| ---..--ขอถวายความอาลัย--------- |
| โคลงกระทู้ |
| Oสมเด็จ...ธปกเกล้า...........พุทธนิกร |
| พระ..........ดั่งองค์ชินวร.........สืบเค้า |
| ญาณะ......แผ่ขจายขจร..........ทีปทั่ว...ทิศแฮ |
| สังวะระ....ส่งเจ้า..................ดั่งฟ้าอำนวย |
| O.สมเด็จ..เป็นร่มเกล้า...........ศาสนา |
| พระ.........ก่อกิจสิกขา...........ท่วมท้น |
| สังฆะ......รุ่งเรืองมา..............นับเนิ่น
แลนา |
| ราช.........กิจคุณล้น...............ราษฎร์ล้วนสดุดี |
| Oสกล......คามเขตล้วน...........ยินดี |
| มหา.........ชนเปรมปรีดิ์...........แซ่ซ้อง |
| สังฆ........ส่งเสริมศรี..............งามสง่า
แลนา |
| ปริณายก...ก้อง.......................เกียรติก้องกำจาย |
| O.พระ...... |
| ราช.........ประทานเกียรติอัน.....เพริศแพร้ว |
| ทาน........วัตรฉัตรธงธรรม์........เฉลิมยิ่ง
คุณแฮ |
| เพลิง........พระราชทานแล้ว......ยิ่งแล้วคู่ควร |
| O
ขอทรง...เสด็จด้วย...............บารมี |
| เสวย........สู่คติศรี...................พระสร้าง |
| วิมุติ.........วิมลฤดี...................ผุดผ่อง |
| อมตะ.......นิพพานอ้าง.............สู่ห้วงสบเกษม
ฯ |
| จริญญา แสงทอง ประพันธ์
16/12/2558 |
| ---------------------------- |
|
| ---------------ร่มพฤกษ์
ร่มพุทธ-------------- |
| กลอนสุภาพ |
| O=
งามร่มรุกข์รื่นรมย์สมสขา...........สกุณาโบยบินพิสมัย |
| ยามผลิดอกออกช่อลออนัยน์...............ผลดอกใบบอกค่าน่าชื่นชม |
| คณาสัตว์เสาะหาป่าสบสันต์...............ป่าสำคัญอาศัยได้เหมาะสม |
| ปัจจัยสี่นานาพนานิยม.......................แลรื่นรมย์ธรรมชาติเสกสรรค์มา |
| ส่วนร่มธรรมสงสัยใยเรียกร่ม..............เป็นสังคมแบบไหนใคร่จักหา |
| อะไรทำให้เย็นเป็นมนตรา..................จึงเรียกว่าร่มธรรมคำมากมาย |
| เฉพาะชาวพุทธดอกจึงบอกให้.............ถึงจักใช้ร่มธรรมเคราะห์กรรมหาย |
| พึ่งร่มเงาร่มธรรมนำใจกาย..................ขจัดร้ายร้อนรุ่มเลิกกลุ้มใจ |
| เมื่อศรัทธาปรารถนาเป็นชาวพุทธ..........หนึ่งคือชุดสรณะจะขอไข |
| ที่พึ่งอื่นภูติเทพละเลิกไป.....................หันมาใช้ติรัตน์สามประการ |
| ปฏิบัติครรลองของชาวพุทธ..................ศีลจะหยุดทุรกรรมคำพระขาน |
| ตื่นเช้ามาทุกวันสมาทาน.....................จิตเบิกบานร่มเย็นดวงฤดี |
| ยึดคำสอนพุทธปฏิบัติ..........................ปาปัสสะมิกระทำจำหลีกหนี |
| กุสลัสสูปสัมปทามี..............................ชะจิตชี้ฟอกกิเลสพิเศษใจ |
| สีลสิกขาจิตสิกขาตถาคต......................ทรงกำหนดแนวทางอ้างคำไข |
| อีกปัญญาสิกขาครบสามนัย..................ทุกคนได้ศึกษาสถาพร |
| อันจุดหมายสูงสุดนิพพานะ...................อริยะสุโขโมสร |
| มิใช่แค่สวรรค์กามาพจร.......................หาใช่รอนภพพรหมอนันตกาล |
