วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562

คิดถึงแม่นะ



......ใกล้วันแม่แห่งชาติ ๑๒ สิงหาคม นึกถึงแม่เราเอง พ่อผมชื่อจำปา ศรีประจง แม่ชื่อจ้อน ศรีประจง ดูชื่อก็เดาไม่ยากคนนอกเขตเมืองแน่นอน บ้านเกิดห่างจาก ตัวอำเภอกมลาไสย ไม่ถึงสิบกิโลเมตร แต่ปี 2491 อายุ 4 ขวบ แม่พานั่งเกวียน ตามพ่อไปอำเภอ รู้สึกมันไกลมาก พ่อได้รับมอบหมายจากลุงผู้ใหญ่บ้านให้ไปประชุมที่อำเภอ แทน เอาเกวียนไปบรรทุกเหล้าขาวมาขายด้วย ที่บ้านพ่อเป็นตัวแทนจำหน่าย พ่อขับเกวัยน แม่พานั่งในประทุนเกวียน นั่งกันได้ไม่นานเกิดอาการมึนเมาก็แบบคนทุกวันนี้เมารถนั่นแหละ ต้องลงเดินเท้าตามเกวียนไป คนเดินเป็นเพื่อนก็แม่ไง ข้อศอกแม่ห้อยตะกร้าหมากไปด้วยเพราะแม่ชอบเคี้ยวหมาก แต่เดินไปไม่นานแม่ก็เรียกให้ไปหา ป้อนข้าวกับชิ้นกวางย่างให้คำหนึ่ง ลุงไปป่าดงแม่เผด ได้เก้งกวางก็ทำเนื้อย่างรมควันมาฝาก แม่เก็บไว้ วันนี้เอามาป้อนลูก กว่าจะถึงอำเภอก็อิ่มแล้ว


                                                   เกวียนติดประทุน(หลังคา)

.....พ่อเป็นนักหาปลา เก่งหลายเรื่อง เช่นทำต้อนดักปลาด้วยการทำ ฝาเผียก ไปกั้นทาง น้ำไหล ให้น้ำไหลตกลงอีกฟากของคันนา เกิดเสียงดัง เรียกความสนใจของกุ้ง ปูปลา นึกว่าเสียงน้ำไหลลงลำห้วย เจอต้อนที่มีฝาเผียกกั้น ก็เลาะหาทางผ่าน มี แต่ช่องที่เจาะไว้ใส่ ลอบ ไซ ว่ายไปก็ถูกดักขังในลอบ ในไซ อันนี้เรียกต้อน ใกล้ ต้อนนิยมทำหลุมดักปลา จอบถากหลังคันนาลงใกล้ระดับน้ำ โคลนตมลาดละเลง ยังกะทาซีเมนต์ กลิ่นโคลนทำให้ปลานึกว่าอีกฟากคงเป็นแม่น้ำ พยายามปีนข้าม ก็เจอหลุมขุดดักไว้ หล่นลงไปก็ขึ้นไม่ได้ ตอนเช้า ๆ ไปเยี่ยมยาม ยังกับปลา เอาไปขังไว้  ที่บ้านมีปลาสดปลาย่างกินตลอดปีเราก็จดจำเอาวิธีจับปลาของพ่อมาใช้ไนเวลาต่อมา 



ต้อนดักปลา 

.....แม่ล่ะจับปลาเก่งไหม วันฝนตกปรอย ๆ ใกล้เข้าพรรษา ทุ่งนาข้าวเขียวชะอุ่ม แม่ชวนให้ตามไปทุ่งนาบอกจะไป ก่อง (ดัก) ปลา ด้วยผ้า แหย่ง คำนี้อีสานแท้ น่าจะออกเสียงได้ ตัว ยอ นาสิก ครับ เป็นผ้าฝ้ายทอตาห่าง ๆ ผ้าขาวธรรมดา ๆ แบบผ้าด้ายดิบ หูกที่ทอ ฟันฟืมจะถี่หน่อย แต่ถ้าจะทอ ผ้าแหย่ง เส้นยืนจะห่าง สองเท่าของฟืมทอผ้าขาวปกติ ผมเคยไปยืนเฝ้าแม่ สืบหูก เลยมีความรู้เรื่องพวก นี้ดี ทอเสร็จจะได้ ผ้าแหย่ง แบบ ผ้ามุ้งนั่นแหละ ผ้าแหย่งส่วนหนึ่งสงวนไว้ใช้เวลา ช้อนแมลง ช้อบกบเขียด ก่องปลา ช้อนปลา เห็นแม่จับปลาก็ตอนน้ำท่วมทุ่ง พ่อเสริมคันนา บังคับน้ำให้ไหลไปที่ต้อน เปิดข้าง ๆ ต้อน ให้แม่ก่องปลาด้วยผ้า แหย่ง ผ้าแหย่งสองผื่น ยาวสักห้าศอก ปากม้วนด้วยไม้ไผ่แล้วดัดโค้งปักส่วนโคง
กดลงคันนา ปล่อยน้ำไหลลงมีผ้าแหย่งเป็นทางน้ำไหล ปลายสุดแม่ผูกเป็นถุงมัดปลายที่หลักไม้ไผ่  ผมแย่งพี่สาว คอยตักเอาปลาที่ก้นถุง สนุกมาก เขาปล่อยให้เล่นครู่เดียวก็ต้องเลิก มันหนาว พ่อก่อกองไฟรอที่เถียงนา วิ่งไปหาพ่อ พ่อก็รู้ดี จี่ปู หอย ไว้รอ จ้างก็ไม่หนีไป ไหน หนาว นั่งผิงไฟ กินปูเผาที่พ่อแกะให้ อร่อยมาก ๆ

