วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กาพย์ปู่สอนหลาน...ขุนทอง ประพันธ์


......................ผมแต่งกาพย์ปู่สอนหลาน โดยพยายามเลือกใช้กาพย์ทุกชนิดในสาระคำร้อยกรองไทย ที่มีกาพย์ ๒๔ ชนิด ทั้งที่เคยเรียนมาไม่กี่ชนิดเอง เลยตั้งใจแต่งให้ครบ ๒๔ ชนิดนั่นแหละ  แล้วนำมาโพสไว้ที่เวบนี้ครับ เพื่อท่านที่สนใจอาจแวะเข้ามาดูได้  ขอบคุณครับ

ขุนทอง ศรีประจง
๔ สิงหาคม ๒๕๖๒


กาพย์ปู่สอนหลาน
โดยขุนทอง
๒.๒ กาพย์รัสสปักข์
o..กาพย์ปู่สอนหลาน.......... ตั้งใจ
ตรองแต่งดูเป็นไร เลือกกาพย์
รัสสปักข์พิไล งามแบบ
บาทเจ็ดคำสามไว ตรองแต่ง
บาทสี่เก้าคำใช้ แปลกแท้ลองดู
o..เอกโทมิต้องชู ชักชอบ
ห้าคำลงตามกรอบ ดีแน่
วรรคหลังสองทุกรอบ เจนจัด
สัมผัสบาทแรกครอบ ที่ห้าสามบาท
o..มิขาดส่งต่อบท ถัดไป
ปลายบทบาทแรกไว สัมผัส
ที่เหลือเชิ่นเดิมใคร อยากเล่น
ลองเถิดเหมือนโคลงไซร้ แต่ไร้เอกโท
o..ปูหวังขีดเขียนเรื่อง สั่งสอน
ฝากแก่ลูกหลานตอน มาเยี่ยม
ลางคนชอบมานอน เป็นเพื่อน
ฟังนิทานอ่อนอ้อน เล่าให้สนุกกัน
o..อ้ายเปมันอยากฟัง คำกาพย์
สอนลูกหลานซึมซาบ นะปู่
เอาเถิดนอนพังพาบ ฟังเล่า
จักสอนพวกแกทาบ ทามแล้วปองปุน
o..หนึ่งเรื่องคุณพระแก้ว สามดวง
ลูกหลานเป็นพุทธพวง ผุดผ่อง
พุทธมามกะปวง นอบถือ
พุทโธธัมโมดวง รัตน์แก้วแวววาม
o..สังโฆแนวงดงาม ถือมั่น
ทำวัตรสวดมนต์สรรค์ เสร็จสรรพ
สมาทานกัน ตัวข้า
ยึดที่พึ่งพลัน พทธธรรมสังโฆ
o..พุทธังมโนนอบ สักการ
ธัมมังสังฆังขาน ครบเครื่อง
นับถือดั่งดวงมาลย์ นบนอบ
คุณจักมีนับนาน ร่มเย็นในธรรม
๒.๑ กาพย์ทีฆปักข์
o..คำสอนเย็นนักยิ่ง ซึ้งใจ
ละชั่วบาปทำไป หมองหม่น
ทำแต่บุญผ่องใส ดวงจิต
สุขสกลที่ใคร่ สุขจริง
o..สิกขาศีลชัดยิ่ง สำคัญ
ละฆ่าส่ำสัตว์สรรพ์ ปาณา
อทินน์ห่างไกลกัน กลัวบาป
ละกามาบุญพลัน เพิ่มพูน
o..มุสาเว้นค้ำคูณ ควรยิ่ง
เลือกสรรคำพูดจริง สัจจะ
ชนชมชื่นชายหญิง ยกย่อง
เชื่อสาระตำล้วน ค่าแพง
o..สุราดีกรีแรง ฤทธิ์มาก
ติดเข้าเลิกยิ่งยาก เมาหนัก
เขาด่าเป็นขี้กลาก นามเหล้า
คนที่รักตนให้ ห่างมัน
o..อิมานิปัญจะ สิกขา
ตั้งใจยึดนำมา ปฏิบัติ
เป็นกิจประจำพา ขัดกล่อม
ใจผ่องพัฒนา งามยิ่ง
o..ละบาปมวลทิ้งได้ ใจดี
ดังแต่งเครื่องทรงมี วาดยิ่ง
วาดงามนักคนที ศีลแต่ง