| โมกขธรรมนั่นแลคือตัวบท...................ทรงกำหนดบริษัทจัดประสาน |
| สมาธิวิปัสสนาพึงเชี่ยวชาญ.................คือปัฎฐานสติมรรคพึงดำเนิน |
| จึงจักเกิดปัญญาตาวิเศษ......................อันเป็นเหตุอริยะน่าสรรเสริญ |
| เห็นปฏิจจสมุปปบาทเพลิน.................คือก้าวเดินไปสู่โมกขธรรม |
| อริยะสัจจะก็ก่อเกิด............................ร่มประเสริฐลบไตรไม่ถลำ |
| ปิดอบายวัฎฎะขาดพิลาสจำ.................อภิสัมโพธิยาสถาพร
ฯ |
| จริญญา แสงทอง ประพันธ์ :
23/12/2558 |
| --------------------- |
|
|
|
| -----------------ไสวทาง
สว่างธรรม--------- |
| กลอนสุภาพ |
| O..อ่านกระทู้ครูตั้งมานั่งตรึก.............อรรถล้ำลึกเกินปัญญาจักกล้าไข |
| โลกุตตระเพียงรู้อยู่ห่างไกล...............อ่านพระไตรยากอรรถมิชัดความ |
| พระวิปัสสนาจารย์เคยขานกล่าว........ถึงเรื่องราวปฏิบัติอรรถธรรมถาม |
| สติปัฏฐานสี่ที่ฝึกตาม.......................เพื่อรู้นามรูปชัดวัตรดำเนิน |
| จนก่อเกิดมรรคผลหนทางแจ้ง...........ท่านแสดงแน่ชัดมิขัดเขิน |
| เส้นทางนี้พระสัตถาสาวกเดิน...........ตัดส่วนเกินอวิชชาสุขารมณ์ |
| บ้างบรรลุโสดาอรหันต์....................มรรคสำคัญปฏิบัติวัตรเหมาะสม |
| ปริยัติยังมิพอมินิยม........................
วิทยาคมปฏิบัติจักชัดเจน ฯ |
| จริญญา แสงทอง โพส :
18/12/2558 |
| ---------------------------------- |
|
|
| -------------------สุดทาง
สุขธรรม------------------------ |
| กลอนสุภาพ |
| O..เห็นกระทู้ครูให้ขำไม่ออก..............สุขธรรมบอกเส้นทางหว่างวิถี |
| จักผ่านพบคนเราเข้าใจดี....................แล้วยังมีสัมผัสอนัตตา |
| สุขระหว่างทางเดินโลกียะ..................คฤหัสมุ่งมาดปรารถนา |
| ท่านเรียกกามโภคีสี่มาตรา..................แสวงหาสินทรัพย์นับอนันต์ |
| เรียกชื่ออัตถิสุขก็ดูเหมาะ....................สุขจำเพาะใช้สอยมวลทรัพย์สรรพ์ |
| เรียกชื่อโภคสุขสนุกกัน......................อีกสุขยันไร้หนี้ดีเหลือเกิน |
| เรียกชื่ออนณสุขคำรบสาม..................สุดท้ายงามกิจวัตรมิขัดเขิน |
| มิมีโทษอนวัชชสุขจำเริญ...................ครบสี่เพลินพฤติกรรมธรรมธร |
| จักประกอบกิจใดหวังได้หมด..............เพียงยึดกฎไตรสิกขาสัตถาสอน |
| สีลสิกขาจิตสิกขาปัญญากร................เป็นดังพรประสบสุขกามโภคี |
| หากยังหวังอนัตตาพาสัมผัส...............ปรมัตถสุขเลิศประเสริฐศรี |
| จำศึกษากระบวนการธรรมวาที.............สัตถาชี้สัพเพสังขารา |
| สรรพสิ่งปรุงแต่งทั้งมวลหมด...............จักปรากฏไม่เที่ยงแน่นักหนา |
| คำบาลีไม่ผิดอนิจจา...........................อีกทุกขาเกี่ยวข้องสอดคล้องกัน |
| สัพเพธัมมาอนัตตาติ..........................ท่านดำริเหตุไฉนได้เสกสรรค์ |
