ขุนทอง ศรีประจง
ปธ.๔ . พ.ม..กศบ.(เกียรตินิยม). ศศ.ม.
กลอนแปด | ||
ที่สิบสี่มีนาน่าตระหนก | เฟซหยิบยกโพสเราเขาสอบสวน | |
มิรู้เรื่องสงสัยในกระบวน | มีสิ่งชวนกังขาหรือว่าไร | |
รอมินานโพสดูรู้ผ่านลง | ก็ยังงงสอบเห็นเป็นไฉน | |
นามศรีทองแสงทองนี่คือใคร | ก็ขอไขออกแสดงแจ้งข้อมูล | |
ตัวจริงชื่อขุนทองศรีประจง | บ้านเกิดคงกมลาไสยไม่สิ้นศูนย์ | |
เมืองคนดีกาฬสินธุ์ถิ่นไพบูลย์a | เจิดจำรูญบ้านแกแดนธัญญา | |
จบประถมบ้านแกส่งเสริมวิทย์a | มิอยากคิดสองสี่เก้าแปดหนา | |
จบมอต้นโนนสังวิทยาa | ย้ายเขตมาสังกัดเมืองอุดร | |
เดียวนี้เป็นหนองบัวลำถูอ้าง | ปีนั้นช่างวุ่นวายให้ทอดถอน | |
เป็นไทครัวแปลกถิ่นเราแรมรอน | ครอบครัวจรอพยพมาอยู่ไกล | |
หนองลุมพุกนามบ้านย่านหนองเรือ | ดังดงเสือป่าทึบทึมไฉน | |
ป่าเต็งรังแดงดู่เรียงรายไป | เรียกพงไพรเหมาะดีมีเรื่องราว | |
ทางทิศเหนือภูเก้าเราเพิ่งเห็น | ใยมิเป็นอย่างที่เรียนนึกสืบสาว | |
ภูมิศาสตร์แผนที่บอกเรื่องยาว | สีดำราวตัวบุ้งภูเขามี | |
เพิ่งเคยเห็นของจริงเป็นครั้งแรก | ยังแปลกจิตคิดฉงนจ้องดูสี | |
ออกดังฟ้าทึมเทายืดยาวดี | ทอดยาวทีทางเหนือคงมิไกล | |
จากหมู่บ้านเดินไปสองชั่วโมง | หากทางโล่งหน้าแล้งมิสงสัย | |
หน้าฝนเพิ่มหนึ่งชั่วโมงคงพอได้ | ว่างค่อยไปชมดูภูเก้ากัน | |
อพยพมาอยู่ป่าภูเขา | นานนักเราค่อยปรับได้ให้นึกขัน | |
ต้องศึกษาปรับตัวเอาให้ทัน | เพื่อนบ้านมันหลายคนคอยเอาใจ | |
ตื่นเช้ามากันแล้วจะเที่ยวป่า | เขาสั่งว่าห่อข้าวมัดเอวไหน | |
พลุหนึ่งลำกำลูกดอกสักสิบได้ | มาไวไวท่องป่าหาสัตว์กัน | |
เจ้าทองใสทองใบสามกับเรา | หมาพรานเขาสองตัววิ่งนำขัน | |
ออกเขตบ้านเป็นป่าไม้สูงชัน | เรียกโสกนั้นห้วยโจดแนวพงไพร | |
เสียงหมาของสองสหายวิ่งนำก่อน | เสียงรุ่มร้อนตามมาชักสงสัย | |
พากันล้อมต้นรังเห็นแต่ใบ | หมาเห่าใหญ่จ้องดูบนต้นรัง | |
ตามไปทันมันว่าหมาไล่บ่าง | แลไม้ต่างสูงใหญ่ไม่อยากหวัง | |
คงยากไล่ตามได้ไม้มุงบัง | เงียบเสียงดังถอดใจเลิกไล่กัน | |
เพื่อนพาเดินไปต่อฝ่าพงรก | สักครูตกใจตื่นเพื่อนขบขัน | |
ได้เวลาแมลงส่งเสียงพลัน | จั๊กจั่นนับหมื่นตื่นตกใจ | |
แถมเยี่ยวรดหูหัวน่ากลัวมาก | แต่ลำบากจักหนีณที่ไหน | |
เสียงมันอยู่รอบตัวน่ากลัวกระไร | เพื่อนบอกให้จั๊กจั่นมิต้องกล้ว | |
