบแก้ตัวเอา
๑๘๐. สนุกเขาเล่นได้................งานบุญ
พวกเหล่าทัพกองหนุน................กลับแล้ว
จอมทัพท่าการุณ.......................ปลดปล่อย กันแล
ตัวท่านกลับวังแผ้ว.....................ผ่องแผ้วเรียกหา
๑๘๑. โนราห์เมียมิ่งแก้ว..............หายไป
นางมิมารับใย...........................แปลกแท้
ทราบเรื่องบ่สนใจ.....................ซักสิ่ง
จักออกตามเมียแล้....................ปล่อยทิ้งเวียงวัง
๑๘๒. ยังเวียงรับเรื่องรู้................อันตราย
ปุโรหิตโทษถึงตาย....................กบฏแท้
ปองฆาตนาถชีพวาย...................ดับแน่
ดีที่นางรู้แก้...............................หลบพ้นบังเอิญ
๑๘๓. กรมเมืองเชิญเรียกพร้อม.......ลงทัณฑ์
เห็นชอบประหารพลัน....................เยี่ยงนี้
หกคนที่รวมกัน..........................กบฎก่อ
จำเพาะตัวไม่ชี้..........................โทษด้านลูกเมีย
๑๘๔. ธรรมเนียมเสียล้างโคตร........ประหาร
ดีที่พระสงสาร............................ผ่อนให้
ครอบครัวรอดภัยราน....................ดับชีพ
เข็ดหลาบอย่าทำไซร้...................ลบล้างเจ้านาย
๑๘๕. ลงโทษหายจบสิ้น...............รำพัน
นวลนุชโบยบินกัน........................ก่อนนี้
เคยไปหิมวันต์............................เทียวท่อง
คงกลับไปหลบลี้.........................อยู่บ้านเมืองตน
๑๘๖. เสียดายคนห่างแท้...............ทางจร
จักคามหางามงอน.......................แม่นั้น
ไปเมืองชื่อกินนร.........................ไกลโน่น
ยินชื่อหิมพานต์กั้น.......................จากนี้แสนไกล
๑๘๗. ถึงไหนมิย่อท้อ...................จักไป
เมียรักอยู่หนไหน.........................นาถน้อง
จักคามคิดทรามวัย.......................ขวัญแม่
ไกลกว่าไกลจักต้อง.....................ดุ่มดั้นไปหา
๑๘๘. พระเสด็จมาจากบ้าน..........ห่างไกล
ทุกกิจมิสนใจ...........................ห่วงน้อง
โนราห์ธห่วงใย..........................นักยิ่ง
ขวัญพี่เรียมจักต้อง......................รับเจ้างามงอน
๑๘๙. แรมรอนโดดเดี่ยวได้..........ลำพัง
บุกป่าฝ่าดงยัง...........................รกล้ำ
หมายไปที่เนาว์ยัง......................หิมเวศ
เมืองแห่งกินนรก้ำ......................ฝ่ายโน้นแดนไกล
๑๙๐. ล่วงไปเขตหิมพานต์....ได้พบท่านดาบส.....ปักกลดริมลำธาร
ได้กราบกรานยินดี......ท่านมีคำปราศัย......จักมุ่งไหนพ่อคุณ
บุญแล้วได้พบกัน.....จักผายผันทางไกล.....ไปกินนรบุรี....จาก
นี้ไปหลายวัน......มาฉันจักไปส่ง.....จักไม่หลงทางเดิน บังเอิญ
รกป่านี้.....มีพวกเครือเขาหลง.......หากก้าวตรงข้ามมัน......พลัน
เจ้าจักลืมหน......เดินวนมาที่เก่า.....เอ้านี่ดูจำไว้....เถาและใบ
อย่างนี้....จำอย่างที่ตาชี้......จักได้ปลอดภัย.....
๑๙๑.  ล่วงเขตไม้ดงหนา....เข้าเขตป่าดงใหญ่...นั่นไม้กะแลปู
อยู่ชิดกันก้นกรอง...มองเลยไปกลึงกล่อม....ต้องค้นคงคาเดือด.