| เริ่มต้นคำสังขารมาเปลี่ยนพลัน.............ว่าธรรมนั้นแน่ชัดอนัตตา |
| อยากเข้าใจนัยอัตถ์ลองปัฎฐาน.............สติชาญฝึกฝนกลศึกษา |
| จนเห็นรูปเห็นนามธรรมดา..................วิปัสสนาญานแจ้งกระจ่างใจ |
| อริยสัจรอยู่อาจรู้เห็น...........................นามรูปเป็นอนัตตานั้นไฉน |
| ทางนี้องค์สัตถานำพาไป......................บรรลุได้โมกขธรรมสุขารมณ์ |
| นัตถิสันติปรังสุขัง...............................นิพพานังยอดเยี่ยมธรรมสุขสม |
| กามโภคีสุขามิน่าชม............................พึงนิยมโลกุตระสุขะเทอญ
ฯ |
| จริญญา แสงทอง โพส :
17/12/2558 |
| ----------------------- |
| หลักธรรมที่นำมาอ้างอิง |
| กามโภคีสุข 4 อัตถิสุข
โภคสุข อนณสุข อนวัชชสุข |
| สัพเพ สังขารา อนิจจา, สัพเพ
สังขารา ทุกขา, สัพเพ ธัมมา
อนัตตา |
| พุทธภาษิต นัตถิ สันติ ปรัง สุขัง , นิพพานัง ปรมัง
สุขัง |
| ------------------------ |
|
| ------------อาทิตย์ อาทร
อวลธรรม-------------------- |
| กาพย์ยานี 11 |
| .....อาทิตย์อาทรธรรม..........ครูชี้นำกระทู้ไข |
| จักมีธรรมอันใด...................ควรเรียกชื่อธรรมอาทร |
| สอบคำพระสัตถา.................เทศนามากคำสอน |
| สงเคราะห์ประชากร...............เกื่อกูลกันโลกร่มเย็น |
| ขอเลือกสังคหะ....................เนื้อหาคละเล็งแลเห็น |
| ทำได้แน่นอนเป็น..................อาทรธรรมนำสุขใจ |
| ข้อหนึ่งพึงมีมาก...................มิลำบากทานะไข |
| แบ่งปันสละไป.....................เอื้อประโยชน์กันและกัน |
| ปิยะวาจาสอง......................คำพูดตรองประโยชน์สรรพ์ |
| คนฟังยลยินพลัน..................ปลื้มเปรมนักนิยมนำ |
| อัตถจริยะสาม......................จรรยางามยิ่งคมขำ |
| มีค่าควรจดจำ.......................มากประโยชน์โทษไม่มี |
| สมานัตตาสี่.........................คนผู้นี้สม่ำเสมอ |
| งดงามยามได้เจอ...................ควรคบหาสมาคม |
| ผู้ใหญ่สังคหะ........................วิริยะให้เหมาะสม |
| เป็นแบบน่าชื่นชม...................ผู้น้อยตามงามสกล |
| ง่ายง่ายไม่ต้องซื้อ..................ธรรมะคืออาทรผล |
| ปฏิบัติได้ทุกคน.....................เทพพรหมช่วยอวยพรแล
ฯ |
| จริญญา แสงทอง โพส : 13/12/2558 |
|
|
|
---------------อังคารส่งดาวส่องดี-------------- |
| กลอนสุภาพ |
| ......สิบห้าธันวาคมปีหนึ่งห้า...............เปิดเฟซมาพบกระทู้ครูช่างสรร |
| เรื่องส่งดาวส่องดีนี่สำคัญ...................สาระพันเรื่องราวดาวมากมี |
| หนูเกิดตรงดาวพุธพิสุทธิ์ศักดิ์...............มิรู้จักดาวมาบอกราศี |
| แม่อุ้มนั่งนอกชานกาลราตรี.................ท่านชวนชี้ชมดาวพราวนภา |
| ไปโรงเรียนเขียนอ่านคุณครูฝึก.............ยังระลึกรางวัลครูสรรหา |