เหล่าชายหญิงแซ่ซร้อง ชื่นชม
o..กุสลัสสูปนิยม สั่งมาก
อุปสรรคลำบาก ฟันฝ่า
หวั่งแต่ดีถึงยาก ทนอยู่
บุญกุศลจักได้ มากมี
o..ดีจิตปริโย ทปนัง
ชะกิเลสก็มลัง หมดจด
ครบสามหลักยัง จำแม่น
ถือดังกฏทำได้ มงคล
๒.๓ กาพย์ตรังคนที
o..ฝึกตนสีลสิกขา ถือศีลห้าทำไฉน
ปาณาเว้นฆ่าได้ มิกระทำบาปกรรมมวล
o..ข้อสองอทินนา ของเขาอย่าหยิบน่าสรวล
เขาเรียกโจรมิควร เราผู้ดีมีศีลธรรม
o..กาเมสุมิจฉา เจ้าชู้อย่าพบงามขำ
เกี้ยวพาเขาบาปกรรม หัวงูโผล่มิค่อยงาม
o..มุสาวาทาเวร พูดจาเน้นคนไถ่ถาม
สัจจริงเหมาะควรยาม สนทนาน่าชื่นชม
o..สุราเมรยะ ละเสียได้จึงจักสม
ผู้คนเขานิยม ส่วนขี้เมามิค่อยดี
o..ห้าเวรเว้นเพราะบาป จรรยาหยาบเสื่อมเสียศรี
เขาหมิ่นค่าด้อยมี เสื่อมเสียหายอับอายคน
o..ถือศีลใส่ใจไว้ จะเที่ยวไปมิสับสน
มีบาปอย่ากังวล ศีลละเว้นเวรไม่มี
๒.๔ กาพย์มหาตรังคนที
o..สิกขาสองเรื่องจิต สติชิดอย่าหลุดหลบหนี
สมถะนั่นแหละดี ฝึกฝนจิตสนิทใจ
o..สมัยสิทธัตถะ ครั้งท่านละบ้านเมืองไฉน
โมกขธรรมมุ่งไป จักฝึกตนพ้นทุกข์เวร
o..กราบอาราฬดาบส ได้จำจดสิ่งที่เห็น
กรรมฐานที่ฝึกเป็น ทางแห่งฌานสี่ประการ
o..บารมีโพธิเพ็ญมา แก่กล้าเกินแค่ไขขาน
สี่ขั้นทรงเชี่ยวชาญ เรียนจบสิ้นวิชาครู
o..ไปพบสำนักสอง ตามครรลองศึกษาดู
สี่ขั้นครบแปดรู้ สมาบัติแปดครับครัน
o..มิลุโมกขธรรม จำลาจากเสาะสืบสรรพ์
มากมายวิธีนั้น ยิงมิใช่สิ่งมุ่งมา
o..ปัญจวัคคีย์พบ  ยามท่านจบสิ่งที่หา
เป็นศิษย์ตามตำรา ทักทายไว้เมื่อยังเยาว์
o..ล่วงถึงอุรุเวล เส้นทางดูจะเปลี่ยวเหงา
ริมน้ำจึงยึดเอา ที่พักพิงอิงไทรงาม
o..บำเพ็ญเกือบหกปี ยังมิมีสิ่งใคร่ถาม
ล่วงพ้นตายนิยาม โมกขธรรมเป็นฉันใด
o..ทุกกรกิริยา กระทำมายิ่งยวดไฉน
มิอาจบรรลุได้ จนนึกหน่ายหยุดพักรอ
o..หันมารับอาหาร ทรมารมากเกินหนอ
อ่อนแรงคงมีพอ จะทำกิจการใดใด
o..ปัญจวัคคีเห็น นึกว่าเป็นท้อสงสัย
พากับละจากไป อุรุเวลสงบพลัน
o..บำเพ็ญบารมี ณโพธิ์ศรีพิเศษสรรค์
มินานพบมรรคอัน พิเศษสุดพุทธคุณ
o..สรุปทางที่สิกขา กระทำมาจนเกื้อหนุน
สมถะทางแห่งบุญ สมาบัติผลชัดเจน
o..จนเมื่อเพียรทางใจ ใช้สติจนแลเห็น
รูปนามนั่นคือเกณฑ์ วิปัสสนาพาลุญาณ
o..อรหันต์สัมพุทโธ ภิญโญยิ่งองอาจหาญ
กิเลสริดรอนราน หมดจดสิ้นผุดผ่องใจ
o..กรรมฐานจึงแจกสอง ครองสมถะมิสงสัย