งามต้นเหมือดชุมแสง.....แข็งดีระฆังเงิน....งามเกินต้นส้านหลวง
ดอกเป็นพวงปอดับ....งมสลับหูช้าง....บ้างตาเป็ดตาไก่...ไม้หว้า
หมากขมพู.......ชิมดูดีปากม่วง.....ดกพวงมะขามป้อม....เดินอ้อม
ไปสมอ....ต้นก้อกรองแจงแก้ว....มะค่าแล้วมะพอก...มะกอกกร่าง
จันแดง......จันผาแซงเสียดฟ้า.....เกาะยอดเขาเด่นหล้า
อวดต้นงามตา แลนา
๑๙๒.  ปู่ปักษาพวกนี้.................นามใด
อสูรปักษาไง............................พวกนี้
วายุพักตร์ถัดไป........................เป็นกลุ่ม
เพราะการเวกชี้.........................ร่ำร้องเพราะเกิน
๑๙๓.  นกหงส์เหิรร่อนร้อง...........ผ่านมา
โฉบเฉี่ยวงดงามตา....................ลักษณ์ล้ำ
นกยูงห่างไปหนา......................หงส์หยิ่ง นักแล
นาคปักษีแปลกย้ำ......................นกแล้วนาคแกม
๑๙๔. นกหัสดีแนมช้าง...............ดูเศียร
หางกลับเหมือนหงส์เพียร.............เทพสร้าง
พลังยิ่งคชเวียน.........................สามเชือก
มาลากดึงดูบ้าง.........................พ่านแพ้หัศดี
๑๙๕. มีสดายุนั้น....................ฤทธิไกร
คือพญาปักษีใน.........................ป่ากว้าง
ตนหนึ่งเรื่องเล่าใน......................รามเกียรติ
ขวางทศกันที่อ้าง......................ปกป้องสีดา
สุธนมโนราห์ ยกที่ ๖ บทที่ ๑๖๕..๑๙๕ (๒๔ ธค. ๒๕๖๒)

สุธนมโนราห์ ยกที่ ๗ บทที่ ๑๙๖...๒๒๖ (๒๕ ธค. ๒๕๖๒)
๑๙๖. ยักษาปาด้วยแก้ว................ธำมะรงค์
บาดเจ็บพระรามทรบ....................พบแล้ว
ขอบคุณที่ช่วยตรง......................ขวางยักษ์
เจ็บหนักเกินยากแคล้ว...................ดับสิ้นวายปราณ
๑๙๗. กินนรีรวมกลุ่มข้าง..............กินนร
ไกรลาสเชิงสิงขร........................แถบนั้น
ทุมราชนคร...............................เมืองใหญ่
คือถิ่นโนราห์ดั้น.........................ดุ่มดั้นคืนเรือน
๑๙๘. นกครุฑมีถิ่นยั้ง.................หิมวันต์
วังอยู่ยอดผาสรรพ์......................เสกไว้
มีฤทธ์เวทสำคัญ.......................บินคล่อง
เที่ยวท่องบนฟ้าได้....................ล่วงล้ำเมฆา
๑๙๙. ปักษีนามเทพห้วย.............หิมพานต์
นามนาคอินทรีขาน....................อยู่พร้อม
สดายุยินนาน............................รามเกียรติ์
เคยขัดขวางยักษ์ล้อม..................ช่วยเจ้าสีดา
๒๐๐.ทศกัณฐ์แหวนถอดขว้าง.........นกไป
สดายุบรรลัย..............................ชื่อนี้
เป็นนกถิ่นอาศัย.........................หิมเวศ
นามสดายุชี้..............................เผ่านี้สกุณา
๒๐๑. ดำเนินไปย่านนี้.................ลำธาร
ใสส่องเห็นหาดปาน...................ลาดแก้ว
มัจฉาแปลกพบพาน...................หลากจิต
