........เพื่อนกันตำหนิเราว่าเขียนแต่กลอนไร้สาระ เอาแบบมีเนื้อหาสาระบ้างสิ จะได้เอาไปสอนลูกหลานบ้าง แหมอยากได้หลักธรรมคำสอน ก็ไปเอาจากหนังสือธรรมวิภาคซีนะ เยอะแยะไป เขียนกลอนน่ะเรา เขียนเอาสนุก เขียนผ่อนคลายอารมณ์ สาระไม่ค่อยสนใจหรอก เอาเถอะอยากให้ใส่หลักคำสอนต่าง ๆ ก็ได้นะ ไปหาหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต นักธรรมตรี มาอ่านดูแล้วเขียนกลอนไล่ลำดับมาแต่หน้าแรก ๆเลยแล้วกัน อย่าบ่นว่าสาระมากเกินไปแล้วกัน เขียนให้แล้วนะเออ
ขุนทอง ศรีประจง
คนเขียน
โพส 12 มีนาคม 2562
| ....หมวดประมาทฉลาดเรียนเพียรศึกษา | ปมาโท มัจจุโน ปทัง ผล | |
| ความประมาทเป็นบท มต ชน | คนประมาทดังชีพที่วางวาย | |
| ปมาทะความเห็นเป็นไฉน | เหตุใดท่านบอกมาน่ากลัวหลาย | |
| ยกมาเทียบถึงนับกับความตาย | ยังมิหายสงสัยโปรดไขความ | |
| สติคือตัวแปรแก้ความไข | หากหายไปขาดสติมิต้องถาม | |
| สถานะคือประมาทมันติดตาม | แทนที่ยามขาดสติมาทันที | |
| ดังคนขับรถอยู่ผู้โดยสาร | บริการเลือกใช้ไม่หน่ายหนี | |
| ขับรถเก่งแคล่วคล่องว่องไวดี | บางวันมีอาการเมาสุรา | |
| ปกติทันใจไวอยู่แล้ว | ดิ่มหลายแก้วดังจะไปในเวหา | |
| ที่สุดก็ไถลลงข้างมรรคา | ถึงป่าช้าทั้งคันเหวลึกเกิน | |
| เพราะสติขาดหายเมื่อเมาหนัก | ยากรักษาการงานมันพาลเพลิน | |
| ปมาโทมัจจุโนคือทางเดิน | วิบัติเชิญคนเขามารับกรรม | |
| อัปปมาทัง ปสังสันติ | เป็นศิริบัณฑิตสอนประจำ | |
| ชื่นชมนักนับถือควรกระทำ | งดงามล้ำมิประมาทฉลาดการ | |
| อัปปมัตตา น มิยันติ แน่ | สมควรแท้มิประมาทช่างอาจหาญ | |
| ดำเนินชีพเหมาะควรชวนชื่นบาน | เกษมศานต์ชนม์ยืนชวนชื่นชม | |
| ปมาโท ครหิโต สทา | ประมาทมาการใดไม่เหมาะสม | |
| ทำการงานมิน้อยพลอยล่มจม | เพราะนิยมขาดสติมิมั่นคง | |
| เย ปมัตตา ยถา มตา | โบราณว่าคนประมาทมักลืมหลง | |
| ก็เหมือนคนตายแล้วท่านเจาะจง | ว่าตรงตรงน่ากลัวภัยมากมี | |
| ต่อไปขึ้นหมวดจิตพินิจสาร | โบราณว่ารักษ์จิตจักเป็นศรี | |
| จิตตัง รักขถะ เมธาวี | ผู้ปรีชา รักษ์จิต จึงสมควร | |
| ทำไฉนได้ชื่อรักษาจิต | เพราะชอบคิดทางต่ำพอนึกหวน | |
| ทำสิ่งชั่วมัวเมาเรื่องยั่วยวน | ก็ลองชวนดูหนังดูละคร | |
| ใจมักอยากตกลงมิยั้งคิด | เพราะเจ้าจิตไหลง่ายยากถ่ายถอน | |
| ลองชวนไปทำบุญอันสุนทร | มักผัดผ่อนยุ่งยากมิอยากไป | |
