เขียนบทร้อยกรองทักทายเพื่อนฝูงในโลกออนไลน์วันละบท เดือนหนึ่งก็หลายบท เดือนพฤษภาคม มี ๓๑วันก็เขียนได้ ๓๑ บท ครบเดือนแล้วได้นำมารวมไว้ที่เพจนี้ เพื่อใช้ตรวจสอบทบทวนงานเขียนร้อยกรองของเราเอง ท่านที่สนใจแวะมาอ่านได้ไม่หวงครับ
ขุนทอง ศรีประจง
๑ มิถุนายน ๒๕๖๒
ทักทายกันวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
วันที่หนึ่งพฤษภา...............เฟซแจ้งว่าวันแรงงาน | |
ขอให้สุขสราญ.................รัฐให้หยุดพักผ่อนกัน | |
การงานทุกประเภท............ล้วนมีเหตุการเสกสรรค์ | |
แรงงานยิ่งสำคัญ...............ทั้งแรงกายแรงปัญญา | |
ทุกการธุรกิจ....................จักสัมฤทธิ์ได้นั้นหนา | |
มีคนกระทำมา..................ด้วยแรงงานแลชาญเชาวน์ | |
เกษตรหรือพาณิช..............ประกอบกิจแรงงานเขา | |
มากมายการหนักเบา...........สฤษดิ์ได้ด้วยแรงงาน | |
ชัยชัยชยันโต...................โหนตุโนเกษมศานต์ | |
เริงรื่นสดชื่นบาน................สบสุขสันต์นิรันดร ฯ | |
....................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
ที่สองพฤษภาคม..............วันอุดมเอกมงคล | |
ขอเทพพรหมดาลดล.........จตุธรรมแผ่กำจร | |
ทุกชนอายุมั่น..................ยิ่งร้อยพันเพียงสิงขร | |
ผ่องพรรณดังจันทร...........แจ่มกระจ่างกลางนภา | |
สุขใจเจริญกาย................สิ่งทั้งหลายปรารถนา | |
ถูกต้องคลองธรรมมา.........จงเสร็จสมภิรมย์ใจ | |
ร่ำรวยลาภยศศักดิ์.............พึงประจักษ์พิสุทธิ์ใส | |
อุดมโชคและชัย...............อุดมสุขยิ่งยืนนาน | |
ชัยชัยชยันโต..................โหนตุโนเทพบันดาล | |
สุขสมเกษมศานต์.............สุขสวัสดิ์เจริญเทอญฯ | |
....................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
ทักกันสามพฤษภา.............จงหรรษาสโมสร | |
สุขสันต์นิรันดร.................ศรีสวัสดิ์มากมงคล | |
อายุยืนยาวยิ่ง...................เทียมสิงขรแลไพรสณฑ์ | |
ห่างภัยไร้กังวล.................ผองทุกข์โศกโรคคลาคลาย | |
ร่ำรวยธนทรัพย์.................คณานับก็เหลือหลาย | |
เกริกเกียรติยศกำจาย..........ชนสรรเสริญเจริญพร | |
นานาภารกิจ.....................จงประสิทธิสโมสร | |
สงบสนิทวิวิธบวร................เจริญสุขสวัสดิ์มี | |
ชัยชัยชยันโต....................โหนตุโนเกษมศรี | |
สุขสมภิรมย์ฤดี..................สุขสวัสดิ์เจริญเทอญฯ | |
....................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
ที่สี่พฤษภาคม..................เอกอุดมมงคลสรรพ์ | |
ส่งพรให้แก่กัน..................มิตรสหายแลญาติมวล | |
ขอจงเกษมสุข..................ห่างไกลทุกข์ภัยอย่าหวน | |
โชคชัยบังเกิดควร..............ศิริสวัสดิ์วิวัฒนา | |
ลาภยศสรรเสริญด้วย..........พรพึงช่วยสบหรรษา | |
อิ่มเอมเปรมปรีดา...............สุขพิพัฒน์จรัสเจริญ | |
การงานก็สัมฤทธิ์...............ผลประสิทธิ์น่าสรรเสริญ | |
ครอบครัวก็ดำเนิน..............สันติสุขสถาพร | |
ชัยชัยชยันโต....................โหนตุโนสโมสร | |
สุขสันต์นิรันดร..................ศรีสวัสดิ์เจริญเทอญฯ | |
....................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
โคลงสี่สุภาพ | |
o พฤษกวันที่ห้า..................เวียนวน | |
ขอส่งพรมงคล....................พี่น้อง | |
ญาติมิตรท่านทุกชน..............สันติ สุขแล | |
บุญกุศลคอยจ้อง..................ส่งให้เกษมศรี | |
o อายุวัฒน์ล่วงร้อย...............นับปี | |
พรรณผ่องพิมพ์ฉวี.................สง่าล้ำ | |
สุขกายจิตทวี......................เริงรื่น | |
พลเพียบแกร่งทุกก้ำ..............เกริกกล้าเกรียงไกร | |
o นานากอปรกิจล้วน.............จำเริญ | |
ผลสฤษดิชวนเพลิดเพลิน........เลิศล้น | |
ครอบครัวสุขสงบเกิน..............บุญส่ง | |
บุญยิ่งบารมีต้น......................ต่อตั้งเกษมศานต์ | |
........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
โคลงสี่สุภาพ | |
o พฤษกที่หกแล้ว...............เวียนมา | |
ขอส่งสุขหรรษา..................พี่น้อง | |
ญาติมิตรอิ่มปรีดา................เริงรื่น | |
สบสิ่งมงคลต้อง..................ต่อเต้าเติมเต็ม | |
o อายุวัฒน์มาดแม้น.............ศิขรินทร์ | |
วรรณวัฒน์ดังอินทร์...............แต่งแต้ม | |
สุขวัฒน์ดั่งพรหมินทร์............เสกส่ง ให้นา | |
ศิริวัฒน์ยามแย้ม...................ยิ่งแย้มปภัสสร | |
o ลาภรวยสินทรัพย์ถ้วน..........ก่ายกอง | |
ยศเยี่ยงยลจันทร์มอง.............สว่างหล้า | |
สรรเสริญทุกชนผอง...............ชมชื่น | |
สุขเกษมทั่วหน้า....................สุขล้นเกษมศรี | |
........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
โคลงสี่สุภาพ | |
พอคอที่เจ็ดถ้วน.................หกสอง | |
ขอญาติแลมิตรผอง.............ทั่วหน้า | |
ลาภรวยยิ่งเงินทอง...............ทุกท่าน | |
ยศยิ่งยงทั่วหล้า..................แซ่ซร้องสดุดี | |
สุขกายสุขจิตไร้..................หมองมน | |
กอปรกิจการสกล.................สฤษดิถ้วน | |