ดาบสท่านบอกแล้ว.....................กลับได้ลืมเลือน
๒๐๒. เหมวาเรศนั้น....................มัตสยา
สองมัจฉนาคา...........................ใช่แล้ว
สามกุญชระวา-.........................รีเลิศ แลนา
สี่มัจฉวาฬแก้ว..........................เล่าอ้างงดงาม
๒๐๓. ปลาควายปลาเงือกอ้าง........ยังมี
ศฤงคมัจฉาดี............................อยู่น้ำ
แปดปลาเสือวารี........................ในเขต
หิมพานต์แปลกล้ำ......................แต่ล้วนพวกปลา
๒๐๔.  จำแต่พบดาบส.....ปรากฏข่าวโนราห์.....เธอแวะมากราบไหว้
ยังได้ฝากธำมรงค์....ผ้าอนงค์กัมพล.......บอกจนจักกลับเมือง
ฝากถึงเบื่องพระบาท.......อาชญาพรุสุธน....ตนเป็นพระสวามี
หากมีใจอยากตาม....ยากดงหนามเขาเขีน...ลำบากเดินป่ารก
อาจตกหุบเหวเขา......เหล่าสัตว์ร้ายนานา.....ขอธอย่าไปเลย
บุญเคยร่วมสร้างมา.....หมดผลาแล้วหนอ.....ขอทรงย้อนกลับมือง
อย่าได้เคืองขุ่นหล้า...หากแม้มีชาติหน้า...เกิดร่มใบบุญ ขอบคุณ
ท่านหลวงปู่.....ได้รับรู้ข่าวน้อง.....อกแทบต้องสลาย โอ้สายใจ
นุชน้อง....ยินว่านางร่ำร้อง......โศกเศร้าจากจร แม่เอบ ฯ
โคลงสองสุภาพ
๒๐๕.  ดูแหวนดังพบหน้า.........รำลึกถึงนุชหล้า
พี่นี้โศกตรอง แม่เอย
๒๐๖. พวงพยอมแน่งน้อย.........ความสั่งความยอดสร้อย
ดั้งเจ้าเรียกหา  แม่เอย
๒๐๗. ใครขวางคำอย่าห้าม........เขาตั่นเรียมจักข้าม
ดุ่มดั้นตามหา แม่เอย
๒๐๘. ทะเลหรือลุ่มน้ำ....กว้างกว่าไกลด้วยซ้ำ
บ่ได้หวั่นเกรง แม่เอย
๒๐๙. หนหนามแหลมกีดกั้น......คงเดินยากจักดั้น
แต่อ้ายบ่กลัว แม่เอย
๒๑๐. ลำธารเป็นกรดไหม้..........ตายดับมากมายได้
บ่ได้นึกกลัว แม่เอย
๒๑๑. ผ่านไปดงไม้พิษ.........กินจักติดเร่าร้อน
ลืมกลับคืนมาย้อน.........บ่ได้ไปไกล
โคลงสามสุภาพ
๒๑๒. ภูเขาดังมีมนต์...บีบคนดับหวีดร้อง..โดนบีบแหลกแน่ต้อง
ดับสิ้นลมปราณ
๒๑๓. ทุกด่านฃือทีภัย....คงเพราะใจต่อตั้ง...เดินทางมิพลาดพลั้ง
ผ่านได้ปลอดภัย แลนา
๒๑๔. เขตขวางทางต่อหน้า....ดาบสว่าหนองบึง....พอมาถึงนึก
ได้...ล้วนน้ำใสสะอาด...ท้องน้ำดาดทรายแก้ว....มองให้แล้ว
ท้องธาร....ปูปลาผ่านแปลกตา....ท่องตำราดาบส..ที่ปรากฏ
สีหัปปา....โน้นมัณฑากิณี......น้ำสีเขียวมรกต....สดสวยนัก
บัวเบ่งบาน.....งามตระการกุณาตะ......สระที่น้ำใสเย็น น่าลงเล่น
สระสรง....ตรงนั้นคือฉัททันต์......สระสำคัญเทพไท....ไปเล่น
ธารบ่อยบ่อย......มิใช่น้อนรถการะ.....สระดอกไม้งามงด....ปรากฏ
มีกลิ่นหอม...สาวสาวดอมดมนัก.....มีคนรักมากัน สระกัณณมุณฑะ
สุดท้ายอโนดาต....งามพิลาสพิไล....น้ำใสเย็นกลิ่นหอม
น่าดมดอมยิ่นัก ใครก็รักจักสรง เหล่าอนงค์กินรี...หนีมาเที่ยวกัน
บ่อย....รวมถึงน้อยมโนราห์...นางก็มาสระนี้.....ลองแอบซ่อน
ตรงนี้ อาจได้พบเจอ แม่เอย