เป็นแมลงกินได้ให้ลองจับ | เคี้ยวหยับหยับแปลกใจจึงได้หัว | |
ลองดูบ้างรสแปลกลองหนึ่งตัว | หลับตามั่วกินดูอร่อยดี | |
เหมือนกุ้งสดรสอร่อยเพื่อยค่อยบอก | ใช่จะหลอกลาบอร่อยแท้ดีหลี | |
สักสามสิบทำลาบมะม่วงมี | ต่อมาที่เดินป่าเพื่อนพาลอง | |
ไปเจอเห็นเต็มขอนท่อนไม้ใหญ่ | เห็ดอะไรเพื่อนสั่งระวังของ | |
ค่อยค่อยเก็บคอยดูกูรับรอง | เราจะต้องได้อิ่มลองชิมกัน | |
ไปพักเถียงก่อไฟได้ทำเห็ด | ล้างดีเสร็จใส่เกลือผักพร้อมสรรพ์ | |
ห่อให้แน่นปิ้งไฟไม่นานพลัน | สุกเพื่อนมันบอกชิมอร่อยดี | |
ในป่าดงของกินมันมีมาก | มิยุ่งยากรู้จักริมวิถี | |
พวกยอดไม้ใบไม้กินได้มี | เพื่อนมันชี้สอนให้ได้รู้ความ | |
หน่อไม้ซางโผล่ดินสักสองสอก | ตัดไม่ปอกเผาไฟไม่ต้องถาม | |
จนกาบดูมันไหม้ก็มิปาน | ราดน้ำผ่านปอกเปลือกเอาทิ้งไป | |
เนื้อสุกเหลืองน่ากินรออีกหน่อย | ปล่อยเพื่อนล้างน้ำเย็นอย่าสงสัย | |
ล้างรสขมออกบ้างดีกระไร | ชิมหน่อไม้หอมหวานอร่อยดี | |
ขูดเขี่ยนเส้นเหลืองอร่ามช่างงามตา | เพื่อนตัดมาเขาสับสลับสี | |
แล้วทำก้อยหน่อไม้รสแซบมี | กลางป่ามีก้อยกินยินชอบใจ | |
ได้เที่ยวป่าเดินดงฝ่าพงรก | ทางเดินวกเวียนวนจนสงสัย | |
มีแต่ป่ามิหลงทางหรือไร | กูจำได้แถบนี้มาประจำ | |
เพื่อนบอกเล่ารู้เรื่องมิเคืองขัด | เขาสันทัดแถบนี้ดีนึกขำ | |
คงอีกนานกว่าตูจะรู้นำ | มากเรื่องพร่ำบ่นยากหลากวิธี | |
หมดเวลาเที่ยวเล่นโรงเรียนเปิด | ช่างประเสริฐชอบใจไม่หลบหนี | |
ได้เรียนต่อมัธยมสมใจดี | พ่อปรานีฝากฝังตั้งใจเรียน | |
เข้าโรงเรียนโนนสังวิทยา | ปีต่อมาแปลกนามตามเขาเขียน | |
ศิริภูธรวิทยามาพากเพียร | ปีสามเวียนคืนกลับไปชื่อเดิม | |
สามปีจบมอสามตามคาดหวัง | แต่ก็ยังอยากเพียรเรียนต่อเสริม | |
สองพันห้าชัยภูมิเรียนต่อเติม | เกษตรเพิ่มเมืองพ่อพญาแล | |
เกษตรกรรมชัยภูมินามโดดเด่น | สอบคัดเฟ้นสี่สิบห้าว่ากระแส | |
แข่งกันมากภาคอีสานเป็นตัวแปร | มาสอบแท้สักร้อยห้าสิบคน | |
ทุนเรียนดีมีแล้วห้ารายครบ | เอามาลบเหลือสี่สิบชักฉงน | |
รอดไม่รอดสอบแข่งแรงกังวล | ประกาศผลสามสิบเก้าแทบใจวาย | |
เป็นนักเรียนกินนอนอยู่หอพัก | ได้รู้จักชาวหอก็หลากหลาย | |
กิจกรรมเด็กเกษตรมีมากมาย | เช้ามืดคล้ายตีห้ารีบตื่นคุณ | |
เพียงสามสิบนาทีกิจส่วนตัว | พร้อมกันทั่วเข้าแถวแทบหัวหมุน | |
มีการงานฝึกฝนเป็นต้นทุน | ฝึกจนวุ่นหลายหลากกิจกรรม | |