ครอบครั่วทั่วทุกชน..............รมย์รื่น | |
บุญกุศลส่งล้วน...................ชื่นหน้าเบ่งบาน | |
หวังสินธนะล้วน...................หลั่งมา | |
หวังเกียรติก่อศักดา...............กว่ากว้าง | |
หวังกิจสฤษดิ์พา..................ชวนชื่น ใจนา | |
หวังสุขสบสุขอ้าง.................เทพไท้บันดล | |
.......................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
โคลงสี่สุภาพ | |
o ทักกันวันนี้แปด.................พฤษภา | |
เถิงศกหกสองมา..................เนิ่นแล้ว | |
เบญจมาศคณา....................เดือนล่วง | |
ขอทุกชนเจริญแก้ว...............ค่าล้ำรัตน์ไตร | |
o พุทธานุสสติตั้ง.................ตรงใจ | |
ระลึกธรรมมั่นใน...................จิตตั้ง | |
สังฆานุสสติไตร...................นบนอบ กราบแล | |
สติเตือนหยุดยั้ง...................ยึดแก้วสามประการ | |
o สัพพปาปัสสเว้น................บาปมวล | |
บุญกุศลสั่งควร.....................ก่อไว้ | |
ชะจิตแจ่มดังนวล..................จันทร์ผ่อง แลนา | |
สามกิจบำเพ็ญไว้..................ใช่แล้วสาวกา | |
.......................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
อินทรวิเชียร ๑๑ | |
o ล่วงพฤษภาคม...............ศิระก้มอภิวันท์ | |
ไตรรัตน์คุณานันต์...............สรณังระลึกคุณ | |
o ศีลห้าสมาทาน...............สติสานจะเกื้อหนุน | |
ถือมั่นจะเกิดบุญ.................สุคติงจะนำไป | |
o ทรัพย์สัมปทานมั่น...........ก็จะสรรค์เพราะศีลไข | |
ร่มเย็นเพราะศีลนัย..............อธิบุญกรุณธรรม | |
o ปาณาติปาตา.................จะมิฆ่าฤฆาตกรรม | |
เว้นลักอทินนำ...................แหละมิล่วงประเวณี | |
o ยึดถือประพฤติสัตย์..........ปิติวัตติ์ประเสริฐศรี | |
เมรัยสุรามี.........................จะละขาดมิเสพเลย | |
o ถือเบญจคุณวัตร..............มุพิพัฒน์สวัสดิ์เผย | |
ยกจิตแหละชื่นเชย..............จะสงบและสบพร | |
.......................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
อินทรวิเชียร ๑๑ | |
o สิบพฤษภาคม..............ลุอุดมดิเรกสรรค์ | |
เสริมศรีพิเศษวัน..............ก็จะขออำนวยพร | |
o ขอมิตรสหายล้วน..........คณะควรสโมสร | |
ญาติมิตรวิวัฒน์วอน..........หฤหรรษ์ระเริงรมย์ | |
o รวยลาภธนาสิน.............อมรินทร์ก็เสกสม | |
ยงยศแหละชวนชม...........และสวัสดิ์วิวัฒนา | |
o สรรเสริญเจริญนัก..........นรรักแหละหรรษา | |
บำเทิงสุปรีดา..................สุมนัสจรัสเรือง | |
o ชัยชัยชยันโต...............สุมโนและบรรเทือง | |
เคราะห์ภัยมิขัดเคือง.........ปิติสมภิรมย์เทอญฯ | |
...................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
...........ทักทายสิบเอ็ดพฤษภาคม | |
สาลินีฉันท์ ๑๑ | |
o ทักกันเสาร์สิบเอ็ด.......จะสำเร็จแหละคำฉันท์ | |
เลือกดูมีหลายอัน .........ก็เลือกสาลินีดู | |
o วรรคหน้าห้าคำล้วน.....ครุประมวลน่ะงามหรู | |
ทุกคำจำคุณครู..............วิจัยดูครุทั้งมวล | |
o วรรคหลังเบาหนักหนัก...ประจักษ์แจ้งก็นึกสรวล | |
สองชุดหกคำควร..........ก็คือสาลินีกรอง | |
o สืบเนื่องคุณยายกัน.....ธนัญธรคำรบสอง | |
วันวานบอกเรื่องจอง......จะพักห้องพยาบาล | |
o รักษาข้อสะโพก........จะย้ายโยกมิอาจสาน | |
ขัดข้อปวดประมาณ.......มิอยากเดินเพราะปวดแล | |
o หมอผ่าเปลี่ยนข้อเทียม..ก็ว่าเยี่ยมแหละยังแผล | |
รอยผ่าปวดแทบแย่.......ลำบากยายมิคลายเลย | |
o ผ่านมาสามวันได้.......สบายใจก็ลองเผย | |
แผลหายแล้วทรามเชย..ก็ปวดน้อยแหละผ่อนลง | |
o ยามนอนได้หลับบ้าง...มิต้องครางเพราะปวดคง | |
ดีขึ้นดังจำนง................จะได้กลับแหละไวไว | |
o เพื่อนผองมาเยี่ยมกัน..คณาสรรค์มิสงสัย | |
ทำงานร่วมกันไซร้.........พยาบาลก็หลายคน | |
o ญาติมิตรมีมากมาย.....ก็มีหลายมิสับสน | |
ของฝากมากเสียจน.......จะล้นตู้พระคุณมวล | |
o อวยพรหายไวไว.........ก็น้ำใจคณาสรวล | |
ขอบคุณใคร่เชิญชวน......พระคุณเทพติรัตน์พรหม | |
o อวยชัยให้มงคล..........และดาลดลเหมาะควรสม | |
ทุกท่านจงรื่นรมย์...........ประสบสุขสถาพร | |
o พบมวลอุดมผล...........และมงคลสโมสร | |
สุขสันนิรันดร.................นิราศทุกข์เคราะห์ห่างไกล | |
o สัพเพเทพเทโว...........มโนน้อมพิสุทธใส | |
เมตตาทุกพรไซร์............พระพรหมช่วยอำนวยเทอญฯ | |
...................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
อินทรวิเชียร ๑๑ | |
o เดือนพฤษภาคม...........ปิติสมพิสุทธิ์ใส | |
สิบสองดิถีได้.................ก็จะไหว้พระพรหมินทร์ | |
o นบคุณพระไตรรัตน์........สุจรัสพิเศษศิลป์ | |
ขอพรก็ยลยิน..................และประสิทธิ์ประทานมวล | |
o ขอญาติและมิตรสุข.......นิรทุกข์มิกลับหวน | |
มงคลอุดมควร.................ก็อุดมธนากร | |
o ยงยศแหละยิ่งยง..........ลุประสงค์สโมสร | |
ดุจจันทร์ ณ อัมพร...........ก็กระจ่างสว่างวรรณ | |
o ชมชนประชาชื่น............มนรื่นเกษมสันต์ | |
สุขสมภิรมย์ครัน..............เพราะพิเศษประสิทธิ์เรือง | |