ผลฌานสิ่งที่ได้ มิใช่สิ้นกิเลสคุณ
o..ทรงฌานใจสงบ มิได้พบกิเลสวุ่น
ออกฌานมันรุกรุน โลภโกรธหลงคงเหมือนเดิม
o..ส่วนทางวิปัสนา ลุโสดาพาส่งเสริม
อรหันต์สุดทางเติม ดับกิเลสหมดสิ้นไป
o..มรรคาพิเศษนี้ ชี้กระจ่างสว่างไข
ล่วงโมกขธรรมได้ เส้นทางนี้พิเศษจริง
o..สัตถาประกาศสอน นรากรเหล่าชายหญิง
บริษัทสี่พึ่งพิง สัตถุศาสตร์ของศาสดา
โพสที่ ๓
๑.๓ กาพย์จิตลดา
o..เป็นพุทธสาวกา เรียกขาน
อุบาสกสีกา หญิงชาย
ถือไตรรัตน์นานนัก เพราะคุณ
ปกปักใจกายมั่น เดชา
o..สองสีลานิปอง ปฏิบัติ
กระทำการเป็นวัตร ทุกวัน
ยามเข้าจักจัดอ้าง สมาทาน
จริยะสรรค์ศีล มั่นคง
o..มิถือมงคลตื่น ตูมตาม
มีเหตุมีผลยาม รับรู้
รัตนะสามสรรพ ที่พึ่ง
ถือมั่นทุกผู้ล้วน ทราบดี
o..สี่แสวงบุญด้วย พุทธธรรม
ตามกอปรบุญบาปกรรม ชัดแจ้ง
ปุญญเขตจดจำ เจนจัด
หมดจดมิแสร้งสร้าง อื่นใด
o..ส่งเสริมศาสนาใจ ก่อเกื้อ
บำรุงพระเณรใน อาวาส
กุฏศาลาเรื้อร้าง ซ่อมแซม
ใจบุญองอาจน้อม นบไตร
o..เบญจคุณครบในตน งามยิ่ง
กิจวัตรสรรพสิ่ง สมภาพ
ประสกใจจริงดู ประเสริฐ
คนทั่วถิ่นทราบได้ ชื่นชม
๑.๔ กาพย์มหาจิตลดา
o..สมบัติอื่นอีกมี ควรรู้
ดูแลพระเณรเถร เคารพ
ละอายบาปสู้หลีก ผลากเสีย
สัตย์ซื่อเจนจบ มาดมั่นคุณธรรม
o..ท่องบ่นจำจดคำ สวดได้
สมาธิฝึกเสมอ มิขาด
ขยั่นหมั่นฝึกให้เชียว ชาญเชาวน์
สติมั่นมิพลาดการ ฝึกฝนจัดเจน
o..ศึกษาเห็นอรรถธรรม ถูกต้อง
วิเคราะห์เหตผลควร พึงเชื่อ
ละบาปบุญปองเกื่อ ก่อกูล
แจ่มใจอ่อนเอื้อใฝ่ ธรรมคุณ
o..นานากิจคิดครุ่น ควรทำ
กิจก่อคุณทุกกรรม บุญส่ง
จิตพัฒน์พึงบำเพ็ญ เพียรมาก
กิจชั่วละปลงไว้ อย่าทำ
o..บุพพกรรมพึ่งสั่งไว้ มากมวล
คือกิจเกิดคุณควร สั่งสม
นานาประมวลบุญ มีค่า
ควรกระทำสมสร้าง เสกสร้างสุดสม
โพสที่ ๔
๑.๕ กาพย์สินธุมาลี
o..พรหมแห่งบุตรชายหญิง ปิตุ
มาตาพระคุณห้า สถาน
ความชั่วบาปอย่าลุ ทำหนา
ดีงามควรบรรจุ มากทำ
o..วิชชาจำสั่งไว้ มีคุณ
ดังกุศลผลบุญ เลอค่า
ถงคราวเลือกดรุณ ดูช่วย
มีครอบครัวสกุล มั่นคง
o..สินทรัพย์เจาะจงมอบ บุตรธิดา
มิมากมายแต่มากค่า คูณควร
ครบครันคุณมาตา ปิตตุ
พึงกราบพรหมทังหน้า แลหลัง
o..บำรุงตอบท่านตั้ง ใจจง
เจ็บป่วยมิลืมหลง ใฝ่เฝ้า
ทำตามท่านสอนคง ห่างชั่ว
กรรมที่งามค่ำเช้า เสกงาม
o..สินทรัพย์ตามที่ได้ รับมา
