..........ตั้งใจจะรวบรวมแผนผังร้อยกรองที่นิยมแต่งกันทั่วไป มาไว้ที่เพจนี้ เพื่อค้นหาง่าย สะดวกต่อการศึกษาและนำไปใช้ฝึกเขียนคำร้อยกรอง ไม่มีอะไรมากกว่านี้
ขุนทอง ศรีประจง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลุ่มกาพย์ต่าง ๆ
................กาพย์ยานี ๑๑ นับจำนวนคำ ไม่เน้นครุลหุ วางรูปแบบคำ บรรทัดละสองวรรค ๕---๖ คำ
เป็น ๑ บาท สองบาทเป็น ๑ บท นิยมแต่งสองบท เพื่อให้เห็นสัมผัสระหว่างบทด้วย สัมผัสบังคับคำท้ายวรรคแรก สัมผัสคำที่ สาม วรรคสอง คำท้ายวรรคสอง สัมผัสคำท้ายวรรค สาม คำท้ายบท
ส่งสัมผัสให้บทถีดไป (สัมผัสคำที่สามวรรคสอง อนุโลมใช้คำอื่นรับได้ด้วย เช้น 1/2/3/4 แต่คำที่ 3
นั่นแหละเหมาะสมดีแล้ว
............กาพน์ฉบังบทหนึ่งมี 3 วรรค ใช้คำ ๖+๔+๖ รวม ๑๖ คำ สัมผัสในบทมีคู่เดียวคือคำท้ายวรรคแรกสัมผัสคำท้ายวรรคสอง คำท้ายบทคือคำท้ายวรรคสาม ส่งสัมผัสให้คำท้ายวรรคแรกบทถัดไป
..........กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ แต่งจังหวะคู่ตลอด วรรคละ ๔ คำ รวม ๗ วรรค สัมผัสบังคับ ท้ายวรรค ต่อท้ายวรรคเช่น วรรค ๑....ไป...๒ วรรค ๓...ไป....๕ (ข้าม ๔) และ วรรค ๕...ไป....๖ จบสัมผัสในบท คำท้ายบทส่งให้คำท่ายวรรค ๓ บทถัดไป
..........กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ จัดวางบรรทัดละ สอง วรรค เลยดูง่าย สัมผัสบังคับในบทมีสองคู่คือ คำท้ายวรรคแรหสัมผัสคำที่สองวรรคสอง และคำท้ายวรรคสองสัมผัสคำท้ายวรรคสาม คบสัมผัสในบท
คำท้ายบทส่งสัมผัสคำท้ายวรรคสองบทถัดไป
..........กาพย์ชนิดอื่น ๆ ไม่นิยมแต่งกัน ในเวบขุนทองเขียนกาพย์กลอน บันทึกไว้ทุกรายชื่อ สนใจเข้าไปดูได้
แผนผังร้อยกรองประเภทกลอน
กลอนดอกสร้อย
..............ลักษณะเฉพาะคือมีคำขึ้นส้น สี่คำ คำที่สองบังคับใช้คำ Oเอ่ยOO........เช่น รักเอ๋ยรักนวล
ใจเอ๋ยใจเรา นอกนั้นก็เหมือนกลอนแปดธรรมดา นิยมแต่งสองบท แปดวรรค จบวรรคสุดท้ายด้วยคำว่า เอย
..............ลักษณะเฉพาะคือมีคำขึ้นส้น สี่คำ คำที่สองบังคับใช้คำ Oเอ่ยOO........เช่น รักเอ๋ยรักนวล
ใจเอ๋ยใจเรา นอกนั้นก็เหมือนกลอนแปดธรรมดา นิยมแต่งสองบท แปดวรรค จบวรรคสุดท้ายด้วยคำว่า เอย
กลอนสักวา
.................เป็นกลอนแปดนั่นเองนำมาดัดแปลงเล่นสักวา โดยกำหนดขึ้นวรรคแรกด้วยคำ สักวา....จากนั้นก็เป็นกลอนแปด ยาวสองบท คือแปดวรรค จบด้วยคำว่าเอย
กลอนหก
..................ชื่อกลอนหก บอกให้ทราบได้ว่าแต่งวรรคละหกคำ ดูสัมผัสบังคับคล้ายกลอนแปด แต่มีลูกเล่นสำคัญคือนิยมเล่นสัมผัสในทุกวรรคเป็นแบบสัมผัสสระ ดังตัวอย่าง
.................วรรคแรก หก+ยก วรรคสอง ราม+งาม
วรรคสาม เล่น+เป็น แบบ+แยบ วรรคสี่ สัมผัสพยัฯชนะ ช+ช+ช
.................สรุปความว่าเป้นกลอนหกแต่งวรรคละหกคำ อยากให้เพราะก็สอดแทรกสัมผัสในไว้ตามต้องการ
..................ชื่อกลอนหก บอกให้ทราบได้ว่าแต่งวรรคละหกคำ ดูสัมผัสบังคับคล้ายกลอนแปด แต่มีลูกเล่นสำคัญคือนิยมเล่นสัมผัสในทุกวรรคเป็นแบบสัมผัสสระ ดังตัวอย่าง
.................วรรคแรก หก+ยก วรรคสอง ราม+งาม
วรรคสาม เล่น+เป็น แบบ+แยบ วรรคสี่ สัมผัสพยัฯชนะ ช+ช+ช
.................สรุปความว่าเป้นกลอนหกแต่งวรรคละหกคำ อยากให้เพราะก็สอดแทรกสัมผัสในไว้ตามต้องการ
กลอนเจ็ด
.................แต่งวรรคละเจ็ดคำ วางจังหวะตามพอใจ 2+2+3 2+3+2 3+2+2 แต่ควรวางแบบเดียวทั้งบท
คนอ่านจะได้อ่านสะดวก ถ้าวางสลับไปมา คนอ่านอ่านยาก เขาก็ไม่อ่านเอง สมน้ำหน้าคนแต่งไง แต่งแล้วคนไม่อ่าน แต่งทำไม
กลอนแปด
.................กลอนแปดแต่งวรรคละแปดคำ เห็นบางคนบอกอนุโลมจนถึงสิบคำ แปดก็แปดนั่นแหละ จะยืดออกไปทำไม ชอบยืดนักก็แต่งเป็นกลอนเก้า กลอนสิบไปเลย เด็กรุ่นหลังจะได้ไม่สับสนว่า คนรุ่นเก่าไม่รู้จักแปด หรือเก้า
กลอนเก้า
.........นี่ไงกลอนเก้า อย่าอนุโลมสิบคำอีกล่ะ เดี๋ยวจะมีกลอนสิบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น