o ชัยชัยชยันโต...............สุมโนและบรรเทือง | |
เคราะห์ภัยมิขัดเคือง.........ปิติสมภิรมย์เทอญฯ | |
...................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ฉบัง ๑๖ | |
o สิบสามพฤษภาคม..............สิบนิ้วพนม | |
กราบคุณพระรัตนตรัย | |
o ด้วยจิตพิสุทธิ์สดใส.............มากมวลน้ำใจ | |
ส่งพรญาติมิตรทุกชน | |
o จงพบโชคชัยมงคล.............พลังบุญกุศล | |
ส่งให้จำเริญจำรูญ | |
o ลาภยศสรรเสริญเพิ่มพูน.........สุขีทวีคูณ | |
ปรีเปรมเกษมสำราญ | |
o สบสันต์หรรษาเบิกบาน..........ห่างภัยแผ้วพาน | |
สงบสันติสถาพร | |
o โชคชัยสุโขสโมสร................ไกลห่างนิวรณ์ | |
สงบร่มเย็นยินดี | |
o ทุกพรก่อเกิดจงมี..................โดยเทพฤทธี | |
ประสิทธิ์อำนวยอวยเทอญฯ | |
................. ..............ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ | |
o เดือนพฤษภาคม...........ก็นิยมจะอวยพร | |
ขอมิตรสโมสร................คณะญาติเจริญคุณ | |
o ด้วยเดชพระไตรรัตน์.....อภิวัฒน์กุศลหนุน | |
อีกบารมีบุญ...................ศิริช่วยอำนวยชัย | |
o ขอจงเจริญชนม์...........นิรมลพิสุทธิ์ใส | |
ผ่องพิศฉวีนัย.................ก็พิไลปภาพรรณ | |
o สุขสมเกษมศรี.............บมิมีลำบากขันธ์ | |
สุขสมภิรมย์ครัน..............และสวัสดิ์เจริญเทอญฯ | |
........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
o สิบหกพฤษภาคม...........เอกอุดมดิถีสมัย | |
ก่อเกิดมงคลชัย................ศรีสวัสดิ์มากมงคล | |
o ทุกการงานประเสริฐ........มีคุณเลิศประสิทธิ์ผล | |
เกษมสุขทุกชุมชน.............เคราะห์ห่างหายคลาคลายไป | |
o อุดมลาภสินทรัพย์..........อนันต์นับอสงไขย | |
อุดมยศเกริกไกร................กิติก้องเกริกกำจร | |
o อุดมชนชื่นชม................ศิริสมสโมสร | |
อุดมดิเรกพร.....................พรหมเทพช่วยดลบันดาล | |
oชัยชัยชยันโต..................โหนตุโนเกษมศานต์ | |
เริงรื่นสดชื่นบาน................สบสุขสันต์นิรันดร ฯ | |
....................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ | |
o เดือนพฤษภาคม.................ปิติสมเกษมสันต์ | |
ไตรรัตน์อภิวันทน์..................ศิรน้อมนมัสการ | |
o เทพไทพระพรหมมินทร์........อมรินทร์จะประสาน | |
นบไหว้พระภูบาล..................ธรณินทร์พระภูมิมวล | |
o ขอพรเจริญคุณ...................อภิบุญกุศลหวน | |
ส่งผลผลาควร......................จะสฤษดิ์ประสิทธิ์ไชย | |
o มงคลอุดมสิน.....................ธนยินก็หลั่งไหล | |
เพชรพลอยประมวลนัย............ศิวเสกประทานพร | |
o ชัยชัยชยันโต.....................สุมโนนิรันดร | |
สบสมมิอาทร........................สุสวัสดิ์เจริญเทอญฯ | |
.........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กลอนแปด | |
ลุวันที่สิบแปดเดือนพอคอ...........วันนี้หนอเรารู้วันบูชา | |
เรียกขานกันวิสาขนับนานมา........แจ่มจันทราชวนชื่นคืนเดือนเพ็ญ | |
กาลสำคัญคล้ายวันพระสุคต........เพราะจำจดประสูติกาลนานนักเห็น | |
พระองค์ตรัสรู้วันนั้นเป็น..............จำชัดเจนสิบห้าค่ำเดือนหกมี | |
แปลกมากนักตรงกันวันดับขันธ์.....นิพพานนั่นแปลกรู้ดูดิถี | |
คืดวันเพ็ญเดือนหกสามวันนี้.........จำง่ายดีงดงามสามกิจกรรม | |
ถึงวีนที่สิบแปดพฤษภา................วิสาขาเทศกาลนานฉนำ | |
ผองพวกเราชาวพุทธยังจดจำ........กิจเกี่ยวข้องพุทธองค์ | |
อิติปิโสนโมนบภควา..................พระสัมมาอรหังดังประสงค์ | |
ตรัสรู้สัจธรรมเป็นพระพุทธ...........พระวิสุทธิ์อุตตมคุณากร | |
พระปัญญาธิคุณบุญอันยิ่ง...........สรรพสิ่งพระกรุณคุณสั่งสอน | |
อริยสัจธรรมอันบวร....................ยากนักตอนเผยแผ่แก่ผู้ใด | |
ธรรมลึกซึ้งตริถึงผู้ฟังหนอ............จึงจักพอเรียนรู้จนแจ้งไช | |
พระอาจารย์ดาบสนั่นแหละไซร้.....ส่องญาณไปเสียดายท่านวายชนม์ | |
ทั้งสองท่านอาราฬดาบส.............อีกท่านหมดโอกาสพลาดมรรคผล | |
ล่วงลับไปเป็นพรหมอยู่เมืองบน....จักหาคนกลุ่มไหนทรงไตร่ตรอง | |
นึกถึงกลุ่มปัญจวัคคีนั่น...............อยู่ร่วมกันหกปีทีสนอง | |
เพราะมุ่งหวังโมกขธรรมตามครรลอง....สมควรต้องโปรดดูอาจรู้ธรรม | |
พระเสด็จไปยังพาราณสี.............ปัญจวัคคีย์ทราบคงอยู่จำ | |
ป่าอิสิปัตตนะจะชักนำ...............ปฐมคำสั่งสอนจักประทาน | |
จนถึงคืนวันเพ็ญอาสาฬหะ.........เสด็จถึงอาศรมใคร่กล่าวขาน | |
ทั้งห้าองค์ดาบสปรึกษาการ........เจ้าชายผ่านมาถึงหวังพึ่งเรา | |
ตามสบายไม่ลุกไม่ต้องรับ..........ไม่สดับทักทายตามใจเขา | |
พุทธองค์ทราบดีปรีชาเชาวน์.......ขอผู้เฒ่าจงสดับตรับฟังธรรม | |
วันนี้เรารู้แจ้งเห็นจริงแล้ว............ดังดวงแก้วโมกขชัยไม่ถลำ | |
ล้วนเป็นสัจอริยะใคร่จะนำ..........บอกกล่าวคำสั่งสอนด้วยยินดี | |
เงียบมิฟังมิมองมิสนใจ..............ใครจักพูดจักคุยบ้างเดินหนี | |
พุทธองค์ประกาศถ้อยวจี............อันวาทีมิเคยกล่าวแต่ก่อนมา | |
แต่วันนี้เรากล่าวว่าตรัสรู้............พิเคราะห์ดูแปลกใจบ้างไหมหนา | |