จักแจงเพิ่มพัฒนา ดียิ่ง
บุญกุศลสืบเสาะหา เสริมส่ง
ยามท่านอยู่ดีจริง บุญบอก
o..ออกดียิ่งยินเจ้า ทำดี
พ่อแม่สุดสุขขี อิ่มเอื้อ
ยิ่งรักยามเจ้ามี บุญก่อ
บุญเกิดแม่อิ่มด้วย อิ่มใจ
o..กายจิตพ่อแม่ให้ เรามา
ดูแลตนนั่นหนา ดีอยู่
ดีเพิ่มดีเลิศพา ท่านชื่น
ทำตนดีควรคู่ ค่าควร
ครูอาจารย์และศิษย์
๑.๖ กาพย์มหาสินธุมาลี
o..ครูหวังชวนศิษย์ได้ ดิบดี
จึงสั่งสอนวิชชามี มวลมาก
เปิดเผยสรรพสิ่งชี้ ทางบอก
ยกย่องชื่นชมอยาก ให้ได้ดีงาม
o..เป็นศิษย์ตามรับใช้ คุณครู
เรียนท่องจดจำดู จดแจ้ง
ละชั่วทำดีตรู ประพฤติ
พัฒนาคนไม่แย้ง เพราะได้ครูสอน
สามีและภรรยา
o..สามีเขาเรียกด้วย เสมอนาย
นำครอบครัวโดยพาย เดินหน้า
หลบหลีกภัยเสียหาย ปลอดโปร่ง
เป็นสุขครอบครัวถ้า เก่งกล้าสามี
o..ภรรยาเพราะเธอเลี้ยง ครอบครัว
กินอยู่ของลูกผัว จัดแต่ง
เป็นแม่ทุกคนกลัว เกรงแม่
มีคุณธรรมเสกแสร้ง แม่ล้ำเลิศคน
มิตรสหาย
o..เพื่อนมีดีชั่วล้วน คบกัน
คบง่ายคนดีสรรค์ เสริมส่ง
มีดีประคองกัน ไกลบาป
มิปลอยปละประสงค์ ช่วยพ้นบาปเวร
o..เพื่อนดีเป็นดังแก้ว ส่องทาง
รักใคร่มิจืดจาง แม่นหมั้น
แนะนำมรรคกระจ่าง ดีชั่ว
คุณมิตรดีใฝ่ฝั้น ฝ่ายข้างทางดี
นายและลูกน้อง
o..เป็นนายมีพวกพ้อง จัดการ
มอบกิจควรบริหาร รอบคอบ
จัดกิจเหมาะสมสาน เสริมส่ง
ประมวลกำกับชอบ เช่นนี้จึงควร
o..มีนายรับมอบด้วย กิจควร
ศึกษากระทำชวน ชืนได้
ผลงานครบกระบวน ดียิ่ง
ทุกสิ่งชวนชื่นไซร้ ลูกน้องทำดี
โพสที่ ๕ ปูสอนหลานอิทธิบาท ๔
๑.๗ กาพย์นันททายี
o..ทักกันสองเจ็ดแล้ว กรกฎา
หมายส่งญาติกา ทั่วถ้วน
อีกมิตรสหายา ทุกท่าน
เจริญสุขสวัสดิล้วน อยู่เย็น
o..บารมีที่สร้าง ปางบรรพ์
บุญก่อปัจจุบัน สั่งสร้าง
รวมพลังส่งพรสรรค์ เสริมส่ง
ทุกท่านสบสุขอ้าง เพราะพรหม
o..สมควรจักเอ่ยอ้าง อิทธิบาท
ฉันทะชอบกิจอาจ ทำได้
วิริยะขยันคาด งานเสร็จ
จิตตะรอบคอบใคร่ คิดทำ
o..วิมังสารอบด้าน พิจัย
อิทธิบทส่องไข กิจสร้าง
สัมฤทธิ์สฤษดิ์นัย หมายมาด
ยึดมั่นคุณธรรมอ้าง คู่ควร
ขุนทอง ประพันธ์
ปู่สอนหลานด้วย พรหมวิหาร ๔
๑.๘ กาพย์มหานันททายี
o..ลุวันยี่สิบเก้า กอคอ
เทพพรหมอวยพรพอ สุขเกื้อ
ลาภยศที่รอจง สำเร็จ
รมย์รื่นพรเอื้อให้ เกษมสันต์เกษมศรี
o..พรหมวิหารสี่ข้อ คุณธรรม
ควรก่อกิจเกิดสรรพ์ มากไว้