| ทางขึ้นสูงลำบากยากปีนป่าย | จึงมีง่ายชวนจิตอย่าสงสัย | |
| ธรรมชาติมักแพ้มาแต่ไร | เข้มแข็งไว้จับวางถูกทางดี | |
| จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง | จิตสั่งสมอบรมไว้ได้เป็นศรี | |
| จะนำสุขมาสู่มากมวลมี | กรณีย์สมควรชวนกระทำ | |
| ต่อไปหมวดขันติตริศึกษา | อ่านตำรายากนัยให้นึกขำ | |
| คนโบราณชาญฉลาดปราญช์ชี้นำ | ล้วนลึกล้ำข้ออรรถปรัชญา | |
| ขันติ ปรมัง ตโป นั้น | ความสำคัญ ที่มี ตีติกขา | |
| ความอดทนเป็นตบะ ปรมา | พระคาถาบอกให้ได้ชัดเป็น | |
| ขันติ ตโป ตปัสสิโน | วิเสโส ขันติ มักจะเห็น | |
| คือตบะสำคัญผู้บำเพ็ญ | มิยากเข็ญมรรคเดินเจริญคุณ | |
| หมวดธรรมมีห้าข้อขอศึกษา | ปุพพังคมานำธรรมเกื้อหนุน | |
| มีมโนนำหน้าเรื่องบาปบุญ | จึงปองปุนกายวจีมีตามมา | |
| ธัมโม สุจิณโณ สุขังไซร้ | ดำเนินไป อาวหัง มิกังขา | |
| ประพฤติธรรมนำสุขชวนปรีดา | คำปราชญ์ว่าจริงแท้ควรชื่นชม | |
| ธัมมปิติ สุขัง เสติ ได้ | ใครปิติคุณธรรมนำเหมาะสม | |
| ไตรทวารยึดธรรมใจนิยม | จักภิรมย์หลับตื่นก็ชื่นบาน | |
| ธัมมจารี สุขัง เสติ แจ้ง | แสดงอรรถประพฤติธรรมนำกล้าหาญ | |
| ทำถูกต้องดีงามทุกประการ | จักพบพานสุคติอภิรมย์ | |
| ธัมมัญ จเร สุจริตตัง | ระวังจิตกายใจให้เหมาะสม | |
| ช่องดีงามบาปกรรมคนนิยม | ติดกันจมสองช่องแตกต่างกัน | |
| เลือกทางดีเป็นบุญเป็นกุศล | เป็นมงคลควรทำเพราะสร้างสรรค์ | |
| ทางมิดีเป็นบาปหยาบสำคัญ | ทำแล้วพลันเศร้าหมองมีราคี | |
| ต่อไปเป็นภาษิตในหมวดทุกข์ | อ่านแล้วฉุกใจบ้างต่างวิถี | |
| ทุกโข ปาปัสส อุจจโย ชี้ | ทำชั่วมีสั่งสมทุกข์ตามมา | |
| อะไรเรียกทำชั่วน่ากลัวไหม | จำแนกได้สามช่องลองศึกษา | |
| กายวจีมีมโนสามมรรคา | ทำชั่วว่าทุจริตเป็นบาปกรรม | |
| คือคิดชั่วพูดไม่งามความมัวหมอง | มิถูกต้องคิดชั่วมัวถลำ | |
| จะส่งผลไม่ดีดังสีดำ | เปื้อนแล้วนำให้หม่นคนไม่มอง | |
| นัตถิ ขันธสมา ทุกขา | ทุกข์ใดหนาเทียบขันธ์มิมีสอง | |
| เป็นทุกข์ใหญ่ยิ่งนักในครรลอง | สังสารต้องเวียนวนจีรกาล | |
| อริยะบุคคลพ้นกิเลส | ปฏิเสธขันธ์ยากลำบากหาญ | |
| ยังทรงขันธ์มีทุกข์คอยระราน | จวบถึงวารดับขันธ์ดับเชื้อไป | |
| ไม่มีเกิดตัณหาดับสนิท | ทุกข์อย่าคิดระรานสิ้นสงสัย | |
| มิเกิดขันธ์สังสาระก็ดับไว | ดับทุกข์ได้ดับขันธ์นิรันดร ฯ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น