หากมิฟังถ้อยคำจำนรรจา...........จะรู้ว่าเท็จจริงเป็นฉันใด | |
โกญทัญญะนึกออกบอกมานั่ง.....พวกเราฟังคอยสะดับเป็นไฉน | |
พุทธองค์ทรงตรัสปฐมนัย..........ดังหนึ่งใช้กงจักรธรรมดำเนิน | |
ปฏิบัติสุดโต่งมีสองอย่าง...........มิใช่ทางปฏิบัติเพราะขัดเขิน | |
กามสุขสร้องเสพแลเพลิดเพลิน...ยากเจริญโมกขธรรมยังห่างไกล | |
อีกอัตตกิลมะถานุโยค..............ผิดแผกโลกทรมานตนไฉน | |
เสียเวลาเราทำยิ่งกว่าใคร...........หกปีได้ยังมิพบมรรคผลเลย | |
จนเราเดินสายกลางคือมรรคแปด.ประดุจแพทย์บอกทางที่เปิดเผย | |
มรรคสัจจก่อเกิดแปลกมิเคย.......เรากล้าเอ่ยอริยะคือมรรคา | |
โกญทัญญะเห็นธรรมนำให้ท่าน...กล่าวอุทานยังกิญจิเกิดขึ้นหนา | |
ย่อมจักดับสิ้นไปเป็นธรรมดา.......จักนำพาดับสิ้นด้วยเช่นกัน | |
พุทธองค์ปลื้มนักตระหนักแล้ว.....ธรรมแก้วตรัสรู้คู่ควรสรรค์ | |
สามารถสอนให้รู้นี่สำคัญ...........สิ่งที่ฝันเป็นได้ใช่แน่นอน | |
อันสัมมาสัมพุทธบุรุษเลิศ..........สุดประเสริฐเป็นจริงสิ่งที่สอน | |
ทำให้เกิดดวงตากิเลสรอน.........เป็นบทตอนยวดยิ่งกว่าสิ่งใด | |
อัญญาสิ วตโภ โกญทัญโญ.......องค์พุทโธยินดียิ่งไฉน | |
เพราะพระธรรมล้ำลึกเมื่อนตรึกนัย.บรรลุได้ดวงตาก่อเกิดมี | |
เมื่อเดือนแปดวันเพ็ญปฐมเทศน์..ช่างวิเศษโกญทัญญะประเสริฐศรี | |
ทูลขอให้ได้บวชในทันที...........ทรงกล่าวชี้"จงเป็นภิกษุมา | |
ธรรมเรากล่าวดีแล้วจงศึกษา.......พัฒนาทำที่สุดทุกข์สิ้นไป | |
จบคำดำรัสถือเป็นพระ..............จะเรียกขานภิกษุมิสงสัย | |
เป็นปฐมสาวกก่อนใครใคร..........บุญที่ได้ฟังธรรมคำพุทธองค์ | |
ธรรมจักกัปปวัตตนะ................คือสุตตะเสร็จสมที่ประสงค์ | |
เป็นพุทธะตรัสรู้จะมั่นคง.............สอนได้ตรงมีคนบรรลุธรรม | |
โกญทัญญะคือประจักษ์พยานแน่..ประจัก์แท้พยานนานฉนำ | |
ประดิษฐานพุทธศาสน์ประกาศกรรม.อำนวยเอื้อผองสัตว์พิพัฒน์ดำนาน | |
อรหังสัมมาสัมพุทโธ.................มโนน้อมนอบนบจบประสาน | |
จงจิตนึกตรึกธรรมพระภูบาล.........ขอกราบกรานพระคุณมั่นนิรันดร ฯ | |
ทักทายกันวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กลอนแปด | |
ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ.....................มนุสะฝึกดีประเสริฐสม | |
มนแปลว่าใจใครนิยม........................ต่างชื่นชมค่าสูงสูงที่ใจ | |
ก็จักมีสองคำใช้เรียกหา.....................คำว่าคนและมนุษย์พิสุทธิ์ใส | |
จะสูงต่ำจำแนกกันอย่างไร..................เขาบอกให้สังเกตพฤติกรรม | |
กายวาจาพอรู้จะดูเห็น.......................ใจยากเย็นดูยากหากยังขำ | |
มักปรากฏทางกายวาจาทำ.................ตัวสื่อนำแสดงออกมาจากใจ | |
แบบไหนสูงไม่สูงอะไรวัด..................จำต้องจัดศีลธรรมนำมาไข | |
อย่างน้อยก็ศีลห้านั่นแหละใช้..............เทียบเอาได้เรียกคนพอหรือยัง | |
หากมีศีลครบห้าว่าดีสุด.....................เรียกมนุษย์ก็ดีมีมนต์ขลัง | |
ศีลชำรุดคำมนุษย์ก็อาจพัง.................มาลองฟังศีลขาดเขาพูดกัน | |
ขาดข้อหนึ่งเขาว่าเพชฌฆาต..............เรียกประหลาดประมงจับปลาสรรพ์ | |
ฆาตกรฆ่าคนนี่สำคัญ........................เภทภัยนั่นคนเกลียดชังมากมาย | |
ขาดข้อสองเขาเรียกพวกเป็นโจร..........บ้างโดนเรียกขี้โกงก็เสียหาย | |
ขาดข้อสามเจ้าชู้น่าละอาย.................จะหญิงชายเจ้าชู้ไม่คู่ควร | |
ขาดข้อสี่ขี้ฮกค่าตกต่ำ......................พูดจาคำขาดค่ามักน่าสรวล | |
ไม่น่าเชื่อด้อยค่าต่ำกระบวน................มักเรรวนจะกอปรกิจการใดใด | |
ขาดข้อห้าเลวร้ายไม่เหลือดี................เขาเรียกขี้เมามายน่าสงสัย | |
ชั่วขนาดเรียกขี้เลยหรือไร..................อย่าล่วงไปเรื่องสุราพาเสื่อมคุณ | |
เพราะฝีกศีลอย่างน้อยก็ห้าข้อ.............มีค่าพอขัดกิเลสวิเศษหนุน | |
ขัดตัวเราผ่องใสได้เพาะบุญ............... นั่นแหละทุนเป็นมนุษย์สุดดีงาม ฯ | |
...................................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
โคลงสี่สุภาพ | |
o..พฤษภายี่สิบถ้วน...............ดิถี | |
ขอทักสวัสดี........................เพื่อนพ้อง | |
สบายนะครับมี.....................สุขภาพ แกร่งแฮ | |
โชคลาภไหลหลั่งต้อง...........ต่อเต้าเติมมวล | |
o..อุดมดิเรกล้วน..................เงินทอง | |
ยศยิ่งยงรังรอง.....................จรัสแจ้ง | |
เทียมจันทร์แจ่มยามมอง.........งามยิ่ง นักแล | |
ชนชื่นชมเทพแสร้ง................เสกให้งดงาม | |
o..สุขกายสุขจิตล้วน..............เริงรมย์ | |
กอปรกิจก็เสร็จสม.................เลิศล้วน | |
ญาติมิตรก็ชวนชม..................บานชื่น ใจแฮ | |
พรหมเทพอวยทั่วถ้วน.............ลาภล้วนหลั่งรวม | |
........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
o เดือนพฤษภาคม.............ปิติสมสโมสร | |
ยินดีขอส่งพร.....................เกษมสันต์ทุกผู้คน | |
o อสังกิลิสจิต...................ใจวสิทธิ์วิเศษผล | |
สุคติจรดล.........................เข้าถึงได้เพราะใจงาม | |
o สสังกิลิสเศร้า.................จิตของเราน่าเกรงขาม | |
