ขุนทอง ศรีประจง
ปธ.๔ . พ.ม..กศบ.(เกียรตินิยม). ศศ.ม.
| กลอนแปด | ||
| ที่สิบสี่มีนาน่าตระหนก | เฟซหยิบยกโพสเราเขาสอบสวน | |
| มิรู้เรื่องสงสัยในกระบวน | มีสิ่งชวนกังขาหรือว่าไร | |
| รอมินานโพสดูรู้ผ่านลง | ก็ยังงงสอบเห็นเป็นไฉน | |
| นามศรีทองแสงทองนี่คือใคร | ก็ขอไขออกแสดงแจ้งข้อมูล | |
| ตัวจริงชื่อขุนทองศรีประจง | บ้านเกิดคงกมลาไสยไม่สิ้นศูนย์ | |
| เมืองคนดีกาฬสินธุ์ถิ่นไพบูลย์a | เจิดจำรูญบ้านแกแดนธัญญา | |
| จบประถมบ้านแกส่งเสริมวิทย์a | มิอยากคิดสองสี่เก้าแปดหนา | |
| จบมอต้นโนนสังวิทยาa | ย้ายเขตมาสังกัดเมืองอุดร | |
| เดียวนี้เป็นหนองบัวลำถูอ้าง | ปีนั้นช่างวุ่นวายให้ทอดถอน | |
| เป็นไทครัวแปลกถิ่นเราแรมรอน | ครอบครัวจรอพยพมาอยู่ไกล | |
| หนองลุมพุกนามบ้านย่านหนองเรือ | ดังดงเสือป่าทึบทึมไฉน | |
| ป่าเต็งรังแดงดู่เรียงรายไป | เรียกพงไพรเหมาะดีมีเรื่องราว | |
| ทางทิศเหนือภูเก้าเราเพิ่งเห็น | ใยมิเป็นอย่างที่เรียนนึกสืบสาว | |
| ภูมิศาสตร์แผนที่บอกเรื่องยาว | สีดำราวตัวบุ้งภูเขามี | |
| เพิ่งเคยเห็นของจริงเป็นครั้งแรก | ยังแปลกจิตคิดฉงนจ้องดูสี | |
| ออกดังฟ้าทึมเทายืดยาวดี | ทอดยาวทีทางเหนือคงมิไกล | |
| จากหมู่บ้านเดินไปสองชั่วโมง | หากทางโล่งหน้าแล้งมิสงสัย | |
| หน้าฝนเพิ่มหนึ่งชั่วโมงคงพอได้ | ว่างค่อยไปชมดูภูเก้ากัน | |
| อพยพมาอยู่ป่าภูเขา | นานนักเราค่อยปรับได้ให้นึกขัน | |
| ต้องศึกษาปรับตัวเอาให้ทัน | เพื่อนบ้านมันหลายคนคอยเอาใจ | |
| ตื่นเช้ามากันแล้วจะเที่ยวป่า | เขาสั่งว่าห่อข้าวมัดเอวไหน | |
| พลุหนึ่งลำกำลูกดอกสักสิบได้ | มาไวไวท่องป่าหาสัตว์กัน | |
| เจ้าทองใสทองใบสามกับเรา | หมาพรานเขาสองตัววิ่งนำขัน | |
| ออกเขตบ้านเป็นป่าไม้สูงชัน | เรียกโสกนั้นห้วยโจดแนวพงไพร | |
| เสียงหมาของสองสหายวิ่งนำก่อน | เสียงรุ่มร้อนตามมาชักสงสัย | |
| พากันล้อมต้นรังเห็นแต่ใบ | หมาเห่าใหญ่จ้องดูบนต้นรัง | |
| ตามไปทันมันว่าหมาไล่บ่าง | แลไม้ต่างสูงใหญ่ไม่อยากหวัง | |
| คงยากไล่ตามได้ไม้มุงบัง | เงียบเสียงดังถอดใจเลิกไล่กัน | |
| เพื่อนพาเดินไปต่อฝ่าพงรก | สักครูตกใจตื่นเพื่อนขบขัน | |
| ได้เวลาแมลงส่งเสียงพลัน | จั๊กจั่นนับหมื่นตื่นตกใจ | |
| แถมเยี่ยวรดหูหัวน่ากลัวมาก | แต่ลำบากจักหนีณที่ไหน | |
| เสียงมันอยู่รอบตัวน่ากลัวกระไร | เพื่อนบอกให้จั๊กจั่นมิต้องกล้ว | |