สุธนมโนราห์ ยกที่ ๗ บทที่ ๑๙๖...๒๒๖ (๒๕ ธค. ๒๕๖๒)
๒๑๕. ยามเย็นชักเหนื่อยล้า.........เที่ยวท่องสุดขอบฟ้า
หมดแล้วเรี่ยวแรง
๒๑๖. แญงหาที่หลับได้......พักนอนแถวที่ไกล้
อยู่ไต้ร่มโพธิ์
๒๑๗ นโสกันอยู่ได้........นอนอยู่รังชิดใกล้
ดั่งแกล้งส่งเสียง
๒๑๘. จำเรียงเมียนกร้อง.....ตาเฒ่าฟังคำน้อง
พรุ่งนี้เขาเชิญ
๒๑๙. กินนรเกินอยากอ้าง.....จัดทำกิจชะล้าง
สาบให้โนราห์
๒๒๐. เขาว่าไปอยู่บ้าน.......เมืองอื่นคนเป็นล้าน
กลิ่นล้วนสาบสาง
๒๒๑. นางยังชมชื่นชู้........ผัวนั่นคนเขารู้
ชื่อเจ้าสุธน   แม่เอย
๒๒๒ ลิ่นคนติดต้อง.......ในนอกพระนุชน้อง
ชะล้างกลิ่นคน
๒๒๓. จนเช้าคงมาแล้ว......มาหาบน้ำสระแก้ว
ส่งให้พราหมพิธี

๒๒๔. พระสุธนนึกรู้.............เรื่องราว
นกคู่ผัวเมียคราว.................พรุ่งนี้
คงไปร่วมชมชาว.................เมืองจัด กิจแฮ
๒๔๐ เมืองแห่งกินนรชี้.................จักต้องตามไป
๒๔๑ ๒๒๕. พระสุธนเทียบด้าน.......อินทรี
๒๔๒ นกยักษ์หิมวันต์มี..................ปีกกว้าง
๒๔๓ ซุกปีกซ่อนตัวดี....................มีตื่น ตัวแล
๒๔๔ เกาะซ่อนไปด้วยอ้าง.............เปรียบด้วยเหาะเหิร
๒๔๕ ๒๒๖. จากรังมิช้านัก..............พลันถึง
๒๔๖ ไกรลาสที่หมายจีง................กลบเร้น
๒๔๗ อโนดาตก็พึง......................มิห่าง
๒๔๘ ลัดเลาะมาตื่นเต้น.................ใครได้เห็นนาง

สุธนมโนราห์ ยกที่แปด บทที่ ๒๒๗---๒๕๗
๒๒๗. เสียงสาวเซ็งแซ่ร้อง......บินบน
คือกล่มกินรีวน......................ร่อนล้อม
กินนรติดตามจน....................ทันที่ สระแล
เสียงเล่นกันพรักพร้อม.............ร่ำร้องเพลงเพลิน
๒๒๘. พระย่องไปอยู่ใกล้..........ชอบชล
ชมเหล่ากินรีวน.....................เล่นน้ำ
ฟังคำที่พูดจน.......................แปลกยิ่ง
ยามบ่ายวันนี้ซ้ำ.....................จัดล้างโสดสรง
๒๒๙.  แอบนำแหวนหย่อนให้....ลงโอ
เขาส่งน้ำคนโฑ......................แก่น้อง
วอนเทพช่วยมโน....................ใจส่ง แลนา
ดลแม่พบแหวนต้อง.................จักได้พบกัน
๒๓๐. สาวสรรมาตักน้ำ.............กลับไป
นำส่งคณโทไว.......................เรียบร้อย
เทลงที่รางไหล.......................ลงซุ้ม อาบแล
เติมใส่ผงจันทน์สร้อย...............เสกให้หอมหวล
๒๓๑. เชิญนางไปนั่งซุ้ม.............กลางลาน
ตกแต่งงดงามปาน...................ที่ห้อง
ประดับบุษบาบาน....................หอมกลิ่น
ผองพี่ขัดนวลน้อง....................วีดว้ายสุขสันต์
๒๓๒. บัดดลแหวนหล่นคล้อง.....นิ้วนาง
เออนี่แหวนใครช่าง...................สอดคล้อง
พอดีพี่ดูทาง...........................นอกหน่อย
แหวนนี่สามีน้อง.......................แน่แท้สวมมา