กิเลสครอบคุกคาม...............มิผ่องใสใจหมองมัว | |
o ทุคติจักเข้าถึง.................พึงสังวรอย่านึกหัว | |
สุทุอยู่ที่ตัว........................เรากำหนดจักบทจร | |
o จิตผ่องเพราะกุศล............ก่อเกิดผลดังคำสอน | |
จิตหมองมักร้าวรอน..............ทุคติเป็นที่ไป | |
o พิสุทธิ์จิตตรงข้าม.............ยามดำเนินมิสงสัย | |
สุคตินั่นแน่ใจ......................จักเข้าถึงยังซึ้งใจฯ | |
.........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
สาลินีฉันท์ ๑๑ | |
o ยี่สิบสามพอคอ..................ปิติรอจะส่งพร | |
ถึงญาติแลมิตรวอน................มหเทพและพรหมมินทร์ | |
o อวยชัยประสาทฤทธิ์............วรสิทธิ์พิเศษศิลป์ | |
ธัมมาจัตตายิน......................ก็เจริญจรูญชัย | |
o ยืนชนม์ยิ่งร้อยพัน...............ศิริวรรณพิสุทธิ์ใส | |
สบสุขทั้งกายใจ....................พละเทียมคชาธร | |
o การงานล้วนคงมั่น...............ผลสรรพ์สโมสร | |
ครอบครัวไม่อาทร.................ก็สงบสุขารมย์ | |
o ชัยชัยจงภิญโญ.................สุมโนดิเรกสม | |
ขอวอนทวยเทพพรหม............มุทุเอื้ออำนวยเทอญฯ | |
..........................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กลอนแปด | |
o ยี่สิบสี่พฤษภาคมอารมณ์ถวิล............ยังยลยินไมตรีที่หวนหา | |
ขอส่งพรวอนไหว้ไตรรัตนา.................อีกพรหมมาทวยเทพอวยฤทธี | |
o ขอญาติมิตรแลสหายคลายทุกข์โศก...โรคแลเคราะห์เภทภัยไกลวิถี | |
จงสบสันต์เกษมสุขทุกราตรี................ของจงมีหฤหรรษ์สถาพร | |
o อุดมลาภสรรเสริญอุดมศักดิ์..............ศิริลักษณ์ภิญโญสโมสร | |
สุขสวัสดิ์อภินันท์นิรันดร....................พรหมอวยพรเสร็จสมภิรมย์ใจ | |
o สัพเพธัมมาจัตตาโร........................ภิญโญยิ่งดำรงอสงไขย | |
พรจำเริญเทพพรหมท่านอวยชัย............ขอจงได้เสร็จสมภิรมย์เทอญฯ | |
....................................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กลอนแปด | |
o สวัสดียี่สิบห้าพฤษภา................ปิติมาเพลิดเพลินเจริญใจ | |
ตื่นเช้ามารำลึกพระรัตน์ตรัย............ด้วยลื่อมใสศร้ทธามานับนาน | |
o จึงถือแนวปฏิบัติที่ท่านสอน........ตามบทตอนสิกขาท่านว่าขาน | |
สีลสิกขาเรียนรู้ให้ชำนาญ.............พอถึงการปฏิบัติจรัสเจริญ | |
o จิตสิกขาพาใจให้ผ่องแผ้ว..........ตั้งมั่นแล้วจรรยาน่าสรรเสริญ | |
หมั่นชำระมลทินพึงประเมิน............จิตดำเนินถูกต้องครรลองธรรม | |
o อีกปัญญาสิกขาสถาผล..............พึงฝึกตนให้ฉลาดมิอาจถลำ | |
เริ่มฝึกตามดูสติเป็นประจำ.............ชอบสิ่งนำยวนใจคอยไล่ตาม | |
o อายตนะภายนอกหลอกให้หลง....วิ่งไปคงชอบใจอยากไต่ถาม | |
คงชอบพอชอบใจในความงาม........เจอทุกยามสติหลงเรื่อยร่ำไป | |
o ฝึกกำกับเอาสติให้อยู่นิ่ง.............จงอย่าวิ่งห่างกันมั่นอยู่ไหม | |
ห้านาทีสิบนาทีดีกระไร.................ฝึกบ่อยได้ยิ่งนานสราญรมย์ | |
o สติมั่นมีค่าสมาธิจิต....................ยามจะคิดพูดทำกรรมเหมาะสม | |
ควรขยันหมั่นเจริญเกินอุดม............ชนนิยมฝึกสติวิวัฒน์บวร ฯ | |
..............................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กลอนแปด | |
o..ยี่สิบหกพฤษภาก็มาถึง.................ยังคะนึงญาติมิตรสนิทสหาย | |
วอนไตรรัตน์ขจัดภัยให้คลาคลาย.......สิ่งชั่วร้ายห่างไกลไร้กังวล | |
o..จงจำเริญจตุพรรอนทุกข์โศก.........นิรโรคปรีดาสถาผล | |
อุดมลาภโชคชัยในสากล...................มากมงคลศรีสวัสดิ์วิวัฒนา | |
o..อายุมั่นยืนนานสราญจิต.................เทพประสิทธิ์พรสรรค์พึงหรรษา | |
งามฉวีศรีวรรณพรรณประภา...............สุขอุรารมย์รื่นชวนชื่นใจ | |
o..อุดมลาภสินทรัพย์นับเอนก.............อุดมเอกยงยศงามสดใส | |
อุดมเสียงสรรเสริญเพลินหทัย.............อุดมได้เกษมสุขทุกคืนวัน | |
o..ชยันโตโพธิยาสาธุสะ.....................รัตนะตรัยนบประสบสรรค์ | |
จุตตาโรพิธพรสฤษดิ์พลัน....................เทพพรหมมั่นเกื้อกูลจรูญเทอญฯ | |
........................................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
o..ยี่สิบเจ็ดพฤษภา...............คะนึงหามิตรสหาย | |
ขอจงสุขสบาย.....................สบสุขสมภิรมยา | |
o..อายุยืนยาวมั่น..................เกษมสันต์สบหรรษา | |
ผ่องพรรณสุวรรณา...............ศรีสวัสดิ์มิ่งมงคล | |
o..อุดมธนทรัพย์...................อนันต์นับทุกแห่งหน | |
เพชรพลอยพรหมเทพดล......ก่อเกิดได้ด้วยบารมี | |
o..อุดมกิตติศักดิ์...................นรภักดิ์ส่งเสริมศรี | |
นรชนทั่วปฐพี.......................แลชื่นชมอำนวยพร | |
o.. ชัยชัยชยันโต...................สุมโนอนุสสรณ์ | |
เทพพรหมเอื้ออาทร..............อำนวยฤทธิ์ประสิทธิ์เทอญฯ | |
....................................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
o..ยี่สิบแปดพฤษภา...............เฝ้าแลหามิตรสหาย | |
ผองญาติก็มากมาย...............จงสุขสมสถาพร | |
o..กราบกรานทวยเทพไท......อีกรัตน์ตรัยสโมสร | |