| เป็นแมลงกินได้ให้ลองจับ | เคี้ยวหยับหยับแปลกใจจึงได้หัว | |
| ลองดูบ้างรสแปลกลองหนึ่งตัว | หลับตามั่วกินดูอร่อยดี | |
| เหมือนกุ้งสดรสอร่อยเพื่อยค่อยบอก | ใช่จะหลอกลาบอร่อยแท้ดีหลี | |
| สักสามสิบทำลาบมะม่วงมี | ต่อมาที่เดินป่าเพื่อนพาลอง | |
| ไปเจอเห็นเต็มขอนท่อนไม้ใหญ่ | เห็ดอะไรเพื่อนสั่งระวังของ | |
| ค่อยค่อยเก็บคอยดูกูรับรอง | เราจะต้องได้อิ่มลองชิมกัน | |
| ไปพักเถียงก่อไฟได้ทำเห็ด | ล้างดีเสร็จใส่เกลือผักพร้อมสรรพ์ | |
| ห่อให้แน่นปิ้งไฟไม่นานพลัน | สุกเพื่อนมันบอกชิมอร่อยดี | |
| ในป่าดงของกินมันมีมาก | มิยุ่งยากรู้จักริมวิถี | |
| พวกยอดไม้ใบไม้กินได้มี | เพื่อนมันชี้สอนให้ได้รู้ความ | |
| หน่อไม้ซางโผล่ดินสักสองสอก | ตัดไม่ปอกเผาไฟไม่ต้องถาม | |
| จนกาบดูมันไหม้ก็มิปาน | ราดน้ำผ่านปอกเปลือกเอาทิ้งไป | |
| เนื้อสุกเหลืองน่ากินรออีกหน่อย | ปล่อยเพื่อนล้างน้ำเย็นอย่าสงสัย | |
| ล้างรสขมออกบ้างดีกระไร | ชิมหน่อไม้หอมหวานอร่อยดี | |
| ขูดเขี่ยนเส้นเหลืองอร่ามช่างงามตา | เพื่อนตัดมาเขาสับสลับสี | |
| แล้วทำก้อยหน่อไม้รสแซบมี | กลางป่ามีก้อยกินยินชอบใจ | |
| ได้เที่ยวป่าเดินดงฝ่าพงรก | ทางเดินวกเวียนวนจนสงสัย | |
| มีแต่ป่ามิหลงทางหรือไร | กูจำได้แถบนี้มาประจำ | |
| เพื่อนบอกเล่ารู้เรื่องมิเคืองขัด | เขาสันทัดแถบนี้ดีนึกขำ | |
| คงอีกนานกว่าตูจะรู้นำ | มากเรื่องพร่ำบ่นยากหลากวิธี | |
| หมดเวลาเที่ยวเล่นโรงเรียนเปิด | ช่างประเสริฐชอบใจไม่หลบหนี | |
| ได้เรียนต่อมัธยมสมใจดี | พ่อปรานีฝากฝังตั้งใจเรียน | |
| เข้าโรงเรียนโนนสังวิทยา | ปีต่อมาแปลกนามตามเขาเขียน | |
| ศิริภูธรวิทยามาพากเพียร | ปีสามเวียนคืนกลับไปชื่อเดิม | |
| สามปีจบมอสามตามคาดหวัง | แต่ก็ยังอยากเพียรเรียนต่อเสริม | |
| สองพันห้าชัยภูมิเรียนต่อเติม | เกษตรเพิ่มเมืองพ่อพญาแล | |
| เกษตรกรรมชัยภูมินามโดดเด่น | สอบคัดเฟ้นสี่สิบห้าว่ากระแส | |
| แข่งกันมากภาคอีสานเป็นตัวแปร | มาสอบแท้สักร้อยห้าสิบคน | |
| ทุนเรียนดีมีแล้วห้ารายครบ | เอามาลบเหลือสี่สิบชักฉงน | |
| รอดไม่รอดสอบแข่งแรงกังวล | ประกาศผลสามสิบเก้าแทบใจวาย | |
| เป็นนักเรียนกินนอนอยู่หอพัก | ได้รู้จักชาวหอก็หลากหลาย | |
| กิจกรรมเด็กเกษตรมีมากมาย | เช้ามืดคล้ายตีห้ารีบตื่นคุณ | |
| เพียงสามสิบนาทีกิจส่วนตัว | พร้อมกันทั่วเข้าแถวแทบหัวหมุน | |
| มีการงานฝึกฝนเป็นต้นทุน | ฝึกจนวุ่นหลายหลากกิจกรรม | |