เมตตาจิตนำนัย โอยอ่อน
กรุณจับใจเอื้อ โอบเอื้ออำนวย
o..มุทิตาชอบด้วย ยินดี
คนเขาสุขเรามี จิตเอื้อ
อุเบกขาที่ใจ สงบ
เขาเข้มแข็งเกื้อด้วย นิ่งด้วยสงบใจ
o..คนเป็นผู้ใหญ่ล้วน บำเพ็ญ
ครบสี่ธรรมดีงาม แบบอย่าง
พฤติกรรมเป็นศรี  งามสง่า
ควรชื่นชมอ้างได้ แบบผู้เป็นพรหม
ขุนทอง ประพันธ์
ปู่สอนหลานด้วย สังคหวัตถุ ๔
๑.๙ กาพย์วชิรปันตี
o..ชมรมชุมชนนั้น ต่างผูกพันมั่นหมาย
ญาติกันสายเลือดมี ต่างดูดีจริงเชียว
o..บ้างก็เกี่ยวดองกัน ผูกสัมพันธ์ใกล้ชิด
สมสนิทพึงใจ ต่างรักใครกลมกลืน
o..สงเคราะห์ชื่นธรรมสี่ ทานังมีแบ่งปัน
สองสำคัญพาที งามวจีน่ารัก
o..สามก็มักทำตน ให้เป็นคนมีค่า
อัตถจรรยามากมาย ดูสบายวางตน
o..ให้เป็นคนสม่ำเสมอ จักพบเจอก็ง่าย
มีหลากหลายน้ำจิต มั่นมากมิตรไมตรี
o..ชนยินดีคบหา วาสนายิ่งนัก
ผูคนมักนอบน้อม ผูกมิตรพร้อมอำนวย
o..มีกิจช่วยแบ่งเขา อาสาเข้าให้แรง
ช่วยเข้มแข็งชุมชน ต่างมีมนต์คุณธรรม
o..อวยเอื้อนำเกษมสุข หายไกลทุกข์ภัยเข็ญ
อยู่รมเย็นสังคม ต่างนิยมคุณธรรม ฯ
ขุนทอง ประพันธ์
ปู่สอนหลานด้วย วุฒิ ๔
๑.๑๐ กาพย์มหาวชิรปันตี
o..ต่อไปธรรมสำคัญ คนเข้ารู้กันวุฒิสี่
สัปปบุรุชี้ คนกันจึงดีจะเจริญ
o..ชีพดำเนินมงคุณ คบได้คือบุญทุกยาม
โอกาสตามตนจรรยา กายใจวาจาแบบงาม
o..คู่ควรตามฝึกเป็นคุณ กุศลอดุลย์พัฒนา
ธรรมศึกษาเพราะฟัง คำสอนจีรังภิญโญ
o..โยนิโสใคร่ครวญ เหตุผลแหละชวนพิจารณ์
สัพธัมมหาญปฏิบัติ จึงจะจำรัสจำรูญ
o..พึงเพ็ญพูนกล่าวมา ชื่อพัฒนาธรรมวุฒิ
ประเสริฐสุดจำเริญ ชีวิตดำเนินอริยา
o..โชคชัยมาเอกอุดม จึงจักดีสมวุโฒ 
การภิญโญจำเริญ ชีพจักดำเนินอริยา ฯ
ขุนทอง ประพันธ์
สอนหลานเรื่องอคติ ๔
๑.๑๑ กาพย์พรหมคิติ
เรื่องถัดไปลำเอียง เหตุมีเพียงสี่ประการ
เพราะรักใคร่บันดาล บ้างโทสะจึงเบี่ยงเบน
บางทีก็โง่เขลา จึงทำเอาเสียหลักเกณฑ์
ข้อสี่ลำเอียงเวร เพราะเกรงกลัวจนลนลาน
ความยุติธรรมพลอยเพี้ยน เพราะอาเกียรณ์คนเล่าขาน
ด้วยเหตุสี่ประการ ทำเสียชื่อเสียคุณธรรม
แม้อยากบริหาร บริวารมีประจำ
ปกครองคนยึดคำ เที่ยงตรงนำจึงจักดี
ยึดหลักแห่งเหตุผล จักเลือกคนตามวิถี
วิทยาปัญญามี ขยันกิจจรรยางาม
สาธุคุณธรรม นำประพฤติมิต้องถาม
เที่ยงตรงแหละทุกยาม ปฏิบัติจำรัสแล ฯ
 ขุนทอง ประพันธ์ 
สอนหลานเรื่อง ปธาน ๔