๒๓๓. ดีใจโลดนอกซุ้ม..............จักไป
เขาฉุดอย่าทรามวัย....................ล่อนจ้อน
เขาเห็นหัวร่อใคร.......................จำเล่า แม่เอย
สวมใส่เสร็จอย่าร้อน..................รีบร้อนทำไม
๒๓๔. เซ็งแซ่เสียงยั่วเย้า............ทรามวัย
คนอื่นรู้ก่อนนัย........................แบบนี้
ผัวมาแน่สายใจ........................ของพี่
ทำหยิ่งลองหลบลี้.....................อย่าให้แลเห็น
๒๓๕.  มามาตบแต่งให้...............งดงาม
ผิวผ่องขัดมะขาม.......................เรียบร้อย
จับจีบนุ่งโจงยาม.......................ยกย่าง
สง่างามใช่น้อย........................นิ่มน้องมะโนราห์
๒๓๖. สมควรพวกพี่เอื้อย............ปล่อยไป
พบพี่พบกันใน..........................ที่ซุ้ม
เงียบงันบ่มีใคร..........................จักเอ่ย
สองกอดกันพี่อุ้ม.......................โอบอุ้มอ่อนอร
๒๓๗.  เนตรสบเนตรนิ่มน้อง.........นุชนวล
ปรางแนบปรางเชิญชวน................ชื่นชู้
เขาปละปล่อยสองสรวล................สองค่อย  พูดแล
เปิดอกเผยให้รู้...........................รักล้นท่วมใจ
๒๓๘. สองพาไปพบเฝ้า...............บิดา
สองกราบขอขมา.........................เล่าอ้าง
เรื่องราวก่อนพบพา.......................เคึยงคู่
พระเมตตาเสกสร้าง......................จัดให้ตามควร
๒๓๙. เดินทางถึงถิ่นนี้..................ยากเย็น พ่อเอย
คงจักมีบุญเป็น...........................แน่แท้
ขอสอบใคร่จักเห็น.......................คุณค่า
บารมีจริงแล้...............................อยากรู้ใคร่เห็น
๒๔๐.  ประการแรกนี่นั้น.................ทรงพลัง
คนคู่บุญกันยัง.............................อวดได้
ถัดไปเรื่องรบฟัง...........................ว่าเก่ง
เรื่องอื่นรอก่อนไซร้.......................อยากได้ทดลอง


สุธนมโนราห์ ยกที่ ๙ บทที่ ๒๔๑-๒๖๓ (๒๙ ธค. ๒๕๖๒)
ทดสอบความทรงพลังของพระสุธน และความสามารถในการยิงธนู ผลการทดสอบ
ผ่านด้วยบึญบารมี สุดท้ายทดสอบความจำนางว่ามโนราห์คนไหน เมื่ออยู่ท่ามกลาง
พี่เลี้ยง เพราะทุกนางรูปร่างหน้าตาเหมือนกันมาก
๒๔๑. แผ่นหินหนาหนักล้น.............สนามกลาง
เขาลากมาจากทาง........................ทิศใต้
สองเชือกช่วยดึงปาง......................คชเลื่อน มาแล
ลองหน่อยหากเลื่อนได้..................เก่งแท้เกินคน
๒๔๒. กังวลยินที่อ้าง.....................ทดลอง
บุญที่เพ็ญตามคลอง......................เลิศแล้ว
โพธิสัตว์ตริตรอง..........................บุญช่วย
อธิษฐานจิตแผ้ว..........................แกร่งกล้าพลังฌาน
๒๔๓. ขยับหินติดที่เบื้อง................หัตถา
ยกลิ่วปลิวตามมา..........................คล่องแท้