| ใครทำได้สามดาวแสนปรีดา...............หนูเอามาอวดยายดังได้ทอง |
| พอวัยรุ่นหลากดาวสาวหนุ่มเห็น.........คนดีเด่นถูกใจใครทั้งผอง |
| เราเรียกดาวในกลุ่มเพื่อนรุมมอง.........ถูกยกย่องเป็นดาวน่าภูมิใจ |
| ยังมีดาวชวนหลงพะวงรัก..................ชอบยิ่งนักดาราน่าหลงไหล |
| ทั้งลิเกละครพรพิไล...........................อีกหนังใหญ่ดาราน่าชื่นชม |
| ส่วนดาวยศทหารแลตำรวจ................ได้เป็นหมวดจำเพาะงามเหมาะสม |
| ดาวล้วนล้วนนายร้อยนัยนิยม.............มงกุฎคมครอบดาวท่านผู้พัน |
| ช่อชัยพฤกษ์รองฐานชั้นสูงสุด.............สุพิสุทธิ์นายพลคนเสาะสรรค์ |
| ถือเป็นเกียรติดวงดาวประดับกัน.........จำแนกชั้นงดงามตามตำรา |
| อันดวงดาวกล่าวขานทั้งหมดนั้น.........เจาะจงสรรดีงามตามศึกษา |
| จะเป็นดาวเป็นเดือนเหมือนดารา.........มีปัญญาชาญฉลาดสามารถการ |
| ธรรมดาประชาไททั่วไปนั้น...............หากนึกฝันเสกดาวพึงห้าวหาญ |
| ละสิ่งชั่วสั่งกุศลกมลมาลย์..................อีกผสานสระจิตขจัดมล |
| ท่านเรียกการทำดีตามแนวพุทธ...........บริสุทธิ์ส่งสุขอนุสนธิ์ |
| งดงามดังประดับดาวประดับตน..........ส่งจิตพ้นจากอบายคลายทุกข์แล
ฯ |
| จริญญา แสงทอง โพส :15/12/2558 |
| ---------------------------- |
|
|
***.."ผละใบเพื่อผลิบาน"..*** |
| กาพย์ยานี 11 |
| ...ผลัดใบจะแตกยอด..............พฤษาถอดสลัดหนี |
| ทิ้งไปมิใยดี...........................ประคองยอดบำรุงใบ |
| งดงามทุกกิ่งก้าน.....................แลสราญงามสดใส |
| มินานผลิดอกได้......................งดงามล้วนชวนชื่นชม |
| ยามหนาวคราวพฤกษา.............วันเวลาที่เหมาะสม |
| ผลัดใบไพรนิยม......................ธรรมชาติสรรค์สร้างมา |
| คนเล่ามีไหมหนอ....................กิจที่พอจักเรียกหา |
| ผัดเปลี่ยนจิตกายา...................ให้งดงามตามทำนอง |
| คงหวังพึ่งแนวพุทธ..................สุพิสุทธิ์อาจสนอง |
| เพ็ญบุญตามครรลอง.................น่าจักพอปรับเปลี่ยนคน |
| ละโลภตัวที่หนึ่ง....................พึงทำทานมิสับสน |
| ทานบ่อยค่อยฝึกตน...................งามกมลเอื้ออารี |
| โทสะละตัวสอง.....................ขัดเกลาต้องศีลวิถี |
| งามกายงามวจี........................เมตตาคุณกรุณา |
| โมหะคือตัวโง่.........................งมงายโผล่วนเวียนหา |
| อบรมภาวนา...........................บรรเทาได้หายโง่งม |
| โลภะและโทสะ.......................มีโมหะนามเหมาะสม |
| อกุศลมูลเป็นปม.......................เหตุทำให้ไม่งดงาม |
| คนใดขยันขัด..........................ผ่องประภัสสร์ในโลกสาม |
| ยิ่งลดยิ่งใกล้นาม......................อริยะอยู่มิไกล
ฯะ |
| จริญญา แสงทอง โพส
: 14/12/2558 |
| ----------------- |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น