๑.๑๒ กาพย์มณฑกคติ
o..สวัสดีนะครับคุณ นับเป็นบุญได้ทักทาย
บารมีเทพทังหลาย แลพรหมช่วยอำนวยพร
o..ขอจงสุขเกษม เอิบอิ่มเอมสโมสร
ปธานหนึ่งสังวร ระวังบาปมิกวนใจ
o..บาปมีปหานะ ลดเลิกละดีไฉน
กุศลผลดีให้ ภาวนาจงเกิดมี
o..เกิดแล้วอนุรักษ์ ความงามจักมิห่างหนี
ครบหลักปธานสี่ พึงบำเพ็ญเป็นประจำ
o..ผลบุญที่ก่อเกิด ล้วนประเสริฐควรกระทำ
ดีงามจะกน้อมนำ ดำเนินไปทางมงคล
o..ห่างไกลภัยเคราะห์เข็ญ สบร่มเย็นมิสับสน
โชลาภมิกังวล ย่อมบังเกิดประเสริฐแล ฯ
ขุนทอง ประพันธ์
กาพย์สอนหลาน ปาริสุทธิศีล ๔
๑.๑๓ กาพย์ตุรังคธาวี
o..ปาริสุทธิสีลาอุตตมะจริยากร
หนึ่งปาฏิโมกข์ริฝึกฝนตอนปฏิบัติขจัดบาปบำเพ็ญ
สองอินทรีย์สังวรณ์ก็มีสำรวมระวังเห็น
อาชีวะก็จะพิสุทธิ์เป็นปัจจัยพิจารณ์จิตารมณ์ควร
o..เช้าสมาทานศีลเบญจาทุกสิกขาบททวน
ปาณาติบาทมิฆาตสัตว์ล้วนละเวรสงบมิพบขุ่นเคืองใจ
อทินนามิหยิบนำพาสิ่งของคนอื่นไป
กาเมเว้นกามเวรลูกเมียใครมีควรวุ่นจะขุ่นหมองฤดี
o..ศึกษาสิ้นอรรถก็มียินแล้วเข้าใจเนื้อความ
ปฏิบัติศีลวัตรมานะตามสติก่อจะพอละบาปเวร
สำรวมอินทรีตาหูยินดีระวังตามกฏเกณฑ์
บาปกรรมปะก็ละดุจจะเห็นกองขยะก็ละหลบหลีกไป ฯ
ขุนทอง ประพันธ์
๑.๑๔ กาพย์มหาตุรังคธาวี
 o..จะบันทึกและน้อมนำตรึกระทึกขวัญจะขาน
กรรมจะทำสติปัฎฐานสี่จะพบคำรพกายานุปัสนา
สติตามบทบาททุกยามและงามจริยา
คิดและติดสติตามมาจะเคลื่อนไหวก็ให้สติตามรู้
 o..ยืนอยู่อ้อจะเดินแหละหนอมิรอจะตามดู
เดินแหละเพลินสติก็สู้ติดตามเห็นและเย็นสบายอารมณ์
ย่างแล้วหนอละเอียดละออแหละพอจักชื่นชม
งามติดตามกายาภิรมย์อนุสิทธิ์วิจิตรอิริยาบทงาม ฯ
 o..บางคราวขัดเจ็บปวดก็จัดแทบรัดคุกคาม
รู้แหละดูเวทนาตามมิปล่อยวางจะสางจนเข้าใจ
เจ็บมันเหน็บพอรู้ก็เจ็บและเก็บเวทนาไว
เป็นก็เห็นและหายห่างไกลสติติดและจิตตานุปัสนา ฯ
ขุนทอง ประพันธ์
กาพย์สอนหลาน เรื่องสติปัฏฐาน ๔ (ต่อ)
๑.๑๕ กาพย์กากคติ
 o..บางคราวอารมณ์ก็บมิสมจากนอกมิไกล
กลับเกิดที่จิตเองคิดแจ่มใสแหละควรจักใช้เหนี่ยวนำอารมณ์
เรียกขานธัมมานุปัสนาหลายท่านนิยม
จักใช้ก็ดีและมีอารมณ์วิริยะสมปฏิบัติชาญ
 o.. สติปัฏฐานสี่วิริยะมีมิท้ออาจหาญ
สมาธิเข้มและเต็มคนขานวิริยะวารอุดมพิไชย
อารมณ์สี่อย่างสายเกิดมาทางกายกายานุปัสนา