ลองโยนยิ่งไกลตา........................ดูช่าง เบาแล
เป็นเพราะบุญนั่นแล้......................เสกสร้างแกร่งพลัง
๒๔๔. นักรบชาญศึกต้อง................เก่งธนู
คันหนักหนานักดู.........................ยากแล้ว
ลองยกกลับง่ายชู.........................เล็งปล่อย
ล่วงลำตาลไม่แคล้ว.....................เจ็ดต้นลุทะลวง
๒๔๕.  ยอมยอมยอดเยี่ยมแท้.........สุธน
กินรีแผกคน...............................ไม่น้อย
งามรูปร่างดูจน............................มิต่าง
ยากยิ่งจักแยกสร้อย......................บอกได้คนไหน
๒๔๖. ทุกนางรูปร่างคล้าย..............ครือกัน
แผกต่างพูดจาผัน.........................แผกบ้าง
จรรยายิ่งแผกสรรพ์.......................อาจบอก ได้แล
ยามอยู่นิ่งยากอ้าง........................นี่น้องนามใด
๒๔๗. ทดสอบดูว่าเจ้า................จำดี
ไหนเล่ามเหสี............................กลุ่มนั้น
โนราห์อยู่ปนมี...........................ในกลุ่ม
จงจับนางออกกั้น........................แยกให้เราดู
๒๔๘.  พระสุธนอัดอั้น..................ตันใจ
เพียงแค่มองทรามวัย.....................พี่น้อง
หกนางยิ่งสดใส...........................งามสง่า
ยากยิ่งจับให้ต้อง.........................นั่นน้องคนไหน
๒๔๙. มองกลุ่มพระพี่เลี้ยง.............สำคัญ
มิต่างงามผิวพรรณ........................รูปหน้า
รวมกลุ่มมิจำนรร..........................ยากบอก
ไหนเล่าเธอน้องหล้า.....................นั่งลี้อยู่ไหน
๒๕๐. รอยบุญเคยร่วมสร้าง.............บารมี
อินทร์ท่านจึงปรานี........................บอกให้
แมงวันจับนวลศรี...........................สังเกต
จักจับนิ้วนางไซร้............................นั่นแล้วโนราห์
๒๕๑. พระสุธนทราบแล้ว...............ตริตรอง
นางหนึ่งแมงวันจอง......................จับแล้ว
ทรงบอกนี่คู่ครอง..........................เราแน่
นางใชโนราห์แก้ว........................มิ่งแก้วจอมขวัญ
๒๕๓. ชัยโยเสียงโห่ร้อง................ชื่นชม
พระสุธนท่านสม..........................คู่สร้าง
เขาซุกเนตรช่างคม.......................ดูออก
บอกแน่ชัดท่านอ้าง.......................นี่แล้วโนราห์
๒๕๔. ปทุมราชเจ้า.......................ยินดี
ชมชื่นสุธนมี................................เดชกล้า
ควรคู่กับนวลศรี............................เสริมส่ง
พระส่งเสริมสองหล้า......................แต่งให้ครองเมือง
๒๕๕. รับสั่งการอภิเษก...เอกอัครมเหสี.....มีนามมโนราห์...องค์
ราชาศรีสุธน.....มิกังวลเวียงวัง......จักกลับยังธานี....เมื่อที่ครอง
อยู่เดิม....เพียงเติมพระรานี....เฉลิมศรีมโนราห์......เคียงราชา