พลังบุญวิวัฒน์วร..................ทุกสิ่งสมภิรมยา | |
o..เสร็จสรรพ์ธุรกิจ................พึงสฤษดิ์สบหรรษา | |
ก้าวไกลพัฒนา.....................ศิริสวัสดิ์จรัสจรูญ | |
o..ครอบครัวเกษมสุข............นิรทุกข์เคราะห์คลายสูญ | |
มงคลเพิ่มไพบูลย์..................อุดมโชคอุดมชัย | |
o..ชโยชโยยิ่ง........................สรรพสิ่งพิเศษสมัย | |
เทพฤทธิ์ประสิทธิ์ให้..............สมประสงค์จำนงเทอญฯ | |
.................... ...................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
กาพย์ยานี ๑๑ | |
o..ยี่สิบเก้าพฤษภา....................ตื่นเช้ามาทำอะไร | |
สวดมนต์ขอน้อมไหว้.................คุณพระไตรอภิวันทน์ | |
o..ถือเอาศีลห้าข้อ....................สติรอจะเสกสรรค์ | |
ผูกจิตนั่งนิ่งกัน..........................จะตามดูรู้ใจเรา | |
o..สูดลมหายใจยาว...................ราวสามครั้งระวังเขา | |
จิตเริ่มวิ่งมิเบา...........................มันตามเหยื่อกามารมณ์ | |
o..รูปเสียงกลิ่นรสเร้า.................ผัสสะเขลาระวังขม | |
หลงไปอาจได้ตรม.....................ระวังใจให้รู้ทัน | |
o..บางคราวน่าชอบใจ................นั่นแหละใช่อารมณ์สรรพ์ | |
ชวนให้ดีใจพลัน........................หลงระเริงบำเทิงใจ | |
o..ยามที่มิสบจิต........................ก็วิปริตทุกข์ไฉน | |
สิ่งเดียวกันทำไม.......................ก่อสุขทุกข์แปลกแต่จริง | |
o..พุทธองค์ทรงรู้แจ้ง................แสดงธรรมแก่ชายหญิง | |
ยึดมั่นถือมั่นทิ้ง..........................ละเสียได้ไม่ทุกข์ทน ฯ | |
........... .............................ขุนทอง ประพันธ์ | |
เล่าเรื่องกลับเมืองเลย (โพส 30 พฤา๓ษ๕ฒ -คต- | |
--------------------------------- | |
กาพย์ยานี ๑๑............ | |
ยี่สิบแปดพฤษภา............ตั้งใจว่าจะเดินทาง | |
ไปเลยสักครั้งบ้าง............อ้างเยี่ยมลูกด้วยผูกพัน | |
อีกเรืองคือตำนาน............มีข่าวสารข้อสำคัญ | |
ขยายเพดานกั้น..............สิบห้าเท่าของบำนาญ | |
ให้เบิกไปใช้ได้...............กำหนดไว้เอกสาร | |
สี่แสนก่อนเกณฑ์การ........มาวันนี้เปลี่ยนแปลงไป | |
ห้าแสนขยายต่อ..............รอให้แก่ขนาดไหน | |
เจ็ดสิบปีถึงได้.................คำนวณให้เกณฑ์นี้แล | |
อยากรู้ไปพบเขต.............เรื่องเหตุผลตามกระแส | |
เขาแจงละเอียดแน่...........จักรู้ได้ข้อเท็จจริง | |
กำหนดยี่สิบเก้า...............กิจของเราบอกคุณหญิง | |
ธนัญธรเธอก็ติง...............อยากไปเที่ยวด้วยเหมือนกัน | |
เสียดายขากะเผลก...........เปิดดูเลขยามพร้อมสรรพ์ | |
คงนานหายไม่ทัน............ไปบ่ได้ดอกคุณยาย | |
จำใจไปคนเดียว..............ยังหวาดเสียงน่าใจหาย | |
รถทัวร์คนมากมาย...........ทั้งหญิงชายปนกันไป | |
จักค้างสักสองคืน.............คงมิฝืนสังขารไหว | |
คนแก่นั่งรถได้................หลับตื่นบ้างก็พอทน | |
ตกลงออกเดินทาง...........แต่รุ่งสางมิสับสน | |
เจ็ดโมงครึ่งรถยนต์...........คุณหนูพลอยไปทำงาน | |
ติดรถไปขนส่ง................ลงรถแล้วดูเอกสาร | |
แปดโมงอีกมินาน.............รถระยองจักเข้ามา | |
ถามเขานครไทย.............จอดตรงไหนเฝ้าแลหา | |
นังหนูมันบอกตา..............ตรงนั่นค่าเชิญไปคอย | |
มีเพื่อนสองสามคน...........มิกังวลเขาถดถอย | |
เชิญตายินเสียงน้อย.........ชวนไปยืนเป็นเพื่อนกัน | |
มินานรถมาไว.................นครไทยแน่นึกขัน | |
คอยอยู่ครู่เดียวนั่น...........รถมาแล้วรีบขึ้นไป | |
ตั๋วตานั่งเบอร์เก้า.............แถวสามซ้ายสุดตรงไหน | |
กระเป๋าเขาเก็บให้............ที่ท้ายรถสบายสบาย | |
ย่ามใหญ่วางใส่ตัก...........คุณสาวทักบอกกลัวหาย | |
ของดีมีมากมาย..............กอดเอาไว้ไม่กังวล | |
เธอถามไปไหนคะ............จะไปเลยครับสามหน | |
ยังถามอีกหน้ามน............จังหวัดเลยจ้าคนงาม | |
ที่แท้หนูคนสวย..............แปลกถิ่นด้วยเธอจึงถาม | |
จากจันทร์จะไปตาม..........สามีหนูอยู่เชียงคาน | |
สามเดือนมิกลับจันทร์.......มันเป็นไรจึงอาจหาญ | |
จักไปให้รู้การ.................งานหนักหนาหรือว่าไร | |
อ้าวหนูเพิ่งรู้กัน...............เรื่องสำคัญเป็นไฉน | |
บอกเรามิเข้าใจ...............น่าจะยาวเรื่องผัวเมีย | |
ปิดตาปิดหูก่อน...............ขอหลับนอนก่อนละเพลีย | |
ตื่นมาเข้าเขาใหญ่............คุณหนูใหญ่ไปไหนเสีย | |
ที่แท้หลับหรือเนี่ย............มิน่าเงียบไม่พูดจา | |
เข้าใจเรื่องอัดอั้น..............ยังบีบคั้นแหละนักหนา | |
ได้พูดระบายมา...............คงผ่อนคลายสบายใจ | |
ข้างทางแผงลอยร้าง.........ก่อนเคยวางของป่าไฉน | |
พืชผักพวกหน่อไม้...........เห็ดนานาคนหามี | |
เขาจับแล้วตามข่าว...........เป็นเรื่องราวพวกตาสี | |
ยายมาเก็บเห็ดที.............บ่อนทำลายความมั่นคง | |
ติดคุกกันมาแล้ว..............คนแถวนี้มิประสงค์ | |
ตามรอยเลิกเข้าดง...........มิมีคนตามแผงลอย | |
เรื่องเล็กเขาจับได้............เรื่องใหญ่ใหญ่กลับท้อถอย | |
มิเห็นพวกรุกดอย.............เขาหัวโล้นจับไม่ทัน | |