| งานบุกเบิกเจ็ดวันค่อยผัดเปลี่ยน | ครานี้เรียนเรื่องสวนก็ชวนขำ | |
| ต่อไปเรียนผลไม้สวนลองทำ | เปลี่ยนอีกนำเลี้ยงไก่อยู่เจ็ดวัน | |
| สนุกหน่วยเลี้ยงวัวเนื้อวัวนม | เลี้ยงหมูสมลุยคลองเด็ดผักขัน | |
| ยอดผักตบในคลองแย่งเด็ดกัน | เต็มถังนั้นล้างดีไปที่แปร | |
| เข้าเครื่องปั่นหั่นซอยเรียบร้อยแล้ว | ไปเทแถวโรงงานตามกระแส | |
| ภารโรงรอพอแล้วคลุกรำแล | เศษข้าวแน่ปนลงคลุกกันไป | |
| เสร็จแกตักลงถังส่งนักเรียน | เฝ้าพากเพียรหอบหิ้วจักไปไหน | |
| เลี้ยงคุณหมูเป็ดห่านย่านนั้นไง | เขาเรียกใช้แรงเด็กทำการงาน | |
| กะเช้าเย็นทำกันไร้วันหยุด | พืชสวนชุดรดน้ำครูเรียกขาน | |
| เสาร์อาทิตย์รดน้ำครูอาจารย์ | มาตรวจผ่านดูงานการตรวจตรา | |
| พวกพืชไร่ไม้ผลก็มีเวร | เด็กถูกเกณฑ์เข้างานเป็นกลุ่มหนา | |
| มีเจ็ดคนต่อกลุ่มครูบัญชา | เช้าตีห้ารับงานไปทำกัน | |
| หกโมงครึ่งเลิกงานพักกันได้ | โมงครึ่งให้ทานข้าวมาพร้อมสรรพ์ | |
| แปดโมงครึ่งเข้าแถวเสาธงพลัน | เก้าโมงนั้นเริ่มเข้าไปห้องเรียน | |
| สี่โมงเย็นเลิกเรียนเริ่มรับงาน | ไปทำการเรียนรู้ครูเกษียน | |
| มีคำสั่งกำกับให้พากเพียร | นับจำเนียรสามปีเกษตรกรรม | |
| จบมอหกมีฉลองกันถ้วนหน้า | ถึงเวลาออกบินยินแล้วขำ | |
| มีประกาศรับคนเข้าประจำ | ทุกตำบลเจ้าหน้าที่ผู้ชาญการ | |
| ทางเกษตรมอหกคือคุณวุฒิ | วิเศษสุดเพื่อนเราเขาบอกขาน | |
| ไปสอบกันบรรจุพนักงาน | ด้านเกษตรตำบลคนสำคัญ | |
| แต่กระผมเสียใจไม่มีสิทธิ์ | อย่าเพิ่งคิดสอบเลยเพื่อนเขาขัน | |
| สิบหกขวบพอดีเลยอดกัน | สิบแปดนั้นเกณฑ์รับราชการ | |
| ต้องรออีกสองปีถึงจะได้ | แต่ช้าไปสองปีมีคำขาน | |
| ยกเลิกหมดมอหกไม่รับงาน | เกณฑ์ต้องผ่านมอปลายจึงรับรอง | |
| ถึงคราวต้องตกงานมานานนัก | มันหักเหชีวิตเราทั้งผอง | |
| เริ่มต้นใหม่เรียนรู้ตามครรลอง | ชาวบ้านต้องทำการงานอันใด | |
| ใช้ชีวิตแบบคนชนบท | เรียนรู้กฎชาวบ้านเป็นไฉน | |
| จะทำมาหากินกันอย่างไร | ทำนาไร่เริ่มเรียนพากเพียรไป | |
| ลูกผู้ชายต่อไปต้องออกเรือน | ยังเลอะเลือนมิรู้เรื่องอันไหน | |
| เริ่มศึกษาฝึกฝนจนแจ้งใจ | เริ่มงานไม้จักสานการถักทอ | |
| หัดถากไม้เสากลมแลเสาเหลี่ยม | งานยอดเยี่ยมแปรรูปไม้สิหนอ | |
| หัดดึงเลื่อยสองคนอดทนพอ | ผลงานต่อเติมบ้านการจำเป็น | |
| เครื่องมือทำนาไร่พวกไถคราด | พึงฉลาดทำได้ก็ได้เห็น | |