สุธน..สองคนจักครองเมือง....ให้รุ่งเรืองวิไล.....เกริกเกรียงไกรกำจร
กระฉ่อนทั่วแดนดิน....ยืนเล่าคุงขอบฟ้า....พระเจ้ากล้าแกร่งเกิน
ชนสรรเสริญทั่วทิศ.......ปัจจามิตรระย่อ....จอมทัพก็เกริกไกร
ครองไอศูรย์เสกสรรค์.....ดังสวรรค์แต่งให้......บุญส่งมาจึงได้
ครอบบ้านครองเมือง แลนา
โคลงสองสุภาพ
๒๕๖. จึงพระสุธนราชเจ้า.......ทรงจักเสด็จเข้า
สู่บ้านเมืองเดิม แลนา
๒๕๗. เสริมศรีทูลพี่เจ้า........นางจักตามต่อเท้า
เยี่ยมบ้านพี่นา
๒๕๘. ปรีดานักยอดชู้.......ไปร่วมทางพี่รู้
ยากแท้ทางไกล
๒๕๙. นางใคร่ตามติดต้อย.......ดียิ่งนักแล้วน้อย
มิ่งแก้วเมียขวัญ แม่เอย
๒๖๐. พระสรรทัพหมู่ม้า..........นำก่อนเดินอยู่หน้า
ต่อด้วยหลาวพลอง
๒๖๑. กองหลวงสามรถม้า......ตามมาปืนผู้กล้า
ปิดท้ายพลธนู
๒๖๒. ชมดูดังจักต้อง........ออกศึกพลร่ำร้อง
โห่ฮิ้วเอาชัย
๒๖๓.  เดินทัพไปเยี่ยมบ้าน......อวดโอ่รบจริงคร้าน
เงียบไร้ส่งเสียง

โคลงสาม
๒๖๔.  พระสุธนสู่บ้าน............ถึงเมือง
กราบท่านบิดาเคือง................อยู่บ้าง
หายไปเนิ่นนานเปลือง.............ใจยิ่ง นาพ่อ
เออนั่นใครเคียงข้าง................ผ่องแผ้วงดงาม
๒๖๕. มโนราห์กราบเท้า...........บิดา
กระหม่อมคือภรรยา..................ท่านไท้
ฝากตัวท่านมารดา...................ขอกราบ
โปรดแนะนำด้วยไซร้................ขะน้อยยินดี
๒๖๖. สองเฒ่าหลากจิตแท้........งามนัก
งามยิ่งหนอผ่องพักตร์................ถิ่นนี้
หาใครเทียบนงลักษณ์...............คงไม่ มีแล
งามแม่งามทีปนี้.......................หนึ่งเจ้าคนงาม
๒๖๗. ตายายรับสะใภ้...............ยินดี
ฮักยิ่งเอ็นดูมี...........................จิตเกื้อ
แพรพรรณรัตน์มณี.....................มากค่า
นำออกรับขวัญเอื้อ....................อ่อนน้อยฮักแพง
๒๖๘. รับขวัญสองลูกน้อย..........ปรีดา
สมโภชทั่วพารา........................ทั่วถ้วน
ฝูงชนแห่กันมา.........................ชมชื่น
ลือว่านางงามล้วน.....................ต่ำใต้ใดปาน
๒๖๙. อยากชมโฉมนาถน้อง........มโนราห์
ลื่อว่าโฉมสุดา.........................ลักษณ์ล้ำ
งามจริตจรรยา.........................ยอดยิ่ง
งามกว่าใครทุกก้ำ.......................ต่ำใต้ฤๅเทียม
๒๗๐. อภิเษกเจ้าราช..................ศรีธน
พระผ่านปัญจาลคน.....................นอบน้อม
โนราห์คู่เคียงตน........................องค์ราช
เถิงรัชย์ชนแห่ห้อม......................ชื่นท้าวไชโย
๒๗๑.  พระบิดามอบให้................บัลลังก์
เคียงคู่ครองเมืองยัง.....................เรียบร้อย
ทวยราษฎร์ต่างสมหวัง.................ฮักยิ่ง
กิจราชการใหญ่น้อย.....................ผ่านพ้นเรืองรอง