งานบุกเบิกเจ็ดวันค่อยผัดเปลี่ยน | ครานี้เรียนเรื่องสวนก็ชวนขำ | |
ต่อไปเรียนผลไม้สวนลองทำ | เปลี่ยนอีกนำเลี้ยงไก่อยู่เจ็ดวัน | |
สนุกหน่วยเลี้ยงวัวเนื้อวัวนม | เลี้ยงหมูสมลุยคลองเด็ดผักขัน | |
ยอดผักตบในคลองแย่งเด็ดกัน | เต็มถังนั้นล้างดีไปที่แปร | |
เข้าเครื่องปั่นหั่นซอยเรียบร้อยแล้ว | ไปเทแถวโรงงานตามกระแส | |
ภารโรงรอพอแล้วคลุกรำแล | เศษข้าวแน่ปนลงคลุกกันไป | |
เสร็จแกตักลงถังส่งนักเรียน | เฝ้าพากเพียรหอบหิ้วจักไปไหน | |
เลี้ยงคุณหมูเป็ดห่านย่านนั้นไง | เขาเรียกใช้แรงเด็กทำการงาน | |
กะเช้าเย็นทำกันไร้วันหยุด | พืชสวนชุดรดน้ำครูเรียกขาน | |
เสาร์อาทิตย์รดน้ำครูอาจารย์ | มาตรวจผ่านดูงานการตรวจตรา | |
พวกพืชไร่ไม้ผลก็มีเวร | เด็กถูกเกณฑ์เข้างานเป็นกลุ่มหนา | |
มีเจ็ดคนต่อกลุ่มครูบัญชา | เช้าตีห้ารับงานไปทำกัน | |
หกโมงครึ่งเลิกงานพักกันได้ | โมงครึ่งให้ทานข้าวมาพร้อมสรรพ์ | |
แปดโมงครึ่งเข้าแถวเสาธงพลัน | เก้าโมงนั้นเริ่มเข้าไปห้องเรียน | |
สี่โมงเย็นเลิกเรียนเริ่มรับงาน | ไปทำการเรียนรู้ครูเกษียน | |
มีคำสั่งกำกับให้พากเพียร | นับจำเนียรสามปีเกษตรกรรม | |
จบมอหกมีฉลองกันถ้วนหน้า | ถึงเวลาออกบินยินแล้วขำ | |
มีประกาศรับคนเข้าประจำ | ทุกตำบลเจ้าหน้าที่ผู้ชาญการ | |
ทางเกษตรมอหกคือคุณวุฒิ | วิเศษสุดเพื่อนเราเขาบอกขาน | |
ไปสอบกันบรรจุพนักงาน | ด้านเกษตรตำบลคนสำคัญ | |
แต่กระผมเสียใจไม่มีสิทธิ์ | อย่าเพิ่งคิดสอบเลยเพื่อนเขาขัน | |
สิบหกขวบพอดีเลยอดกัน | สิบแปดนั้นเกณฑ์รับราชการ | |
ต้องรออีกสองปีถึงจะได้ | แต่ช้าไปสองปีมีคำขาน | |
ยกเลิกหมดมอหกไม่รับงาน | เกณฑ์ต้องผ่านมอปลายจึงรับรอง | |
ถึงคราวต้องตกงานมานานนัก | มันหักเหชีวิตเราทั้งผอง | |
เริ่มต้นใหม่เรียนรู้ตามครรลอง | ชาวบ้านต้องทำการงานอันใด | |
ใช้ชีวิตแบบคนชนบท | เรียนรู้กฎชาวบ้านเป็นไฉน | |
จะทำมาหากินกันอย่างไร | ทำนาไร่เริ่มเรียนพากเพียรไป | |
ลูกผู้ชายต่อไปต้องออกเรือน | ยังเลอะเลือนมิรู้เรื่องอันไหน | |
เริ่มศึกษาฝึกฝนจนแจ้งใจ | เริ่มงานไม้จักสานการถักทอ | |
หัดถากไม้เสากลมแลเสาเหลี่ยม | งานยอดเยี่ยมแปรรูปไม้สิหนอ | |
หัดดึงเลื่อยสองคนอดทนพอ | ผลงานต่อเติมบ้านการจำเป็น | |
เครื่องมือทำนาไร่พวกไถคราด | พึงฉลาดทำได้ก็ได้เห็น | |