| ลูกผู้ชายหลายหลากงานยากเย็น | ถึงยากเข็ญมิท้อขอฝ่าฟัน | |
| สามปีผ่านงานมาทำนาไร | จนเจ้าใจงานยากลำบากสรรพ์ | |
| ประเมินผ่านระดับดีนี่สำคัญ | เข้ารู้กันชาวนามัธยม | |
| จบมอหกเกษตรวิเศษนัก | ย่อมรู้จักพัฒนาไร่นาสม | |
| จนเพื่อนบ้านชอบใจได้ชื่นชม | เข้าสังคมชาวบ้านสราญใจ | |
| ชีวิตอยู่บ้านนอกก็ราบรื่น | ผ่านวันคืนเจ็ดปีมิสงสัย | |
| เป็นชาวบ้านแถมขยันการใดใด | ค่อยเป็นไปพัฒนาน่าชื่นชม | |
| ปีสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | ชีวิตผัดเปลี่ยไปได้เหมาะสม | |
| อายุควรบวชเรียนเพียรภิรมย์ | อุปสมบทภิกขุพระขุนทอง | |
| ฉายาสุขุมาโลโหแปลกแปลก | เพราะแผกกับนิสัยไม่สนอง | |
| คนใจร้อนสุขุมได้คงไต่ตรอง | เราจักลองฝึกฝนตนให้ดี ฯ | |
| ลุสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | ชีพพิพัฒน์สังสารกาลวิถี | |
| บวชเป็นพระอยู่วัดก็หลายปี | หลายเรื่องมีแปลกต่างทางงดงาม | |
| ต้องทำวัตรสวดมนต์เช้าและเย็น | เลิกการเล่นทุกอย่างช่างน่าขาม | |
| คนชอบเล่นชอบสนุกมาทุกยาม | น่าติดตามเลิกได้หรือพ่อคุณ | |
| นั่นก็ผิดนี่ไม่งามตามแบบแผน | มันยากแสนศีลพระจะเกื้อหนุน | |
| ขัดเกลากายวาจาอ่อนละมุน | มุ่งหมายบุญสั่งกุศลผลมากมาย | |
| จะยืนเดินนั่งนอนสำรวมไว้ | ระวังใจดีงามความมากหลาย | |
| ต้องศึกษาปฏิบัติวัตรแพรวพราย | มิใช่ง่ายเป็นพระจะจำเริญ | |
| ตื่นตี่สี่ทำวัตรที่ห้องนอน | จากนั้นจรทำวัตรมิขัดเขิน | |
| ตื่นแต่เช้าพร้อมกันกิจดำเนิน | เสร็จแล้วเชิญลานวัดปัดกวาดกัน | |
| ตีห้าครึ่งทำกิจส่วนตัวได้ | เสร็จพร้อมไปบิณฑบาตรมิขาดสรรพ์ | |
| ทุกทุกเช้ากิจกรรมประจำวัน | จิตมุ่งมั่นสำรวมดำเนินไป | |
| พบญาติโยมทำบุญอบอุ่นจิต | แผ่ความคิดโมทนาจะหาไหน | |
| ท่านทำบุญเกิดกุศลผลเกริกไกร | ขอจงใด้ผลบุญจัตตุรพร | |
| อายุมั่นขวัญยื่นสดชื่นขวัญ | โสภาพรรณสุขสมสโมสร | |
| เพียบพลังจรูญจรัสวิวัฒน์บวร | ทุกบทจรแผ่บุญกรุณใจ | |
| เจ็ดโมงครึ่งกลับวัดพักถิ่นมี | ยินเสียงตีระฆังเรียกมิสงสัย | |
| บนศาลาญาติโยมเรียกลงไป | รับไทยทานภัตตาตามเกิดมี | |
| พระเณรสิบนับดูก็ไม่มาก | แต่ลำบากชาวบ้านย่านวิถี | |
| ห่วงพระเณรจัดหาภัตตาดี | เลือกสรรที่เลิศค่ามาทำบุญ | |
| จัดสำรับสิบที่มีคาวหวาน | ถวายทานนิมนต์คนเกื้อหนุน | |
| ถ้าวันพระเจริญไชยมงคลคุณ | ฟังเทศน์อุ่นอกใจไตรบำเพ็ญ | |
| ทานมัยสีลมัยได้ฟังเทศน์ | ครบสามเขตกิริยาบุญที่เห็น | |