สุขทุกข์เย็นร้อนก็วอนจะหาจับเป็นอารมณ์
 o..เรียกเวทนาอนุปัสสาสติปัฏฐาน
ตามจิตที่คิดและติดต่อการผสมผสานจิตแหละตามดู
เขาเรียกจิตตาอนุปัสสนาสติตามรู้
อารมณ์นึกคิดสนิทใจอยู่สติก็สู้ติดตามมิเลือน
 o..จัดเป็นธัมมานุปัสสนาสติตักเตือน 
สติเป็นใหญ่ มิให้จะเคลื่อนและหลงเลอะเลือนมั่นในอารมณ์
พฤติกรรมกายก็ตามดูหมายติดตามนิยม
เวทนาเกิดก็เลิศแลสมปัฏฐานชื่นชมช่องทางปัญญา
                        ขุนทอง ประพันธ์                                                                         
กาพย์สอนหลาน เรื่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔
กาพย์ยานี ๑๑
ถึงคราวสอนกัมมัฏฐาน จะคิดอ่านอารมณ์ไหน
ยึดถือจึงดีไซร้ ท่านบอกว่าเลือกตามควร
บางคนชอบธาตุดิน บ้างยลยินอาโปหวน
บางคนมิเรรวน เลือกเตโชเป็นอารมณ์
ยายชอบวาโยค่ะ วิริยะตามเหมาะสม
บริกรรมตามนิยม เตรียมตัวพร้อมก่อนจึงดี
ยามเช้าฤๅยามเย็น เห็นไหว้พระก่อนเสริมศรี
แล้วนั่งภาวนามี สมาธิเกิดง่ายดาย
บริกรรมว่าอาโป หรือวาโยตามสืบสาย
ท่องไปไม่วุ่นวาย สมาธิก่อเกิดมา
จิตตกสู่ภวังค์ บังเกิดมีนิมิตหนา
ยามหลับท่านเรียกว่า คือการฝันนั่งแหละคุณ
ยามทำสมาธิ วิริยะพาเกื้อหนุน
นิมิตเกิดเป็นบุญ สามระดับเรียกต่างกัน
แรกเริ่มจิตแนบนิ่ง สิ่งที่เป็นอารมณ์สรรพ์
นิ่งด้วยสื่อสัมพันธ์ กับอารมณ์บังเกิดมี
บริกรรมสมาธิ ยังมิมั่นนานวิถี
เสื่อมง่ายยังมิดี พึงพากเพียรฝึกต่อไป
ภวังค์ระดับสอง ครองนิมิตจิตแจ่มใส
หลับตายังเห็นได้ ดวงนิมิตติดตรีงตรา
นิมิตอุคคหะ จะช่วยให้ใจมั่นหนา
ฝึกฝนจนก้าวหน้า ระดับสามควรชื่นชม
ปฏิภาคเป็นนิมิต จิตแนบแน่นนิมิตสม
ควบคุมตามนิยม เปลี่ยนรูปสีตามพอใจ
สมาธิระดับนี้ ก้าวหน้าดีมิสงสัย
หยั่งลงอัปณาได้ ระดับสูงน่ายินดี
อารมณ์กัมมัฎฐาน  ท่านกล่าวมามากวิถี
สี่สิบกลมากมี เลือกกระทำตามอารมณ์
ผลฝึกอย่างเดียวกัน มีสามชั้นสมาธิ์สม
สมถะชนนิยม สมาบัติคือปลายทาง ฯ
ขุนทอง ประพันธ์             
กาพย์สอนหลาน เรื่องอริยสัจ ๔
๓.๒ กาพย์ฉบัง ๑๖
o..อริยสัจสี่อ้าง มรรคคือเส้นทาง
ปฏิบัติธรรมแปดประการ
o..สัมมาทิฐิประสาน เห็นชอบชำนาญ
รู้เหตแหละผลชั่วดี
o..สัมมาสังกัปคุณมี ดำริชอบที่
คิดอ่านถูกต้องคลองธรรม
o..สัมมาวาจาถ้อยคำ สุจริตน้อมนำ
พูดจาพาทีงดงาม