ลูกผู้ชายหลายหลากงานยากเย็น | ถึงยากเข็ญมิท้อขอฝ่าฟัน | |
สามปีผ่านงานมาทำนาไร | จนเจ้าใจงานยากลำบากสรรพ์ | |
ประเมินผ่านระดับดีนี่สำคัญ | เข้ารู้กันชาวนามัธยม | |
จบมอหกเกษตรวิเศษนัก | ย่อมรู้จักพัฒนาไร่นาสม | |
จนเพื่อนบ้านชอบใจได้ชื่นชม | เข้าสังคมชาวบ้านสราญใจ | |
ชีวิตอยู่บ้านนอกก็ราบรื่น | ผ่านวันคืนเจ็ดปีมิสงสัย | |
เป็นชาวบ้านแถมขยันการใดใด | ค่อยเป็นไปพัฒนาน่าชื่นชม | |
ปีสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | ชีวิตผัดเปลี่ยไปได้เหมาะสม | |
อายุควรบวชเรียนเพียรภิรมย์ | อุปสมบทภิกขุพระขุนทอง | |
ฉายาสุขุมาโลโหแปลกแปลก | เพราะแผกกับนิสัยไม่สนอง | |
คนใจร้อนสุขุมได้คงไต่ตรอง | เราจักลองฝึกฝนตนให้ดี ฯ | |
ลุสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | ชีพพิพัฒน์สังสารกาลวิถี | |
บวชเป็นพระอยู่วัดก็หลายปี | หลายเรื่องมีแปลกต่างทางงดงาม | |
ต้องทำวัตรสวดมนต์เช้าและเย็น | เลิกการเล่นทุกอย่างช่างน่าขาม | |
คนชอบเล่นชอบสนุกมาทุกยาม | น่าติดตามเลิกได้หรือพ่อคุณ | |
นั่นก็ผิดนี่ไม่งามตามแบบแผน | มันยากแสนศีลพระจะเกื้อหนุน | |
ขัดเกลากายวาจาอ่อนละมุน | มุ่งหมายบุญสั่งกุศลผลมากมาย | |
จะยืนเดินนั่งนอนสำรวมไว้ | ระวังใจดีงามความมากหลาย | |
ต้องศึกษาปฏิบัติวัตรแพรวพราย | มิใช่ง่ายเป็นพระจะจำเริญ | |
ตื่นตี่สี่ทำวัตรที่ห้องนอน | จากนั้นจรทำวัตรมิขัดเขิน | |
ตื่นแต่เช้าพร้อมกันกิจดำเนิน | เสร็จแล้วเชิญลานวัดปัดกวาดกัน | |
ตีห้าครึ่งทำกิจส่วนตัวได้ | เสร็จพร้อมไปบิณฑบาตรมิขาดสรรพ์ | |
ทุกทุกเช้ากิจกรรมประจำวัน | จิตมุ่งมั่นสำรวมดำเนินไป | |
พบญาติโยมทำบุญอบอุ่นจิต | แผ่ความคิดโมทนาจะหาไหน | |
ท่านทำบุญเกิดกุศลผลเกริกไกร | ขอจงใด้ผลบุญจัตตุรพร | |
อายุมั่นขวัญยื่นสดชื่นขวัญ | โสภาพรรณสุขสมสโมสร | |
เพียบพลังจรูญจรัสวิวัฒน์บวร | ทุกบทจรแผ่บุญกรุณใจ | |
เจ็ดโมงครึ่งกลับวัดพักถิ่นมี | ยินเสียงตีระฆังเรียกมิสงสัย | |
บนศาลาญาติโยมเรียกลงไป | รับไทยทานภัตตาตามเกิดมี | |
พระเณรสิบนับดูก็ไม่มาก | แต่ลำบากชาวบ้านย่านวิถี | |
ห่วงพระเณรจัดหาภัตตาดี | เลือกสรรที่เลิศค่ามาทำบุญ | |
จัดสำรับสิบที่มีคาวหวาน | ถวายทานนิมนต์คนเกื้อหนุน | |
ถ้าวันพระเจริญไชยมงคลคุณ | ฟังเทศน์อุ่นอกใจไตรบำเพ็ญ | |
ทานมัยสีลมัยได้ฟังเทศน์ | ครบสามเขตกิริยาบุญที่เห็น | |