| แล้วค่อยฉันหลังเพื่อนมิยากเย็น | โยมจัดเป็นชุดพิเศษคนเทศน์มี | |
| บวชพร้อมกันหลายคนสนใจเรียน | ยากจักเพียรขาดครูรู้วิถี | |
| ถึงเวลาจัดส่งตรงบัญชี | นักธรรมมีรวมสิบใหม่แปดคน | |
| นักธรรมโทมีสองเคยบวชเณร | จึงเข้าเกณฑ์ชั้นโทมิสับสน | |
| ส่งบัญชีเรื่องเรียนยังกังวล | จนหลวงพ่อพระครูท่านแนะนำ | |
| วัดท่านห่างสองกอมอพอสอนได้ | ส่งชื่อไปได้เลยเผยแล้วขำ | |
| ท่านก็สอนวัดท่านเป็นประจำ | กิจกรรมวัดเราเรียนสบาย | |
| มิต้องรอครูมาพากันเรียน | พวกเราเพียรไม่ท้อรอใจหาย | |
| อ่านหนังสือกันเองมิวุ่นวาย | เรียนสบายตามใจคนอยากเรียน | |
| ปีนั้นส่งเข้าสอบสี่รูปไป | สอบผ่านได้สองรูปผลอ่านเขียน | |
| ช่วยบันทึกไว้นามสำนักเรียน | มีคนเพียรสอบผ่านการประเมิน | |
| อยากเรียนต่อพอใจได้ศึกษา | เมื่อบวชมาเล่าเรียนมิขัดเขิน | |
| พึงพอใจศึกษาพาเจริญ | ทางดำเนินถูกต้องดำเนินการ | |
| ว่างจะออกแสวงหาที่อ่านเขียน | สำนักเรียนจริงจังหวังประสาน | |
| เรื่องเทศน์ธรรมสำคัญเกินประมาณ | ออกจากบ้านเที่ยวไปในตำบล | |
| จากโนนสังนากลางก็หลายวัด | หลายแห่งจัดนักธรรมคำสับสน | |
| แต่เลิกไปไม่มีครูบวชกังวล | หลายแห่งหนร้างราน่าเสียดาย | |
| วันต่อมากระนวนคือที่สอง | ก็จำต้องพลาดหวังน่าใจหาย | |
| รับไว้เต็มจำนวนมีมากมาย | เชิญท่านย้ายไปหาที่ใหม่ดู | |
| กลับมาที่น้ำพองหนองหานจาง | แปลกอยู่บ้างยินข่าวมาเต็มหู | |
| พระปราชญ์ท่านเทศน์ธรรมชนเชิดชู | นามพ่อครูเหลาทองชื่อโด่งดัง | |
| ไปถึงวัดพบพานเจ้าอาวาส | พระยังขาดรับได้ตามที่หวัง | |
| คุณคำภาถอนตัวจะกลับยัง | สำนักหลังเคยอยู่แต่ก่อนมา | |
| สามรูปคงสมัครเรียนกันที่นี่ | หลวงพ่อมีการุณบุญนักหนา | |
| หลวงพ่อเสาร์อภินันโทบุญญา | กราบท่านตราเป็นศิษย์สนิทใจ | |
| ท่านเป็นศิษย์ต้นเค้าท่านเหลาทอง | ภาระครองสำนักมิสงสัย | |
| สืบสถานศึกษามาเกริกไกร | รักษาไว้สำนักเทศน์พิเศษคุณ | |
| ปีสองห้าหนึ่งหนึ่งเรียนบาลี | แถมยังมีสอนเทศน์อาจารย์หนุน | |
| ส่วนนักธรรมเรียนโทต่อเป็นบุญ | เพื่อนมากอุ่นรัตนะคุณพระเณร | |
| สองปีผ่านสอบได้นักธรรมเอก | บาลีเสกประโยคสองสอบผ่านเห็น | |
| หกกระษัตริย์เทศน์ได้อาจารย์เป็น | ครูฝึกเข็นจนผ่านการประเมิน | |
| พาออกงานประมาณสักสิบครั้ง | พอใจตั้งเป็นผู้นำมิขัดเขิน | |
| นำคณะสี่รูปออกดำเนิน | ไปเจริญเทศนาเวสสันดร | |