ตามรอยตีนตะขาบ............แต่มิทราบหายไปไหน | |
รอยมาถึงนี่ไง..................หายวับไปมิเห็นรอย | |
รถใหญ่มันจับยาก............มิลำบากพวกตาหอย | |
ยายสีรุกมาดอย..............จับตัวง่ายไม่กังวล | |
เชิงเขาปักธงไชย.............รถวิ่งไวมิสับสน | |
มากมายหนอผู้คน............เต็มตลาดดูดาษดา | |
รถมุ่งไปโคราช................เขาประกาศบอกแล้วหนา | |
ข้าวเที่ยงราชสีมา.............ตรวจตราบัตรไปแลกกัน | |
มินาน บขส.....................มิรีรอลงรถสรรพ์ | |
ไปโรงอาหารนั่น..............ห้องก๋วยเตี๋ยวคนเดียวเรา | |
หิวด้วยอร่อยดี.................เลือกเส้นหมี่โฉมเฉลา | |
ตามมาเชิญนงเยาว์..........มิพูดจาก้มหน้ากิน | |
กำลังจะเริ่มเรือง..............เคืองสามีมากหนี้สิน | |
ตาอิ่มก่อนยุพิน...............ตามสบายเล่าให้มัน | |
มินานรถเคลื่อนต่อ...........มิรีรอจนนึกขัน | |
รูไหมตาผัวฉัน................นี่โอเลี้ยงซื้อให้ตา | |
ของฉันนมเย็นจ๊ะ.............จริงนะคะมิง่วงหนา | |
หนูเคยคุยผัวค่า...............เสิร์พกาแฟคุยได้นาน | |
สักทุ่มกาแฟร้อน..............สนุกตอนชวนว่าขาน | |
โอเลี้ยงสามทุ่มวาน..........ดื่มเย็นเย็นสบายสบาย | |
ผัวหนูแกชอบขม..............เลยผสมแก่เหลือหลาย | |
ไม่ง่วงแกวุ่นวาย..............สมน้ำหน้าเก่งนักฤๅ | |
ที่สุดเป็นลูกแหง่..............ต้องดูแลหนูมิถือ | |
แต่ก่อนนักหัวดื้อ..............ตอนนี้มันชอบหลบงาน | |
บอกหนูมาเยี่ยมแม่...........เก่งนักแกคอยสื่อสาร | |
บ้านฉันอยู่เชียงคาน..........มาเยี่ยมแม่บ่อยเกินไป | |
มันต้องมีซักอย่าง.............ที่แอบอ้างชักสงสัย | |
จึงต้องตามมาไง..............หนูฉลาดนะคุณตา | |
มิฟังก็ได้ยิน...................หลับตาสิ้นยังสงกา | |
นิยายจากกานดา.............สามีหนู่ช่างยืดยาว | |
ดีที่โอเลี้ยงแก้ว...............ตาแป๋วแหววเลยลืมหาว | |
ฟังไปไร้เรื่องราว..............ตามสบายเชิญเล่าไป | |
พักรถด่านขุนทด.............ครูเดียวรถต่อไฉน | |
มินานวิ่งต่อไว.................มิเชื่องช้าน่าชื่นชม | |
ชัยภูมิพักครู่หนึ่ง..............แล้วจึงต่อก็เหมาะสม | |
ภูเขียวทางเทียวชม...........คือจุดหมายพักต่อไป | |
ถึงเขตชุมแพแล้ว.............เสียงเจื้อยแจ้วนึกสงสัย | |
ไข่ปิ้งนั่นยังไง.................แปลกต้องลองซื้อมาดู | |
เปลือกไข่ใส่แป้งแทน.......ไข่ขาวแสนนิดหน่อยหนู | |
ผสมให้ดมดู...................พอได้กลิ่นไข่สำคัญ | |
ก่อนนี้เขาทำดี................ผสมมีไข่เสกสรรค์ | |
อร่อยซื้อหากัน................แต่ตอนนี้ไม่น่าชม | |
ใสกันเจือจางมาก.............จนมิอยากชิมขื่นขม | |
เอาเปรียบคนโง่งม............ซื้อทีเดียวเข็ดจนตาย | |
อำลาจากชุมแพ...............มินานแน่ดีใจหลาย | |
บ้านหันดีมากมาย............ทางแวะได้ไปเมืองเลย | |
ผ่านมาค่ายทหาร.............ถึงบ้านทุ่มทางเปิดเผย | |
ดงลานก่อนนี้เคย.............อุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน | |
สองศพผองเพื่อนเรา........นึกน่าเศร้ามิเห็นหน | |
ตามหลังค่ำคืนคน............นอนตายอยู่ริมขอบทาง | |
ที่แท้รถเพื่อนผอง............พี่น้องเราคืนสะสาง | |
นำศพกลับบ้านพลาง.........จัดการให้กิจตามควร | |
ค่อยกลับไปงานต่อ...........วันนี้พอได้นึกหวน | |
เรื่องราวหนหลังชวน.........ให้โศกเศร้าเหงาในทรวง | |
ผ่านถึงศาลปู่หลุบ............คนมุบมิบคงเข็ดขวง | |
เจ้าพ่อเทพทั้งปวง...........ท่านปู่หลุบชื่อโด่งดัง | |
ขอพรช่วยปกป้อง............คุ้มครองให้ใช่คงขลัง | |
รถราขับระวัง..................ล้วนปลอดภัยไปได้ดี | |
แลเห็นผานกเค้า..............ประตูเข้าเลยบุรี | |
ถึงเขตบ้านเรานี่...............อากาศโล่งสบายสบาย | |
สิบเจ็ดนาฬิกาแล้ว............มองตึกแถวไฟเป็นสาย | |
ผู้คนมิมากมาย.................รถไม่มากดูโล่งดี | |
รถเรามิจอดพัก................ชอบใจนักผ่านวิถี | |
อยากให้รีบเร็วรี่................ผ่านอำเภอภูกระดึง | |
สามแยกบ้าซำบ่าง...........ไฟสว่างเมื่อมาถึง | |
ลูกไม้หน่อไม้พึง..............เลือกซื้อหาราคาเยาว์ | |
กล้วยอ้อยของจากสวน......ชาวบ้านชวนพวกพ้องเขา | |
จัดแผงขายมิเบา..............ขายดีมากมิยากเย็น | |
ชุมทางรถหยุดพัก............ผู้คนมักแวะมาเห็น | |
สิ่งของเลือกเอาเป็น..........ของไปฝากลูกหลานดี | |
ผ่านมาบ้านหนองหิน.........ยินสายฝนทั่งวิถี | |
ฟ้าแลบแปลบปลาบมี........น่ากลัวนักอันตราย | |
รถเราค่อยค่อยไป............ระวังภัยตลอดสาย | |
คลาดแคล้วทั้งใจกาย........พระปกปักพิทักษ์เรา | |
มินานวังสะพุง.................ดังหมายมุ่งมิขลาดเขลา | |
ครู่เดียวพอเห็นเงา............ก็ผ่านได้ไปเมืองเลย | |
สิบเก้าโมงสามห้า.............รถแล่นมาถึงท่าเผย | |
ปลายทางเหมือนดังเคย......บ้านติ้วเรายังเหมือนเดิม | |
ครูนกรถมารับ..................กับน้องเฟริสท์มาช่วยเติม | |
ครบครันแม่ลูกเริ่ม............พากลับบ้านสราญใจ | |
ขอบคุณทั้งลูกหลาน.........ช่วยเบิกบานจิตไฉน | |
พบกันอิ่มอันใด...............เท่าอิ่มอกย่อมมิมี | |