แล้วค่อยฉันหลังเพื่อนมิยากเย็น | โยมจัดเป็นชุดพิเศษคนเทศน์มี | |
บวชพร้อมกันหลายคนสนใจเรียน | ยากจักเพียรขาดครูรู้วิถี | |
ถึงเวลาจัดส่งตรงบัญชี | นักธรรมมีรวมสิบใหม่แปดคน | |
นักธรรมโทมีสองเคยบวชเณร | จึงเข้าเกณฑ์ชั้นโทมิสับสน | |
ส่งบัญชีเรื่องเรียนยังกังวล | จนหลวงพ่อพระครูท่านแนะนำ | |
วัดท่านห่างสองกอมอพอสอนได้ | ส่งชื่อไปได้เลยเผยแล้วขำ | |
ท่านก็สอนวัดท่านเป็นประจำ | กิจกรรมวัดเราเรียนสบาย | |
มิต้องรอครูมาพากันเรียน | พวกเราเพียรไม่ท้อรอใจหาย | |
อ่านหนังสือกันเองมิวุ่นวาย | เรียนสบายตามใจคนอยากเรียน | |
ปีนั้นส่งเข้าสอบสี่รูปไป | สอบผ่านได้สองรูปผลอ่านเขียน | |
ช่วยบันทึกไว้นามสำนักเรียน | มีคนเพียรสอบผ่านการประเมิน | |
อยากเรียนต่อพอใจได้ศึกษา | เมื่อบวชมาเล่าเรียนมิขัดเขิน | |
พึงพอใจศึกษาพาเจริญ | ทางดำเนินถูกต้องดำเนินการ | |
ว่างจะออกแสวงหาที่อ่านเขียน | สำนักเรียนจริงจังหวังประสาน | |
เรื่องเทศน์ธรรมสำคัญเกินประมาณ | ออกจากบ้านเที่ยวไปในตำบล | |
จากโนนสังนากลางก็หลายวัด | หลายแห่งจัดนักธรรมคำสับสน | |
แต่เลิกไปไม่มีครูบวชกังวล | หลายแห่งหนร้างราน่าเสียดาย | |
วันต่อมากระนวนคือที่สอง | ก็จำต้องพลาดหวังน่าใจหาย | |
รับไว้เต็มจำนวนมีมากมาย | เชิญท่านย้ายไปหาที่ใหม่ดู | |
กลับมาที่น้ำพองหนองหานจาง | แปลกอยู่บ้างยินข่าวมาเต็มหู | |
พระปราชญ์ท่านเทศน์ธรรมชนเชิดชู | นามพ่อครูเหลาทองชื่อโด่งดัง | |
ไปถึงวัดพบพานเจ้าอาวาส | พระยังขาดรับได้ตามที่หวัง | |
คุณคำภาถอนตัวจะกลับยัง | สำนักหลังเคยอยู่แต่ก่อนมา | |
สามรูปคงสมัครเรียนกันที่นี่ | หลวงพ่อมีการุณบุญนักหนา | |
หลวงพ่อเสาร์อภินันโทบุญญา | กราบท่านตราเป็นศิษย์สนิทใจ | |
ท่านเป็นศิษย์ต้นเค้าท่านเหลาทอง | ภาระครองสำนักมิสงสัย | |
สืบสถานศึกษามาเกริกไกร | รักษาไว้สำนักเทศน์พิเศษคุณ | |
ปีสองห้าหนึ่งหนึ่งเรียนบาลี | แถมยังมีสอนเทศน์อาจารย์หนุน | |
ส่วนนักธรรมเรียนโทต่อเป็นบุญ | เพื่อนมากอุ่นรัตนะคุณพระเณร | |
สองปีผ่านสอบได้นักธรรมเอก | บาลีเสกประโยคสองสอบผ่านเห็น | |
หกกระษัตริย์เทศน์ได้อาจารย์เป็น | ครูฝึกเข็นจนผ่านการประเมิน | |
พาออกงานประมาณสักสิบครั้ง | พอใจตั้งเป็นผู้นำมิขัดเขิน | |
นำคณะสี่รูปออกดำเนิน | ไปเจริญเทศนาเวสสันดร | |