o..สัมมากันมันตะยาม ชอบธรรมกิจการ
สุจริตมิผิดบาปกรรม
o..สัมมาอาชีพที่ทำ ดีงามศีลนำ
มิผิดศีลวัตรจรรยา
o..วิริยะสัมมา สติแก่กล้า
สมาธิมั่นคงจำเริญ
o..มรรคแปดดำเนิน ครบถ้วนดีเกิน
เกิดอริยสัจจา
o..สมุทัยปัญหา ก็จักมีมีมา
ระงับด้วยมรรคบริบูรณ์
o..ตัณหาระงับดับสูญ มรรคดังกองกูณฐ์
เผาผลาญจนดับระงับไป
o..เหตุดับทุกข์ดับดังไฟ หมดเชื้อดับได้
หมดร้อนสงบสนิทเย็น
o..เยเกจิสมุทยังเห็น ดับเหตุจึงเป็น
ความดับสนิทแท้จริง ฯ
ขุนทองประพันธ์
กาพย์สอนหลาน เรื่องอธิษฐานธรรม ๔
๓.๓ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
o.. อธิฐานธรรม
จิตใจผู้นำ ตั้งไว้ทางดี
ห่างฝ่ายบาปกรรม น้อมนำส่งศรี
คุณงามมากมี สั่งไว้เป็นคุณ
o.. หนึงคือปัญญา
ฉลาดวิทยา สั่งสมเกื้อหนุน
เหตุผลควรชอบ สอบสวนเป็นบุญ
จำเริญการุณ จำรัสพัฒนา
o.. สัจจะจริงใจ
ฝังอยู่เนื้อใน หนักแน่นอุรา
สามกรรมแน่ชัด วิวัฒนา
ซื่อสัตย์นำพา เชื่อมั่นคุณธรรม
o.. จาคะอุปสรรค
ทำดีชอบหัก ขัดขวางกิจกรรม
ละเลยเสียหาย กับกลายถลำ
ปละปล่อยอาจนำ เสียหายมากมี
o.. อุปสมะใจ
สงบเสียได้ จักมิเสื่อมศรี
มองเห็นทางเดิน จำเริญดูดี
คุณธรรมนำชี้ ที่ถูกที่ควร
ขุนทอง ประพันธ์
กาพย์สอนหลาน ความไม่ประมาทในที่ ๔ สถาน
๓.๔ กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒
o..อันการวางตน คนเก่าชี้ชวน
ลูกหลานก็ล้วน เชื่อฟังยินดี
ทำบุญตักบาตร มิขาดนวลศรี
กตเวที ผู้มีพระคุณ
o..ถือศีลห้าข้อ มิรอวันศีล
บาปมาถึงตีน ยกข้ามเป็นบุญ
มดแมงก็รอด ปลอดภัยใคร่หนุน
งดงามสกุล จรรยาน่าชม
o..อทินนาทาน เรื่องการรับเอา
สิ่งของที่เขา มิให้ไม่สม
เหมือนโจรนั่นไง มิใช่นิยม
ข้อสามคำคม อย่าหลงเมียใคร
o..ลูกสาวเขาหวง อย่าล่วงลุเกิน
อย่าจีบจนเพลิน มิงามสดใส
เขาเรียกเจ้าชู้ อดสูจริงไหม
ละเว้นห่างไกล มงคลจรรยา
o..วจีทุจริต นึกคิดไถ่ถาม
พูดดีทุกยาม ละทุวาจา
พูดปดส่อเสียด รังเกียจมุสา
สัจจะปัญญา คุณค่ามากมี
o..มโนทุจริต กรรมคิดสำคัญ
จำแนกต่างกัน หนึ่งโลภวิธี
สองโทสอาฆาต พยาบาทกาลี
โมหะท่านชี้ ลุ่มหลงงมงาย
o..สุดไม่ประมาท องอาจงดงาม
ทิฐิจริต นึกคิดสัมมา
ถูกต้องดีไซร้ ห่างไกลมิจฉา
กุศลพัฒนา รุ่งเรืองจำเริญ
ขุนทองประพันธ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น