๒๗๒.  สืบสันตติได้....................ยาวนาน
สุขสวัสดิเริงสราญ.......................เลิศล้น
ทศพิธราชธรรมงาน.....................เจริญยิ่ง
เผ็นเพราะบุญล้นพ้น.....................ส่งให้จรูญเจริญ
๒๗๓ อวสานบทบั้น.....................บรรยาย
พระสุธนเสร็จดังหมาย...................ก่อนข้าม
ถึงปีใหม่วิวาย..............................วิตก แลนา
เกรงบ่จบนึกคร้าม..........................อาจต้องเดินจร
๒๗๔. แวะเวียนหาพี่น้อง.................เทศกาล
ปีใหม่ใจเบยิกบาน..........................มากแล้ว
ทางไกลจดรายการ.........................จักเที่ยว เยือดแฮ
ยามพี่สาวมิแคล้ว...........................อาจต้องวางมือ
๒๗๕. ยังดีจบเรียบร้อย....................มโนราหฺ
อีกหน่อยเสริมวิชชา.......................รอบไว้
ปริวัตรชาตินั่นหนา.........................เดิมท่าน
เติมต่อตอนจบให้...........................ส่งท้ายพรรณนา
๒๗๖. อาทิตยะปัญจาล......คือท่านสุทโธทนะ..พระนางจันทานั้น
สรรค์มหามายา....ส่วนราชาทุมราช.....คือตนอาชญ์สารีบุตร.....
สุดยอดพระดาบส...ปรากฏเป็นกัสสปะ.....นาคราชบาดาล...
คือท่านโมคคัลลาน์....ตาพรานคืออานนท์....คนร้ายปุโรหิต
คิดร้ายเทวทัต....โนราห์ชัดคือพิมพา....ส่วนตถาคตสุธน  คน
เทศนาชาดก....ยกมาสอนไว้ดี...คือพระศรีสุคต...เพียงจำจดมาเล่า
ผิดพลาดบาปอย่าเข้า.........อย่าได้วุนวน แลนา
๒๗๗.  ธันวาสองเก้าจบ........นิทาน
พระสุธนแปลสาร.................เสกไว้
ลิลิตยากนักงาน...................ยากยิ่ง
เอาอย่างง่ายมิได้..................เร่งร้อยบทกลอน
๒๗๗. อักษรจารแต่ต้น...........พากเพียร
ตาเฒ่าขุนทองเขียน...............แต่งได้
บันทึกบ่จำเนียร....................วันเริ่ม
ที่สิบเก้าจริงไซร้...................เริ่มต้นธันวา
๒๗๘. นับมาครบสิบได้...........คือวัน
โคลงร่ายปะปนสรรพ์...............หลักร้อย
นับสองเศษสำคัญ..................แปดสิบ
คาดจักจบคำสร้อย.................บทนั้นแน่นอน
๒๗๙. เขียนไปยากไม่น้อย.......ลิลิต
เพียงสิบวันลิขิต.....................รีบร้อน
คงบกพร่องพลาดผิด...............เกิดก่อ.....ง่ายแล
เตือนหน่อยวานสะท้อน...........ท่านผู้อ่านกลอน
๒๘๐. ถึงตอนจะหยุดแล้ว.........วางมือ
ตรวจบอกนามลงชื่อ.................เรียบร้อย
วันจบหล่นหายคือ...................ยี่สิบ เก้าแฮ
หยูดก่อนมิมีสร้อย...................จบแล้วธันวา
                                                                                                                                                                                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น