ก่องปลา

.....หายหนาววิ่งไปหาแม่อีก โอ้โห แม่กำลังคัดปลาอีด ตัวสีชมพู ออกจากปลา อื่น ๆ แม่บอกจะเอาไปทำ "ส้มปลาน้อย" ก็ปลาจ่อมนั่นแหละ เราก็ไปช่วยเก็บกุ้ง กินเล่น สักครูหนาวก็กลับมาผิงไฟอีก สักห้าโมงแม่ก็เลิก ได้ปลาครึ่งครุสำหรับ ปลารวม ปลาอีดได้ซักสองถ้วย ไม่นานก็มีส้มปลาน้อย(ปลาจ่อม)กินกัน สุดยอดความ อร่อย จำได้ไหมแม่ทำปลาจ่อม จำได้ดีแน่ เจอแม่ทำทุกปี พี่สาว 4 คน เขาทำเก่งทุกคน ส่วนเราลูกชายคนเล็กด้วยนะ ก็แค่จำว่าทำอย่างไร ไม่ได้ทำเองหรอก มีคนช่วย แม่ทำตั้ง 4 คน เราอันดับหก ไม่มีโอกาสได้ทำหรอก แล้วทำเป็นไหม ก็ทำได้สิ พวกพี่ ๆ ซะอีก ทำเป็นแต่โม้ไม่เป็น ส่วนเราหรือโม้เก่งแต่ไม่ค่อยได้ทำ ปลารวม แม่เอาไปทำปลาร้า ปลาจ่อมได้กินก่อน รสเปรี้ยว ๆ แม่จะแปลงก่อน ซอยหอม กระเทียม ขิง มะเขือขื่น ปนลงไป เพิ่มปริมาณปลาจ่อมด้วย ปรุงรสปรุงกลิ่นด้วย อ้อ ข้าวคั่วขาดไม่ได้ เวลากิน ถามหาพริกขี้หนูสวน มะเขือเปราะ ข้าวเหนียวร้อนๆ นั่นแหละสวรรค์บ้านทุ่งละ มันอร่อยมาก ยิ่งมีกุ้งปนซัก 5-10 เปอร์เซ็นต์ละก็เยี่ยม


ส้มปลาน้อย

ปลาแดก
......แม่เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นเยี่ยม กางเกงหัวรูด (หัวฮูด) คือกางเกงที่ต้องใช้ประจำแต่ตื่นนอน อ้อตอนนอนไม่ต้องใส่ มีผ้าห่ม แต่ผู้ใหญ่เขาใส่กางเกงนะ เราเป็นเด็กเปิดเผยดี เย็บเสร็จแม่ก็ย้อมครามให้ เป็นสีครามนั่นแหละ อ้อ คราม แม่ก็ทำเองนะ จอมปลวกใหญ่ ๆ ที่กลางนา แม่ปลูกครามไว้ ยังไม่พอที่สวน ก็มี เวลาครามโตเต็มที่สูงท่วมหัวเชียวแหละ ผมชอบไปเดินดูหาจับแมงแคงขาโป้ มันชอบมากัดกินยอดคราม มีเท่าไรไล่จับเอาหมด กินดิบ ๆ ด้วย อร่อยมากขอบอก แมงแคงกัดยอดครามเป็นความรับผิดชอบของเรา ชอบมากเพราะอร่อย ครามโต ได้ที่จะถูกตัดไปแช่น้ำให้เปื่อย แล้วนำมาขยี้เอาเปลือกและใบให้ล่อนออกจากลำต้น ขยี้ต่อจนสีหลุด ปล่อยให้ตกตะกอน รินน้ำใสทิ้ง เหลือแต่เนื้อคราม เอาไปใช้ย้อมผ้า เห็นแม่ไปขอน้ำหม้อนิน(หม้อย้อมคราม)จากเพื่อนบ้านมาก่อหม้อนินของ ตนเอง พอติดก็ใช้ย้อมผ้าได้ ใช้ครามละลายในหม้อนิน ได้ที่แล้วก็เอาผ้าขาวลงย้อม เสร็จก็เอามาตาก แล้วเอาลงย้อมอีก หลายรอบจนได้สีพอใจ  ลืมบอก กางเกงหัวรูดนี่เป็นชุดประจำกายนะ เสื้อไม่ต้องใช้ ท่อนบนเปลือย วิ่งเล่นได้ทั่วหมู่บ้าน เด็กผู้หญิงก็เปลือยนะ เล่นด้วยกันไม่เห็นอายนะ โน่นแหละเข้าเรียนแล้ว ถึงใส่เสื้อ แต่ผู้ชายยังเปลือยท่อนบนอยู่ มานึกดูสมัยนี้สู้สมัยก่อนไม่ได้ สมัยนั้นสนุกกันสุด ๆ จริง ๆ