| โยมนิมนต์สองธัมมาสน์ก็รับไว้ | เทศน์กันไปงานกฐินอุทาหรณ์ | |
| งานแจกข้าวสงกรานต์ชื่อขจร | เทียวแรมรอนเทศนาสุขารมณ์ | |
| ปีสองห้าหนึ่งสามตามพ่อครู | ย้ายมาอยู่เลยบุรีศรีสุขสม | |
| สอนนักธรรมบาลีค่านิยม | วิชาคมแก่กล้าน่ายินดี | |
| ปอธอสามที่ชอบก็สอบได้ | ยากยิ่งนัยพอกอศอมิหน่ายหนี | |
| สอบได้อีกสองโชคประโยคมี | พลังชี้ชวนขยันสรรค์สร้างตน | |
| ล่วงเข้าปีสองห้าหนึ่งห้าเสร็จ | กิจสำเร็จปอธอสี่มิสับสน | |
| สมัครสอบพอมอไม่กังวล | จนสอบได้ครบชุดในปีเดียว | |
| พิลึกหน่อยได้ชุดวิทยาศาสตร์ | ดูประหลาดลำบากยากหวาดเสียว | |
| พวกโยมไปอบรมไม่ผ่านเชียว | แรกสอบเทียวผ่านได้แบบไหนกัน | |
| ก็ยากบอกไม่รู้ดูหนังสือ | สอบมีชื่อผ่านได้ให้งงฉัน | |
| มิรู้ดอกสอบไปก็งงงัน | ผ่านได้นั่นพอใจก็ยินดี | |
| โหอาตมามอหกโรงเรียนเกษตร | ยากพิเศษเรียนวิทย์ตามวิถี | |
| แยกสัตว์พืชลึกซึ้งตรึงตรามี | พอได้ชี้คำตอบสอบผ่านกัน | |
| ได้วุฒิพอมอก็เหมาะสม | ค่านิยมสอบบรรจุคุรุสรรพ์ | |
| ลาสิกขาสิบเอ็ดเมยอนั้น | ไปสอบทันที่สนามจังหวัดเลย | |
| วุฒิอนุปริญญาวิชาครู | ลำดับอยู่ที่หนึ่งจึงนิ่งเฉย | |
| รายงานตัวเลือกโรงเรียนก็ตามเคย | เลือกก่อนเอ่ยออกนามตามพอใจ | |
| เลือกโรงเรียนศอสอวอพอประจักษ์ | รู้สึกรักชื่นชมนิยมสมัย | |
| อยู่ทำการนานนักจนผ่านไป | ถึงคราวได้โยกย้ายเข้าเมืองเลย | |
| เขาก่อตั้งสำนักงานสามัญศึกษา | วิชาการศูนย์กลางต่างเปิดเผย | |
| อยากให้เราช่วยประสานการดังเคย | มีคนเอ่ยปากชวนก็ยินดี | |
| ได้ทำงานส่วนกลางกิจประสาน | วิชาการจังหวัดมิหน่ายหนี | |
| กระทำอยู่นับนานผ่านหลายปี | จนวันที่ครบเกษียณราชการ | |
| สามสิบกันยายนคนเกษียณ | นับจำเนียรสองห้าสี่เจ็ดขาน | |
| วันสิ้นสุดอำลามาจากงาน | กลับมาบ้านพักผ่อนสบายใจ | |
| ขอบพระคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง | ตามครรลองหัวหน้าอัชฌาสัย | |
| มากพระคุณกูลเกื้อเอื้อเฟื้อนัย | ส่งเสริมให้ทำการงานจำเริญ | |
| ขอบพระคุณเพื่อนพ้องทั้งน้องพี่ | ต่างก็มีน้ำใจใคร่สรรเสริญ | |
| เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกิจดำเนิน | พระคุณเกินกล่าวอ้างขอขอบคุณ | |
| สาธคุณไตรรัตน์จรัสจรูญ | พึงเกื้อกูลอวยชัยได้นำหนุน | |
| ขอทุกท่านสมหวังพลังบุญ | กิจปองปุนพีงสัมฤทธิ์วิศิษฐเทอญฯ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น