โยมนิมนต์สองธัมมาสน์ก็รับไว้ | เทศน์กันไปงานกฐินอุทาหรณ์ | |
งานแจกข้าวสงกรานต์ชื่อขจร | เทียวแรมรอนเทศนาสุขารมณ์ | |
ปีสองห้าหนึ่งสามตามพ่อครู | ย้ายมาอยู่เลยบุรีศรีสุขสม | |
สอนนักธรรมบาลีค่านิยม | วิชาคมแก่กล้าน่ายินดี | |
ปอธอสามที่ชอบก็สอบได้ | ยากยิ่งนัยพอกอศอมิหน่ายหนี | |
สอบได้อีกสองโชคประโยคมี | พลังชี้ชวนขยันสรรค์สร้างตน | |
ล่วงเข้าปีสองห้าหนึ่งห้าเสร็จ | กิจสำเร็จปอธอสี่มิสับสน | |
สมัครสอบพอมอไม่กังวล | จนสอบได้ครบชุดในปีเดียว | |
พิลึกหน่อยได้ชุดวิทยาศาสตร์ | ดูประหลาดลำบากยากหวาดเสียว | |
พวกโยมไปอบรมไม่ผ่านเชียว | แรกสอบเทียวผ่านได้แบบไหนกัน | |
ก็ยากบอกไม่รู้ดูหนังสือ | สอบมีชื่อผ่านได้ให้งงฉัน | |
มิรู้ดอกสอบไปก็งงงัน | ผ่านได้นั่นพอใจก็ยินดี | |
โหอาตมามอหกโรงเรียนเกษตร | ยากพิเศษเรียนวิทย์ตามวิถี | |
แยกสัตว์พืชลึกซึ้งตรึงตรามี | พอได้ชี้คำตอบสอบผ่านกัน | |
ได้วุฒิพอมอก็เหมาะสม | ค่านิยมสอบบรรจุคุรุสรรพ์ | |
ลาสิกขาสิบเอ็ดเมยอนั้น | ไปสอบทันที่สนามจังหวัดเลย | |
วุฒิอนุปริญญาวิชาครู | ลำดับอยู่ที่หนึ่งจึงนิ่งเฉย | |
รายงานตัวเลือกโรงเรียนก็ตามเคย | เลือกก่อนเอ่ยออกนามตามพอใจ | |
เลือกโรงเรียนศอสอวอพอประจักษ์ | รู้สึกรักชื่นชมนิยมสมัย | |
อยู่ทำการนานนักจนผ่านไป | ถึงคราวได้โยกย้ายเข้าเมืองเลย | |
เขาก่อตั้งสำนักงานสามัญศึกษา | วิชาการศูนย์กลางต่างเปิดเผย | |
อยากให้เราช่วยประสานการดังเคย | มีคนเอ่ยปากชวนก็ยินดี | |
ได้ทำงานส่วนกลางกิจประสาน | วิชาการจังหวัดมิหน่ายหนี | |
กระทำอยู่นับนานผ่านหลายปี | จนวันที่ครบเกษียณราชการ | |
สามสิบกันยายนคนเกษียณ | นับจำเนียรสองห้าสี่เจ็ดขาน | |
วันสิ้นสุดอำลามาจากงาน | กลับมาบ้านพักผ่อนสบายใจ | |
ขอบพระคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง | ตามครรลองหัวหน้าอัชฌาสัย | |
มากพระคุณกูลเกื้อเอื้อเฟื้อนัย | ส่งเสริมให้ทำการงานจำเริญ | |
ขอบพระคุณเพื่อนพ้องทั้งน้องพี่ | ต่างก็มีน้ำใจใคร่สรรเสริญ | |
เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกิจดำเนิน | พระคุณเกินกล่าวอ้างขอขอบคุณ | |
สาธคุณไตรรัตน์จรัสจรูญ | พึงเกื้อกูลอวยชัยได้นำหนุน | |
ขอทุกท่านสมหวังพลังบุญ | กิจปองปุนพีงสัมฤทธิ์วิศิษฐเทอญฯ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น