หม้อนิน

.......แม่มีสวนหม่อนเอาไว้เลี้ยงไหม พ่อกับพี่ชายจึงได้นุ่งผ้าโสร่ง สวยงามมาก พี่สาวได้นุ่งซิ่นหมี่ไหม หนุ่ม ๆ มองตามตาเป็นมันเลยแหละ ส่วนผมไม่ได้ใช้หรอก เด็กเกิน แต่ก็รู้จักดี แม่ไปขอฝักไหมเพื่อนบ้านมาเพาะไข่ จากฝักไหมสีเหลือง ๆ ก็เห็นตัวบี้ แม่จับตัวบี้ไปวางบนเศษผ้า เอาขันครอบไว้ ไม่กี่วันก็ได้ตัวไหมเล็ก ๆ รวมกันเป็นวงกลม ทำแบบนี้ซักสิบวงก็พอ ชั้นเลี้ยงตัวไหมสิบกระด้งถือว่ามาก สำหรับการเลี้ยงแต่ละชุด แรก ๆเห็นแม่หั่นใบหม่อนให้ตัวเล็ก ๆ กิน จนมันโต ขึ้นถึงให้กินใบโดยไม่ต้องหั่น ผมชอบนั่งดูแต่ไม่กล้าจับหรอก เพราะมันเหมือน ตัวบุ้ง โน่นแหละตอนมันแก่มีสีเหลืองค่อยน่าจับหน่อย ช่วยจับไปวางบนจ่อให้ มันทำรัง จากนั้นแม่ก็เอารังไหมไปสาวหลอก ได้เส้นไหมสำหรับทอผ้าไหมต่อไปส่วนตัวไหมก็กลายเป็นดักแด้ เลิกเรียนมาทันแม่เก็บหม้อสาวหลอกพอดี ก้นหม้อ ดักแด้เต็ม แม่เอาไปคั่วใช้ไม้คน ๆ เอาเส้นไหมออกตัวดักแด้ล่อนออกเกินครึ่ง มี บางส่วนยังมีรังไหมผนังบาง ๆ หุ้มอยู่ ก็แยกออก ส่วนที่ล่อนแม่เอาไปทำกับข้าว ที่เหลือก็ยกให้เด็ก ๆไปแกะกินกันเอาเอง อร่อยดีครับ


สาวหลอก

........ยังมีอีกมากครับที่ผมได้เรียนรู้จากแม่ เป็นวิชาความรู้ที่หายาก สามารถ แนะนำคนอื่นได้ สมัยเป็นครูเคยเปิดสอนวิชาการทอผ้าด้วยกี่กระตุก ผมก็กลาย เป็นผู้อำนวยการสอนโดยปริยาย เพราะรู้จักระบวนการทอผ้าเป็นอย่างดี ก็ได้ มาจากแม่ผู้มีพระคุณนั่นแหละ ครูเขาถามว่าท่านไปรู้เรื่องการฆ่าฝ้าย ย้อมสี มาจากไหน พอเราโม้ให้ฟังก็อ้าปากค้างสิครับ ขอบพระคุณแม่ที่ให้วิชา ความรู้และประสบการณ์อันมีคุณค่ายิ่ง ทำให้กระผมโม้ได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณ มากครับ
........วันแม่มาถึงขอน้อมระลึกถึงคุณของแม่ ตั้งใจจะดูแลพ่อแม่ที่กระผมได้รับมา ก็คือตัวตนที่แหละ รับรองจะไม่นำไปใช้ในทางไม่ดีงาม ไม่พาตัวตนที่พ่อแม่ให้ ไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข คือ ไม่เป็นนักเลงเจ้าชู้ ไม่เล่นการพนัน ไม่เป็นนักเลง สุรา ไม่คบคนชั่ว จะประพฤติตนเป็นคนมีศีลมีธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม ไม่คบคนชั่ว ฝักใฝ่การทำบุญกุศลสืบไป

ขอบคุณภาพจากกูเกิลครับ ไม่ได่ถ่ายเองหรอก 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น