ปิดลงหน้ากระดาษ...........ประกาศไว้เป็นวิถี | |
ขุนทองตาคนนี้................ร้อยกรองเล่นเป็นประจำ ฯ | |
.................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ทักทายกันวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ | |
รำพึงรำพัน วันที่๓๑ นึกถึงครั้งมาอยู่บ้านติ้ว ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย อยู่ที่ | |
วัดศรีบุญเรืองครับ(นั่งเขียนโคลงชุดนี้อยู่บ้านเลขที่ ๖๕ เจริญรัฐซอย ๙ | |
บ้านติ้วนี่แหละ) | |
----------------------------------- | |
โคลงสี่สุภาพ | |
o..พฤษภาสามหนึ่งนี้..........แรมเลย | |
เป็นถิ่นเดิมเราเคย..............อยู่ยั้ง | |
เป็นปีหนึ่งสามเผย..............ชัดแน่ | |
มาอยู่วัดที่รั้ง......................บอกให้ศรีบุญเรือง | |
o..อุปสมบทได้..................สามพรรษา | |
ตามท่านอาจารย์มา............แต่เค้า | |
นธ.เอกมหา......................เพียงเริ่ม | |
ป.1-2 เองเจ้า....................เริ่มต้นเล่าเรียน | |
o..อาจารย์มอบกิจให้..........เป็นครู | |
สอนนักธรรมลองดู..............ย่อมได้ | |
เรียนเทศน์ก่อนมาปู.............เป็นช่อง ทางแฮ | |
สอนย่อมมิยากไซร้.............แน่แท้เป็นครู | |
o..สอบเทียบครูชุดได้..........พ.กศ. | |
ปีถัดมา พ.ม......................เรียบร้อย | |
ประโยคสี่ผ่านพอ...............อวดหน่อย | |
เป็นมหาใช่น้อย.................พี่น้องชื่นชม | |
o..สามปีจำอยู่บ้าน..............ติ้วนาน | |
เคยช่วยกิจสงฆ์งาน.............ใหญ่น้อย | |
เลขานุกิจการ......................หลวงพ่อ | |
รับจัดการเรียบร้อย...............หนึ่งนั้นงานประจำ | |
o..งานสอนปริยัติด้วย...........นักธรรม | |
อีกช่วยบาลีนำ....................ฝึกให้ | |
งานเทศน์ออกประจำ...........เผยแผ่ | |
หกกษัตริย์เทศน์ได้.............อีกข้อปุจฉา | |
o..เจ็ดพรรษาครบถ้วน..........พอดี | |
โยมพ่อมาเยี่ยมมี.................เรื่องอ้าง | |
อยากสึกปรึกษาที...............นาพ่อ | |
คำท่านบอกคงสร้าง.............แค่นี้บุญเรา | |
o..ตามใจตามแล้วแต่...........มหา | |
บวชผ่านเจ็ดพรรษา.............เยี่ยมแล้ว | |
หนึ่งหกเมื่อเมษา.................สิบเอ็ด วันแล | |
ยังจดจำไม่แคล้ว.................เล่นน้ำสงกรานต์ | |
o..เมษาหนึ่งหกนั้น.............ราชการ | |
รับสมัครคนทำงาน..............มากแท้ | |
รับครูแข่งสอบสาร...............เขาสื่อ ทั่วแล | |
ไปสมัครสามที่แล้...............หนึ่งนั้นอุดร | |
o..เมืองเลยขอนแก่นด้วย....สมัครดู | |
สอบก่อนที่เลยครู...............ผ่านได้ | |
บรรจุช่วยสอนหนู................เด็กเด็ก | |
เป็นกลุ่มมัธยมไซร้..............อยู่ด้านวังสะพุง | |
o..พฤษภานับหนึ่งนั้น..........เริ่มงาน | |
ครูใหญ่กรรมการ.................สอบเข้า | |
สุเมธกัปโกชาญ..................ทุกกิจ | |
ชวนเที่ยวชมแต่เช้า.............ที่นั้นศรีสงคราม | |
o..เปิดเรียนสอนเด็กนั้น.........ศีลธรรม | |
สิบแปดชั่วโมงจำ.................จดได้ | |
เหมือนเทศน์นั่งฟังคำ...........ครูสั่ง สอนแฮ | |
เด็กนั่งหลับบ่อยไซร้.............แบบนี้ประจำ | |
o..หลายปีงานเพิ่มขึ้น...........เปลี่ยนไป | |
แนะแนววัดผลนัย................ฝึกรู้ | |
ทดสอบและวิจัย.................เชิงเชี่ยว | |
นิเทศเพื่อนยากสู้................ผ่านพ้นงานหิน | |
o..สองศูนย์เป็นผู้ช่วย...........วิชาการ | |
นิเทศวัดผลชาญ.................เชื่อได้ | |
จังหวัดมอบหมายงาน...........มาช่วย หน่อยแฮ | |
เป็นวิทยากรให้....................ย่อมได้ยินดี | |
o..เขาดึงไปกลุ่มด้าน............มัธยม | |
จงช่วยประสานสม................เสกสร้าง | |
เครือข่ายวิชาคม..................ทุกที่ | |
ทุกสถานเขาอ้าง.................อยากให้แนะนำ | |
o..ชวนครูทำกิจด้าน.............ประเมิน | |
สอนจบภาคขอเชิญ..............สรุปบ้าง | |
ผลสอบแบ่งกลุ่มเพลิน...........ดีแน่ | |
พวกเก่งกลางอ่อนอ้าง...........บอกให้ชัดเจน | |
o..เก่งอ่อนอย่างละห้า...........เปอร์เซ็นต์ | |
เกินนั่นไม่พึงเห็น..................อุบไว้ | |
เพราะแปลกอย่าใจเย็น..........ตรวจสอบ | |
พวกอ่อนเร่งแก้ให้.................ผ่านพ้นทุกคน | |
o..สอนจบบันทึกด้วย.............รายงาน | |
ผลก่อนประเมินฐาน...............ชัดแจ้ง | |
ดูหน่อยพัฒนาการ.................ไปที่ ใดแฮ | |
บันทึกกราฟจักแย้ง................บอกได้ชัดเจน | |
o..ผ่านไปยังนึกคล้าย.............วันวาน | |
คนแก่ชอบนึกงาน..................เก่านั้น | |
บางทีเรื่องควรการ..................ชวนอิ่ม ใจแล | |
บางเรื่องขายหน้าดั้น...............แต่ด้นดันทุรัง | |
o..ขอปลงยุติบั้น.....................พรรณนา | |
ความเก่าเราชรา.....................ชอบโม้ | |
ขอโทษอวดวิชา.....................ตนเก่ง | |
คงเพราะชอบอวดโก้...............แบบนี้มานาน ฯ | |
............................................ขุนทอง ประพันธ์ | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น